สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 1-ไม่โอเค(ด็อจ)"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับคนสวย" ผมเดินเข้าไปถามเมื่อเห็นแฟนของเพื่อนนั่งชักสีหน้ายุ่งไม่สบอารมณ์ หลังจากที่ผมนั้นได้ดวลมวยกับไอ้ศิลาแล้วตอนนี้ปล่อยให้ไอ้ยอนมินขึ้นดวลต่อ"เกลียดแฟนค่ะพี่ด็อจ" เธอนั่งขาไขว่ห้าง มือกอดอก แล้วตอบผมแบบขอทีไปที"ทำไมล่ะ ไอ้ยอนมินมันไปมีกิ๊กที่ไหนหรือไง?" ผมแกล้งแหย่เล่นครับ เพราะตอนนี้หน้าของขนมปังที่เคยสดใส กลายเป็นขนมปังบูดไปเรียบร้อยแล้วครับ"ทำไมอ่ะพี่ด็อจ ปังอุตส่าห์แอบคุณพ่อมาเรียนมวยได้แล้วนะ แล้วเนี้ย!! มันอะไรกันอ่ะ ปังอยากขึ้นดวลบ้าง อยากเรียนแบบเดิมอ่ะ ทำไมพี่ยอนมินต้องห้าม ห้าม ห้าม ห้าม ห้าม ห้ามอยู่นั่น งื้อ ปังอยากต่อยมวย กะ...อื้อ" ยาวเลยครับทีนี้ พูดยาวแแบบไม่ต้องหายใจหายคอ ผมก็ได้แต่นั่งฟังเธอบ่นอย่างเดียว ไม่อยากขัดเพราะกลัวเธอจะโกรธเอา ก่อนที่ผมจะจะจับจังหวะได้ในคำพูดสุดท้ายของเธอที่พร้อมแล้วครับกับการที่จะกรีดร้องออกมา ผมไม่พลาดครับงานนี้รีบเอามือปิดปากเธอไว้ทันที ก่อนที่หูของผมจะแตกกระจายเพราะเสียงแหลม ๆ ของเธอ"อื้อ อี่อ็อด อ่อยอัง อื้อ" ยังครับผมยังไม่ปล่อยมือออกจากปากของขนมปัง แต่เธ
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 2-วุ่นวาย(ศิลา)"แล้วนั่นมึงจะไปไหน" เสียงของไอ้ด็อจแหกปากตามหลังผมมา ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอยากแหกปากก็แหกไป ทั้งที่มันก็รู้ว่าเส้นทางนี้คือผมจะต้องไปไหน"........." ผมเงียบครับ ขี้เกียจพูด ไม่มีอารมณ์!"ไอ้ศิลา กูถามไมไม่ตอบวะ" มันยังคงมีเสียงตามมาอีกครับ ผมก็เดินไปหยิบผ้า เตรียมไปอาบน้ำไม่อยากสนใจมัน หงุดหงิด!"........" ผมก็ยังนิ่งเหมือนเดิม"ไอ้ศิลา!" รอบนี้มันกระชากแขนผมจนผมต้องหยุดนิ่ง เสียงของไอ้ด็อจก็เหมือนจะเริ่มทนไม่ไหวกับความนิ่งของผมแล้วล่ะ"แหกตาดูดิ นี่มันค่ายมวยของมึง อย่ามาตอแหลทำเป็นถาม" ผมหันหน้าไปพูด เมื่อนึกรำคาญกับการเซ้าซี้ของมัน"เออ ปากก็มีเสือกทำเป็นเหมือนคนใบ้ พูดไม่ได้!" ปากดีฉิบหาย แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะมาต่อปากกับมันหรอกครับ ผมอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่อยู่บนเวทีมวยละ การดวลมวยของผมกับไอ้ยอนมินก็เริ่มไม่สนุก เมื่อผมเห็นผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของเพื่อน หยอกกันกระหนุงกระหนิงกับไอ้ด็อจ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าที่ผมเป็นตอนนี้มันคืออะไร รู้แค่ว่าผมไม่พอใจแค่นั้นพอ!"วุ่นวาย! แล้วมึงจะเสือกอะไรกับกูวะ?" ผมยืนนิ่ง ๆ แล้วถามมัน ไอ้นี่ชักทำให
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 3-รู้สึกเจ็บ(ยอนมิน)"มีมี่"ผมเรียกคนที่นอนเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียง เมื่อเสียงข้อความแชตดังเข้ามา สายตาของผมเห็นข้อความแล้วว่าเพื่อนชวนไปเที่ยวคืนนี้ ทั้งที่ผมตั้งใจจะมาง้อเมีย แต่เพื่อนมันก็ชวนอยู่นั่น อยากปฏิเสธนะแต่ว่าก็นานแล้วที่ผมไม่ได้ค่อยไปเที่ยวไหน ตั้งแต่ที่มีขนมปังมาอยู่ในชีวิต ทุกอย่างผมเปลี่ยนไปจนหมด ผมเปลี่ยนได้อยู่แล้วเพื่อเธอ แม้เธอจะบอกว่าให้ผมนั้นเหมือนเดิม ไม่ต้องเพิ่มเติมหรือทำอะไร ให้เป็นตัวของตัวเองก็พอ แต่ผมมันไม่พอไง ก็อยากมีเธอในชีวิตก็ต้องยอมเสียความเป็นตัวตนบางส่วนเพื่อต้อนรับคนที่รักเข้ามาอยู่จริงไหม?"คะ?"เธอตอบรับแต่สายตายังคงจ้องมองโทรศัพท์มือถือแล้วยิ้ม ยิ้มอะไรวะ หรือจะคุยกับผู้ชาย? คิดได้ดังนั้นผมจึงเดินเข้าไปแล้วนั่งข้างเธอ"ดูอะไร ทำไมยิ้ม ๆ คุยกับผู้ชายเหรอ เอามาดูดิ"เริ่มแล้วครับ ผมเริ่มหัวเสียแล้วที่เห็นเธอยิ้มกับหน้าจอมือถือ"มูมู่บ้าแล้ว เปล่าค่ะมีมี่แค่คุยกับดาวเรืองแล้วก็ลูกแก้ว นี่ไงคะ สองสาวนั้นชวนไปเที่ยว วันนี้ขอไปเที่ยวได้ไหมอ่ะ"เธอยื่นโทรศัพท์ให้ผมดูครับ แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เธอคุยแชตกับกลุ่มเพื่
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 4[ไม่เป็นไร(แต่ข้างในโคตรเจ็บ)](ด็อจ)"......" สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมนิ่งทันที มันเจ็บปวดตรงอกข้างซ้าย เหมือนใครเอาฝ่าเท้ามาเหยียบหัวใจของผมซ้ำ ๆ ไปมา เจ็บปวดกับภาพตรงหน้าที่เห็น เหมือนมีใครเอาน้ำแข็งเย็นมาถูจนผมหน้าชา คนที่บอกว่ารักผม คนที่มักบอกผมว่าทำงานยุ่ง จนหลัง ๆ เราแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่ผมก็เชื่อในคำปากนั้นและไว้ใจ เพราะหน้าที่การงานของเขามันยุ่งจริง ๆ เพราะผมเคยเห็นมาก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเพียงคำลวง"เป็นอะไรวะด็อจ"".....""ไอ้ด็อจ!""หา ห๊ะ!"แล้วผมก็ต้องรีบคืนสติกลับมาอยู่กับตัว เมื่อเพื่อนเขย่าแขนและตะเบ็งเสียงดังร้องถาม สิ่งที่เห็นนั้นทำให้ผมแทบช๊อก แทบลืมหายใจไป"พี่ด็อจเป็นอะไรไหม ทำไมสีหน้าพี่ดูไม่โอเคเลย" เป็นขนมปังที่ถามผมต่อ ด้วยสีหน้าที่เธอดูกังวล จ้องมองหน้าผมอย่างพิจารณา"พี่ไม่เป็นไรครับ ...(แต่ข้างในโคตรเจ็บเลย)..." ผมยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตัวเล็ก ให้คำตอบในสิ่งที่เธอถาม ก่อนจะพร่ำพูดลำพังในใจด้วยความเสียใจและเจ็บปวดที่หัวใจแทบแหลกสลาย"แน่ใจนะคะ" คนตัวเล็กที่ยืนข้างไอ้ยอนมินถามย้ำผมอีกครั้ง"ครับ" ผมตอบแค่นั้นแล้วเด
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 5-น็อก(ด็อจ)"ถ้าไม่อยากโสด มาลองคบกับพี่ดูไหมครับ"((!!!))ผมพูดคำนี้ออกมา พร้อมกับการกระดกเหล้าเข้าปาก ที่ผมพูดไปผมมีสติดีทุกอย่าง แต่ทำไมสายตาของทุกคนต้องมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาดอย่างนั้น"ลูกแก้วว่าพี่ด็อจคงจะเมา เอามาพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้ลูกแก้วคิดไกลนะคะ" จากที่ทุกคนเงียบและอึ้งในสิ่งที่ผมพูด เป็นน้องลูกแก้วที่เปล่งเสียงเพื่อกลบความเงียบ"พี่พูดจริงครับ ลองคบกันดูไหม หรือว่าน้องลูกแก้วไม่ได้โสด" ผมวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะ แล้วขยับไปนั่งข้างเธอ"ไอ้ด็อจกูว่ามึงเมา" เป็นเสียงของไอ้ยอนมินที่พูดขึ้น ซึ่งผมไม่ได้สนใจจะหันไปมอง ตอนนี้ผมสนใจจ้องแต่หน้าผู้หญิงตัวเล็กน่ารักคนนี้"ว่าไงครับน้องลูกแก้ว" ผมยังคงถามย้ำและยิ้มให้เธอ"เอ่อ คือว่า ..." เธอคงอึ้งไม่หาย เพราะคำตอบที่ผมต้องการจะฟังมันยังไม่เล็ดลอดจากปากของเธอ"ลูกแก้วปังว่าพี่ด็อจกริ่มแล้ว อย่าถือสาเลยนะ พี่ด็อจคงแหย่เล่น""ไม่ ๆ พี่พูดจริง ไม่ได้พูดเล่นอะไรทั้งนั้น"เมื่อขนมปังพูดขึ้นเหมือนกับห่วงเพื่อน ผมเลยพูดแทรกแล้วปัดป่ายมือปฏิเสธทันที เอ๊ะ! หรือผมเมาจริง ๆ วะ แต่ว่าที่พูดไปผมรู้ตัวทุกอย่างน
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย
สามรักสามหัวใจตอนที่ 10วันนี้ผมตื่นแต่เช้าโดยที่ไม่ต้องให้พ่อปลุก อาบน้ำแต่งตัวอย่างรู้หน้าที่ บางทีการที่ได้เริ่มชอบใคร มันก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ยาก เพราะว่าอยากจะทำให้คนที่เราชอบปลื้มใจก๊อก ก๊อก ก๊อก(ริวตื่นยัง)“เสร็จแล้วพ่อ” ผมยืนหน้ากระจกแล้วใส่สูท แล้วตะโกนตอบพ่อออกไป“พ่อฝันแน่เลยว่ะริว นี่ริวจริงปะ? หรือว่าตัวห่าอะไรสิงลูกพ่อกันแน่” ดูสิคำพูดคำจาร้ายกาจจริง ๆ แค่ผมตื่นเช้าและตื่นเอง มันน่าแปลกใจตรงไหนกัน“เยอะแล้วพ่อ ริวก็โตพอแล้วไหม ตื่นเองก็ได้เถอะ” แก้ตัวหน้าหล่อ ๆ ก็เท่าที่เหมือนจะรู้ตัว ก็มีแต่พ่อที่ปลุกตลอด ฮ่าฮ่าฮ่า“เหรอริว ตื่นเองก็ได้งั้นเหรอ” เสียงแบบไม่เชื่อสักนิด ดูทำหน้าทำตาเข้า บางทีพ่อก็กวนเหมือนกันนะ“เออพ่อ ริวว่าริวกำลังมีความรัก” ผมคิดได้เลยพูดออกไป เพราะไม่เคยปิดบังสิ่งที่ผมเป็นกับป๊าและพ่อสักครั้ง ทุกอย่างผมจะเล่าและขอคำปรึกษาจากพ่อ เพราะบางอย่างผมก็คิดเองไม่ได้ มันคิดไม่ออก“หืม? ริวมีความรักเหรอ” พ่อมองหน้าผม แล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ ก็แหงแหละผมบอกตลอดว่าเกลียดผู้หญิง ก็ยากที่พ่อจะเชื่อจริงไหม?“จริงนะพ่อ ริวรู้สึกว่าริวช
สามรักสามหัวใจตอนที่ 9“ป๊า”“อะไร?”ผมกับป๊านั่งทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะเผื่อเวลาเดินทางรถจะไม่ติดมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภาพเมื่อเช้ามันหวนเข้ามาในความคิด ภาพที่มันยังติดตาของผมอยู่ ใบหน้าของแม่ผู้ให้กำเนิดที่ผมได้เห็นชัดเจน เธอแตกต่างจากคนในรูปที่ผมเห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนเด็ก นึกอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ เพราะสีหน้าและแววตาที่เธอมองก่อนจะเดินจากไป มันเหมือนมีอะไรที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ เหมือนเธอกำลังทุกข์ใจ มีเรื่องให้กังวล อะไรประมาณนั้น แววตาเธอมันดูเศร้าหมอง“ป๊าไม่เคยรู้ข่าวของคุณริกะบ้างเลยเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา” ผมเงยก้มหน้าถาม ไม่กล้าที่จะมองหน้าป๊า กลัวว่าสายตาที่ได้จ้องป๊าจะฉายแววอ่อนแอให้เห็น“ถามทำไม?” ป๊าทำหน้าเหมือนกังวล แล้วถามผมทันที“ริวก็แค่อยากรู้”“ถ้ารู้แล้วมันทำให้ริวเจ็บปวด ป๊าไม่โอเค”ผมบอกป๊าแต่ว่าเหมือนป๊าจะไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ รู้ดีว่าป๊าคงไม่อยากให้ผมเศร้า แค่ตอนนี้มันอยากรู้บ้าง ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ แล้วก็ไม่เสียใจด้วย“ริวโอเค แค่อยากรู้เฉย ๆ”“ป๊าก็ไม่รู้มากหรอก รู้แค่ว่าเธอติดคุกตอนพ่อกับยอนมินมันสุมหัวกันแจ้งจับ ที่ตอนนั้นเธอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 8“งั้นสรุปตามนี้นะคะคุณศิลา ส่วนเรื่องสัญญาซื้อขายคุณร่างมาได้เลยค่ะ”“ครับ ขอบคุณมากนะครับที่ยังวางใจในสินค้าของทางเรา”ผมได้ยินเสียงป๊ากับคุณวาสนา คุยกันเหมือนทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว จึงละสายตาที่จ้องกับดอลลี่ไปมองทางผู้ใหญ่ทั้งสองคน ป๊าลุกยืนจับมือกับคุณวาสนา ผมก็เลยลุกตามและยิ้มให้คุณวาสนาเช่นกันตามมารยาท“งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”“ขอบคุณค่ะ”จากนั้นผมกับป๊าก็เดินลงไปส่งผู้หญิงทั้งสองคน ป๊ากับคุณวาสนาเดินคุยกัน ส่วนผมกับดอลลี่จ้องจะกัดกัน“หน้าอย่างนายเนี้ยนะลูกเจ้าของโรงงานใหญ่ขนาดนี้” ดอลลี่เธอเอนตัวเข้าหาแล้วกัดฟันพูดใส่ผม หน้าอย่างผมนี่แหละ มันไม่เหมาะจะเป็นลูกเจ้าของโรงงานใหญ่แบบนี้เหรอไง“แล้วหน้าอย่างเธอเนี้ยเหรอเป็นลูกคุณวาสนา เจ้าของบริษัทส่งออก ท่าทางนอกคอกฉิบหาย” ได้ทีก็ต้องเอาคืนสิ จะให้เธอว่าผมฝ่ายเดียวได้ไง เก่งกับผู้หญิงมีใครให้มากกว่าผมไหม?“ไอ้โหยก!”“ยัยกะหรี่”“อยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“เธอสิอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“ดอลลี่ไปกลับบ้านกัน...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณศิลา” เสียงของคุณวาสนาทำให้ผมกับดอลลี่รีบปรับท่าทาง และสีหน้าให้เป็นป