คุณทวดอาเรสถอนหายใจ "ทำไมเด็กสองคนนี้ถึงกลัวนัก? ทวดของพวกเธอไม่ใช่เสือดุร้ายนะ ฉันไม่กินพวกเธอหรอก! มาสิ ทวดเตรียมของขวัญต้อนรับไว้ให้พวกเธอแล้ว ถ้าพวกเธอไม่กล้ามารับมันไป ฉันจะเปลี่ยนใจไม่ให้ของขวัญแล้วนะ"เหล่าลุงป้าหัวเราะ แต่เสียงหัวเราะนั้นฟังดูแปลก เพราะพวกเขาหัวเราะเพื่อให้เกียรติทวดอาเรสเท่านั้นร็อบบี้และเจนสันไม่ตอบสนองทวดอาเรส ซึ่งนั่นทำให้เขาดูไม่พอใจ"พ่อ เด็กสองคนนี้หัวอ่อนชะมัด พวกเขาไม่เหมือนพ่อของพวกเขาเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าเจย์นั้นเป็นเด็กก้าวร้าวในตอนที่เขาเด็กเหรอ?" จอห์นกล่าวคำพวกนั้นดูเหมือนเรื่องตลก แต่มันหมายถึงว่าเด็กทั้งสองคนอาจไม่ใช่ลูกของเจย์จริง ๆท่าทางของเจย์มืดมนลงทันทีร็อบบี้น้อยสังเกตเห็นท่าทางที่หงุดหงิดของพ่อเขา เขาไหลลงมาจากตัวของโจเซฟิน ก่อนจะเดินกร่างเข้าไปหาคุณทวดของเขาด้วยขาสั้นป้อมของเขา "ผมไม่ใช่คนขี้ขลาด คุณทวดครับ ผมแค่ไม่ต้องการเงินของคุณทวดเท่านั้น" เขากล่าวอย่างอ่อนหวานใครก็รู้ว่าของขวัญต้อนรับของหัวหน้าตระกูลที่มอบให้เด็กของตระกูลอาเรสแต่ละคนนั้นมากมายขนาดไหน เงินที่เขาให้นั้นมากพอที่จะใช้ได้สามชั่วคนต่อให้พวกเขาไม่ทำงานเลยทั้งชี
ทวดอาเรสเอื้อมมือออกไปวางบนปึกธนบัตรหนาอย่างแรง ดวงตาที่เคยแหลมคมดุดันของเขาฉายประกายความยินดีแบบเด็ก ๆ ออกมา"ถ้าเธอรู้ว่าเงินมันสามารถซื้อของดี ๆ มากมายได้ แล้วทำไมเธอถึงยังปฏิเสธมัน?" เขากล่าวอย่างรักใคร่เอ็นดู"ทวดต้องรู้ว่าเธอและแม่ของเธออยู่ในห้องเช่า ร็อบบี้น้อย ด้วยเงินนี้ เธอสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ให้แม่ได้ แล้วเธอก็จะดีใจมาก มาก ๆ"ร็อบบี้น้อยเงยหน้าขึ้น "คุณทวดครับ คุณแม่กับผมนั้นไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับคุณทวดก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะรับของขวัญจากใครก็ได้ง่าย ๆ คุณแม่สอนผมว่าผมควรใช้ชีวิตด้วยความสามารถของตนเอง ถ้าผมอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ผมต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อสำเร็จเป้าหมายของตัวผมเอง" เขากล่าวอน่างมั่นใจกับทวดอาเรส"คุณแม่ยังกล่าวว่า วิกฤตสามารถกลายเป็นโอกาสได้ และโอกาสก็สามารถกลายเป็นวิกฤตได้เช่นกัน คุณทวดให้เงินผมจำนวนมากอาจดูเป็นเรื่องดี แต่หากคิดดูให้ดี ๆ มันก็มีอันตรายร้ายแรงซ่อนอยู่ด้วย"ทวดอาเรสชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของร็อบบี้น้อยอย่างไรก็ตาม ประโยคสุดท้ายของร็อบบี้น้อยทำให้ทุกคนสะดุ้งย่าสามกล่าวกับเขาทันที "ร็อบบี้น้อย คุณทวดมอบของขวัญให้หลานด้
ร็อบบี้น้อยเอื้อมมือออกไปหยิบธนบัตรหกใบออกจากปึกเขายิ้มหวาน "คุณทวดครับ หกร้อยก็เพียงพอแล้วสำหรับขอขวัญต้อนรับ"ทุกคนตะลึงกับการกระทำของเขาทั้งปู่ ย่า ลุง ป้าต่างก็เตรียมของขวัญต้อนรับที่มากมายไว้ ตอนนี้ทวดอาเรสไม่สามารถมอบของขวัญต้อนรับให้เด็กชายได้ พวกเขามองหน้ากันไปมาและไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อจอห์นเป็นคนแรกที่เก็บถุงสีแดงเข้ากระเป๋า "ถ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่ต้องการมัน แล้วเราจะไปฝืนเขาทำไม ไม่คิดงั้นเหรอ เจย์?""มันไม่เป็นไรถ้าเราจะข้ามของวัญต้อนรับไป เราไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอยู่แล้ว" เจย์กล่าวทวดอาเรสโบกมือให้คนอื่น "ทุกคนออกจากโถงได้แล้ว ฉันมีบางอย่างต้องคุยกับเจย์"คนอื่นได้ออกจากโถงไปโจเซฟินออกจากโถงในขณะที่อุ้มเจนสันในมือแล้วจูงมือร็อบบี้ด้วยมืออีกข้างเจย์มองปู่ของเขา เขาเศร้าเล็กน้อยเมื่อเห็นผมของปู่เขาเริ่มขาวมากกว่าเก่า"คุณปู่!"ทวดอาเรสตรวจสองเจย์อย่างรอบคอบ ความภาคภูมิใจของเจย์, ความทะนงตน, และจิตวิญญาณนักสู้ของเขาล้วนอยู่ในสายเลือดของเจนสันและร็อบบี้น้อย และนั่นทำให้เขาสบายใจมาก"เด็ก ๆ เหมือนแกเลยนะ" ทวดอาเรสกล่าวอย่างมีความรู้สึก"ต้องขอบคุณการเลี้ยงดูของ
ทวดอาเรสสังเกตใบหน้าที่หล่อเหลาทว่าเรียบเฉยของเจย์ เจย์นั้นดูหงุดหงิดตอนที่พูดถึงโรส แม้ว่าเขาจะดูไร้ความรู้สึก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขายังคงปฏิเสธตัวตนของโรสอยู่"เฮ้อ!" ทวดอาเรสพลันกลายเป็นเศร้าสร้อย "หลานดูจะลืมเธอไม่ได้เลย ใช่ไหม?"แม้จะแทบมองไม่ออก แต่เงาอันมืดมิดนั้นปรากฏอยู่บนใบหน้าเรียบนิ่งของเจย์หลังจากพักใหญ่ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย "ผมติดหนี้เธอไว้มาก คำพูดพวกนั้นที่ผมเคยพูดกับเธอสมัยยังเด็ก เธอปฏิบัติต่อพวกมันอย่างจริงจัง แต่ผมไม่ได้ตอบสนองต่อการกระทำของเธอเลย… หากผมรู้ว่าเธอจะจบชีวิตตัวเองแบบนั้น ผมคงบอกเธอว่า คำสัญญาที่ผมให้ไว้ว่าจะแต่งงานกับเธอนั้นเป็นคำสัญญาที่จริงใจและจริงที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ในชีวิตของผม"ทวดอาเรสพยักหน้า "ปู่เชื่อแก แกรักแองเจลีนจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอเป็นผู้หญิงที่ดี และปู่เองก็คิดว่ามีเพียงเธอที่มีความรู้และความงดงามเหมาะสมกับแก โชคร้าย ชะตาลิขิตช่างโหดเหี้ยม!"เมื่อชื่อของ แอลเจลีน เซเวียร์ ถูกกล่าวถึง ร่องรอยของรอยยิ้มอันอบอุ่นก็ปรากฏบนใบหน้าเย็นชาของเจย์แองเจลีน เซเวียร์ ครองพื้นที่ที่ไม่มีวันถูกสั่นคลอนในหัวใจของเจย์ เธอต้องอ่อนโยนและเข้มแข็
"นายมีเวลาไหม?"เจย์เงียบในขณะเดียวกัน โจเซฟินพาเจนสันและร็อบบี้ไปที่เรือนกลิ่นขจร นั่นเป็นชื่อบ้านของเจย์ในอสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีนพื้นที่นี้ไม่ได้มีชีวิตชีวาแบบแต่ก่อน คนรับใช้ส่วนใหญ่ถูกย้ายไปที่อื่นแล้ว แต่สิ่งที่เหลือไว้ไม่ใช่อะไรนอกจากสิ่งที่แสดงถึงความร่ำรวย: ภารโรงหกคน และเชฟสองคนที่ทำอาหารตะวันออกและตะวันตกตามลำดับ สำหรับคนทำความสะอาดและคนสวน พวกเขาเป็นคนของพื้นที่อื่นคนรับใช้เปิดประตูออกกว้างเมื่อเจนสันและร็อบบี้มาถึง พวกเขายืนอยู่สองฝั่งที่ทางเข้าแล้วโค้งคำนับอย่างที่ได้ซักซ้อมมาก่อนหน้านี้เพื่อเป็นพิธีต้อนรับเด็ก ๆ "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นายน้อยหนึ่ง, นายน้อยรอง"โจเซฟินหอบอย่างหนักจากการอุ้มร็อบบี้น้อยมาตลอดทางหลังจากออกจากโถงประชุม "นายช่วยลงจากฉันก่อนได้ไหม เจนส์?" เธอกล่าวเจนสันไม่ยอม ร็อบบี้ยืดแขนของเขาออก "เจนสัน ถ้านายกลัว นายจับมือฉันก็ได้ ฉันจะปกป้องนายเอง!"เจนสันไหลลงมาจากแขนของโจเซฟินทันที แล้วจับมือของร็อบบี้ ทั้งสองวิ่งจับมือขึ้นบันไดไป...เจนสันรีบพาร็อบบี้ไปที่ป้อมปราการส่วนตัว จากนั้นก็ปิดประตูอย่างเร่งรีบร็อบบี้เห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของเจนสั
เจย์มาถึงหน้าประตูทางเข้าปราการส่วนตัวของเจนสัน เมื่อเหล่าคนรับใช้เห็นท่านอาเรส พวกเขาก็หลบออกและไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง เพราะเขาเป็นทรราชที่สามารถส่งพวกเขาขึ้นเขียงได้ตามต้องการมีอีกเหตุผลที่ว่าทำไมเหล่าคนรับใช้ถึงได้กลัวเจย์ นายย้อยเจนสันนั้นเป็นเหมือนปุ่มเปิดปิดอารมณ์ของเจย์ ท่านอาเรสนั้นเหมือนภูเขาไฟเดินได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนายน้อยเจนสัน ภูเขาไฟที่สงบแล้วจะปะทุอย่างรุนแรงนายน้อยทั้งสองกำลังต่อสู้กันรุนแรง มีแม้กระทั่งเสียงกระจกและแจกันแตกดังออกมา หากนายน้อยทั้งสองได้รับบาดเจ็บไม่ว่าทางใด ท่านอาเรสจะต้องระเบิดแน่นอน และวันหายนะก็จะมาถึงเหล่าคนรับใช้ท่าทางของเจย์ดูมืดมนและดุร้าย เขายกมือเคาะประตู จากนั้น เสียงตูมที่สั่นสะเทือนทั้งโลกก้ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของเจนสัน "อ๊า..."ความกังวลของเจย์มีจำกัด เขากระแทกประตูอีกครั้งแล้วตะโกน "ร็อบบี้ เจนสัน เปิดประตู!"แทบจะในทันที เด็กทั้งสองก็เปิดประตุเจย์ก้มลงแล้วสำรวจร่างกายของเด็กทั้งสองอย่างละเอียด หลังจากมั่นใจแล้วว่าพวกเขาไม่บาดเจ็บ เขาก็หันสายตาไปที่ป้อมปราการ เขาพูดไม่ออกเลยเมื่อเห็นความเละเทะภายใน"บ
เจย์ยิ่งกว่ามั่นใจว่าร็อบบี้นั้นโกหก"ร็อบบี้น้อย เด็กดีไม่โกหก" เขากล่าวร็อบบี้กะพริบตาอย่าใสซื่อ เขาไม่แก้ตัวเพื่อตัวเขาเอง เพราะเขาทำอะไรผิดจริงเขาเพียงแค่อยากสอนศิลปะการต่อสู้ให้เจนสัน แต่เขาบังเอิญเตะลูกบอลไปโดนชั้นของโบราณซึ่งทำให้พวกมันล้มลงมา จากนั้น มันก็เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ชั้นวางล้มต่อ ๆ กันไป จนเกิดเป็นดังภาพที่กำลังปรากฏทุกอย่างแตก และชั้นวางก็เละเป็นชิ้นร็อบบี้เคยทำแจกันแตกโดยบังเอิญสมัยที่เขาเรียนอนุบาลปีก่อน ๆ แม่ของเขาต้องทำหน้าที่ทำความสะอาดอยู่สามเดือนเพื่อจัดการปัญหา ตอนนี้ร็อบบี้ทำของโบราณราคาแพงมากมายแตก เขาจะบอกคุณแม่ยังไงถ้าคุณพ่อบอกให้เธอจ่าย?ร็อบบี้ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง"ร็อบบี้น้อย การลงโทษของลูกคือทำความสะอาดห้องนี้ซะ" เจย์กล่าวอย่างโมโหร็อบบี้ไม่ลังเลเลย เขาเจอไม้กวาดและที่ตัก แล้วเริ่มเก็บกวาดของที่แตกหักทันทีดวงตาของเจนสันพลันมองไปที่ดวงตาของช้างในป้อมปราการของเขา มันเป็นหน้าต่างที่สร้างเป็นรูปช้าง และตรงกลางของหน้าต่างเป็นลูกตา และตอนนี้ ดวงตาของช้างกำลังกะพริบเจนสันมุดหัวของเขาในอ้อมแขนของเจย์ด้วยความหวาดผวาเจย์ให้คนรับใช้กลับไป แล้วพ
ร่างของร็อบบี้น้อยสั่นสะท้าน เมื่อเจย์เปิดประตูปราการ เขาก็เห็นร็อบบี้จ้องเขาด้วยใบหน้าซีดเผือด"ร็อบบี้น้อย!" หัวใจของเจย์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นหน้าของร็อบบี้ เขาวิ่งเข้าไปกอดร็อบบี้ไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนาเสียงน่าขนลุกจากดวงตาของช้างหายไปอย่างไร้ร่องรอย"ผมขอโทษครับคุณพ่อ ผมจะไม่ทำมันอีกแล้ว" ร็อบบี้น้อยกล่าวเสียงอ่อน และอ้อนวอนขอให้พ่อเขาให้อภัย น้ำตาสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขาเจย์กอดร็อบบี้ไว้แน่นและตบหลังเขาอย่างอ่อนโยน เขารู้สึกผิดกับตัวเองมากในตอนนี้ "เป็นความผิดของคุณพ่อเอง คุณพ่อไม่ควรลงโทษลูกแบบนั้น ลูกยังเด็กมาก"เจย์สังเกตว่าห้องนั้นสะอาดแล้ว และเศษเครื่องปั้นก็ถูกกวาดไว้ที่มุมหนึ่ง เขาพลันเกลียดตัวเองทันทีเขากล้าโทษความอ่อนแอที่สุดของตัวเองให้เด็กที่ใสซื่อได้ยังไง?"ร็อบบี้น้อย คุณพ่อหวังว่าลูกจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อพี่ของลูก คุณพ่อหวังว่าทั้งสองจะไม่ทะเลาะหรือต่อยตีกันอีก หรือมีเรื่องระหว่างพวกลูก ลูกเข้าใจไหม?" เจย์ไม่ได้พูดด้วยเสียงอันดังตามปกติของเขาร็อบบี้ผลักตัวเขาออกจากอ้อมแขนของเจย์ ดวงตาของเขากะพริบอย่างใสซื่อเมื่อเขามองที่พ่อของเขา "คุณพ่อ ผมไม่ได้ต่อยตี