หลีเสี่ยวเถียน : ตอนนี้พวกเธอเป็นยังไงกันบ้าง?ฉินอันอัน : ไม่ทะเลาะกันแล้ว แต่ก็ไม่มีอารมณ์จะคุยกันดี ๆหลีเสี่ยวเถียน : แม่ฉันบอกว่าถ้าทะเลาะกันบ่อย ๆ ต่อให้ความรักดีแค่ไหนก็จะจางหายไปในสักวันฉินอันอันอ่านข้อความนี้แล้วไม่รู้จะตอบยังไง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอกับฟู่สือถิงทะเลาะกันมาตลอด เคยหลงรักเขามากแค่ไหน เธอยังจำได้ดี แต่เธอจะไม่รักเขาแบบไม่คิดถึงผลที่ตามมาอีกแล้ว เขาก็เช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทิ้งเธอไว้ข้างถนนหลังจากบอกว่าเธอคือคนที่เขาห่วงใยที่สุด…… ฟู่สือถิงได้รับข้อความจากเซิ่งเป่ย : เสี่ยวเถียนบอกว่าพวกนายต่างคนต่างกลับบ้าน ยังไม่มืดเลย เธอยังไม่ยอมให้อภัยนายอีกเหรอ?ฟู่สือถิง : เธอน่าจะกลับบ้านแล้ว ส่วนฉันยังอยู่ข้างนอกเขารู้สึกได้ว่าเธอไม่สามารถให้อภัยในสิ่งที่เขาเคยทำได้ ดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยง เพื่อให้ทั้งคู่ได้ใจเย็นลงเซิ่งเป่ย : ถ้ามันไม่ได้ผลก็ช่างเถอะ พวกนายทะเลาะกันแบบนี้ตลอด อาจเป็นเพราะพวกนายไม่เหมาะสมกันก็ได้ คู่ที่ทะเลาะกันหนักที่สุดในกลุ่มเราก็จุ่นจือกับเสี่ยวเถียนนี่แหละ ถ้าทะเลาะกันหนักกว่านี้ ส่วนใหญ่ก็จะหย่าร้างกันไปซะมากฟู่สือถิง : ฉันกำลั
“แน่ใจนะว่าเธอพูดอย่างนั้น?” เขาถามย้ำบอดี้การ์ดสมองดับวูบไปชั่วขณะ ลืมคำพูดที่ฉินอันอันพูดไปแล้ว“เอ... เอาเป็นว่าผมด่าเธอไปชุดใหญ่ แต่เธอไม่ได้โกรธ” บอดี้การ์ดพูดอย่างมั่นใจ“นายด่าเธอเหรอ?” ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว พ่นลมหายใจ “ใครใช้ให้นายด่าเธอ?! นายด่าได้ยังไง?”บอดี้การ์ดรู้สึกผิดและหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เขาไม่เสียใจ “ผมด่าว่าเธอไม่รู้จักแยกแยะดีร้าย! ไม่รู้จักความดีคน! คุณดีกับเธอขนาดไหน เธอกลับไม่ซาบซึ้ง ดันหาเรื่องทะเลาะกับคุณทุกวัน! ผมว่าเธอน่ารำคาญกว่าหลีเสี่ยวเถียนเสียอีก! ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ยอมตามใจเธอหรอก! ผมจะทิ้งเธอไปเลยแล้วก็แย่งลูกมาเลี้ยง ให้เธอเสียใจจนน้ำตาไหลไม่หยุด เสียดายจนตายไปเลย!”ฟู่สือถิงกัดฟันกรอดถ้าตอนนี้เขาอยู่ต่อหน้าบอดี้การ์ด เขาอาจจะต่อยอีกฝ่ายไปแล้วบอดี้การ์ดได้ยินเสียงหายใจหอบของฟู่สือถิง ใจเต้นตึก ๆ “เจ้านายครับ ผมไม่ได้ด่าแรงขนาดนั้นต่อหน้าเธอ! เธอไม่โกรธจริง ๆ ไม่เชื่อคุณลองโทรไปถามเธอดูสิครับ! ผมแค่เสนอความเห็นให้คุณเท่านั้น! ถ้าคุณคิดว่าความเห็นของผม...”ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!ฟู่สือถิงวางสายไปแล้วเขาแย่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เซิ่งเป่ยกับพรรคพวกสง
“ลุงซือเหนียนคะ หนูอยากโทรหาป้าเสี่ยวเถียน” รุ่ยลาส่งโทรศัพท์ของฉินอันอันให้จิ้นซือเหนียน “ช่วยหนูโทรหน่อยนะคะ”จิ้นซือเหนียนอดหัวเราะไม่ได้ “ลุงมีเบอร์ป้าเสี่ยวเถียน เอาโทรศัพท์ไปวางคืนแม่เขาเถอะ”“ถ้าป้าเสี่ยวเถียนไม่รับโทรศัพท์ลุงล่ะคะ? ป้าเขาสนิทกับแม่หนูที่สุด ใช้โทรศัพท์แม่โทร ป้าเขาต้องรับแน่ ๆ ค่ะ” รุ่ยลายืนกราน และปลดล็อกโทรศัพท์ของแม่จิ้นซือเหนียนขัดไม่ได้ รับโทรศัพท์ของฉินอันอันมาจากเธอก่อนที่จะเปิดรายชื่อติดต่อ เขาเห็นไอคอนวีแชทมีการแจ้งเตือนข้อความสีแดงเขาอยากเปิดดูมาก แต่จิตใต้สำนึกคอยย้ำเตือนว่า การแอบดูความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเขาเปิดรายชื่อติดต่อ หาเบอร์โทรศัพท์ของหลีเสี่ยวเถียนแล้วกดโทรออก และไม่ลืมเปิดลำโพงไม่นาน หลีเสี่ยวเถียนก็รับสาย“ป้าเสี่ยวเถียนคะ! หนูเองค่ะ!” เสียงหวานของรุ่ยลาสดใส “แม่หนูนอนหลับอยู่ หนูอยากรู้ว่าป้าสบายดีไหมคะ?”หลีเสี่ยวเถียนได้ยินรุ่ยลาแสดงความห่วงใย น้ำตาคลอทันที “รุ่ยลา ป้าไม่เสียใจเลยที่รักหนู”“ค่ะ! หนูอยากไปเที่ยวกับแม่มาก แต่หนูไม่อยากเห็นลุงเฮ่อ! ลุงเฮ่อทำเกินไป เขาทำให้ป้าเสียใ
ใจของฉินอันอันราวกับถูกโยนลงไปในห้องน้ำแข็ง คำพูดที่ว่า ‘พวกเขาสองคนเข้ากันไม่ได้’ นั่นมาจากปากของเซิ่งเป่ยหรือฟู่สือถิงกันแน่? ถ้าฟู่สือถิงตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้ว ก็คงเป็นเพราะฟู่สือถิงคิดว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้จริง ๆ จึงบอกเซิ่งเป่ยไปแบบนั้น!"อันอัน คิดอะไรอยู่? หรือว่าฉันพูดอะไรผิดไปอีกแล้ว?" ไมค์ถามด้วยความกระวนกระวาย "ตอนนั้นจื่ออี้ก็อยู่ด้วย จื่ออี้เป็นพยานได้ว่าเซิ่งเป่ยพูดอย่างนั้นจริง ๆ""ฉันไม่ได้ไม่เชื่อหรอก" ฉินอันอันหยิบตะเกียบขึ้นมา ปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว "ถ้าเขาคิดว่าเข้ากันไม่ได้ ก็เคารพการตัดสินใจของเขาเถอะ!""โอ้ ทำไมน้ำเสียงของเธอฟังดูเศร้าจัง? เธอก็เกลียดเขานี่นา เขาตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก เธอก็ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ?" ไมค์พูดพล่อย ๆ เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ใช่ว่าเขาไม่เคยมีความรักมาก่อน เลยพอจะรู้ว่าทำไมฉินอันอันถึงได้รู้สึกเศร้า เธอเกลียดฟู่สือถิงเพราะฟู่สือถิงไม่ยอมทำให้เธอหายโกรธ ถ้าฟู่สือถิงยังคงตามง้อเธอจนกว่าเธอจะหายโกรธ เธอคงจะกลับมาคบกับฟู่สือถิงได้อีกครั้ง เธอคงคิดไม่ถึงว่าฟู่สือถิงจะตัดสินใจล้มเลิกความสัมพันธ์ที่ 'ผิดพลาด'
เสี่ยวหาน "ผมสนิทกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเหมือนกันหมด"ฉินอันอันคิดอยู่ครู่หนึ่ง "งั้นก็เชิญพวกเขาทุกคนมาเลย! ยังไงห้องเรียนลูกก็มีกันอยู่ไม่กี่คน"รุ่ยลา "ดีเลยค่ะ! คนเยอะ ๆ สนุกกว่า!"เสี่ยวหานเห็นน้องสาวตื่นเต้นขนาดนั้น จึงไม่อยากทำให้เธอเสียใจหลังจากจิ้นซือเหนียนไปแล้ว ฉินอันอันและไมค์ก็เริ่มจัดทำรายชื่อแขก"อันอัน จื่ออี้ต้องมาแน่นอน เฮ่อจุ่นจือก็ต้องเชิญด้วย ถ้าเราเชิญเซิ่งเป่ยแต่ไม่เชิญฟู่สือถิง เขาจะคิดว่าเราจงใจแกล้งเขาไหม?" ไมค์แสดงความคิดเห็น "หรือว่าเราไม่เชิญเซิ่งเป่ยดี?"ฉินอันอันรู้สึกปวดหัวอย่างหนักงานที่ควรจะรื่นเริง กลับกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อนเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับฟู่สือถิง"เรื่องนี้นายจัดการเองเลยแล้วกัน!"หลังจากที่ฉินอันอันพูดจบ ก็ผละไปดูแลลูก ๆไมค์ส่งข้อความไปหาโจวจื่ออี้ อธิบายเรื่องราวและขอคำแนะนำโจวจื่ออี้ : เจ้านายผมแค่บอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้ว เพราะไม่อยากทำให้เธอเดือดร้อนลำบากใจต่างหาก เขาไม่ได้พูดว่าจะตัดขาดจากลูก ๆ เลยสักคำนี่นา?ไมค์ : ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่จิ้นซือเหนียนหนุ่มหน้าหวานคนนั้นเป็นลูกคุณช่างยุอยู่
หัวใจของฉินอันอันเต้นรัวอย่างรวดเร็ว เสียงนั้นคือเสียงของหลีเสี่ยวเถียน เธอกับเฮ่อจุ่นจือคืนดีกันแล้วนี่นา“เสี่ยวเถียน เกิดอะไรขึ้น? อย่าเพิ่งร้องไห้ บอกฉันซิว่าเกิดอะไรขึ้น?” ฉินอันอันลุกจากเตียง หยิบเสื้อคลุมมาสวม ตั้งใจจะออกไปหาหลีเสี่ยวเถียน“อันอัน ฉัน...ฉันไม่ไหวแล้ว...ฉันกลัว...” หลีเสี่ยวเถียนพูดเสียงสะอื้น เสียงสั่นเครือเป็นระยะๆ“ไม่ต้องกลัว ตอนนี้เธอยังอยู่ที่บ้านของเธอกับเฮ่อจุ่นจืออยู่ไหม? อยากให้ฉันไปหาไหม?” ฉินอันอันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เธอพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลีเสี่ยวเถียน คงจะคล้ายกับบาดแผลที่พ่อของฟู่สือถิงทิ้งไว้ในใจเขา ยังคงตามหลอกหลอนชีวิตเขาอยู่ เหตุการณ์การถูกลักพาตัวไปครั้งก่อนก็สร้างบาดแผลในใจให้กับหลีเสี่ยวเถียนเช่นกัน มันอาจจะส่งผลกระทบต่อเธอไปอีกนาน หรืออาจจะตลอดชีวิตหลังจากหลีเสี่ยวเถียนร้องไห้ก็ละล่ำละลักพูดคำว่า “อยาก” ออกมา ฉินอันอันรีบลุกออกจากห้องนอนทันทีตอนที่เธอกำลังจะออกไป ป้าจางที่ได้ยินเสียงก็เดินออกมา“อันอัน ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”ไม่ว่าเวลานี้จะกี่โมง เธอก็ต้องออกไป“อืม ไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะได้กลับม
โจวจื่ออี้ : [ลูบหัว]เซิ่งเป่ย : [ลูบหัว]ฟู่สือถิง : [ลูบหัว]เฮ่อจุ่นจือ : ขอบคุณที่อยู่คุยเป็นเพื่อนผม ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เสี่ยวเถียนเหมือนจะไม่ร้องไห้แล้ว ฉินอันอันเก่งจริง ๆทุกคนเงียบไปทันทีเฮ่อจุ่นจือ : ทำไม? ฉินอันอันกลายเป็นหัวข้อที่ห้ามพูดถึงแล้วเหรอ? ไม่จำเป็นหรอกมั้ง? ถึงเธอจะเลิกกับพี่สือถิงแล้ว แต่พวกเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นี่นา!โจวจื่ออี้ : ราตรีสวัสดิ์เซิ่งเป่ย : ราตรีสวัสดิ์ฟู่สือถิง : อืม @เฮ่อจุ่นจือเฮ่อจุ่นจือ : พี่สือถิง ผมไปดูในห้องนอนก่อน พักผ่อนให้เต็มที่นะครับเฮ่อจุ่นจือส่งข้อความเสร็จก็วางโทรศัพท์ลง เดินไปที่ห้องนอนหลัก ในห้องนอนหลัก ฉินอันอันและหลีเสี่ยวเถียนนอนอยู่บนเตียง ทั้งสองสนิทสนมกันราวกับพี่น้อง กระซิบพูดคุยกันเบา ๆเฮ่อจุ่นจือรีบออกจากห้อง ปิดประตูเบา ๆ เนื่องจากหลีเสี่ยวเถียนและฉินอันอันสนิทกันมาก ไม่ว่าฟู่สือถิงและฉินอันอันจะทะเลาะกันอย่างไร เฮ่อจุ่นจือก็ยังคงเข้าข้างฉินอันอันอยู่เสมอส่วนหลีเสี่ยวเถียน แม้ว่าเธอจะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ก็มีจิตใจดี สามารถเป็นมิตรกับฉินอันอันได้ แสดงว่าฉินอันอันก็เป็นผู้หญิงที่ดีไม่ต่างกัน
โจวจื่ออี้เห็นข้อความของเฮ่อจุ่นจือแล้วก็รีบโทรหาเขาทันที“จุ่นจือ! รีบยกเลิกข้อความนั้นไปซะ!”เฮ่อจุ่นจือถามกลับ “ทำไมล่ะ? ผมก็ไม่ได้พูดถึงฉินอันอันนี่นา ทั้งเสี่ยวหานกับรุ่ยลาไม่ได้เป็นหัวข้อที่ห้ามพูดถึงสักหน่อย?”“ไม่ใช่! ฉินอันอันไม่ได้ตั้งใจจะเชิญเจ้านายผมไปร่วมงานด้วย เพราะฉะนั้นถึงคุยเรื่องนี้ในกลุ่มไม่ได้” โจวจื่ออี้สูดหายใจเข้าลึก ๆ “คุณว่าเรื่องนี้มันสมเหตุสมผลไหมล่ะ!”“ไม่สมเหตุสมผล! ไม่สมเหตุสมผลเลยจริง ๆ!” เฮ่อจุ่นจือลูบจมูก “แต่ผมคิดว่าอันอันต้องมีเหตุผลของเธอแน่ ๆ เดี๋ยวผมไปลบข้อความในกลุ่มก่อน”เฮ่อจุ่นจือวางสายแล้วเปิดดูข้อความในกลุ่มเซิ่งเป่ย : เสี่ยวหานกับรุ่ยลาเกิดวันไหนกันนะ? ให้ฉินอันอันจัดงานวันเกิดให้เด็ก ๆ สิ! ถ้าเธอไม่สะดวกก็ให้สือถิงเป็นคนจัดก็ได้!เฮ่อจุ่นจือลบข้อความของตัวเองออกเงียบ ๆถึงแม้จะรู้ว่าการลบนั้นไม่มีประโยชน์แล้วก็ตามเซิ่งเป่ยเห็นแล้ว ก็เท่ากับว่าฟู่สือถิงเห็นแล้วเหมือนกันเซิ่งเป่ย : ลบข้อความออกทำไมเนี่ย? @เฮ่อจุ่นจือเฮ่อจุ่นจือมองข้อความแล้วไม่กล้าตอบโจวจื่ออี้ : พี่เป่ย ผมได้ยินมาว่าฉินอันอันตั้งใจจะจัดงานวันเกิดให้เด็ก ๆ อ