รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจ
ตอนที่ 8 - สับสนหรือเสียใจ
(ด็อจ)
แสงสว่างจากภายนอกที่สาดทอเข้ามา มันทำให้ผมรู้สึกตัว ผมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งกะพริบปรับรับแสงสว่างที่สาดทอเข้ามา ตื่นมาบนที่นอนพร้อมกับหัวที่ปวดหนึบ ใช่ครับมันปวดมากเพราะเมื่อคืนผมคงดื่มหนักจนเกินไป ดื่มหนักจนเหมือนคนเสียสติเพราะความเสียใจ ตอนนี้ผมลืมตามองเพดานสองมือกุมหัวที่ปวดเหมือนจะระเบิด
แต่เดี๋ยวนะ! นี่ไม่ใช่ห้องนอนของผม!?
ความตกใจทำให้ผมกวาดสายตามองรอบห้อง ห้อนนอนที่ผมเคยมาอยู่บ่อย ๆ ก่อนสายตาจะมองไปยังด้านข้างที่มีผู้ชายคนหนึ่งนอนคว่ำหันหน้ามาทางผม แผ่นหลังหนาที่คุ้นตา ใบหน้าที่เด่นชัดแม้จะอยู่ในสภาพที่นอนนิ่ง ผมก็จำได้ดี...ไอ้ศิลา!
"อะไรกันวะเนี้ย!?" ผมสบถเสียงและขมวดคิ้วชนกันด้วยความตกใจ ยีหัวจนผมฟูฟ่องอย่างไม่เข้าใจ สายตามองไปเห็นกางเกงที่กองอยู่กับพื้น มั่นใจมากว่ามันคือกางเกงที่ผมใส่เมื่อคืนนี้
คิดดังนั้นจะเปิดผ้าห่มผืนหนาดู ตาของผมต้องเบิกกว้าง หูของผมอื้ออึงไปหมด ไม่ต้องบอกก็ย่อมรู้ว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น...นี่ผมเสียตัวให้เพื่อนเหรอวะ!
ผมคิดภาพทุกอย่างทบทวน แต่คิดยังไงผมก็นึกไม่ออก สุดท้ายที่จำได้คือเหมือนผมจะเพ้อ ผมพูดคุยกับเพื่อนขนมปังด้วยอาการเมาที่ยังพอมีสติอันน้อยนิดเหลืออยู่ คุยเหมือนจะจีบ แต่ที่ทำนั้นเพราะผมไม่รู้จะทำยังไง มันเสียใจเรื่องแฟนที่คบหา ที่ว่ามันไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชาย ทั้งที่บอกผมมากมายว่ายุ่งตลอด เพ้อจนผมไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
"โอ๊ะ!" ผมขยับตัวช้า ๆ แต่ทำไมร่างกายที่รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว ร่างกายดูเจ็บปวดไปหมดทุกจุดกับการขยับตัว ผมยังอยู่ในห้องเดิมค่อย ๆ หยัดตัวนั่งหลังพิงกับเตียง
"อื้ม ใครเสียงดังวะ คนจะนอน เงียบ ๆ ดิ" ผมมองตามเสียงที่บ่นนั้น ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียง บอกเลยว่าทุก ๆ ครั้งที่ผมขยับมันเจ็บร้าวไปทั้งส่วนล่างตอนนี้
"แม่ง! กูเสียตัวให้ไอ้ศิลาจริงเหรอวะ?...เฮ้อ~~" ผมยืนหันหลังให้กับเตียงนอนแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ หยิบกางเกงมาใส่พร้อมถอนลมหายใจอย่างหน่ายใจ ไม่หน่ายใจใครหรอกครับ หน่ายตัวเองนี่แหละที่อกหักแล้วเมาเป็นหมาไม่มีสติแบบนี้ จนต้องมาพลาดเสียประตูหลังให้กับเพื่อนสนิท
"เออดิ เสียตัวให้กูเนี้ยแหละ...โทษทีนะมึงเริ่มก่อนแล้วกูทนไม่ไหว ทั้งที่กูพยายามควบคุมตัวเองแล้ว" แล้วเสียงอันหยาบโลนก็ดังมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองก็เจอกับเพื่อนสนิทที่นั่งหลังพิงหัวเตียงมองมาทางผม
"....." ผมเงียบไม่รู้จะพูดอะไรออกไป บอกตามตรงว่าอายเพื่อนมาก แล้วปากของเพื่อนผมก็เหมือนจะมีหมา สายตาของมันที่มองมาทางผม มันยากที่จะคาดเดาความคิดของมันตอนนี้
"ใบ้แดกเลย" ผมมองหน้าไอ้ศิลาที่ตอนนี้จ้องมาทางผม และเป็นผมเองที่ต้องหลบสายตาของมัน สายตาที่ดูไม่ออกในความรู้สึก มันทำให้ผมหวั่นใจ
"กูเป็นแบบนั้นเหรอวะ"
"อืม มึงบอกมึงไม่เมา บอกให้กูเอามึง กูก็เลย...."
"กูขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ!" ผมอายมากจึงหลีกเลี่ยงสายตานั้นด้วยการเดินหนีเข้าห้องน้ำ ผมอายที่จะเผชิญหน้ากับไอ้ศิลาในตอนนี้ อายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีมัน
"ครับ...ผมก็คิดถึง...ได้สิสำหรับหมี่แล้วทำไมผมจะไปหาไม่ได้...ครับผมแล้วคืนนี้เจอกันนะ"
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วบังเอิญได้ยินเสียงของการพูดคุยที่ดังเข้ามาในหู แต่ไม่รู้ว่าดังมาจากจุดไหนของห้อง เพราะสองสายตาของผมไล่มองในห้องแล้วไม่เจอใคร ด้วยความอยากรู้จึงให้สองเท้านำพาผมก้าวเดินไปช้า ๆ ตรงระเบียงที่มีผ่านม่านสีเทากั้นอยู่
หมี่ หรือ มัดหมี่ ทั้งที่รู้ว่าเธอคือใคร แต่ทำไมผมถึงสะอึกกับสิ่งที่ได้ยินจนยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ทั้งที่ตั้งท่าจะเปิดผ้าม่าน เพื่อหาใครคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนของผม
ผมพูดอะไรไม่ออก เหมือนภายในใจของผมมันกำลังเสียใจกับคำว่าไปหาคืนนี้ ผมรู้ดีว่าไอ้ศิลามันเป็นคนยังไง แต่ตอนนี้ทำไมผมต้องรู้สึกเสียใจ...ผมสับสน!
ผมรู้ว่าดีนะว่าไอ้ศิลามันมีคุยกับผู้หญิงจนถึงขั้นมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน และเธอคนนั้นผมก็เจอหน้าอยู่บ่อยครั้งที่ไปเที่ยวกับเพื่อน ไอ้ศิลามักควงมัดหมี่ประจำ
ผมเอี้ยวตัวแล้วเดินกลับไปนั่งที่ปลายเตียง รู้สึกว่าเหมือนจะทำอะไรไม่ค่อยถูก จึงเลือกที่จะนั่งเงียบเพื่อลาเพื่อนที่น่าจะยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก ผมได้ยินเสียงไอ้ศิลาพูดคุยบ้างก็แค่นเสียงหัวเราะประปราย ความรู้สึกของผมตอนนี้มันเจ็บแปลบ ๆ ทั้งที่เพิ่งอกหักมาหมาด ๆ แต่ว่าภาพที่นึกขึ้นกับสภาพร่างกายที่ตื่นขึ้นมา มันทำให้ผมรู้สึกว่ามีความถลำลึก มันเป็นความรู้สึกที่ผมพูดยาก
ผมไม่อยากเสียคำว่าเพื่อน!
"อ้าว...มึงจะกลับแล้วเหรอวะ" ไอ้ศิลาเดินอมยิ้มเข้ามาแล้วเอ่ยถามผม
"อืม กูจะกลับแล้ว รอลามึงเลยยังไม่ได้ไป เดี๋ยวหาว่าไม่มีมารยาท" ผมกลบความรู้สึกภายในใจด้วยการฝืนยิ้มให้เป็นธรรมชาติ แล้วตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติที่สุด
"มึงจะกลับยังไง รถมึงจอดอยู่ผับ" ไอ้ศิลาถามผมด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ พร้อมกับยัดโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกง
"เดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่ไปเอา" ผมตอบมันไปเพราะว่าก็แอบเกรงใจมันที่ต้องวนรถไปมา อีกอย่างตอนนี้ผมยังไม่อยากจะอยู่กับมันเพียงลำพัง มันมีทั้งความอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น อีกนัยคือผมเหมือนเจ็บปวดและเสียใจกับสิ่งที่ได้ยิน ทุกอย่างที่ผมเจอตอนนี้ผมสับสนปนเปกันไปหมด ผมควรทำยังไงดี จะให้ไปต่อในแบบเพื่อน หรือเลื่อนความสัมพันธ์และความรู้สึกมากกว่าคำว่าเพื่อน
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูแวะไปส่ง เพราะเดี๋ยวกูจะออกไปหามัดหมี่"
"อืม"
ไอ้ศิลามันพูดแล้วอมยิ้มให้ผม แต่คำพูดของมันที่บอกจะไปหาอีกคน ทำเหมือนกับทิ่มแทงภายในอกข้างซ้ายของผม สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้เรียกว่าถลำลึกในความรู้สึกเกินเพื่อนได้ไหม? ผมช่างใจและคิดชั่วครู่ ก็ต้องแค่นเสียงอันแผ่วเบาตอบไอ้ศิลาออกไป ทั้งที่ในใจนั้นเริ่มบีบรัดตัวเพียงแค่นึกภาพตาม หากคนทั้งสองได้อยู่ด้วยกันอย่างเป็นส่วนตัว
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 9-ครีมอาบน้ำหอม ๆ(ศิลา)ผมได้เสียงบ่นยุบยิบจนผมต้องตื่น ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนผมใช้แรงไปค่อนข้างเยอะ สิ่งที่ผมทำผมรู้ตัวเองดี แต่ผมคงไม่รู้สึกผิดหรอกนะ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมพยายามห้ามใจแล้ว แต่เมื่อการถูกรุกล้ำมันบานปลาย ผมเลยทนไม่ไหว สุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องอย่างว่าผมขับรถมาส่งไอ้ด็อจที่ผับ แล้วผมจึงขับรถออกมาเพื่อไปหาผู้หญิงที่ผมนัดหมายไว้ แม้จะมาก่อนเวลานัดหมายก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงเธอก็เปิดประตูต้อนรับผมอยู่แล้ว เธอชื่อมัดหมี่ เป็นคนน่ารักอ้อนเก่ง ผมคุยกับเธอบ่อยและควงบ่อยที่สุด ซึ่งเพื่อนสนิททั้งสองคนของผมคุ้นเคยดีกริ่ง กริ่ง...ผมกดกริ่งหน้าห้องของมัดหมี่ ผู้หญิงสวยที่ตอนนี้ผมคุยกับเธอเยอะที่สุด"ศิลา"เมื่อเธอเปิดประตูมาให้เห็นหน้า แววตาและรอยยิ้มสวยก็เฉิดฉายเด่นตรงหน้าผม ผมยิ้มอ่อนให้พร้อมกับเดินกอดคอเธอเข้าห้องไปผมนั่งลงตรงโซฟารับแขก ไล่สายตากวาดมองร่างบอบบางตรงหน้า ที่เหมือนว่าเธอนั้นพร้อมเอื้ออำนวยแก่ผม สายตาระดมจ้องมองไปยังส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยืนเด่นตรงหน้า แววตาของเธอดูไร้เดียวสาน่าทะนุถนอม ผมค่อย ๆ หยัดตัวลุกยืน แล้วเดินเข้าไปหาเธออย
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 10-ลงอ่าง(ศิลา)"ศิลาเป็นคนเดียวเลยนะ ที่ได้ลองครีมอาบน้ำกลิ่นนี้...หอมไหมคะ" มัดหมี่เธอถามผม พร้อมกับหันไปหยิบครีมอาบน้ำขวดพอดีมือ"ผมควรดีใจ?" ผมย้อนถาม ขณะที่มัดหมี่เดินจับมือผม เดินไปยังอ่างน้ำใบใหญ่สีขาว"หรือศิลาไม่ดีใจเหรอ""ดีใจครับ""เดี๋ยวหมี่จะอาบให้หอม ๆ เลยนะคะ"ผมและเธอคุยอ้อล้อกัน มัดหมี่เธอมันช่างยั่วยวนดีจริง ๆ สายตาของเธอเวลามอง มันทำให้ผมต้องการขย้ำเธอเอามาก ๆ"ศิลาชอบไหมคะ?""ชอบครับ หอมอย่างที่หมี่บอกจริง ๆ ... หื้ม"เธอถามผมในขณะที่ร่างกายเธอคาบคร่อมช่วงเอวของผม ครีมอาบน้ำกลิ่นหอมถูกบีบลงบนอกผมอย่างช้า ๆ สายตาของเธอมันเย้ายวนตัวตนของผมจริง ๆ"อย่าไปทำแบบนี้กับใครล่ะ""ทำไมคะ?""ผมหวงครับ ทำได้แค่กับผมคนเดียว"การกระทำของมัดหมี่ตอนนี้ มันปลุกอารมณ์ของผมจนแทบทนไม่ไหว ผมอยากสาดแรงใส่ร่างกายของเธอเน้น ๆ อยากขยับเอว อยากกระแทกจนเธอร้องขอชีวิต"ไม่คิดจะให้หมี่ลองอะไรใหม่ ๆ หน่อยเหรอ""ถ้าไม่อยากตายคู่ ก็อย่าให้ผมรู้ครับ""หมี่ไม่กล้าหรอกค่ะ มีแค่ศิลาคนเดียว หมี่ก็แทบคลานแล้ว""วันนี้อยากคลานหรือแค่อยากเข่าอ่อน""หมี่รับได้หมด ขอแค่เป็น
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 11(ก็แค่ระบาย)(ศิลา)"โอ้โหสภาพ มึงไปออกรบมาเหรอไอ้ศิลา" เมื่อผมเดินเข้ามาในค่ายมวย ก็มีเสียงทักทันที ไอ้ยอนมินครับมันทักผมซะเสียงดัง ส่วนขนมปังที่นั่งบนตักก็ได้แต่ยิ้ม ไอ้ยอนมินทำเหมือนขนมปังไม่มีก้น น้องมันนั่งเองก็ได้เถอะ"สวัสดีค่ะพี่ศิลา" ขนมปังทักผม"น้องอันดาสวัสดีพี่ศิลาหรือยังคะ?" ขนมปังหันไปพูดกับเด็กผู้หญิงตัวกลม ๆ นั่งทำตาบ๊องแบ๊วบนตักไอ้ด็อจ ก็ลูกสาวอาไฟนั่นแหละ แต่ดูเหมือนเธอไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่แต่ไอ้ด็อจมันดูแปลก ๆ มันมองหน้าผมนิ่ง ๆ ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มเด็กน้อยคนนั้น"สวัสดีค่ะ" อันดาเธอไหว้และทักผม ด้วยใบหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มสักนิด ทั้งที่ตอนผมเดินเข้ามายังเห็นเธอยิ้มร่าเริง"สวัสดีครับ ทำไมวันนี้ถึงมากับพี่ ๆ ได้นะ" ผมนั่งลงข้างไอ้ด็อจ แล้วยิ้มให้เธอ มือก็เขี่ยแก้มของเธอเบา ๆ"นั่งรถมากับพี่ยอนมินกับพี่เฌอไงคะ น้องอันดาอยากมาเล่นกับพี่ด็อจ" น้องอันดาเธอตอบผมครับ แต่คำตอบของน้องเหมือนหลอกด่าผมปะ?"มูมู่ ปล่อยได้ละ มีมี่จะนั่งเอง อะไรมันจะขนาดนั้น" เสียงของขนมปังครับ แต่เพื่อนผมมันก็เว่อเกิน อะไรมันจะขนาดนั้น"ก็ห่วงไงครับ กลัวแฟนเจ็บต
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 12-ก็แค่...เป็นห่วง(ด็อจ)ผมพาน้องอันดามาหาขนมกิน เธอค่อนข้างจะติดผมนะ และเธอน่ะชอบบอกว่าผมเป็นแฟน น้องอันดาเธอน่ารักมาก พูดก็เก่ง ร่าเริงสดใสมาก ผมเลยหลงเธอ หลงในความออดอ้อนที่ไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆทุกอย่างได้ตามที่เธอต้องการ จนผมจัดเก็บของทุกอย่างเข้าที่ แต่ว่ามือไม่รักดีมันเหวี่ยงไปโดนมืดที่วางข้าง ๆ"โอ๊ะ!!" ผมสะดุ้งเพราะความเจ็บ"พี่ด็อจเป็นอะไรคะ" น้องอันดาเธอเดินมาใกล้ แล้วเงยหน้าถาม"ไม่เป็นอะไรครับ""พี่ด็อจมีเลือด เลือดไหลเยอะแยะเลย น้องอันดาจะไปเรียกคนมาช่วย พี่ด็อจรอตรงนี้นะ""อันดาเดี๋ยว!"ผมตอบอันเราไป แต่ดูเหมือนเธอจะตกใจกับเลือดที่ค่อย ๆ ซึมออกมา แค่จะบอกว่าเล็กน้อย แต่เด็กน้อยของผมก็วิ่งออกไปด้วยความตื่นตูม มันเป็นแผลเล็กน้อยมาก แต่ก็ไม่ทันเธอครับเพราะเธอวิ่งเร็วออกไปละ"อ่าแสบ" ผมจัดการเปิดน้ำล้างแผล เมื่อน้ำสัมผัสลงกับรอยบาดแผล มันทำให้ผมแสบจนสะดุ้ง(ไอ้ด็อจ!! ด็อจ! ไอ้ด็อจอยู่ไหนวะ!)ผมได้ยินเสียงเรียก จึงหันหลังไปมอง เป็นไอ้ศิลาครับที่มีนวิ่งหน้าตั้งเข้ามา สีหน้าของมันดูตกอกตกใจ แต่ผมไม่เข้าใจมันจะตกใจทำไม?"อะไรของมึงเรียกซะเสียงดั
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 13 - Kiss เยอะ(ศิลา)ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมขยับหน้าเข้าไปใกล้ หัวใจของผมก็เต้นแรงเมื่อได้สบตากับไอ้ด็อจ มันเต้นแรงแปลก ๆ จนแทบจะกระเด็นออกมาจากอกใบหน้าและลมหายใจอุ่นที่สัมผัสกับหน้าของผม มันเหมือนกับเรียกร้องให้ผมเข้าไปใกล้ เหมือนหัวใจมันสั่งการแล้วผมก็ไม่สามารถอดทนได้!!จ๊วบ ผมแตะจูบปากของไอ้ด็อจเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักเน้นลง มือของผมก็จับประคองท้ายทอยของมันไว้ อีกมือก็จับข้อมือข้างที่เป็นแผล แล้วค่อย ๆ สอดประสานกัน"อื้ม" จ๊วบ~~ ยิ่งจูบก็ยิ่งรู้สึกดี มันยิ่งมีแรงให้จูบต่อ มันไม่อยากพอหยุดแค่นี้ เสียงของไอ้ด็อจแค่นเบา ๆ ในลำคอ นั่นยิ่งทำให้ผมอยากไปต่อ ไม่อยากพอเพียงแค่นี้มือของผมเริ่มเลื้อยไปตามแขนและร่างกายของไอ้ด็อจ ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ที่พัดพา และมันก็ไม่มีทีท่าจะหยุดได้ ยิ่งไอ้ด็อจเหมือนอำนวยความสะดวกให้ นั่นยิ่งทำเอาผมหยุดไม่ลง ปากมันก็โคตรนิ่ม ยิ่งจูบยิ่งหวาน ผมสอดลิ้นควานเข้าไปในปากของมันเราสองคนแลกลิ้นกันอย่างเมามัน!ผมยิ่งได้ใจดันลิ้นเกี่ยวลิ้นของไอ้ด็อจอย่างหนักหน่วง เสียงจูบดังเป็นระยะแต่นี่มันในครัว! เชี้ย! ผมเพิ่งรู้ตัวว่า
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 14 - เข้าใจแล้ว(ด็อจ)"ทำหน้างงอะไรของมึง"ผมย้อนถามเมื่อมองหน้าไอ้ศิลาที่ดูตกใจ หรือมันงงสงสัยกับคำพูดของผม"มึงชอบกูเหรอไอ้ด็อจ" ไอ้ศิลาย้อนถามผม สีหน้ามันก็ยังคงงงไม่เลิก"ไม่ได้เหรอวะ?" ผมตีหน้านิ่งถามมันอีกครับ"......" มันเงียบ! เหมือนกำลังอึ้ง หรืองง หรือคงเพราะตกใจอยู่ละมั้ง"มึงได้กูแล้วนะ มึงต้องรับผิดชอบประตูหลังกูด้วย!!"ผมตีหน้านิ่งถามกลับครับ แถมยกเรื่องที่เกิดขึ้นกับมันมาพูดต่อ ตอนแรกผมก็อาย ๆ แต่ตอนนี้ไม่ละ จูบไอ้ศิลามันทำผมลืมเรื่องแย่ ๆ จะว่าง่ายก็ง่ายแหละ แล้วไงล่ะผมก็แค่พูดตามที่ใจสั่ง ผมผิดเหรอ?"เอ่อ ไอ้ได้มันก็ได้ แต่มึงอะทำใจเรื่องคนของมึงได้แล้วหรือไง?""มึงช่วยแทนที่มันได้ปะละ?"ศิลามันเหมือนกับคิดอะไร จนมันพูดเรื่องของผมออกมา ถามว่าทำใจได้หรือยัง ผมตอบได้เลยว่ายัง เรื่องมันเพิ่งจะเกิดขึ้นเอง จะลืมง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ มันลืมยังไม่ได้หรอก แต่ผมแค่ไม่อยากจะจำมาคิดให้เสียใจ เมื่อรู้ว่าเป็นยังไงก็ควรรีบทำใจดีกว่า สุดท้ายแล้วผมกับเขาก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี ไม่ว่าจะวันนี้พรุ่งนี้หรือวันไหน"ด็อจมึง....?""หรือมึงไม่ได้คิดตรงกันกับกู"
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 15 - เพื่อมึง(ศิลา)"เข้าใจอะไร อะไรที่มึงเข้าใจ" ผมถามไอ้คนตรงหน้าที่สีหน้าหงอยเป็นหมาเหงา"ก็มึงไม่ได้ใจตรงกับกูไง"นั่นไงผมว่าแล้วมันต้องคิดเองแบบนั้น ไอ้ด็อจขี้มโน"กูบอกแบบนั้นเหรอ"ผมตีสีหน้านิ่ง ๆ ย้อนถามมัน แล้วดูหน้ามันนะเศร้าฉิบหาย"ก็มึงตอบแบบไม่มั่นใจ สีหน้ามึงลังเล แล้วจะให้กูเข้าใจว่ายังไงล่ะ"อยากขำมันครับ นี่ใช่ไอ้ด็อจเพื่อนผมทึ่เคยรู้จักจริงเหรอเนี้ย"กูขอถามมึงหน่อยนะ สิ่งที่มึงเป็นตอนนี้พ่อมึงรู้เรื่องไหม?"มันคือสิ่งที่ผมอยากรู้ครับ เพราะหากผมตัดสินใจไป จะได้รับมือถูก"กูคิดว่าพ่อรู้ แต่พ่อแค่ไม่พูด""อืม...กูจะได้เตรียมรับมือถูก"ผมพยักหน้ารับรู้ แล้วพูดออกไป แต่หน้าไอ้ด็อจตอนนี้มันมีความสงสัย มีคำถามเหมือนต้องการจะได้ความมั่นใจ หรือคำตอบในสิ่งที่ผมพูด"มึงหมายความว่าไง?" ไอ้ด็อจมันย้อนถามผมครับ"ไม่เข้าใจ?" ถามกลับสิครับ กวนแม่งเลย"อยากเข้าใจมากกว่านี้ คือกูกลัวคิดไปเอง" มันยังคงทำหน้าเศร้าครับ อยากจะหัวเราะดัง ๆ"มึงก็รูปร่างเป็นคนนะด็อจ แต่ทำไมตอนนี้เหมือนจุลินทรีย์"หลอกด่ามันเลยครับ โชว์โง่ดีนัก พูดขนาดนี้แล้วยังทำงงใส่อีก"
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 16-เด็กไม่เอากูเอาเอง(ด็อจ)ผมยิ้มกับประโยคของไอ้ศิลา ประโยคที่เหมือนกับว่ามันให้ความสำคัญกับผม คำว่า มันจะทำให้ได้เพื่อผม เหมือนตอนนี้ความเศร้าที่ผมเคยเจอ มันกำลังจะเลือนหายไป เมื่อไอ้ศิลากำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผม ในสถานะที่เปลี่ยนไป"ขอบใจนะ" ผมยิ้มและจ้องมองหน้าของไอ้ศิลา ส่วนมันก็พยักหน้าให้เบา ๆ"อืม" และตอบด้วยน้ำเสียงคลอเคล้าในลำคอผมกับไอ้ศิลามองหน้ากัน มองอยู่นานผมก็รู้สึกเขินเหมือนกันนะ และเป็นผมเองที่ก้มหน้าหลบสายตาของมัน มืออุ่น ๆ ของมันยื่นมาจับมือผมเบา ๆ บีบกำเป็นจังหวะ ทำไมมันทำให้ผมรู้สึกดีจัง"สักทีนะพวกมึง"เสียงที่สามดังแว่วเข้ามา ผมจึงเงยหน้ามอง ก็พบกับเพื่อนที่คนที่ยืนพิงกับขอบประตูมือกอดอก ส่งยิ้มมาทางพวกผมที่นั่งอยู่ ผมรีบเอามือออกจากอุ้งมือของไอ้ศิลาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาในตอนนี้ หรือเพียงเพราะว่าผมกำลังตกอยู่ในห้วงเสน่หาของไอ้ศิลาอยู่ เลยเผลอลืมตัวไป แต่นี่มันก็ในครัว ซึ่งใครจะเข้ามาก็ได้ เพราะเพื่อนของผมก็เข้ามาประจำ"ไอ้ยอนมิน" ผมตกใจเลยครับ รีบขยับเก้าอี้ออกห่างไอ้ศิลาทันที"ไม่ทันแล้วด็อจ...คิดว่ากูดูไม
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย
สามรักสามหัวใจตอนที่ 10วันนี้ผมตื่นแต่เช้าโดยที่ไม่ต้องให้พ่อปลุก อาบน้ำแต่งตัวอย่างรู้หน้าที่ บางทีการที่ได้เริ่มชอบใคร มันก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ยาก เพราะว่าอยากจะทำให้คนที่เราชอบปลื้มใจก๊อก ก๊อก ก๊อก(ริวตื่นยัง)“เสร็จแล้วพ่อ” ผมยืนหน้ากระจกแล้วใส่สูท แล้วตะโกนตอบพ่อออกไป“พ่อฝันแน่เลยว่ะริว นี่ริวจริงปะ? หรือว่าตัวห่าอะไรสิงลูกพ่อกันแน่” ดูสิคำพูดคำจาร้ายกาจจริง ๆ แค่ผมตื่นเช้าและตื่นเอง มันน่าแปลกใจตรงไหนกัน“เยอะแล้วพ่อ ริวก็โตพอแล้วไหม ตื่นเองก็ได้เถอะ” แก้ตัวหน้าหล่อ ๆ ก็เท่าที่เหมือนจะรู้ตัว ก็มีแต่พ่อที่ปลุกตลอด ฮ่าฮ่าฮ่า“เหรอริว ตื่นเองก็ได้งั้นเหรอ” เสียงแบบไม่เชื่อสักนิด ดูทำหน้าทำตาเข้า บางทีพ่อก็กวนเหมือนกันนะ“เออพ่อ ริวว่าริวกำลังมีความรัก” ผมคิดได้เลยพูดออกไป เพราะไม่เคยปิดบังสิ่งที่ผมเป็นกับป๊าและพ่อสักครั้ง ทุกอย่างผมจะเล่าและขอคำปรึกษาจากพ่อ เพราะบางอย่างผมก็คิดเองไม่ได้ มันคิดไม่ออก“หืม? ริวมีความรักเหรอ” พ่อมองหน้าผม แล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ ก็แหงแหละผมบอกตลอดว่าเกลียดผู้หญิง ก็ยากที่พ่อจะเชื่อจริงไหม?“จริงนะพ่อ ริวรู้สึกว่าริวช
สามรักสามหัวใจตอนที่ 9“ป๊า”“อะไร?”ผมกับป๊านั่งทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะเผื่อเวลาเดินทางรถจะไม่ติดมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภาพเมื่อเช้ามันหวนเข้ามาในความคิด ภาพที่มันยังติดตาของผมอยู่ ใบหน้าของแม่ผู้ให้กำเนิดที่ผมได้เห็นชัดเจน เธอแตกต่างจากคนในรูปที่ผมเห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนเด็ก นึกอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ เพราะสีหน้าและแววตาที่เธอมองก่อนจะเดินจากไป มันเหมือนมีอะไรที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ เหมือนเธอกำลังทุกข์ใจ มีเรื่องให้กังวล อะไรประมาณนั้น แววตาเธอมันดูเศร้าหมอง“ป๊าไม่เคยรู้ข่าวของคุณริกะบ้างเลยเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา” ผมเงยก้มหน้าถาม ไม่กล้าที่จะมองหน้าป๊า กลัวว่าสายตาที่ได้จ้องป๊าจะฉายแววอ่อนแอให้เห็น“ถามทำไม?” ป๊าทำหน้าเหมือนกังวล แล้วถามผมทันที“ริวก็แค่อยากรู้”“ถ้ารู้แล้วมันทำให้ริวเจ็บปวด ป๊าไม่โอเค”ผมบอกป๊าแต่ว่าเหมือนป๊าจะไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ รู้ดีว่าป๊าคงไม่อยากให้ผมเศร้า แค่ตอนนี้มันอยากรู้บ้าง ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ แล้วก็ไม่เสียใจด้วย“ริวโอเค แค่อยากรู้เฉย ๆ”“ป๊าก็ไม่รู้มากหรอก รู้แค่ว่าเธอติดคุกตอนพ่อกับยอนมินมันสุมหัวกันแจ้งจับ ที่ตอนนั้นเธอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 8“งั้นสรุปตามนี้นะคะคุณศิลา ส่วนเรื่องสัญญาซื้อขายคุณร่างมาได้เลยค่ะ”“ครับ ขอบคุณมากนะครับที่ยังวางใจในสินค้าของทางเรา”ผมได้ยินเสียงป๊ากับคุณวาสนา คุยกันเหมือนทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว จึงละสายตาที่จ้องกับดอลลี่ไปมองทางผู้ใหญ่ทั้งสองคน ป๊าลุกยืนจับมือกับคุณวาสนา ผมก็เลยลุกตามและยิ้มให้คุณวาสนาเช่นกันตามมารยาท“งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”“ขอบคุณค่ะ”จากนั้นผมกับป๊าก็เดินลงไปส่งผู้หญิงทั้งสองคน ป๊ากับคุณวาสนาเดินคุยกัน ส่วนผมกับดอลลี่จ้องจะกัดกัน“หน้าอย่างนายเนี้ยนะลูกเจ้าของโรงงานใหญ่ขนาดนี้” ดอลลี่เธอเอนตัวเข้าหาแล้วกัดฟันพูดใส่ผม หน้าอย่างผมนี่แหละ มันไม่เหมาะจะเป็นลูกเจ้าของโรงงานใหญ่แบบนี้เหรอไง“แล้วหน้าอย่างเธอเนี้ยเหรอเป็นลูกคุณวาสนา เจ้าของบริษัทส่งออก ท่าทางนอกคอกฉิบหาย” ได้ทีก็ต้องเอาคืนสิ จะให้เธอว่าผมฝ่ายเดียวได้ไง เก่งกับผู้หญิงมีใครให้มากกว่าผมไหม?“ไอ้โหยก!”“ยัยกะหรี่”“อยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“เธอสิอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“ดอลลี่ไปกลับบ้านกัน...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณศิลา” เสียงของคุณวาสนาทำให้ผมกับดอลลี่รีบปรับท่าทาง และสีหน้าให้เป็นป