แชร์

บทที่ 169

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-31 18:00:00
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้โหวอวี้ซูที่อยู่ข้างๆ ตกใจ มือที่จับตะเกียบจึงพลอยสั่นไปด้วย

เสียงเคร้งดังขึ้น เป็นตะเกียบในมือของโหวอวี้ซูที่ร่วงลงพื้น จนเกิดเสียงดังกังวานขึ้นมา

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของพ่อบ้านและต้วนจิ่นเจียงที่จ้องมองมา โหวอวี้ซูก็อยากจะหารอยร้าวบนพื้นแล้วมุดเข้าไปในนั้น

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเขารู้สึกหวาดกลัว

ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เข้าสู่เส้นทางของขุนนาง แต่ใครในใต้หล้าบ้างที่ไม่รู้จักความน่ากลัวของหน่วยบูรพา ผู้ที่ถูกจับกุมไปนั้นมีใครเคยกลับมาบ้าง?

หน่วยบูรพาจับกุมต้วนจั่งเหมียนและส่งเขาเข้าคุกจริงๆ นี่ไม่ใช่คดีปกติ แต่เป็นเหตุการณ์ทางการเมือง มีคนกำลังมุ่งเป้ามาที่ต้วนจิ่นเจียง

“หลานชาย...ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ…”

แค่ได้ยินเสียงสายก็ทราบความนัย โหวอวี้ซูได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นมาทันที ประสานมือแล้วกล่าวว่า “อวี้ซูนึกขึ้นได้ว่า ท่านอาจารย์กำลังรอให้อวี้ซูกลับไปรายงาน เช่นนั้นข้าขอลาก่อน”

พูดจบ โหวอวี้ซูก็จากไป ต้วนจิ่นเจียงที่ตอนนี้ตกอยู่ในอาการสับสน ยังจะมีแก่ใจอวดความหรูหราของตนกับโหวอวี้ซูต่อหรือ ดังนั้นเขาจึงโบกมือและปล่อยเขาไป

รอจนโหวอวี้ซูจาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 170

    หลังจากที่ต้วนจิ่นเจียงวิเคราะห์ พ่อบ้านก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที “นายท่าน ท่านหมายถึง...องค์รัชทายาทกำลังลงมือกับพวกเราหรือ!?”ต้วนจิ่นเจียงมีสีหน้าเคร่งเครียด และพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่แน่ใจนัก มันเป็นเพียงการเดาของข้า แต่การคาดเดานี้ อาจจะเป็นจริงได้...”“เจ้าไปเตรียมรถม้าก่อน ข้าจะไปที่จวนจ้าวสักครา...จากนั้น เจ้าก็คอยสืบข่าวต่อไป อย่างแรกคือค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นที่จุดพักแรมวันนี้ อย่างที่สองคือดูว่าวันนี้องค์รัชทายาทออกจากตำหนักบูรพาหรือไม่ หากมีข่าวใดๆ รีบรายงานข้าตอนกลับมาทันที”“บ่าวจะจัดการทันที”“รีบไป!” ……ตำหนักบูรพา พระที่นั่งสีเจิ้ง“ฝ่าบาท เพิ่งมีข่าวมาถึงว่า ต้วนจิ่นเจียงเดินทางไปที่จวนจ้าวแล้ว”เฉินทงยืนรายงานอย่างนอบน้อมอยู่กลางห้องโถงหลี่เฉินกำลังดูสาส์นกราบทูลข้อราชการของวันนี้ เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็จิบชาในมือแล้วพูดโดยไม่ยกเปลือกตาขึ้นว่า “ข้าทราบแล้ว”เมื่อมองดูสาส์นกราบทูลข้อราชการในมือของเขา หลี่เฉินก็พูดด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “สาส์นกราบทูลฉบับนี้ เป็นของกวนเหยียนเทา ปลัดมณฑลเจียงเจ้อที่ยื่นมา เขากล่าวว่าการป้องกันทางชายฝั่งมณฑลเจียงเจ้อจำเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 171

    นั่นเป็นคําพูดที่ชาญฉลาดไม่เพียงแต่แสดงทัศนคติของตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้สถานการณ์สมบูรณ์แบบอีกด้วยหลี่เฉินยิ้มหลังจากได้ยินสิ่งนี้ แต่ในใจแทบจะให้คะแนนเฉินทงไม่ผ่านเลยเฉินทงแค่คิดมากเกินไปซานเป่ายังฉลาดกว่าเขาหากเป็นสถานการณ์เดียวกัน ถ้าเป็นซานเป่าตอบ เขาคงแสดงความปรารถนาอยากจะมีอำนาจอย่างเปิดเผยอย่างแน่นอนเนื่องจากเฉินทงไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นหลี่เฉินหรือจักรพรรดิองค์ปัจจุบันผู้ก่อตั้งหน่วยบูรพา ซึ่งยังนอนอยู่บนแท่นมังกร โดยไม่อาจขยับตัวได้ในขณะนี้พวกเราไม่กลัวความทะเยอทะยานของคนที่อยู่ต่ำกว่า แม้กระทั่งยิ่งทะเยอทะยานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้นเพราะมีเพียงคนที่มีความทะเยอทะยานเท่านั้นที่จะคิดทำสิ่งต่างๆ เพื่อควบคุมมันมิฉะนั้นจักรพรรดิองค์ปัจจุบันจะมอบอำนาจทั้งหมดของหน่วยบูรพาให้กับซานเป่าได้อย่างไร?“ข้าทราบแล้ว”หลี่เฉินไม่คิดที่จะชี้แนะเลยสักนิดเรื่องแบบนี้ เฉินทงต้องเข้าใจด้วยตัวเอง หากไม่เข้าใจ เขาจะเป็นเพียงผู้บัญชาการขององครักษ์เสื้อแพรไปตลอดชีวิต และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวหน้าได้จากทัศนคติที่สงบของหลี่เฉิน เฉินทงจึงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหลี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 172

    “ใช่แล้ว นี่แหละ!”หลี่เฉินดีใจมากเวลานี้ ปริมานผลผลิตของจักรวรรดิต้าฉินโดยเฉลี่ยแล้วมีเพียงสองต้านต่อหมู่ เมื่อคำนวณสิ่งนี้ จะมีผลผลิตไม่เกิน 300 ชั่ง[footnoteRef:1] [1: 1 ชั่ง = ครึ่งกก.] เรียกได้ว่าค่อนข้างน่าสังเวชเลยทีเดียวแต่ไม่มีทางเลือก ก่อนที่ปุ๋ยเคมีและเทคโนโลยีชลประทานจะก้าวหน้า ปริมานผลผลิตเช่นนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดโดยพื้นฐานตลอดสมัยศักดินา โดยพื้นฐานแล้วผลผลิตธัญพืชต่อหมู่ไม่ได้มีความผันผวนมากนัก เพราะทั้งหมดนี้ปลูกด้วยกำลังคน และเมล็ดพืชก็มีทั้งดีและไม่ดี การเก็บเกี่ยวจะเป็นเช่นไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการอวยพรของเหล่าทวยเทพ “สิ่งนี้เรียกว่ามันเทศ มันสามารถใช้เป็นอาหารหลักแทนธัญพืชได้ มันมีประโยชน์มาก เพียงแค่ล้างและปอกเปลือก ก็สามารถทานดิบๆ ได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปปรุงสุกเพื่อรับประทานได้อีกด้วย หรือถ้าหากตากแห้งก็สามารถเก็บไว้ได้นานเช่นกัน หากไม่ได้ผล หลังจากบดเป็นผงแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารได้หลากหลาย”หลี่เฉินหยิบถุงผ้าใบเล็กออกมา นี่คือกุญแจสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนในต้าฉิน“สิ่งสำคัญที่สุดคือ เพียงแค่ปลูกสิ่งนี้และดูแลอย่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 173

    “เจ้าพูดเช่นนี้ หากข้าไม่ให้รางวัลเจ้าจริงๆ เจ้าจะไม่เสียใจทีหลังหรือ?” หลี่เฉินกล่าวยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดีหลิวซือฉุนพูดด้วยความเคารพ “ไม่เสียใจในภายหลังเพคะ”หลังจากมองหลิวซือฉุนอย่างลึกซึ้งแล้ว หลี่เฉินจึงพูดว่า “ในอนาคต เมื่อสิ่งนี้ได้รับการส่งเสริมเป็นวงกว้าง ข้าจะแบ่งกำไรให้ตระกูลหลิวหนึ่งส่วน”คำสัญญานี้มีค่ามากกว่าทองหนึ่งพันชั่งแม้แต่คนโง่ก็รู้ว่า ถ้ามันเทศนี้ให้ผลผลิตสูงจริงๆ แม้กำไรหนึ่งส่วนจะฟังดูน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะฆ่าคนได้ใบหน้างามของหลิวซือฉุนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง นางโค้งตัวไปข้างหน้าและพูดว่า “ขอบพระทัยองค์รัชทายาท!”“แค่นี้เองหรือ?”หลี่เฉินยกมือเชยคางของหลิวซือฉุนขึ้น เพื่อให้นางเงยหน้าสบตาเขา จากนั้นก็กล่าวอย่างสบายๆ ว่า “ไม่มีอย่างอื่นเลยหรือ?”หลิวซือฉุนใจสั่น และก้าวถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยงมือของหลี่เฉินตามสัญชาตญาณ นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันจะกลับไปสั่งคนให้รวบรวมมันเทศ หากฝ่าบาทไม่มีธุระอื่นใดแล้ว หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ”หลี่เฉินหรี่ตาเล็กน้อยเขาโลภเสน่ห์สาวใหญ่ของหลิวซือฉุนมาเป็นเวลานานแล้วสตรีที่เหมือนท้อสุกประเภทนี้ เต็มไปด้วยออร่าอันแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 174

    “พี่รอง วันนี้แตกต่างจากในอดีต พวกเรามีเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงต้องคิดคำนวนอย่างระมัดระวังเป็นธรรมดา” หลิวซือฉุนขมวดคิ้วเล็กน้อย และอธิบายอย่างอดทนคำพูดนี้หากไม่พูดออกมาน่าจะดีกว่า เพราะทันทีที่พูดออกมา ชายหนุ่มก็โกรธจัดทันที“เจ้ายังกล้าจะพูดอีกเหรอ?”“เมื่อก่อนครอบครัวหลิวของพวกเราใช้ชีวิตแบบไหน แล้วตอนนี้พวกเราใช้ชีวิตแบบไหน?”“เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าชื่นชอบขวดยานัตถุ์เครื่องเครือบอันหนึ่งแต่กลับไม่มีเงินซื้อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าของร้านมองข้าด้วยสายตาแบบไหน? เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เพียงแค่ข้ามาถึง พวกเขาก็กระดิกหางเข้ามาประจบข้าเหมือนสุนัข แต่มันเป็นเพราะความคิดโง่ๆ ของเจ้า ตอนนี้ครอบครัวของเราจึงยากจน ไม่ว่าข้าจะไปที่ไหนก็ถูกผู้คนมองอย่างดูแคลน!”ชายหนุ่มคนนั้นยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ยิ่งพูดยิ่งเสียงดังคนในตระกูลที่อยู่ข้างๆ คนหนึ่งก็ดึงแขนเสื้อของเขา พลางกระซิบพูดว่า “นายท่านรอง หยุดพูดได้แล้ว”แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็สะบัดมือแล้วกล่าวว่า “เจ้าจะหยุดข้าทำไม? ข้าเก็บคำพูดเหล่านี้ไว้นานแล้ว และอยากจะพูดมันมาตั้งนาน”“ให้เขาพูด!”หลิวซือฉุนตะโกน ดวงตาเมล็ดซิ่งพลันเบิกกว้าง นางนั่งอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 175

    ประโยคนี้ หลิวซือฉุนไม่ได้พูดเร็วเลย ระดับน้ำเสียงก็ไม่ได้สูงด้วย แต่ในหูของทุกคนตระกูลหลิว กลับได้ยินเสียงดังฟังชัดประหนึ่งฟ้าร้องพวกเขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ที่สมาชิกตระกูลเฉินและตระกูลหูมากกว่าร้อยคน ยืนเรียงแถวเพื่อถูกตัดหัวหน้าตลาดทีละคน ในเวลานั้น ผู้คนรอบข้างต่างปรบมือและโห่ร้องเสียงดังเมื่อเผชิญหน้ากับฉากนองเลือดนี้ ทว่าขนบนตัวพวกเขากลับลุกชัน เหงื่อเย็นๆ ก็ไหลอาบหน้า“พวกเจ้ายังมีหน้ามาด่าข้าลับหลังว่าไร้ยางอาย ที่ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลหลิวให้แก่องค์รัชทายาท ถึงขั้นไม่รู้จักอายที่ใส่พานยกถึงหน้าประตูบ้าน คำพูดไม่น่าฟังเหล่านั้นเจ้านึกว่าข้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”หลิวซือฉุนเยาะเย้ย “ข้าแค่ไม่สนใจเรื่องนี้จริงๆ แค่ตระกูลสามารถอยู่ต่อได้ ก็สามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง ในสายตาของข้า เรื่องนี้สำคัญยิ่งกว่ามานั่งโต้เถียงเรื่องงี่เง่ากับพวกเจ้า”ทั่วทั้งห้องพลันเงียบกริบคำพูดของหลิวซือฉุนแม้จะดูหยาบคาย แต่ทุกคนก็รู้ว่ามันเป็นความจริงเพียงแต่ยังมีบางคนที่ไม่เต็มใจที่จะยอมรับความจริงที่ว่า โชคลาภของครอบครัวตกต่ำลงเมื่อเทียบกับอดีตเมื่อไม่มีใครพูด หลิว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 176

    ตบนี้ หลิวซือฉุนลงมือด้วยความโกรธจัดใบหน้าขาวผ่องของหลิวซือต๋าก็บวมแดงขึ้นมาทันที หลิวซือต๋าที่ถูกตบก็ตะลึงด้วยเช่นกัน เขายกมือกุมหน้า และมองหลิวซือฉุนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ใช้เวลาสักพักกว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาตะโกนเสียงดังว่า “เจ้าตบข้า!? เจ้ากล้าตบข้า!? ข้าคือพี่รองของเจ้า นายท่านสองของตระกูลหลิว แต่เจ้ากลับกล้าตบข้า!? เจ้ายังมีลำดับชั้นผู้ใหญ่อยู่ในสายตาบ้างไหม!?”“อะไรที่เรียกว่าลำดับชั้นผู้ใหญ่?!”หลิวซือฉุนกัดฟันด้วยความโกรธ และกล่าวเสียงแหลมว่า “ข้าคือผู้รับผิดชอบตระกูล ถ้าพูดถึงลำดับชั้นแล้ว ข้าอยู่เหนือกว่าเจ้า แล้วมันผิดตรงไหนที่ข้าจะตบเจ้า?”“ในฐานะพี่รอง เจ้าทรยศน้องสาวของเจ้าเพื่อเงินเพียงสองพันตำลึง ข้าควรตบเจ้าไหม?”“ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลหลิว เจ้าร่วมมือกับคนนอกเพื่อจัดการกับผู้รับผิดชอบตระกูล เจ้าสมควรโดนตบไหม?”ใบหน้าของหลิวซือฉุนเย็นชาราวกับน้ำแข็ง และยังพูดต่อว่า “ตบนี้ ยังเบาเกินไปด้วยซ้ำ!”“เข้ามา!”สิ้นเสียงของหลิวซือฉุน ประตูก็เปิดออก จากนั้นก็มีข้ารับใช้สองสามคนที่พอมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้างเดินเข้ามา ครอบครัวหลิวเป็นพ่อค้า จึงเลี่ยงไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 177

    ทันทีที่เห็นเฉินทง หัวใจส่วนใหญ่ของหลิวซือฉุนก็กลับไปอยู่ในท้องนางรู้จักสถานะของเฉินทงดี และรู้ด้วยว่าเฉินทงเป็นคนสนิทของหลี่เฉิน ดังนั้นเมื่อเขามาที่นี่ เขาจะไม่วางแผนทำร้ายนางอย่างแน่นอน“รองผู้บัญชาการเฉิน”หลิวซือฉุนโค้งคำนับแบบตื้นๆเมื่อเฉินทงเห็นเช่นนั้นก็รีบหลีกทางในทันที ไม่กล้ารับการคารวะ“ผู้ดูแลหลิวเกรงใจเกินไปแล้ว ไม่ต้องคารวะข้าก็ได้ ไม่ควร ไม่ควรเลย”เฉินทงประเมินว่าองค์รัชทายาทน่าจะสนใจหลิวซือฉุนมากหากสิ่งนี้เป็นความจริง หลิวซือฉุนอาจจะเป็นพระสนมในอนาคตขององค์รัชทายาทก็ได้ และหลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จขึ้นครองราชย์ นางก็จะได้เป็นสนมขั้นเฟย ต่อให้เขาจะถูกทุบตีจนตาย เขาก็ไม่กล้ารับการคารวะของหลิวซือฉุนหรอกความสุภาพของเฉินทง ทำให้หลิวซือฉุนสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางแค่คิดว่ามันเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของหลี่เฉิน ดังนั้นนางจึงพูดว่า “ไม่ทราบว่ารองผู้บัญชาการเฉินมาเยือนที่นี่ยามวิกาล มีสิ่งใดให้ข้าน้อยช่วยได้บ้าง?”เฉินทงยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าต้องการความช่วยเหลือจากผู้ดูแลหลิวจริงๆ”ขณะที่พูด เฉินทงก็โบกมือ และกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ไปพาตัวคนม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-02

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 702

    หลิวซือฉุนพักอยู่ในเมืองหลวง และดูเหมือนจะรู้ดีว่าหลี่เฉินจะเรียกพบนางในไม่ช้า ดังนั้นจึงไม่ไปที่ไหน เพียงแค่รออยู่ที่บ้านครึ่งชั่วยามต่อมา หลิวซือฉุนก็ปรากฏตัวในพระที่นั่งสีเจิ้ง“หม่อมฉันหลิวซือฉุน ขอคารวะองค์รัชทายาท”แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ แต่หลิวซือฉุนยังคงรู้สึกอึดอัดจากบรรยากาศแห่งราชวงศ์ที่หนักแน่นทุกครั้งหลี่เฉินมองดูหลิวซือฉุนที่คำนับอย่างไร้ที่ติ แล้วกล่าวว่า “รูปร่างเจ้าอวบอิ่มขึ้นไม่น้อย”หลิวซือฉุนขมวดคิ้ว ถามว่า “องค์ชายกำลังบอกว่าหม่อมฉันอ้วนหรือเพคะ?”หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “หากเป็นคนอื่นคงอ้วน แต่สำหรับเจ้า ไม่เหมือนกัน”หลี่เฉินมองดูหลิวซือฉุนที่มีกลิ่นอายของหญิงสาวนักธุรกิจเด่นชัดขึ้นทุกวัน เขารู้สึกสนุกที่ได้เห็นการเติบโตของนางการที่ได้บ่มเพาะหญิงแกร่งทางการค้าอย่างนี้ด้วยตนเอง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่เลวโดยเฉพาะเมื่อหญิงแกร่งคนนี้ ไม่ว่าอยู่ภายนอกจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ต่อหน้าเขา กลับว่านอนสอนง่ายราวกับลูกแกะต้องบอกว่า...เป็นรัชทายาทนี่มันดีจริง“ช่วงนี้การเปิดธนาคารเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว”หลังจากสล

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 701

    สวีฉังชิงมีความสามารถอยู่บ้าง แม้จะมีข้อเสียที่เห็นได้ชัดเช่นกัน แต่หลี่เฉินยังคงวางใจมอบหมายงานของธนาคารให้เขาทำ หากไม่ใช่ปัญหาจริงๆ สวีฉังชิงย่อมไม่มาบ่นถึงตำหนักบูรพาแน่ไม่มีผู้นำคนใดชอบลูกน้องที่โยนปัญหาให้หัวหน้าจัดการอยู่เสมอสวีฉังชิงเข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งดังนั้นคำพูดของสวีฉังชิง หลี่เฉินจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งเขาวางฎีกาในมือลงแล้วกล่าวว่า “ปัญหาอะไรหรือ?”สวีฉังชิงกล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า “ตอนนี้ธนาคารสองแห่งในเมืองหลวงใกล้จะเปิดทำการแล้ว การตั้งสาขาในพื้นที่นครบาลค่อนข้างราบรื่น แต่เมื่อออกจากพื้นที่นครบาล ไปตั้งสาขาในมณฑลอื่นกลับพบกับความยากลำบากมากมาย”“ตามที่กรมครัวเรือนออกเอกสารมา ได้ขอให้ที่ว่าการอำเภอในท้องถิ่นจัดหาสถานที่สำหรับธนาคาร อีกทั้งยังให้เงินทุนหมุนเวียนของที่ว่าการอำเภอฝากไว้ที่ธนาคารด้วย แต่ในตอนนี้ที่ว่าการอำเภอหลายแห่งกลับอ้างว่าไม่มีสถานที่ว่าง หรือไม่มีเงินสำรองอยู่ในสำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่น เหตุผลมากมายเหล่านี้ล้วนเป็นข้ออ้างเพื่อขัดขวางการเปิดทำการของธนาคาร”สวีฉังชิงกล่าวอย่างโมโหว่า “แต่เดิมราษฎรยังพอสนใจธนาคารที่เปิดโดยราชสำนักอยู่บ้า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 700

    “ข้าดูแล้ว เห็นว่าสิ่งนี้เมื่อยิงออกไป กระสุนที่ออกจากลำกล้องมีวิถีที่ไม่มั่นคง ถูกปัจจัยอย่างแรงลมส่งผลกระทบได้ง่าย ดังนั้น อาจพิจารณาเพิ่มลายเกลียวในลำกล้อง เพื่อให้กระสุนหมุนเป็นเกลียวระหว่างบิน เช่นนี้จะช่วยเพิ่มความเสถียรในการยิงได้อย่างมาก”ช่างฝีมือมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความระมัดระวังว่า “องค์ชายกล่าวถึงสิ่งที่เรียกว่าลายเกลียวใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”หลี่เฉินมองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะถามด้วยความกระอักกระอ่วนเล็กน้อยว่า “เจ้า...รู้หรือ?”ช่างฝีมือผู้นั้นรีบโค้งคำนับแล้วตอบว่า “เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ตอนที่เราปรับปรุงปืนใหญ่ ได้ค้นพบว่าการเพิ่มลายเกลียวในลำกล้องช่วยเพิ่มระยะและความแม่นยำได้อย่างมาก คิดไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทจะทราบเรื่องนี้ องค์ชายช่างเป็นผู้มีปัญญาเกินคนยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ”สำหรับคำเยินยอเช่นนี้ หลี่เฉินรู้สึกกระดากใจอยู่บ้างเขาหัวเราะเบาๆ เพื่อข้ามเรื่องนี้ไป แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้าทราบถึงหลักการของลายเกลียวแล้ว เช่นนั้นการทำก็คงไม่ยากใช่หรือไม่?”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ”ช่างฝีมือตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “สองข้อเสนอขององค์ชาย หากเร่งมือจริงๆ เพียงสอง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 699

    แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานมานาน แต่ช่างฝีมือคนนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความชำนาญ เขาดำเนินการบรรจุกระสุนอย่างคล่องแคล่วในขณะที่หลี่เฉินกำลังรอ กวนจือเหวยที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยถามด้วยความสงสัย "องค์ชาย เหตุใดพระองค์จึงสนพระทัยในสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ขึ้นมาได้?"หลี่เฉินตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ของสิ่งนี้มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ แต่พวกเจ้ากลับทำให้มันต้องถูกละเลย"กวนจือเหวยยิ้มแห้งๆ แต่ในใจกลับไม่เชื่อมั่นเขาคิดในใจว่าองค์ชายไม่ตั้งพระทัยในหน้าที่ของรัชทายาท กลับมาสนใจของเล่นเช่นนี้แม้องค์ชายจะฉลาดล้ำเลิศ แต่จะเก่งไปทุกเรื่องหรือ?ในขณะสนทนา ช่างฝีมือก็เสร็จสิ้นการบรรจุกระสุนหลี่เฉินเดินออกจากพระที่นั่งสีเจิ้ง มุ่งหน้าไปยังลานกว้าง ยกปืนขึ้นเล็งไปยังต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าก้าวปืนไฟนี้ยังคงใช้ดินปืน ซึ่งมีความเสี่ยงพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากไม่ได้รับการดูแลมานาน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกกังวลเพราะหากเกิดระเบิดขึ้นมาจะไม่มีใครรอดพ้นความผิดกวนจือเหวยมองด้วยความตกใจ รีบเอ่ยเตือน "องค์ชาย โปรดระวัง..."ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสียงระเบิดดังปังก็ดังขึ้นขัดคำพูดของเขาพร้อมกลิ่นฉุนของดินปื

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 698

    เมื่อได้ยินเสียงตะโกนด่าของจ้าวเสวียนจี เสียงในความมืดเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า "เนื่องจากไม่มีใครเข้าใกล้ตำหนักเฟิ่งสี่ได้ พวกเราจึงได้ยินมาเพียงเสียงรบกวนเล็กน้อย แต่เมื่อมีรายงานเข้ามา ก็น่าจะมีมูลอยู่บ้าง""อย่างไรก็ตาม คาดว่าไม่น่าจะถึงขั้นร้ายแรง"จ้าวเสวียนจีที่โกรธจนหนวดเครากระเพื่อม ตบโต๊ะอย่างแรงก่อนตะโกนออกมา "เจ้าคนสารเลว กล้าดูหมิ่นชิงหลานเช่นนี้ ข้าจะฆ่ามันให้ได้!"หลังจากระบายอารมณ์ออกมา จ้าวเสวียนจีก็ตระหนักว่า เขาอยู่ในสถานะที่ทำได้เพียงโกรธเท่านั้นด้วยการที่คนทั้งหมดในตำหนักเฟิ่งสี่ถูกแทนที่ เขาจึงไม่สามารถติดต่อกับจ้าวชิงหลานได้โดยตรงต้องใช้เวลาไม่น้อยในการสร้างช่องทางใหม่เมื่อคิดได้ดังนั้น จ้าวเสวียนจีก็ลุกขึ้น กล่าวว่า "ไปจัดการ ข้าจะเข้าวัง"เขากระวนกระวายใจอย่างยิ่งที่จะได้รู้ว่าบุตรสาวของเขาถูกหลี่เฉินรังแกจริงหรือไม่แม้ว่าจ้าวเสวียนจีจะเป็นคนเหี้ยมโหดและทะเยอทะยานเพียงใด แต่ในฐานะบิดา ความห่วงใยโดยสัญชาตญาณที่มีต่อบุตรหลานก็ยังคงอยู่"ขอรับ"เสียงหนึ่งดังขึ้นจากในความมืด ไม่มีการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพียงตอบรับสั้นๆ ก่อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 697

    "หากสำเร็จ สามตระกูลจะมั่งคั่งต่อไปอีกหนึ่งศตวรรษ หากล้มเหลว ก็แค่ตัดหัวทั้งตระกูล แต่ในเมื่อหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่แล้ว นั่นก็ถือว่ามีต้นทุนพอสมควร"จ้าวเสวียนจีพูดด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาจับจ้องฟู่อวี้จือและจางปี้อู่ "ที่สำคัญคือ หากเราไม่ทำอะไรเลย ผลลัพธ์จะเลวร้ายยิ่งกว่า เราต้องเดิมพันครั้งใหญ่ ชนะก็ได้ทุกสิ่ง แพ้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี!"ฟู่อวี้จือและจางปี้อู่ไม่ใช่คนโง่เขลา พวกเขาย่อมเข้าใจคำพูดนี้ถึงขนาดเข้าใจความหมายโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม พวกเขารู้ว่านี่เป็นเส้นทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาทนั้นทรงพลังเกินไป และการเติบโตของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว หลี่เฉินไม่ใช่คนที่จะยอมเป็นหุ่นเชิดของสำนักราชเลขา และเมื่ออำนาจอยู่ในมือของเขา การสะสางบัญชีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นในฐานะที่พวกเขาครอบครองผลประโยชน์จากราชสำนักมานานกว่าสิบปี พวกเขาจะเป็นกลุ่มแรกที่ถูกจัดการมันเหมือนกับว่าพวกเขาได้รับพิษร้ายแรง มีเพียงยาเม็ดหนึ่งที่อาจช่วยรักษาได้ แต่ก็มีกึ่งหนึ่งที่อาจทำให้ตายได้ หากไม่กินยา ความตายก็เป็นเรื่อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 696

    ฟู่อวี้จือกล่าวค้านด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "สหายจาง ท่านยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก เหวินอ๋องแม้จะเป็นคนที่อดทนและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเขาเป็นชายที่ยึดมั่นในความรัก เมื่อยี่สิบปีก่อน พระชายาองค์แรกของเหวินอ๋องเสียชีวิตขณะให้กำเนิดบุตร ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยแต่งตั้งใครเป็นพระชายาอีกเลย แม้ว่าเขาจะแต่งตั้งพระสนมหลายคน แต่ก็เป็นเพียงเพื่อรักษาภาพลักษณ์ในสายตาของคนทั่วไป""และบุตรชายคนเดียวที่พระชายาคนนั้นให้กำเนิดก็คือหลี่จวิ้นเจ๋อ""เมื่อหลี่จวิ้นเจ๋อเกิดมา เหวินอ๋องเคยกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าภายหน้าจะมีบุตรอีกกี่คน ตำแหน่งผู้สืบทอดจะเป็นของบุตรชายคนโตเท่านั้น""ราชสำนักรู้ถึงความสำคัญของรัฐทายาทผู้นี้ที่มีต่อเหวินอ๋อง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หลี่จวิ้นเจ๋อถูกควบคุมตัวไว้ในเมืองหลวง เพื่อกดดันเหวินอ๋อง""ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เหวินอ๋องแสดงความจงรักภักดีต่อราชสำนัก ไม่มีท่าทีขัดขืนใด ๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อรัฐทายาท""และในตอนนี้ เมื่อผู้สืบทอดที่เหวินอ๋องให้ความสำคัญที่สุดเสียชีวิตไปแล้ว ท่านคิดว่าเหวินอ๋องจะยอมรับเรื่องนี้ได้ง่ายๆ หรือ?"จ้าวเสวียนจีที่นั่งฟังอยู่กล่าวด้ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 695

    จากแววตาของจ้าวชิงหลาน หลี่เฉินมองเห็นความมุ่งมั่นที่ไม่ใช่เพียงคำพูดเล่น และความตั้งใจที่จะแลกด้วยชีวิต"ท่านฉลาดจริงๆ"หลี่เฉินพูดพลางยกมือบีบปลายคางของจ้าวชิงหลานด้วยท่าทีหยอกล้อ "รู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่สามารถข่มขู่ข้าได้"จ้าวชิงหลานสะบัดมือของหลี่เฉินออกด้วยความโกรธหลี่เฉินลุกขึ้นจากร่างของนางอย่างราบรื่นจ้าวชิงหลานรีบลุกขึ้นทันที จัดระเบียบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายด้วยความเยือกเย็น"ท่านไปได้แล้ว"จ้าวชิงหลานกล่าวต่อหลี่เฉินด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ในตำหนักเฟิ่งสี่อย่างสงบสุขในฐานะฮองเฮา โลกภายนอกนั้นยุ่งเหยิงนัก การที่ท่านไปเกี่ยวข้องย่อมไม่เหมาะสม" หลี่เฉินกล่าวจ้าวชิงหลานหัวเราะเย็นชา "ท่านก็เปลี่ยนคนของข้าทั้งหมดไปแล้ว ข้ายังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?""ถึงข้าจะเปลี่ยนคนของท่านมากเพียงใด แต่ข้ารู้ดีว่าจ้าวเสวียนจียังสามารถติดต่อท่านได้อยู่ดี"หลี่เฉินพูดอย่างไร้ความรู้สึก "แต่ข้าไม่สนใจ สิ่งที่ข้าต้องการคือให้ท่านอยู่อย่างสงบในตำหนักเฟิ่งสี่ และเหตุการณ์เช่นวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"จ้าวชิงหลานแค่นเสียงเย็นชา ไม่ตอบสิ่งใดหลี่เฉินมองนางด้วยสายตาเตือนใจ ก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 694

    ความใกล้ชิดของร่างกายที่แทบจะไม่มีช่องว่างและคำพูดที่เย็นชา ทำให้เกิดความรู้สึกที่ขัดแย้งเหมือนน้ำแข็งและไฟที่ปะทะกันความตึงเครียดที่เกิดขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจทำให้จ้าวชิงหลานเริ่มตัวสั่นเล็กน้อย"ท่าน…หยาบช้า!"ด้วยความอับอายและโกรธสุดขีด จ้าวชิงหลานพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อผลักหลี่เฉินออกไปแต่แรงของนางช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับการจับกุมที่มั่นคงของเขา การดิ้นรนของนางไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้น แต่กลับทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างทั้งสองมากขึ้นบรรยากาศค่อยๆ คลุมเครือ ระหว่างปลายจมูกค่อยๆ ร้อนผ่าวตำหนักเฟิ่งสี่อันโอ่อ่าที่ควรอบอวลไปด้วยบรรยากาศสูงส่งและสง่างาม บัดนี้กลับถูกเติมเต็มด้วยกลิ่นอายที่มิอาจอธิบายได้ อันเกิดจากการพันเกี่ยวกันของชายหนุ่มและหญิงสาว"วันนี้ข้าจะหยาบช้าให้ท่านดูเอง!"หลี่เฉินหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะออกแรงจับข้อมือของจ้าวชิงหลานแล้วกดนางลงบนบัลลังก์เฟิ่งหลวนในยามนี้ จ้าวชิงหลานนอนเอนอยู่บนบัลลังก์ หลี่เฉินโน้มตัวลงมาทับเบาๆ ทั้งสองใกล้ชิดจนมีเพียงเนื้อผ้าบางๆ คั่นกลางกลิ่นหอมจรุงใจลอยล่องอยู่ในอากาศยิ่งจ้าวชิงหลานดิ้นรนหนีเท่าไร ลมหายใจของนางก็ยิ่ง

DMCA.com Protection Status