“อ๊า ๆ ๆ ๆ...”ตามเสียงที่ดังและใกล้เข้ามาทุกที นางยิ่งตกใจลนลาน รีบว่ายน้ำขึ้นฝั่ง และในตอนนี้เอง ชายผู้หนึ่งก็ตกลงมาจากฟากฟ้า ดิ่งลงมาตรงศีรษะของนางแบบเหมาะเหม็ง“โอ๊ย! ทำไมถึงมีผู้ชายตัวเหม็นตกลงมาจากฟ้าได้นะ?”เมื่อเห็นดังนั้น โฉมสะคราญหน้าถอดสี ตกใจสุดขีด ไม่เปิดโอกาสให้นางหลบหลีกใด ๆ บังเกิดปัญญาในยามคับขัน นางรีบดำน้ำลงไปทันที หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างเปลือยเปล่าเผยในที่สาธารณะ สองเพื่อเอาตัวรอด มิเช่นนั้นได้ถูกทับตายแน่!ตูม...แม้ฉินอวิ๋นฟานจะทำชุดบินวิงสูทฉบับเรียบง่าย แต่ก็ยังตกลงมาเร็วอยู่ดี จังหวะที่เขารู้สึกถึงไออุ่นของก้นเหวส่งมาถึง พลันรู้ว่าตัวเองรอดแล้ว หากความทุกข์ทางเนื้อหนังมิอาจหลีกเลี่ยงให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ใต้บึงกลับมีเรื่องน่ายินดีแบบเหนือคาด?“หือ? อะไรกัน นี่ฉันไม่ตายเหรอ?!”จังหวะที่ฉินอวิ๋นฟานตกลงไปในน้ำ ที่ทำให้เขาประหลาดใจ คือเหมือนว่าเขาจะกระแทกกับอะไรบางอย่างข้างใต้ ดังนั้นจึงไม่ได้จมดิ่งลงไปต่อ เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินอวิ๋นฟานพลันขมิบดอกเบญจมาศ ลางร้ายผุดขึ้นมาในใจ “ใต้บึง... คงไม่... ไม่มีจระเข้หรอกนะ?”คิดเช่นนี้แล้ว ฉินอวิ๋นฟานสะดุ
ฉินอวิ๋นฟานเรียกอยู่หลายครั้ง จางอวี่ม่อก็ไม่ตื่น ฉินอวิ๋นฟานใจร้อนดังไฟ เขาอดทนต่อความเจ็บปวดรุนแรง ลากจางอวี่ม่อว่ายขึ้นฝั่งอย่างเร็วรี่แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากฝั่งเพียงสิบกว่าเมตร แต่สำหรับฉินอวิ๋นฟานที่บาดเจ็บสาหัส การพาอีกคนขึ้นฝั่งด้วยคือเรื่องที่ลำบากมากผ่านไปพักหนึ่ง ฉินอวิ๋นฟานจึงพาจางอวี่ม่อที่ไม่ได้สติไปถึงริมฝั่ง เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีวางร่างของจางอวี่ม่อให้นอนราบ เมื่อสัมผัสถึงลมหายใจของจางอวี่ม่อรวยริน ฉินอวิ๋นฟานร้อนใจดังไฟแผดเผา“นี่ นี่จะทำยังไงดี? จางอวี่ม่อนอกจากจะเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิต ยังเป็นลูกสาวของจางไท่เว่ย ตอนนี้ยังถูกฉันเห็นหมดแล้วอีก ทำยังไงดี?!”ฉินอวิ๋นฟานกระหืดกระหอบไปก็บ่นไป “ไม่ได้ ฉันเคยบอกว่าต้องรับผิดชอบต่อแม่นางอวี่ม่อ เพื่อตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของนาง ฉันต้องมอบกาย!”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าครั้งนี้นางไม่ได้เป็นเบาะรองอยู่ข้างล่างให้ ฉันคงเด๊ดสะมอเร่ไปอีกรอบแล้ว เท่ากับว่าแม่นางอวี่ม่อช่วยชีวิตฉันเอาไว้อีกครั้ง บุญคุณนี้ ยากจะตอบแทนทั้งชาติ!”ในตอนที่ฉินอวิ๋นฟานมองเรือนร่างอวบอิ่มขาวสะอาดปานหยกของจางอวี่ม่ออีกครั้ง ก็อดกลืนน้ำลายลงอึกแรง ๆ ไม
โอ๊ย...อย่างไม่ทันตั้งตัวก็ถูกจางอวี่ม่อตบหน้าแล้ว ฉินอวิ๋นฟานร้องครวญทันที เนื่องจากจางอวี่ม่อมีพละกำลังที่ไม่ธรรมดา ฉาดนี้ของนางทำฉินอวิ๋นฟานกระเด็นไปไกลถึงสามเมตร แทบเอาชีวิตของเขากึ่งหนึ่ง“อวี่ม่อ ข้าเอง ข้าฉินอวิ๋นฟานไง เมื่อครู่ข้ากำลังช่วยเจ้า ทำไมเจ้าถึงตบข้าล่ะ?!”เห็นจางอวี่ม่อฟื้นขึ้นมา ฉินอวิ๋นฟานพลันรู้สึกละอายใจรีบอธิบาย อย่างไรเสีย วิธีการปฐมพยาบาลแบบนี้แพร่หลายอยู่แต่ในยุคปัจจุบัน ในยุคศักดินาโบราณไม่ยอมรับวิธีการปฐมพยาบาลเช่นนี้อีกอย่าง ที่จางอวี่ม่อหมดสติไปก็เป็นเพราะเขาล้วน ๆ ดังนั้นทันทีที่จางอวี่ม่อฟื้นขึ้นมาก็ต้องคิดว่าฉินอวิ๋นฟานกำลังฉวยโอกาสลวนลามนางอยู่แล้ว“ว้าย ๆ ๆ...”ตอนนี้จางอวี่ม่อคืนสติสัมปชัญญะสมบูรณ์แล้ว ทันทีที่นางเห็นคนตรงหน้า แล้วมองตัวเองที่เสื้อผ้าคลุมไม่มิดก็ทำอะไรไม่ถูก นางขดตัวเป็นก้อน หลบอยู่ในชุดตัวนอกเปียกปอนของฉินอวิ๋นฟานพลางกรีดร้องวี้ดว้าย“ทำ ทำไม ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ได้?!”สาวใช้ที่รออยู่ข้างนอกตลอด พอได้ยินเสียงกรีดร้องก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็อึ้งจังงังตอนมา ในบ่อน้ำร้อนมีแต่คุณหนูใหญ่คนเดียวเท่านั้น นี่
สาวใช้เห็นจางอวี่ม่อเนื้อตัวเปลือยเปล่า แล้วมองไปทางสองมือของฉินอวิ๋นฟานก็เข้าใจอะไรขึ้นมาทันที คุณหนูใหญ่ถูกฉินอวิ๋นฟานทำอย่างนั้นแล้ว เขายังกล้าบอกว่าเป็นความเข้าใจผิดอีกหรือ? ยังปากแข็งอีกแน่ะ?ผู้ชายที่พูดเรื่องน่าอายอย่างนี้ได้แบบเปิดเผยหน้าไม่แดงใจไม่เต้นเช่นนี้ ทั้งยังกล้าบอกว่าเป็นความเข้าใจผิดก็มีแต่ฉินอวิ๋นฟานนั่นแหละ! คนประเภทนี้ต้องไร้ยางอายแค่ไหนถึงกล้าพูดเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ได้แบบจริงจัง“ทะ ท่าน...ไม่รู้จักยางอาย!”จางอวี่ม่อโกรธจนทำเสียเรื่อง เพลิงโทสะสุมทรวง แต่เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว นางได้แต่กล้ำกลืนความน้อยเนื้อต่ำใจลงไป“เลวมาก! ชายชั่วเช่นท่าน วันนี้ข้าจะสับมือทั้งสองของท่านให้ได้!”คุณหนูได้รับความอยุติธรรมใหญ่หลวงเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานกลับยืนกรานไม่ยอมรับ ทั้งยังกล้าพูดหน้าด้าน ๆ ว่ากำลังช่วยคน ใต้ฟ้านี้กลับมีผู้ชายต่ำทรามประเภทนี้อยู่ได้ วันนี้ต้องให้เขาได้เห็นดีหน่อยละ!กล่าวจบ สาวใช้ชักกระบี่ตรงเอวออกมาทันที กำลังจะเดินไปสับมือชั่วร้ายบาปหนาคู่นั้นของฉินอวิ๋นฟานเห็นดังนี้ ฉินอวิ๋นฟานสมองแล่นฉิว นางสองคนนี้เป็นคนโหดดังคาด เขากำลังช่วยคนแท้ ๆ พวกนางไม่รับน้
แต่จางอวี่ม่อในตอนนี้ยังรับกับความจริงที่ตัวเองถูกฉินอวิ๋นฟานเห็นเรือนร่างแล้วไม่ได้ ยิ่งไม่ทันได้เตรียมใจฉินอวิ๋นฟานก็โผล่ออกมา ทำชีวิตของนางยุ่งเหยิงไปหมดนางจ้องฉินอวิ๋นฟาน ในใจซับซ้อนมาก ถ้าจะให้พูดถึงภาพจำที่มีต่อเขา เช่นนั้นย่อมดีมาก เพราะฉินอวิ๋นฟานในหลายเดือนนี้เปล่งประกายเหลือเกิน มีลูกไม้สารพันไม่สิ้นสุด กลายเป็นเทพบุตรในดวงใจสาวน้อยหลาย ๆ คนและนางก็เป็นสาวน้อยวัยสิบแปดคนหนึ่ง ย่อมต้องให้ความสนใจฉินอวิ๋นฟานอยู่แล้วเห็นจางอวี่ม่อเริ่มใจเย็นลง ฉินอวิ๋นฟานโจมตีมากขึ้นไปอีก นี่คือโอกาสพิชิตหญิงงามเชียวนะ เขาจะยอมแพ้ได้ยังไง?เขาพูดอย่างรักซึ้งตรึงใจอีกครั้ง “แม่นางอวี่ม่อ ทุกอย่างที่เปิดขึ้นในวันนี้เป็นความผิดของข้าเอง ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ดี ๆ ข้าก็ตกลงมาจากหน้าผาแล้วทับเจ้าพอดี ตอนนี้ข้าคงตายไปแล้ว”“ถ้าจะพูดให้ถูก อย่างไม่เป็นทางการ แม่นางอวี่ม่อได้ช่วยชีวิตข้าอีกหนแล้ว แต่ข้ากลับบัดซบเช่นนี้ เห็นเรือนร่างของแม่นางอวี่ม่ออย่างไม่ได้ตั้งใจ ข้ามีความผิด ข้าสมควรตาย!”“เพียะ ๆ ๆ...”พูดจบ ฉินอวิ๋นฟานก็ตบหน้าตัวเองแรง ๆ อีกหลายที พอเห็นอย่างนี้แล้ว จางอวี่ม่อก็ชักรู้สึกสงสาร
ครั้นได้รู้เรื่องอนาถที่ฉินอวิ๋นฟานประสบ จางอวี่ม่อก็สงสารขึ้นมาทันที นึกถึงภาพที่ฉินอวิ๋นฟานถูกลอบสังหารครั้งนั้น จางอวี่ม่อยังจำติดตาถึงทุกวันนี้ วันนี้ยังถูกคนวางแผนทำร้ายตกหน้าผาอีกถ้าไม่ใช่เพราะนางเป็นเบาะรองให้ฉินอวิ๋นฟาน ตอนนี้ฉินอวิ๋นฟานก็คงตายไปแล้ว นี่คือความโหดเหี้ยมของศึกในราชวงศ์ ประมาทไปเพียงนิดเดียวก็ต้องเดินทางไปสูงปรโลกบิดาเคยพูดถึงฉินอวิ๋นฟานกับนาง วิจารณ์ฉินอวิ๋นฟานสูงมาก เขาคือคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาองค์ชาย และเป็นรัชทายาทที่มีวิสัยทัศน์ มีความมั่นใจ ห่วงใยชาวประชาใต้หล้าที่สุดคนดีเช่นนี้กลับมีชะตาที่ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย มีขวากหนามตลอดทาง ต่อสู้กับตระกูลใหญ่ทั้งหลายด้วยกำลังเพียงคนเดียว กล้าหาญเช่นนี้ ถ้านางตำหนิฉินอวิ๋นฟานเพราะอุบัติเหตุก็คือเกินไปแล้ว“ในเมื่อเป็นอุบัติเหตุ ท่านก็อย่าตำหนิตัวเองนักเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก!”จางอวี่ม่อหน้าสวยแดงระเรื่อ“หา! คุณหนูใหญ่ ท่าน ท่านอภัยให้เขาแล้วหรือเจ้าคะ?!”สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างประหลาดใจมาก เมื่อครู่มันไม่ใช่แบบนี้นี่ ทำไมพริบตาเดียวก็ให้อภัยชายสารเลวไร้ยางอายนี้แล้ว?“นี่เป็นอุบัติเหตุ รัชทายาทก
“ไอ้หยา พ่อปลาช่อนปากหวาน รีบหันหลังไปสิ ข้าจะใส่เสื้อผ้าแล้ว!”นาทีนี้จางอวี่ม่ออายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ถูกฉินอวิ๋นฟานจู่โจมหนักจนทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่เลือกหนี อยากเพียงออกไปจากที่ที่ทำให้หัวใจนางระส่ำระสายนี้ให้เร็ว“หา? ไม่ต้องแล้วกระมัง เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ ไม่ต้องหลบหรอก?”เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับจางอวี่ม่อ ฉินอวิ๋นฟานยิ้มร้าย “อีกอย่าง ที่ควรเห็นเมื่อกี้ข้าก็เห็นไปหมดแล้ว เจ้ายังมีอะไรต้องปกปิดข้าอีกหรือ?”“ท่าน! หน้าไม่อาย!”จู่ ๆ ก็ถูกฉินอวิ๋นฟานหยอกเอิน จางอวี่ม่อเขินหนัก แทบอยากหาร่องที่พื้นมุด ๆ ไปเสีย นางหน้าแดงระเรื่อ “ห้ามพูดอีกนะ ขืนพูดอีก ข้าจะไม่สนใจท่านแล้ว!”เห็นจางอวี่ม่อเขินหนัก ฉินอวิ๋นฟานพูดอย่างย่ามใจ “ได้ ๆ ๆ เชื่อฟังภรรยาที่รักของข้าทั้งหมด ไม่พูดแล้ว ข้าจะหันหลังไปนะ!”“ฮึ! หมาหยอกไก่!”จางอวี่ม่อมองบนใส่ฉินอวิ๋นฟานหนัก ๆ ทีหนึ่ง!.......ขณะเดียวกัน เซี่ยงเส้าเหยียนวาวโรจน์แล้ว พาบรรดาหน่วยเอเคสี่สิบแปด ไล่ล่าตามฆ่าหลัวเทียนเป้าและจางหมาจื่อโดยไม่คิดถึงชีวิต“สหายเซี่ยง ฉินอวิ๋นฟานก็ตายไปแล้ว ทำไมพวกเจ้ายังต้องสู้สุดใจอย่างนี้อีก? ต้องตาย
น่าเสียดาย ครั้งนี้เขาผิดไปแล้ว ความแน่วแน่ของเซี่ยงเส้าเหยียนอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาลิบลับ!“เจ้าคิดว่าเราจะเหมือนเจ้าที่ให้ประโยชน์ก็หันหัวหอกเข้าหาพวกกันเองหรือ? เป็นหญ้าบนกำแพง?”เซี่ยงเส้าเหยียนสองตาแดงก่ำ “เจ้าผิดแล้ว! วันนี้พวกเจ้าต้องตาย! ข้าพูดเอง ข้าเซี่ยงเส้าเหยียนขอสาบาน ไม่ตัดหัวพวกเจ้า ข้าจะไม่หันหลังกลับ!”“แม่งเอ๊ย เจ้านี่พูดอะไรก็ไม่ฟังเลยแฮะ!”จางหมาจื่อโกรธขึ้งแทบกระอักเลือด เวลานี้เขาไร้หนทางแล้ว ที่ทำได้หนึ่งเดียวในตอนนี้คือวิ่งหนีสุดชีวิต ไม่มีวิธีการอื่น!ส่วนลึกของป่าทึบ หลังจากดวงตาลึกลับทั้งสองเห็นฉินอวิ๋นฟานถูกซัดตกหน้าผาแล้วก็หายตัวไปจากท่ามกลางป่าทึบอย่างเงียบเชียบ“เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ?! รัชทายาทถูกยอดฝีมือเขตปรมาจารย์ซัดตกหน้าผาไปแล้ว?!”หานซิ่นที่เก็บกวาดสถานที่รบพาทุกคนเร่งมาถึง ครั้นรู้ว่าฉินอวิ๋นฟานประสบเคราะห์ก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“เป็น เป็นไปได้ยังไง? ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”หลิวเป้ยถลาคุกเข่าลงกับพื้น สั่นเทิ้มทั้งตัว เขาพูดพึมพำว่า “รัชทายาทคืออัจฉริยะที่หายากบนใบโลกนี้ ห่วงใยประชาราษฎร์ จะถูกคนลอบป
“เอ่อ... แต่เพียงแต่ข้าที่กังวลเช่นนี้ เกรงว่าทุกคนก็คงมีความกังวลนี้เหมือนกันกระมัง? อย่างไรเสีย ของอย่างบัญชีก็สามารถปลอมแปลงได้”เห็นฉินอวิ๋นฟานพูดตามตรง ฉินอวิ๋นฮุยจึงไม่อ้ำอึ้งอีก การยกเรื่องไม่ดีมาพูดแต่แรกมิใช่เรื่องน่าอายอันใด เพราะมันเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของพวกเขา เขาไม่อยากถูกฉินอวิ๋นฟานหลอก!“ฮ่า ๆ ๆ...”ฉินอวิ๋นฟานลั่นเสียงหัวเราะทันที “พี่รองทำงานรอบคอบดังคาด น้องเจ็ดเลื่อมใส แต่ท่านคิดมากไปแล้ว ถ้าต้องดูแลเมืองการค้าสามเมือง คนของข้าไม่มีทางพอ ถ้าพวกท่านไม่ส่งคนมาช่วยงาน ข้าคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ”“อ้อ? น้องเจ็ดพูดจริงรึ?!”เมื่อนั้นหัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของฉินอวิ๋นฮุยจึงสงบลง หากเขาสามารถให้คนเข้าร่วมอยู่ในเมืองการค้าทั้งสามเมืองได้ เช่นนั้นเขาจะวางใจได้แล้ว เพราะจะรับประกันผลประโยชน์ของเขาได้ทั้งหมด!“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านวางใจได้เลย ระหว่างพวกเราพี่น้องแม้เป็นคู่ต่อสู้กัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของบ้านเมือง พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง มีเพียงเช่นนี้ต้าเฉียนเราจึงจะเฟื่องฟูได้นิรันดร์”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในเรื่องการค้า เครือเหิงไท่จะรับผิดชอบกิจการหลักท
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวอย่างจริงจัง “ต่อให้ใครกล้ามีความคิดส่วนตัวก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราต้องร่วมกันทำงาน หากไม่อยากเสียเมืองไป ไม่อยากตาย ทหารทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ เป็นหนึ่งเดียวสู้กับภายนอก”“ดี ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว!”เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ไท่ซั่งหวงรู้อยู่แล้วว่าฉินอวิ๋นฟานต้องทุ่มเทเพื่อแผนการนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางคิดแผนการสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้“อื่ม ไม่เลว!”ฉินอวิ๋นฮุยไม่ได้ดีใจกับแผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของฉินอวิ๋นฟาน เพราะแม้เช่นนี้จะเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองจริง หากไร้ประโยชน์อันใดต่อพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขายังจะกลายเป็นคนที่ถูกฉินอวิ๋นฟานใช้งานอีกด้วยพวกเขาส่งทหารรักษาเมือง ฉินอวิ๋นฟานกอบโกยกำไรอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วฉินอวิ๋นฮุยก็อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือโดยแท้!ทว่าไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?ฉินอวิ๋นฟานรู้ความคิดของพวกเขาดี อีกอย่าง ถ้าครองผลงานเองในเวลานี้จะเป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ฉินอวิ๋นฟานไม่ทำเรื่องเบาปัญญาเช่นนี้หรอก!โบราณกล่าว ตบหน้าฉาดหนึ่งต้องให้พุทราหวานหนึ่งลูก อีกฝ่ายส่งทหารม
ขณะนี้ ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ ถ้อยคำชวนให้คนมีจิตใจฮึกเหิมของฉินอวิ๋นฟานวนเวียนอยู่ในหัวของ แม้ไท่ซั่งหวงเองก็ยังตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน!รัชทายาทวัยสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่ง ช่างเป็นชายชาตินักรบเลือดร้อนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หากคนเช่นนี้เป็นจักรพรรดิ ไยต้องกลัวอนาคตต้าเฉียนจะไม่ศิวิไลซ์?“เกี่ยวกับการสร้างเมืองการค้าสี่แห่งในสี่ทิศของต้าเฉียน ทุกคนคัดค้านอย่างหนัก ข้าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนมาก แต่ในเมื่อจะทำเรื่องนี้ ข้าก็ต้องยอมรับเสียงและความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนว่ามาเถอะ”ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน มีแต่ต้องทำให้ทำคนยอมรับเรื่องนี้จากใจจริง เขาจึงจะยึดสิทธิ์ความเป็นผู้นำได้ มิเช่นนั้นต่อให้ใช้กำลังผลักดันเรื่องนี้ คนเหล่านี้ต้องเล่นตุกติกลับหลังเขาแน่ เช่นนี้มีแต่จะทำให้รำคาญดังนั้นฉินอวิ๋นฟานเตรียมตัวกับการคัดค้านและความคิดของทุกคนแต่แรกแล้ว ต้องการแค่โอกาสประจวบเหมาะหนึ่ง เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคอิจฉาตาร้อนมีมากเหลือเกิน มีแต่ต้องคิดหาทางหยดยาดวงตาให้พวกเขาสักหน่อย จึงจะขจัดต้นตอของปัญหาได้ “นี่...”ผู้คนมากมายแน่นขนัดพูดไม่ออกสักคำ เพราะต่างมีความกังวลอยู่ในใจ ฉ
นาทีนี้ถังเจิ้นไห่ถูกโจมตีทำร้ายทางจิตใจอย่างหนัก ฉินอวิ๋นฟานปากคอเราะรายน่ากลัวจริง ๆ การโจมตีของเขารวดเร็วนัก เขาต้านทานไม่ไหวเลยเขาจนปัญญากับการโจมตีของฉินอวิ๋นฟานแล้ว ได้แต่ใช้สถานะข่มขู่ฉินอวิ๋นฟาน หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะหยุดโจมตีเขาน่าเสียดาย แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไร และไม่เคยเป็นพวกยอมเสียเปรียบ หากมีคนโจมตีเขา ฉินอวิ๋นฟานจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ต้องถล่มอีกฝ่ายจนแพ้ราบคาบ นี่สิจึงจะเป็นเป้าหมายความเป็นคนของเขา และถังเจิ้นไห่ก็แตะเขตต้องห้ามของเขาพอดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่ไว้หน้าเขา!ครั้นพวกฉินอวิ๋นฮุยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็พากันมอบสายตาเห็นใจให้ถังเจิ้นไห่ พวกเขาเคยได้รับการสั่งสอนด้วยหมัดหนักจากฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว ในสถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย หากหาเรื่องฉินอวิ๋นฟานก็เท่ากับรนหาที่ตาย!ไท่ซั่งหวงและจางเต้าหลินฉายรอยยิ้มพึงพอใจ แม้ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานจะหยาบคายไม่รื่นหูไปบ้าง แต่สะใจยิ่งนัก! นักวางแผนร้ายเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดกลับจนต้องสงสัยในชีวิต เด็ดสะระตี่แท้!“เกินไป? ตอนนี้ท่านรู้ว่าเกินไป? ตอนที่ท่านสาดน้ำคลำใส่
“ท่าน...”ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าว่าหน้าด้าน ถังเจิ้นไห่โกรธจนหน้าเขียว แทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เขาจำต้องยอมรับว่าฉินอวิ๋นฟานร้ายจริง ๆ! ในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากลับไม่กลัวแม้แต่น้อย?“ท่านเทิ่นอะไร ท่านมันหน้าด้านเหม็นโฉ่ อายุอานามห้าสิบกว่าแล้ว มีแต่ความชั่วร้ายอยู่เต็มอก น่ารังเกียจโดยแท้!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าถังเจิ้นไห่สักนิด เอ่ยต่อ “เมื่อวานข้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่โจว ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่คิดกระจายการเพาะปลูกทั่วแคว้น? ท่านให้โอกาสข้าพูดแล้วหรือยัง?!”“อีกอย่าง ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ข้ามอบให้ทุกแคว้นมีจำกัด ใครกล้าไม่เคารพต้าเฉียน? ข้าคือบิดรมารดาปากท้องของพวกเขา ใครกล้าหือ?!”“แม้นมีแคว้นใดไม่เป็นเด็กดี ข้าจะระงับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาทันที ข้าจะดูสิว่าไอ้ไม่ดูตาม้าตาเรือหน้าไหนกล้าท้าทายขอบเขตต่ำสุดของข้า?!”ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูด หากเทียบกับการเคลือบแคลงสงสัยเมื่อครู่ การพูดเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟานยิ่งสามารถทำให้เขายืนอย่างมั่นคงมากขึ้นฉินอวิ๋นฟานคลี่คลายประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการได้แล้ว ถังเจิ้นไห่หน้าตึงจนน
“ได้!”ถังเจิ้นไห่พูดหน้าขรึม “ประการที่สองของความผิดร้ายแรงสามประการ รัชทายาทร่วมกันสร้างถนนกับแคว้นต่าง ๆ เรื่องนี้อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ทันทีที่สร้างถนนที่กว้างยิ่งขึ้น การคมนาคมจะสะดวก คืออยากให้แคว้นรอบข้างรุกรานต้าเฉียนเราสะดวกยิ่งขึ้นหรือ? การกระทำเช่นนี้มิใช่แผนการล่มชาติแล้วมันคืออะไร?!”ซี้ด...เมื่อทุกคนได้ฟังต่างสูดลมเย็นเข้าปาก เกิดความสงสัยอย่างหนักกับจุดประสงค์ของฉินอวิ๋นฟาน ด้านหนึ่งมอบธัญพืช ด้านหนึ่งสร้างถนนกับทุกแคว้น จุดประสงค์จะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง?“ต่อ ประการที่สามเล่า!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเรียบ เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะไปไกลขนาดไหน ช่างเป็นคนที่มีขอบเขตความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์โดยแท้ การกำหนดอนาคตของบ้านเมือง เป็นเช่นนี้ดังคาดหากให้พวกเฮ่อชินอ๋องเรืองอำนาจจริง ต้าเฉียนมิต้องจบเห่หรือ? ให้สวะพวกนี้ดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นยังจะมีความหวังอะไร?พวกเขานอกจากจะมีความชั่วร้ายอยู่เต็มอก มีความคิดดำมืดอยู่เต็มสมอง ยังจะทำอันใดได้อีก?“หึ!”ถังเจิ้นไห่แค่นเสียงแล้วจึงเอ่ย “ประการที่สาม รัชทายาทร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆ กีดกันต้าเยียน สังหารบุตรชายคนที่สี่ข
“อ้อ? ความผิดร้ายแรงสามประการของฟานเอ๋อร์? ไหนลองว่ามาดูสิ!”ไท่ซั่งหวงตั้งสมาธิ นึกสนใจขึ้นมาทันที อย่างลับ ๆ เขาให้ความสนใจกับพฤติกรรมของฟานเอ๋อร์มาก ไม่เคยได้ยินความผิดร้ายแรงสามประการอันใด เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะพูดอะไรความผิดร้ายแรงสามประการเสมือนระเบิดลูกใหญ่ ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกขึ้นมา ยามนี้สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของถังเจิ้นไห่“ประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการ ได้ยินว่ารัชทายาททำเมล็ดพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ขึ้นมา สามารถให้ผลผลิตสูงมาก เดิมนี่คือโอกาสดีที่สุดที่ต้าเฉียนเราจะแจ้งเกิด คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทกลับมอบเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงให้กับแคว้นต่าง ๆ รอบข้าง ช่วยให้พวกเขามั่งคั่งมากขึ้น”ถังเจิ้นไห่กล่าวเสียงหนัก “ขอถามทุกท่านในที่นี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของรัชทายาทคือกำลังช่วยเหลือศัตรูน่ากลัวของเราหรือไม่? พฤติกรรมเช่นนี้ของเขา คือการขายชาติหรือไม่?!”ตูม...ครั้นถังเจิ้นไห่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา บรรดาขุนนางต่างอึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรู้เรื่องที่เมืองจัวเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แทบทุกคน และเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานลงนามสัญญากับแคว้นต่าง ๆ ก็รู
“อื่ม! ดี!”ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่งตั้งหวังอันสือเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เจี่ยงฝานฝานเป็นรองหัวหน้า การรับตำแหน่งนี้มีผลอย่างเป็นทางการ หัวหน้าขันทีเฉา ร่างราชโองการเดี๋ยวนี้ ประกาศต่อใต้หล้า!”เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง ใจที่กระวนกระวายของฉินอวิ๋นฟานก็สงบ เขามองจางเต้าหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง!ทว่าคนอื่น ๆ กลับมีความรู้สึกที่แปลกออกไป หลังจากหวังอันสือได้ขึ้นตำแหน่ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ในราชสำนักกำลังหลุดจากการควบคุมอย่างช้า ๆ ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะครองราชสำนัก“เอาละ เรื่องสำนักศึกษาหลวงก็สิ้นสุดแล้ว แต่จะละเลยผลงานการไปเมืองอู่โจวของฟานเอ๋อร์ครั้งนี้ไม่ได้”ไท่ซั่งหวงกล่าวเสียงเข้ม “ฟานเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ทำคำสัญญาเมื่อครึ่งปีก่อนสำเร็จ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนเราพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ท้องพระคลังเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างเห็นความยอดเยี่ยมของฟานเอ๋อร์”“ฟานเอ๋อร์ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล? ขอเพียงสมเหตุสมผล ข้าจะให้เจ้าดังปรารถนา!”ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกดีใจมากที่
“...”‘ไม่ว่าจะเป็นใคร คนผู้นั้นก็รู้อยู่แก่ใจดี’ ประโยคเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ถังเจิ้นไห่สยบ แม่งเอ๊ย เขาก็ต้องรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว หากเขามีความจำเป็นพูดออกมาไม่ได้!การเล่นเกมเลี่ยงบาลีของฉินอวิ๋นฟานทำให้แนวป้องกันของถังเจิ้นไห่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เหล่าขุนนางต่างกัดฟันกรอด กลับทำอะไรไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานเฉกเช่นปลาหนีชิวลื่นไหลตัวหนึ่ง ทำอะไรเขาไม่ได้เลย!จางเต้าหลินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เขาเคยเห็นคนหน้าด้าน กลับไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าหนาไร้ยางอายเช่นฉินอวิ๋นฟานมาก่อน หน้าไม่อายที่สุด!คนคนหนึ่งปั่นหัวเหล่าขุนนางใหญ่เป็นว่าเล่น โมโหโทโสจนร่ำไห้หาพ่อร้องหาแม่ กลับจนปัญญา ดูสีหน้าเขียวปัดของถังเจิ้นไห่ จางเต้าหลินกลั้นหัวเราะอย่างหนัก กลั้นจนภายในจะบอบช้ำแล้ว“เอาละ ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอแค่นี้เถอะ!”ไท่ซั่งหวงเห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงตัดสินเรื่องนี้ในที่สุด ได้แต่บอกว่าฟานเอ๋อร์ใช้ไหวพริบและผลลัพธ์ก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ“จางไท่เว่ย ในเมื่อมีสามตัวเลือก และทุกคนก็แสดงจุดยืนของตัวเองแล้ว ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”ไท่ซั่งหวงไม่ได้ยอมรับคว