“อันอัน ช่วงนี้เธอห้ามดูโทรศัพท์เลยนะ” หลีเสี่ยวเถียนอดพูดเตือนไม่ได้ “ฟู่สือถิงซื้อข่าวประชาสัมพันธ์ของประเทศบี เห็นแล้วรังเกียจชะมัด” ฉินอันอันไม่ตอบประโยคนี้ แม้ว่าไข้ของเธอจะลดลงแล้ว แต่ตอนนี้เธอหิวมากเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน นอกจากนี้คอยังแห้งมาก จนไม่สามารถส่งเสียงได้“อันอัน เธอควรกินอะไรหน่อยนะ! ไมค์ขอให้ฉันไปรับเขาที่สนามบิน เขาใกล้จะมาถึงแล้ว ฉันจะไปสนามบินแล้ว” หลีเสี่ยวเถียนพูดจบแล้วออกไปป้าจางเดินถือชามโจ๊กเข้ามาแล้วส่งให้ฉินอันอัน หลังจากที่ฉินอันอันกินโจ๊กเสร็จแล้ว เรี่ยวแรงก็ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย“รุ่ยลา เสี่ยวหาน ทำไมพวกหนูสองคนถึงเอาแต่มองแม่ล่ะ?” ฉินอันอันยิ้มแล้วพูดว่า “แม่แค่เป็นหวัดเอง เดี๋ยวก็หายแล้ว” “แม่ขา แม่แอบร้องไห้ใช่ไหมคะ?”รุ่ยลามองดวงตาที่แดงและบวมของแม่แล้วเม้มริมฝีปาก “คุณแม่อย่าเศร้าไปเลยนะคะ แม่ยังมีหนู พี่ชายแล้วยังมีน้องชายด้วย พวกเราจะไม่มีวันทิ้งแม่นะคะ”“แม่รู้ แม่ถึงหายป่วยและอารมณ์ดีขึ้นด้วยไง” ฉินอันอันลูบแพรผมอันอ่อนนุ่มของลูกสาวเธอเวลานี้เอง เสี่ยวหานเข้ามากอดเธออย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเธอโอบลูกไว้ด้วยแขนข้า
“งั้นฉันจะกลับไปดูความครึกครื้น คุณเห็นใบหน้าเสียโฉมของถังเชี่ยนหรือเปล่า? น่ากลัวขนาดนั้น ฟู่สือถิงไม่ได้แต่งงานกับเธอเพราะความรักแน่นอน! ในประเทศคงปั่นป่วนไปหมด! ฉันอยากกลับไปหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงแต่งงานกับถังเชี่ยน นี่มันน่าสนใจมากกว่าเรื่องเรียนต่อของฉันเสียอีก!” สักพักรถก็ขับไปที่ลานหน้าวิลล่าแล้วหยุด ไมค์เปิดประตูแล้วก้าวเท้ายาว ๆ เข้าไปในห้องนั่งเล่นฉินอันอันกำลังต่อบล็อกไม้กับรุ่ยลา ไมค์เดินมาหาเธอแล้วสำรวจใบหน้าเธออย่างละเอียด “นายทำอะไร?” ฉินอันอันผลักเขา “เริ่มทำงานแล้วไม่ใช่เหรอ? ใครให้นายมาที่นี่?” ไมค์ทำเสียงจุ๊ปาก “ฉันอยากมาก็มา บริษัทไม่มีฉันจะเริ่มทำงานไม่ได้เลยเหรอ? ทำไมฉันไม่ยักรู้ว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้น?” หลีเสี่ยวเถียนยิ้มและพูดว่า “อันอัน เธออย่าตำหนิเขาเลย เขาใส่ชุดนอน ไม่สวมเสื้อคลุมด้วยซ้ำ เห็นได้เลยว่าเขาร้อนใจแค่ไหน” ฉันอันอันได้ยินก็เหลือบมองไมค์แล้วเย้ยหยันพอดี ๆ ว่า “ฉันไม่ได้กำลังจะตาย เธอไม่ต้องพูดโอเวอร์ขนาดนี้ได้หรือเปล่า?”ไมค์ “เห็นเธอเป็นแบบนี้ ฉันก็เบาใจขึ้นเยอะเลย” ถ้าเธอเศร้ามาก จะไม่มีเรี่ยวแรงมาประชดประชันใครได้ ……กลางคืน ในค
ประเทศเอหลังจากข่าวฟู่สือถิงกำลังจะแต่งงานกับถังเชี่ยนแพร่กระจายเป็นวงกว้าง รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานของพวกเขาก็ถูกเปิดเผยโรงแรมที่จัดงาน จำนวนแขกเหรื่อ เมนูอาหารงานแต่งงาน ของที่ระลึก เครื่องประดับเจ้าสาว และอื่น ๆ ทุกอย่างถูกเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ตงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงนี้จะทำให้ตระกูลถังได้หน้าไปมากมายหลังจากเห็นข่าวที่ทำให้โลกตกตะลึงแล้ว หวังหว่านจือที่เคยเยาะเย้ยถังเฉียวเซินในโรงพยาบาล อดไม่ได้ที่จะโทรหาเขา“ถังเฉียวเซิน คุณนี่มันร้ายกาจจริง ๆ!” หวังหว่านจือโกรธเคืองเล็กน้อย “เป็นคุณที่ชิงของในกล่องนั่นไประหว่างทางสินะ?! เดิมทีมันควรเป็นของฉัน!” ถ้าไม่ถูกถังเฉียวเซินแย่งของไป คนที่ข่มขู่ฟู่สือถิงได้ตอนนี้ต้องเป็นเธอ! เงินสองหมื่นหกพันล้านบาทนั่นก็ต้องใส่ในกระเป๋าเธอด้วย! “หวังหว่านจือ คุณจะมาร่วมงานแต่งของน้องสาวผมกับฟู่สือถิงหรือเปล่า? มาพูดคำถามเมื่อกี้ต่อหน้าพวกเราด้วยตัวเองสิ!” ถังเฉียวเซินยิ้มอย่างเย่อหยิ่งจองหอง “ถ้าคุณกล้ามา ผมก็กล้าต้อนรับคุณแล้วยังจะขอให้น้องเขยของผมเมตตาคุณด้วย” แน่นอนว่าหวังหว่านจือต้องการไปดูฟู่สือถิงแต่งงานกับถ
เธอเคยไม่สนใจทรัพย์สินของตระกูลถังเลยแม้แต่น้อย เธอแค่อยากได้รับการยอมรับและเคารพจากครอบครัว แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นค่า เธอแค่ต้องการตระกูลถังทั้งหมด!เอสทีกรุ๊ป วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานหลังวันหยุดยาวไม่มีใครคาดคิดว่าฟู่สือถิงในฐานะว่าที่เจ้าบ่าวจะมาถึงบริษัทแต่เช้าตรู่ยังไงก็ตาม หลังจากที่เขามาถึงบริษัท เขาก็อยู่แต่ในออฟฟิศและไม่ออกมาเลย รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการเงินเป็นผู้แจกอั่งเปาสำหรับการเริ่มต้นทำงานแน่นอนว่าพนักงานย่อมไม่พลาดโอกาสซุบซิบเรื่องที่ใกล้เป็นความจริงในครั้งนี้“รองประธาน เจ้านายของเราอยากแต่งงานกับถังเชี่ยนจริง ๆ หรือ? ทำไมเจ้านายถึงคิดไม่ตกแบบนี้ได้?” รองประธานรู้สึกลำบากใจมาก “ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ คุณไม่ถามหัวหน้าฝ่ายการเงินดูล่ะ?” เซิ่งเป่ยสีหน้าขบขัน “เรื่องของเจ้านาย ผมจะรู้ได้ไง? ผมเองก็เพิ่งรู้หลังจากมีข่าวออกมา ถ้าพวกคุณอยากรู้มากขนาดนี้ ก็ไปถามเขาที่ออฟฟิศด้วยตัวเองสิ!” พนักงานโบกมือซ้ำ ๆ เป็นสัญญาณว่าไม่กล้า “หัวหน้าการเงิน คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้านายดีขนาดนั้น ทำไมไม่ดึงเขาไว้หน่อย?” เซิ่งเป่ย “ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นห
เวลาสองทุ่มในประเทศเอมีข้อความหนึ่งบนเวยป๋อที่ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วอินเทอร์เน็ตข้อความนี้ถูกโพสต์จากบัญชีส่วนตัวของถังเฉียวเซิน โดยมีเนื้อหาว่า : ฟู่สือถิงป่วยทางจิตเพียงแค่ถ้อยคำนี้ แต่ก็น่าตกใจอย่างมากแม้ว่าบัญชีที่โพสต์ข้อความนี้จะเป็นบัญชีส่วนตัวของถังเฉียวเซิน แต่ชาวเน็ตก็ค้นพบอย่างรวดเร็วจากข้อมูลที่เปิดเผยในบัญชีว่านี่คือเวยป๋อของถังเฉียวเซินงานแต่งงานของฟู่สือถิงและถังเชี่ยนน้องสาวของถังเฉียวเซินใกล้จะมาถึง แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ถังเฉียวเซินกลับโพสต์เรื่องราวที่น่าตกใจบนเวยป๋อ ทำให้เกิดคำถามว่างานแต่งงานนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่?หลังจากโพสต์บนเวยป๋อของถังเฉียวเซินถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง เพื่อนของเขาก็โทรมาบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ถังเฉียวเซินพูดอย่างโมโหว่า “ฉันไม่ได้เข้าเวยป๋อมาเป็นร้อยปีแล้ว ฉันไม่ได้โพสต์อะไรเลย!”หลังจากพูดจบ เขาก็เข้าสู่บัญชีเวยป๋อที่ไม่ได้ใช้งานมานานและเห็นโพสต์ใหม่ที่น่าตกใจนี้ ถังเฉียวเซินจ้องมองข้อความเหล่านี้ เลือดในกายเขากำลังเดือดและความคิดของเขาก็สับสน ใครกัน?ใครกันที่เข้าใช้งานเวยป๋อของเขา และเปิดเผยความลับนี้?ทันทีที่ถังเฉียวเ
“เจ้านาย ผมโทรหาไมค์เมื่อครู่ ไมค์บอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนแฮ็กบัญชีของถังเฉียวเซิน" โจวจื่ออี้ดันแว่นบนสันจมูกขึ้น “ไมค์บอกว่าเสี่ยวหานเป็นคนทำ”ฟู่สือถิงถือโทรศัพท์มือถือไว้ จากนั้นก็วางสายไปเสี่ยวหานทำ งั้นก็ไม่น่าแปลกใจแล้ว!กล่องถูกรุ่ยลาหยิบไป เสี่ยวหานรู้เรื่องนี้มาตลอดดังนั้นเสี่ยวหานน่าจะเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องแล้วเขานึกถึงตอนที่เขาเกือบจะบีบคอเสี่ยวหานจนตาย เพราะเสี่ยวหานบอกว่าเขาป่วยตอนนั้นเขาไม่ได้ตระหนักว่าทำไมเสี่ยวหานถึงพูดแบบนั้น ตอนนี้คิดย้อนกลับไป เขารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่า!เสี่ยวหานรู้ความลับของเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยลงมือทำอะไรเสี่ยวหาน เสี่ยวหานก็จะไม่ยอมรับเขาเป็นพ่อ!เสี่ยวหานดูถูกเขา! ไม่งั้นคงไม่จงใจแฮ็กบัญชีของถังเฉียวเซิน แล้วเปิดเผยความลับของเขาต่อสาธารณชนอย่างไม่ใส่ใจ“เจ้านาย เสี่ยวหานแค่เล่นแผลง ๆ เอง” โจวจื่ออี้รู้แค่ว่าเสี่ยวหานเป็นคนทำ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวหานถึงพูดแบบนั้น“เขาไม่ได้เล่นแผลง ๆ” ฟู่สือถิงพูดอย่างมั่นใจ “เขาจงใจ”“แม้ว่าเขาจะจงใจ คุณก็อย่าถือสาเขาเลย เขายังเด็กอยู่ และที่เขาทำแบบนี้ น่าจะอยากแก้แค้นแทนแม่ของเขา” โจวจื่ออี้
หลังจากฉินอันอันครุ่นคิดอยู่สองสามวินาที เธอตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจ”หลีเสี่ยวเถียนรับรู้ได้ถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอที่มีต่อฟู่สือถิงจากน้ำเสียงของเธอก็จริง ไม่ว่าฟู่สือถิงจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ ฉินอันอันก็ไม่ควรเห็นใจเขาข้ามคืนไป ข่าวลือเกี่ยวกับฟู่สือถิงบนอินเทอร์เน็ตก็หายไปอย่างสิ้นเชิงถึงแม้จะพูดบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้ แต่ทุกคนก็ยังคงพูดคุยกันเรื่องนี้ในวงส่วนตัว“ฉันก็คิดว่าบอสของเราไม่ปกติ” พนักงานคนหนึ่งของเอสทีกรุ๊ปพูดขึ้น “ฉันยังคิดว่าเขาไม่ใช่คนในโลกด้วยซ้ำ เขาอาจจะมาจากต่างดาว ไม่งั้นเขาจะอายุน้อยขนาดนี้แล้วยังเก่งขนาดนี้ได้ยังไง?”คนอื่น ๆ หัวเราะกันลั่น“ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าบอสของเรา ถึงจะมีปัญหาทางจิต ก็ไม่ใช่ประเภทที่ถือมีดไล่ฟันคนหรอก ฉันอยู่บริษัทมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยได้ยินข่าวเสียหายเกี่ยวกับเขาเลย บริษัทเราขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกปีในอัตราที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม บอสดีขนาดนี้ หาข้อตำหนิไม่ได้เลย!”“ใช่! ฉันคิดว่าถังเฉียวเซินตั้งใจใส่ร้ายบอสเราแน่ ๆ! ข้ออ้างที่ว่าบัญชีถูกแฮ็กมันแย่มาก!”......เซิ่งเป่ยเดินผ่านห้องพัก ได้ยินทุกคนกำลังพูดคุยกัน จึงร
“แล้วฉินอันอัน... เธอว่ายังไง?” เซิ่งเป่ยถามคำถามนี้ด้วยความลังเลเล็กน้อยเพราะคำตอบมันปรากฏชัดอยู่บนใบหน้าของฟู่สือถิงแล้วฟู่สือถิงเปิดกล่องบุหรี่ หยิบบุหรี่ออกมาจุด“สือถิง นายสูบบุหรี่ให้น้อยลงเถอะ” เซิ่งเป่ยเห็นเขาถือไฟแช็กอันใหม่ ก็นึกว่าช่วงนี้เขาคงสูบบุหรี่ไปเยอะแล้ว“ฉันไม่อยากให้ลูกอับอาย” เขาพูดประโยคนี้ด้วยแววตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ฉันจะทำให้ถังเฉียวเซินตายอย่างไร้ที่ฝังศพ!”เซิ่งเป่ยได้ยินคำว่า 'ไม่อยากให้ลูกอับอาย' ก็เข้าใจความรู้สึกของเขาในทันทีรุ่ยลากับเสี่ยวหานเรียนประถมแล้ว พวกเขาไม่ใช่เด็กสามขวบอีกต่อไปข่าวเด่นอะไรในสังคม พวกเขาก็รับรู้ได้จากเพื่อนและครูถ้าเรื่องนี้บานปลายออกไป เพื่อน ๆ จะมองพวกเขาด้วยสายตาแปลก ๆ หรือเปล่า? จะคิดว่าพวกเขาไม่ปกติไหม?……ประเทศบีวันนี้จิ้นซือเหนียนพาฉินอันอันและลูก ๆ สองคนไปเล่นสกีจริง ๆ แล้วเธอไม่อยากออกไปข้างนอก แต่ลูก ๆ อยากไป เธอเลยตกลงไปเล่นด้วยกันเพราะเธอเล่นสกีไม่ค่อยเป็น จิ้นซือเหนียนเลยพาเธอตลอดเวลาการลองทำสิ่งใหม่ ๆ ทำให้คนเราลืมความกังวลไปได้ชั่วขณะจริง ๆหลังจากออกไปเที่ยวข้างนอกมาทั้งวัน เธ