“หนูทำความสะอาดเสร็จแล้วคะป้า^_^”ใบข้าวเดินมาบอกป้าบัวในมือของเธอถือผ้าขี้ริ้วเพราะเธอเป็นคนทำความสะอาดข้าวสวยที่ฉันสะบัดลงพื้นเองน่ะ“ขอบคุณนะ…”ฉันเอ่ยขอบคุณใบข้าวไปที่เธออาสาไปทำความสะอาดข้าวที่หกแทนฉัน“ไม่เป็นไรเลยค่ะ…แต่หนูเห็นนะคะ…ว่าคุณผู้หญิงคนนั้น…จงใจตักข้าวใส่มือคุณ”ใบข้าวเอ่ยบอกฉันพลางหันไปมองถลึงตาใส่นามิที่นั่งยิ้มเอียงอายอยู่“หึ!”เสียงหึในลำคอของป้าบัวเอ่ยขึ้นพลางจ้องเขม่นไปที่ใบข้าวทำให้เธอเม้มปากหน้าสลดลงทันที“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…คุณเขาไม่ได้ตั้งใจ…งั้นหนูขอไปหายามาทาแผลก่อนนะคะ”“จ้า…”ป้าบัวพยักหน้าพร้อมตอบรับรู้ ฉันก็ยิ้มบางๆให้ท่านและเดินก้มศีรษะออกมาจากห้องอาหารแห่งนั้น โดยมุ่งหน้าไปยังห้องครัวเพื่อหายามาทาแผลที่โดนของร้อนลวกพรึบซ่าาาาาาาาาฉันเปิดน้ำที่ซิงค์ล้างจานล้างมือตัวเองข้างที่โดนข้าวสวยลวกมันค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเมื่อได้สัมผัสกับความเย็น พรึบฉันเดินไปหยิบผ้าสะอาดออกมาจากตู้เก็บผ้าและเช็ดไปตามหลังมือที่เปียกน้ำก่อนจะหันมองไปรอบๆเพื่อหากล่องปฐมพยาบาลยาแต่ก็ไม่พบ “สงสัยอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแน่เลย…”ฉันพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนจะหันไปยัดผ้าที่ฉันใช้แล้วใ
คอนโดเอริ 22:00น. เอริ ฐิติมน….. “ขอบคุณคุณจอมพลมากนะคะ…ที่มาส่ง”ฉันหันไปเอ่ยบอกคุณจอมพลพลางยกมือไหว้ขอบคุณเขา เขาก็ยิ้มและยกมือรับไหว้ฉัน “ไม่เป็นไรหรอก….ยังไงๆเธอก็เหมือนเป็นน้องสาวของพี่อีกคน…” “ค่ะ…ขอบคุณนะคะ” “ขึ้นห้องเถอะ…มันดึกแล้ว” “ค่ะ”ฉันยิ้มบางๆให้คุณจอมพลและปลดสายเบลท์และเปิดประตูรถสปอร์ตคันหรูของคุณจอมพลลงมา พรึบ ฉันยืนส่งคุณจอมพลจนรถสปอร์ตของเขาแล่นออกไปจากคอนโดฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงหันหลังเดินเข้าไปในคอนโดหรูของฉันที่ขุนศึกเป็นคนซื้อให้ฉันเมื่อสองปีที่แล้วที่จริงเขาซื้อรถยนต์ให้ฉันเป็นรถยี่ห้อดังสีขาวแต่ฉันไม่ค่อยได้ขับส่วนมากจะขับรถของขุนศึกเป็นประจำ วันนี้ฉันไม่ได้ขับรถไปทำงานจะนั่งแท็กซี่กลับคุณจอมพลก็ไม่ยอม เขาอาสามาส่งฉันแทนขุนศึกที่ขับรถแลมโบกินี่ของเขาออกไปเที่ยวกับนามิ พรึบ “เฮ้อ….”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อขึ้นมาถึงห้องนอนของฉันที่อยู่ชั้นที่สิบได้แล้ว ฉันก็โยนกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นลิมิเตดที่ขุนศึกซื้อให้ฉันเมื่อสองเดือนก่อนตอนที่เราไปเจรจางานที่ฝรั่งเศสและตามด้วยทิ้งร่างที่เหนื่อยล้าของตัวเองลงบนโซฟาตัวใหญ่นุ่มนิ่มอย่างเหนื่อยอ่อนเหนื่อยกายยังไม่เท่าไ
“อ้อค่ะ^_^”เธอก็พยักหน้ารับรู้ ผมก็ยิ้มให้เธอและยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกต่อสายตาก็จับจ้องผู้หญิงที่กำลังยืนโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาพลางส่งสายตาเชื้อเชิญให้ผม ผมก็กระตุกยิ้มและก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อตอบรับไมตรีของเธอที่กำลังจะยื่นให้ผมพรึบ“เดี๋ยวพี่มานะครับ…”ผมหันไปเอ่ยบอกนามิ เธอก็หันมามองหน้าผมทันที“พี่ขุนจะไปไหนคะ?”เธอเอ่ยถามผมกลับมาด้วยความสงสัย“ไปเข้าห้องน้ำครับ…”ผมบอกเธอไป“อ้อค่ะ…”เธอก็ตอบรับผมพลางพยักหน้าเข้าใจ ผมก็ยิ้มบางๆให้เธอและวางแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะทรงกลมและลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินออกมาจากโต๊ะของผมพรึบ“แฟนเหรอคะ?”เสียงหวานเอ่่ยถามผมในขณะที่ผมเดินผ่านประตูหลังที่เป็นจุดเชื่อมไปห้องน้ำมาแล้ว ทำให้ผมกระตุกรอยยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัยและรู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงที่เอ่ยถามผมอยู่นั้นเธอคือใคร เธอก็คือผู้หญิงที่เชื้อเชิญหยิบยื่นมิตรไมตรีให้ผมเมื่อกี้นี้ยังไงล่ะครับพรึบ“ไม่ใช่หรอกครับ….”ผมหันไปมองยังต้นเสียงที่อยู่ด้านหลังผม“แฟนไม่ได้มา…”ผมตอบเธอไป เธอก็กระตุกยิ้มผมก็มองรูปร่างที่อยู่ภายใต้เกาะอกสีทองของเธอและสั้นจู๋จนเห็นแก้มก้นอวบอิ่มของเธอ“แฟนไม่มา…แสดงว่า…”เธอลากเสียงยาวก่อน
พรึบ“อ๊อกกกกกก”“จ๊วฟฟฟฟ”“อ่าห์ซี๊ดดดด”เสียงคำรามอย่างสุขสมของขุนณรงค์ครวญครางขึ้นเมื่อหญิงสาวหน้าสวยหุ่นเอ็กซ์ที่เจอกันในผับเพียงแค่มองตาก็รู้ว่าต่างคนต่างพึงพอใจในตัวของกันและกัน กำลังดูดดื่มเอร็ดอร่อยกับท่อนเอ็นยักษ์แท่งร้อนของขุนณรงค์อยู่ มือเล็กของเธอก็ยื่นไปลูบไล้กลีบกุหลาบที่มีขนนุ่มปกคลุมอย่างเสียวซ่าน มือหนาทั้งสองข้างของขุนณรงค์ก็จัดการจับศีรษะของคู่ขาวันไนท์สแตนด์ของเขาขึ้นลงไปกับท่อนเอ็นยักษ์ของเขาตามแรงจังหวะความเสียว“อ๊อกกกอ้วก…”ร่างเล็กสำลักดวงตาแดงก่ำเมื่อขุนณรงค์เด้งสะโพกสอบของเขากดท่อนเอ็นกระแทกเข้าไปในโพรงปากนุ่มของหญิงสาวตรงหน้าอย่างแรงทำให้ท่อนเอ็นยักษ์กระแทกโดนลิ้นไก่ของเธอเข้าอย่างจัง“แผล๊บๆๆๆ”เมื่อเธอตั้งตัวหายสำลักได้แล้วก็จัดการยื่นปลายลิ้นร้อนเลียตวัดไปรอบๆหัวยักษ์เบ่งบานที่ตอนนี้ขยายลำใหญ่โตเส้นเลือดปูดโปนไปทั้งลำพรึบ“เลียให้ฉันบ้างสิ….”“ผมไม่เลียHEEของคนอื่น….”ขุนณรงค์ตอบเสียงเข้มอย่างจริงจัง“แต่เลียให้แฟนสินะ….”เธอถามอย่างน้อยใจที่คู่ขาของเธอในค่ำคืนนี้ไม่ยอมใช้ลิ้นปรนเปรอความสุขให้เธอ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอเองก็พึงพอใจในขนาดของท้อนเอ็นยักษ์
“ใส่ให้ด้วยดิ…”เสียงเรียบๆของขุนณรงค์เอ่ยขึ้น“ใหญ่ขนาดนี้….จะใส่ได้เหรอคะ?”หญิงสาวเงยหน้าจากลำกายใหญ่ขึ้นมามองหน้าขุนณรงค์พลางทำสีหน้าสงสัย“หึ….ถ้าตามท้องตลาดทั่วไป…ใส่ไม่ได้หรอก….”ขุนณรงค์ว่าพลางยิ้มที่มุมปาก หญิงสาวก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขาและเธอก็จัดการใช้ฟันของเธอขบกัดซองสีเงินของถุงยางอนามัยให้ฉีกขาด“อ่าาาาาาาห์”เสียงหวานของขุนณรงค์คำรามขึ้นมาอีกครั้งเมื่อก่อนที่ร่างบางจะสวมใส่ถุงป้องกันเธอได้รูดท่อนเอ็นยักษ์ของเขาและถ่มน้ำลายลงไปบนท่อนเอ็นของขุนณรงค์และรูดอุ้งมือขึ้นลงสร้างความเสียวซ่านให้ขุนณรงค์เป็นอย่างมาก พรึบ“อย่าช้า…ฉันมีอีกคน..”ขุนณรงค์บอกในขณะที่หญิงสาวตรงหน้าเขาไม่ยอมสวมใส่ถุงป้องกันท่อนเอ็นของเขาสักที เธอก็เบะปากเล็กน้อยอย่างนึกขัดใจ และเธอก็เริ่มสวมใส่เครื่องป้องกันลงไปบนลำกายใหญ่ของขุนณรงค์ที่รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้านี้อยากจะโดนเขาเสียบสดแต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเขาแค่รักสนุกแต่ไม่อยากผูกพันและไม่อยากติดโรคร้ายด้วย เมื่อหญิงสาวสวมเครื่องป้องกันเสร็จแล้ว เธอก็ยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โดยมีสายตาเจ้าเล่ห์ของผู้ชายหน้าหล่อและดูดีออร่าสะดุดตาของสาวๆนักท่องราตรีในค
วันต่อมา09:00น.ห้องประชุมใหญ่ บริษัทKAเอริ ฐิติมน…..พรึบ“สวัสดีค่ะ….”“ท่านคณะกรรมการและผู้ถือหุ้น…..ที่เคารพทุกๆท่าน”ฉันกล่าวคำทักทายคณะผู้บริหารและผู้ถือหุ้นของบริษัทKAทุกๆคนที่มีไม่ต่ำกว่าสามสิบท่านในห้องประชุมขนาดใหญ่นี้ โดยมีฉันนั่งอยู่ที่นั่งตรงด้านหน้าของคณะกรรมการทุกคนที่นั่งหันหน้าชนกับฉัน ข้างกายฉันมีรองประธานบริษัทนั่งอยู่ คุณจอมพลจะคอยเป็นผู้นั่งฟังแบบนี้ตลอดในเวลาที่ไม่ขุนศึก เขาจะให้ฉันเป็นคนพรีเซนต์งานทั้งหมดเพราะเขาจะไม่ก้าวก่ายและทำเกิดหน้าที่ของตัวเองเพราะคุณหญิงนฤมิตรไม่ค่อยชอบคุณจอมพลสักเท่าไหร่ เพราะคุณพ่อของคุณจอมพลรักคุณแม่ของคุณจอมพลมากกว่าท่าน ฉันรู้คร่าวๆมาเพียงเท่านี้“ดิฉัน…ในฐานะเลขาธิการของท่านประธานบริษัทKA…ขอเป็นผู้ดำเนินการประชุมในครั้งนี้ค่ะ…”ฉันพูดเป็นภาษาไทยและต่อด้วยภาษาอังกฤษเพราะคณะกรรมการของบริษัทขุนศึกมีทั้งคนไทยคนอังกฤษและคนหลายๆประเทศมารวมตัวกันโดยจะแบ่งหุ้นกันไปแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นของขุนศึกผู้ดำรงตำแหน่งท่านประธานบริษัทKA บริษัทKAของขุนศึกเป็นบริษัทแม่ของทุกๆสาขาทำการธุรกิจห้างสรรพสินค้าทั้งในและต่างประเทศรวมๆแ
“ไอ้ขุน…ไปไหน?”คุณจอมพลขยับใบหน้าเข้ามาเอ่ยถามฉันเสียงแผ่วเบา“ไม่ทราบค่ะ…”ฉันตอบคุณจอมพลไปด้วยท่าทางสุภาพ เขาก็มองหน้าฉันด้วยแววตาเรียบเฉย ฉันก็ละสายตาจากเขามาก้มหน้าจดรายงานการประชุมต่อ ฉันต้องทำหน้าที่บันทึกการประชุมในตำแหน่งเลขาและทำหน้าที่แทนท่านประธานที่ป่านนี้คงจะไปนอนกกผู้หญิงที่ไหนสักที่นั้นแหละ“มิสฐิติมน….”“ค่ะ^_^”ฉันเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่มีเสียงเรียกชื่อฉัน เขาคือคุณจอนเทเลอร์ผู้ถือหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ประจำสาขาที่ลอสแอนเจลิสในเมืองของแคลิฟอร์เนียที่มียอดขายพุ่งกระฉูดขึ้นทุกเดือน“พวกเราพูดคุยกันแล้ว….ทุกคนไม่มีความคิดเห็นอะไรหรือข้อเสนอใดๆ…แต่พวกเราคิดว่า…”คุณจอนเทเลอร์เอ่ยขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ ฉันก็ยิ้มและพยักหน้ารับรู้คำพูดของเขา“คุณฐิติมนคงมีข้อเสนอดีๆเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาเสนอให้พวกเราฟัง^_^”ฉันยิ้มกว้างพลางก้มศีรษะให้คุณจอนเทเลอร์เพื่อเป็นการน้อมรับคำชม“ขอบคุณสำหรับการไว้วางใจที่ทุกๆท่านมีให้ดิฉันนะคะ….”ฉันลุกขึ้นยืนอีกครั้งและโค้งตัวทำความเคารพคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นทุกๆท่านอย่างเคารพและดีใจที่ทุกคนเชื่อมั่นและไว้วางใจในตัวของฉัน“ด้วยความยินดีครับ^_^”ท่านคณะกรรมกา
15:00น.หน้าห้องท่านประธานบริษัท……เอริ ฐิติมน…..ตึกๆๆๆๆๆๆ“เข้าไม่ได้นะคะ…”“ท่านประธานไม่อยู่ค่ะ…”“คุณคะ!”“มีอะไรคะ?”ฉันรีบเดินออกมาจากโต๊ะประจำของฉันที่อยู่หน้าห้องของท่านประธานก็เอ่ยขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของคุณออมสินและเอ่ยถามคุณออมสินไป แต่ก็ต้องตกใจกับผู้หญิงที่สวมชุดเดรสสีขาวลายลูกไม้ผมยาวสีดำหน้าตาถูกแต่งเติมด้วยโทนสีชมพู“คุณนามิ…..สวัสดีค่ะ…”ฉันเอ่ยเรียกชื่อเธอพร้อมกับยกมือไหว้ตามมารยาทถึงเธอจะอายุน้อยกว่าฉัน แต่ในตอนนี้ฉันอยู่ในหน้าที่ซึ่งเธอเป็นแขกของเจ้านายฉัน ฉันควรจะให้เกียรติเธอ“ฉันมาหาพี่ขุนศึก”นามิไม่ได้รับไหว้ฉัน เธอกลับเดินตรงดิ่งมาประจันหน้ากับฉันพร้อมกับเอ่ยเสียงแข็งขึ้นมา แววตาของเธอที่ใช้มองฉันในตอนนี้มันทำให้ฉันมั่นใจเรื่องเมื่อคืน ว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน แต่เธอจงใจตักข้าวสวยมาใส่มือฉัน“ออมขอโทษนะคะ…คุณเอริ…พอดีออมบอกคุณคนนี้แล้ว…แต่คุณเขาไม่ฟังนะคะ…”คุณออมสินพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่ด้านหลังของนามิเอ่ยขึ้นอย่างน้ำเสียงเศร้าลงอย่างรู้สึกผิดที่เธอทำหน้าที่ของเธอได้ไม่ดีพอ“ไม่เป็นไรค่ะ….คุณนามิเป็นแขกของท่านประธาน…คุณออมสินกลับไปประจำที่เดิ
"ยังมีอีกคน"แก้มหวานว่าพร้อมกับตบมือขึ้นสามครั้ง ฉันก็เงยหน้าไปมองเธอและก็มีผู้ชายผมเผ้ารกรุงรังหัวฟูสวมใส่เสื้อผ้าขาดๆเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบอะไรไม่รู้สีดำฟันของมันดำทุกซี่ หน้าตาเป็นขี้กลากขี้เกลื้อนมันกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางที่เหมือนคนไม่เต็มเต็งอย่าบอกนะว่าเป็นคนสติไม่ดีเป็นคนบ้า"ผัวแกก็มีคนบ้าด้วย..ลูกแกต้องเกิดมาเป็นบ้าแน่เลยฮ่าๆๆๆๆๆ"แก้มหวานเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างสะใจฉันก็กำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจ และโกรธเธอคนนี้คนที่ฉันไม่เคยคิดที่จะโกรธ แต่ครั้งนี้ฉันโกรธเธอและจะไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขากเพราะเธอคิดไม่ดีกับลูกของฉัน ฉันไม่ยอม!!!!!"เจ๊ให้พวกผมก่อน.....ผมไม่อยากใช้ของต่อจากไอ้บ้านี้!!"ชายคนหนึ่งที่จับขาฉันยึดไว้หันไปบอกแก้มหวาน"ได้....ไอ้บ้าแกออกมาก่อน!!"แก้มหวานรับคำชายชุดดำก่อนจะหันไปเอ่ยบอกคนบ้า คนบ้าก็เหมือนจะพูดรู้เรื่องและมันก็หยุดอยู่กับที่"ให้พวกกูก่อน....เสร็จแล้วค่อยคิวมึง"ชายคนที่ถือเข็มฉีดยาเอ่ยขึ้น ตอนนี้มันนำยาไปไว้ในเข็มแล้วและมันก็ดันก้นสปริงออกมานิดหน่อยทำให้ตัวยาที่อยู่ด้านบนพุ่งออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะเดินมาหาฉันพร้อมกับทำส
"เปล่าหรอก......ที่ผู้ชายเขาไม่เลือกเธอมันเป็นเพราะนิสัยของเธอมากกว่าล่ะแก้มหวาน""นิสัยของเธอ.....ลองมองย้อนดูกลับไปว่าอะไรที่เราสองคนไม่เหมือนกัน""นี่แกจะบอกว่านิสัยแกดีกว่าฉันเหรอ?"แก้มหวานกดเสียงต่ำจ้องฉันด้วยแววตาแข็งกร้าวกว่าเดิม เธอพร้อมที่จะประทุอารมณ์ใส่ฉันได้ทุกเมื่อ"ไม่ใช่.....ฉันแค่อยากจะบอกว่าบางทีทัศนคติหรือความชอบความคิดเห็นสองผู้ชายสองคนนั้นไม่ตรงกับเธอ""แต่มาตรงกับฉันมากกว่า"ฉันเอ่ยออกไปอย่างในความคิดฉันจริงๆแต่ดูเหมือนคำพูดของฉันจะทำให้แก้มหวานไม่พอใจฉันเพิ่มขึ้นไปอีกดูจากการจับเส้นผมของฉันดึงก็รู้ได้เพราะว่าเธอดึงมันแรงขึ้นจนฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดไปที่ศีรษะนาทีนี้ฉันไม่ควรจะยั่วโมโหแก้มหวาน เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเองและลูกในท้องของฉัน"หึ.....เข้าข้างตัวเองจริงๆนะ.....ถ้าแกไม่ให้ท่าเควินเขาก็ไม่มีวันสนใจแกหรอก""เขาเชื่อฟังฉันและเอาใจฉันมาตลอดแต่พอมีเเกเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของเขา.....เขาก็เปลี่ยนไป""เขาทำตัวห่างเหินกับฉันไม่เหมือนเมื่อก่อน.....เควินชีวิตของเขาไม่เคยได้รู้จักผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ....เขาเลยไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ะมันตอแหล!!!""เหมือนเธอไงเอริ.....ทำตัวใ
ฉันก็มองจ้องเธอเขม่น แววตาสั่นไหวอย่างไม่ไว้ใจเธอ"แกมีผัวอยู่แล้วและยังจะมายุ่งกับผัวคนอื่นอีกทำไม!!"แก้มหวานตะโกนใส่หน้าฉันสีหน้าและแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่ฉันเเปรเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวและไม่พอใจและเธอก็เอื้อมมือมาจับผมของฉันพร้อมกับออกแรงกระชากจนหน้าฉันหงายไปข้าง"โอ้ย!""เธอพูดเรื่องอะไรแก้มหวาน.....ฉันไม่เคยไปยุ่งกับสามีของใคร"ฉันเอ่ยบอกแก้มหวานไปพร้อมกับน้ำตาแอบเล็ดไปด้วยเพราะฉันรู้สีกเจ็บที่หนังศีรษะมาก เพราะแก้มหวานเธอดึงผมฉันแรงมากแรงเหมือนอยากจะดึงมันให้ขาดออกไปจากหนังศีรษะฉันฉันก็ใช้มือของตัวเองมั้งสองข้างมาจับมือของแก้มหวานที่จับผมฉันไว้ให้เธอปล่อยผมฉันแต่เธอก็ยิ่งกำมันและออกแรงดึงมันให้แรงขึ้นแรงขึ้นและแรงขึ้น"ยังจะมาตีหน้าซื่ออีกเหรอแกนี่มันมารยาสาไถยจริงๆ""ไม่เข้าใจว่าพวกผู้ชายชอบผู้หญิงแบบแกลงไปได้ยังไง"แก้มหวานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาดูถูกฉัน ฉันก็จ้องมองเธอด้วยความงุนงงว่าเธอพูดถึงใครกันและใครกันที่ฉันไปแย่งสามีเขามาเท่าที่ฉันจำได้ ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะ ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่ไหน"แกแย่งผู้ชายที่ฉันรักไปทั้งสองคน......""และก็เป็นแกที่ท
"ไอ้จอม?"ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่ผมโคตรจะไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องได้ยินเพราะพี่ชายต่างแม่ของผมกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจ หน้าตามันโคตรกวนตีน ยิ่งเห็นหน้ามันยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งเกลียดมัน "มึงมาทำไม?"ผมถามมันไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างชัดเจนว่าผมไม่อยากเจอมัน "กูมาหาเอริ..."มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นกันแต่หน้าตาโคตรกวนประสาท ผมเกลียดชี้หน้ามันชิบหาย เพราะมันพ่อถึงไม่เคยรักผม "แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่หรือว่า....มึงอยู่กับริเหรอ?"มันถามผมมาพลางชี้มาที่ผมด้วยหน้าตาเหมือนหมาสงสัย "เอ่อกูกับริกำลังมีลูกด้วยกัน.....แค่นี้มึงก็ควรจะรู้ได้แล้วนะว่าเลิกยุ่งกับเมียกูสักที"ผมอ่ยบอกไอ้จอมไปเสียงเเข็ง มันก็มองมาที่ผมด้วยสายตาตกใจแต่แวบหนึ่งผมก็เห็นเหมือนสายตาเป็นประกายในดวงตาคู่สวยของมันแต่ผมไม่มั่นใจเพราะเห็นแค่กระพริบตาเดียวเท่านั้น ที่ผมพูดกันท่าแบบนี่ทั้งที่ผมเองก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีสิทธิ์แต่ผมไม่อยากให้เอริคบกับไอ้จอม เพราะไอ้จอมมันก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผม มันน่ะ......เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมไม่อยากให้ริต้องกลับไปเจ็บแบบที่เคยเจ็บมาอีกแล้ว.....ผ
เธอก็บอกว่าจะไม่แก้แค้นอะไรผมอีกแล้ว แต่ขอสู้คดีให้ถึงที่สุด ถ้าผมแพ้ ผมก็ต้องยอมรับชะตากรรม เธอบอกว่าถือเสียว่าผมชดใช้กรรมให้เธอ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมมั่นใจว่าผมจะไม่แพ้คดีนี้แน่ ผมรีบเดินออกมาจากห้องและเดินไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่เป็นห้องของเควิน ที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคอนโดนี้เควินเป็นเจ้าของ โดยมันให้เอริอยู่ห้องมันฟรีๆดูก็รู้ว่ามันชอบเอริ และจ้องจะเคลมเธอและที่ผมรู้ไปกว่านั่นอีกคือเควินเป็นลูกชายของผู้ชายที่แก้มหวานแต่งงานด้วยออดดดดดดดดดดดดผมกดออดห้องของเควินอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ผมสักที สงสัยมันจะไม่อยู่จริงๆหรือมันจะออกไปกับเอริ"ขอให้แน่ใจหน่อยจะได้หมดห่วง"ผมพูดออกมาอย่างยอมรับชะตากรรมถ้าเอริจะชอบผู้ชายคนนี้ผมก็คงจะไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวางอะไรเธอ เพราะผมกับเธอมีหน้าที่เป็นพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ส่วนสถานะอย่างอื่นเราก็เป็นเพื่อนกันผมเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นล่างและเดินมุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ของประชาสัมพันธ์ที่มีไว้ต้อนรับลูกค้าและดูแลคนที่อยู่ในคอนโคนี้"ผมขอเบอร์คุณเควินหน่อยได้ไหมครับ""พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับเขาน่ะครับ"ผมเอ่ยบอกพนักงานผู้หญิงที่ทำหน้าที่ประ
คอนโดเควินห้องของเอริ19:00น.ขุนศึก ขุนณรงค์...."ริไปไหนเหรอครับป้าบัว....มืดแล้วยังไม่เห็นกลับมาเลย?"ผมเอ่ยถามป้าบัวไปในขณะที่ท่านกำลังเก็บจานข้าวที่ผมเพิ่งกินเสร็จอยู่ที่จริงผมนั่งชะเง้อคอมองเอริมาตั้งแต่ที่เห็นเธอแต่งตัวออกไปตั้งแต่ตอนห้าโมงเย็นแล้ว กะว่าเธอไปแค่แปปเดียวก็คงจะกลับเพราะไม่เห็นเธอบอกผมว่าเธอจะไปไหน"เห็นว่าออกไปหาเพื่อนนะคะ....คุณขุนศึกมีอะไรหรือเปล่าคะ?""อ้อเปล่าครับ.....ผมเห็นว่ามันเริ่มมืดแล้ว....."ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างเป็นห่วงสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเพราะเอริเป็นผู้หญิงและกำลังท้องอยู่ด้วยไม่น่าจะออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้นะหรือว่าเธอจะออกไปหาเพลงขวัญ"ลองโทรหาดูไหมคะ.....""เดี๋ยวผมโทรเองครับป้า....ขอบคุณมากนะครับ""โอเคค่ะงั้นป้าขอตัวไปดูคุณหญิงก่อนนะคะ""ครับป้า.....เดี๋ยวผมรอริสักพักก็จะเข้าไปดูคุณแม่นะครับ""ค่ะ.....เดี๋ยวป้านอนเฝ้าคุณหญิงเองค่ะ....คุณขุนศึกไปนอนพักผ่อนเถอะค่ะ""ครับ....ขอบคุณมากนะครับ"ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างซาบซึ้งใจที่ท่านดีกับผมและคุณแม่ของผมจากใจจริงท่านไม่คิดที่จะทอดทิ้งผมและคุณแม่......ในความโชคร้ายของผมก็ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้างที
"กะจะเผาทั้งเป็นแม่ของขุนศึกเลยนะ""เธอร้ายกาจมากมากจนฉันอยากรู้ว่าแก้มหวานแค้นอะไรขุนศึกมากมายขนาดที่จะฆ่าจะแกงกันได้"นามิเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจและอยากรู้มากๆ"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนในเมื่อก่อนมันจะเป็นต้นเรื่องที่ทำให้แก้มหวานแค้นฉันขนาดนี้ไหม"ฉันเอ่ยออกไปเสียงแผ่วเบามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะต้องไปเผชิญหน้าและถามแก้มหวานตรงๆว่าสิ่งที่เธอทำงไปในตอนนี้ เพราะอยากจะเอาคืนขุนศึกที่เขาทำกับเธอตอนที่เธอเรียนอยู่มหาลัยใช่ไหมเพราะสิ่งที่ขุนศึกไม่ตั้งใจในคราวนั้นแต่กลับทำให้คนที่ถูกกระทำเครียดแค้นเอาเป็นเอาตายขนาดนี้"ฉันขอตัวก่อน"ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงนามิก็ลุกขึ้นพรวดพราดตามฉันมาทันทีด้วยความตื่นตกใจ"เธอจะไปไหนไม่เอาหลักฐานแล้วหรือไง""ไม่แล้วล่ะ....ฉันไม่ต้องการมันแล้ว"ฉันเอ่ยบอกนามิไปก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินและจำ้อ้าวเดินออกมาจากร้านอาหารนี้อย่างไวตอลดทางเดินฉันหยิบโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแพงของตัวเองขึ้นมากดดูบันทึกรายการบันทึกเสียงฉึก"โอ้ย!!"ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและความเจ็บปวดที่แล่นแวบเข้ามาที่ก้านคอของฉันฉันจึงรีบเอามือไปคลำดูก็พ
"ฉันเลยเตรียมของมาให้เธอได้พิสูจน์....ว่าฉันไม่โกงเธออย่างแน่นอน"ฉันก็มองหน้านามิอย่างจ้องเขม็งและสงสัยในสิ่งที่เธอพูด เธอเตรียมอะไรมาให้ฉันพิสูจน์"ในรถฉันมีโน้ตบุ๊กอยู่....เธอจะไปดูมันกับฉันไหมล่ะ?"นามิเอ่ยถามฉันมา ฉันก็จ้องเธออย่างไม่วางใจ"ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปทำอะไรเธอได้.....?"เธอก็เอ่ยออกมาเสียงใสอย่างรู้ทันความคิดของฉัน"ในนั้นมีหลักฐานทั้งหมดจริงๆใช่ไหม?"ฉันเอ่ยถามนามิไป เธอก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ฉัน"หลักฐานที่แก้มหวานโกงบริษัทของคุณหญิงนฤมิตรจนทำให้ทั้งคุณหญิงและขุนศึกต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคดโกง""ใช่...."นามิตอบมาเสียงดังฟังชัด ฉันก็ทำหน้านิ่งเฉยและเอ่ยถามเธอต่อไป"แก้มหวานเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด......ทั้งเรื่องที่โยนความผิดว่าคุณหญิงนฤมิตรฟอกเงินที่ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน""เป็นคนต้นคิดการเทรดเงิน....โดยใช้การเทรดเงินเป็นเบื้องหน้าให้คุณหญิงนฤมิตรตายใจและให้คุณหญิงเปิดบัญชีเป็นชื่อของท่านเพียงคนเดียวและนำเงินที่ฟอกมาทั้งหมดโอนใส่ไปในบัญชีของคุณหญิง"นามิเอ่ยออกมา ฉันก็จ้องมองหน้าเธอด้วยท่าทางนิ่งเฉย ฉันต้องทำ
"เธอเป็นใคร"ฉันเอ่ยถามปลายสายที่เป็นเสียงผู้หญิงออกไปน้ำเสียงของปลายสายฟังดูคุ้นหูฉันมาก (นามิเอง....) "นามิ....เธอมีอะไรกับฉัน" (ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับขุนศึกอยากปรึกษาเธอ) "เรื่องอะไร?" (หลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีที่ขุนศึกเจออยู่ในตอนนี้.....ถ้าได้หลักฐานอันนี้ไปเขาพ้นคดีแน่) "แล้วเธอไปเอามาจากไหน?"ฉันเอ่ยถามนามิไป ในใจฉันสงสัยและไม่เข้าใจเธอว่าเธอจะช่วยขุนศึกทำไม ในเมื่อก่อนหน้านี้เรื่องของสองคนนี้จบกันไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะมองหน้ากันไม่ติดถึงขั้นเกลียดขี้หน้ากันเลยก็ได้ (ฉันโดนนังแก้มหวานหักหลัง....มันเป็นคนต้นเรื่องทั้งหมด) (ฉันพูดจริงๆเอริ....ตอนนี้ฉันกับแม่กำลังเดือดร้อน....ฉันขอขายหลักฐานของขุนศึกให้เธอในราคาสิบล้านก็ได้) (ฉันกับแม่จะใช้เงินก้อนนี้เป็นก้อนหลบหนีนังแก้มหวาน) (มันราวีชีวิตของฉันกับแม่ไม่เลิกนะเอรินะ) (นังแก้มหวานมันสั่งให้ฉันเข้าไปตีสนิทก้บขุนศึกมันอยู่เบื้องหลังทุกอย่างทั้งเรื่องที่คุณหญิงโดนฟ้องว่าฟอกเงิน....การเทรดหุ้นที่ไม่เอาเงินไปเทรดแต่เอาไปใช้เอง....ตลาดหุ้นที่ผิดกฏหมาย) (นังแก้มหวานมันเป็นคนวางแผน....ฉันมีคลิปวิดีโอในการคุยของฉันกับมันในตอนที่มัน