เธอเคยไม่สนใจทรัพย์สินของตระกูลถังเลยแม้แต่น้อย เธอแค่อยากได้รับการยอมรับและเคารพจากครอบครัว แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นค่า เธอแค่ต้องการตระกูลถังทั้งหมด!เอสทีกรุ๊ป วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานหลังวันหยุดยาวไม่มีใครคาดคิดว่าฟู่สือถิงในฐานะว่าที่เจ้าบ่าวจะมาถึงบริษัทแต่เช้าตรู่ยังไงก็ตาม หลังจากที่เขามาถึงบริษัท เขาก็อยู่แต่ในออฟฟิศและไม่ออกมาเลย รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการเงินเป็นผู้แจกอั่งเปาสำหรับการเริ่มต้นทำงานแน่นอนว่าพนักงานย่อมไม่พลาดโอกาสซุบซิบเรื่องที่ใกล้เป็นความจริงในครั้งนี้“รองประธาน เจ้านายของเราอยากแต่งงานกับถังเชี่ยนจริง ๆ หรือ? ทำไมเจ้านายถึงคิดไม่ตกแบบนี้ได้?” รองประธานรู้สึกลำบากใจมาก “ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ คุณไม่ถามหัวหน้าฝ่ายการเงินดูล่ะ?” เซิ่งเป่ยสีหน้าขบขัน “เรื่องของเจ้านาย ผมจะรู้ได้ไง? ผมเองก็เพิ่งรู้หลังจากมีข่าวออกมา ถ้าพวกคุณอยากรู้มากขนาดนี้ ก็ไปถามเขาที่ออฟฟิศด้วยตัวเองสิ!” พนักงานโบกมือซ้ำ ๆ เป็นสัญญาณว่าไม่กล้า “หัวหน้าการเงิน คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้านายดีขนาดนั้น ทำไมไม่ดึงเขาไว้หน่อย?” เซิ่งเป่ย “ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นห
เวลาสองทุ่มในประเทศเอมีข้อความหนึ่งบนเวยป๋อที่ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วอินเทอร์เน็ตข้อความนี้ถูกโพสต์จากบัญชีส่วนตัวของถังเฉียวเซิน โดยมีเนื้อหาว่า : ฟู่สือถิงป่วยทางจิตเพียงแค่ถ้อยคำนี้ แต่ก็น่าตกใจอย่างมากแม้ว่าบัญชีที่โพสต์ข้อความนี้จะเป็นบัญชีส่วนตัวของถังเฉียวเซิน แต่ชาวเน็ตก็ค้นพบอย่างรวดเร็วจากข้อมูลที่เปิดเผยในบัญชีว่านี่คือเวยป๋อของถังเฉียวเซินงานแต่งงานของฟู่สือถิงและถังเชี่ยนน้องสาวของถังเฉียวเซินใกล้จะมาถึง แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ถังเฉียวเซินกลับโพสต์เรื่องราวที่น่าตกใจบนเวยป๋อ ทำให้เกิดคำถามว่างานแต่งงานนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่?หลังจากโพสต์บนเวยป๋อของถังเฉียวเซินถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง เพื่อนของเขาก็โทรมาบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ถังเฉียวเซินพูดอย่างโมโหว่า “ฉันไม่ได้เข้าเวยป๋อมาเป็นร้อยปีแล้ว ฉันไม่ได้โพสต์อะไรเลย!”หลังจากพูดจบ เขาก็เข้าสู่บัญชีเวยป๋อที่ไม่ได้ใช้งานมานานและเห็นโพสต์ใหม่ที่น่าตกใจนี้ ถังเฉียวเซินจ้องมองข้อความเหล่านี้ เลือดในกายเขากำลังเดือดและความคิดของเขาก็สับสน ใครกัน?ใครกันที่เข้าใช้งานเวยป๋อของเขา และเปิดเผยความลับนี้?ทันทีที่ถังเฉียวเ
“เจ้านาย ผมโทรหาไมค์เมื่อครู่ ไมค์บอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนแฮ็กบัญชีของถังเฉียวเซิน" โจวจื่ออี้ดันแว่นบนสันจมูกขึ้น “ไมค์บอกว่าเสี่ยวหานเป็นคนทำ”ฟู่สือถิงถือโทรศัพท์มือถือไว้ จากนั้นก็วางสายไปเสี่ยวหานทำ งั้นก็ไม่น่าแปลกใจแล้ว!กล่องถูกรุ่ยลาหยิบไป เสี่ยวหานรู้เรื่องนี้มาตลอดดังนั้นเสี่ยวหานน่าจะเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องแล้วเขานึกถึงตอนที่เขาเกือบจะบีบคอเสี่ยวหานจนตาย เพราะเสี่ยวหานบอกว่าเขาป่วยตอนนั้นเขาไม่ได้ตระหนักว่าทำไมเสี่ยวหานถึงพูดแบบนั้น ตอนนี้คิดย้อนกลับไป เขารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่า!เสี่ยวหานรู้ความลับของเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยลงมือทำอะไรเสี่ยวหาน เสี่ยวหานก็จะไม่ยอมรับเขาเป็นพ่อ!เสี่ยวหานดูถูกเขา! ไม่งั้นคงไม่จงใจแฮ็กบัญชีของถังเฉียวเซิน แล้วเปิดเผยความลับของเขาต่อสาธารณชนอย่างไม่ใส่ใจ“เจ้านาย เสี่ยวหานแค่เล่นแผลง ๆ เอง” โจวจื่ออี้รู้แค่ว่าเสี่ยวหานเป็นคนทำ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวหานถึงพูดแบบนั้น“เขาไม่ได้เล่นแผลง ๆ” ฟู่สือถิงพูดอย่างมั่นใจ “เขาจงใจ”“แม้ว่าเขาจะจงใจ คุณก็อย่าถือสาเขาเลย เขายังเด็กอยู่ และที่เขาทำแบบนี้ น่าจะอยากแก้แค้นแทนแม่ของเขา” โจวจื่ออี้
หลังจากฉินอันอันครุ่นคิดอยู่สองสามวินาที เธอตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจ”หลีเสี่ยวเถียนรับรู้ได้ถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอที่มีต่อฟู่สือถิงจากน้ำเสียงของเธอก็จริง ไม่ว่าฟู่สือถิงจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ ฉินอันอันก็ไม่ควรเห็นใจเขาข้ามคืนไป ข่าวลือเกี่ยวกับฟู่สือถิงบนอินเทอร์เน็ตก็หายไปอย่างสิ้นเชิงถึงแม้จะพูดบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้ แต่ทุกคนก็ยังคงพูดคุยกันเรื่องนี้ในวงส่วนตัว“ฉันก็คิดว่าบอสของเราไม่ปกติ” พนักงานคนหนึ่งของเอสทีกรุ๊ปพูดขึ้น “ฉันยังคิดว่าเขาไม่ใช่คนในโลกด้วยซ้ำ เขาอาจจะมาจากต่างดาว ไม่งั้นเขาจะอายุน้อยขนาดนี้แล้วยังเก่งขนาดนี้ได้ยังไง?”คนอื่น ๆ หัวเราะกันลั่น“ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าบอสของเรา ถึงจะมีปัญหาทางจิต ก็ไม่ใช่ประเภทที่ถือมีดไล่ฟันคนหรอก ฉันอยู่บริษัทมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยได้ยินข่าวเสียหายเกี่ยวกับเขาเลย บริษัทเราขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกปีในอัตราที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม บอสดีขนาดนี้ หาข้อตำหนิไม่ได้เลย!”“ใช่! ฉันคิดว่าถังเฉียวเซินตั้งใจใส่ร้ายบอสเราแน่ ๆ! ข้ออ้างที่ว่าบัญชีถูกแฮ็กมันแย่มาก!”......เซิ่งเป่ยเดินผ่านห้องพัก ได้ยินทุกคนกำลังพูดคุยกัน จึงร
“แล้วฉินอันอัน... เธอว่ายังไง?” เซิ่งเป่ยถามคำถามนี้ด้วยความลังเลเล็กน้อยเพราะคำตอบมันปรากฏชัดอยู่บนใบหน้าของฟู่สือถิงแล้วฟู่สือถิงเปิดกล่องบุหรี่ หยิบบุหรี่ออกมาจุด“สือถิง นายสูบบุหรี่ให้น้อยลงเถอะ” เซิ่งเป่ยเห็นเขาถือไฟแช็กอันใหม่ ก็นึกว่าช่วงนี้เขาคงสูบบุหรี่ไปเยอะแล้ว“ฉันไม่อยากให้ลูกอับอาย” เขาพูดประโยคนี้ด้วยแววตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ฉันจะทำให้ถังเฉียวเซินตายอย่างไร้ที่ฝังศพ!”เซิ่งเป่ยได้ยินคำว่า 'ไม่อยากให้ลูกอับอาย' ก็เข้าใจความรู้สึกของเขาในทันทีรุ่ยลากับเสี่ยวหานเรียนประถมแล้ว พวกเขาไม่ใช่เด็กสามขวบอีกต่อไปข่าวเด่นอะไรในสังคม พวกเขาก็รับรู้ได้จากเพื่อนและครูถ้าเรื่องนี้บานปลายออกไป เพื่อน ๆ จะมองพวกเขาด้วยสายตาแปลก ๆ หรือเปล่า? จะคิดว่าพวกเขาไม่ปกติไหม?……ประเทศบีวันนี้จิ้นซือเหนียนพาฉินอันอันและลูก ๆ สองคนไปเล่นสกีจริง ๆ แล้วเธอไม่อยากออกไปข้างนอก แต่ลูก ๆ อยากไป เธอเลยตกลงไปเล่นด้วยกันเพราะเธอเล่นสกีไม่ค่อยเป็น จิ้นซือเหนียนเลยพาเธอตลอดเวลาการลองทำสิ่งใหม่ ๆ ทำให้คนเราลืมความกังวลไปได้ชั่วขณะจริง ๆหลังจากออกไปเที่ยวข้างนอกมาทั้งวัน เธ
ไมค์กอดเธอไว้และปลอบเธอเบา ๆ ว่า “ผู้ชายและผู้หญิงมีวิธีคิดที่แตกต่างกัน บางทีเขาอาจกลัวว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อเธอและลูก แต่เขาประเมินความสามารถในการรับมือของเธอและลูกต่ำเกินไป”“ฉันไม่อยากรู้ว่าเขาคิดอะไร เพราะเขาไม่เคยบอกความคิดในใจของเขากับฉันเลย” ฉินอันอันพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ถ้าฉันต้องรู้ว่าเขาเจอกับอะไรผ่านคนอื่นหรือข่าวตลอดไป ฉันก็ตลกสิ้นดี! ฉันไม่สามารถเห็นใจเขาได้! แม้ว่าตอนนี้เขาจะป่วยใกล้ตาย ฉันก็จะไม่เห็นใจเขา!”“อันอัน อย่าร้องไห้เลย” ไมค์ตั้งใจจะปลอบเธอด้วยคำพูดมากมาย แต่พอจะพูด เขาก็พูดไม่ออกเรื่องของความรู้สึก ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำตอนนี้ ฟู่สือถิงถูกคนอื่นข่มขู่ ต้องแต่งงานกับถังเชี่ยนที่เสียโฉมไปแล้ว กลายเป็นเรื่องตลกของทุกคน ลองคิดดูว่าเขามีชีวิตที่รุ่งโรจน์มาเกือบครึ่งชีวิต เขาเคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้เมื่อไหร่? แต่ฉินอันอันทำอะไรผิดล่ะ?หลังจากที่ฉินอันอันร้องไห้จนเหนื่อย เธอก็ผล็อยหลับไปอย่างง่วงงุนคืนนี้ไม่มีฝัน เธอหลับได้ค่อนข้างดีทีเดียวเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นอกจากตาจะบวมเล็กน้อย เธอก็ยังรู้สึกสดชื่นดีวันนี้เป็นวันท
ประเทศเอวันนี้เป็นวันมงคลของฟู่สือถิงและถังเชี่ยนถังเฉียวเซินและมารดาของถังเชี่ยนกำลังต้อนรับแขกที่หน้าโรงแรมทุกอย่างเป็นไปตามแผนของถังเฉียวเซินอย่างราบรื่นถังเฉียวเซินให้ฟู่สือถิงแต่งงานกับถังเชี่ยน ด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรกเพื่อทำให้ฟู่สือถิงอับอาย และประการที่สองเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าตระกูลถังและตระกูลฟู่ได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ต่อไปตระกูลถังจะมีตระกูลฟู่คอยหนุนหลังตราบใดที่ถังเฉียวเซินยังกุมไพ่เหนือกว่าไว้ได้ ก็จะไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นหลังจากหลีเสี่ยวเถียนเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง เธอก็มองเห็นเฮ่อจุ่นจือในฝูงชนทันทีเฮ่อจุ่นจือกำลังยืนคุยกับเซิ่งเป่ยและคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไร แต่ดูเขามีความสุขและผ่อนคลายมากหลีเสี่ยวเถียนหยิบแชมเปญมาหนึ่งแก้ว แล้วหาที่นั่งที่เห็นได้ชัดเจนไม่นานนัก เซิ่งเป่ยก็เห็นเธอ และเตือนให้เฮ่อจุ่นจือให้รู้เฮ่อจุ่นจือเห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวจึงเดินเข้าไปหาเธอหลีเสี่ยวเถียนเห็นเขาเดินเข้ามา รู้สึกอึดอัดใจมากเธออยากจะคุยกับเขา แต่ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อเจอกัน“ไม่ใช่ว่ามีแฟนแล้วเหรอ? ทำไมไม่พาแฟนมาด้วยล่ะ?” เฮ่อจุ่นจือยืนข้าง
ถังเฉียวเซินโทรหาฟู่สือถิง แต่ไม่มีใครรับสายเมื่อโทรหาถังเชี่ยน ถังเชี่ยนรับสายแต่ถังเชี่ยนพูดอย่างใจเย็น “พี่คะ แขกมาถึงกันหมดหรือยัง?”“ถังเชี่ยน! เธอทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?! ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว? หรือว่าฟู่สือถิงไม่ได้ไปรับเธอ? ฉันโทรหาเขา เขาก็ไม่รับ! หรือว่าเขาจะคืนคำ?!” ถังเฉียวเซินต้อนรับแขกมาทั้งเช้า ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าบ้างแล้วเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังไม่มา อารมณ์ของเขาก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง“พี่ ฟู่สือถิงยังไม่โทรมาหาฉันเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง” เสียงของถังเชี่ยนอ่อนหวาน เปลี่ยนจากท่าทีต่ำต้อยก่อนหน้านี้ “ฉันกำลังทำผมอยู่! ฉันไม่พอใจกับการแต่งหน้าและทรงผมที่พี่เลือกให้ ฉันก็เลยให้ช่างแต่งหน้าทำใหม่แล้ว”ถังเฉียวเซินโกรธจนปากเบี้ยว “ถังเชี่ยน เธออย่าคิดว่าเธอเป็นคุณนายฟู่แล้วจะมาอวดดีต่อหน้าฉันได้นะ!”“ถึงวันนี้ฉันจะจัดงานแต่งงานกับเขา ฉันก็ยังไม่ใช่ภรรยาของเขาอยู่ดี” ถังเชี่ยนเตือน “ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส จะเป็นคุณนายฟู่ได้ยังไง”“แล้วเธอกล้าพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ได้ยังไง?!” ถังเฉียวเซินถือโทรศัพท์ เดินออกจากห้องจัดเลี้ยง “ใครอนุญาตให้เธอ