มาริลินตีสีหน้ากระอักกระอ่วน “ที่รักคะ คุณไม่ต้องบอกฉันเรื่องงานหรือเงินที่คุณหาได้หรอก ฉันแค่… ฉัน…”มือของเจย์ยื่นค้างอยู่กลางอากาศเป็นแบบนั้นมาริลินจึงรับบัตรไว้ด้วยสองมือ แววตายินดีของเธอไม่สามารถปกปิดเจย์ได้เขาอธิบายให้เธอฟัง “ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากแบ่งกับคุณ แต่ผมแค่อยากเอาเงินนี้ไปใช้เรื่องอื่น”มาริลินหลุดร้อง ‘โอ้’ ก่อนที่จะกำบัตรไว้แน่น โดยไม่มีเจตนาจะส่งคืนแต่อย่างใดเจย์ได้เรียนรู้บางอย่างว่า ความรู้สึกมั่นคงของผู้หญิงคนนี้ขึ้นอยู่กับเงิน ไม่ใช่ตัวของเขาการได้รู้แบบนี้ทำให้เขาไม่มีความสุขเหมือนกัน“งั้นคุณก็ใช้เวลาฝึกตามสบายเถอะค่ะ ฉันจะไปรอคุณในห้องนอนนะ” มาริลินยืนตัวตรงและยิ้มอ่อนโยนมาให้แววตาเจย์เย็นเยียบราวน้ำแข็ง “อืม”แม้ว่าเธอจะแสดงให้เห็นว่าสนับสนุนในสิ่งที่เขาทำ แต่เธอก็ไม่ได้ใจเขาคืนนี้เธอไม่อยากนอนกับเขาแล้วสินะ?เมื่อเห็นเงิน ก็ดูเหมือนว่า… เธอจะเลิกตื๊อได้เจย์ส่ายหน้าก่อนพยายามกดความรู้สึกไม่พอใจที่เขามีต่อภรรยาตัวเองซึ่งกำลังท่วมท้นในใจนาฬิกาบนผนังเดินต่อไปเรื่อย ๆ เจย์ยังคงเล่นเพลงที่คุ้นเคยวนไปมาจนกระทั่งเข็มนาฬิกาไปถึงเลข 12 เจย์ถึงยอมร
บนม้านั่งในสวนข้างถนน เจย์นั่งอย่างเปล่าเปลี่ยวจ้องมองรถและฝูงชนที่ผ่านไปมา เขารู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยกจากทั้งโลกเขาไม่มีพลังเหลือจะสู้ต่อเขาไม่มีพลังเหลือจะอยู่ต่อเขาเริ่มมีความสงสัยขึ้นมา อะไรกันนะที่เป็นแรงผลักดันให้เขาอยู่ต่อหลังจากอุบัติเหตุรถยนต์คราวนั้น?การใช้ชีวิตสำหรับเขาเป็นเรื่องสุดแสนน่าเบื่อหน่ายเมื่อใกล้ถึงเวลาเก้าโมง เขาก็ค่อย ๆ เดินไปที่โฮไรซอน คัลเลอร์“คุณเบ็น” เซ็ตตี้น้อยตะโดนออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจพร้อมโบกมือเมื่อเธอเห็นเจย์จากระเบียงเจย์เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นแองเจลีนและเซ็ตตี้น้อยใส่เสื้อผ้าเข้าคู่กัน พวกเธอทั้งสองดูเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คู่แม่ลูกยิ้มเจิดจ้าเมื่อมองมาที่เขาเมฆอึมครึมที่ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของเขาก็เหมือนสลายหายไป เขายิ้มตอบรับเธอทั้งสองทั้งแองเจลีนและเซ็ตตี้น้อยต่างรีบลงบันไดมารับเขา ความเย็นชาที่เจย์ได้รับจากมาริลินก็ได้รับการเยียวยาจากความอบอุ่นของแองเจลีนและเซ็ตตี้แองเจลีนเดินเข้ามาหาเขาพร้อมซุปผักอุ่น ๆ หนึ่งถ้วย เธอเดินช้ามากเพราะตามองไม่เห็น“คุณเบ็นคะ ทานซุปที่เซ็ตตี้น้อยกับฉันทำสิคะ ลองชิมดูว่าคุณชอบไหม?”เจย์เดินเข้ามาทั
ถ้ามาริลินเชื่อใจเพียงแค่หนึ่งในสิบส่วน เมื่อคืนพวกเขาทั้งคู่คงไม่ต้องทะเลาะกันเหมือนเด็กหลังจากแอบอยู่พักใหญ่ เซ็ตตี้น้อยก็คิดว่าพ่อน่าจะสงสัยแล้วถ้าเธอยังหลบต่อไป ดังนั้นเธอจึงเปิดประตูครัวแล้วเดินออกมาอย่างไม่รู้ไม่ชี้“ไปที่ห้องเปียโนกันเถอะค่ะ คุณเบ็น คุณแม่อยากฟังคุณเล่น Red Spider Lily”“อืม” เจย์ลุกขึ้นยืนเซ็ตตี้น้อยเดินเข้ามาก่อนจับมือแม่ไว้อย่างอ่อนโยน เมื่อพวกเขาจะขึ้นไปชั้นบน เธอก็คอยเตือนแม่ “บันไดค่ะแม่”เจย์เดินตามหลังทั้งคู่ไป รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความเป็นลูกสาวที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยนของหนูน้อยเซ็ตตี้ในห้องเปียโนเซ็ตตี้น้อยดึงทั้งเจย์และแองเจลีนมาที่เก้าอี้หน้าเปียโน เธอพูดคุยอย่างร่าเริง “เล่น Red Spider Lily สิคะคุณเบ็น คุณแม่ฟังนะคะ คุณเบ็นเล่นเพลงนี้ได้เพราะมากเลย”เจย์นั่งข้างแองเจลีนอย่างไม่เฉลียวใจนิ้วสวยเรียวยาวของเขาวางบนแป้น มันช่างดูเหมือนงานศิลปะ กระดูกนิ้วเรียวยาวห่อหุ้มด้วยผิวขาวใสราวโปร่งแสงจนดูเหมือนปีกของจักจั่นเขากดนิ้วลงบนเปียโน จนเสียงดังแตกพร่าบางทีอาจจะเป็นเพราะตอนนี้ความคิดเขาของสับสน อารมณ์ก็ดำดิ่ง จนเมื่อเขาเล่น Red Spider Lily รอ
แองเจลีนดึงมือเขามาไม่บอกกล่าว ก่อนวางมือเขาลงบนแป้นเปียโนตรงหน้าเธอ มือเล็กของเธอวางทับนิ้วของเขาก่อนกดลงบนแป้น ทำให้เกิดเสียงที่ออกมาจากใจแองเจลีนร้องเพลง The Soul Of The Sun Never Sets ให้เขาฟังเขาเป็นคนแต่งเนื้อเพลงนี้ตอนที่ก่อตั้งแกรนด์ เอเซีย เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าเขานั้นอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว‘เมื่อฉันยังเยาว์ ฉันฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนาม‘ล่องไปไกลนับพันไมล์‘เพื่อพาเธอไปสู่เกียรติสูงสุด‘และกลับมาพร้อมหัวใจเยาว์วัยคลื่นอารมณ์พุ่งอยู่ในใจ เมื่อเจย์ฟังเพลงนี้ เมื่อคิดถึงความรู้สึกด้านลบที่เขามีก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดสิ้นดีเขากังวลและสิ้นหวังเพียงเพราะว่า เขาไม่แข็งแกร่งพอถ้าเขาเป็นเหมือนชายหนุ่มในเพลงที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง แข็งแกร่ง และรู้สึกถึงความทะเยอทะยานอันแรงกล้าของตัวเอง เขาก็คงจะมีความสุขแองเจลีนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าคุณร้องเพลงนี้เอง คุณก็จะพบพลังแข็งแกร่งสะเทือนโลกได้ที่ซ่อนตัวอยู่”เจย์นึกภาพตนเองถือกีตาร์และเล่นเพลงที่แสนดุเดือดนี้ ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามันช่างยากจะจินตนาการ“ผมเป็นแค่คนน่าเบื่อที่ไม่มีงานอดิเรกพิเศษอะไร” เขายิ้มเหยียดตัวเ
เซ็ตตี้น้อยโผล่หน้าเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสดใส “คุณเบ็นคะ แม่ให้หนูมาบอกว่าถึงหนังสือจะสนุกขนาดไหนแต่คุณก็ต้องใส่ใจเรื่องท้องไส้ด้วย ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ”เจย์ยืนขึ้น ตอนนั้นเองที่เขารู้สึกได้ว่า ตัวเองหิวจัด แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่า มันไม่สุภาพเหมาะสมที่จะทานอาหารที่บ้านนายจ้างขณะที่เขากำลังลังเลใจว่าจะขอตัวอย่างไรดี เซ็ตตี้น้อยก็วิ่งเข้ามาลากดึงชายร่างสูงไปที่โต๊ะอาหาร“วันนี้คุณต้องอยู่ทานข้าวกับเรานะคะ คุณเบ็น”แองเจลีนเองก็ขอร้องเขา “อยู่ทานเถอะค่ะ”เมื่อเจย์มองดูเมนูอาหารยั่วน้ำลายทั้งหลาย เขาก็รู้สึกอยากอาหารอย่างมาก “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะครับ คงจะไม่สุภาพถ้าผมจะปฏิเสธคำเชิญของคุณ”เขานั่งลงข้างแองเจลีนระหว่างมื้ออาหาร เพราะอาการทางสายตาของแองเจลีน เขาจึงตักอาหารใส่จานให้เธออย่างเป็นสุภาพบุรุษรวมถึงคอยถามเธออย่างใส่ใจ “ไม่ทราบว่าคุณชอบทานอะไรเหรอครับ?”แองเจลีนตอบ “ฉันทานได้หมด ไม่เลือกค่ะ”จากนั้นเธอก็ถามเขา “หนังสือสนุกไหมคะ?”เจย์ตอบอย่างจริงใจ “ครับ มันดีมากเลย”จากนั้นเขาก็จ้องมองเธออย่างสงสัย “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมชอบอ่านหนังสือแบบนี้?”แองเจลีนยิ้ม เธอจะไ
นอกจากแค่การไม่ได้นอนห้องเดียวกันแล้ว เรื่องอื่นเบ็นก็ถือว่าสมบูรณ์แบบเมื่อเทียบกันแล้วชายตรงหน้าเธอทั้งไปกินดื่ม เที่ยวผู้หญิง ติดการพนัน เมื่อใดที่เขาเสียพนันก็จะมาทุบตีเธอ ตอนนั้นเธอคงตาบอดถึงได้ยอมแต่งงานกับเขา“นายกลับมาทำไม?” เธอถามอย่างเย็นชาชายคนนั้นเอามือบีบคางเธอแน่นเหมือนคีม ก่อนพูดอย่างดุร้าย “เธอไม่อยากเจอฉัน เพราะฉันไปเข้าคุกมาใช่ไหม มาริลิน?”ชายคนนั้นผลักเธอติดกำแพงหมู่บ้านด้วยความโกรธก่อนทาบร่างกับตัวเธออย่างหยาบช้า “บอกมาสิ เธอรักไอ้เจ้าคนเถื่อนที่เธอไปเก็บมาไหม?”เมื่อมาริลินไม่ตอบ ชายคนนั้นก็ถกกระโปรงเธอขึ้นอย่างฉุนเฉียวมาริลินขู่ฟ่อ “นายบ้าหรือไง? รู้ไหมว่านี่มันที่ไหน? นายกล้าดียังไง…”“ฉันก็จะทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงของฉัน มีปัญหาตรงไหน?”เมื่อการกระทำนั้นจบลง มาริลินก็ทรุดลงบนร่างเขาเขาบีบใบหน้าสวยงามอ่อนนุ่มของเธอด้วยความพอใจ “มาริลิน เธอเป็นของฉัน เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่สนว่า เธอจะมีความรู้สึกกับหนุ่มหล่อนั่นไหม ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว เธอต้องเลิกกับมันให้เด็ดขาด ฉันจะพาเธอไป”มาริลินไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับชายคนนี้แม้เพียงสักวัน แต่เมื่อคิด
แววตามาริลินนั้นไม่ยินยอม ไอ้เลวนั่นไม่คิดเหลือเงินไว้ให้เธอสักแดงเขาคิดว่าเธอกับเบ็นจะอยู่กันยังไงถ้าไม่มีเงินเหลือเลยสักเหรียญ?ถึงจะเป็นอย่างนั้น เจย์ก็ยังดูสบาย ๆ ไม่เครียด และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “คราวหน้าอย่าลืมแจ้งอายัดบัตรทันทีที่รู้ว่าทำหายนะ”มาริลินพยักหน้า “ค่ะ”ตอนนี้ไทเกอร์ก็เอามือลูบท้องพร้อมร้องออกมา “แม่ครับ ผมหิวข้าว”มาริลินเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหลังจากที่เธอเสียการ์ดไป พอได้ยินลูกร้องไห้เธอก็ตบหัวเขาอย่างหงุดหงิดพร้อมดุ “ทนเอาสิ”ตอนนั้นเองที่เจย์ได้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรเลยเขาลุกขึ้นและเดินเข้าครัว พยายามอดกลั้นความคลื่นเหียนไว้เมื่อเห็นคราบน้ำมันบนเตา เขาทำซุปให้ทั้งสองคน คนละชามมาริลินจ้องมองแผ่นหลังทรงเสน่ห์ชวนฝันของเจย์ขณะที่เขาเคลื่อนกายไปมาอยู่ในครัว ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความหลงใหลไม่ว่าจะด้านรูปลักษณ์หรือนิสัย ชายคนนี้ก็ดีที่สุดในโลกในเมื่อพระเจ้าส่งเขามาให้เธอแล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลจะปล่อยเขาหลุดมือไป!ซุปเห็ดไก่เข้มข้นสองชามเตรียมเสร็จในเวลาไม่ถึงอึดใจเจย์วางซุปลงบนโต๊ะอาหารและลูบหัวไทเกอร์เบา ๆ “นี่ไงครับ ลูกทานเลย”ไทเกอร์ผละจากมือแสนอบอ
เมื่อเจย์ออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เห็นว่ามาริลินนั่งอยู่บนเตียงของเขาเจย์ตกใจ เขาขมวดคิ้วอย่างช้า ๆมาริลินตบลงที่บริเวณที่ว่างข้างเธอก่อนเรียกเสียงเบา “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ที่รัก เพราะว่าเราเป็นสามีภรรยากันฉันก็จะไม่บ่นเรื่องอาการของคุณตอนคุณป่วย ฉันจะนอนข้างคุณทุกวันจากนี้ไป บางวันคุณอาจจะคุ้นเคยกับความใกล้ชิดทางกายนี้แล้วอาการป่วยของคุณอาจหายดีโดยไม่ต้องพึ่งยาก็ได้”เมื่อสายตาของเจย์มองเห็นแขนดำคล้ำของมาริลิน ท้องไส้เขาก็เริ่มปั่นป่วนอย่างคุมไม่ได้ เขาพยายามกัดฟันทนแล้วฝืนมันไว้มาริลินกอดเขาแน่น เธอส่งเสียงแผ่วเบาเย้ายวนเเสมือนว่าทั้งร่างกำลังถูกไฟแผดเผา“ฉันรู้สึกไม่สบายตัวเลย ที่รัก” มาริลินยั่วยวนเขาด้วยน้ำเสียงหวานล่อหลอกเจย์ยังคงเงียบ เพราะเขากำลังพยายามกดข่มความรู้สึกปั่นป่วนคลื่นเหียนในท้องเอาไว้สุดท้ายเขาก็ดึงมือเธอออกอย่างไร้ความปรานี“คุณก็รู้ว่าผมทำไม่ได้ มาริลิน แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับผม?”เสียงของเขาห่างเหินเย็นชา จนสามารถดับไฟสวาทของเธอได้ในพริบตาเธอยื้อเขาไว้อย่างดื้อดึงไม่ยอมปล่อย เจย์หลุดออกจากการเกาะกุมของเธอได้ “ผมจะลงไปเดินเล่นข้างล่างหน่อย”เขาหันหลัง