“มุก...ฉันคิดไปเองหรือเปล่าวะ นักดนตรีส่งสายตามาทางฉันบ่อยๆ” มิลลี่กระแซะไหล่พราวมุกแล้วหัวเราะคิกคัก ดื่มเบียร์ไปหลายแก้ว เสียงพูดก็เริ่มร่วนแล้ว พราวมุกเงยหน้ามองไปทางเวที โต๊ะที่มิลลี่จองไว้ใกล้เวทีมาก แต่เธอไม่ได้สังเกตเพราะสนใจแต่เพื่อนๆ ในกลุ่ม ทว่าสายตาที่จ้องมองกลับนั้นทำเอาเธอสำลักเบียร์ที่กำลังดื่ม “แค่กๆ” “เป็นอะไรหรือเปล่ามุก” “ไม่เป็นอะไร ฉัน...ฉันไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะ” “ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยถาม แต่พราวมุกโบกมือไปมา “ไม่เป็นไร ฉันยังไม่เมา มองเห็นป้ายบอกทางไปห้องน้ำหญิงอยู่นะ” พราวมุกลุกขึ้นเดินไปออกไปอย่างรีบเร่ง แต่ดันไปชนเก้าอี้ของโต๊ะอื่น เธอขอโทษสองสามครั้งแล้วเดินไปทางด้านหลังร้านเป็นห้องน้ำหญิง เป็นร้านอาหารที่ห้องน้ำสะอาดและมีหลายห้อง พราวมุกคิดในใจและคิดไปว่าน่าจะรีวิวร้านนี้ให้เสียหน่อย เธอพยายามคิดเรื่องอื่นขณะทำธุระส่วนตัว อันที่จริง เธอมาสงบสติอารมณ์และคิดว่าตัวเองอาจจะแค่เมาเบียร์นิดหน่อย บ้าจริง! เธอไม่ได้เมาเบียร์ขนาดนั้น เธอคอแข็งจะตาย แต่
โดยไม่ต้องสอบถามเส้นทาง คิมหันต์ก็ขับรถยนต์มาส่งพราวมุกถึงคอนโดที่เธอพักแล้ว พราวมุกนั่งนิ่งไม่ปะทะคารมกับคนขับรถเพราะเกรงว่าเขาจะทิ้งไว้ข้างทาง ‘อย่ายั่วโมโหคนขับรถ’ คือคติของเธอ “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” ในที่สุดพราวมุกก็พูดออกมา เธอขยับตัวถอดเสื้อแจ็กเก็ตของเขาออกเพื่อส่งคืน แต่คิมหันต์กลับจ้องหน้าเธอนิ่งๆ จนทำให้เธออึกอักทำตัวไม่ถูก “จะขึ้นห้องแล้วค่ะ ช่วยปลดล็อกประตูด้วย” ถอนหายใจหนักๆ รับเสื้อมาจากเธอแล้วโยนไปเบาะด้านหลัง “เดี๋ยวพี่ขึ้นไปส่ง” “ไม่ต้องหรอก” พราวมุกส่ายหน้ารัวๆ “พี่ไม่ไว้ใจ เห็นกินเบียร์ไปตั้งหลายแก้ว” “แค่เบียร์ไม่ได้เมาขนาดนั้น” “ถ้าไม่เมาจะเรียกพี่ว่า ‘พี่คิม’ ได้เหรอ” พราวมุกไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียงเขาอีก นี่มันก็เที่ยงคืนแล้ว เธออยากเข้าห้องอาบน้ำแล้วทิ้งตัวนอน แค่ไปส่งจะอะไรนักหนาเชียว เธอบ่นอุบในใจ หญิงสาวพยักหน้ารับทำให้อีกฝ่ายปลดล็อกประตู เธอลงไปยืนรอเขาด้านนอกรถ คิมหันต์ออกมายืนนอกรถแต่เหมือนนึกอะไรได้ก็โน้มตัวเข้าไปหยิบเสื้อแจ็กเก็ตแล้วเอาคลุมไหล่ให้เ
เสียงครางหวานราวกับคำเชื้อเชิญและอนุญาตให้เขาสัมผัสเธอ คิมหันต์จูบแผ่นหลังเนียนนุ่ม สองมือกอบกุมเต้าคู่งาม บีบเคล้นเบาๆ ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักมือขึ้นที่ละนิด หน้าอกเธอเต็มไม้เต็มมือกว่าที่เขาคิด อันที่จริง เขาไม่กล้าคิด จนตอนนี้ได้แนบชิด ความปรารถนาที่ซุกซ่อนในใจระเบิดออกมาเป็นแรงสัมผัสเรือนร่างอย่างหลงใหล สองแขนของหญิงสาวอ่อนแรง เธอฟุบไปกับที่นอนหนานุ่ม เขาพลิกตัวให้เธอนอนหงาย ดวงตาของเขาจ้องมองราวกับหิวโหยและโน้มหน้าลงใช้ปากครอบครองปลายถัน ดูดดึงยอดอกจนเปียกชุ่ม เรียวลิ้นตวัดเลียสลับดูดดึงทั้งที่อยู่ในโพรงปากร้อนของเขา “อึก...อื้มมมม” พราวมุกครวญครางพลางบิดกายกระสับกระส่าย มือข้างหนึ่งบีบเคล้นหน้าอกและแรงขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บ เขาถอนริมฝีปากมาจูบหน้าอกอีกข้างแล้วเลื่อนมือไปด้านล่าง ลูบไล้กึ่งกลางกายสาว ปลายนิ้วของเขาสัมผัสถึงรอยเปียกชื้นของกางเกงชั้นใน เธอขยับแยกเรียวขาออกทำให้เขาแทรกนิ้วเข้าไปในร่างกาย เขารับรู้แรงบีบรัดในช่องทางอันคับแคบ ขณะที่ปากปรนเปรอทรวงอกจนปลายถันบวมขึ้นเล็กน้อย นิ้วยาวก็เคลื่อนไหวเข้าออกเรียกน้ำหวานจากดอกไม้สาว พราวมุกค
“นะ...นาย...ทำไมยังอยู่ในห้องฉันอีกล่ะ!” คิมหันต์เงยตัวขึ้นจากตู้เย็นที่มีแต่อาหารแช่แข็งแล้วขมวดคิ้วจ้องมองอีกฝ่าย สาบเสื้อที่ทับไม่เรียบร้อยเผยให้เห็นรอยช้ำจางๆ ทำให้เขากลืนความรู้สึกโกรธผสมน้อยใจลงท้องไปหมด “เป็นห่วง” เขาพูดไปตามตรง “ในตู้มีแต่ของแบบนี้เหรอ” “ก็เห็นมีอย่างอื่นหรือไง” เธอเบ้ปากใส่ อาหารกล่องแช่แข็งไม่ดีตรงไหน อุ่นแล้วก็กินได้เหมือนกันนั้นแหละ “ยังไม่หมดอายุเสียหน่อย” “กินแต่ของแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะ” “ก็ไม่ได้กินทุกวัน อีกอย่างมุกอยู่คนเดียว จะทำอาหารกินเองทำไม เสียเวลา เสียดายของ ซื้อกินเอาง่ายกว่า” หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้เพื่อจะหยิบขวดน้ำ แต่ก็อดชายตามองแผงอกของเขาไม่ได้ อุ้ยตายแล้ว! อย่าบอกว่ารอยบนอกของเขานั้นเป็นฝีมือเธอ แล้วนั้น...นั้นรอยเล็บใช่หรือเปล่า ก็ตัดเล็บสั้นอยู่นะ ไม่คิดว่าจะข่วนเป็นรอยขนาดนี้ “ชอบซื้อกินทุกอย่างหรือไง” เขาบ่นพึมพำ แต่กลิ่นกายหอมสะอาดของเธอทำให้เขารู้สึกร้อนวูบๆวาบๆ ขึ้นมาอีกระลอก “ก็...” คิดจะเถียงเขากลับ แต่พอเห็นสายตาวิบวับนั้นแล้วก็ก้
“ตกลงตามนี้นะ” “คะ?” พราวมุกไม่อยากยอมรับว่าไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยสักนิด แต่ถ้าพูดไปอย่างที่คิดก็ทำไม่ได้แน่นอน จึงเอาแต่พยักหน้ายอมรับข้อเสนอของเขา ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจหงุดหงิดอีกครั้งพร้อมกับเสยผมขึ้น เธอก็นึกถึงตอนที่ปลายนิ้วตัวเองสอดในกลุ่มผมนุ่มลื่นของเขา “ยังเจ็บอยู่ไหม” “เอ่อ...อะไรนะคะ” “ตรงนั้น...ยังเจ็บอยู่ไหม ให้พี่ซื้อยาหรืออะไรให้ไหม” พราวมุกส่ายหน้ารัวๆ แต่คิดอีกที ถ้าบอกว่าไม่เจ็บแล้วเขาขอต่ออีกยก พรุ่งนี้เธอได้ลาหยุดแน่ๆ จึงรีบพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ “ไม่ต้องกินยาหรอกค่ะ แค่พักหน่อยก็ดีขึ้น” “ถ้างั้น พี่ทำอะไรให้กินก็แล้วกัน” “นายไม่ไปทำงานเหรอ” “วันนี้วันหยุดนะครับ” เขายิ้มเนืองๆ ใจคอเธอจะให้เขาทำงานตลอดเวลาหรือไงนะ “ก็ปกติเห็นพ่อทำงานทุกวัน ขนาดวันหยุดยังมีนักศึกษามาที่บ้านเลย” พราวมุกยักไหล่แล้วขยับตัวนอนบนเตียงดีๆ ยังไงเธอก็ยังเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยู่ มีคนดูแลก็ไม่เลวนัก คิมหันต์ได้แต่ยิ้มบางๆ อย่างยอมรับผิด วันหย
“พ่อเอาอะไรดีคะ วันนี้กินกินกาแฟไปกี่แก้วแล้ว ถ้ากินเยอะห้ามกินอีก” “เอาเหมือนลูกก็ได้” “มุกกินนมปั่นพ่อก็กินได้เหรอคะ” “มุก...” พ่อปรามด้วยเสียงต่ำลงแต่พราวมุกหัวเราะคิกคักแล้วเดินไปสั่งเครื่องดื่มและเลือกขนมเค้กน่ากินมาหนึ่งชิ้น ครู่ต่อมานมปั่นสีชมพูหวานและน้ำผักผลไม้รวมสีเขียวสวยก็มาวางบนโต๊ะ หญิงสาวเลื่อนน้ำผักผลไม้ให้พ่อแล้วเลื่อนจานขนมเค้กวางตรงกลาง“มุกรู้ว่าพ่อไม่ชอบกินของหวาน แต่เผื่อพ่ออยากชิม” คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้าไปมา เขาถอดแว่นตาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดง่ายๆ แต่ลูกสาวยื่นมือไปคว้าแว่นตาไว้ก่อน“พ่อ! ทำแบบนั้นเลนส์ก็พังพอดี มา! เดี๋ยวมุกเช็ดให้เอง” เธอบ่นพลางล้วงกระเป๋าหยิบกระดาษทิชชู่อย่างดีของตนมาเช็ดแว่นตาให้พ่อ “มิน่า พลอยถึงได้บ่นว่าพ่อไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย”คราวนี้คนเป็นพ่อถูกลูกสาวดุเอาจนได้ คุณวิทยาหัวเราะเบาๆ แล้วจิบเครื่องดื่มของตน “ทำงานเป็นยังไง ไหวไหมลูก”หญิงสาวส่งแว่นตาคืนให้พ่อแล้วยิ้ม “สนุกค่ะ”“แล้ว งานยูทูปอะไรนั้นล่ะ”“ก็สนุกค่ะ ท้าทายดี” เธอยิ้มกว้าง “พ่อได้ดูหรือเปล่าคะ”“ดูสิ พลอยเปิดให้พ่อดู พ
“บ้านอยู่คนละทางเลยค่ะ ไม่ต้องมารับหรอก” ถ้าไม่พูดออกมาเธอก็คงลืมไปแล้วว่าต้องเจอกันอีก“แต่พี่เป็นห่วงนี่...ขับรถมาขับรถกลับอีก”พราวมุกเห็นแววตาเหมือนลูกหมาของเขาแล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะ แต่เพราะอยู่ในมหาวิทยาลัยหรอกนะ ไม่งั้นเธอคงยื่นมือไปลูบหัวเขาสักทีสองทีแล้วให้ขอมือ“งั้น...มุกไปเอง แต่ตอนกลับอาจารย์คิมมาส่งดีไหมคะ”“ครับ ดีครับ” เขายิ้มโล่งใจในที่สุด“มุกไปแล้วค่ะ แล้วเจอกัน”“ครับ” เขาได้แต่พูดแค่นั้นแล้วมองเธอหมุนตัวเดินออกไป แต่เธอเดินไปได้สามสี่ก้าว เขาก็สาวเท้ายาวๆ เข้าไปแตะแขนเธอไว้ก่อนทำให้เธอต้องหันกลับมา“คะ?” “เอ่อ...พี่...พี่รอโทรศัพท์จากน้องมุกอยู่นะครับ”พูดแล้วก็เป็นเขาที่หน้าแดง คราวนี้คิมหันต์เป็นฝ่ายผละและก้าวเท้าหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พราวมุกยืนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่คิดได้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร แล้วใบหน้าก็แดงจัดขึ้นมาราวคนป่วยไข้“อีตาบ้า! ในหัวคิดเรื่องอะไรอยู่เนี้ย!ว่าแต่...คิดเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่านะ! พราวมุกบอกตัวเองว่าไม่ได้สนใจคำสั่งของคิมหันต์เลยสักนิด แต่ที่เธอนุ่งกางเกงยีนส์ขายาวก็เพราะเคลื่อนไหวสะดวกทำงานคล่องตัวต่างหาก ไม่ใช
“อย่าให้เป็นรอยอีกนะ” เธอพูดเสียงแผ่วเบาอย่างเขินอาย คราวก่อนเขาทำคอเธอเป็นรอยช้ำจนต้องใส่เสื้อคอเต่าทั้งที่ร้อนจะแย่ “ได้ตามสั่งครับ”น้ำเสียงเขาแหบพร่าแต่ฟังแล้วเซ็กซี่ชะมัด แล้วพราวมุกก็หลุดเสียงครางหวานเมื่อริมฝีปากของเขาดูดดึงปลายถัน ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่าง รู้สึกหวิวไปหมด ถึงเวลานี้แล้ว เธอรู้ว่าร่างกายของเธอชอบในสิ่งที่เขาทำ“แรงอีกนิดสิคะ อือ...” เธอร้องบอกและเขาก็มอบให้ เขาขบที่ยอดอกสวยแรงอีกพร้อมกับเคล้นทรวงอกอย่างมันมือ มือหนึ่งเลื่อนไปด้านล่างแยกกลีบดอกไม้ออกก็พบว่ามันเปียกชุ่มอยู่ก่อนแล้ว เขายิ้มพรายแล้วหยัดกายขึ้นในขณะที่นิ้วเรียวแทรกเข้าไปร่องรักทำเอาร่างเล็กผวาเฮือกก่อนส่งเสียงครางออกมา“เปียกเร็วจริง คิดถึงพี่มากเหรอ”พราวมุกได้แต่กัดริมฝีปาก ‘คิดถึง?’ จะไปคิดถึงทำไม คนบ้า! มาทำให้ชีวิตอันแสนเป็นระเบียบต้องยุ่งเหยิง ทำให้เธอนิสัยเสีย ไม่ดีเลยจริงๆ มือเรียวเล็กเลื่อนจากแผ่นอกกำยำไปเบื้องล่าง แท่งเอ็นขยายใหญ่ มันต้องร้อนและแข็งขันเต็มมือ เธอจับแล้วรูดเบาๆ ก็เรียกเสียงครางต่ำออกจากปากของชายหนุ่ม เธอยิ้มอยากซุกซนเมื่อเห็นว่าตนเองเล่นงา