ถ้ามาริลินเชื่อใจเพียงแค่หนึ่งในสิบส่วน เมื่อคืนพวกเขาทั้งคู่คงไม่ต้องทะเลาะกันเหมือนเด็กหลังจากแอบอยู่พักใหญ่ เซ็ตตี้น้อยก็คิดว่าพ่อน่าจะสงสัยแล้วถ้าเธอยังหลบต่อไป ดังนั้นเธอจึงเปิดประตูครัวแล้วเดินออกมาอย่างไม่รู้ไม่ชี้“ไปที่ห้องเปียโนกันเถอะค่ะ คุณเบ็น คุณแม่อยากฟังคุณเล่น Red Spider Lily”“อืม” เจย์ลุกขึ้นยืนเซ็ตตี้น้อยเดินเข้ามาก่อนจับมือแม่ไว้อย่างอ่อนโยน เมื่อพวกเขาจะขึ้นไปชั้นบน เธอก็คอยเตือนแม่ “บันไดค่ะแม่”เจย์เดินตามหลังทั้งคู่ไป รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความเป็นลูกสาวที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยนของหนูน้อยเซ็ตตี้ในห้องเปียโนเซ็ตตี้น้อยดึงทั้งเจย์และแองเจลีนมาที่เก้าอี้หน้าเปียโน เธอพูดคุยอย่างร่าเริง “เล่น Red Spider Lily สิคะคุณเบ็น คุณแม่ฟังนะคะ คุณเบ็นเล่นเพลงนี้ได้เพราะมากเลย”เจย์นั่งข้างแองเจลีนอย่างไม่เฉลียวใจนิ้วสวยเรียวยาวของเขาวางบนแป้น มันช่างดูเหมือนงานศิลปะ กระดูกนิ้วเรียวยาวห่อหุ้มด้วยผิวขาวใสราวโปร่งแสงจนดูเหมือนปีกของจักจั่นเขากดนิ้วลงบนเปียโน จนเสียงดังแตกพร่าบางทีอาจจะเป็นเพราะตอนนี้ความคิดเขาของสับสน อารมณ์ก็ดำดิ่ง จนเมื่อเขาเล่น Red Spider Lily รอ
แองเจลีนดึงมือเขามาไม่บอกกล่าว ก่อนวางมือเขาลงบนแป้นเปียโนตรงหน้าเธอ มือเล็กของเธอวางทับนิ้วของเขาก่อนกดลงบนแป้น ทำให้เกิดเสียงที่ออกมาจากใจแองเจลีนร้องเพลง The Soul Of The Sun Never Sets ให้เขาฟังเขาเป็นคนแต่งเนื้อเพลงนี้ตอนที่ก่อตั้งแกรนด์ เอเซีย เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าเขานั้นอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว‘เมื่อฉันยังเยาว์ ฉันฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนาม‘ล่องไปไกลนับพันไมล์‘เพื่อพาเธอไปสู่เกียรติสูงสุด‘และกลับมาพร้อมหัวใจเยาว์วัยคลื่นอารมณ์พุ่งอยู่ในใจ เมื่อเจย์ฟังเพลงนี้ เมื่อคิดถึงความรู้สึกด้านลบที่เขามีก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดสิ้นดีเขากังวลและสิ้นหวังเพียงเพราะว่า เขาไม่แข็งแกร่งพอถ้าเขาเป็นเหมือนชายหนุ่มในเพลงที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง แข็งแกร่ง และรู้สึกถึงความทะเยอทะยานอันแรงกล้าของตัวเอง เขาก็คงจะมีความสุขแองเจลีนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าคุณร้องเพลงนี้เอง คุณก็จะพบพลังแข็งแกร่งสะเทือนโลกได้ที่ซ่อนตัวอยู่”เจย์นึกภาพตนเองถือกีตาร์และเล่นเพลงที่แสนดุเดือดนี้ ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามันช่างยากจะจินตนาการ“ผมเป็นแค่คนน่าเบื่อที่ไม่มีงานอดิเรกพิเศษอะไร” เขายิ้มเหยียดตัวเ
เซ็ตตี้น้อยโผล่หน้าเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสดใส “คุณเบ็นคะ แม่ให้หนูมาบอกว่าถึงหนังสือจะสนุกขนาดไหนแต่คุณก็ต้องใส่ใจเรื่องท้องไส้ด้วย ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ”เจย์ยืนขึ้น ตอนนั้นเองที่เขารู้สึกได้ว่า ตัวเองหิวจัด แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่า มันไม่สุภาพเหมาะสมที่จะทานอาหารที่บ้านนายจ้างขณะที่เขากำลังลังเลใจว่าจะขอตัวอย่างไรดี เซ็ตตี้น้อยก็วิ่งเข้ามาลากดึงชายร่างสูงไปที่โต๊ะอาหาร“วันนี้คุณต้องอยู่ทานข้าวกับเรานะคะ คุณเบ็น”แองเจลีนเองก็ขอร้องเขา “อยู่ทานเถอะค่ะ”เมื่อเจย์มองดูเมนูอาหารยั่วน้ำลายทั้งหลาย เขาก็รู้สึกอยากอาหารอย่างมาก “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะครับ คงจะไม่สุภาพถ้าผมจะปฏิเสธคำเชิญของคุณ”เขานั่งลงข้างแองเจลีนระหว่างมื้ออาหาร เพราะอาการทางสายตาของแองเจลีน เขาจึงตักอาหารใส่จานให้เธออย่างเป็นสุภาพบุรุษรวมถึงคอยถามเธออย่างใส่ใจ “ไม่ทราบว่าคุณชอบทานอะไรเหรอครับ?”แองเจลีนตอบ “ฉันทานได้หมด ไม่เลือกค่ะ”จากนั้นเธอก็ถามเขา “หนังสือสนุกไหมคะ?”เจย์ตอบอย่างจริงใจ “ครับ มันดีมากเลย”จากนั้นเขาก็จ้องมองเธออย่างสงสัย “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมชอบอ่านหนังสือแบบนี้?”แองเจลีนยิ้ม เธอจะไ
นอกจากแค่การไม่ได้นอนห้องเดียวกันแล้ว เรื่องอื่นเบ็นก็ถือว่าสมบูรณ์แบบเมื่อเทียบกันแล้วชายตรงหน้าเธอทั้งไปกินดื่ม เที่ยวผู้หญิง ติดการพนัน เมื่อใดที่เขาเสียพนันก็จะมาทุบตีเธอ ตอนนั้นเธอคงตาบอดถึงได้ยอมแต่งงานกับเขา“นายกลับมาทำไม?” เธอถามอย่างเย็นชาชายคนนั้นเอามือบีบคางเธอแน่นเหมือนคีม ก่อนพูดอย่างดุร้าย “เธอไม่อยากเจอฉัน เพราะฉันไปเข้าคุกมาใช่ไหม มาริลิน?”ชายคนนั้นผลักเธอติดกำแพงหมู่บ้านด้วยความโกรธก่อนทาบร่างกับตัวเธออย่างหยาบช้า “บอกมาสิ เธอรักไอ้เจ้าคนเถื่อนที่เธอไปเก็บมาไหม?”เมื่อมาริลินไม่ตอบ ชายคนนั้นก็ถกกระโปรงเธอขึ้นอย่างฉุนเฉียวมาริลินขู่ฟ่อ “นายบ้าหรือไง? รู้ไหมว่านี่มันที่ไหน? นายกล้าดียังไง…”“ฉันก็จะทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงของฉัน มีปัญหาตรงไหน?”เมื่อการกระทำนั้นจบลง มาริลินก็ทรุดลงบนร่างเขาเขาบีบใบหน้าสวยงามอ่อนนุ่มของเธอด้วยความพอใจ “มาริลิน เธอเป็นของฉัน เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่สนว่า เธอจะมีความรู้สึกกับหนุ่มหล่อนั่นไหม ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว เธอต้องเลิกกับมันให้เด็ดขาด ฉันจะพาเธอไป”มาริลินไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับชายคนนี้แม้เพียงสักวัน แต่เมื่อคิด
แววตามาริลินนั้นไม่ยินยอม ไอ้เลวนั่นไม่คิดเหลือเงินไว้ให้เธอสักแดงเขาคิดว่าเธอกับเบ็นจะอยู่กันยังไงถ้าไม่มีเงินเหลือเลยสักเหรียญ?ถึงจะเป็นอย่างนั้น เจย์ก็ยังดูสบาย ๆ ไม่เครียด และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “คราวหน้าอย่าลืมแจ้งอายัดบัตรทันทีที่รู้ว่าทำหายนะ”มาริลินพยักหน้า “ค่ะ”ตอนนี้ไทเกอร์ก็เอามือลูบท้องพร้อมร้องออกมา “แม่ครับ ผมหิวข้าว”มาริลินเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหลังจากที่เธอเสียการ์ดไป พอได้ยินลูกร้องไห้เธอก็ตบหัวเขาอย่างหงุดหงิดพร้อมดุ “ทนเอาสิ”ตอนนั้นเองที่เจย์ได้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรเลยเขาลุกขึ้นและเดินเข้าครัว พยายามอดกลั้นความคลื่นเหียนไว้เมื่อเห็นคราบน้ำมันบนเตา เขาทำซุปให้ทั้งสองคน คนละชามมาริลินจ้องมองแผ่นหลังทรงเสน่ห์ชวนฝันของเจย์ขณะที่เขาเคลื่อนกายไปมาอยู่ในครัว ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความหลงใหลไม่ว่าจะด้านรูปลักษณ์หรือนิสัย ชายคนนี้ก็ดีที่สุดในโลกในเมื่อพระเจ้าส่งเขามาให้เธอแล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลจะปล่อยเขาหลุดมือไป!ซุปเห็ดไก่เข้มข้นสองชามเตรียมเสร็จในเวลาไม่ถึงอึดใจเจย์วางซุปลงบนโต๊ะอาหารและลูบหัวไทเกอร์เบา ๆ “นี่ไงครับ ลูกทานเลย”ไทเกอร์ผละจากมือแสนอบอ
เมื่อเจย์ออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เห็นว่ามาริลินนั่งอยู่บนเตียงของเขาเจย์ตกใจ เขาขมวดคิ้วอย่างช้า ๆมาริลินตบลงที่บริเวณที่ว่างข้างเธอก่อนเรียกเสียงเบา “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ที่รัก เพราะว่าเราเป็นสามีภรรยากันฉันก็จะไม่บ่นเรื่องอาการของคุณตอนคุณป่วย ฉันจะนอนข้างคุณทุกวันจากนี้ไป บางวันคุณอาจจะคุ้นเคยกับความใกล้ชิดทางกายนี้แล้วอาการป่วยของคุณอาจหายดีโดยไม่ต้องพึ่งยาก็ได้”เมื่อสายตาของเจย์มองเห็นแขนดำคล้ำของมาริลิน ท้องไส้เขาก็เริ่มปั่นป่วนอย่างคุมไม่ได้ เขาพยายามกัดฟันทนแล้วฝืนมันไว้มาริลินกอดเขาแน่น เธอส่งเสียงแผ่วเบาเย้ายวนเเสมือนว่าทั้งร่างกำลังถูกไฟแผดเผา“ฉันรู้สึกไม่สบายตัวเลย ที่รัก” มาริลินยั่วยวนเขาด้วยน้ำเสียงหวานล่อหลอกเจย์ยังคงเงียบ เพราะเขากำลังพยายามกดข่มความรู้สึกปั่นป่วนคลื่นเหียนในท้องเอาไว้สุดท้ายเขาก็ดึงมือเธอออกอย่างไร้ความปรานี“คุณก็รู้ว่าผมทำไม่ได้ มาริลิน แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับผม?”เสียงของเขาห่างเหินเย็นชา จนสามารถดับไฟสวาทของเธอได้ในพริบตาเธอยื้อเขาไว้อย่างดื้อดึงไม่ยอมปล่อย เจย์หลุดออกจากการเกาะกุมของเธอได้ “ผมจะลงไปเดินเล่นข้างล่างหน่อย”เขาหันหลัง
มันเป็นความผิดของเขาที่ไหนที่พวกปลาเน่าในบริษัทพากันก่อหวอดขึ้นมาเนี่ย?เซย์นก้าวออกมาพร้อมรายงาน “ฝ่าบาท กระผมเจอเรื่องจุกจิกนิดหน่อย”แองเจลีนโบกมือไล่ “งั้นก็ไม่ต้องบอก”นี่เขาคิดว่าเธอมีเวลาเหลือเฟือมาจัดการปัญหาเล็กน้อยด้วยเหรอ?เซย์นพูดอย่างร่าเริง “ได้เลย!”เกรย์สันหันไปจ้องเซย์น “ทำไมคุณถึงเรียกว่ามันเป็นเรื่องจุกจิกล่ะ ทั้งที่มันเกี่ยวกับเขา?”เซย์นยักไหล่ “ทำไมคุณต้องมาว่าผมล่ะ ก็ราชินีไม่อยากฟังนี่นา”เมื่อตระหนักว่าเซย์นกำลังจะพูดถึงบางอย่างที่ไม่ปกติ แองเจลีนจึงบอก “ลองบอกมาสิ เซย์น”เซย์นก้าวออกมาพร้อมก้มหัวต่ำ เขารายงานเสียงอ่อย ๆ “คนของเราได้ข่าวมาว่าผู้ชายคนนั้นกำลังมาหางานที่ศูนย์จัดหางาน”แองเจลีนโมโหมากจนเธอคว้าแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาขว้างใส่เขา เธอฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด “นี่นายเรียกว่าเรื่องจุกจิกนิดหน่อยเหรอ? นี่มันสำคัญมากสำหรับแกรนด์ เอเซียเลยนะ”เซย์นหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาก่อนกล่าว “การไล่ตามหนุ่มหล่อเห็นได้ชัดว่า เป็นเรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องสำคัญต่อแกรนด์ เอเซียตอนไหนกัน?แองเจลีนพูดอย่างแข็งกร้าว “เขาเป็นแฮกเกอร์มือหนึ่งของโลก ถ้าเขาโดนบริษัทอื่นฉกตัวไป แ
ในฐานะประธานที่มีประสบการณ์และเที่ยงตรง ยูมิได้ตั้งกฎคุณสมบัติที่เข้มงวดสำหรับผู้เข้าสมัครหลังจากเปิดดูประวัติที่ถูกส่งเข้ามา ใบหน้าเธอก็เผยแววผิดหวังจากนั้นเธอก็กวาดสายตาคมกล้าดุจเหยี่ยวไปยังกลุ่มผู้สมัครงาน ไม่สนใจคนที่มีท่าทางเหนื่อยล้าในที่สุดสายตาเธอก็ไปตกอยู่ที่ร่างสง่าโดดเด่น แม้ว่าเขาจะไม่ใช้นายน้อยที่มีรัศมีแห่งความเฉลียวฉลาดอีกแล้ว แต่ก็ยังคงทำให้คนตะลึงได้ด้วยความสุขุมและแตกต่างดวงตาของยูมิเต็มไปด้วยความตกตะลึง และก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุ่งมั่นในเวลาต่อมายูมิเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเซเวียร์ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้กลับไปที่บ้านเซเวียร์บ่อยเท่าไรนัก แต่เธอก็รู้ความลับมาจากซีรา เจย์กลับมาแล้วแต่เขาความจำเสื่อมเพื่อที่จะปกป้องเจย์ แองเจลีนก็มุ่งมั่นทุ่มเทที่จะปกปิดตัวตนของเขาไว้เป็นความลับยูมิไม่ใช่คนดีมีศีลธรรมอะไร แถมเธอยังเจ็บแค้นเรื่องการควบรวมที่บริษัทแกรนด์เอเซียทำกับบริษัทของเธอเมื่อคราวนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอต่อสู้ดิ้นรนให้ธุรกิจของตระกูลไททัสกลับมาอีกครั้ง รวมถึงฉวยโอกาสทางลัดต่าง ๆ เพื่อให้เธอได้มีโอกาสบดขยี้และทำลายแองเจลีนได้น่าเสียดายที่แองเจลีนม
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ