หนึ่งชั่วโมงผ่านไป_ "นายจะหลับลงจริงๆ หรอมาคลิน ฉันว่ามันแปลกๆ นะ" ท่ามกลางบรรยากาศมืดสลัว พอเห็นเงาเลือนลางขณะเธอนอนอยู่บนโซฟาตรงปลายเตียง แต่เจ้าของห้องกับหลับตาพริ้มบนที่นอนนุ่มสบายตัวไปก่อนแล้ว"ก็เธอเลือกเองอ่ะ ฉันก็ตามใจแล้วไง" ร่างสูงบนเตียงเอ่ยบอก นัยน์ตาคมเหลือบมองตรงปลายเตียง พื้นที่บนโซฟามีอยู่แค่นั้นจะพลิกตัวยังไม่ได้เลย แต่เธอดันเถียงจะเอาชนะให้ได้ เรื่องอะไรเขาจะขัดต่อศรัทธา"นายต้องเล่นบทพระเอกบ้างนะ แบบเสียสละเตียงให้นางเอกนอนอ่ะ" ฝ่ามือบางกำผ้าห่มแน่น ระหว่างเดียวกันเธอดันคิดถึงสิ่งลี้ลับยามนอนนอกสถานที่ ประเทศไทยมีเรื่องเล่ามากมาย ไม่อยากจะมองไปตามใต้ตู้หรือซอกเตียงเลย"เธอฝันอยู่นะ แต่เอาเถอะฉันง่วงแล้ว" คนตัวสูงแกล้งเขยิบตัวพลิกนอนไปด้านข้าง ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเอาจริง แม้สายตายังจับจ้องปลายเตียงอยู่ตลอด มันมีความรู้สึกบางอย่างก่อตัวในอกแกร่ง"ไม่เอาแบบนี้สิคลิน นายไปบังคับฉันมานะ...ว๊ายย!!" พอเธอเริ่มโวยวายจนลืมไปพื้นที่บนโซฟามันแคบเอามาก ร่างบางเลยกลิ่งตกกระแทกอย่างจัง แถมข้อเท้าเล็กยังลงกระทบขอบโต๊ะอีก"เฮ้ย!ก็บอกแล้วไงให้นอนเตียงดีๆ...เจ็บไหมล่ะ" คนตัวสูงรีบลุก
บริษัท Makin Group "ให้ฉันตามเป็นเจ้ากรรมนายเวร แล้วอย่าลืมหาเวลากรวดน้ำให้ด้วย" เธอก่นด่าบอกมาคลิน ในมาดท่านรองประธานสุดเนียบ ทั้งที่เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานเขาเลยด้วยซ้ำ ทำไมต้องลากมาเหยียบที่นี่ด้วยมันน่าอารมณ์เสีย"ถ้าเวลาฉันเอาก็ช่วยปากดีๆแบบนี้หน่อยริน จะไม่ออมแรงให้เลย" น้ำเสียงเข้มกระซิบขู่ ร่างสูงสง่าจับข้อมือเล็กให้เดินตาม ท่ามกลางบรรยากาศพนักงานคละคลุ้งต่างมองดูรองประธานกำลังเปิดตัวแฟนสาว ซึ่งไม่มีใครไม่รู้จักนางแบบชื่อดัง"นายมันทุเรศ!" แต่ดวงตากลมต้องหมองเศร้าไปกว่าเดิม ครั้งนึงเธอเคยมาที่นี่แล้วทุกคนเข้าใจว่าเธอคบหาอยู่กับเอเดน หากจะเปลี่ยนคู่ควงใหม่แล้วดันเป็นคนใกล้ตัว เธอคงหนีไม่พ้นคำกล่าวครหา"ถือว่าชมแล้วกัน" ปากหยักขยับบอกเบาๆ ไม่ให้เสียภาพลักษณ์ผู้บริหาร ทาทางน่าเกรงขามไม่มีใครกล้าพูดเอ่ยแซว"......" รินเซ่ได้แต่ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนชีวิตดั่งนกในกรงทองจะออกไปไหนไม่ได้ เธอไม่รู้จะเถียงต่อไปทำไม เลือกจะเดินเงียบๆตามเข้าห้องทำงาน"เดี๋ยวเอาเอกสารที่ฉันสั่งตามเข้ามา" เขาเอ่ยบอกเลขาชายหน้าห้อง หลังจากเมื่อวานสั่งงานสำคัญไว้"ครับ""นั่งสิ" มาคลินคุยสั่ง
หลายวันต่อมา_ ณ ร้านอาหารแห่งนึง"ทำไมรินไปเซ็นต์สัญญาแบบนั้นไม่ถามพี่สักคำ แล้วคิวที่ไปจะถ่ายของสนามกอล์ฟล่ะ มันจะชนกันไหมเนี้ย" นาถสาธยายบอก สองมือรีบกุมขมับครุ่นคิดตอนถูกนางแบบสาวชวนมาทานอาหารไทย แต่ทว่าเธอพึ่งรับงานถ่ายแบบให้สนามกอล์ฟของเอเดนอีกไม่กี่วันนี้"รินโดนบังคับ แต่ไว้จะเล่าให้ฟังทีหลังอย่าพึ่งถามตอนนี้" รินเซ่เองก็วิตกกังวล เธอกำลังโดนมาคลินใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนย่อมมีอีกทางสูญเสียประโยชน์ มือบางไม่มีแม้แต่จะคิดตักอาหาร เมื่อเหมือนเรื่องทุกอย่างกำลังเลวร้ายลง เธอแค่ไม่อยากอยู่คนเดียวที่คอนโด กลัวว่ามาคลินไปหาแล้วต้องจบลงบนเตียงซ้ำๆ"ตายแน่ พี่ตายแน่!" ผู้จัดการสาวถึงกับอยู่ไม่สุข ตีหน้าผากตัวเองเบาเรียกสติ "พี่ยังไม่ตายหรอกพี่นาถ คิดให้รินก่อนแล้วค่อยตายจะไม่ว่าเลย" น้ำเสียงหวานพูดบอก ด้วยความสนิทกันจึงไม่ได้ถือสาถ้อยคำแบบนี้"ให้มันได้อย่างนี้สิริน เรากลับเองใช่ไหมพี่ต้องพาน้องใหม่ไปส่งที่งาน ต้องไปก่อนแล้วแหละ" นาถยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา วันนี้รินเซ่เอารถยนต์มาเองเลยไม่ค่อยห่วง แต่เธอมีหน้าที่รับผิดชอบนางแบบในสังกัดต่อควรให้ความสำคัญก
"คุณบอกรู้จักฉันดี? แต่ทำไมไม่ยักรู้ว่าเรารู้จักกัน" "นึกว่าจะกลัวซะอีก" คาลาสทิ้งกายลงบนเก้าอี้ตัวว่าง โบกมือสั่งพนักงานให้เตรียมเครื่องดื่มสำหรับเขาอีกแก้ว ทำราวกับว่าทุกอย่างกำลังเดินตามเกมส์ที่วางไว้ เพียงแค่ทำตัวตามสบายก็พอ"ฉันมีลางสังหรณ์ว่าเราเคยเจอกัน แต่จำไม่ได้เท่านั้นเอง" รินเซ่บอก เธอไม่ได้อยากรู้จักเขาด้วยซ้ำ แต่ยอมให้อีกฝ่ายพูดคุยเพื่อเป็นไม้กันหมา ไม่ให้ผู้ชายคนอื่นมาทักทายตอนเธออยากนั่งชิล แม้จะรำคาญมากก็ตามที แต่ในเวลาเดียวกันโทรศัพท์ราคาแพงกับปรากฏหนาจอมีสายเรียกเข้า ระบุไว้ว่าปลายทางคือมาคลิน ตัวอักษรเด่นชัด ที่ยิ่งตอกย้ำความเคียดแค้นจากกระทำของเขา"ดูแฟนเธอน่าจะเป็นห่วงนะออกมาดื่มคนเดียว รับสายหน่อยไหม" คาลาสหรี่ตามองเล็กน้อย และมันก็จริงอย่างที่เขาสงสัย ปากหยักกระตุกยิ้มขณะจิบแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์"แค่คนรู้จัก เอาง่ายๆก็ไม่ได้อยากคุย" ฝ่ามือบางรีบจับโทรศัพท์คว่ำหน้าจอ ให้คนปลายทางเข้าใจว่าไม่ว่างรับสาย เธอจับแก้วคอกเทลสีฟ้าผสมม่วงมีลูกเชอรี่กลิ้งในนั้นกระดกดื่ม มาคลินคงตามมาที่คอนโดเช่นเคยและไม่เจอเธอเหมือนทุกคืน"เธอนี่ใจแข็งสุดยอดเลยนะ" ฝ่ามือหนาล้วงหยิ
เอี๊ยด!!!!! ร่างบางรีบหันไปมองตามเสียงรถคันหรูเหยียบเบรกกระทันหัน มันดังสนั่นมากแต่โชคดีที่ไม่มีผู้คนเพ่นพล่าน คงเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลาผับปิด"คลิน!" รินเซ่อุทานเรียกชื่อทันที เพราะเธอรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังพวงมาลัยคนขับนั้น รถคันหรูเปิดไฟส่องสว่างจ้าตรงจุดที่เธอยืนอยู่พร้อมคาลาส"มันคงดีใจนะที่เห็นเธออยู่กับฉัน" ใบหน้าเจ้าเล่ห์ส่งยิ้มให้อย่างทีเล่นทีจริง แกล้งเอียงไปใกล้กระซิบบอก ซึ่งทำให้มาคลินไม่ชอบใจรีบลงมาจากรถยนต์ดึงข้อมือเล็กไว้ข้างหลัง"ปล่อยนะมาคลิน!.มันเจ็บ!" ร่างบางร้องบอก มาคลินเองควรจะดีใจไม่ใช่เหรอได้เจอคนรู้จัก แต่มันน่าแปลกเอามากๆ ที่เขาแสดงอาการโมโหร้ายแทน"เธอไปยุ่งกับมันได้ยังไงริน!" มาคลินหันมาตะคอกกลับ ก่อนชี้หน้าคาลาสอย่างดุดัน อีกฝ่ายคงคิดไม่ซื่อหลังเขาพยามเอาคืนเรื่องในอดีต ถึงลอบตีเนียนสนิทคนตัวเล็กด้านหลัง"ดูมึงหวงเมียดีนะ" คาลาสพูด เหลือบตามองมาทางรินเซ่ เกมส์ที่เขาต้องการคือกระตุ้นอารมณ์บึ้งลึกอีกฝ่าย ว่าสมควรจะเอาคืนอย่างไรหากเรื่องธุรกิจครอบครัวพ่ายแพ้ลง"พูดพล่ามอะไรกัน! ฉันไม่ได้เป็นเมียใคร!" เธอไม่เข้าใจพวกเขาเลยจะมาทะเลาะกันไปเพื่ออะไร พอลองงัดมื
@ คอนโดรินเซ่ ยามถึงที่พักผ่อนมาคลินเองยังนั่งพิงโซฟา เอนหลังหลับตานิ่งไม่แสดงอาการร้อนรน ไร้ท่าทีอยากกลับบ้านตัวเองจนร่างบางอดมีน้ำใจไม่ไหว หยิบกล่องปฐมพยาบาลมาวางให้ในฐานะคนมีมิตรไมตรี"ทำไมนายไม่กลับบ้านนะตัวเองล่ะ มาตายที่นี่ขึ้นมาแล้วฉันจะทำยังไง" เจ้าของสถานที่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย กลิ่นไวน์อ่อนลอยคละคลุ้งบ่งบอกปริมาณได้รับ เธอเองก็เหนื่อยอยากพักผ่อน แต่จะไล่ไปตรงๆ เดี๋ยวจะถูกมองไม่ดี"เธอน่าจะดีใจนะ ฉันเตือนแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับมัน เป็นผู้หญิงหัดห่วงตัวเองบ้างสิ มีอย่างที่ไหนไปกินเหล้าดึกๆดื่นๆคนเดียว" เปลือกตาหนาเลื่อนเปิดมองร่างบางข้างกาย ถ้าเขาไปไม่ทันวันนี้ไม่รู้คาลาสจะมีแผนอะไรเพิ่มอีก"มาบ่นชีวิตฉันทำไมคลิน ต่อให้ฉันไปทำอะไรกับใครก็เรื่องของฉันสิ นายไม่ใช่พ่อฉันนะ แดดดี๊ฉันอยู่เมืองนอกค่ะ!" เธอกระแทกน้ำเสียงใส่อย่างหมั่นไส้"เป็นผัวไง ไม่ได้ลืม" คนบอกยังแกล้งทำหน้านิ่ง ทั้งที่ในใจมันเรียกร้องคำตอบอีกฝ่าย"อายปากบ้างก็ได้นะ รู้ๆกันอยู่""ยังมาทำเป็นเล่นอีกเนอะ เธอว่ามันปลอดภัยมากหน่ะเหรอไอผับบ้าบอแบบนั้น?" ยิ่งเห็นคนตัวเล็กแสดงอาการต่อต้าน อารมณ์น้ำโหของเขายิ่
"รีบทำสิริน ของฉันเธอคุ้นเคยดีอยู่" ฝ่ามือหนากดศีรษะเล็กลงมากกว่าเดิม จนทำให้กลีบปากบางสีสวยแนบส่วนหัวดอกเห็ดชิดใกล้ เธอค่อยๆ ขบเม้มเบาๆ ยิ่งทำให้คนถูกปรนเปรอเสียวสยิว ลมหายใจร้อนอุ่นกระทบปลุกสัญชาตญาณดิบตื่นตัว"อ่าส์...เลียเร็วๆ" ร่างกำยำเกร็งไปทั่วทุกการสัมผัสโดนหญิงสาวเอาใจตามคำสั่ง แลบลิ้นอ่อนนุ่มโลมเลียหัวแก่นกาย ความรู้สึกชายหนุ่มยิ่งหวือหวาเผย่อปากปล่อยเสียงครางกระสันแพร่บ~ แพร่บ~ รินเซ่หลับตาพริ้มจินตนาการว่าแท่งเอ็นอุ่นคือโคนไอศครีมรสโปรด ลากลิ้นเล็กโลมเลียอย่างเร่าร้อน มีบางจังหวะก้มดูดน้ำใสใส บนหัวความเป็นชายยามรู้สึกอยากต้องการ "ริน..." ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบมองร่างบาง เขาแทบเสียความเป็นตัวเอง อยากจับกระแทกใส่โพรงปากนุ่มให้รู้แล้วรู้รอด แต่ท่าทางใสซื่อของเธอกลับทำให้อยากถนุถนอม ปล่อยให้เรียวปากบางไล่ปรนเปรอจนสุดความยาว"อื้อ...อ็อก..." เธอค่อยๆ อ้าปากกว้างครอบครองหัวแก่นกายอมแช่ค้างไว้ เนื่องด้วยขนาดความใหญ่โตยังคับแน่นในโพรงปกนุ่ม แค่นี้ก็ถึงโคนคออ่อนเกือบอาเจียน"เอาเลยเอาให้เต็มที่เลยริน..อ่าส" ร่างกำยำเชิดปลายคางปล่อยเสียงกระสัน แม้ว่ามือฝ่าหนายังแทรกกุมผมสลวยอย่างเร่
เช้าวันต่อมา..."หื้ม...." ยามแสงแดดส่องกระทบคนตัวโตภายในห้องนอน ด้วยนิสัยรักการตื่นเช้าทำเขาสะดุ้งตื่น แต่ต้องแปลกใจขึ้นไปอีก ยามข้างกายไม่มีร่างอรชร ทั้งที่เมื่อคืนนี้กว่าบทสวาทจะจบ ก็เลยไปกลางดึกแล้ว"ไปไหนอ่ะ?" ร่างกำยำรีบเขยิบมาคว้า เอาผ้าขนหนูสีขาวมาพันรอบเอวสอบ เพียงหมิ่นเหมลวกๆแค่นั้น ลุกยืนขึ้นเดินตามหาเจ้าของห้อง ทว่าพอได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องอาบน้ำ ใจแกร่งถึงกับโล่งสบายอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นสบู่หอมละมุนโชยหอม เรียกมุมปากหยักกระตุกยิ้มเปิดเผยติ่ง~ ติ่ง~ เมื่อเสียงข้อความโทรศัพท์เครื่องของรินเซ่ดัง และเป็นจำนวนมากข้อความ เหมือนอาการร้อนใจของคนส่ง ด้วยความอยากรู้บางอย่าง มาคลินจึงหยุดความสนใจตรงเบื้องหน้า รีบตรงไปหาบนโต๊ะข้างหัวเตียง ~หรือเราจะเลื่อนถ่ายแบบของคุณเอเดนมาให้ไวดีริน รินจะได้สบายใจดีด้วย แล้วตอบกลับมานะ?~ข้อความตัวอักษรที่ปรากฏทำเขายืนแน่นิ่ง ไม่ยักรู้ว่าเธอยังอาลัยอาวรณ์ ถึงขั้นอยากไปร่วมงานกับคนรักเก่า ฝ่ามือหนาได้แต่กำแน่นข่มอารมณ์โกรธ เพราะอะไรกันที่เขาทำมันไร้ความหมายแก็ก! "นายจะกลับหรือยัง ฉันจะออกไปข้างนอกอยู่พอดี" ยามประตูห้องน้ำเปิดออก ร่างบางในชุดเสื้
ช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ
เวลาต่อมา_ แค่เพียงไม่นานดี น้องสาวต่างมารดาก็มาพร้อมอดีตเพื่อนชาย ที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรู มาคลินรีบลุกยืนจากเก้าอี้จ้องมอง เขาเคยสั่งห้ามน้องสาวไม่ให้ยุ่งกับมันด้วยซ้ำไป"ไอเดน!/พี่คลิน" มาคลินส่งเสียงดัง อย่างไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาวแบบนี้ ซึ่งเอเดนไม่ได้สะทกสะท้านตีหน้านิ่งราวเย้าเย้ยกัน"พามันมาด้วยทำไม?" น้ำเสียงเข้มยังถามต่อ จ้องใบหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ในเวลายากลำบากของครอบครัว เธอดันดึงมือศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเขารู้สึกโมโหเป็นไหนๆ"พลอยจำเป็นต้องติดรถเขามา มันมีเรื่องฉุกเฉินหน่ะค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เพชรพลอยพยามจะเอื้อมมือไปจับกับพี่ชายทว่าเขาชักกับทันที เหตุใดเธอแสร้งไม่สนใจคำสั่งของเขาบ้าง"ไอระยำ!" แต่เอเดนขบฟันกรามพูด"มึงสิไอเวร!" เรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมอีกฝ่ายด้วย มาคลินยกมือชี้หน้าด่ากลับทันที เขาไม่ชอบจริงๆที่มายุ่งกับน้องสาว"ถ้าจะกัดกันไปข้างนอกนะคะ อย่าให้พลอยต้องดุนะ" น้องสาวสบัดตัวถอยหลัง เธอไม่ยืนคั่นกลางห้ามใครตอนนี้ มือบางกรีดนิ้วชี้ไปทางประตูบานเลื่อน สื่อความหมายว่าไล่จริงจังไม่แคร์สายตาใคร นับเป็นครั้งแรกที่เธอโมโหจนน่ากลัว ทำชายบุรุษสองค
วันต่อมา_บริษัท Makin Group "คุณมาคลินครับ นี่คือแฟ้มเอกสารสรุปการประชุม ช่วงที่คุณคลินไม่อยู่ครับ" เลขาคนสนิทรีบถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงาน ภายในห้องทำงานท่านรองประธาน แม้ว่าจะส่งผ่านทางอีเมล์ ไปให้เจ้านายอ่านอยู่รอบ แต่เพื่อแน่ชัดจึงอยากนำฉบับจริงให้ดูอีกครั้ง"อืม ทำไมฝ่ายจัดซื้อไม่สั่งพักงานคนทำผิด หรือคำสั่งของฉันไม่มีผลแล้ว" ขณะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน เขาพึ่งนึกได้ตอนเข้าบริษัท เมื่อเช้าตรู่พบว่าฟรานตอกบัตรทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะสั่งพักงานไปได้เดือนเดียวเอง"คุณฟรานแจ้งกับหัวหน้าว่า คุณมาคลินอนุญาตให้กลับมาทำงานแล้วครับ ทางหัวหน้าเลยไม่กล้าขัดเผื่อเป็นคำสั่งของคุณมาคลินครับ""นั่นก็เท่ากับว่า ถ้าใครอ้างชื่อหรืออ้างว่ารู้จักฉัน แปลว่าจะไม่โดนโทษหรอกเหรอ?" รองประธานจงใจใช้ประโยคเชิงตำหนิ ถ้ามีใครเอาชื่อเขามาอ้างไปซะหมด ระบบการทำงานจะเป็นเช่นไร ไม่ต้องแบ่งกฏระเบียบให้ยุ่งยากดีกว่าไหม"ขอโทษครับ" เมฆก้มหน้าเอ่ยบอก"ไปจัดการที่ฉันสั่ง แล้วเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เขาพึ่งนึกอะไรได้ ต่อให้คนอื่นไปจัดการเรื่องของฟรานแทนก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมซ้ำๆ เพราะเขาเคยสนิมสนม ถึงขั้นชวนลง
หลายวันต่อมา_ "วันนี้เราจะทำอะไรกินหรอริน ฉันหิวจะแย่แล้ว" คนตัวสูงพุ่งมาสวมกอดร่างอรชรจากด้านหลัง ขณะเธอทำอาหารมื้อง่ายๆในช่วงเย็น ส่วนบุพการีของเธอแวะไปอออกงานราตรี เลยเหลือเพียงสองคนในบ้านเท่านั้น"กินข้าวผัดกันไง ฉันทำเป็นไม่กี่อย่าง นายลืมหรือเปล่าคะคุณมาคลิน" เธอเคยบอกเขาไปแล้วหรือว่าอีกฝ่ายลืม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาเลย"สงสัยอ่านงานหนักไปหน่อย งั้นให้ฉันช่วยนะ" ฝ่ามือหนาละออกจากร่างอรชร ไปช่วยตักข้าวสวยใส่ถ้วยไว้ด้านข้าง หยิบผักรวมนิดหน่อยเลือกปะปนเสริมโภชนาการ พอเขามาอยู่สถานที่ห่างไกลบริษัทนานๆ เลยต้องกระตือรือร้นเรื่องงานอ่านเกือบข้ามคืน จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประธานคนเดียวคงไม่ไหว อายุท่านมากแล้วควรใกล้วางมือ"ถ้านายยุ่งอยากกลับไปก่อนไหมคลิน ฉันว่าไม่ดีหรอก ถ้ารองประธานมาเที่ยวนานนับเดือนขนาดนี้ ลูกน้องนายจะอยู่ยังไงกัน" คนตัวเล็กเอ่ยบอก เธอก็รู้สึกผิดเช่นกันไม่น่ารั้งเขาไว้ด้วยวิธีนี้เธอเลย"แต่ฉันห่วงเธอนะริน เดี๋ยวออกไปเที่ยวอีกใครจะดูแล" ขณะยืนด้านข้างร่างอรชร ใบหน้าสากเกยไหล่มนมองดูกระทะเช่นกัน คอยช่วยหยิบซอสเครื่องปรุงเติม กลิ่นหอมอ่อนๆเรียกอาการหิวได้ดี"
บ้านรินเซ่ "นายมาคนเดียวเหรอ?" คนตัวเล็กเอ่ยถาม ตอนที่รถยนต์ของเธอจอดอยู่หน้าบ้านตัวเองเสียแล้ว เธอโยนกุญแจและบอกทางให้มาคลินรู้ เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มไปหาโรงแรมที่พักกลางดึก ค่อยนอนบ้านเธอสักคืนจะเป็นไรไป"อืม ว่างงานแล้วเลยรีบมาจัดการคนบางคนซะหน่อย ช่วงนี้ดื้อสุดเลย" คนตัวสูงรีบดับเครื่องยนต์ก้าวขาลงตามร่างอรชร เธอถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าสิง แต่ยังคงแสร้งยืนตัวตรงคงกลัวเขาเอ็ดดุ"ใครหรอดื้อ เราไม่ได้ดื้อนะคลิน" เธอรีบหันกลับมาบอก ขณะไขกุญแจเข้าบ้านอย่างเบาๆ เกรงว่าจะทำบุพการีตื่นแล้วถูกต่อว่าเช่นเคย"อ้อ..เหรอ" ท่าทีของคนตัวเล็กทำให้เขาต้องเบาเสียงลง กระตุกยิ้มมุมอย่างหมั่นเขี้ยว จนฝ่ามือหนาต้องฟาดใส่สะโพกมน แม่คุณเล่นทำเหมือนโจรย่องเข้าบ้านทั้งที่ของตัวเอง"นาย!!เงียบเลยนะ ถ้าแม่ตื่นนายไปนอนโรงแรมเลย" น้ำเสียงหวานแห้วใส่ พร้อมส่งดวงตาถมึงจ้องมอง ก่อนจับข้อมือใหญ่จูงเขาขึ้นบ้านข้างบน"ทำเหมือนฉันแอบย่องขึ้นบ้าน ไปหาลูกสาวท่านเลยเนอะ" ครั้งนึงตอนสมัยมหาลัยทั้งมาคลินและเอเดนเคยมาพักที่นี่ ช่วงเธอเรียนซัมเมอร์แล้วพวกเขาแวะมาเที่ยว แต่ได้นอนอีกห้องสำหรับแขกพิเศษเท่านั้น"ฉันลากนายขึ้นมาต
ประเทศอังกฤษ@ Werry Lounge"มันก็หลายเดือนแล้วนะยู ไม่คิดจะกลับไทยบ้างเหรอไง ไอยังอยากไปกินอาหารที่นู้นเลยนะ" คริสเพื่อนนายแบบเอ่ยถาม เขามาเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนรินเซ่เกือบทุกคืน ยังไม่รวมบรรดาคนในแวดวงการเดียวกัน เรียกได้ว่าพบเจอเธอทุกวันเลย"กลับไปทำไมล่ะ ที่นู้นไม่ได้น่าตื่นเต้นแบบนี้ซะหน่อย" ขณะร่างอรชรเต้นคลอเคลียกับบรรดาเพื่อนเบาๆ เธอจับแก้วไวน์ยกจิบลิ้มรสชาติมัน กาลเวลามันช่วยให้ลืมใครบางคนได้จริงๆ ยิ่งเวลาออกเที่ยวกลางคืนยังไม่นึกถึงเลย"เรียบร้อยแล้วริน ไอไปบอกเขาแล้วนะว่ารินไม่มีแฟน เต้นสวยๆไปเลยจ้า เดี๋ยวต้องเดินมาหาแน่" หนึ่งในเพื่อนนางแบบพูด พวกเธอชอบดูเวลารินเซ่บริหารเสน่ห์ แล้วมารวมเงินพนันกันว่าใครจะเลี้ยงค่าเครื่องดื่มคืนนี้"บอกแค่โต๊ะเดียวพอนะ คืนนี้กลับดึกไม่ได้แด๊ดดุแล้ว" คนบอกยิ้มพอใจ เหมือนกับกลุ่มชายแปลกหน้ากำลังจ้องมายังเธอ ร่างอรชรรีบสะบัดผมสลวย เชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยสร้างองศาให้ดูมีมิติ"ยูยังโดนแด๊ดดุเลย ไอนี่สิบ้านมัมจะไม่ได้เข้ายูแล้ว ออกเที่ยวทุกคืนขนาดนี้" คริสพูด เขาก็แอบเล็งสาวอีกโต๊ะนึงด้วย ยิ่งค่ำคืนนี้เน้นโชว์หุ่นนายแบบ เลยเลือกใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตั