รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจ
ตอนที่ 4
[ไม่เป็นไร(แต่ข้างในโคตรเจ็บ)]
(ด็อจ)
"......" สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมนิ่งทันที มันเจ็บปวดตรงอกข้างซ้าย เหมือนใครเอาฝ่าเท้ามาเหยียบหัวใจของผมซ้ำ ๆ ไปมา เจ็บปวดกับภาพตรงหน้าที่เห็น เหมือนมีใครเอาน้ำแข็งเย็นมาถูจนผมหน้าชา คนที่บอกว่ารักผม คนที่มักบอกผมว่าทำงานยุ่ง จนหลัง ๆ เราแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่ผมก็เชื่อในคำปากนั้นและไว้ใจ เพราะหน้าที่การงานของเขามันยุ่งจริง ๆ เพราะผมเคยเห็นมาก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเพียงคำลวง
"เป็นอะไรวะด็อจ"
"....."
"ไอ้ด็อจ!"
"หา ห๊ะ!"
แล้วผมก็ต้องรีบคืนสติกลับมาอยู่กับตัว เมื่อเพื่อนเขย่าแขนและตะเบ็งเสียงดังร้องถาม สิ่งที่เห็นนั้นทำให้ผมแทบช๊อก แทบลืมหายใจไป
"พี่ด็อจเป็นอะไรไหม ทำไมสีหน้าพี่ดูไม่โอเคเลย" เป็นขนมปังที่ถามผมต่อ ด้วยสีหน้าที่เธอดูกังวล จ้องมองหน้าผมอย่างพิจารณา
"พี่ไม่เป็นไรครับ ...(แต่ข้างในโคตรเจ็บเลย)..." ผมยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตัวเล็ก ให้คำตอบในสิ่งที่เธอถาม ก่อนจะพร่ำพูดลำพังในใจด้วยความเสียใจและเจ็บปวดที่หัวใจแทบแหลกสลาย
"แน่ใจนะคะ" คนตัวเล็กที่ยืนข้างไอ้ยอนมินถามย้ำผมอีกครั้ง
"ครับ" ผมตอบแค่นั้นแล้วเดินนำหน้าเข้าไปข้างใน ไม่อยากพูดอะไรต่อให้มากความ ไม่อยากให้ใครถามอะไรมากมายต่อจากนี้ เพราะผมคงจะพูดไม่ออกและคงจะบอกไม่ถูก มันจุกมันเจ็บไปทั้งขั้วหัวใจ
(ยอนมิน)
"ปังว่าพี่ด็อจแปลก ๆ" ขนมปังที่ยืนมองตามหลังของเพื่อนแฟน เธอหันมาพูดกับเพื่อน ๆ ของเธอด้วยความสงสัย
ผมก็ได้แต่ยืนรอฟังเงียบ ๆ ผมรู้ดีว่าที่ไอ้ด็อจเป็นอะไร เมื่อเห็นกับใครคนหนึ่งที่มันเคยพาไปแนะนำให้รู้จัก นั่งคลอเคลียทั้งจูบทั้งหอมกับผู้ชายอยู่
"นั่นสิ ดาวเรืองเห็นจ้องมองไปตรงนั้นแล้วพี่เขาก็เงียบ" ดาวเรืองว่าเสริมอย่างออกความเห็นครับ ตอนนี้ทั้งสามสาวยืนสุมหัวพูดคุยกัน เหมือนกับผมไม่มีตัวตน
"ลูกแก้วว่าพี่ด็อจเหมือนคนอกหัก" และนั่นก็เป็นเสียงของเพื่อนอีกคน หวังว่าคงไม่ยืนคุยกันตรงนี้หรอกนะ แต่ผมว่าท่าจะยาว เพราะผู้หญิงถ้าได้เม้านี่ค่อนข้างออกนอกทะเล
"อะแฮ่ม พี่ว่าเราไปนั่งข้างในดีไหม คุยตรงนี้เดี๋ยวเมื่อยขาเอานะ" ผมต้องรีบแทรกบทสนทนาครับ ไม่งั้นยาว~~
"ปะ ๆ เราเข้าไปกันดีกว่า" เป็นเสียงของแฟนตัวแสบของผม ที่เดินจับมือเพื่อนทั้งสองเข้าไปด้านในด้วยความรีบร้อน ส่วนผมนั้นก็ได้แต่เดินตามหลัง คิดห่วงเพื่อนที่ต้องมาเจอเรื่องราวที่คงทำมันเจ็บไม่น้อย
"มาช้าว่ะ" เป็นเสียงของไอ้ศิลาที่ทักพวกผม
"พวกกูมาช้าหรือมึงมาเร็ว พูดให้เคลียร์" ผมย้อนเพื่อน พร้อมกับดึงขนมปังให้นั่งลงข้าง ๆ ส่วนเพื่อนผมอีกคนนั้นเงียบกริบ มาถึงก็จัดการสั่งเครื่องดื่มอย่างเดียว ซึ่งผมก็รู้ดีว่าเพราะอะไร
"พี่ศิลานี่เพื่อนปังค่ะ ดาวเรืองกับลูกแก้ว จำได้ไหมที่เคยเอารูปให้ดู" แล้วแฟนผมก็แนะนำเพื่อนของเธอกับไอ้ศิลา ส่วนผมเหรอนั่งคลอเคลียเมียอย่างเดียวครับ
"สวัสดีค่ะพี่ศิลา" ทั้งสองสาวทักทายเพื่อนผมพร้อมรอยยิ้มสวย ๆ และสายตาที่จับจ้องมองหน้าเพื่อนของผม
"ครับ" ไอ้ศิลามันตอบแค่นั้นจริง ๆ ครับ แต่มันก็โปรยรอยยิ้มที่แสนจะละลายใจสาว
"เห้ย ๆ เบา ๆ ไอ้ด็อจ" เมื่อเครื่องดื่มที่สั่งมาถูกวางลงตรงหน้า ไอ้ด็อจที่เสียใจเหมือนอกหัก จัดการกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รอใคร จึงทำให้ผมนั้นรีบร้องปรามไว้
"มันเป็นอะไรวะ" ไอ้ศิลาที่ไม่รู้เรื่องราว หันมาถามผม
"เสือก!" แล้วไอ้ด็อจก็ตอบแทรกอย่างหงุดหงิด ซึ่งผมน่ะเข้าใจความรู้สึกของมันดี
"เอ้าไอ้นี่ กูแค่ถามไหม?" ไอ้ศิลามันรีบสวนทันทีด้วยความหัวเสียเลยครับ
"ใจเย็น เพื่อนกันบางทีไอ้ด็อจอาจจะมีเรื่องไม่สบายใจก็ได้ มา ๆ ชนดีกว่า" ผมรีบแย้งเมื่อเห็นไอ้ศิลาเหมือนเคืองเพื่อน
"ขอชนด้วยได้ไหมคะ...ขอวันหนึ่งได้ปะ?" นั่นไงยัยตัวแสบของผม เริ่มออดอ้อนขอดื่มอีกแล้ว
"ดื่มแค่นั้นพอครับ น้ำสีสวยกับคนสวย ๆ เดี๋ยวคืนนี้หนูไม่มีสติ มันจะ..." ผมกระซิบลงข้างหูเธอที่ได้ยินเพียงสองคน
"อย่ามา..." เธอเขม็งตาใส่ผมเหมือนจะรู้ทันว่าผมหมายถึงอะไร
"ไม่มีข้อแม้ครับ ผัวให้ดื่มแค่นั้น หรือไม่งั้นก็กลับบ้านดีไหม?" ผมแข็งข้อครับเพราะเป็นห่วงเธอ
"เหมือนพวกกูไม่มีตัวตน เป็นธาตุอากาศไว้ประดับโต๊ะมึงเนาะไอ้ยอนมิน" ผมหันไปตามเสียงที่พูดแซว และมีสายตาหลายคู่มองมาที่ผมกับขนมปังแล้วยิ้ม สองสาวเพื่อนของเธอก็เช่นกัน
"อิจฉานะคะ เห็นใจคนโสดอย่างลูกแก้วบ้าง" เป็นลูกแก้วครับที่แซวผมกับขนมปัง
"ถ้าไม่อยากโสด มาลองคบกับพี่ดูไหมครับ"
((!!!))
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 5-น็อก(ด็อจ)"ถ้าไม่อยากโสด มาลองคบกับพี่ดูไหมครับ"((!!!))ผมพูดคำนี้ออกมา พร้อมกับการกระดกเหล้าเข้าปาก ที่ผมพูดไปผมมีสติดีทุกอย่าง แต่ทำไมสายตาของทุกคนต้องมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาดอย่างนั้น"ลูกแก้วว่าพี่ด็อจคงจะเมา เอามาพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้ลูกแก้วคิดไกลนะคะ" จากที่ทุกคนเงียบและอึ้งในสิ่งที่ผมพูด เป็นน้องลูกแก้วที่เปล่งเสียงเพื่อกลบความเงียบ"พี่พูดจริงครับ ลองคบกันดูไหม หรือว่าน้องลูกแก้วไม่ได้โสด" ผมวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะ แล้วขยับไปนั่งข้างเธอ"ไอ้ด็อจกูว่ามึงเมา" เป็นเสียงของไอ้ยอนมินที่พูดขึ้น ซึ่งผมไม่ได้สนใจจะหันไปมอง ตอนนี้ผมสนใจจ้องแต่หน้าผู้หญิงตัวเล็กน่ารักคนนี้"ว่าไงครับน้องลูกแก้ว" ผมยังคงถามย้ำและยิ้มให้เธอ"เอ่อ คือว่า ..." เธอคงอึ้งไม่หาย เพราะคำตอบที่ผมต้องการจะฟังมันยังไม่เล็ดลอดจากปากของเธอ"ลูกแก้วปังว่าพี่ด็อจกริ่มแล้ว อย่าถือสาเลยนะ พี่ด็อจคงแหย่เล่น""ไม่ ๆ พี่พูดจริง ไม่ได้พูดเล่นอะไรทั้งนั้น"เมื่อขนมปังพูดขึ้นเหมือนกับห่วงเพื่อน ผมเลยพูดแทรกแล้วปัดป่ายมือปฏิเสธทันที เอ๊ะ! หรือผมเมาจริง ๆ วะ แต่ว่าที่พูดไปผมรู้ตัวทุกอย่างน
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 6-ไม่เมาเอาที(ศิลา)"อยู่นิ่ง ๆ ได้ไหมไอ้ด็อจ"ผมบอกคนที่ไม่ยอมอยู่นิ่ง พูดพร่ำเพ้อแบบไม่มีสติ แล้วตอนนี้ผมก็อึน ๆ เพราะการดื่มนั่นแหละ แต่ต้องลากสังขารพามันมาส่งที่ห้อง แต่ไม่ใช่ห้องของมันนะ เพราะไกลกว่าที่พักของผม ผมพามาที่บ้านของผมเองแหละ และตอนนี้ก็กำลังพยุงคนเมาขึ้นบันไดด้วยความทุลักทุเล"ทำไมแม่งทำกับกูแบบนี้วะ อีผู้หญิงคนนั้นมันดีกว่ากูตรงไหน ทำไมมันต้องหลอกกูด้วย ไอ้เลว"เลวเต็ม ๆ หน้าผมเลย...ปล่อยมันพูดไปก่อนครับ เพราะตอนนี้ผมต้องการจะถึงห้องเร็ว ๆ บ้านที่ผมซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรง เพราะอยากอยู่ส่วนตัว ผมไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ไปหาพ่อกับแม่นะ ผมจะกลับบ้านเดือนละสองครั้ง"น่ารำคาญว่ะมึง แล้วกูก็ต้องมาลำบากแบกมึงมา เมาอย่างกับหมา"ตุบ! ผมปล่อยมันลงกับเตียงนอนจนยุบตัว สภาพที่ดูแทบไม่ได้ กลิ่นเหล้าหึ่งยิ่งกว่าอาบมาทั้งลัง"ไอ้เ_ยนั่น แม่ง! ไอ้เลว ไหนบอกกูว่างานยุ่งวะ ทำไม ทำไม ทำไมวะ ฮือ ๆ"ผมยืนเท้าสะเอวมองคนเมาที่เอาแต่พร่ำเพ้อไปเรื่อย ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำผมเริ่มจะตาลายแล้วครับตอนนี้ แต่ผมต้องจัดการกับคนเมาให้อยู่นิ่ง ๆ เพราะตอนนี้มันลุกตัว
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 7-เสร็จ(18+)(ศิลา)ผมดันร่างกายของมันให้นอนราบกับเตียงนอน เปลือกตาของไอ้ด็อจก็แทบจะลืมไม่ขึ้น มันปรือตามองผมชั่วครู่ ก่อนจะปิดลงเพราะผมจูบปิดปากของมัน และดูดกันอย่างรุนแรงพร้อมกับมือของผม ที่จับล็อกข้อมือของไอ้ด็อจออกด้านข้างทั้งสองข้าง ฝังแม่งลงกับเตียงให้จม จะได้ไม่ยุ่มย่ามให้เสียเวลา ก็ผมมันคนดิบ! ผมมันคนเถื่อนเรื่องบนเตียง!ผมเป็นฝ่ายขึ้นคาบคร่อมไอ้ด็อจ ผมทั้งจูบและซุกไซร้ไปตามซอกคอของคนที่ไม่ค่อยจะมีสติ ก่อนที่จะไล่ต่ำลงมาที่หัวนม มันเป็นปุ่มแข็งตั้งชัน ผมใช้ปลายลิ้นดันดูดดึง สลับกับตวัดเลียจนได้ยินเสียงแค่นในลำคอบางเบา ทั้ง ๆ ที่มันเมาก็ยังแสดงถึงอาการที่ผมกำลังปลุกปั่น สภาพร่างกายภายนอกของมันอาจจะไม่พร้อม แต่ภายในนี่คงต้องการไม่ต่างไปจากผมเป็นแน่ จะเรียกว่าเพื่อสนองแก่ตัวเองก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้ผมทนไม่ไหวจริง ๆ ผมต้องการปลดปล่อยความอึดอัดที่มีตอนนี้ออกมาให้หมดผมเงยหน้ามองไอ้ด็อจที่เขากำลังสะลึมสะลือ บางครั้งก็เหมือนกำลังมีอารมณ์ร่วมกับผมอย่างมีความสุข ผมเลื่อนมือลงต่ำไปยังความแข็งแรงที่ชี้โด่ของไอ้ด็อจ จัดการถอดกางเกงของมันออกแล้วจับรูดขึ้นล
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 8 - สับสนหรือเสียใจ(ด็อจ)แสงสว่างจากภายนอกที่สาดทอเข้ามา มันทำให้ผมรู้สึกตัว ผมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งกะพริบปรับรับแสงสว่างที่สาดทอเข้ามา ตื่นมาบนที่นอนพร้อมกับหัวที่ปวดหนึบ ใช่ครับมันปวดมากเพราะเมื่อคืนผมคงดื่มหนักจนเกินไป ดื่มหนักจนเหมือนคนเสียสติเพราะความเสียใจ ตอนนี้ผมลืมตามองเพดานสองมือกุมหัวที่ปวดเหมือนจะระเบิดแต่เดี๋ยวนะ! นี่ไม่ใช่ห้องนอนของผม!?ความตกใจทำให้ผมกวาดสายตามองรอบห้อง ห้อนนอนที่ผมเคยมาอยู่บ่อย ๆ ก่อนสายตาจะมองไปยังด้านข้างที่มีผู้ชายคนหนึ่งนอนคว่ำหันหน้ามาทางผม แผ่นหลังหนาที่คุ้นตา ใบหน้าที่เด่นชัดแม้จะอยู่ในสภาพที่นอนนิ่ง ผมก็จำได้ดี...ไอ้ศิลา!"อะไรกันวะเนี้ย!?" ผมสบถเสียงและขมวดคิ้วชนกันด้วยความตกใจ ยีหัวจนผมฟูฟ่องอย่างไม่เข้าใจ สายตามองไปเห็นกางเกงที่กองอยู่กับพื้น มั่นใจมากว่ามันคือกางเกงที่ผมใส่เมื่อคืนนี้คิดดังนั้นจะเปิดผ้าห่มผืนหนาดู ตาของผมต้องเบิกกว้าง หูของผมอื้ออึงไปหมด ไม่ต้องบอกก็ย่อมรู้ว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น...นี่ผมเสียตัวให้เพื่อนเหรอวะ!ผมคิดภาพทุกอย่างทบทวน แต่คิดยังไงผมก็นึกไม่ออก สุดท้ายที่จำได้คือ
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 9-ครีมอาบน้ำหอม ๆ(ศิลา)ผมได้เสียงบ่นยุบยิบจนผมต้องตื่น ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนผมใช้แรงไปค่อนข้างเยอะ สิ่งที่ผมทำผมรู้ตัวเองดี แต่ผมคงไม่รู้สึกผิดหรอกนะ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมพยายามห้ามใจแล้ว แต่เมื่อการถูกรุกล้ำมันบานปลาย ผมเลยทนไม่ไหว สุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องอย่างว่าผมขับรถมาส่งไอ้ด็อจที่ผับ แล้วผมจึงขับรถออกมาเพื่อไปหาผู้หญิงที่ผมนัดหมายไว้ แม้จะมาก่อนเวลานัดหมายก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงเธอก็เปิดประตูต้อนรับผมอยู่แล้ว เธอชื่อมัดหมี่ เป็นคนน่ารักอ้อนเก่ง ผมคุยกับเธอบ่อยและควงบ่อยที่สุด ซึ่งเพื่อนสนิททั้งสองคนของผมคุ้นเคยดีกริ่ง กริ่ง...ผมกดกริ่งหน้าห้องของมัดหมี่ ผู้หญิงสวยที่ตอนนี้ผมคุยกับเธอเยอะที่สุด"ศิลา"เมื่อเธอเปิดประตูมาให้เห็นหน้า แววตาและรอยยิ้มสวยก็เฉิดฉายเด่นตรงหน้าผม ผมยิ้มอ่อนให้พร้อมกับเดินกอดคอเธอเข้าห้องไปผมนั่งลงตรงโซฟารับแขก ไล่สายตากวาดมองร่างบอบบางตรงหน้า ที่เหมือนว่าเธอนั้นพร้อมเอื้ออำนวยแก่ผม สายตาระดมจ้องมองไปยังส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยืนเด่นตรงหน้า แววตาของเธอดูไร้เดียวสาน่าทะนุถนอม ผมค่อย ๆ หยัดตัวลุกยืน แล้วเดินเข้าไปหาเธออย
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 10-ลงอ่าง(ศิลา)"ศิลาเป็นคนเดียวเลยนะ ที่ได้ลองครีมอาบน้ำกลิ่นนี้...หอมไหมคะ" มัดหมี่เธอถามผม พร้อมกับหันไปหยิบครีมอาบน้ำขวดพอดีมือ"ผมควรดีใจ?" ผมย้อนถาม ขณะที่มัดหมี่เดินจับมือผม เดินไปยังอ่างน้ำใบใหญ่สีขาว"หรือศิลาไม่ดีใจเหรอ""ดีใจครับ""เดี๋ยวหมี่จะอาบให้หอม ๆ เลยนะคะ"ผมและเธอคุยอ้อล้อกัน มัดหมี่เธอมันช่างยั่วยวนดีจริง ๆ สายตาของเธอเวลามอง มันทำให้ผมต้องการขย้ำเธอเอามาก ๆ"ศิลาชอบไหมคะ?""ชอบครับ หอมอย่างที่หมี่บอกจริง ๆ ... หื้ม"เธอถามผมในขณะที่ร่างกายเธอคาบคร่อมช่วงเอวของผม ครีมอาบน้ำกลิ่นหอมถูกบีบลงบนอกผมอย่างช้า ๆ สายตาของเธอมันเย้ายวนตัวตนของผมจริง ๆ"อย่าไปทำแบบนี้กับใครล่ะ""ทำไมคะ?""ผมหวงครับ ทำได้แค่กับผมคนเดียว"การกระทำของมัดหมี่ตอนนี้ มันปลุกอารมณ์ของผมจนแทบทนไม่ไหว ผมอยากสาดแรงใส่ร่างกายของเธอเน้น ๆ อยากขยับเอว อยากกระแทกจนเธอร้องขอชีวิต"ไม่คิดจะให้หมี่ลองอะไรใหม่ ๆ หน่อยเหรอ""ถ้าไม่อยากตายคู่ ก็อย่าให้ผมรู้ครับ""หมี่ไม่กล้าหรอกค่ะ มีแค่ศิลาคนเดียว หมี่ก็แทบคลานแล้ว""วันนี้อยากคลานหรือแค่อยากเข่าอ่อน""หมี่รับได้หมด ขอแค่เป็น
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 11(ก็แค่ระบาย)(ศิลา)"โอ้โหสภาพ มึงไปออกรบมาเหรอไอ้ศิลา" เมื่อผมเดินเข้ามาในค่ายมวย ก็มีเสียงทักทันที ไอ้ยอนมินครับมันทักผมซะเสียงดัง ส่วนขนมปังที่นั่งบนตักก็ได้แต่ยิ้ม ไอ้ยอนมินทำเหมือนขนมปังไม่มีก้น น้องมันนั่งเองก็ได้เถอะ"สวัสดีค่ะพี่ศิลา" ขนมปังทักผม"น้องอันดาสวัสดีพี่ศิลาหรือยังคะ?" ขนมปังหันไปพูดกับเด็กผู้หญิงตัวกลม ๆ นั่งทำตาบ๊องแบ๊วบนตักไอ้ด็อจ ก็ลูกสาวอาไฟนั่นแหละ แต่ดูเหมือนเธอไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่แต่ไอ้ด็อจมันดูแปลก ๆ มันมองหน้าผมนิ่ง ๆ ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มเด็กน้อยคนนั้น"สวัสดีค่ะ" อันดาเธอไหว้และทักผม ด้วยใบหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มสักนิด ทั้งที่ตอนผมเดินเข้ามายังเห็นเธอยิ้มร่าเริง"สวัสดีครับ ทำไมวันนี้ถึงมากับพี่ ๆ ได้นะ" ผมนั่งลงข้างไอ้ด็อจ แล้วยิ้มให้เธอ มือก็เขี่ยแก้มของเธอเบา ๆ"นั่งรถมากับพี่ยอนมินกับพี่เฌอไงคะ น้องอันดาอยากมาเล่นกับพี่ด็อจ" น้องอันดาเธอตอบผมครับ แต่คำตอบของน้องเหมือนหลอกด่าผมปะ?"มูมู่ ปล่อยได้ละ มีมี่จะนั่งเอง อะไรมันจะขนาดนั้น" เสียงของขนมปังครับ แต่เพื่อนผมมันก็เว่อเกิน อะไรมันจะขนาดนั้น"ก็ห่วงไงครับ กลัวแฟนเจ็บต
รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจตอนที่ 12-ก็แค่...เป็นห่วง(ด็อจ)ผมพาน้องอันดามาหาขนมกิน เธอค่อนข้างจะติดผมนะ และเธอน่ะชอบบอกว่าผมเป็นแฟน น้องอันดาเธอน่ารักมาก พูดก็เก่ง ร่าเริงสดใสมาก ผมเลยหลงเธอ หลงในความออดอ้อนที่ไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆทุกอย่างได้ตามที่เธอต้องการ จนผมจัดเก็บของทุกอย่างเข้าที่ แต่ว่ามือไม่รักดีมันเหวี่ยงไปโดนมืดที่วางข้าง ๆ"โอ๊ะ!!" ผมสะดุ้งเพราะความเจ็บ"พี่ด็อจเป็นอะไรคะ" น้องอันดาเธอเดินมาใกล้ แล้วเงยหน้าถาม"ไม่เป็นอะไรครับ""พี่ด็อจมีเลือด เลือดไหลเยอะแยะเลย น้องอันดาจะไปเรียกคนมาช่วย พี่ด็อจรอตรงนี้นะ""อันดาเดี๋ยว!"ผมตอบอันเราไป แต่ดูเหมือนเธอจะตกใจกับเลือดที่ค่อย ๆ ซึมออกมา แค่จะบอกว่าเล็กน้อย แต่เด็กน้อยของผมก็วิ่งออกไปด้วยความตื่นตูม มันเป็นแผลเล็กน้อยมาก แต่ก็ไม่ทันเธอครับเพราะเธอวิ่งเร็วออกไปละ"อ่าแสบ" ผมจัดการเปิดน้ำล้างแผล เมื่อน้ำสัมผัสลงกับรอยบาดแผล มันทำให้ผมแสบจนสะดุ้ง(ไอ้ด็อจ!! ด็อจ! ไอ้ด็อจอยู่ไหนวะ!)ผมได้ยินเสียงเรียก จึงหันหลังไปมอง เป็นไอ้ศิลาครับที่มีนวิ่งหน้าตั้งเข้ามา สีหน้าของมันดูตกอกตกใจ แต่ผมไม่เข้าใจมันจะตกใจทำไม?"อะไรของมึงเรียกซะเสียงดั
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย
สามรักสามหัวใจตอนที่ 10วันนี้ผมตื่นแต่เช้าโดยที่ไม่ต้องให้พ่อปลุก อาบน้ำแต่งตัวอย่างรู้หน้าที่ บางทีการที่ได้เริ่มชอบใคร มันก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ยาก เพราะว่าอยากจะทำให้คนที่เราชอบปลื้มใจก๊อก ก๊อก ก๊อก(ริวตื่นยัง)“เสร็จแล้วพ่อ” ผมยืนหน้ากระจกแล้วใส่สูท แล้วตะโกนตอบพ่อออกไป“พ่อฝันแน่เลยว่ะริว นี่ริวจริงปะ? หรือว่าตัวห่าอะไรสิงลูกพ่อกันแน่” ดูสิคำพูดคำจาร้ายกาจจริง ๆ แค่ผมตื่นเช้าและตื่นเอง มันน่าแปลกใจตรงไหนกัน“เยอะแล้วพ่อ ริวก็โตพอแล้วไหม ตื่นเองก็ได้เถอะ” แก้ตัวหน้าหล่อ ๆ ก็เท่าที่เหมือนจะรู้ตัว ก็มีแต่พ่อที่ปลุกตลอด ฮ่าฮ่าฮ่า“เหรอริว ตื่นเองก็ได้งั้นเหรอ” เสียงแบบไม่เชื่อสักนิด ดูทำหน้าทำตาเข้า บางทีพ่อก็กวนเหมือนกันนะ“เออพ่อ ริวว่าริวกำลังมีความรัก” ผมคิดได้เลยพูดออกไป เพราะไม่เคยปิดบังสิ่งที่ผมเป็นกับป๊าและพ่อสักครั้ง ทุกอย่างผมจะเล่าและขอคำปรึกษาจากพ่อ เพราะบางอย่างผมก็คิดเองไม่ได้ มันคิดไม่ออก“หืม? ริวมีความรักเหรอ” พ่อมองหน้าผม แล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ ก็แหงแหละผมบอกตลอดว่าเกลียดผู้หญิง ก็ยากที่พ่อจะเชื่อจริงไหม?“จริงนะพ่อ ริวรู้สึกว่าริวช
สามรักสามหัวใจตอนที่ 9“ป๊า”“อะไร?”ผมกับป๊านั่งทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะเผื่อเวลาเดินทางรถจะไม่ติดมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภาพเมื่อเช้ามันหวนเข้ามาในความคิด ภาพที่มันยังติดตาของผมอยู่ ใบหน้าของแม่ผู้ให้กำเนิดที่ผมได้เห็นชัดเจน เธอแตกต่างจากคนในรูปที่ผมเห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนเด็ก นึกอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ เพราะสีหน้าและแววตาที่เธอมองก่อนจะเดินจากไป มันเหมือนมีอะไรที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ เหมือนเธอกำลังทุกข์ใจ มีเรื่องให้กังวล อะไรประมาณนั้น แววตาเธอมันดูเศร้าหมอง“ป๊าไม่เคยรู้ข่าวของคุณริกะบ้างเลยเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา” ผมเงยก้มหน้าถาม ไม่กล้าที่จะมองหน้าป๊า กลัวว่าสายตาที่ได้จ้องป๊าจะฉายแววอ่อนแอให้เห็น“ถามทำไม?” ป๊าทำหน้าเหมือนกังวล แล้วถามผมทันที“ริวก็แค่อยากรู้”“ถ้ารู้แล้วมันทำให้ริวเจ็บปวด ป๊าไม่โอเค”ผมบอกป๊าแต่ว่าเหมือนป๊าจะไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ รู้ดีว่าป๊าคงไม่อยากให้ผมเศร้า แค่ตอนนี้มันอยากรู้บ้าง ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ แล้วก็ไม่เสียใจด้วย“ริวโอเค แค่อยากรู้เฉย ๆ”“ป๊าก็ไม่รู้มากหรอก รู้แค่ว่าเธอติดคุกตอนพ่อกับยอนมินมันสุมหัวกันแจ้งจับ ที่ตอนนั้นเธอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 8“งั้นสรุปตามนี้นะคะคุณศิลา ส่วนเรื่องสัญญาซื้อขายคุณร่างมาได้เลยค่ะ”“ครับ ขอบคุณมากนะครับที่ยังวางใจในสินค้าของทางเรา”ผมได้ยินเสียงป๊ากับคุณวาสนา คุยกันเหมือนทุกอย่างเสร็จสิ้นดีแล้ว จึงละสายตาที่จ้องกับดอลลี่ไปมองทางผู้ใหญ่ทั้งสองคน ป๊าลุกยืนจับมือกับคุณวาสนา ผมก็เลยลุกตามและยิ้มให้คุณวาสนาเช่นกันตามมารยาท“งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”“ขอบคุณค่ะ”จากนั้นผมกับป๊าก็เดินลงไปส่งผู้หญิงทั้งสองคน ป๊ากับคุณวาสนาเดินคุยกัน ส่วนผมกับดอลลี่จ้องจะกัดกัน“หน้าอย่างนายเนี้ยนะลูกเจ้าของโรงงานใหญ่ขนาดนี้” ดอลลี่เธอเอนตัวเข้าหาแล้วกัดฟันพูดใส่ผม หน้าอย่างผมนี่แหละ มันไม่เหมาะจะเป็นลูกเจ้าของโรงงานใหญ่แบบนี้เหรอไง“แล้วหน้าอย่างเธอเนี้ยเหรอเป็นลูกคุณวาสนา เจ้าของบริษัทส่งออก ท่าทางนอกคอกฉิบหาย” ได้ทีก็ต้องเอาคืนสิ จะให้เธอว่าผมฝ่ายเดียวได้ไง เก่งกับผู้หญิงมีใครให้มากกว่าผมไหม?“ไอ้โหยก!”“ยัยกะหรี่”“อยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“เธอสิอยากตายจริง ๆ ใช่ไหม?”“ดอลลี่ไปกลับบ้านกัน...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณศิลา” เสียงของคุณวาสนาทำให้ผมกับดอลลี่รีบปรับท่าทาง และสีหน้าให้เป็นป