หน้าหลัก / LGBTQ+ / รักของจันทรา / บทที่ 4 สัมภาษณ์เข้าพัก

แชร์

บทที่ 4 สัมภาษณ์เข้าพัก

            บ้านศศิกานต์เป็นทาวน์เฮ้าส์สี่ชั้นอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า  สไตล์คลาสสิคทำให้บ้านไม่ดูล้าสมัยแม้ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนาน  ขณะนี้ดวงอาทิตย์ลับลา  ส่งให้ดวงจันทร์ส่องประกายแข่งกับแสงไฟข้างถนน  สายลมเย็นพัดเข้ามาในบ้านเอื่อยเฉื่อย  เวลานี้เป็นเวลาสองทุ่มตรง  คืนนี้      ศศิกานต์ต้องสัมภาษณ์คนมาอยู่บ้านร่วมกันหลังจากเปิดรับสมัครมาสองเดือน  เธอเรียกทั้งสองคนมานั่งบนโซฟา  ตรงชั้นหนึ่งมีห้องรับแขกที่เป็นที่ส่วนกลาง  ห้องนอนของเธอ  และห้องครัวขนาดเล็กอยู่ด้านในสุด  ส่วนด้านบนเป็นห้องนอนอีกสามชั้น  และชั้นดาดฟ้า  อย่างไรก็ตามผู้เช่าอีกคนหนึ่งยังไม่มา 

            คนแรกเป็นผู้ชายค่อนข้างเท่  ผิวสีแทน  ตาตี่  มีแววตารับฟังอย่างลึกซึ้งเวลาคุยกับคนอื่น  เขามองลึกเข้าไปภายใต้หน้าตาดีของศศิกานต์  เห็นความไม่มั่นใจในตนเอง  ความมุ่งมั่น  และความเศร้าสร้อย  แต่เขาก็รอให้เธอเอ่ยก่อน

            "แนะนำตัวด้วยค่ะ"  ศศิกานต์ถอดหน้ากากออก  จับแก้มตัวเองเบาๆ ยังดีใจไม่หายที่หน้าเข้าที่แล้ว

            "เราชื่อธนู  อายุยี่สิบสี่ปี  เป็นผู้ช่วยเซฟครับ  เท่านั้น" 

            เขาตอบสั้นๆ

            “อายุมากกว่าศศิสองปี  ต้องเรียกพี่สินะคะ”

            “อ่อ ไม่ต้องหรอก  จะได้สนิทกันมากๆไง ศศิ”

            เขาเอ่ยอย่างสบายๆ

            "ทำไมถึงมาเช่าที่นี่คะ  มีความจำเป็นอะไร"

            "เรากำลังเก็บเงินเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง  ร้านเล็กๆ เองครับ  แถมที่นี่ก็เดินทางสะดวกด้วย  แต่นอกจากทำอาหารแล้ว  ความสามารถพิเศษของเราคือให้คำปรึกษาด้านความรัก"

            หูย  คนนี้น่าคบ

            ศศิกานต์อุทานในใจ  เมื่อนึกถึงความรักข้างเดียวของตัวเอง  แม้จะนานมาแล้ว

            ผู้เช่าอีกคนเป็นสาววัยสามสิบปี  ตัวเล็ก  ผอมกะหร่อง  ผมสีฟ้า  ทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอ  รอให้ถึงคิวตัวเอง 

            "สวัสดีค่า  พี่ชื่อซีนะคะ  เป็นช่างแต่งหน้าอ่ะคะ  วันนี้เพิ่งกลับจากกอง  เหนื่อยมาก  ก.ไก่ ยาวไปค่ะ  เอ๊ะ  น้องเป็นนางแบบวันนี้นี่คะ  พี่เห็นนะ  แอดไลน์คุยกับน้องปรีย์อ่ะ  นางเจ้าชู้นะคะ  บอกเลยว่าระวังเป็นลูกกวางน้อยให้นางจับนะคะ"

            "เอ่อ..."  ศศิกานต์คิดตามไม่ทันกับข้อมูลยาวเหยียดนั้น

            "คอยดูไปก่อนก็ได้"  ธนูเอ่ยเรียบๆ  "เราจะไม่รู้จักใครเต็มร้อยผ่านคำพูดของคนอื่น  ของแบบนี้ต้องคุยด้วยตัวเองถึงจะรู้จักกันนะ"

            "พี่ซีบอกเลยว่า  อย่าเล่นกับไฟนะคะ"

            ซีแย้งทันที  แต่ในหัวของอีกฝ่ายไม่ได้ยินคำนั้น 

            "ถ้าเราจะจีบดอกฟ้า  เราจะจีบอย่างไรดีอ่ะ  ธนู"

            "อันดับแรกเราต้องทำตัวเองให้ดูดีขึ้น  ซึ่งตอนนี้น้องศศิก็ดูดีแล้ว  สองต้องทำฐานะให้พร้อม  สามเอาตัวเองไปอยู่ต่อหน้าเขาบ่อยๆ  สี่คุยให้สนุก  และห้าเมื่อเธอมีใจให้บอกความในใจได้"

            ศศิกานต์จดคำแนะนำด้วยมือถืออย่างว่องไว  ก่อนชม

            "เก่งจัง  คิดได้ไงเนี่ย"

            "อ่อ ฟังกูรูในเน็ตมาอีกที"

            ทุกคนหัวเราะร่วมกัน

            "พี่ซีถามหน่อยนะคะ  น้องศศิเป็น LGBTQ เหรอคะ" 

            "ค่ะ  ตั้งแต่จำความได้  ก็ชอบผู้หญิงมาตลอด" 

            หน้าสีจัดขึ้นมาโดยในใจหวังว่า

            แต่ถ้าสองคนนี้รู้  ศศิอาจได้พวก  และคนเชียร์ก็เป็นได้

            "เป็นรุกอ่ะเปล่า  แววตามันฟ้อง"  พยักหน้าอย่างเขินอายแทนคำตอบ  "ถ้าไม่ใช่คงจะเป็นรับที่หาคู่ยากเหมือนกันนะคะ ตัวโตขนาดนี้"

            ขณะเดียวกัน  ดวงตากลมมองมาที่ทั้งสามคน  ก่อนเดินเข้ามาอย่างมั่นใจด้วยรองเท้าส้นสูงห้านิ้ว  วางกระเป๋าเดินทาง สวมแว่นตาสีดำ  ทั้งๆ ที่เป็นเวลากลางคืน

            "แนะนำตัวด้วยค่ะ"  เจ้าของบ้านขอร้องเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา  ความตื่นเต้นของคนตาคมพุ่งถึงขีดสุด 

            "สวัสดีค่ะ  ชื่อสุปรีย์  เรียกปรีย์ก็ได้  เป็นนางแบบค่ะ  ต้องการใช้เงิน  เลยหาคนหารค่าเช่าค่ะ  ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ      แต่เอ๊ะ  คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น"  เธอสะบัดผมสวยไปข้างหลัง 

            ศศิกานต์รู้สึกหน้าแดง  จึงหยิบกระดาษขึ้นมาพัดให้ตัวเอง  แถมความกดดันทำให้เธอหน้าถมึงทึงอีกครั้ง  

เปลี่ยนโฉมไปแล้ว  ต้องเปลี่ยนตัวเองไปด้วย  บอกตัวเองให้กล้าเข้าไว้  ศศิต้องเข้าถึงเธอให้ได้!!

            "มีแฟนหรือยังคะ  คือ  ถ้าจะพาคนมาที่นี่  ต้อง...ต้อง"  ศศิกานต์คิดไม่ออก

            สุปรีย์มองเธอออกอย่างตลอดทั่ว  เลยยิ้มมีเลศนัย  แววตาอ่านยาก

            "สถานะโสดค่ะ  แล้วก็จะรักษาความเป็นส่วนตัวให้ทุกคนเองนะคะ"

            "แล้ว...ชอบดอกไม้อะไรคะ"

            "คะ"  เธอแปลกใจกับคำถาม  "ดอกมะลิค่ะ  หอมดี"

            "แปลว่าเวลาจีบ  ต้องเอาพวงมาลัยมาให้"  ซีเอ่ย  หัวเราะคิกคัก

            "จริงหรือคะ"  ศศิกานต์สติหลุดไปอีกรอบ  ซีและธนูส่ายหน้าให้ความโบ๊ะบ๊ะนั้น  "แล้วไอศครีมรสที่ชอบ"

            "มะนาว"

            "สัตว์ที่ชอบ"

            "แมวค่ะ  แมวจรก็ไม่ติดนะคะ"

            "อะแฮ่ม..."  ซีกระแอม  "จำเป็นต้องรู้ละเอียดขนาดนี้เลยเหรอคะ  แค่พักบ้านเดียวกัน"

            "ก็...จะได้เข้ากันได้  ไม่มีปัญหาไงคะ"  ศศิกานต์ถูมือพลางแก้ตัว  เธอเอาสีข้างเข้าถูแล้ว  แต่ไม่เนียนเลยสักนิด

            "อยากรู้อะไรเพิ่ม  ก็บอกนะคะ"  สุปรีย์สะบัดผมแสดงความมั่นใจในตัวเอง  กลิ่นผมแบบอ่อนหวานลอยไปทั่วบริเวณ  "ถ้าอย่างนั้นขอตัวเข้าห้องพักนะคะ"

            ศศิกานต์กลั้นใจยื่นมือให้เธอจับ  ทั้งที่ไม่คิดจะจับของคนก่อนหน้า  คนตัวบางยื่นมือออกไปให้จับอย่างยินดี  

            เมื่อถึงห้อง  สุปรีย์ใช้หมอนอุดปากแล้วกรี๊ดออกมาด้วยความหลงใหลในตัวศศิกานต์  นานแล้วที่ไม่ได้เจอฝ่ายรุกระดับบนขนาดนี้  แต่อีกฝ่ายไม่มีชั้นเชิงเอาซะเลย

            ใกล้เวลาเที่ยงคืน  ไฟถนนส่องสว่างทำให้ความมืดสลายไป  เวลานี้คนเดินคับคั่งเพราะเป็นย่านสตรีทฟู้ด  ผู้เช่าเข้าที่พักแล้วจัดห้องของตัวเองให้เป็นที่เป็นทาง  นาฬิกาเดินไปอย่างรวดเร็ว  สุปรีย์อยู่ห้องบนสุด  ข้างบนชั้นสี่มีดาดฟ้าอีกที  เธอเดาว่ามีอีกคนอยากใกล้ชิดขนาดนี้ 

            "หิวจัง"  สุปรีย์เอ่ยเบาๆ เพราะรู้ว่าคนตาคมเดินขึ้นมา

            "ใกล้ๆ มีร้านสะดวกซื้อ  ไปซื้ออะไรกินกันไหม"

            คนตัวบางสบตาที่มีประกายของอีกฝ่าย  ยิ้มอย่างรู้ทัน

            "ได้นะคะ  แต่อย่ากินแป้งเยอะ  แล้วก็ห้ามกินจนอิ่มเกินไป  ไม่อย่างนั้นจะอ้วน  อาชีพของเราต้องคีบลุคนะคะ"

            "เราก็เคยอ้วนนะ  แต่ตอนนี้ลดลงไปเยอะแล้ว"

            "บางคนผอมลงแล้วก็กลับไปอ้วนอีก  ต้องระวังนะคะ"

            "พอพูดแบบนี้แล้ว  ค่อยรู้สึกว่าปรีย์เป็นตัวเองหน่อย"

            "แล้วไม่เป็นตัวเองตรงไหน"

            "ก็คีบลุคอยู่ไง  แต่แบบนี้จริงใจมากเลย" 

            เธอยิ้มที่ศศิกานต์ใส่ใจ  ส่วนรอยยิ้มนั้นทำให้มีคนใจกระตุก

            "ไปกันเถอะ" 

            สายลมหนาวพัดมากระทบผิวกายของสุปรีย์  ศศิกานต์เห็นอาการนั้นจึงถอดเสื้อคลุมแล้วสวมให้เธอ  ระหว่างทางมีคนเดินบางตา  แสงไฟส่องสว่างกว่าแสงจันทร์  เสียงลมพัดดังหวีดหวิว  ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดเบาๆ กับเพื่อน  เสียดายหน้าสวยทั้งสองคนที่กำลังใส่ใจกัน

            "เลสว่ะ"

            สุปรีย์เตรียมจะต่อปาก  แต่ศศิกานต์ปรามไว้ก่อน 

            "เราอย่ามีเรื่องเลย  ไม่จบง่ายๆหรอก  พวกคนใจแคบเห็นแค่โลกของตัวเองก็แบบนี้แหละ

            คนร่างบางเอานิ้วก้อยมาเกี่ยวก้อยกับอีกคน  แทนความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน  พวกเขาไม่ได้พูดอะไร  แต่การกระทำก็

ส่อแล้วว่า  จากนี้ไป  เรื่องราวของพวกเขา  จะทำให้น้ำตาลหวานน้อยลง 

            ศศิกานต์แทบจะขาไม่ติดพื้น  เธอจะทำให้สุปรีย์ที่เธอรอคอยมาเป็นของเธอให้ได้   อย่างน้อยๆ ก็ต้องพยายามให้มากกว่านี้

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status