Share

บทที่ 166

Author: ไห่ตงชิง
คำพูดของซูผิงเป่ย ทำให้หลี่เฉินพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ซูผิงเป่ยต้องรอเก้อ

“เอาล่ะ ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้นก็ตามนั้นเถอะ”

หลี่เฉินมุ่งหน้าออกจากจุดพักแรม เขาเอามือไพล่หลังแล้วพูดว่า “แต่วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก มีหลายสิ่งที่ข้าไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด จึงปล่อยให้เจ้าลงมืออย่างอิสระ ตรรกะความเข้าใจของเจ้าก็ไม่เลว ถือว่ามีไหวพริบเลยทีเดียว”

ซูผิงเป่ยยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาทันที

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบพระทัยฝ่าบาท กระหม่อมเพียงทำตามขั้นตอนเท่านั้น”

“สิ่งที่เจ้าพูด นับว่าต่ำกว่ามาตรฐาน”

หลี่เฉินเหลือบมองซูผิงเป่ยแล้วพูดว่า “หากคนที่ข้าใช้งาน รู้แค่ทำตามขั้นตอนเท่านั้น นี่ไม่ได้หมายความว่าข้าใช้งานคนผิดอย่างนั้นหรือ?”

ทันใดนั้นซูผิงเป่ยก็ตื่นตระหนกขึ้นมา และไม่รู้จะตอบกลับอย่างไรดี แต่หลี่เฉินก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “เอาล่ะ ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง อย่ากังวลไปนักเลย”

หลี่เฉินส่ายหน้า เมื่อสถานะสูงขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุผลเลยหากจะบอกว่ายิ่งสูงยิ่งโดดเดี่ยว

คำพูดธรรมดาบางคำ แต่คนด้านล่างกลับครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน และจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะเข้าใจมัน

เมื่อเดินออกจากประตูจุดพักแรม หลี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 167

    “อืม”ต้วนจิ่นเจียงครางรับในจมูกเขารับผ้าร้อนที่สาวใช้ส่งมาให้เช็ดมือแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นในจวนบ้าง?”พ่อบ้านรีบตอบกลับไปว่า “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่าเมื่อช่วงบ่ายนี้ คุณชายกลับมาเรียกผู้คุ้มกันยี่สิบกว่าออกไป ไม่รู้ว่าออกไปทำสิ่งใด”ใบหน้าของต้วนจิ่นเจียงมืดลง และตะคอกอย่างเย็นชาว่า “เขายังจะทำสิ่งใดได้อีก? นอกจากทะเลาะเบาะแว้งเรื่องผู้หญิงเพราะอิจฉาคนอื่น ข้าเคยบอกเขามาหลายครั้งแล้วว่า สถานการณ์เมืองหลวงในช่วงนี้ค่อนข้างวุ่นวายและไม่สงบ แม้แต่ลูกชายของจ้าวเสวียนจีก็ยังทำตัวซื่อสัตย์ขึ้นไม่น้อย แค่ให้เขาหยุดหาเรื่องสักพัก เจ้าลูกทรพีนี่ก็แสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด”เมื่อเห็นนายท่านไม่มีความสุข พ่อบ้านก็รีบพูดว่า “นายท่าน คุณชายอายุยังน้อย การทำเรื่องเหลวไหลไปบ้างจึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อคุณชายกลับมา ท่านก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากับเขา อย่าได้โมโหไปเลย มันไม่คุ้มที่จะโกรธจนทำร้ายตัวเองเช่นนี้”“โกรธเหรอ?”ต้วนจิ่นเจียงโยนผ้าเช็ดมือลงในอ่างน้ำ และเดินเข้าไปในจวนพลางพูดว่า “ถ้าข้าโกรธเจ้าลูกทรพีนี่จริงๆ ข้าคงโกรธจนตายไปนานแล้ว”พ่อบ้านกลอกตาแล้วพูดบ่ายเบี่ยงไปว่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 168

    หลังจากถูกหลี่เฉินโจมตีในวันนั้น แม้ว่าโหวอวี้ซูยังไม่รู้ว่าหลี่เฉินเป็นใครแต่ด้วยคำพูดของซูจิ่นพ่าที่ดังก้องอยู่ในหู โหวอวี้ซูจึงรู้ว่า ถ้าเขาต้องการจะเอาชนะหลี่เฉินที่ไม่ทราบที่มาที่ไป และทำให้ซูจิ่นพ่าผู้ซึ่งมีสายตาที่สูงส่งหันมามองตัวเอง เช่นนั้นเขาจำเป็นจะต้องเข้าสู่ระดับการสอบหน้าพระที่นั่งให้ได้ นี่คือความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของเขา ด้วยคำแนะนำของท่านจิ้งจือ บุคคลสำคัญในแวดวงวรรณกรรม และตราบใดที่เขาได้รับการสนับสนุนจากต้วนจิ่นเจียง เมื่อตนเองเข้าสู่เส้นทางขุนนางก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับซูจิ่นพ่า... คิดได้ดังนั้น ดวงตาของโหวอวี้ซูก็เต็มไปด้วยไฟแห่งความทะเยอทะยาน“ไม่เลว”หลังจากได้เห็นสายตาของโหวอวี้ซู ต้วนจิ่นเจียงก็ลูบเคราของเขาแล้วพูดว่า “หนุ่มน้อย การมีความทะเยอทะยานเป็นสิ่งที่ดี หากไม่มีความทะเยอทะยาน แม้ว่าเจ้าจะเริ่มต้นอาชีพขุนนาง แต่ก็ไม่สามารถไปได้ไกล ข้ารับปากเจ้าว่า ตราบใดที่เจ้าสามารถติดสิบอันแรกของการสอบขุนนาง และมีคุณสมบัติได้สอบหน้าพระที่นั่ง ข้าจะทำให้เจ้าติดหนึ่งในสามอันดับแรก นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สูงเพียง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 169

    การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้โหวอวี้ซูที่อยู่ข้างๆ ตกใจ มือที่จับตะเกียบจึงพลอยสั่นไปด้วยเสียงเคร้งดังขึ้น เป็นตะเกียบในมือของโหวอวี้ซูที่ร่วงลงพื้น จนเกิดเสียงดังกังวานขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของพ่อบ้านและต้วนจิ่นเจียงที่จ้องมองมา โหวอวี้ซูก็อยากจะหารอยร้าวบนพื้นแล้วมุดเข้าไปในนั้นแต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเขารู้สึกหวาดกลัวถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เข้าสู่เส้นทางของขุนนาง แต่ใครในใต้หล้าบ้างที่ไม่รู้จักความน่ากลัวของหน่วยบูรพา ผู้ที่ถูกจับกุมไปนั้นมีใครเคยกลับมาบ้าง?หน่วยบูรพาจับกุมต้วนจั่งเหมียนและส่งเขาเข้าคุกจริงๆ นี่ไม่ใช่คดีปกติ แต่เป็นเหตุการณ์ทางการเมือง มีคนกำลังมุ่งเป้ามาที่ต้วนจิ่นเจียง“หลานชาย...ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ…”แค่ได้ยินเสียงสายก็ทราบความนัย โหวอวี้ซูได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นมาทันที ประสานมือแล้วกล่าวว่า “อวี้ซูนึกขึ้นได้ว่า ท่านอาจารย์กำลังรอให้อวี้ซูกลับไปรายงาน เช่นนั้นข้าขอลาก่อน”พูดจบ โหวอวี้ซูก็จากไป ต้วนจิ่นเจียงที่ตอนนี้ตกอยู่ในอาการสับสน ยังจะมีแก่ใจอวดความหรูหราของตนกับโหวอวี้ซูต่อหรือ ดังนั้นเขาจึงโบกมือและปล่อยเขาไปรอจนโหวอวี้ซูจาก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 170

    หลังจากที่ต้วนจิ่นเจียงวิเคราะห์ พ่อบ้านก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที “นายท่าน ท่านหมายถึง...องค์รัชทายาทกำลังลงมือกับพวกเราหรือ!?”ต้วนจิ่นเจียงมีสีหน้าเคร่งเครียด และพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่แน่ใจนัก มันเป็นเพียงการเดาของข้า แต่การคาดเดานี้ อาจจะเป็นจริงได้...”“เจ้าไปเตรียมรถม้าก่อน ข้าจะไปที่จวนจ้าวสักครา...จากนั้น เจ้าก็คอยสืบข่าวต่อไป อย่างแรกคือค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นที่จุดพักแรมวันนี้ อย่างที่สองคือดูว่าวันนี้องค์รัชทายาทออกจากตำหนักบูรพาหรือไม่ หากมีข่าวใดๆ รีบรายงานข้าตอนกลับมาทันที”“บ่าวจะจัดการทันที”“รีบไป!” ……ตำหนักบูรพา พระที่นั่งสีเจิ้ง“ฝ่าบาท เพิ่งมีข่าวมาถึงว่า ต้วนจิ่นเจียงเดินทางไปที่จวนจ้าวแล้ว”เฉินทงยืนรายงานอย่างนอบน้อมอยู่กลางห้องโถงหลี่เฉินกำลังดูสาส์นกราบทูลข้อราชการของวันนี้ เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็จิบชาในมือแล้วพูดโดยไม่ยกเปลือกตาขึ้นว่า “ข้าทราบแล้ว”เมื่อมองดูสาส์นกราบทูลข้อราชการในมือของเขา หลี่เฉินก็พูดด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “สาส์นกราบทูลฉบับนี้ เป็นของกวนเหยียนเทา ปลัดมณฑลเจียงเจ้อที่ยื่นมา เขากล่าวว่าการป้องกันทางชายฝั่งมณฑลเจียงเจ้อจำเป็

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 171

    นั่นเป็นคําพูดที่ชาญฉลาดไม่เพียงแต่แสดงทัศนคติของตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้สถานการณ์สมบูรณ์แบบอีกด้วยหลี่เฉินยิ้มหลังจากได้ยินสิ่งนี้ แต่ในใจแทบจะให้คะแนนเฉินทงไม่ผ่านเลยเฉินทงแค่คิดมากเกินไปซานเป่ายังฉลาดกว่าเขาหากเป็นสถานการณ์เดียวกัน ถ้าเป็นซานเป่าตอบ เขาคงแสดงความปรารถนาอยากจะมีอำนาจอย่างเปิดเผยอย่างแน่นอนเนื่องจากเฉินทงไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นหลี่เฉินหรือจักรพรรดิองค์ปัจจุบันผู้ก่อตั้งหน่วยบูรพา ซึ่งยังนอนอยู่บนแท่นมังกร โดยไม่อาจขยับตัวได้ในขณะนี้พวกเราไม่กลัวความทะเยอทะยานของคนที่อยู่ต่ำกว่า แม้กระทั่งยิ่งทะเยอทะยานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้นเพราะมีเพียงคนที่มีความทะเยอทะยานเท่านั้นที่จะคิดทำสิ่งต่างๆ เพื่อควบคุมมันมิฉะนั้นจักรพรรดิองค์ปัจจุบันจะมอบอำนาจทั้งหมดของหน่วยบูรพาให้กับซานเป่าได้อย่างไร?“ข้าทราบแล้ว”หลี่เฉินไม่คิดที่จะชี้แนะเลยสักนิดเรื่องแบบนี้ เฉินทงต้องเข้าใจด้วยตัวเอง หากไม่เข้าใจ เขาจะเป็นเพียงผู้บัญชาการขององครักษ์เสื้อแพรไปตลอดชีวิต และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวหน้าได้จากทัศนคติที่สงบของหลี่เฉิน เฉินทงจึงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหลี่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 172

    “ใช่แล้ว นี่แหละ!”หลี่เฉินดีใจมากเวลานี้ ปริมานผลผลิตของจักรวรรดิต้าฉินโดยเฉลี่ยแล้วมีเพียงสองต้านต่อหมู่ เมื่อคำนวณสิ่งนี้ จะมีผลผลิตไม่เกิน 300 ชั่ง[footnoteRef:1] [1: 1 ชั่ง = ครึ่งกก.] เรียกได้ว่าค่อนข้างน่าสังเวชเลยทีเดียวแต่ไม่มีทางเลือก ก่อนที่ปุ๋ยเคมีและเทคโนโลยีชลประทานจะก้าวหน้า ปริมานผลผลิตเช่นนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดโดยพื้นฐานตลอดสมัยศักดินา โดยพื้นฐานแล้วผลผลิตธัญพืชต่อหมู่ไม่ได้มีความผันผวนมากนัก เพราะทั้งหมดนี้ปลูกด้วยกำลังคน และเมล็ดพืชก็มีทั้งดีและไม่ดี การเก็บเกี่ยวจะเป็นเช่นไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการอวยพรของเหล่าทวยเทพ “สิ่งนี้เรียกว่ามันเทศ มันสามารถใช้เป็นอาหารหลักแทนธัญพืชได้ มันมีประโยชน์มาก เพียงแค่ล้างและปอกเปลือก ก็สามารถทานดิบๆ ได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปปรุงสุกเพื่อรับประทานได้อีกด้วย หรือถ้าหากตากแห้งก็สามารถเก็บไว้ได้นานเช่นกัน หากไม่ได้ผล หลังจากบดเป็นผงแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารได้หลากหลาย”หลี่เฉินหยิบถุงผ้าใบเล็กออกมา นี่คือกุญแจสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนในต้าฉิน“สิ่งสำคัญที่สุดคือ เพียงแค่ปลูกสิ่งนี้และดูแลอย่างเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 173

    “เจ้าพูดเช่นนี้ หากข้าไม่ให้รางวัลเจ้าจริงๆ เจ้าจะไม่เสียใจทีหลังหรือ?” หลี่เฉินกล่าวยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดีหลิวซือฉุนพูดด้วยความเคารพ “ไม่เสียใจในภายหลังเพคะ”หลังจากมองหลิวซือฉุนอย่างลึกซึ้งแล้ว หลี่เฉินจึงพูดว่า “ในอนาคต เมื่อสิ่งนี้ได้รับการส่งเสริมเป็นวงกว้าง ข้าจะแบ่งกำไรให้ตระกูลหลิวหนึ่งส่วน”คำสัญญานี้มีค่ามากกว่าทองหนึ่งพันชั่งแม้แต่คนโง่ก็รู้ว่า ถ้ามันเทศนี้ให้ผลผลิตสูงจริงๆ แม้กำไรหนึ่งส่วนจะฟังดูน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะฆ่าคนได้ใบหน้างามของหลิวซือฉุนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง นางโค้งตัวไปข้างหน้าและพูดว่า “ขอบพระทัยองค์รัชทายาท!”“แค่นี้เองหรือ?”หลี่เฉินยกมือเชยคางของหลิวซือฉุนขึ้น เพื่อให้นางเงยหน้าสบตาเขา จากนั้นก็กล่าวอย่างสบายๆ ว่า “ไม่มีอย่างอื่นเลยหรือ?”หลิวซือฉุนใจสั่น และก้าวถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยงมือของหลี่เฉินตามสัญชาตญาณ นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันจะกลับไปสั่งคนให้รวบรวมมันเทศ หากฝ่าบาทไม่มีธุระอื่นใดแล้ว หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ”หลี่เฉินหรี่ตาเล็กน้อยเขาโลภเสน่ห์สาวใหญ่ของหลิวซือฉุนมาเป็นเวลานานแล้วสตรีที่เหมือนท้อสุกประเภทนี้ เต็มไปด้วยออร่าอันแ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 174

    “พี่รอง วันนี้แตกต่างจากในอดีต พวกเรามีเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงต้องคิดคำนวนอย่างระมัดระวังเป็นธรรมดา” หลิวซือฉุนขมวดคิ้วเล็กน้อย และอธิบายอย่างอดทนคำพูดนี้หากไม่พูดออกมาน่าจะดีกว่า เพราะทันทีที่พูดออกมา ชายหนุ่มก็โกรธจัดทันที“เจ้ายังกล้าจะพูดอีกเหรอ?”“เมื่อก่อนครอบครัวหลิวของพวกเราใช้ชีวิตแบบไหน แล้วตอนนี้พวกเราใช้ชีวิตแบบไหน?”“เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าชื่นชอบขวดยานัตถุ์เครื่องเครือบอันหนึ่งแต่กลับไม่มีเงินซื้อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าของร้านมองข้าด้วยสายตาแบบไหน? เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เพียงแค่ข้ามาถึง พวกเขาก็กระดิกหางเข้ามาประจบข้าเหมือนสุนัข แต่มันเป็นเพราะความคิดโง่ๆ ของเจ้า ตอนนี้ครอบครัวของเราจึงยากจน ไม่ว่าข้าจะไปที่ไหนก็ถูกผู้คนมองอย่างดูแคลน!”ชายหนุ่มคนนั้นยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ยิ่งพูดยิ่งเสียงดังคนในตระกูลที่อยู่ข้างๆ คนหนึ่งก็ดึงแขนเสื้อของเขา พลางกระซิบพูดว่า “นายท่านรอง หยุดพูดได้แล้ว”แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็สะบัดมือแล้วกล่าวว่า “เจ้าจะหยุดข้าทำไม? ข้าเก็บคำพูดเหล่านี้ไว้นานแล้ว และอยากจะพูดมันมาตั้งนาน”“ให้เขาพูด!”หลิวซือฉุนตะโกน ดวงตาเมล็ดซิ่งพลันเบิกกว้าง นางนั่งอย

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 814

    แม้เย่ลู่เสินเสวียนจะมีการปกป้อง แต่ขุนนางคนอื่นๆ กลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้นมีบางคนถูกแรงระเบิดซัดกระเด็นไปโดยตรง คนหนึ่งศีรษะกระแทกเสา เลือดพุ่งออกจากจมูกและปาก ก่อนร่างจะกระตุกสองครั้งแล้วนิ่งไปอีกสองคนถูกแรงระเบิดเหวี่ยงออกไปนอกหน้าต่าง ร่วงลงบนซากปรักหักพัง ไม่มีเสียงตอบสนองอีกเลยเย่ลู่เสินเสวียนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงสิ่งแรกที่เขาคิดคือ หลี่เฉินต้องการฆ่าปิดปากเขาบ้าไปแล้วหรือ!? เขากล้าทำได้อย่างไร!?"ความตกใจและความโกรธที่ท่วมท้นทำให้ใบหน้าของเย่ลู่เสินเสวียนบิดเบี้ยว"เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?"เย่ลู่เสินเสวียนตะโกนด้วยเสียงต่ำ แม้ฝุ่นควันจะเกาะเต็มตัว แต่เขาไม่สนใจ"องค์รัชทายาท มียอดฝีมือบุกเข้ามา"ชายชราผู้ค้อมตัวเอ่ยคนคนนี้เป็นคนเดียวกับที่ปกป้องเย่ลู่กู่จ้านฉีในวันนั้นมุมปากของเย่ลู่เสินเสวียนกระตุก สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชาเขาคิดไม่ออกว่าทำไมไม่ว่ามองจากมุมไหน หลี่เฉินไม่ควรจะลงมือกับเขาในเวลานี้นี่เป็นเหตุผลที่เขากล้าปรากฏตัวในเมืองหลวง และแม้กระทั่งยั่วยุหลี่เฉินด้วยเย่ลู่เสินเสวียนไม่ใช่คนโง่ หากไม่มีความมั่นใจ เขาย่อมไม่เสี่ยงชีวิตเช่นนี้เว้นแ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 813

    เมื่อเย่ลู่เสินเสวียนออกคำสั่ง องครักษ์หลายคนช่วยกันยกศพของฮาเลยต้าลี่เข้ามาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลานี้ ศพของฮาเลยต้าลี่ผ่านไปห้าหรือหกชั่วยามแล้ว จนร่างกายแข็งทื่อเลือดที่ไหลจนหมดทำให้ศพซีดเผือด ฮาเลยต้าลี่นอนแข็งอยู่บนพื้นห้องโถง ทุกคนในที่นั้นล้วนมีสีหน้าเรียบเฉยสำหรับคนแคว้นเหลียว ความตายไม่ใช่เรื่องน่าตกใจไม่มีใครรู้สึกเสียใจกับการตายของฮาเลยต้าลี่แม้กระทั่งเย่ลู่เสินเสวียนเอง แม้ลูกนอกสมรสของเขาเสียชีวิต เขายังไม่รู้สึกสะเทือนใจมากนัก นับประสาอะไรกับฮาเลยต้าลี่สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกขมขื่นคือ ฮาเลยต้าลี่ตายอย่างน่าอับอาย โดยฝีมือต้าฉินฮาเลยต้าลี่ถูกหลี่เฉินใช้ปืนจ่อปากยิงจนตาย ตอนนี้ปากของเขายังคงเปิดอ้ากว้าง เผยให้เห็นฟันสีขาวและลิ้นซีดเผือด ภายในปากเต็มไปด้วยเลือดสีดำที่แห้งจนแข็ง มองดูน่ากลัวและน่าขยะแขยงเย่ลู่เสินเสวียนสั่งให้พลิกศพของฮาเลยต้าลี่ไปอีกด้าน เผยให้เห็นบาดแผลที่ด้านหลังศีรษะ ซึ่งเป็นรูขนาดเท่ากำปั้นเด็กบริเวณแผลยังคงมีเลือดและเศษสมองหลงเหลืออยู่ เมื่อมองผ่านรูเข้าไป สามารถเห็นกะโหลกที่ภายในว่างเปล่าเกือบครึ่ง ภาพที่เห็นนี้ หากคนจิตใจอ่อนแอคงร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 812

    หลังฟังคำอธิบายของหลี่เฉิน กงฮุยอวี่รู้สึกว่า คนที่เล่นการเมืองเหล่านี้ ช่างมีจิตใจสกปรกเหลือเกินทุกการกระทำเล็กๆ ล้วนแฝงความหมายอันลึกซึ้งไม่น่าแปลกใจที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำนักบัวขาวแม้จะมีผู้นำที่เก่งกาจหรือศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ถ้าราชวงศ์หลี่ทั้งหมดมีระดับความสามารถเช่นนี้ สำนักบัวขาวที่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ จะเอาอะไรไปสู้กับราชสำนัก?เพียงแค่เล่ห์เหลี่ยมไม่กี่อย่าง ก็สามารถปั่นหัวเหล่าผู้คนของสำนักบัวขาวได้แล้วเมื่อนึกถึงอดีตราชวงศ์ที่แม้จะอ่อนแออย่างถึงที่สุด แต่คำสั่งปราบดินแดนเพียงฉบับเดียวก็ทำให้วีรชนแห่งเขาเหลียงซานหนึ่งร้อยแปดคนแยกย้ายกันไป กงฮุยอวี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าหนทางของสำนักบัวขาวช่างมืดมนเหลือเกินนางสลัดความคิดวุ่นวายเหล่านี้ออกไป ก่อนตอบกลับด้วยท่าทีเย็นชา "ต้องการให้ข้าลงมือเมื่อไหร่?"เมื่อเห็นว่ากงฮุยอวี่ตอบรับ หลี่เฉินถอนหายใจโล่งอกทันทีและกล่าวว่า "คืนนี้!"กงฮุยอวี่มองหลี่เฉินลึกซึ้งครั้งหนึ่งก่อนหมุนตัวเดินจากไปหลี่เฉินอารมณ์ดีขึ้นวั่นเจียวเจียวเดินถือของว่างมาพอดี พร้อมพูดว่า "องค์รัชทายาทสนมกล่าวว่าองค์ชายยังไม่ไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 811

    หลี่เฉินแค่นเสียงเย็นออกมาแม้เขาจะไม่พอใจที่หน่วยบูรพาทำงานล้มเหลว แต่ก็เข้าใจว่านี่ไม่ใช่ความผิดของหน่วยบูรพาโดยลำพังหลี่อิ๋นหู่และจ้าวเสวียนจีร่วมมือกัน การหลบซ่อนจากสายตาของหน่วยบูรพาไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นอะไรต้องไม่ลืมว่าเมื่อหน่วยบูรพาก่อตั้งขึ้น จ้าวเสวียนจีได้มีอำนาจมหาศาลอยู่ก่อนแล้วหลายปีที่ผ่านมา หน่วยบูรพาอาจพัฒนาไปไม่น้อย แต่จ้าวเสวียนจีเองก็เติบโตยิ่งกว่า"จับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด"หลี่เฉินกล่าวเสียงหนักแน่น "ข้าต้องการรู้ว่าพวกเขาเตรียมกำลังคนไว้เท่าไหร่ และคิดจะลงมือเมื่อใด"เขาหรี่ตาลงก่อนกล่าวต่อ "การกบฏไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาน่าจะเลือกเวลาพิเศษบางช่วงเพื่อเริ่มเคลื่อนไหว และสิ่งสำคัญที่สุดคือการควบคุมตัวข้า แล้วจึงยึดพระราชวังหลวง""หากสำเร็จ พวกเขาจะผลักดันให้หลี่อิ๋นหู่ขึ้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งองค์รัชทายาท หรือไม่ก็ยิ่งกว่านั้น สังหารข้าเพื่อขึ้นครองบัลลังก์โดยตรง"เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ซานเป่าถึงกับแสดงสีหน้าจริงจัง ขณะที่กงฮุยอวี่ผู้ซึ่งปกติไม่สนใจงานราชการก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองอย่างสนใจหลี่เฉินลุกขึ้นเดินไปยังประตูพระที่นั่งซีเจิ้ง มองท้องฟ้าที่มื

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 810

    คำมั่นสัญญานี้ เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของจ้าวหรุ่ยเต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งตลอดชีวิตไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แม้แต่ครอบครัวของบิดานาง ก็จะได้รับหลักประกันทางการเมืองในระดับหนึ่งจากตำแหน่งสนมของนางแม้หลี่เฉินจะไม่ใช่คนที่มักให้สิทธิพิเศษหรือผลประโยชน์แก่จ้าวเหอซานเพียงเพราะจ้าวหรุ่ย แต่หากวันใดจ้าวเหอซานทำผิดพลาด หลี่เฉินก็อาจยอมละเว้นชีวิตของเขาเพื่อเห็นแก่จ้าวหรุ่ยจ้าวหรุ่ยเข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดีสำหรับนาง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทรยศจ้าวเสวียนจีมาก่อน การได้รับคำมั่นนี้ถือเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความรักลึกซึ้งที่หลี่เฉินมีให้นางจ้าวหรุ่ยจึงคิดจะคุกเข่าลงขอบคุณแต่กลับถูกหลี่เฉินจับตัวไว้"หม่อมฉัน ขอบพระทัยองค์ชายเพคะ" จ้าวหรุ่ยกล่าวด้วยความตื้นตัน"พักผ่อนให้ดีเถอะ ข้าจะกลับมาร่วมทานอาหารค่ำกับเจ้า"หลังจากปลอบใจจ้าวหรุ่ยเรียบร้อย หลี่เฉินก็ลุกออกจากตำหนักเมื่อมาถึงพระที่นั่งซีเจิ้ง ซานเป่ากำลังรออยู่แล้วโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ซานเป่าก็รีบนำข่าวสารจากสวีเว่ยส่งให้หลี่เฉินทันทีหลี่เฉินเพิ่งอ่านจบ กงฮุยอวี่ก็กลับมากงฮุยอวี่หันมารายงานหลี่เฉินทันที โดยไม่สนใจซานเป่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 809

    หลงไหวอวี้ไม่ได้มีเพียงอาจารย์ลึกลับผู้นั้นคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่ยังมีอ๋องแห่งแคว้นอีกผู้หนึ่ง ซึ่งหลี่อิ๋นหู่รู้อยู่ก่อนแล้วทว่าอ๋องผู้นั้นคือผู้ใดกันแน่ หลี่อิ๋นหู่กลับไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ เลยแต่ก่อนเขายังพอจะรอคอยได้อย่างใจเย็น ทว่าตอนนี้สถานการณ์พลิกผันรวดเร็วจนเขาไม่อาจนิ่งนอนใจอีกต่อไป ทำให้ต้องเสี่ยงชีวิตเดิมพันครั้งนี้เขาต้องการรู้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังหลงไหวอวี้และอาจารย์ส่วนการเฝ้าจับตาสวีเว่ยนั้น เป็นเพียงเพราะเขาระแวดระวังเป็นนิสัย โดยไม่เชื่อใจผู้ใดอย่างเต็มที่หลี่อิ๋นหู่ไม่คิดว่าสวีเว่ยจะทรยศเขาได้ตลอดมาหลายเรื่องราวพิสูจน์ให้เห็นว่าสวีเว่ยเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์หาได้ยากแต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ ในขณะที่เขาสั่งให้คนสนิทไปจับตาสวีเว่ยอยู่นั้น สวีเว่ยซึ่งเขามองว่าเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ กลับส่งข่าวสารทั้งหมดไปยังตำหนักบูรพาผ่านทางเครือข่ายของหน่วยบูรพาทันทีที่ก้าวออกจากจวนอ๋องหลังส่งข่าวสำคัญไปแล้ว สวีเว่ยไม่กล้าแสดงท่าทีใดให้เป็นที่สงสัย เขาทำตามคำสั่งของหลี่อิ๋นหู่โดยตรง มุ่งหน้าไปยังประตูตะวันตกเพื่อพบกับนักพรตปลอมตัวที่หลี่อิ๋นหู่กำหนดไว้ พร้อมรับ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 808

    “ถูกต้อง ช่วงนี้การตัดสินใจสำคัญหลายอย่างของข้าก็ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเจ้า แต่การตัดสินใจที่ดีแค่ไหน ก็ยังเป็นการปรับตัวให้เหมาะสมกับเงื่อนไขปัจจุบันเท่านั้น มิอาจช่วยให้ข้าเพิ่มอำนาจในระยะเวลาอันสั้นได้”หลี่อิ๋นหู่กล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ข้าไม่มีเวลาแล้ว และตำหนักบูรพาเองก็จะไม่ให้ข้าได้มีเวลานั้น ดังนั้นสิ่งที่ข้าต้องการคือการตัดสินใจเสี่ยงสุดตัว เพื่อสร้างหนทางรอดใหม่!”หลงไหวอวี้ยังคงรักษาสีหน้าสงบนิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกใดๆแต่ปฏิกิริยาดังกล่าวกลับแฝงความไม่พอใจเอาไว้อย่างชัดเจนเขาประสานมือคำนับแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อท่านอ๋องมีใจมุ่งมั่นเช่นนี้ ไหวอวี้จะเร่งติดต่ออาจารย์ให้เร็วที่สุด พวกเราสองคนจะพยายามช่วยท่านอ๋องขึ้นครองบัลลังก์อย่างเต็มกำลัง”“แต่ข้าขอถามท่านอ๋องว่า ท่านอ๋องได้ตกลงอะไรกับจ้าวเสวียนจีไว้บ้าง หรือว่าจ้าวเสวียนจีได้เปิดเผยไพ่ในมือให้ท่านเห็นมากน้อยเพียงใด?”หลี่อิ๋นหู่เลิกคิ้วเล็กน้อย ดวงตาฉายแววครุ่นคิดแม้หลงไหวอวี้จะเป็นที่ปรึกษาคนสนิท แต่เขาและอาจารย์ยังคงลึกลับเกินไป หลี่อิ๋นหู่ไม่อาจมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้พวกเขาได้ด้วยเหตุนี้ บางเรื

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 807

    “แต่หากล้มเหลว ข้าเองก็ไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ และคนในจวนอ๋องกว่าร้อยชีวิตก็อย่าหวังว่าจะรอด ด้วยนิสัยขององค์รัชทายาท ต่อให้เป็นไข่ไก่ในครัวก็ยังต้องถูกเขย่าให้แตกหมด”หลี่อิ๋นหู่ตบลงบนบ่าของสวีเว่ยอย่างหนัก พลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เจ้าและข้าล้วนอยู่บนเรือลำเดียวกัน หากข้าพ่ายแพ้ เจ้าก็หนีไม่พ้น ดังนั้นเรื่องนี้สำคัญถึงชีวิต ข้าเชื่อว่าเจ้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ”ใครบอกว่าข้ากับเจ้าลงเรือลำเดียวกัน!ชีวิตข้าเป็นสุนัขขององค์รัชทายาท แม้ตายก็เป็นสุนัขตายขององค์รัชทายาท!สวีเว่ยแอบคิดในใจอย่างเดือดดาล แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความซื่อสัตย์ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “โปรดวางใจเถิดท่านอ๋อง กระหม่อมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อท่าน ไม่ว่าจะลำบากเพียงใด”หลี่อิ๋นหู่พยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนโบกมือและพูดว่า “ไปเถอะ”สวีเว่ยที่กำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือร้นเดินออกจากห้องหนังสือไปเมื่อสวีเว่ยจากไป หลี่อิ๋นหู่ลดสายตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกมาได้แล้ว”จากห้องลับในห้องหนังสือ หลงไหวอวี้ก้าวออกมา“เรื่องทุกอย่างเจ้าได้ยินหมดแล้ว ข้าได้ตัดสิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 806

    สวีเว่ยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาตอบรับทันทีว่า “กล้า!”หลี่อิ๋นหู่พยักหน้าด้วยความพอใจ พลางกล่าวว่า “ดีมาก”เขาไม่ได้สั่งงานทันที แต่เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงช้าๆ ว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้สถานการณ์มันตึงเครียดแค่ไหน? องค์รัชทายาทกับข้า แม้จะเป็นพี่น้อง แต่เขาใจแคบ ย่อมไม่อาจยอมรับการมีอยู่ของข้าได้ และอาจลงมือกับข้าได้ทุกเมื่อ”สวีเว่ยทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ สายตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจสีหน้าของเขาเหมาะเจาะกับที่หลี่อิ๋นหู่คาดการณ์ไว้ใครก็ตามที่ได้ยินความลับเช่นนี้เป็นครั้งแรก ย่อมต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้แต่สิ่งที่หลี่อิ๋นหู่ไม่รู้คือ ความตกใจของสวีเว่ยมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เสแสร้ง อีกครึ่งหนึ่งมาจากความจริงที่ว่า หลี่อิ๋นหู่ไว้ใจเขาถึงขนาดบอกความลับสำคัญเช่นนี้“ข้าอยากจะช่วยองค์รัชทายาทอย่างสุดกำลัง แต่เขากลับไม่ไว้ใจข้า สวีเว่ย เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี?”สวีเว่ยรีบตอบว่า “กระหม่อมไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ กระหม่อมรู้เพียงว่า ชีวิตของกระหม่อมเป็นของท่านอ๋อง หากท่านอ๋องต้องการสิ่งใด กระหม่อมย่อมปฏิบัติตาม ไม่ว่าใครคิดจะทำร้ายท่านอ๋อง ก็ต้องข้ามศพกระหม่อมไปก่อน!”หลี่อิ๋

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status