ไม่นานนักเจย์กลับมาหาแองเจลีนด้วยท่าทางกังวลพร้อมแก้วน้ำในมือและซองยาในมืออีกข้าง“ยาพวกนี้ช่วยเรื่องการย่อย ทานสิ!” ใบหน้าหล่อเหลายิ่งดูมืดมนเมื่อสีหน้าเขาดูแย่หลังจากทานยา แองเจลีนก็มองท่าทางกังวลของเจย์และหัวเราะ “นายห่วงฉันเหรอคะ พี่เบ็น?”เธอกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติมากเมื่อเธอเรียกเขาว่า พี่เบ็นเจย์ทำหน้าตายอีกครั้งเมื่อจ้องมองเธอนิ่ง“ผมจะบริการคุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะว่าคุณบริจาคเลือดให้ลูกชายผม” เขาพูดอย่างเย็นชาแองเจลีนหน้าคว่ำ!เธอรู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบเมื่อเจย์พูดถึงลูกชายเขา“ได้เป็นลูกชายคุณคงดีนะคะ” เธอพูดอย่างชอกช้ำเจย์จะรู้ได้อย่างไรว่าเธอคิดอะไรอยู่? เขาจึงอดไม่ได้ที่จะแหย่เธอกลับ “คุณจะมาเป็นลูกชายผมด้วยก็ได้ถ้าคุณอยากเป็น ผมจะให้ความรักกับคุณมากพอกันเลย”แองเจลีน “...”ในตอนนั้นเองที่เธอคิดจริงจังว่าจะเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ถ้าหากไม่สามารถเป็นภรรยาเขาได้แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มยียวนที่มุมปากเขา เธอก็รีบระงับความคิดไม่เข้าท่านั้นไปเลยไม่นานนักผลตรวจของเด็กชายก็ออกมาหมอส่งผลรายงานให้เจย์ เขาเริ่มอ่านอาการของลูกชายอย่างละเอียดภาวะเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิ
ไม่นานมาริลินก็มาที่ห้องแพทย์หมอวอลเตอร์ถามเธออย่างเป็นงานเป็นการ “ไม่ทราบเด็กชื่ออะไรครับ?”“ไทเกอร์ค่ะ”หมอเงยหน้าแล้วถามด้วยสีหน้าฉงน “เด็กไม่มีนามสกุลเหรอครับ?”มาริลินชะงักไปครู่หนึ่งก่อนอธิบาย “เด็กจะไม่มีชื่อนามสกุลที่เป็นทางการค่ะ ชาวบ้านในหมู่บ้านก็จะมีชื่อง่าย ๆ พื้น ๆ ทั่วไป พวกเขาจะมีนามสกุลก็ต่อเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว”“แล้วนามสกุลของพ่อเด็กล่ะครับ?”มาริลินตะกุกตะกัก “เบ็น”“พ่อเด็กก็ไม่มีนามสกุลเหมือนกันเหรอครับ?” หมอมองเธออย่างสงสัยมาริลินตอบกว้าง “ค่ะ”“แล้ววันเดือนปีเกิดของเด็กล่ะครับ?”มาริลินรู้คำตอบของข้อนี้ดี เธอรีบตอบทันที “วันที่ 26 กรกฎาคม 2017 ค่ะ”แองเจลีนที่อยู่หลังฉากกั้นเมื่อได้ยินวันเดือนปีเกิดของเด็ก มือที่กำแน่นก็คลายลงพร้อมแววตายินดีไทเกอร์ไม่ใช่ลูกชายของเจย์บี้หลังจากได้รู้ว่าเจย์บี้กับมาริลินไม่ได้มีลูกด้วยกัน แองเจลีนก็รู้สึกว่าหัวใจสดใสเบิกบานเหมือนมีทั้งแสงแดดสดใสและสายรุ้งสวยสดเมื่อเธอตั้งสติคุมความดีใจได้ เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่ามาริลินได้เดินออกไปแล้วแองเจลีนเดินออกมาจากหลังฉากกั้นและยกนิ้วให้หมอวอลเตอร์ “ทำดีมากค่ะ”ในตอนเย็น
เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะไม่เผลอตกหลุมรักเธอดูอย่างวันนี้เป็นต้น เมื่อเห็นว่าเธอหน้าซีดหลังจากบริจาคเลือดไป เขาก็เจ็บปวดใจเหลือคณาอย่างไม่รู้สาเหตุ เป็นความเจ็บปวดที่ทำให้เขาแทบเสียสติ“ไม่มีอะไร” เขาพูด ฟังดูมีแววสั่นเครือเล็กน้อย“นี่ก็ดึกแล้ว คุณควรกลับไปพักผ่อน” เสียงเขากลับมาไร้อารมณ์และห่างเหินเช่นเดิมแองเจลีนตอบ “ฉันแค่จะเข้ามาดูว่านายต้องการอะไรหรือเปล่า ฉันจะไปบอกพยาบาลให้หาให้นายแล้วก็จะกลับบ้านแล้ว”เธอเดินวนไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจากไปอย่างลังเลไม่นานจากนั้น พยาบาลก็เข้ามาและเปลี่ยนทุกอย่างบนเตียงญาติเฝ้าไข้ตามคำสั่งของแองเจลีนผ้าปูที่นอนสีสดและปลอกหมอนกำมะหยี่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีเทาและสีเงินเจย์มองพยาบาลอย่างสงสัย “ท่านประธานสั่งให้คุณมาเปลี่ยนเหรอ?”พยาบาลพยักหน้า “ใช่ค่ะ ท่านประธานกลัวว่าคุณจะนอนไม่หลับเพราะว่าคุณไม่ชอบของที่สีสด ๆ ท่านขอเราเป็นพิเศษว่าให้เปลียนให้คุณ”เมื่อเจย์มองผ้าห่มสีเทาเงิน เขาก็รู้สึกซับซ้อน เธออ่านใจเขาออกหรือไงกันนะ? เธอรู้นิสัยแปลก ๆ ของเขาได้อย่างไร?ก่อนที่พยาบาลจะออกไป เธอหันมายิ้มและบอกเจย์ว่า “ฝันดีนะคะ”เจย์พยักห
”เกรย์สัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ฉันอยากให้นายจับเคนให้ได้โดยเร็วที่สุด ฉันมีบางเรื่องต้องถามเขา”“ครับ”“แล้วก็…” แววตาแองเจลีนมีแววเย็นเยียบ “ฉันอยากให้ทดสอบมาริลินว่าเธอเป็นแค่สาวชาวบ้าน อ่อนหวาน ใสซื่ออย่างที่เราเห็นไหม หรือเธอเป็นแค่นักต้มตุ๋นหลอกลวง ฉันอยากให้นายสร้างโอกาสให้ฉันเข้าถึงตัวเธอ”เกรย์สันตอบ “ได้ครับ”วันต่อมาเมื่อมาริลินมาที่ห้องพักผู้ป่วยพร้อมกล่องอาหารกลางวันและเห็นเจย์นั่งอยู่ข้างหน้าไทเกอร์พร้อมลูบหัวเด็กชายอย่างอ่อนโยน เธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้“พอกินอาหารเที่ยงแล้ว คุณน่าจะไปทำงานนะคะที่รัก แม้ว่าท่านประธานหญิงจะฟังดูเหมือนโหดบ้างบางครั้ง แต่เธอก็ดูเป็นคนดียุติธรรม คงจะไม่ดีถ้าคุณโดดงานแบบนี้ทั้งที่ท่านช่วยเหลือเราตั้งมากมาย”มาริลินห่วงมากว่าเจย์จะตกงานเพราะว่ามัวแต่มาคอยดูแลลูก ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นวันดี ๆ แสนสุขของเธอต้องจบสิ้นแน่เจย์พยักหน้า “อืม”หลังจากกินอาหารเล็กน้อย เขาก็ออกจากโรงพยาบาลและไปที่แกรนด์ เอเซียที่ แผนกรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์วันนี้พนักงานทุกคนดูเตรียมตัวมาดีเพราะว่าพวกเขาต่างพกเสื้อคลุมมาเพิ่มเมื่อเจย์ก้าวเข้ามาในห้องทำ
ทำไมพวกคนรวยถึงชอบใช้ชีวิตสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้กันนักนะ?เขาคิดแอบแซะแองเจลีนไปตอนที่เกรย์สันได้ยินเจย์ตำหนิเซย์นว่า “คุณไม่รู้เหรอครับว่าปกติประธานเซเวียร์ไม่ไปร่วมงานสังคมอะไรนอกเหนือไปจากเรื่องงาน?”เซย์นตอบว่า “คราวนี้มันไม่เหมือนกัน ฉันแน่ใจว่าเธอต้องไปแน่เพราะเธอชอบดาราดังคนหนึ่งที่ไปร่วมงานนี้เซย์นโยนบัตรเชิญลงบนโต๊ะของเกรย์สันเจย์เหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบนี่เธอก็เป็นพวกบ้าดาราหรอกเหรอ?ช่างเด็กอะไรอย่างนี้!เซย์นยักไหล่ จากนั้นก็ยกมือกอดอกแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว“ในนี้หนาวจริง ๆ ตอนกลับเข้ามาฉันต้องใส่เสื้อกันหนาวซะแล้ว”เกรย์สันหยิบบัตรเชิญขึ้นมา เมื่อเขาเห็นชื่อผู้เชิญก็ไม่กล้าละเลยอีกต่อไปเขารีบลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องท่านประธานเกรย์สันเดินเข้าไปในห้องประธานและส่งการ์ดเชิญให้แองเจลีน“ท่านประธานครับ คุณโจเซฟินเชิญไปร่วมงานเลี้ยงปิดกล้องหนังเรื่อง “นายหญิงตัวร้ายกับนายหมอแห่งชาติ” ครับ ไม่ทราบท่านจะไปไหม?”แองเจลีนตื่นเต้นดีใจ บอกว่า “นี่มันหนังเรื่องแรกของโจเซฟินที่เธอได้เป็นดารานำเลยนะ ฉันต้องไปร่วมและให้กำลังใจเธอแน่นอน”ทันใดนั้น สีหน้าเธอก็หม่นลง
”คุณเบ็น ท่านประธานเซเวียร์โทรมาให้แจ้งคุณว่า ท่านแต่งหน้าเรียบร้อยและกำลังรอคุณอยู่ที่ชั้นล่างครับ” เกรย์สันบอก“อืม” เจย์พยักหน้ารับและเดินออกไปด้านนอกที่ประตูทางเข้าของแกรนด์เอเซียรถเฟอร์รารี่สีแดงจอดอยู่ตรงประตูทางเข้า กระจกรถลดลงและมองเห็นแองเจลีนนั่งเงียบ ๆ ที่เบาะหลังเธอใส่ชุดเดรสทรงหางปลาทำจากผ้าลูกไม้สีเขียว ช่วงตัวเสื้อรัดรูปและออกแบบตัดเย็บให้โปร่ง ซึ่งยิ่งเสริมเพิ่มความงามของเธอให้มากขึ้นเมื่อเจย์เดินเข้าไปหา เขาก็เห็นเธอนั่งเงียบ ๆ อยู่ที่เบาะหลัง ใบหน้าด้านข้างของเธอแม้ดูห่างเหินแต่ก็อ่อนโยน หลังจากที่ล้างการแต่งหน้าแบบเข้ม ๆ ออกไป ผิวเธอก็ดูขาวกระจ่าง แม้ว่าเธอจะแต่งตาแนวสโมกกี้และทาลิปสีสด ก็ยังไม่สามารถกดข่มความงามของเธอได้ว่าแต่ทำไมการแต่งตัวของแองเจลีนถึงดูคุ้นตานักนะ?เมื่อเจย์ก้าวเข้าไปนั่งด้านหลัง เขาก็หันหน้ามามองแองเจลีน พูดจาอย่างไม่รักษาน้ำใจว่า “ไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่งจริง ๆ “แองเจลีนบุ้ยปาก “ฉันสวยมาตั้งแต่เกิดแล้วย่ะ”ตอนนี้เมื่อมองใบหน้าด้านข้างที่นิ่งสงบของเธอใกล้ ๆ เจย์ก็อดแปลกใจไม่ได้ “คุณดูคล้ายเพื่อนของผมคนหนึ่งมาก”แองเจลีนแอบกลั
แองเจลีนขยับปากแต่เธอลังเลที่จะพูดเจย์ต้องคิดว่า โจเซฟินเป็นพวกผู้หญิงไม่มีศักดิ์ศรีแน่ ๆทั้งที่จริงเพราะโจเซฟินมองเห็นเขาเป็นพี่ชายต่างหาก“เบ็น โจเซฟินก็แค่หยอกคุณเล่นน่ะ” แองเจลีนพูดอย่างอับอายเจย์พูดอย่างไม่เกรงใจ “คนประเภทเดียวกันนั่นแหละ ถึงคบกันได้”แองเจลีน “...”นี่เขาเพิ่งจัดเธอเป็นพวกผู้หญิงไม่มีศักดิ์ศรีเหมือนกันใช่ไหม?เมื่อเห็นว่าตนทำพัง โจเซฟินก็รีบหาทางหลบฉาก “พวกคุณทำตัวตามสบายแล้วกันนะคะ ฉันจะไปชนแก้วกับเพื่อนหน่อย”แองเจลีนเองก็อยากชนแก้วขอบคุณผู้กำกับสองสามคนที่ช่วยสนับสนุนและชี้แนะโจเซฟินแต่เมื่อเห็นเจย์นั่งอยู่ที่มุมห้องเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง เธอก็ไม่อยากทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมเสียสละตนเองนั่งอยู่ด้านหน้าสุภาพบุรุษคนนี้เหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาในตอนนั้นเอง คนดังสาว ๆ หลายคนก็สังเกตเห็นเจย์ที่มุมห้อง และสะดุดตากับเสน่ห์ราวกับเทพบุตรของเขา“ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลย จะมีใครไปชวนเขาเต้นรำไหม?” มีคนถามขึ้น“ฉันจะไปเอง” ดาราหญิงคนหนึ่งที่ใส่เดรสสายเดี่ยวคอคว้านลึกเดินเยื้องกรายไปหาเจย์พร้อมแก้วค็อกเทลในมือคนดังสาวคนอื่น ๆ ต
เจย์กำลังจะก้าวเข้าไปช่วยแองเจลีน เมื่อดาราชายคนนั้นโอบเอวของแองเจลีนทำให้เธอตบหน้าเขาฉาดใหญ่เสียงตบดังสนั่นก้องไปทั่วเสียงนั้นทำให้ทุกคนหันมาสนใจทันใดนั้นเมื่อทุกคนหันมามอง ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงหลายคนกรีดร้อง “ตายแล้ว มีคนตบบิ๊ก บี เหรอ?”ดาราชายสุดฮอต เบลค เลโอนาร์ด นั้นอายุยังไม่ถึง 30 ก็สามารถคว้ารางวัลดารานำชายได้สามสมัยซ้อน ดังนั้นบรรดาแฟน ๆ จึงเรียกเขาด้วยชื่อเล่นว่าบิ๊ก บีโดยทั่วไปดาราชายโด่งดังมีชื่อเสียงแบบนี้มักจะได้ทุกอย่างตามใจไม่ว่าจะเป็นอะไรในใต้หล้านี้ ผู้กำกับใช้เรี่ยวแรงไปมากมายกว่าจะหาทางเชฺิญเขามาร่วมงานเลี้ยงปิดกล้องนี้ได้ ผู้กำกับถึงจ่ายค่าเสียเวลาให้เพื่อให้เขาโผล่มาร่วมงานใครจะไปคิดว่าบิ๊ก บี จะโดนใครก็ไม่รู้ตบหน้าเข้าได้?บิ๊ก บี ยกมือลูบใบหน้าที่ร้อนฉ่าทันทีก่อนชี้ไปที่แองเจลีน พร้อมตะคอกอย่างมีโทสะ “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าดียังไงมาตบฉัน? เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”บรรดาฝูงชนต่างก็ผุดคำถาม “ใครเชิญผู้หญิงไม่รู้เรื่องรู้ราวคนนี้มาเนี่ย?”โจเซฟินยกมือปิดหน้า เธอไม่อยากมองสถานการณ์ตรงหน้าเธอตอนนี้เธอแค่อยากใช้ความสามารถของตัวเองเข้ามามีที่ยืนในว
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ