“ก็...” เหตุผลคือไม่อยากเห็นหน้า แต่จะพูดออกไปได้ไหมล่ะ “กินเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงก็ได้เวลาสอนเด็กๆ แล้ว ยังไงเราก็ทำงานด้วยกันอยู่ดี” พราวมุกทำตาโตแล้วนึกขึ้นได้ เธอต้องเป็นล่ามภาษามือคู่กับวิทยากรที่มาสอนเด็กๆ วาดรูป เธอพูดอะไรไม่ออก เอาเถอะ รับงานมาแล้วนี่จะทำไงได้เล่า พราวมุกก้มหน้ากินขนมจีนในจานของตัวเองพลางใช้ปลายนิ้วไถหน้าจอมือถือ อ่านข้อความต่างๆ ทำเป็นไม่สนใจผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม ซึ่งดูอารมณ์ไม่ดีนักที่เห็นเธอสนใจมือถือนั้นมากกว่าเขา และที่สำคัญ ทำไมเขาต้องหงุดหงิดด้วยก็ไม่รู้ “พอกินได้ไหมครับ น้องมุก-ครูคิม” ครูเอ็มเข้ามาทักทั้งสองคน “อร่อยเลยค่ะ” พราวมุกยิ้มกว้าง และจานที่ว่างเปล่าก็ยืนยันได้ว่าอร่อยจริงๆ “อีกสักสิบนาทีพอจะเตรียมตัวกันทันไหมครับ เด็กๆ ตื่นเต้นจะได้เรียนศิลปะกับครูคิมแล้ว” คิมหันต์สบตากับพราวมุกเล็กน้อย ไม่ได้ยินหญิงสาวแย้งอะไรเขาก็พยักหน้ารับ ครูเอ็มยิ้มให้แล้วขอตัวไปรวมเด็กๆ ชายหนุ่มเป็นครูอาสาสอนศิลปะเด็กหลายครั้งแล้ว แต่เพิ่งได้ทำงานกับพราวมุกครั้งแรก
“อือหือ อีตานี่ใส่เสื้อแบรนด์เนมด้วย” เธอเอียงคออย่างสงสัย “เงินเดือนอาจารย์มหา’ลัยเท่าไหร่กันนะ โอ๊ย! ตายแล้ว! เดี๋ยวเข้าใจผิดว่าดูถูก เอาเป็นว่าอีตานี้ก็มีรสนิยมดีเหมือนกันนะเนี้ย” แต่เธอเผลอขย้ำเสื้อจนยับขนาดนี้ คงจะต้องรีดให้ใหม่แล้วล่ะ พราวมุกเบ้ปากใส่เสื้อเจ้าปัญหาแล้วคิดจะลุกขึ้นไปรีดเสื้อให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานเพราะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถึงเธอจะชอบทำงานแต่ไม่ได้หมายความว่าทำทุกวันไม่ได้หยุดพัก แต่หยุดแค่วันเดียวจึงไม่คิดจะไปเที่ยวอะไร เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น พราวมุกดูชื่อคนโทรเข้าแล้วกดรับสาย “ว่าไงจ๊ะมิลลี่” พราวมุกทักทายเพื่อนสาว เธอรู้จักมิลลี่ตอนที่เธอยังอยู่ต่างประเทศ มิลลี่เป็นนักเรียนไทยที่มาเรียนซัมเมอร์ แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่า “อะไรคือว่าไง อย่าบอกว่าลืมนัดนะ” “เอ่อ...” พราวมุกขมวดคิ้ว ไม่เอาน่า คนอย่างเธอไม่น่าจะลืมอะไรนะ บอสยังชมว่าเธอทำงานเก่งเลย “ปาร์ตี้คืนนี้ไง” “คืนนี้” พราวมุกหันไปมองปฏิทิน เธอจดไว้ก็จริง แต่เพราะเธอไม่ได้รับปากว่าจะไป ก็เลยไม่ได้ล
“มุก...ฉันคิดไปเองหรือเปล่าวะ นักดนตรีส่งสายตามาทางฉันบ่อยๆ” มิลลี่กระแซะไหล่พราวมุกแล้วหัวเราะคิกคัก ดื่มเบียร์ไปหลายแก้ว เสียงพูดก็เริ่มร่วนแล้ว พราวมุกเงยหน้ามองไปทางเวที โต๊ะที่มิลลี่จองไว้ใกล้เวทีมาก แต่เธอไม่ได้สังเกตเพราะสนใจแต่เพื่อนๆ ในกลุ่ม ทว่าสายตาที่จ้องมองกลับนั้นทำเอาเธอสำลักเบียร์ที่กำลังดื่ม “แค่กๆ” “เป็นอะไรหรือเปล่ามุก” “ไม่เป็นอะไร ฉัน...ฉันไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะ” “ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยถาม แต่พราวมุกโบกมือไปมา “ไม่เป็นไร ฉันยังไม่เมา มองเห็นป้ายบอกทางไปห้องน้ำหญิงอยู่นะ” พราวมุกลุกขึ้นเดินไปออกไปอย่างรีบเร่ง แต่ดันไปชนเก้าอี้ของโต๊ะอื่น เธอขอโทษสองสามครั้งแล้วเดินไปทางด้านหลังร้านเป็นห้องน้ำหญิง เป็นร้านอาหารที่ห้องน้ำสะอาดและมีหลายห้อง พราวมุกคิดในใจและคิดไปว่าน่าจะรีวิวร้านนี้ให้เสียหน่อย เธอพยายามคิดเรื่องอื่นขณะทำธุระส่วนตัว อันที่จริง เธอมาสงบสติอารมณ์และคิดว่าตัวเองอาจจะแค่เมาเบียร์นิดหน่อย บ้าจริง! เธอไม่ได้เมาเบียร์ขนาดนั้น เธอคอแข็งจะตาย แต่
โดยไม่ต้องสอบถามเส้นทาง คิมหันต์ก็ขับรถยนต์มาส่งพราวมุกถึงคอนโดที่เธอพักแล้ว พราวมุกนั่งนิ่งไม่ปะทะคารมกับคนขับรถเพราะเกรงว่าเขาจะทิ้งไว้ข้างทาง ‘อย่ายั่วโมโหคนขับรถ’ คือคติของเธอ “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” ในที่สุดพราวมุกก็พูดออกมา เธอขยับตัวถอดเสื้อแจ็กเก็ตของเขาออกเพื่อส่งคืน แต่คิมหันต์กลับจ้องหน้าเธอนิ่งๆ จนทำให้เธออึกอักทำตัวไม่ถูก “จะขึ้นห้องแล้วค่ะ ช่วยปลดล็อกประตูด้วย” ถอนหายใจหนักๆ รับเสื้อมาจากเธอแล้วโยนไปเบาะด้านหลัง “เดี๋ยวพี่ขึ้นไปส่ง” “ไม่ต้องหรอก” พราวมุกส่ายหน้ารัวๆ “พี่ไม่ไว้ใจ เห็นกินเบียร์ไปตั้งหลายแก้ว” “แค่เบียร์ไม่ได้เมาขนาดนั้น” “ถ้าไม่เมาจะเรียกพี่ว่า ‘พี่คิม’ ได้เหรอ” พราวมุกไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียงเขาอีก นี่มันก็เที่ยงคืนแล้ว เธออยากเข้าห้องอาบน้ำแล้วทิ้งตัวนอน แค่ไปส่งจะอะไรนักหนาเชียว เธอบ่นอุบในใจ หญิงสาวพยักหน้ารับทำให้อีกฝ่ายปลดล็อกประตู เธอลงไปยืนรอเขาด้านนอกรถ คิมหันต์ออกมายืนนอกรถแต่เหมือนนึกอะไรได้ก็โน้มตัวเข้าไปหยิบเสื้อแจ็กเก็ตแล้วเอาคลุมไหล่ให้เ
เสียงครางหวานราวกับคำเชื้อเชิญและอนุญาตให้เขาสัมผัสเธอ คิมหันต์จูบแผ่นหลังเนียนนุ่ม สองมือกอบกุมเต้าคู่งาม บีบเคล้นเบาๆ ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักมือขึ้นที่ละนิด หน้าอกเธอเต็มไม้เต็มมือกว่าที่เขาคิด อันที่จริง เขาไม่กล้าคิด จนตอนนี้ได้แนบชิด ความปรารถนาที่ซุกซ่อนในใจระเบิดออกมาเป็นแรงสัมผัสเรือนร่างอย่างหลงใหล สองแขนของหญิงสาวอ่อนแรง เธอฟุบไปกับที่นอนหนานุ่ม เขาพลิกตัวให้เธอนอนหงาย ดวงตาของเขาจ้องมองราวกับหิวโหยและโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองปลายถัน ดูดดึงยอดอกจนเปียกชุ่ม เรียวลิ้นตวัดเลียสลับดูดดึงทั้งที่อยู่ในโพรงปากร้อนของเขา “อึก...อื้มมมม” พราวมุกครวญครางพลางบิดกายกระสับกระส่าย มือข้างหนึ่งบีบเคล้นหน้าอกและแรงขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บ เขาถอนริมฝีปากมาจูบหน้าอกอีกข้างแล้วเลื่อนมือไปด้านล่าง ลูบไล้กึ่งกลางกายสาว ปลายนิ้วของเขาสัมผัสถึงรอยเปียกชื้นของกางเกงชั้นใน เธอขยับแยกเรียวขาออกทำให้เขาแทรกนิ้วเข้าไปในร่างกาย เขารับรู้แรงบีบรัดในช่องทางอันคับแคบ ขณะที่ปากปรนเปรอทรวงอกจนปลายถันบวมขึ้นเล็กน้อย นิ้วยาวก็เคลื่อนไหวเข้าออกเรียกน้ำหวานจากดอกไม้สาว พราวมุกค
“นะ...นาย...ทำไมยังอยู่ในห้องฉันอีกล่ะ!” คิมหันต์เงยตัวขึ้นจากตู้เย็นที่มีแต่อาหารแช่แข็งแล้วขมวดคิ้วจ้องมองอีกฝ่าย สาบเสื้อที่ทับไม่เรียบร้อยเผยให้เห็นรอยช้ำจางๆ ทำให้เขากลืนความรู้สึกโกรธผสมน้อยใจลงท้องไปหมด “เป็นห่วง” เขาพูดไปตามตรง “ในตู้มีแต่ของแบบนี้เหรอ” “ก็เห็นมีอย่างอื่นหรือไง” เธอเบ้ปากใส่ อาหารกล่องแช่แข็งไม่ดีตรงไหน อุ่นแล้วก็กินได้เหมือนกันนั้นแหละ “ยังไม่หมดอายุเสียหน่อย” “กินแต่ของแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะ” “ก็ไม่ได้กินทุกวัน อีกอย่างมุกอยู่คนเดียว จะทำอาหารกินเองทำไม เสียเวลา เสียดายของ ซื้อกินเอาง่ายกว่า” หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้เพื่อจะหยิบขวดน้ำ แต่ก็อดชายตามองแผงอกของเขาไม่ได้ อุ้ยตายแล้ว! อย่าบอกว่ารอยบนอกของเขานั้นเป็นฝีมือเธอ แล้วนั้น...นั้นรอยเล็บใช่หรือเปล่า ก็ตัดเล็บสั้นอยู่นะ ไม่คิดว่าจะข่วนเป็นรอยขนาดนี้ “ชอบซื้อกินทุกอย่างหรือไง” เขาบ่นพึมพำ แต่กลิ่นกายหอมสะอาดของเธอทำให้เขารู้สึกร้อนวูบๆวาบๆ ขึ้นมาอีกระลอก “ก็...” คิดจะเถียงเขากลับ แต่พอเห็นสายตาวิบวับนั้นแล้วก็ก้
“ตกลงตามนี้นะ” “คะ?” พราวมุกไม่อยากยอมรับว่าไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยสักนิด แต่ถ้าพูดไปอย่างที่คิดก็ทำไม่ได้แน่นอน จึงเอาแต่พยักหน้ายอมรับข้อเสนอของเขา ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจหงุดหงิดอีกครั้งพร้อมกับเสยผมขึ้น เธอก็นึกถึงตอนที่ปลายนิ้วตัวเองสอดในกลุ่มผมนุ่มลื่นของเขา “ยังเจ็บอยู่ไหม” “เอ่อ...อะไรนะคะ” “ตรงนั้น...ยังเจ็บอยู่ไหม ให้พี่ซื้อยาหรืออะไรให้ไหม” พราวมุกส่ายหน้ารัวๆ แต่คิดอีกที ถ้าบอกว่าไม่เจ็บแล้วเขาขอต่ออีกยก พรุ่งนี้เธอได้ลาหยุดแน่ๆ จึงรีบพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ “ไม่ต้องกินยาหรอกค่ะ แค่พักหน่อยก็ดีขึ้น” “ถ้างั้น พี่ทำอะไรให้กินก็แล้วกัน” “นายไม่ไปทำงานเหรอ” “วันนี้วันหยุดนะครับ” เขายิ้มเนืองๆ ใจคอเธอจะให้เขาทำงานตลอดเวลาหรือไงนะ “ก็ปกติเห็นพ่อทำงานทุกวัน ขนาดวันหยุดยังมีนักศึกษามาที่บ้านเลย” พราวมุกยักไหล่แล้วขยับตัวนอนบนเตียงดีๆ ยังไงเธอก็ยังเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยู่ มีคนดูแลก็ไม่เลวนัก คิมหันต์ได้แต่ยิ้มบางๆ อย่างยอมรับผิด วันหย
“พ่อเอาอะไรดีคะ วันนี้กินกินกาแฟไปกี่แก้วแล้ว ถ้ากินเยอะห้ามกินอีก” “เอาเหมือนลูกก็ได้” “มุกกินนมปั่นพ่อก็กินได้เหรอคะ” “มุก...” พ่อปรามด้วยเสียงต่ำลงแต่พราวมุกหัวเราะคิกคักแล้วเดินไปสั่งเครื่องดื่มและเลือกขนมเค้กน่ากินมาหนึ่งชิ้น ครู่ต่อมานมปั่นสีชมพูหวานและน้ำผักผลไม้รวมสีเขียวสวยก็มาวางบนโต๊ะ หญิงสาวเลื่อนน้ำผักผลไม้ให้พ่อแล้วเลื่อนจานขนมเค้กวางตรงกลาง“มุกรู้ว่าพ่อไม่ชอบกินของหวาน แต่เผื่อพ่ออยากชิม” คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้าไปมา เขาถอดแว่นตาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดง่ายๆ แต่ลูกสาวยื่นมือไปคว้าแว่นตาไว้ก่อน“พ่อ! ทำแบบนั้นเลนส์ก็พังพอดี มา! เดี๋ยวมุกเช็ดให้เอง” เธอบ่นพลางล้วงกระเป๋าหยิบกระดาษทิชชู่อย่างดีของตนมาเช็ดแว่นตาให้พ่อ “มิน่า พลอยถึงได้บ่นว่าพ่อไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย”คราวนี้คนเป็นพ่อถูกลูกสาวดุเอาจนได้ คุณวิทยาหัวเราะเบาๆ แล้วจิบเครื่องดื่มของตน “ทำงานเป็นยังไง ไหวไหมลูก”หญิงสาวส่งแว่นตาคืนให้พ่อแล้วยิ้ม “สนุกค่ะ”“แล้ว งานยูทูปอะไรนั้นล่ะ”“ก็สนุกค่ะ ท้าทายดี” เธอยิ้มกว้าง “พ่อได้ดูหรือเปล่าคะ”“ดูสิ พลอยเปิดให้พ่อดู พ