กวิวัชรพยักหน้ารับเข้าใจ เลขาคนเก่าก็รับมือปภาวดียากเหมือนกัน พราวมุกเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงถอยออกไป พลอยดาวถอนหายใจเบาๆ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้“กินข้าวกันเถอะ พี่มีประชุมตอนบ่ายโมงครึ่ง” เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วนั่งลงแต่อดขำไม่ได้ อาอวัชของเขาก็รวดเร็วจริงๆ คว้ากล่องข้าวของพลอยดาวไปด้วย “แบบนี้จะดีเหรอคะ”“ทำไมล่ะ หรือพลอยอยากให้พี่คบซ้อน”“บ้าสิ!” พลอยดาวขึงตาใส่และนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนเขา “น่าจะคุยกันดีๆ ได้”“พี่ก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่คิดอะไรกับน้องลิลลี่” กวิวัชร์ยักไหล่แล้วกินข้าวหน้าหมูเทอริยากิอย่างเอร็ดอร่อย “หมูนุ่มมาก มีไข่มะตูมด้วยแสดงว่าตั้งใจทำให้พี่จริงๆ”พลอยดาวอดยิ้มขำไม่ได้ “พลอยใจร้อนค่ะ ไข่ต้มไม่สุกดีเลยกลายเป็นไข่มะตูม” “แต่พี่ชอบแบบนี้นะครับ ข้างในฉ่ำๆ เยิ้มๆดี” เขาพูดพลางใช้ช้อนตักไข่แดงที่เยิ้มเพราะยังไม่สุกดีขึ้นละเลียดกิน แต่สายตาจับจ้องที่หญิงสาว พลอยดาวเผลอมองเรียวลิ้นทีเลียริมฝีปากเปื้อนไข่แดงแล้วต้องรีบหันหน้าไปทางอื่น ยื่นมือไปหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้เขา“ปากเลอะค่ะ”“เช็ดให้หน่อยสิครับ” กวิวัชร์แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าแฟนสาวคิดอะไร“พี่กั้ง!”“ได้ๆ
ใบหน้าที่ยิ้มละไมอบอุ่นแปรเปลี่ยนไปทันทีที่มั่นใจว่าปภาวดีจะไม่หวนกลับมาอีก เด็กคนนี้ถูกตามใจจนเสียคน อายุเท่าไหร่แล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นเด็กทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมด เขาเห็นลิลลี่มาตั้งแต่เธอยังเป็นแค่เด็กมัธยมต้น รู้ว่าสองครอบครัวนี้หมายมั่นใจว่าจะให้ลูกสาวกับลูกชายได้เป็นสามีภรรยากันเพื่อจะได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน อวัชเดินกลับมาดูข้าวกล่องทั้งสองกล่อง เขาโยนทั้งสองกล่องลงถังขยะอย่าไงไม่ไยดี เดินไปหยิบบุหรี่ที่ซ่อนไว้ในลิ้นชัก แล้วตรวไปเปิดหน้าต่างจุดบุหรี่สูบ ปากเรียกเขาว่าน้องแต่ใช้งานเหมือนหมูเหมือนหมา ผัวเมียก็ยุ่งแต่กับเรื่องนอกใจ ลูกชายก็หลงผู้หญิง คนทำงานหนักก็มีแต่เขาที่ทุ่มเททุกอย่างแต่กลับไม่ได้อะไรสักอย่าง แค่มีเงินเดือนใช้ไปเดือนๆ แค่นั้น เขาคาบบุหรี่ในปากแล้วหยิบมือถือกดส่งข้อความไป อย่างไม่ลังเล รอเพียงไม่กี่วินาทีปลายทางก็ตอบกลับ เขายิ้มแล้วเก็บมือใส่กระเป๋าเสื้อตามเดิมปล่อยให้ตายใจกันไปก่อน ไม่ช้าไม่นาน มันทุกคนต้องได้ผลตอบแทนอย่างสาสม กวิวัชร์ขับมาหยุดที่หน้าคฤหสาน์ เขาถอนหายใจหนักหน่วงก่อนเปิดประตูรถแล้วก้าวลงมา ยื่นกุ
“ภาพมีแปดภาพใส่กรอบให้ใหม่อย่างดี นี่คงไม่คิดว่าพี่แบกของหนักขนาดนั้นขึ้นมาพร้อมกันหรอกใช่ไหม” พราวมุกขึงตาใส่แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์ คิมหันต์กลั้นยิ้มแล้วเอื้อมมือไปกดหมายเลขชั้นที่ต้องการ แผ่นหลังของเธอสัมผัสไอร้อนจากกายเขารวมทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาด้วย จู่ๆ เธอก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา “ไปที่ชั้นจอดรถหรือคะ” “ครับ” หญิงสาวถามไปอย่างนั้น ตั้งใจทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น เวลาไม่กี่นาทีแต่เหมือนยาวนาน พราวมุกกลัวเขาจะถามเรื่องที่เธอไม่อยากพูดถึง เมื่อเขานิ่งเงียบก็ยิ่งทำให้เธอกระวนกระวายใจ ทำไมเขาต้องมาหาเธอถึงที่ทำงานด้วยนะ แบบนี้เธอก็ดูไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลยสิ เพิ่งได้ผ่านโปรฯแท้ๆ อย่าให้คนอื่นมองเธอไม่ดีเลยนะ เธอได้แต่ยืนหงุดหงิดจนไม่รู้ว่าประตูลิฟต์เปิดออกแล้ว เป็นคิมหันต์ที่ยกมือขึ้นจับไหล่แล้วประคองให้เธอก้าวออกมา “จะทำอะไร!” “ก็เหม่ออะไรอยู่ล่ะ พี่ก็ดันให้ออกจากลิฟต์ไง” เขาแสร้งทำหน้างงทั้งที่เห็นว่าคนปากเก่งหน้าแดงแล้วถือโอกาสโอบไหล่คนตัวเล็กให้เธอไปยังรถSUVสีบอร์นเงินที่จอดไม่ไ
คุณจันทนานั่งอยู่ในห้องอาหารหรูหราของโรงแรมระดับห้าดาว โดยมีหญิงสาวสองคนนั่งร่วมโต๊ะ คนหนึ่งคือหญิงสาวที่หมายมั่นให้เป็นสะใภ้ของตระกูล ส่วนอีกคนคือหญิงสาวที่ลูกชายประกาศกร้าวว่าเป็นว่าที่ภรรยา พลอยดาวเตรียมใจไว้ตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์สายจากคุณจันทนา ถึงปากจะบอกว่าอยากเลี้ยงมื้อเที่ยง เพื่อขอบคุณที่เธอช่วยขายภาพในงานแสดงศิลปะวันนั้น แต่เธอมั่นใจว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น และเมื่อเห็นว่ามารดาของคนรักมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคน เธอก็พอจะเข้าใจ “ลิลลี่ถือวิสาสะสั่งอาหารไว้แล้ว อาหารฝรั่งเศสโดยเชฟมิชลินสตาร์เลยนะคะ หวังว่าคุณพลอยดาวจะไม่ถือสา” “ไม่เลยค่ะ พลอยเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายค่ะ” พลอยดาวยิ้มให้พลางดันแว่นตาชิดใบหน้าด้วยความเคยชิน คุณจันทนากวาดตามองพลอยดาวอย่างเปิดเผย นางยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้อาจไม่สวยผุดผาดแต่โครงหน้าได้รูป ทั้งแววตาใส่กระจ่าง ปากอิ่มที่แต้มแต่งอย่างพอดี การแต่งตัวที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป รวมทั้งบุคลิกมั่นใจในตัวเอง นั่งหลังเหยียดตรงมือไม้วางบนตักไม่มัวพะวักพะวงกับโทรศัพท์มือถือ แต่ยังไงคนที่เธอหมายตาไว้เป็นลูกสะใภ้คือปภ
“เอ่อ...” คุณจันทนาหันไปสบตากับปภาวดีที่ทำตาแดงๆ เหมือนคนจะร้องไห้ นางชอบปภาวดีที่เป็นคนหัวอ่อนว่านอนสอนง่าย นางสั่งอะไรก็ทำตามที่นางสั่งเสมอ แต่บ้างครั้งก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เจ้าน้ำตาเหมือนปั้นจากน้ำที่พร้อมจะร้องไห้ได้ทุกครั้ง “คุณแม่ค่ะ” ปภาวดีกระตุกแขนเสื้อคุณจันทนา “เรา...เรากลับกันเถอะค่ะ” คุณจันทนาทำเสียงเฮอะไม่พอใจออกมาคำหนึ่ง แต่ก็พยักหน้ารับ ปภาวดีรีบจัดการเคลียร์ค่าอาหาร ส่วนพลอยดาวยังคงใบหน้าระบายยิ้ม ทั้งสองลุกขึ้นยืนทำให้พลอยดาวลุกขึ้นตาม “ฉันจะกลับแล้ว” “พลอยขอเดินออกไปพร้อมท่านนะคะ”พลอยดาวฉวยกระเป๋าสะพายขึ้นคล้องไหล่ เธอไม่รู้หรอกว่าต่อไปจะเป็นยังไง เธอพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด ช่วงนี้เธอไม่ได้เจอกวิวัชร์เลย นานแค่ไหนนะ เกือบเดือนได้แล้วสินะ ตัวเธอเองก็ยุ่งกับการขอทุนเรียนต่อ ส่วนเขาก็ยุ่งกับงาน มีแค่วิดิโอคอลคุยกันทุกคืน แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เผื่อวันข้างหน้าไกลกัน จะได้รู้ว่าเขาจะอดทนรอเธอได้หรือเปล่า พลอยดาวเดินตามหลังคุณจันทนากับปภาวดีออกมาที่หน้าโรงแรม ทั้งสองรอให้คนขับรถวนรถขึ้นมารับ ส่วนพ
“อะไรนะ...มึง...มึงเป็นคนทำ” “เออ กูทำ กูสะใจที่เห็นครอบครัวมึงพังพินาศ” อวัชแหงนหน้าหัวเราะ “เห็นแก่ความเป็นพี่น้อง กูจะบอกให้นะ ว่าตอนนี้เมียมึงนอนพะงาบ ๆอยู่ไอซียูแล้ว!” “อะไรนะ คุณแม่” หัวใจของอวัชกระตุกแทบหยุดเต้น “ก็มันไม่ยอมแบ่งหุ้นบริษัทให้กู จะเอาไว้ให้ว่าที่ลูกสะใภ้ กูก็เลยสั่งคนไปเก็บไง” อวัชหัวตะโกนใส่ แต่ไม่บอกความจริงทั้งหมด “ไอ้ระยำ!” องอาจง้างหมัดหมายจะซัดเข้าที่ใบหน้า แต่อวัชก็ไวไม่แพ้กัน ชักปืนที่ซ่อนไว้ด้านหลังขึ้นจ่ออีกฝ่าย เพียงเสี้ยววินาทีที่กวิวัชร์ได้สติ เขาใช้มือสับที่ข้อมือของอวัช ทำให้ปากกระบอกปืนกดลงที่พื้นแล้วสับศอกใส่ใบหน้าทันที เรียกเลือดสีสดออกจากปากและจมูกอวัชที่ล้มหงายหลังและทำปืนหลุดมือ องอาจรีบใช้เท้าเหยียบไว้ไม่ให้อวัชหยิบขึ้นมาได้ “ความเป็นพี่น้องของเราจบกันวันนี้ไอ้วัช!” ประกาศจบก็ตามด้วยเตะเสยปลายคาง คราวนี้อวัชถึงกับสลบคาเท้าไปจริงๆ “โทรหาแม่สิ” “ครับพ่อ” กวิวัชร์รีบหยิบสมาร์ทโฟนโทรหามารดา แต่ไม่ปลายทางไม่รับสาย เขามองหน้าพ่อทำหัวใจแทบ
คราวนี้หญิงสาวหลุดหัวเราะออกมา แต่เพราะหัวเราะแรงไปสะเทือนแผลจนต้องยกมือขึ้นแตะ กวิวัชร์งุนงงไม่เข้าใจว่าเธอหัวเราะอะไร “น้องพลอย” “คือ...ทุนเรียนปริญญาโทที่พลอยขอไปเป็นทุนเรียนในประเทศค่ะ พลอยไม่ได้ไปต่างประเทศ” “อ้าว... พี่ก็กลุ้มใจมาตั้งนาน” “ขอโทษค่ะ พลอยนึกว่าพี่กั้งรู้แล้ว” “ถ้าอย่างนั้นเราก็แต่งงานกันได้แล้วสินะ พลอยอยากเรียนอะไร อยากทำอะไร พี่สนับสนุนทุกอย่าง ขอให้ทุกก้าวของพลอยมีพี่อยู่ข้างๆก็พอ” “ไม่เร็วไปหรือคะ เราเพิ่งคบกันไม่นาน” “พี่ไม่รู้ว่าใครกำหนดเงื่อนไขเรื่องเวลา แต่พี่รู้ว่าหัวใจพี่รักได้แค่คนเดียวและคนนั้นก็คือพลอยดาว แล้วน้องพลอยรักพี่กั้งคนนี้บ้างไหมครับ” แววตาอ้อดอ้อนของเขาทำให้เธอไม่อาจมองใครได้อีก พลอยดาวยื่นมือจับสาบเสื้อให้เขาโน้มหน้ามาใกล้ กวิวัชร์โน้มตัวลงอย่างว่าง่าย หญิงสาวยื่นริมฝีปากประทับตรงมุมปากที่เขาเจ็บเพราะหมัดของพ่อ “น้องพลอยก็รักพี่กั้งค่ะ”หัวใจได้ยินคำตอบที่ต้องการ เขารู้ว่าความหมายของคำนั้นดี ถ้อยคำเรียบง่ายแต่ไม่ง่ายเลยกว
‘งานที่นี่ก็มีทำ ทำไมต้องกลับเมืองไทย’ ‘มุกก็แค่อยากอยู่เมืองไทยมากกว่า’ ‘มีใครทำอะไรให้มุกไม่สบายใจหรือเปล่าลูก’ ‘ไม่มีค่ะ’ เธอตอบเร็วแบบไม่ต้องคิดมาก ‘มุกก็แค่อยากใช้ชีวิตที่มุกเลือกเอง’ ‘พูดเหมือนแม่บังคับมุกยังไงไม่รู้’ ‘ก็เพราะแม่ไม่บังคับมุกไงคะ มุกเลยเลือกกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทย’ ‘มุกจะกลับไปอยู่กับพ่อเหรอ’ ‘นิสัยอย่างมุกอยู่กับพ่อไม่ได้หรอกค่ะ มุกดูคอนโดไว้แล้ว ให้มุกอยู่คอนโดดีกว่าค่ะ’ ‘ถ้ามุกคิดดีแล้วก็ตามใจลูก แต่ถ้ามีอะไรก็พูดกับแม่ได้เสมอ’ ‘ค่ะแม่’ มีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่ยกมาให้แม่คล้อยตาม แต่เรื่องหนึ่งที่เธอไม่อยากยอมรับเพราะมีบางเรื่องติดค้างในความรู้สึกเธอ พลอยดาวจัดการเรื่องคอนโดให้เธอก่อนแล้ว เมื่อมาถึงเมืองไทย เธอก็เข้าพักได้ทันที แน่นอนว่าพ่อไม่ค่อยพอใจแต่ก็เปลี่ยนใจเธอไม่ได้ ช่วงอยู่ต่างประเทศ เธอทำกิจกรรมบ่อย พลอยดาวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) มีช่องยูทูปของตัวเอง การทำงานประจำในตำแหน่งเลขาฯ คือความท้าทายหนึ่งของเธอ เ