ซ่าาาา~
ฝนห่าใหญ่ตกลงมาอย่างรวดเร็ว เสียงลมพัดตีเข้ามาในโสตประสาทของหญิงสาวจนใบหูอื้ออึงไปหมด ร่างบางเปียกปอนชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนบวกกับอากาศที่หนาวและลมที่พัดผ่านมากระทบร่างก็ทำให้เธอสั่นสะท้านไปถึงข้างใน ไม่ต้องพูดถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ที่ตอนนี้แทบจะปกปิดอะไรไม่มิด ยังดีที่มาคอสไล่บอดี้การ์ดออกไปนอกอาณาเขตคฤหาสน์หลังใหญ่จนหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นภาพที่เห็นคงไม่น่าดูชมนัก " นายครับ ฝนตกแล้วครับ " บรูซที่อยู่รับใช้นายระหว่างทำงานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฝนตกโปรยปรายลงมา " แล้วยังไง " มาคอสเงยหน้าจากกองเอกสารส่งสายตาไม่พอใจไปให้ " เปล่าครับ " บรูซรีบปฏิเสธพลางก้มหน้าลง เค้ายังไม่อยากขัดคำสั่งนายตอนนี้ ดีไม่ดีอาจเป็นเครื่องระบายอารมณ์เหมือนเพื่อนบอดี้การ์ดก็ได้ " ออกไปหาอะไรร้อนๆมาให้กินหน่อย " ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม มือเรียวหนาดึงแว่นสายตาออกจากใบหน้า " ครับ " บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำแล้วออกไปทำตามคำสั่ง มาคอสมองตามจนร่างสูงลับหายไป เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหยุดที่ริมหน้าต่าง ชายหนุ่มชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่างเห็นร่างบางกำลังนั่งสั่นงันงกอยู่แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ไม่แม้กระทั่งอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขาเลยสักนิด แกร๊กก บอดี้การ์ดหนุ่มเปิดประตูเข้ามาพอดี มาคอสสะดุ้งก่อนจะเดินกลับมานั่งหน้าโต๊ะทำงานเหมือนเดิม " ซุบร้อนครับ " " ขอบใจ " มาคอสก้มหน้าทำงานต่อแต่จนแล้วจนรอดก็รู้สึกไม่มีสมาธิทำงานสักที ในสมองพลันคิดไปถึงภาพร่างบางที่นั่งหนาวสั่นอยู่ด้านนอกตลอดเวลา " อากาศข้างนอกเป็นยังไงบ้าง " ชายหนุ่มเฉไฉถามเรื่องอื่นไปเรื่อย มือหนายกซุปขึ้นมาเป่าเพื่อคลายความหนาว จริงด้วย ขนาดอยู่ในห้องเปิดเครื่องทำความร้อนเขายังรู้สึกหนาวนิดหน่อย แล้วอากาศข้างนอกจะหนาวขนาดไหน " อากาศค่อนข้างหนาว มีลมพัดอยู่ตลอดเวลาครับ ถ้าเป็นผมคงทนไม่ไหว " บรูซเอ่ยขึ้นตามความจริง ดวงตาชายหนุ่มกระตุกวูบ เมื่อสมองพลันปรากฏภาพของหญิงสาว ในใจก็รู้สึกร้อนรุ่มแปลกๆ " นายกลับไปได้ล่ะ ฉันจะพักผ่อนแล้ว " มาคอสเอ่ยปากไล่บอดี้การ์ดหนุ่ม " ครับนาย " บรูซกำลังจะขยับตัวเดินออกมาแต่ก็ถูกเจ้านายสั่งตามมาอีกหนึ่งประโยค " นายเดินออกไปทางด้านหลังไม่ต้องย้อนกลับไปหน้าคฤหาสน์ " " ได้ครับนาย " บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำพร้อมลอบยิ้มอยู่ในใจ สงสัยว่านายหญิงในนามคนนี้บางทีอาจจะเข้ามาเป็นนายหญิงตัวจริงในอนาคตก็ได้ บอดี้การ์ดหนุ่มเดินหายออกไปได้ไม่นานมาคอสก็ลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมตัวหนาเดินจ้ำอ้าวออกไปจากห้องทันที เขารู้สึกว่าระยะทางจากชั้น 3 มาจนถึงหน้าประตูช่างยาวนานเหลือเกิน ทั้งๆที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มือหนาเอื้อมไปผลักประตูบานใหญ่ให้เปิดออก เสียงลมพัดตีลอดเข้ามาในโสตประสาทดังกึกก้องไปทั่ว หญิงสาวฝืนลืมตาขึ้นมองท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีแสงออร่าบางอย่างแผ่มาจากด้านหลัง จริงๆคงเป็นแสงไฟจากในตัวคฤหาสน์นั่นแหละ แต่เธอที่สายตาจมอยู่ในความมืดมานานหลายชั่วโมงเลยทำให้มองเห็นภาพผิดเพี้ยนไป มาคอสเดินมาหยุดอยู่ข้างตัวหญิงสาว ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองมาที่ร่างบางก่อนจะใช้ผ้าคลุมตัวหนาคลุมร่างหญิงสาวจนมิด พร้อมกับค่อยๆประคองขึ้นมา " ลุกขึ้น " เขาพูดเสียงเรียบ " คุณมาได้ยังไง " หญิงสาวถามอย่างสงสัย " ถ้าถามมากก็ไม่ต้องกลับ นั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปล่ะกัน " ชายหนุ่มพูดขู่ " อย่าคะ " มือบางเอื้อมไปคว้าแขนชายหนุ่มไว้อย่างลืมตัว ตอนนี้มาคอสอุตส่าห์ลดทิฐิมารับเธอถึงที่ เธอก็ควรจะวางเรื่องบาดหมางใจไว้ชั่วคราวก่อน ไม่อย่างนั้นก็ยากจะรับประกันว่าจะรักษาชีวิตน้อยๆของตัวเองไว้ได้ ดวงตาคมจ้องมองมือบางที่กำลังจับแขนตนอยู่ มือของเธอดูซีดเซียวและเย็นเฉียบ ถ้าไม่ดูแลดีๆก็อาจจะไม่สบายได้ " เดินไหวรึเปล่า " " ถ้าเดินไม่ไหว คุณจะอุ้มฉันหรอคะ " เคทถามอย่างทะเล้นเพื่อคลายบรรยากาศระหว่างเธอกับเขา อย่างน้อยๆถึงจะไม่ชอบหน้ากันนักแต่ก็ไม่ควรเกลียดกัน เพราะว่าตัวเธอเองนั่นแหละจะอยู่ลำบาก มาคอสไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับช้อนร่างบางขึ้นอุ้มอย่างสบายใจเฉิบ " ว้ายย คุณจะอุ้มฉันจริงๆหรอ " หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจนิดหน่อย " ถ้ารอให้เธอเดินขึ้นเองคิดว่าพรุ่งนี้เช้านั่นแหละถึงจะเดินถึง เดินช้าเหมือนเต่า " มาคอสบ่นอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก หญิงสาวผินหน้าขึ้นมองใบหน้าอันหล่อเหลา ดวงตาคม จมูกโด่ง ริมฝีปากดูเซ็กซี่ได้รูป มิน่าล่ะยัยโมนาถึงได้ออกอาการหวงก้างขนาดนี้ เพราะสามีเธอหล่อแบบนี้นี่เอง " มีอะไรติดหน้าฉันรึไง " ร่างสูงถามขึ้นมา " หืมมม เปล่าค่ะ " เคทยิ้มออกมาบางๆ ดวงตากลมโตกรอกไปมาก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ เธอยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งไว้ มาคอสก้มหน้ามองอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร " เอ๊ะ ห้องฉันอยู่ทางนู้นรึเปล่า " หญิงสาวร้องทักท้วงเมื่อเห็นว่าถูกพาขึ้นมาผิดทาง " คืนนี้ไปนอนห้องฉัน " " ฮะ! ทำไมล่ะ " เคทกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นอย่างลืมตัว " ห้องเธอยังไม่ได้เปิดเครื่องทำความร้อน เข้าไปเดี๋ยวจะเป็นหวัดซะเปล่าๆ " " อ๋ออออ " หญิงสาวยิ้มแห้งๆ น่าอายจริงๆ ปฏิกิริยาเมื่อกี้เหมือนเธอกำลังคิดเรื่องอย่างว่าอยู่เลย " เธอคิดว่าฉันจะมีอะไรกับเธอทุกคืนรึไง ถามจริงตัวเธอมีอะไรน่าดึงดูดบ้างล่ะ " มาคอสตอบอย่างกวนๆ ถ้าจะให้พูดจริงๆก็ต้องบอกว่ารูปร่างของภรรยาสาวเป็นรูปร่างในฝันที่หนุ่มๆหลายคนต้องการทีเดียว ทั้งผิวขาวเนียนละเอียด ทรวงอกอิ่ม สะโพกผาย บั้นท้ายงอน ไหนจะโพรงสวาทที่กระชับแน่นนั่นอีก แค่คิดลูกชายที่นอนสงบอยู่ก็แทบอยากจะดันตัวออกมาทักทายเสียแล้ว . .มาคอสอุ้มร่างบางมาจนถึงห้องนอนของตน สิ่งแรกที่ทำเมื่อเหยียบเข้ามาในห้องคือตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อให้หญิงสาวได้ชำระร่างกายก่อน " ขอบคุณค่ะ " เมื่อร่างบางถูกวางลงบนพื้นเธอก็เอ่ยขอบคุณชายหนุ่มทันที " อืม " มาคอสพยักหน้ารับแต่ก็ยังไม่ยอมเดินจากไปซะที ร่างบางมองหน้าชายหนุ่มอย่างฉงน สักพักจึงเอ่ยถามขึ้นว่า " คุณไม่ออกไปข้างนอกหรอ " " ออกไปไหน " บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเขา นี่ก็เป็นห้องของเขา จะให้ออกไปไหนได้ " ก็...ฉันจะอาบน้ำไง คุณจะมายืนทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ " " อ่อ...ฉันก็จะช่วยเธออาบน้ำไงจะได้เสร็จเร็วๆ... " " หะ!! ไม่ต้องๆๆ ฉันอาบเองได้ " หญิงสาวรีบปฏิเสธพลางส่ายหน้ารัว " จะอายอะไรเมื่อคืนฉันก็ได้เห็นทุกซอกทุกมุมแล้วยังไม่ชินรึไง " ชินบ้าอะไรล่ะ เพิ่งเคยมีเซ็กส์ครั้งแรก จะให้เธอชินกับการแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นได้ยังไง " ไม่ได้ คุณจะบ้าหรอ " หญิงสาวกระชับเสื้อคลุมแน่น พลางปัดมือชายหนุ่มออกเป็นพัลวัน " อย่าดื้อสิ เธอไม่หนาวรึไง " ชายหนุ่มจับร่างบางหันหลังเข้าหาตัวแล้วดันไปจนติดกระจกบานใหญ่เพื่อจะได้หมดทางหนี มือหนาปลดผ้าคลุมออกอย่างชำนาญ วงแขนกว้างโอบเอวบางไว้จนแนบชิดกับกายแ
ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากดูดที่ซอกคอขาวผ่องแรงๆทีนึง ในขณะที่นิ้วมือยาวก็บีบเคล้นเต้านมสองข้างอย่างสม่ำเสมอ" อืออออ " ร่างบางถึงกับครางออกมาเบาๆเมื่อมือหนาบีบกระตุ้นอารมณ์ของเธอให้ลุกโชนขึ้นมาคอสลูบไล้ผิวนวลเนียนลงมาจนถึงเอวสอบ เขาดึงชุดสีแดงที่ค้างอยู่บนเอวออกจนหลุดลงไปกองอยู่กับพื้น เหลือเพียงแพนตี้สีดำตัวจิ๋วที่ปกปิดเนินสามเหลี่ยม ร่างนวลเนียนช่างน่าดึงดูดและเย้ายวนใจชวนให้อยากลิ้มลองรสชาดอันหอมหวานอีกครั้ง ปลายนิ้วของชายหนุ่มเลื่อนลงไปสัมผัสจุดกลางลำตัวของหญิงสาวโดยที่ยังไม่ถอดแพนตี้ออก ความเปียกชื้นบริเวณนั้นบ่งบอกว่าเธอใกล้จะพร้อมสำหรับเขาแล้วนิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปในแพนตี้ตัวน้อย สะกิดส่วนปลายติ่งเสียวนิดหน่อยจนร่างบางสะท้านเผลอร้องครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้" อ่าาา มาคอสส " ร่างบางยกมือขึ้นเกี่ยวลำคอแกร่งเอาไว้เพื่อพยุงร่างของตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้นเสียก่อน ส่วนมืออีกข้างกุมมือชายหนุ่มไว้เพื่อให้ปรนเปรอร่างกายส่วนล่างของเธอมากขึ้น มาคอสทำตามคำขอด้วยการสะกิดติ่งเสียวไม่หยุด ร่างบางสั่นสะท้านเพราะความเสี่ยวซ่านแล่นขึ้นมาจนถึงโสตประสาท เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นกลางบริเวณหน้าผากเพรา
ช่วงเวลาเช้าตรูของทุกวันนายใหญ่เจ้าของบ้านจะต้องมาฝึกการต่อสู้เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับรับความเสี่ยงทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ธุรกิจที่ชายหนุ่มทำจะเป็นธุรกิจที่ขาวสะอาด แต่เมื่อเป็นเจ้าของธุรกิจก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะล่วงเกินผู้มีอำนาจใหญ่โตบางคนจนเกิดเรื่องทะเลาะหรือบาดหมางกันอยู่ร่ำไป เห็นได้จากการที่ตระกูลลูอิซมีบอดี้การ์ดฝีมือดีอยู่หลายร้อยคน ถ้าให้คนภายนอกมองเข้ามาก็เหมือนกับมาเฟียดีๆนี่เอง" วันนี้นายท่านยังไม่ลงมาหรอ " เสียงสาวใช้ที่ทำความสะอาดอยู่แถวโรงฝึกกระซิบกระซาบกัน ทุกเช้าเหล่าบรรดาสาวๆจะแย่งกันมาทำความสะอาดบริเวณนี้ เพราะนอกจากจะได้เห็นมัดกล้ามเนื้ออันเต่งตึงของนายท่านสุดหล่อแล้วก็ยังนับว่าเป็นการสร้างโอกาสให้ได้รับความโปรดปรานิีกด้วย ดีไม่ดีถ้านายท่านหลงรักเข้าอาจได้รับการยกย่องขึ้นเป็นเมียคนหนึ่ง ได้สบายไปทั้งชาติล่ะทีนี้" นั่นสิ ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน เมื่อวานก็ไม่ได้มานะ " สาวใช้อีกคนพูดขึ้น เมื่อวานหล่อนก็ได้มาทำความสะอาดบริเวณนี้เหมือนกัน หลังจากตบตีแย่งชิงกับบรรดาสาวๆคนอื่น แต่ก็ต้องผิดหวังไปเพราะเมื่อวานอยู่ๆเจ้านายก็ตื่นสายทำให้พลาดเวลาการฝึกในตอนเช้า สร้าง
ตระกูลลูอิซเป็นตระกูลใหญ่ ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักเนื่องจากผู้นำตะกูลคนก่อนได้นำพาตระกูลลูอิซเข้ามาบุกเบิกธุรกิจหลายประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งตัว เครื่องประดับนำเข้า และอื่นๆอีกมากมายการทำธุรกิจที่หลากหลายในเมื่อก่อนอาจจะไม่เป็นปัญหาเพราะคนในตระกูลมีจำนวนมากจึงสามารถช่วยกันบริหารได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานทายาทตระกูลลูอิซก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้บิดาของผู้ตระกูลคนปัจจุบันจะมีภรรยาหลายคนแต่จำนวนทายาทนั้นก็นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อนหนึ่งในนั้นก็คือมากาเร็ต ลูกสาวคนโตของตระกูลลูอิซที่เกิดจากภรรยาคนที่ 2 พวกเธออาศัยอยู่ในตระกูลลูอิซแต่ไม่ใช่คฤหาสน์ใหญ่ เนื่องจากตามกฎแล้วคฤหาสน์ใหญ่จะให้ผู้นำตระกูลและครอบครัวอยู่เท่านั้น ดังนั้นเมื่อสามีสิ้นชีพลงเธอกับลูกสาวก็จำเป็นต้องย้ายลงมาอยู่คฤหาสน์หลังเล็กแทน" คุณแม่คะคุณแม่ " หญิงสาวร่างบางแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีแดงสั้นคลุมทับด้วยเสื้อโค้ดสีแดงเดินเข้ามาในสวน " หืมม ว่าไงลูก " มารดาของเธอกำลังนั่งจิบชายามบ่ายรับอากาศเย็นหลังจากที่เพิ่งผ่านฝนมาเมื่อคืน" คุณแม่รู้ไหมว่าตึกใหญ่มีเรื่อง " มากาเร็ตเอ่ยถามขึ้
" เป็นไง เห็นแล้วรู้สึกตะลึงไปเลยใช่ม่ะ " มากาเร็ตถามอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง ในบรรดาธุรกิจที่มีทั้งหมดของตระกูลเธอถูกมอบหมายให้รับผิดชอบธุรกิจอัญมณีและเพชรพลอย ตลอดจนเครื่องประดับทั้งหมดในร้านก็ต้องผ่านมือเธอทั้งนั้น" อ่ออ ก็ตะลึงอยู่พอสมควร " ตะลึงว่าไปสรรหาเพชรคุณภาพต่ำแบบนี้มาจากไหนกันน่ะสิไม่ว่า" เนี้ย เป็นบุญตาของเธอแล้วนะที่ได้เห็นเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้ ใส่เลยสิเผื่อมันจะช่วยขับออร่าของความเป็นนายหญิงตระกูลลูอิซขึ้นมาได้บ้าง " มากาเร็ตแหน็บ" ไม่เป็นไรดีกว่าจ๊ะ พี่ว่าไว้ใส่วันหลังแล้วกันนะ " เคทรีบคว้ากล่องเครื่องเพชรมาปิดอย่างรวดเร็ว รับไม่ได้จริงๆกับการที่มาเห็นทั้งเพชรและการออกแบบที่ล้าสมัยขนาดนี้" ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวขึ้นไปพักข้างบนนะคะ " หญิงสาวเอ่ยขอตัวกลับก่อน ใจจริงวันนี้เธอตั้งใจไว้ว่าจะออกไปพบเพื่อนซักหน่อย แต่สองแม่ลูกนี่ก็กลับทำเสียเรื่องเสียนี่" เดี๋ยวสิ ฉันกับแม่อุตส่ามาเยี่ยม เธอจะไม่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเลี้ยงน้ำชากับขนมหน่อยหรอ " หะ! ฉันหูฝาดไปรึเปล่า สองแม่ลูกนี่อยากนั่งทานขนมกับเธอหรอ" อ่อออ เอางั้นก็ได้ ช่วยไปเตรียมน้ำชากับขนมทีจ๊ะ " เคทหันไปสั่งส
ร่างสูงเดินตรงไปที่คฤหาสน์หลังเล็กด้วยอารมณ์โกรธ ยิ่งเข้าไปใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจของเจ้าของคฤหาสน์" วันนี้นะคะลูกสะใจมากเลย ป่านนี้ผิวหนังยัยนั่นคงถลอกปอกเปิกไปหมดล่ะ " มากาเร็ตหัวเราะเสียงดังหารู้ไม่ว่ากำลังจะนำภัยมาสู่ตัว" ทำไมลูกไม่เอาน้ำชาเทใส่หน้าไปเลยล่ะ หน้าสวยๆจะได้แหกไปเลย " ลิเดียพูดสนับสนุน" อุ้ย! นั่นสิค่ะ ลูกลืมคิดไป น่าเสียดายจริงๆรู้งี้เทราดหน้ามันจะดีกว่า " สิ้นเสียงพูดสองแม่ลูกก็หัวเราะอย่างชอบใจ คิดจะเข้ามาเป็นนายหญิงของตระกูลลูอิซไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก" กำลังพูดถึงใครอยู่หรอ ดูสนุกเชียว " เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขัดจังหวะขึ้น ลิเดียและมาการเร็ตหุบยิ้มฉับ เส้นขนพากันลุกเกรียวอย่างพร้อมเพรียง เพราะแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร" มาคอส! " " ใช่..ฉันเอง ตกใจอะไรกัน " " ปะ เปล่า " มากาเร็ตปฏิเสธหน้าซีด" หรอ...วันนี้ฉันได้ยินเรื่องสนุกๆมาด้วยสิ รู้ไหมว่าเรื่องอะไร " ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาหรู มือหนาลูบไล้โซฟาเนื้อดีอย่างแผ่วเบา สงสัยที่ผ่านมาเขาคงจะเลี้ยงพวกคนไร้ประโยชน์ไว้ดีเกินไปสินะ ให้กินดีอยู่ดีแต่กลับแว้งกัดเจ้าของ มันน่าจับถอนฟันให้ร
เเสงแดดอ่อนตอนเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบร่างบางที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหน้าอย่างสบายอารมณ์ หญิงสาวลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจซ้ายขวา ขาเรียวยาวเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ มือบางดันผ้าม่านทึบออกเพื่อเปิดทางให้แสงแดดส่องเข้ามามากขึ้นวันนี้อากาศดีจริงๆร่างบางรีบอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องเห็นสาวใช้กำลังเตรียมอาหารเช้ากันอย่างขมักเขม้น" รู้เรื่องรึเปล่าว่าเมื่อคืนนายท่านโกรธมากที่คุณมากาเร็ตเทน้ำใส่มือนายหญิง ถึงขั้นตามไปเอาเรื่องถึงคฤหาสน์เล็กเลยนะ " สาวใช้คนหนึ่งกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงาน" ตายจริง! แล้วคุณมากาเร็ตเป็นอะไรมากรึเปล่า " " เห็นว่าโดนน้ำร้อนลวกเหมือนที่นายหญิงโดน แต่ไม่รู้ว่าเจ็บมากน้อยแค่ไหนนะ เช้านี้คฤหาสน์เล็กยังไม่เปิดประตูให้ใครเข้าไปเลย "" ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี ก็คุณมากาเร็ตทำนายหญิงก่อน " " ใช่ ถ้างั้นก็หมายความว่านายท่านอยู่ข้างนายหญิงน่ะสิ ถ้างั้นเรื่องเมื่อวานที่เราไม่ช่วยนายหญิงจะถูกลงโทษรึเปล่านะ " สาวใช้รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา" นั่นสิ " " อ่ะแฮ่ม " เคทกระแอมขัดจังหวะ" อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหญิง " บรรดาสาวใช้รีบทำความเคารพเพราะกลัวความผิดที่ตน
แสงไฟสว่างจ้าสาดส่องไปทั่วงาน หยดน้ำที่เกาะบนดอกกุหลาบสีขาวเมื่อกระทบแสงไฟส่องแสงระยิบระยับเป็นประกาย ภาพที่แสนสวยงาม บรรยากาศที่อบอุ่น บวกกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลั่งไหลกันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี ช่างเป็นความทรงจำที่น่ายินดีสำหรับคู่บ่าวสาว ฉับพลันประตูบานใหญ่ก็เปิดขึ้น เรียวขายาวระหงเดินก้าวออกมา บนกายประดับด้วยชุดเดรสยาวสีขาวสะอาด ผมดำขลับถูกม้วนขึ้นไปกลางศีรษะ แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าเนื่องจากบนศีรษะถูกคลุมด้วยผ้าบางๆสีขาวไว้ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเจ้าสาวน่าจะเป็นหญิงสาวที่งดงามมากคนหนึ่ง " เจ้าสาวเดินเข้ามาในงานแล้ว ไหนเจ้าบ่าวล่ะ " เสียงซุบซิบดังมาจากบรรดาแขกเรื่อ " นั่นสิ.ได้ข่าวว่างานนี้ฝั่งตระกูลลูอิซเอ่ยปากขอแต่งงานกับตระกูลคอทลินเองไม่ใช่หรอ " " เธอไม่รู้อะไรน่ะสิ ที่ตระกูลลูอิซขอแต่งงานก็เพราะแค้นน่ะสิ " " ตายแล้ว!! แค้นเรื่องอะไรกัน " " ก็เรื่องลูกสาวคนเล็กของตระกูลลูอิซที่แต่งเข้าไปในตระกูลคอทลินน่ะสิ ได้ข่าวว่าตายอย่างปริศนา ตระกูลลูอิซโกรธมาก " " ถ้าอย่างนั้น การแต่งงานวันนี้ก็เพื่อแก้แค้นน่ะสิ
เเสงแดดอ่อนตอนเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบร่างบางที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหน้าอย่างสบายอารมณ์ หญิงสาวลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจซ้ายขวา ขาเรียวยาวเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ มือบางดันผ้าม่านทึบออกเพื่อเปิดทางให้แสงแดดส่องเข้ามามากขึ้นวันนี้อากาศดีจริงๆร่างบางรีบอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องเห็นสาวใช้กำลังเตรียมอาหารเช้ากันอย่างขมักเขม้น" รู้เรื่องรึเปล่าว่าเมื่อคืนนายท่านโกรธมากที่คุณมากาเร็ตเทน้ำใส่มือนายหญิง ถึงขั้นตามไปเอาเรื่องถึงคฤหาสน์เล็กเลยนะ " สาวใช้คนหนึ่งกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงาน" ตายจริง! แล้วคุณมากาเร็ตเป็นอะไรมากรึเปล่า " " เห็นว่าโดนน้ำร้อนลวกเหมือนที่นายหญิงโดน แต่ไม่รู้ว่าเจ็บมากน้อยแค่ไหนนะ เช้านี้คฤหาสน์เล็กยังไม่เปิดประตูให้ใครเข้าไปเลย "" ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี ก็คุณมากาเร็ตทำนายหญิงก่อน " " ใช่ ถ้างั้นก็หมายความว่านายท่านอยู่ข้างนายหญิงน่ะสิ ถ้างั้นเรื่องเมื่อวานที่เราไม่ช่วยนายหญิงจะถูกลงโทษรึเปล่านะ " สาวใช้รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา" นั่นสิ " " อ่ะแฮ่ม " เคทกระแอมขัดจังหวะ" อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหญิง " บรรดาสาวใช้รีบทำความเคารพเพราะกลัวความผิดที่ตน
ร่างสูงเดินตรงไปที่คฤหาสน์หลังเล็กด้วยอารมณ์โกรธ ยิ่งเข้าไปใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจของเจ้าของคฤหาสน์" วันนี้นะคะลูกสะใจมากเลย ป่านนี้ผิวหนังยัยนั่นคงถลอกปอกเปิกไปหมดล่ะ " มากาเร็ตหัวเราะเสียงดังหารู้ไม่ว่ากำลังจะนำภัยมาสู่ตัว" ทำไมลูกไม่เอาน้ำชาเทใส่หน้าไปเลยล่ะ หน้าสวยๆจะได้แหกไปเลย " ลิเดียพูดสนับสนุน" อุ้ย! นั่นสิค่ะ ลูกลืมคิดไป น่าเสียดายจริงๆรู้งี้เทราดหน้ามันจะดีกว่า " สิ้นเสียงพูดสองแม่ลูกก็หัวเราะอย่างชอบใจ คิดจะเข้ามาเป็นนายหญิงของตระกูลลูอิซไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก" กำลังพูดถึงใครอยู่หรอ ดูสนุกเชียว " เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขัดจังหวะขึ้น ลิเดียและมาการเร็ตหุบยิ้มฉับ เส้นขนพากันลุกเกรียวอย่างพร้อมเพรียง เพราะแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร" มาคอส! " " ใช่..ฉันเอง ตกใจอะไรกัน " " ปะ เปล่า " มากาเร็ตปฏิเสธหน้าซีด" หรอ...วันนี้ฉันได้ยินเรื่องสนุกๆมาด้วยสิ รู้ไหมว่าเรื่องอะไร " ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาหรู มือหนาลูบไล้โซฟาเนื้อดีอย่างแผ่วเบา สงสัยที่ผ่านมาเขาคงจะเลี้ยงพวกคนไร้ประโยชน์ไว้ดีเกินไปสินะ ให้กินดีอยู่ดีแต่กลับแว้งกัดเจ้าของ มันน่าจับถอนฟันให้ร
" เป็นไง เห็นแล้วรู้สึกตะลึงไปเลยใช่ม่ะ " มากาเร็ตถามอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง ในบรรดาธุรกิจที่มีทั้งหมดของตระกูลเธอถูกมอบหมายให้รับผิดชอบธุรกิจอัญมณีและเพชรพลอย ตลอดจนเครื่องประดับทั้งหมดในร้านก็ต้องผ่านมือเธอทั้งนั้น" อ่ออ ก็ตะลึงอยู่พอสมควร " ตะลึงว่าไปสรรหาเพชรคุณภาพต่ำแบบนี้มาจากไหนกันน่ะสิไม่ว่า" เนี้ย เป็นบุญตาของเธอแล้วนะที่ได้เห็นเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้ ใส่เลยสิเผื่อมันจะช่วยขับออร่าของความเป็นนายหญิงตระกูลลูอิซขึ้นมาได้บ้าง " มากาเร็ตแหน็บ" ไม่เป็นไรดีกว่าจ๊ะ พี่ว่าไว้ใส่วันหลังแล้วกันนะ " เคทรีบคว้ากล่องเครื่องเพชรมาปิดอย่างรวดเร็ว รับไม่ได้จริงๆกับการที่มาเห็นทั้งเพชรและการออกแบบที่ล้าสมัยขนาดนี้" ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวขึ้นไปพักข้างบนนะคะ " หญิงสาวเอ่ยขอตัวกลับก่อน ใจจริงวันนี้เธอตั้งใจไว้ว่าจะออกไปพบเพื่อนซักหน่อย แต่สองแม่ลูกนี่ก็กลับทำเสียเรื่องเสียนี่" เดี๋ยวสิ ฉันกับแม่อุตส่ามาเยี่ยม เธอจะไม่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเลี้ยงน้ำชากับขนมหน่อยหรอ " หะ! ฉันหูฝาดไปรึเปล่า สองแม่ลูกนี่อยากนั่งทานขนมกับเธอหรอ" อ่อออ เอางั้นก็ได้ ช่วยไปเตรียมน้ำชากับขนมทีจ๊ะ " เคทหันไปสั่งส
ตระกูลลูอิซเป็นตระกูลใหญ่ ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักเนื่องจากผู้นำตะกูลคนก่อนได้นำพาตระกูลลูอิซเข้ามาบุกเบิกธุรกิจหลายประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งตัว เครื่องประดับนำเข้า และอื่นๆอีกมากมายการทำธุรกิจที่หลากหลายในเมื่อก่อนอาจจะไม่เป็นปัญหาเพราะคนในตระกูลมีจำนวนมากจึงสามารถช่วยกันบริหารได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานทายาทตระกูลลูอิซก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้บิดาของผู้ตระกูลคนปัจจุบันจะมีภรรยาหลายคนแต่จำนวนทายาทนั้นก็นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อนหนึ่งในนั้นก็คือมากาเร็ต ลูกสาวคนโตของตระกูลลูอิซที่เกิดจากภรรยาคนที่ 2 พวกเธออาศัยอยู่ในตระกูลลูอิซแต่ไม่ใช่คฤหาสน์ใหญ่ เนื่องจากตามกฎแล้วคฤหาสน์ใหญ่จะให้ผู้นำตระกูลและครอบครัวอยู่เท่านั้น ดังนั้นเมื่อสามีสิ้นชีพลงเธอกับลูกสาวก็จำเป็นต้องย้ายลงมาอยู่คฤหาสน์หลังเล็กแทน" คุณแม่คะคุณแม่ " หญิงสาวร่างบางแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีแดงสั้นคลุมทับด้วยเสื้อโค้ดสีแดงเดินเข้ามาในสวน " หืมม ว่าไงลูก " มารดาของเธอกำลังนั่งจิบชายามบ่ายรับอากาศเย็นหลังจากที่เพิ่งผ่านฝนมาเมื่อคืน" คุณแม่รู้ไหมว่าตึกใหญ่มีเรื่อง " มากาเร็ตเอ่ยถามขึ้
ช่วงเวลาเช้าตรูของทุกวันนายใหญ่เจ้าของบ้านจะต้องมาฝึกการต่อสู้เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับรับความเสี่ยงทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ธุรกิจที่ชายหนุ่มทำจะเป็นธุรกิจที่ขาวสะอาด แต่เมื่อเป็นเจ้าของธุรกิจก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะล่วงเกินผู้มีอำนาจใหญ่โตบางคนจนเกิดเรื่องทะเลาะหรือบาดหมางกันอยู่ร่ำไป เห็นได้จากการที่ตระกูลลูอิซมีบอดี้การ์ดฝีมือดีอยู่หลายร้อยคน ถ้าให้คนภายนอกมองเข้ามาก็เหมือนกับมาเฟียดีๆนี่เอง" วันนี้นายท่านยังไม่ลงมาหรอ " เสียงสาวใช้ที่ทำความสะอาดอยู่แถวโรงฝึกกระซิบกระซาบกัน ทุกเช้าเหล่าบรรดาสาวๆจะแย่งกันมาทำความสะอาดบริเวณนี้ เพราะนอกจากจะได้เห็นมัดกล้ามเนื้ออันเต่งตึงของนายท่านสุดหล่อแล้วก็ยังนับว่าเป็นการสร้างโอกาสให้ได้รับความโปรดปรานิีกด้วย ดีไม่ดีถ้านายท่านหลงรักเข้าอาจได้รับการยกย่องขึ้นเป็นเมียคนหนึ่ง ได้สบายไปทั้งชาติล่ะทีนี้" นั่นสิ ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน เมื่อวานก็ไม่ได้มานะ " สาวใช้อีกคนพูดขึ้น เมื่อวานหล่อนก็ได้มาทำความสะอาดบริเวณนี้เหมือนกัน หลังจากตบตีแย่งชิงกับบรรดาสาวๆคนอื่น แต่ก็ต้องผิดหวังไปเพราะเมื่อวานอยู่ๆเจ้านายก็ตื่นสายทำให้พลาดเวลาการฝึกในตอนเช้า สร้าง
ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากดูดที่ซอกคอขาวผ่องแรงๆทีนึง ในขณะที่นิ้วมือยาวก็บีบเคล้นเต้านมสองข้างอย่างสม่ำเสมอ" อืออออ " ร่างบางถึงกับครางออกมาเบาๆเมื่อมือหนาบีบกระตุ้นอารมณ์ของเธอให้ลุกโชนขึ้นมาคอสลูบไล้ผิวนวลเนียนลงมาจนถึงเอวสอบ เขาดึงชุดสีแดงที่ค้างอยู่บนเอวออกจนหลุดลงไปกองอยู่กับพื้น เหลือเพียงแพนตี้สีดำตัวจิ๋วที่ปกปิดเนินสามเหลี่ยม ร่างนวลเนียนช่างน่าดึงดูดและเย้ายวนใจชวนให้อยากลิ้มลองรสชาดอันหอมหวานอีกครั้ง ปลายนิ้วของชายหนุ่มเลื่อนลงไปสัมผัสจุดกลางลำตัวของหญิงสาวโดยที่ยังไม่ถอดแพนตี้ออก ความเปียกชื้นบริเวณนั้นบ่งบอกว่าเธอใกล้จะพร้อมสำหรับเขาแล้วนิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปในแพนตี้ตัวน้อย สะกิดส่วนปลายติ่งเสียวนิดหน่อยจนร่างบางสะท้านเผลอร้องครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้" อ่าาา มาคอสส " ร่างบางยกมือขึ้นเกี่ยวลำคอแกร่งเอาไว้เพื่อพยุงร่างของตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้นเสียก่อน ส่วนมืออีกข้างกุมมือชายหนุ่มไว้เพื่อให้ปรนเปรอร่างกายส่วนล่างของเธอมากขึ้น มาคอสทำตามคำขอด้วยการสะกิดติ่งเสียวไม่หยุด ร่างบางสั่นสะท้านเพราะความเสี่ยวซ่านแล่นขึ้นมาจนถึงโสตประสาท เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นกลางบริเวณหน้าผากเพรา
มาคอสอุ้มร่างบางมาจนถึงห้องนอนของตน สิ่งแรกที่ทำเมื่อเหยียบเข้ามาในห้องคือตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อให้หญิงสาวได้ชำระร่างกายก่อน " ขอบคุณค่ะ " เมื่อร่างบางถูกวางลงบนพื้นเธอก็เอ่ยขอบคุณชายหนุ่มทันที " อืม " มาคอสพยักหน้ารับแต่ก็ยังไม่ยอมเดินจากไปซะที ร่างบางมองหน้าชายหนุ่มอย่างฉงน สักพักจึงเอ่ยถามขึ้นว่า " คุณไม่ออกไปข้างนอกหรอ " " ออกไปไหน " บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเขา นี่ก็เป็นห้องของเขา จะให้ออกไปไหนได้ " ก็...ฉันจะอาบน้ำไง คุณจะมายืนทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ " " อ่อ...ฉันก็จะช่วยเธออาบน้ำไงจะได้เสร็จเร็วๆ... " " หะ!! ไม่ต้องๆๆ ฉันอาบเองได้ " หญิงสาวรีบปฏิเสธพลางส่ายหน้ารัว " จะอายอะไรเมื่อคืนฉันก็ได้เห็นทุกซอกทุกมุมแล้วยังไม่ชินรึไง " ชินบ้าอะไรล่ะ เพิ่งเคยมีเซ็กส์ครั้งแรก จะให้เธอชินกับการแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นได้ยังไง " ไม่ได้ คุณจะบ้าหรอ " หญิงสาวกระชับเสื้อคลุมแน่น พลางปัดมือชายหนุ่มออกเป็นพัลวัน " อย่าดื้อสิ เธอไม่หนาวรึไง " ชายหนุ่มจับร่างบางหันหลังเข้าหาตัวแล้วดันไปจนติดกระจกบานใหญ่เพื่อจะได้หมดทางหนี มือหนาปลดผ้าคลุมออกอย่างชำนาญ วงแขนกว้างโอบเอวบางไว้จนแนบชิดกับกายแ
ซ่าาาา~ฝนห่าใหญ่ตกลงมาอย่างรวดเร็ว เสียงลมพัดตีเข้ามาในโสตประสาทของหญิงสาวจนใบหูอื้ออึงไปหมด ร่างบางเปียกปอนชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนบวกกับอากาศที่หนาวและลมที่พัดผ่านมากระทบร่างก็ทำให้เธอสั่นสะท้านไปถึงข้างในไม่ต้องพูดถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ที่ตอนนี้แทบจะปกปิดอะไรไม่มิด ยังดีที่มาคอสไล่บอดี้การ์ดออกไปนอกอาณาเขตคฤหาสน์หลังใหญ่จนหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นภาพที่เห็นคงไม่น่าดูชมนัก" นายครับ ฝนตกแล้วครับ " บรูซที่อยู่รับใช้นายระหว่างทำงานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฝนตกโปรยปรายลงมา" แล้วยังไง " มาคอสเงยหน้าจากกองเอกสารส่งสายตาไม่พอใจไปให้" เปล่าครับ " บรูซรีบปฏิเสธพลางก้มหน้าลง เค้ายังไม่อยากขัดคำสั่งนายตอนนี้ ดีไม่ดีอาจเป็นเครื่องระบายอารมณ์เหมือนเพื่อนบอดี้การ์ดก็ได้" ออกไปหาอะไรร้อนๆมาให้กินหน่อย " ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม มือเรียวหนาดึงแว่นสายตาออกจากใบหน้า " ครับ " บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำแล้วออกไปทำตามคำสั่งมาคอสมองตามจนร่างสูงลับหายไป เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหยุดที่ริมหน้าต่าง ชายหนุ่มชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่างเห็นร่างบางกำลังนั่งสั่นงันงกอยู่แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ไม่แม้กระทั่งอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขาเลยสัก
" เกิดอะไรขึ้นครับนายหญิง " บรูซถามหน้าตาตื่น ยิ่งเมื่อได้เห็นภาพมาคอสที่โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า ยอมลงไม้ลงมือกับบอดี้การ์ดคนสนิทด้วยตัวเองก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น" ไม่ต้องถาม มาช่วยกันห้ามก่อน " เธอแทบจะทนแรงอันมหาศาลของมาคอสไม่ได้แล้ว ถ้าขืนปล่อยไว้อีกนิดเดียวคงได้ปลิวไปพร้อมกันนั่นแหละสิ้นเสียงคำสั่งของเจ้านายสาวเหล่าบอดี้การ์ดก็กรูกันเข้ามาห้ามทับ บางคนพยุงร่างอันสะบักสะบอมของออกัสให้ออกห่างจากผู้เป็นนาย ในขณะที่ทางฝั่งมาคอสเองนั้นผู้ที่เข้าไปห้ามปรามกลับมีเพียงบรูซบอดี้การ์ดคนสนิทกับนายหญิงสาวที่มีรูปร่างบอบบางเพียงคนเดียวหญิงสาวค้อนประหลับประเหลือก จร๊ะะะ...คนตัวโตขนาดนี้แต่คนห้ามกลับมีคนเดียว ดูฝั่งนู้นซิ เป็นผู้ถูกกระทำแท้ๆแต่กลับทำเหมือนเป็นนักโทษซะอย่างนั้น บ้านนี้เลี้ยงบอดี้การ์ดพวกนี้ด้วยอะไรเนี้ยถึงได้กลัวเจ้านายซะขนาดนี้" มึง! ไอ้ออกัส คิดจะตีท้ายครัวกู วันนี้กูจะเอามึงให้ตาย " ชายหนุ่มทำท่าจะถลาเข้าไปทำร้ายลูกน้องคนสนิทอีกรอบ แต่ติดตรงที่ร่างบางเดินเข้ามาขวางไว้ก่อน" พอกันที! เลิกบ้าได้แล้ว เค้าแค่เอาเสื้อคลุมมาให้ฉันยืมคุณจะอะไรนักหนา แล้วมันก็เป็นเหตุสุดวิสั