”เขาทำลายชื่อเสียงที่ฉันลำบากลำบนสั่งสมมาแทบตายหลายปีต่อหน้าพนักงานจนไม่เหลือแล้ว ฮือ ๆ ชื่อเสียงของฉันที่เป็นประธานหญิงที่สวยที่สุดในเมืองอิมพีเรียลผู้มีทั้งความเฉลียวฉลาดและความงามก็ถูกทำลายย่อยยับด้วยคำพูดของเขาไม่กี่คำ”ขณะที่แองเจลีนกล่าว เธอก็เอาหัวโขกโต๊ะไปด้วยอย่างว้าวุ่นใจ “เขากล้าพูดจาไม่เกรงใจกันแบบนี้ก็เพราะเขารู้ว่าฉันชอบเขาสินะ”ดวงตาคู่สวยของเจย์เบิกกว้าง และมีแววของความรังเกียจแฝงอยู่ในดวงตาเขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างเย็นชาออกมาสองคำ “เด็กน้อยจริง ๆ”แองเจลีนเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจและเห็นเจย์ยืนสบาย ๆ อยู่ตรงหน้าพร้อมมองเธอด้วยสายตารังเกียจแองเจลีนหน้าแดงทันที“ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้?”“ผมเอาข้าวมาให้” เจย์ดันกล่องอาหารกลางวันไปให้เธอเมื่อมองเห็นกล่องอาหารตรงหน้า แองเจลีนก็หลุดยิ้มออกมา “นายมานี่เพื่อมาขอโทษฉันเหรอ?”เจย์ข่มอารมณ์ “ผมคิดว่าคุณโดนด่ายังไงก็ไม่สะเทือนซะอีก?”แองเจลีนพ่นข้าวที่เพิ่งตักเข้าปากออกมา เธอมองเขาแล้วทำแก้มพอง “แล้วฉันต้องปล่อยให้นายมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีฉันได้ตามใจงั้นเหรอ?”ริมฝีปากเซ็กซี่ของเจย์กระตุกยิ้มเป็นการยอมรับโดยนัย แองเจลีนโมโห
”คุณดูไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องอะไรแบบนี้” เจย์พูดในความคิดของเขา ผู้หญิงที่จะพับดาวนำโชคมากมายขนาดนี้ต้องเป็นคนประเภทที่ทุ่มเทและผูกใจให้กับความรักมากคนเดียวแบบนั้นที่เขาคิดออกก็คือ แม่ของเซ็ตตี้น้อย เธอเป็นผู้หญิงที่ทุ่มเทให้ความรักและเป็นสาเหตุที่เธอจะอุทิศชีวิตที่เหลือน้อยนิดทำเรื่องพวกนี้แองเจลีนมองเขาอย่างหม่นหมอง “นายอคติกับฉัน จนมันบดบังทำให้นายมองไม่เห็นว่าฉันทำอะไรได้บ้าง”เจย์ตะลึงไปเล็กน้อย นี่หรือคือสาเหตุ?“ว่าแต่ คุณพับดาวพวกนี้ให้ใครกัน?” เจย์ถามอย่างสงสัยชายที่ทำให้นางมารร้ายคนนี้ตกหลุมรักได้ รับรองว่าต้องเป็นชายแสนพิเศษไม่ธรรมดา“ผู้ก่อตั้งแกรนด์ เอเซีย”“แล้วทำไมถึงเป็นดอกเรด สไปเดอร์ ลิลี่?” เจย์จ้องแองเจลีนเขม็ง ด้วยเหตุผลบางอย่างเจย์รู้สึกเหมือนหลอนไปว่าแองเจลีนคือแม่ของเซ็ตตี้น้อย“มันสวยดี” เธอพูดด้วยเสียงเครือขึ้นจมูก เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกเศร้ามาก หลังจากพูดจบแองเจลีนก็หันหลังเดินจากไปดวงตาเจย์เต็มไปด้วยความฉงนสงสัยขณะช่วงพักเที่ยง เจย์ก็เข้ามาที่ห้องสมุดของแกรนด์ เอเซียเขาพูดกับบรรณารักษ์ “ผมอยากทราบเกี่ยวกับประวัติการก่อตั้งของบริษัทแกรนด์
กลายเป็นว่าชายคนรักที่ไม่เอาไหนของเธอเพียงแค่มีปัญหากับการทำงานที่สกปรกและการใช้แรงงานเท่านั้น แต่เขากลับเป็นชายแสนสมบูรณ์แบบที่เล่นเปียโนได้ ใช้คอมพิวเตอร์เป็น และที่สำคัญ เขายังหาเงินได้มากมายอีกด้วยมาริลินรู้สึกเหมือนตนเองถูกรางวัลใหญ่ ทุกอย่างดูดีเกินจริง เหมือนดั่งว่า เธอคือซินเดอเรลลาที่ได้กลายเป็นเจ้าหญิงทั้งหมดนี้ก็เพราะมาริลินตัดสินใจไปอย่างเด็ดขาด ว่าเธอจะต้องเกาะชายที่ทำเงินได้คนนี้เอาไว้ให้แน่นไม่ว่าจะอย่างไร เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะทำให้เธอมีความสุขไปชั่วชีวิตส่วนชายขี้คุกอีกคนนั้น… เขามีอะไรมาเทียบเบ็นได้บ้างล่ะ? เธอคงเป็นคนโง่ถ้ากลับไปหาผู้ชายคนนั้นมาริลินรู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่า เคนจะไม่มีทางหาเธอพบอีกในเมื่อตอนนี้เธอย้ายออกมาจากบ้านเก่าแล้วมาริลินแสดงออกอย่างกระตือรือร้นต่อหน้าใบหน้าเย็นชาเป็นน้ำแข็งของเจย์ “มีห้องนอนตั้งสี่ห้องเลยนะคะ ที่รัก เราก็นอนในห้องนอนใหญ่กันแล้วให้ไทเกอร์นอนห้องเด็กที่ติดกัน เราก็จะมีห้องเหลืออีกสองห้อง คุณอยากจะใช้ทำอะไรคะ?”เจย์หยุดคิดครู่หนึ่ง “ห้องหนึ่งผมจะทำเป็นห้องหนังสือ”มาริลินพยักหน้า “ค่ะ”ดวงตาเธอส่องประกายชื่มชมเขา
เจย์รู้สึกราวกับความหนักอึ้งที่กดทับอยู่หายไป “ผมจะไปเปิดประตู”มาริลินยืนค้างอยู่ตรงนั้นเจย์เดินมาที่ห้องนั่งเล่นและเปิดประตูออกไป เมื่อเขาเห็นเซ็ตตี้น้อยและแม่ของเธอยืนอยู่หน้าประตูเขาก็ถึงกับตะลึง“คุณเบ็นคะ” เซ็ตตี้น้อยโผเขาหาเบ็นทันทีที่เธอเห็นเขาแองเจลีนสังเกตุเห็นว่าเจย์ใส่ชุดสำหรับอยู่บ้าน แม้ว่ามันจะเป็นเสื้อและกางเกงขายาว แต่ก็ยังไม่สามารถห้ามความเยือกเย็น สง่างาม และความมีเสน่ห์ของเขาได้ ไม่ต่างจากเวลาเขาสวมสูทผูกเนกไทเลย ผมหยักสีดำสนิทของเขายังคงเปียกซึ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นเธอยืนค้างอยู่ตรงนั้น ตัวแข็งทื่อถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็แกล้งทำเป็นคนตาบอด เธอจึงกลัวว่าจะเผลอจ้องจนเขาผิดสังเกตุ“ใครมาคะที่รัก?” มาริลินเดินออกมาเมื่อแองเจลีนเห็นเธอสวมชุดนอนเบาบางเช่นนั้น ดวงตาเธอก็ขุ่มมัวผู้หญิงคนนี้พยายามจะยั่วยวนเจย์สินะ?เจย์ลูบผมเซ็ตตี้น้อยเบา ๆ พร้อมตอบมาริลิน “นี่คือเด็กที่ผมเคยเล่าให้คุณฟังว่าผมสอนเปียโนให้”มาริลินมองเซ็ตตี้หัวจดเท้า และทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นใบหน้างดงามของเด็กน้อย“หนูสวยน่ารักมากเลยนะจ๊ะ” มาริลินเอ่ยชมจากนั้นเธอก็หันมามองแองเจลีน เมื่อเ
ความอ่อนโยนของเขามีเสน่ห์ที่ราวกับพิษร้ายมาริลินแอบกัดฟันกรอด เขาเป็นผู้ชายของเธอ ความอบอุ่นอ่อนโยนแบบนี้ควรมีให้เธอเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?“ที่รักคะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงานอีก คุณน่าจะต้องไปนอนแล้วนะคะ” มาริลินเดินมาหาเจย์พร้อมเตือนเขาด้วยรอยยิ้มเจย์ตอบเสียงเรียบ “โอเค”ทันใดนั้นบรรยากาศก็พลันตึงเครียด แองเจลีนไม่อยากทำให้เจย์เสียหน้าเธอจึงลุกขึ้นและเรียกเซ็ตตี้น้อยที่ไปสำรวจบ้าน “ได้เวลากลับบ้านแล้วจ้ะ เซ็ตตี้”เซ็ตตี้เดินออกมาจากห้องของเจย์และบอกแม่อย่างตื่นเต้นถึงสิ่งที่ได้เจอว่า “คุณแม่คะ หนูเห็นมีเด็กผู้ชายตัวน้อยในบ้านคุณเบ็นด้วย เขานอนหลับอยู่”“หนูมีของเล่นเยอะเลย หนูเอามาแบ่งให้เขาได้ไหมคะ?”แองเจลีนยิ้มและตอบ “ได้สิจ๊ะ”หลังจากเซ็ตตี้น้อยกล่าวอำลาเจย์และมาริลิน เธอก็จูงมือแองเจลีนเดินออกประตูไปหลังจากมาริลินเดินไปล็อกประตูแล้ว เธอก็มายืนข้างเจย์ ดวงตาเรียวดุจอัลมอนด์ของเธอฉายคลื่นโทสะเจย์หยิบแก้วของแองเจลีนขึ้นมาก่อนกินน้ำที่เหลือเข้าไป จากนั้นก็หันมาจ้องมาริลินเล็กน้อยก่อนเดินเข้าห้องไปเขาไม่สนใจมาริลินเลยสักนิดทันใดนั้นมาริลินก็ร้องไห้โฮ “คุณเป
เพราะว่าเจย์ไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากแองเจลีน เขาจึงไม่สบายใจจนนอนไม่หลับทั้งคืนถึงแบบนั้นโทรศัพท์เขาก็ยังไม่มีเสียงเรียกเข้า ไม่มีข้อความตอบกลับที่เขารอคอยเมื่อมาริลินตื่นขึ้นมาตอนเช้า เจย์ก็ออกจากบ้านไปแล้วมาริลินรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ เธอจำได้ว่าเมื่อคืนนี้แองเจลีนแวะมาหา ชายคนไหนจะไม่หลงเสน่ห์ความงามจนน่าตะลึงของเธอได้เมื่อได้พบเธอ?เมื่อเธอมองตัวเองและเสื้อผ้าราคาถูกที่สวมอยู่ มาริลินก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเอง ยังไงตอนนี้เบ็นก็หาเงินได้แล้วสิ่งเดียวที่เธอคิดออกในตอนนี้คือทำให้ชายผู้นี้พอใจ ถ้าพวกเขามีลูกด้วยกันได้ จากนั้นความสัมพันธ์ต้องยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นแน่ที่แกรนด์ เอเซียเมื่อเจย์มาถึงทางเข้าบริษัท เขาก็เห็นแองเจลีนออกมาจากรถส่วนตัวไม่รู้ว่าเพราะอะไร สายตาที่แองเจลีนมองเขาวันนี้ดูต่างออกไปมา สายตาของเธอเหมือนมีพิษร้ายอยู่เขาไปทำอะไรให้เธอโกรธละเนี่ย?พวกเขาเดินตามกันมาเข้าไปในลิฟต์พนักงานที่มีคนแน่นแล้ว เมื่อทั้งสองเข้ามาพร้อมกันลิฟต์ก็ร้องเตือนขึ้นลิฟต์น้ำหนักเกินแล้ว!แองเจลีนมองเจย์ ส่งสายตาชัดเจนว่าสั่งให้เขาออกไปเจย์แกล้งเธอ กล่าวว่า “ลิฟต์
เจย์มองแองเจลีนที่มีท่าทางพึงพอใจ แววตาพอใจของเธอนั้นปิดไม่มิดเจย์รู้สึกว่าโมโหจนเดือดเมื่อศักดิ์ศรีและความภูมิใจในตัวเองของเขาถูกแองเจลีนท้าทาย “ถ้าคุณแพ้ก็อย่าร้องไห้แล้วกัน” เขากัดฟันกรอดแองเจลีนแค่นเสียง “หึ ยังไม่รู้สักหน่อยว่าใครจะแพ้กันแน่”แองเจลีนพาเจย์ไปที่แกรนด์ เอเซีย อีสปอร์ต อารีน่า เมื่อเจย์มองเห็นเครื่องเล่นเกมล้ำหน้าหลากหลาย เขาถึงกับพูดไม่ออก“ทำไมเราไม่สู้กันจริง ๆ ล่ะ?” เขาตวัดสายตาเย็นชาไปมองเธอแองเจลีนสะดุ้งเมื่อโดนเขามองด้วยสายตาเสียดแทง เขาดูเหมือนอยากจะเข้ามาฉีกเธอเป็นชิ้น ๆถ้าพวกเขาสู้กันจริง ๆ เธอก็คงโดนยำจนเละไม่เหลือดีน่ะสิ“ฉันกลัวว่าจะทำนายเจ็บไง” เธอกลัวจริง ๆ แต่เธอก็ยังเชิดหน้าและพูดด้วยเสียงอ่อนหวานเจย์มองจอเล็ก ๆ ของเธอก่อนนั่งลงหน้าเครื่องเกมต่อสู้แองเจลีนนั่งลงข้างเขาพวกเขาเริ่มเลือกตัวผู้เล่น พวกเขาเปลื่ยนเป็นชื่อของตัวเองเพื่อให้ได้รับรู้ถึงประสบการณ์อย่างสมจริงที่สุดในตอนเริ่มต้นการแข่ง เจย์ก็พุ่งเข้าหาแองเจลีนอย่างดุเดือดก่อนเตะเธอเข้าที่หัว แองเจลีนหลุดร้องเสียงแหลมเมื่อตัวผู้เล่นของเธอปลิวไปกระแทกพื้น“นายนี้ไม่รู้จักรักหย
”ฉันไม่แก้ได้ไหม?”เจย์ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เขาใช้เวลาคิดโจทย์นี้อยู่หนึ่งชั่วโมง แต่แค่ครึ่งชั่วโมงเธอก็ยอมแพ้แล้ว“ไม่ได้” เขาสะบัดเสียง“ฉันจะเรียกนายว่า ท่านเบ็น”เจย์ “...”“งั้นถ้าเป็นลุงเบ็นล่ะ?”เจย์ “...”“พี่เบ็น! ฉันจะเรียกนายว่าพี่เบ็น” เธอพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มันฟังดูเป็นธรรมชาติมากตอนที่เธอเรียกเขาว่า พี่เบ็นแต่ถึงอย่างนั้น ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์ก็ยังคงไร้อารมณ์“เราตกลงกันว่าเป็น ‘บรรพบุรุษ’ ไม่ใช่เหรอ?”แองเจลีนอยากจะร้องไห้ “เรียกบรรพบุรุษมันฟังประหลาดออก”เจย์ตอบ “แต่ผมชอบ”อย่างน้อยมันก็ไม่ฟังดูชวนให้เข้าใจคลุมเครือเหมือนคำอื่น ๆ แองเจลีนพยักหน้า “งั้นก็ได้ค่ะ พี่เบ็น”เจย์จ้องเธอ…จากนั้นแองเจลีนก็แพ้หมดท่าในทุกเกมที่พวกเขาเล่นในตอนท้าย แองเจลีนลากเขาไปที่เกมชื่อว่า การต่อสู้ของความรักและพูดว่า “ผู้หญิงเราไม่ค่อยเก่งกับพวกเกมก่อนหน้านี้ แต่รับรองว่าเกมนี้ฉันชนะนายแน่ ถ้าฉันแพ้… ฉันจะ… ฉันจะลบเครื่องสำอางต่อหน้านายเลย”“ไม่มีใครอยากเห็นหน้าสดคุณหรอก” เจย์บอกองเจลีนหน้าแดงขณะพูด “หน้าสดฉันอาจจะทำให้นายเซอร์ไพรส์อย่างคาดไม่ถึงก็ได้นะ”"แทนที่