หลังจากเกรย์สันกลับมาถึงบริษัท เขาก็คิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนตัดสินใจรายงานเรื่องสภาพความเป็นอยู่ของเจย์ให้แองเจลีนได้รับรู้เกรย์สันพูดด้วยเสียงกลั้นสะอื้น “ท่านประธานเซเวียร์ เขากินอยู่ไม่ดีเลยครับ ผักที่บ้านพวกเขาก็เหี่ยวเหลืองแล้ว แถมยังปรุงรสเผ็ดด้วย ไม่มีอะไรที่ดีต่อสุขภาพท้องไส้ของนายท่านเลย”แองเจลีนอึ้งไปนานเมื่อได้ยินสิ่งที่เขารายงาน“ฉันเพิ่งให้เงินเขาไปไม่ใช่เหรอ?”“มาริลินบังเอิญทำบัตรหายแล้วเงินก็โดนขโมยไปหมดเลยครับ”มีประกายความโทสะแวบในตาของแองเจลีน “ฉันอยากให้นายไปตรวจสอบดูว่าใครมันขโมยบัตรไป พอหาตัวไอ้โจรนั่นเจอฉันอยากให้นายลงโทษมันให้หนัก”เกรย์สันกำหมัดแน่น “แน่นอนครับ”“งั้นไปได้”เมื่อเกรย์สันจากไป เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้เมื่อเดินไปถึงประตู เขาหยุดชะงักก่อนหันมามองแองเจลีนแองเจลีนกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เกรย์สันรู้สึกแย่มากหลายปีที่ผ่านมาท่านประธานเซเวียร์ใช่บ่าที่แสนบอบบางของเธอแบกรับภาระของแกรนด์เอเซียแทนนายท่านอาเรสและเป็นหัวหอกหลักของบริษัท เธอยังคงมุ่งมั่นและทุ่มเทแม้จะมีมีความหวังเพียงริบหรี่ที่นายท่านอาเรสจะกลับมาถ้าความหวังอันน้อยนิดนั
เจย์จ้องแองเจลีนอย่างกวนโทสะ “นี่คุณขู่ผมเหรอ?”มีแววความรู้สึกผิดฉายผ่านดวงตาของแองเจลีนแต่เมื่อคิดว่าเขาต้องบริการรับใช้มาริลินที่บ้าน คลื่นความหึงหวงก็โถมใส่เธอเขาต้องบริการมาริลินตอนกลางคืนแล้วมาบริการเธอตอนกลางวันสิ!แบบนี้ถึงจะเท่าเทียม!“ก็ถ้าขู่แล้วจะทำไม?” แองเจลีนกล่าวดวงตาเจย์ดำทะมึน “ผมยอมให้เทมเพสตายโดยที่ยังเหลือศักดิ์ศรีอยู่ ดีกว่าจะต้องอยู่แบบอับอาย”แองเจลีน “...”เสียงเธออ่อนลงและความตึงเครียดบนสีหน้าก็จางลง เธอใช้น้ำเสียงประนีประนอม “แล้วคุณอยากทำอะไร?”“ผมจะไปทำที่แผนกรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์”แองเจลีนมองเขาอย่างฉุนเฉียวห้องประธานอยู่ที่ชั้นเก้าแต่ห้องแผนกรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อยู่ที่ชั้นหกพวกเขาอยู่ห่างกันตั้งสามชั้นนี่หมายความว่า ถ้าเธอต้องการจะพบเขา เธอต้องลงไปใช่ไหม?เมื่อแองเจลีนเห็นใบหน้าดื้อดึงของเจย์ เธอก็รู้สึกใจอ่อนยวบ แม้จะไม่เต็มใจแต่เธอก็เรียกเกรย์สันมาแล้วสั่ง “พาเบ็นไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์”เจย์ยังไม่จากไปในทันทีแต่ยังยืนอยู่เหมือนมีบางอย่างที่อยากพูดแองเจลีนมองเขาอย่างขมขื่น “มีอะไรอีกไหม?”“ผมอยากได้บ้านที
เกรย์สันกวาดตาคมดุจเหยี่ยวไปรอบ ๆ ฝูงชน ก่อนเตือนเสียงเด็ดขาดว่า “นี่คือเพื่อนร่วมงานคนใหม่ คุณเบ็น ถ้าต่อไปเขาต้องการความช่วยเหลืออะไร ทุกคนต้องพยายามช่วยเขาอย่างเต็มที่”“เราช่วยแน่นอนครับ” ทุกคนต่างพยักหน้าและตอบรับแต่ละคนต่างก็มีความคิดของตนเอง ‘เราจะไปช่วยอะไรได้ ก็ท่านประธานแสนเก่งกาจ เฉลียวฉลาดจนไม่มีใครเทียบขนาดนั้น’เจย์หน้านิ่งเฉยและดูห่างเหินขณะที่เขาเดินตรงไปที่ที่ว่างข้างหน้าต่าง เขานั่งลงและเปิดคอมพิวเตอร์แสงไฟกะพริบบนหน้าจอก่อนที่จะเริ่มทำงานและเปิดหน้าเอกสารขึ้นมามันคือข้อความต้อนรับอันอบอุ่นจาก ท่านประธานเซเวียร์‘ถึง คุณเบ็น'‘ขอต้อนรับสู้แกรนด์ เอเซีย หวังว่าคุณจะมีวันที่ผ่อนคลายไร้เครียดตลอดทั้ง 365 วันที่แกรนด์ เอเซีย’…เจย์คว้าเมาส์มากดปิดข้อความอบอุ่นใจที่แองเจลีนเตรียมไว้ให้เขาจากนั้นเขาก็เปิดไฟร์วอลล์ของแกรนด์ เอเซียขึ้นมาศึกษาแน่นอนว่าพนักงานคนอื่นในแผนกรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ต่างก็ได้รับข้อความเหมือนกันแต่ว่าไม่ใช่ข้อความอบอุ่นจากท่านประธาน แต่กลับเป็นคำขู่ที่เหี้ยมโหดไร้เมตตา ‘ใครที่กล้าทำให้เขาโมโหจะต้องเก็บของแล้วออกจากบริษัทไป มีผลใน
”ทำไมองค์ราชินีถึงแต่งตัวเหมือนแม่มดทรงเสน่ห์เลยวันนี้?” เจย์ได้ยินพนักงานพูดถึงนางร้ายเขามีแววตาสงสัย นางร้ายไม่เคยใส่กระโปรงมาก่อนเหรอ?กลายเป็นว่าที่จริงแล้วเธอออกจะเป็นทอมบอยตอนนั้นเอง พนักงานใหม่ก็ยืนขึ้นและถาม “ท่านครับ ไม่ทราบว่าเราใส่เครื่องปรุงเพิ่มในอาหารได้ไหม?”แองเจลีนเลิกคิ้วสูงเธอกำลังจะแผดเสียงราวนางสิงห์ใส่เมื่อเธอทันเห็นเจย์ยืนอยู่ที่มุมห้อง เธอจึงรีบเปลี่ยนเป็นรักษาท่าทีและดูอ่อนโยนแทนเธอยิ้มบางและดูอ่อนหวาน แต่แม้จะเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนแต่ก็แฝงด้วยความเด็ดขาด สิ่งที่เธอกล่าวออกมาก็ตรงไปตรงมาและไร้ปรานี “เมื่อวานฉันไปเยี่ยมชมที่บริษัทหนังข้างเคียงมา และฉันได้รู้ว่าแกรนด์เอเซียเรามีปัญหาใหญ่มาก”เหล่าพนักงานรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที แกรนด์ เอเซียถือเป็นที่ตั้งสำหรับบริษัทต่าง ๆ และเป็นตัวอย่างของธุรกิจนี้ ถ้ามีปัญหาในแกรนด์ เอเซีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดที่ไม่สามารถให้อภัยได้แม้แต่เกรย์สันก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาแองเจลีนดูราวกับเธอหายใจติดขัด ขณะที่พนักงานต่างกระวนกระวายให้เธอพูดต่อ เธอกลับชื่นชมและยกย่องพนักงานของบริษัทผลิตภาพยนต
”เขาทำลายชื่อเสียงที่ฉันลำบากลำบนสั่งสมมาแทบตายหลายปีต่อหน้าพนักงานจนไม่เหลือแล้ว ฮือ ๆ ชื่อเสียงของฉันที่เป็นประธานหญิงที่สวยที่สุดในเมืองอิมพีเรียลผู้มีทั้งความเฉลียวฉลาดและความงามก็ถูกทำลายย่อยยับด้วยคำพูดของเขาไม่กี่คำ”ขณะที่แองเจลีนกล่าว เธอก็เอาหัวโขกโต๊ะไปด้วยอย่างว้าวุ่นใจ “เขากล้าพูดจาไม่เกรงใจกันแบบนี้ก็เพราะเขารู้ว่าฉันชอบเขาสินะ”ดวงตาคู่สวยของเจย์เบิกกว้าง และมีแววของความรังเกียจแฝงอยู่ในดวงตาเขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างเย็นชาออกมาสองคำ “เด็กน้อยจริง ๆ”แองเจลีนเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจและเห็นเจย์ยืนสบาย ๆ อยู่ตรงหน้าพร้อมมองเธอด้วยสายตารังเกียจแองเจลีนหน้าแดงทันที“ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้?”“ผมเอาข้าวมาให้” เจย์ดันกล่องอาหารกลางวันไปให้เธอเมื่อมองเห็นกล่องอาหารตรงหน้า แองเจลีนก็หลุดยิ้มออกมา “นายมานี่เพื่อมาขอโทษฉันเหรอ?”เจย์ข่มอารมณ์ “ผมคิดว่าคุณโดนด่ายังไงก็ไม่สะเทือนซะอีก?”แองเจลีนพ่นข้าวที่เพิ่งตักเข้าปากออกมา เธอมองเขาแล้วทำแก้มพอง “แล้วฉันต้องปล่อยให้นายมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีฉันได้ตามใจงั้นเหรอ?”ริมฝีปากเซ็กซี่ของเจย์กระตุกยิ้มเป็นการยอมรับโดยนัย แองเจลีนโมโห
”คุณดูไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องอะไรแบบนี้” เจย์พูดในความคิดของเขา ผู้หญิงที่จะพับดาวนำโชคมากมายขนาดนี้ต้องเป็นคนประเภทที่ทุ่มเทและผูกใจให้กับความรักมากคนเดียวแบบนั้นที่เขาคิดออกก็คือ แม่ของเซ็ตตี้น้อย เธอเป็นผู้หญิงที่ทุ่มเทให้ความรักและเป็นสาเหตุที่เธอจะอุทิศชีวิตที่เหลือน้อยนิดทำเรื่องพวกนี้แองเจลีนมองเขาอย่างหม่นหมอง “นายอคติกับฉัน จนมันบดบังทำให้นายมองไม่เห็นว่าฉันทำอะไรได้บ้าง”เจย์ตะลึงไปเล็กน้อย นี่หรือคือสาเหตุ?“ว่าแต่ คุณพับดาวพวกนี้ให้ใครกัน?” เจย์ถามอย่างสงสัยชายที่ทำให้นางมารร้ายคนนี้ตกหลุมรักได้ รับรองว่าต้องเป็นชายแสนพิเศษไม่ธรรมดา“ผู้ก่อตั้งแกรนด์ เอเซีย”“แล้วทำไมถึงเป็นดอกเรด สไปเดอร์ ลิลี่?” เจย์จ้องแองเจลีนเขม็ง ด้วยเหตุผลบางอย่างเจย์รู้สึกเหมือนหลอนไปว่าแองเจลีนคือแม่ของเซ็ตตี้น้อย“มันสวยดี” เธอพูดด้วยเสียงเครือขึ้นจมูก เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกเศร้ามาก หลังจากพูดจบแองเจลีนก็หันหลังเดินจากไปดวงตาเจย์เต็มไปด้วยความฉงนสงสัยขณะช่วงพักเที่ยง เจย์ก็เข้ามาที่ห้องสมุดของแกรนด์ เอเซียเขาพูดกับบรรณารักษ์ “ผมอยากทราบเกี่ยวกับประวัติการก่อตั้งของบริษัทแกรนด์
กลายเป็นว่าชายคนรักที่ไม่เอาไหนของเธอเพียงแค่มีปัญหากับการทำงานที่สกปรกและการใช้แรงงานเท่านั้น แต่เขากลับเป็นชายแสนสมบูรณ์แบบที่เล่นเปียโนได้ ใช้คอมพิวเตอร์เป็น และที่สำคัญ เขายังหาเงินได้มากมายอีกด้วยมาริลินรู้สึกเหมือนตนเองถูกรางวัลใหญ่ ทุกอย่างดูดีเกินจริง เหมือนดั่งว่า เธอคือซินเดอเรลลาที่ได้กลายเป็นเจ้าหญิงทั้งหมดนี้ก็เพราะมาริลินตัดสินใจไปอย่างเด็ดขาด ว่าเธอจะต้องเกาะชายที่ทำเงินได้คนนี้เอาไว้ให้แน่นไม่ว่าจะอย่างไร เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะทำให้เธอมีความสุขไปชั่วชีวิตส่วนชายขี้คุกอีกคนนั้น… เขามีอะไรมาเทียบเบ็นได้บ้างล่ะ? เธอคงเป็นคนโง่ถ้ากลับไปหาผู้ชายคนนั้นมาริลินรู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่า เคนจะไม่มีทางหาเธอพบอีกในเมื่อตอนนี้เธอย้ายออกมาจากบ้านเก่าแล้วมาริลินแสดงออกอย่างกระตือรือร้นต่อหน้าใบหน้าเย็นชาเป็นน้ำแข็งของเจย์ “มีห้องนอนตั้งสี่ห้องเลยนะคะ ที่รัก เราก็นอนในห้องนอนใหญ่กันแล้วให้ไทเกอร์นอนห้องเด็กที่ติดกัน เราก็จะมีห้องเหลืออีกสองห้อง คุณอยากจะใช้ทำอะไรคะ?”เจย์หยุดคิดครู่หนึ่ง “ห้องหนึ่งผมจะทำเป็นห้องหนังสือ”มาริลินพยักหน้า “ค่ะ”ดวงตาเธอส่องประกายชื่มชมเขา
เจย์รู้สึกราวกับความหนักอึ้งที่กดทับอยู่หายไป “ผมจะไปเปิดประตู”มาริลินยืนค้างอยู่ตรงนั้นเจย์เดินมาที่ห้องนั่งเล่นและเปิดประตูออกไป เมื่อเขาเห็นเซ็ตตี้น้อยและแม่ของเธอยืนอยู่หน้าประตูเขาก็ถึงกับตะลึง“คุณเบ็นคะ” เซ็ตตี้น้อยโผเขาหาเบ็นทันทีที่เธอเห็นเขาแองเจลีนสังเกตุเห็นว่าเจย์ใส่ชุดสำหรับอยู่บ้าน แม้ว่ามันจะเป็นเสื้อและกางเกงขายาว แต่ก็ยังไม่สามารถห้ามความเยือกเย็น สง่างาม และความมีเสน่ห์ของเขาได้ ไม่ต่างจากเวลาเขาสวมสูทผูกเนกไทเลย ผมหยักสีดำสนิทของเขายังคงเปียกซึ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นเธอยืนค้างอยู่ตรงนั้น ตัวแข็งทื่อถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็แกล้งทำเป็นคนตาบอด เธอจึงกลัวว่าจะเผลอจ้องจนเขาผิดสังเกตุ“ใครมาคะที่รัก?” มาริลินเดินออกมาเมื่อแองเจลีนเห็นเธอสวมชุดนอนเบาบางเช่นนั้น ดวงตาเธอก็ขุ่มมัวผู้หญิงคนนี้พยายามจะยั่วยวนเจย์สินะ?เจย์ลูบผมเซ็ตตี้น้อยเบา ๆ พร้อมตอบมาริลิน “นี่คือเด็กที่ผมเคยเล่าให้คุณฟังว่าผมสอนเปียโนให้”มาริลินมองเซ็ตตี้หัวจดเท้า และทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นใบหน้างดงามของเด็กน้อย“หนูสวยน่ารักมากเลยนะจ๊ะ” มาริลินเอ่ยชมจากนั้นเธอก็หันมามองแองเจลีน เมื่อเ