เสียงของแม่สั่นเทาฉันตื่นตระหนกมาก บังคับมือที่สั่นไว้ มีเพียงความคิดเดียวคือแม่จะถูกกระทบกระเทือนจิตใจอีกไม่ได้ฉันเอื้อมมือไปดึงเธอ กลับถูกเธอหลบไป"แม่ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะ"ในอากาศเต็มไปด้วยความเงียบที่ทำให้คนหายใจไม่ออกเซี่ยสือเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มดวงตาที่มืดมิดราวกับหมึกจ้องมาที่ฉัน"โยโย เรื่องของเราคุณไม่เคยบอกคุณป้าเลยเหรอ?""คุณป้าครับ เราคบกันมาตลอด ลูกสาวแสนดีของคุณป้า คนทั้งเมืองอันต่างบอกว่าเธอรักผมจนหัวปักหัวปำ""พอได้แล้ว!" ฉันส่งเสียงห้ามเซี่ยสือแม่ฉันฟังอยู่ จู่ๆ ก็สติแตกขึ้นมา ถอยหลังกลับอย่างต่อเนื่อง หลังจากพิงกำแพงไว้ได้ก็ร้องไห้อย่างใจสลาย"แม่..."ฉันกลัวมาก อยากไปประคองเธอ อยากไปข้างหน้าเพื่ออธิบาย แต่ถูกเธอคำรามด้วยขอบตาแดง"เธออย่าเข้ามานะ ถ้าเธอเข้าฉันจะกระโดลงไปเดี๋ยวนี้!"ฉันสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลนอง ไม่กล้าขยับตัวอีกต่อไปและหยุดก้าวทันทีถัดจากแม่ก็คือหน้าต่างที่เปิดอ้าอยู่มองท่าทางของเธอ ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังสั่นคลอนทันใดนั้นเธอก็ยื่นมือไปตบตัวเองอย่างแรง"คุณสวี่ ฉันสอนลูกไม่ดีเอง ฉันเองฉันเอง!""ตอนนี้ลูกสาวคบกับเซี่ยสือแล้ว ฉันจะยังมีหน
ฉันหมดสติไปตอนที่ตื่นขึ้นมาก็มีหมอและพยาบาลล้อมรอบฉันอยู่พวกเขาเห็นฉันลืมตาฉันมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นเซี่ยสือฉันอยากจะพูดอะไร แต่กลับกลืนมันลงไปฉันอ้าปาก"แม่ฉันล่ะ?"...เปิดผ้าขาวออกคนตัวซีดและไร้ลมหายใจคนนั้น หน้าตาเหมือนแม่ของฉันเลย...นี่ไม่ใช่แม่!"พวกคุณเอาแม่ฉันไปซ่อนไว้ที่ไหน!""นี่ไม่ใช่แม่!""แม่กับฉันตกลงกันว่าเราจะไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราและใช้ชีวิตร่วมกัน"หมอหยุดฉัน"จับเธอไว้! ฉีดยาอีกเข็มหนึ่ง!"...ฉันถูกฉีดยาระงับประสาทและก่อนที่ฉันจะหมดสติอีกครั้ง ฉันก็เห็นเซี่ยสือในสายตาของเขาไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อย กลับมองฉันแล้วหัวเราะเสียงหัวเราะที่ดูถูกเหยียดหยามล้นออกมาจากลำคอและสายตาของเขาก็กลายเป็นมืดมนมาก"คุณควรจะดีใจที่ในที่สุดพ่อที่ทุจริตคอรัปชั่นของคุณก็มีเพื่อนแล้ว""ถ้าอยากให้แม่คุณได้ฝังดินอย่างสงบก็หยุดโวยวายได้แล้ว!"
ที่งานศพ ฉันตรวจดูข้าวของของแม่ที่หมอให้ฉันมาครั้งแล้วครั้งเล่าไดอารี่ของเธอในหน้าสุดท้าย เธอพูดว่า "ลูกรัก ยกโทษให้แม่ด้วย""ถ้าแม่ไม่สามารถยืนหยัดจนถึงวาระสุดท้าย ก็ไม่ต้องเสียใจ แม่ไม่ได้ทิ้งลูกไป แค่จะอยู่กับลูกในอีกโลกหนึ่ง""โยโย ไม่มีแม่เป็นตัวถ่วง ชีวิตลูกถึงจะดีขึ้น..."ทุกคำพูดเป็นเหมือนมีดที่แทงเข้ามาในใจฉันวันที่เขียนไดอารี่คือก่อนวันที่เซี่ยสือจะมาหาฉันที่แท้แม่รู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้วฉันนั่งยองๆ ร้องไห้เศร้าเสียใจรองเท้าหนังคู่หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าฉันฉันพูดเสียงแหบแห้งว่า "แม่ฉันตายแล้ว!""ตอนนี้คุณพอใจแล้วหรือยัง?"ฉันจ้องมองเขาด้วยดวงตาสีแดง "ทำไมคนที่ตายไม่ใช่คุณ"เซี่ยสือขยับลูกกระเดือก หัวเราะเยาะดูถูก"ทุกอย่างที่คุณรู้สึกตอนนี้ ผมเคยรู้สึกมาหมดแล้ว""กรรมตามสนอง ทั้งหมดนี้คือกรรมตามสนอง!"ฉันกำหมัดแน่น กำลังจะลุกขึ้นต่อยไปที่เซี่ยสือในเวลานี้มีคนรีบวิ่งเข้ามาคือเมิ่งซิน เพื่อนสนิทของฉันเธอกอดฉันไว้ในอ้อมกอดน้ำตาเปียกต้นคอของฉัน"เซี่ยสือ คุณนี่มันสารเลวจริงๆ! คุณทำบ้าอะไรลงไป?""คุณรู้ไหมว่าทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่? ก็เพื่อแม่ของเธ
กลิ่นยาฆ่าเชื้อพุ่งเข้าจมูกฉันฉันได้ยินเสียงคลุมเครือ"นายน้อยเซี่ย คุณสวี่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้ายครับ""ท่านถามความปรารถนาของเธอดีกว่าครับ?""มะเร็งกระเพาะอาหาร?" เสียงเซี่ยสือแหบห้าว"เธอยังอายุน้อยขนาดนี้ เธอจะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ยังไง?"หมอถอนหายใจ "คุณสวี่เป็นโรคซึมเศร้ามาเป็นเวลานานครับ อารมณ์ก็คือยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด!"ฉันค่อยๆ ลืมตาและหัวเราะอย่างเย็นชาโอ้ พระเจ้าช่วยฉันจริงๆคุณพ่อคุณแม่ รออีกนิดนะคะ เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันแล้วค่ะพอเห็นฉันตื่นขึ้นมา เซี่ยสือก็รีบมาที่ข้างเตียงเขามองมาที่ฉัน ดวงตาเปล่งประกายความหวังอย่างควบคุมไม่ได้"เซี่ยสือ ท่าทางแบบนี้ของคุณ ต่ำทรามจริงๆ""โยโย..."ฉันยังคงเยาะเย้ยต่อไป "ดูสิ แม้แต่พระเจ้าก็ยังไม่อยากให้ฉันอยู่กับคุณต่อไป"ใบหน้าของเขาซีดเผือดดวงตาเป็นสีแดง ในสายตาเหลือแต่ความเศร้าโศก"โยโย ผมแค่อยาก... พยายามชดใช้ให้คุณ...""ไม่จำเป็น!" ฉันตะคอกขัดจังหวะเขา "พ่อฉัน แม่ฉัน เราทำอะไรผิด?"ความเกลียดชังที่มีต่อเขาแผ่ซ่านไปจากตัวฉัน ทำให้เขาพูดไม่ออกสักพัก เขาก็ดึงแขนเสื้อของฉันเขาค่อยๆ ย่อเข่าลงและคุกเข่าอยู่หน้าเตียงของฉ
ฉันตายแล้ววิญญาณของฉันลอยอยู่ในท้องฟ้ามองดูตำรวจที่บุกเข้าไปในห้องผู้ป่วยแล้วจับเซี่ยสือไว้ครั้งที่แล้ว ก่อนกลืนยานอนหลับฆ่าตัวตาย ฉันได้ส่งอีเมลไปหาเมิ่งซินข้างในเป็นหลักฐานบางอย่างที่ฉันรวบรวมได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับอาชญากรรมเซี่ยสือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจของเขาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายบางอย่างเซี่ยสือถูกตัดสินจำคุกสามปีแต่ที่แปลกคือฉันไม่สามารถไปเกิดได้วิญญาณถูกดึงดูดอยู่ข้างๆ เซี่ยสือตลอดเวลายมทูตกล่าวว่าเขายึดเหนี่ยวมากเกินไปดังนั้นในวันที่เซี่ยสืออยู่ที่โรงพยาบาล ฉันจึงลอยอยู่ข้างๆ เซี่ยสือตลอดฉันมองดูเขาผอมลงเรื่อยๆ เฝ้าดูเขาคิดถึงอดีตของเราครั้งแล้วครั้งเล่า"อ๊า!" เซี่ยสืองอขา สองมือกอดหัวแน่นน้ำตาปรากฏขึ้นทีละหยด เส้นเลือดบนขมับและคอของเขาโป่ง ใบหน้าก็แดงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสติแตกเย็นวันนั้น เซี่ยสืออยู่ในห้องขังคนเดียวเขาตะโกนเรียกชื่อฉันอย่างรู้สึกผิด"โยโย คุณรอผมก่อน ผมมาหาคุณแล้ว""คุณต้องรอผมนะ..."ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ด้วยความงุนงง ฉันลอยอยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกพื้นที่พื้นมีมีดอยู่เล่มหน
งานเลี้ยงวันเกิดเซี่ยสือคุณชายไฮโซแห่งวงการจัดขึ้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเมืองอันแวดวงคนดังมาร่วมงานกันไม่น้อยตอนที่ฉันไปถึง ดาราหน้าใหม่สวีลู่ลู่กำลังออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของเซี่ยสือเซี่ยสือก็ไม่ได้มองเธอ นั่งแบบไม่สนใจใยดี มือหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกมือหนึ่งกอดอยู่บนเอวสวีลู่ลู่สวีลู่ลู่มองมาที่ฉันอย่างเหยียดหยาม"นี่ใครคะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?""ก็แค่เลขา ไม่ต้องสนใจหรอก"ใช่สิ ฉันเป็นแค่เลขาผู้บริหารภายใต้เซี่ยกรุ๊ปเท่านั้น ย่อมไม่เข้ากับวงการนี้อยู่แล้วถ้าไม่ใช่เกาะคนอย่างเซี่ยสือได้ ก็จะไม่มีโอกาสได้เจอคนดังในวงการธุรกิจเหล่านี้เลยเซี่ยสือยิ้มอีกครั้ง "และก็เป็นของเล่นด้วย"ฉันไม่ได้ปฏิเสธสามปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยยอมรับว่าฉันเป็นแฟนของเขา แม้แต่สถานะหวานใจก็ยังไม่ให้เขาพูดว่า "สวี่โยก็เป็นแบบนี้แหละ ผมจะทำยังไงกับเธอ เธอก็จะไม่มีวันทิ้งผมไป"เสียงโห่ดังขึ้นสวีลู่ลู่ปิดปากแอบหัวเราะ จากนั้นอ้อนกับเซี่ยสือว่า"ประธานเซี่ยคะ เธอชอบคุณหรือเปล่าคะ? ไม่งั้นคุณให้โอกาสเธอเปลี่ยนสถานะหน่อยดีไหมคะ?"เซี่ยสือเลิกคิ้วและมองมาที่ฉันอีกครั้ง หยิบกระเป๋าของฉันที่อยู่ข้างๆ โยนลงไปใ
ฉันกลั้นหายใจแล้วว่ายลงไปที่ก้นอ่างเก็บน้ำวันนี้ตอนที่ฉันออกจากบ้านได้เอากำไลอันนั้นใส่ไว้ในกระเป๋า ดังนั้นฉันจึงต้องไปเอามันมาให้ได้ต่างบอกว่าฉันเป็นคนข้างเซี่ยสือที่ประจบสอพลอมากที่สุด ทั้งๆ ที่เป็นแค่เลขา แต่ก็ยังมีความคิดที่ไม่เหมาะสมอยากเปลี่ยนลูกเป็ดขี้เหร่ให้กลายเป็นหงส์แต่ไม่มีใครรู้ว่าสามปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่ฉันไม่อยากจากไปว่ายลงไปสักพัก ฉันก็เห็นกำไลอันนั้นที่ล่วงออกมาจากกระเป๋าและกระแทกหักเป็นสองท่อนในทันทีฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย มันหักแล้วจริงๆฉันเอื้อมมือไปหยิบกำไลสองท่อนขึ้นมาแต่ตอนที่ฉันหันหลังจะว่ายกลับ ต้นขากลับถูกหญ้าในน้ำที่มีหนามเกี่ยวไว้ฉันกระชากออกอย่างแรง จนบาดเป็นแผลยาวที่ต้นขา เลือดออกในทันทีฉันยิ้มเบาๆขอแค่สามารถเอากำไลที่หักกลับมาได้ ความเจ็บปวดแค่นี้ไม่เป็นอะไรเลยฉันอดทนต่อความเจ็บปวด กัดฟันออกแรงว่ายกลับไปอย่างสุดกำลังตอนที่ฉันออกมา ข้างนอกเต็มไปด้วยคนมุงดูมีคนล้อเซี่ยสือว่า "นายน้อยเซี่ย วันนี้จะเลิกเป็นโสดแล้วใช่ไหม?"เซี่ยสือไม่ตอบ เขามองมาที่ฉัน เสียงแหบนิดหน่อย"สวี่โย ผมไม่คิดจริงๆ ว่าคุณจะ..."จนกระทั่งเขาเห็นฉันนั่งย
ฉันกับเซี่ยสือรู้จักกันในสมัยวัยรุ่นคบกันมาเจ็ดปี ความสัมพันธ์มั่นคงมากฉันคิดว่าเราจะหมั้นหมายกันตามขั้นตอนและอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตเขาเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลสวี่แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็นงูเห่าตัวหนึ่งเขาใกล้ชิดฉัน ทุกอย่างระหว่างเรา ล้วนเป็นกลอุบายที่เขาวางแผนมาเป็นอย่างดีเพื่อที่จะแก้แค้นเขาอาศัยเส้นสายของพ่อฉันและค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปทีละขั้นแต่หันกลับมาเขาก็ผลักพ่อฉันลงเหวเซี่ยสือเป็นคนที่โหดร้ายมากๆโหดร้ายมากๆวันนั้นฝนตกหนัก เขาโยนข้าวของของฉันออกจากคฤหาสต์ทีละชิ้น"คุณรู้อะไรไหม? วันที่พ่อคุณทำให้บ้านผมล้มละลายเป็นวันเกิดผม พ่อผมสัญญาว่าจะพาผมไปสวนสนุก แต่เขาก็ไม่เคยได้กลับมาอีกเลย""สวี่โย คุณควรขอบคุณผมจริงๆ ที่ผมโตได้ไม่เร็วมาก ปล่อยให้ครอบครัวของคุณมีชีวิตที่ดีมาตั้งหลายปีขนาดนี้""ต่อไป คุณก็ควรสัมผัสกับความรู้สึกที่ผมเคยสัมผัสมา!"ความรู้สึกอะไรน่ะเหรอ?ความรู้สึกของการที่ครอบครัวแตกสลายวันที่พ่อฉันฆ่าตัวตาย แม่ฉันอยู่ที่ชั้นล่างมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเธอสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว ทนต่อความกระทบกระเทือนทางจิตใจไม่ได้นอ