“อืม” “สือถิง ไม่ใช่ฉันที่อยากแต่งงานกับคุณ” ถังเชี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจบอกเขาอย่างชัดเจน “ถังเฉียวเซินต้องการใช้ฉันทำให้คุณอับอาย ฉันไม่อยากแต่งงานเลย แล้วก็ไม่อยากจัดงานแต่งงานด้วย” “เรื่องนี้ไม่สำคัญอีกแล้ว” เขาพูดเบา ๆ เธออึ้งไปทันทีพร้อมกับใบหน้าเย็นชาของเขาแล้วถามว่า “แล้วทางฉินอันอันล่ะคะ…?” “ถังเชี่ยน เธอแค่ทำสิ่งที่รับปากฉันไว้ก็พอ ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของฉัน” “ฉันช่วยคุณอธิบายได้นะคะ!” ถังเชี่ยนพูดอย่างใจดี “ไม่ต้อง!” ฟู่สือถิงพูดด้วยความโกรธ “อย่าไปรบกวนเธอ!” เขารู้ถึงสภาพจิตใจของฉินอันอันในตอนนี้ดีหากตอนนี้มีใครพูดถึงเขาต่อหน้าเธอ เธอจะต้องโกรธแน่นอน ยิ่งถ้าถังเชี่ยนเป็นคนพูด เธอจะยิ่งโกรธก่อนที่เรื่องจะคลี่คลาย อย่าไปรบกวนเธอจะดีที่สุดหลังจากแก้ปัญหาจนเสร็จสิ้นแล้ว เขาจะไปอธิบายและยอมรับผิดกับเธอด้วยตัวเอง สองชั่วโมงต่อมา พาดหัวข่าวบนอินเทอร์เน็ตก็ระเบิดขึ้น - ฟู่สือถิง ประธานเอสทีกรุ๊ปใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อจัดงานแต่งงานกับถังเชี่ยน ทายาทบริษัทหลักทรัพย์ซิ่นเหอข่าวนี้เผยแพร่ตามข้อเรียกร้องของถังเฉียวเซิน ถังเฉียวเซินต้องการทำให้
“อันอัน ช่วงนี้เธอห้ามดูโทรศัพท์เลยนะ” หลีเสี่ยวเถียนอดพูดเตือนไม่ได้ “ฟู่สือถิงซื้อข่าวประชาสัมพันธ์ของประเทศบี เห็นแล้วรังเกียจชะมัด” ฉินอันอันไม่ตอบประโยคนี้ แม้ว่าไข้ของเธอจะลดลงแล้ว แต่ตอนนี้เธอหิวมากเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน นอกจากนี้คอยังแห้งมาก จนไม่สามารถส่งเสียงได้“อันอัน เธอควรกินอะไรหน่อยนะ! ไมค์ขอให้ฉันไปรับเขาที่สนามบิน เขาใกล้จะมาถึงแล้ว ฉันจะไปสนามบินแล้ว” หลีเสี่ยวเถียนพูดจบแล้วออกไปป้าจางเดินถือชามโจ๊กเข้ามาแล้วส่งให้ฉินอันอัน หลังจากที่ฉินอันอันกินโจ๊กเสร็จแล้ว เรี่ยวแรงก็ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย“รุ่ยลา เสี่ยวหาน ทำไมพวกหนูสองคนถึงเอาแต่มองแม่ล่ะ?” ฉินอันอันยิ้มแล้วพูดว่า “แม่แค่เป็นหวัดเอง เดี๋ยวก็หายแล้ว” “แม่ขา แม่แอบร้องไห้ใช่ไหมคะ?”รุ่ยลามองดวงตาที่แดงและบวมของแม่แล้วเม้มริมฝีปาก “คุณแม่อย่าเศร้าไปเลยนะคะ แม่ยังมีหนู พี่ชายแล้วยังมีน้องชายด้วย พวกเราจะไม่มีวันทิ้งแม่นะคะ”“แม่รู้ แม่ถึงหายป่วยและอารมณ์ดีขึ้นด้วยไง” ฉินอันอันลูบแพรผมอันอ่อนนุ่มของลูกสาวเธอเวลานี้เอง เสี่ยวหานเข้ามากอดเธออย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเธอโอบลูกไว้ด้วยแขนข้า
“งั้นฉันจะกลับไปดูความครึกครื้น คุณเห็นใบหน้าเสียโฉมของถังเชี่ยนหรือเปล่า? น่ากลัวขนาดนั้น ฟู่สือถิงไม่ได้แต่งงานกับเธอเพราะความรักแน่นอน! ในประเทศคงปั่นป่วนไปหมด! ฉันอยากกลับไปหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงแต่งงานกับถังเชี่ยน นี่มันน่าสนใจมากกว่าเรื่องเรียนต่อของฉันเสียอีก!” สักพักรถก็ขับไปที่ลานหน้าวิลล่าแล้วหยุด ไมค์เปิดประตูแล้วก้าวเท้ายาว ๆ เข้าไปในห้องนั่งเล่นฉินอันอันกำลังต่อบล็อกไม้กับรุ่ยลา ไมค์เดินมาหาเธอแล้วสำรวจใบหน้าเธออย่างละเอียด “นายทำอะไร?” ฉินอันอันผลักเขา “เริ่มทำงานแล้วไม่ใช่เหรอ? ใครให้นายมาที่นี่?” ไมค์ทำเสียงจุ๊ปาก “ฉันอยากมาก็มา บริษัทไม่มีฉันจะเริ่มทำงานไม่ได้เลยเหรอ? ทำไมฉันไม่ยักรู้ว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้น?” หลีเสี่ยวเถียนยิ้มและพูดว่า “อันอัน เธออย่าตำหนิเขาเลย เขาใส่ชุดนอน ไม่สวมเสื้อคลุมด้วยซ้ำ เห็นได้เลยว่าเขาร้อนใจแค่ไหน” ฉันอันอันได้ยินก็เหลือบมองไมค์แล้วเย้ยหยันพอดี ๆ ว่า “ฉันไม่ได้กำลังจะตาย เธอไม่ต้องพูดโอเวอร์ขนาดนี้ได้หรือเปล่า?”ไมค์ “เห็นเธอเป็นแบบนี้ ฉันก็เบาใจขึ้นเยอะเลย” ถ้าเธอเศร้ามาก จะไม่มีเรี่ยวแรงมาประชดประชันใครได้ ……กลางคืน ในค
ประเทศเอหลังจากข่าวฟู่สือถิงกำลังจะแต่งงานกับถังเชี่ยนแพร่กระจายเป็นวงกว้าง รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานของพวกเขาก็ถูกเปิดเผยโรงแรมที่จัดงาน จำนวนแขกเหรื่อ เมนูอาหารงานแต่งงาน ของที่ระลึก เครื่องประดับเจ้าสาว และอื่น ๆ ทุกอย่างถูกเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ตงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงนี้จะทำให้ตระกูลถังได้หน้าไปมากมายหลังจากเห็นข่าวที่ทำให้โลกตกตะลึงแล้ว หวังหว่านจือที่เคยเยาะเย้ยถังเฉียวเซินในโรงพยาบาล อดไม่ได้ที่จะโทรหาเขา“ถังเฉียวเซิน คุณนี่มันร้ายกาจจริง ๆ!” หวังหว่านจือโกรธเคืองเล็กน้อย “เป็นคุณที่ชิงของในกล่องนั่นไประหว่างทางสินะ?! เดิมทีมันควรเป็นของฉัน!” ถ้าไม่ถูกถังเฉียวเซินแย่งของไป คนที่ข่มขู่ฟู่สือถิงได้ตอนนี้ต้องเป็นเธอ! เงินสองหมื่นหกพันล้านบาทนั่นก็ต้องใส่ในกระเป๋าเธอด้วย! “หวังหว่านจือ คุณจะมาร่วมงานแต่งของน้องสาวผมกับฟู่สือถิงหรือเปล่า? มาพูดคำถามเมื่อกี้ต่อหน้าพวกเราด้วยตัวเองสิ!” ถังเฉียวเซินยิ้มอย่างเย่อหยิ่งจองหอง “ถ้าคุณกล้ามา ผมก็กล้าต้อนรับคุณแล้วยังจะขอให้น้องเขยของผมเมตตาคุณด้วย” แน่นอนว่าหวังหว่านจือต้องการไปดูฟู่สือถิงแต่งงานกับถ
เธอเคยไม่สนใจทรัพย์สินของตระกูลถังเลยแม้แต่น้อย เธอแค่อยากได้รับการยอมรับและเคารพจากครอบครัว แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นค่า เธอแค่ต้องการตระกูลถังทั้งหมด!เอสทีกรุ๊ป วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานหลังวันหยุดยาวไม่มีใครคาดคิดว่าฟู่สือถิงในฐานะว่าที่เจ้าบ่าวจะมาถึงบริษัทแต่เช้าตรู่ยังไงก็ตาม หลังจากที่เขามาถึงบริษัท เขาก็อยู่แต่ในออฟฟิศและไม่ออกมาเลย รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการเงินเป็นผู้แจกอั่งเปาสำหรับการเริ่มต้นทำงานแน่นอนว่าพนักงานย่อมไม่พลาดโอกาสซุบซิบเรื่องที่ใกล้เป็นความจริงในครั้งนี้“รองประธาน เจ้านายของเราอยากแต่งงานกับถังเชี่ยนจริง ๆ หรือ? ทำไมเจ้านายถึงคิดไม่ตกแบบนี้ได้?” รองประธานรู้สึกลำบากใจมาก “ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ คุณไม่ถามหัวหน้าฝ่ายการเงินดูล่ะ?” เซิ่งเป่ยสีหน้าขบขัน “เรื่องของเจ้านาย ผมจะรู้ได้ไง? ผมเองก็เพิ่งรู้หลังจากมีข่าวออกมา ถ้าพวกคุณอยากรู้มากขนาดนี้ ก็ไปถามเขาที่ออฟฟิศด้วยตัวเองสิ!” พนักงานโบกมือซ้ำ ๆ เป็นสัญญาณว่าไม่กล้า “หัวหน้าการเงิน คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้านายดีขนาดนั้น ทำไมไม่ดึงเขาไว้หน่อย?” เซิ่งเป่ย “ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นห
เวลาสองทุ่มในประเทศเอมีข้อความหนึ่งบนเวยป๋อที่ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วอินเทอร์เน็ตข้อความนี้ถูกโพสต์จากบัญชีส่วนตัวของถังเฉียวเซิน โดยมีเนื้อหาว่า : ฟู่สือถิงป่วยทางจิตเพียงแค่ถ้อยคำนี้ แต่ก็น่าตกใจอย่างมากแม้ว่าบัญชีที่โพสต์ข้อความนี้จะเป็นบัญชีส่วนตัวของถังเฉียวเซิน แต่ชาวเน็ตก็ค้นพบอย่างรวดเร็วจากข้อมูลที่เปิดเผยในบัญชีว่านี่คือเวยป๋อของถังเฉียวเซินงานแต่งงานของฟู่สือถิงและถังเชี่ยนน้องสาวของถังเฉียวเซินใกล้จะมาถึง แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ถังเฉียวเซินกลับโพสต์เรื่องราวที่น่าตกใจบนเวยป๋อ ทำให้เกิดคำถามว่างานแต่งงานนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่?หลังจากโพสต์บนเวยป๋อของถังเฉียวเซินถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง เพื่อนของเขาก็โทรมาบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ถังเฉียวเซินพูดอย่างโมโหว่า “ฉันไม่ได้เข้าเวยป๋อมาเป็นร้อยปีแล้ว ฉันไม่ได้โพสต์อะไรเลย!”หลังจากพูดจบ เขาก็เข้าสู่บัญชีเวยป๋อที่ไม่ได้ใช้งานมานานและเห็นโพสต์ใหม่ที่น่าตกใจนี้ ถังเฉียวเซินจ้องมองข้อความเหล่านี้ เลือดในกายเขากำลังเดือดและความคิดของเขาก็สับสน ใครกัน?ใครกันที่เข้าใช้งานเวยป๋อของเขา และเปิดเผยความลับนี้?ทันทีที่ถังเฉียวเ
“เจ้านาย ผมโทรหาไมค์เมื่อครู่ ไมค์บอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนแฮ็กบัญชีของถังเฉียวเซิน" โจวจื่ออี้ดันแว่นบนสันจมูกขึ้น “ไมค์บอกว่าเสี่ยวหานเป็นคนทำ”ฟู่สือถิงถือโทรศัพท์มือถือไว้ จากนั้นก็วางสายไปเสี่ยวหานทำ งั้นก็ไม่น่าแปลกใจแล้ว!กล่องถูกรุ่ยลาหยิบไป เสี่ยวหานรู้เรื่องนี้มาตลอดดังนั้นเสี่ยวหานน่าจะเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องแล้วเขานึกถึงตอนที่เขาเกือบจะบีบคอเสี่ยวหานจนตาย เพราะเสี่ยวหานบอกว่าเขาป่วยตอนนั้นเขาไม่ได้ตระหนักว่าทำไมเสี่ยวหานถึงพูดแบบนั้น ตอนนี้คิดย้อนกลับไป เขารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่า!เสี่ยวหานรู้ความลับของเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยลงมือทำอะไรเสี่ยวหาน เสี่ยวหานก็จะไม่ยอมรับเขาเป็นพ่อ!เสี่ยวหานดูถูกเขา! ไม่งั้นคงไม่จงใจแฮ็กบัญชีของถังเฉียวเซิน แล้วเปิดเผยความลับของเขาต่อสาธารณชนอย่างไม่ใส่ใจ“เจ้านาย เสี่ยวหานแค่เล่นแผลง ๆ เอง” โจวจื่ออี้รู้แค่ว่าเสี่ยวหานเป็นคนทำ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวหานถึงพูดแบบนั้น“เขาไม่ได้เล่นแผลง ๆ” ฟู่สือถิงพูดอย่างมั่นใจ “เขาจงใจ”“แม้ว่าเขาจะจงใจ คุณก็อย่าถือสาเขาเลย เขายังเด็กอยู่ และที่เขาทำแบบนี้ น่าจะอยากแก้แค้นแทนแม่ของเขา” โจวจื่ออี้
หลังจากฉินอันอันครุ่นคิดอยู่สองสามวินาที เธอตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจ”หลีเสี่ยวเถียนรับรู้ได้ถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอที่มีต่อฟู่สือถิงจากน้ำเสียงของเธอก็จริง ไม่ว่าฟู่สือถิงจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ ฉินอันอันก็ไม่ควรเห็นใจเขาข้ามคืนไป ข่าวลือเกี่ยวกับฟู่สือถิงบนอินเทอร์เน็ตก็หายไปอย่างสิ้นเชิงถึงแม้จะพูดบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้ แต่ทุกคนก็ยังคงพูดคุยกันเรื่องนี้ในวงส่วนตัว“ฉันก็คิดว่าบอสของเราไม่ปกติ” พนักงานคนหนึ่งของเอสทีกรุ๊ปพูดขึ้น “ฉันยังคิดว่าเขาไม่ใช่คนในโลกด้วยซ้ำ เขาอาจจะมาจากต่างดาว ไม่งั้นเขาจะอายุน้อยขนาดนี้แล้วยังเก่งขนาดนี้ได้ยังไง?”คนอื่น ๆ หัวเราะกันลั่น“ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าบอสของเรา ถึงจะมีปัญหาทางจิต ก็ไม่ใช่ประเภทที่ถือมีดไล่ฟันคนหรอก ฉันอยู่บริษัทมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยได้ยินข่าวเสียหายเกี่ยวกับเขาเลย บริษัทเราขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกปีในอัตราที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม บอสดีขนาดนี้ หาข้อตำหนิไม่ได้เลย!”“ใช่! ฉันคิดว่าถังเฉียวเซินตั้งใจใส่ร้ายบอสเราแน่ ๆ! ข้ออ้างที่ว่าบัญชีถูกแฮ็กมันแย่มาก!”......เซิ่งเป่ยเดินผ่านห้องพัก ได้ยินทุกคนกำลังพูดคุยกัน จึงร
ฉินอันอันที่นอนหลับเต็มอิ่มรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แต่เพราะสายเรียกเข้านี้ทำให้ใจของเธอร้อนรนอีกครั้งหลังจากวางสายแล้ว เธอก็ได้รับที่อยู่ของมหาวิทยาลัยชิงซานที่รองประธานส่งมาต่อจากนี้เธอต้องจองตั๋วเครื่องบินแล้วรีบไปให้ทันขณะที่เธอกำลังเปิดแอปจองตั๋วเครื่องบินอยู่ จู่ ๆ หน้าจอโทรศัพท์ก็เด้งขึ้นมาเป็นโปรแกรมนาฬิกาปลุก ทำให้เธอเกือบจะปาโทรศัพท์ทิ้งเธอเอามือปิดหน้าอก หายใจเข้าลึก ๆทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย?แค่การฝึกอบรมครั้งเดียว ถึงจะไปสายหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรสมัยเรียนเธอก็ไปสายตั้งบ่อย นี่เธอไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้วนี่นาแถมนี่ก็ไม่ใช่การฝึกอบรมที่เธอสมัครเอง แค่ตอบตกลงว่าจะไปก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ทำไมต้องทำให้ตัวเองเครียดขนาดนี้ด้วย?คิดได้ดังนั้น เธอก็ล้มตัวนอนลงบนเตียง ตั้งใจจะนอนต่อสักหน่อยเธอเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาหลีเสี่ยวเถียน : เสี่ยวเถียน ฉันต้องออกไปธุระไกล ๆ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงจะกลับ สองวันนี้หลังจากที่ไปพบจิตแพทย์แล้ว อย่าลืมมาบอกฉันด้วยนะตอนนี้ยังเช้ามาก เธอคิดว่าหลีเสี่ยวเถียนคงยังนอนอยู่ ดังนั้นหลังจากส่งข้อความเสร็จแล้ว เธอก็วางโทรศัพท์ลง
“อันอัน คุณคงเหนื่อยมากเลย!” ป้าจางพูดกับเธอ “ฉันมาบอกคุณว่า ของขวัญที่เสี่ยวหานและรุ่ยลาได้รับวันนี้ ฉันเอาไปเก็บไว้ที่โกดังชั้นหนึ่งแล้วนะคะ”“ค่ะ พรุ่งนี้ฉันค่อยไปจัดการ” ฉินอันอันลูบศีรษะทุยของจื่อชิวเบา ๆ “ลูกรัก วันนี้สนุกไหมจ๊ะ? พอครบหนึ่งขวบเมื่อไหร่ แม่จะจัดงานวันเกิดให้ลูกนะ”ป้าจางพูดด้วยรอยยิ้ม “เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ แป๊บเดียวจื่อชิวก็ครึ่งขวบแล้ว!”“ค่ะ”“อันอัน รีบกลับห้องไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะค่ะ! พรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงานแล้ว!” ป้าจางเตือนฉินอันอันพยักหน้าแล้วเดินไปที่ห้อง เธอตั้งใจจะอาบน้ำก่อนนอน แต่พอเข้าไปในห้อง เตียงนอนขนาดใหญ่ดูเหมือนจะมีเวทมนตร์ดึงดูดเธอเธอมองไปที่เตียงแล้วล้มตัวนอนลง ตั้งใจจะพักสักหน่อย พอมีแรงแล้วค่อยลุกไปอาบน้ำ แต่หลังจากนอนลงไม่นาน เธอก็นอนหลับสนิทปกติแล้วเธอมีนิสัยชอบฝันร้าย ไม่ว่าจะพยายามปรับยังไงก็ปรับไม่ได้ ภาพที่เธอฝันถึงบ่อยที่สุดก็มีอยู่ไม่กี่อย่างอย่างแรกคือตอนที่พ่อเสียชีวิต พ่อจับมือเธออยู่ในห้อง ขอโทษเธอและขอให้เธอให้อภัย ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร พ่อก็สิ้นใจไปเสียก่อน กลายเป็นความเสียใจตลอดชีวิตของเธออย่างที่สองคือแม่ประสบอุบั
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา อวิ๋นซื่อเจี๋ยไม่เคยกลัวอะไรเลยแต่ตอนนี้ เมื่อเขาเห็นใบหน้าเย็นชาและดุร้ายของฟู่สือถิง เขากลับรู้สึกกลัวเป็นครั้งแรก!รู้สึกว่าถ้าเขาทำให้ฟู่สือถิงโกรธมากขึ้นไปอีก เขาคงถูกทุบตีจนตายอยู่ที่นี่แน่ ๆคำพูดที่กำลังจะหลุดออกมาจากปากถูกกลืนลงไปอย่างยากลำบากเขาทำพลาดไป! ประเมินอารมณ์ของฟู่สือถิงผิดถนัด! เขาไม่ควรมาที่นี่อย่างประมาทเช่นนี้ตอนนี้เขาอยากแค่หนีรอดออกไปให้ได้“ป้าหง! กระดูกซี่โครงผมหัก! รีบโทรเรียกรถพยาบาลให้ผมหน่อย!” เขาไม่กล้าพูดกับฟู่สือถิง จึงตะโกนเรียกป้าหงเสียงดังป้าหงเห็นเขาเลือดอาบ นอนอยู่บนพื้นและกระตุกเกร็งอย่างควบคุมไม่ได้ ด้วยความตกใจ เธอรีบคว้าโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน“ป้าหง อย่าใจอ่อนกับพวกกากเดนประเภทนี้!” ฟู่สือถิงตะโกนห้ามป้าหงได้สติกลับคืนมาทันที “คุณผู้ชาย สั่งให้บอดี้การ์ดจับเขาโยนออกไปเถอะค่ะ! ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้เขาก้าวเข้ามาในบ้านอีกเด็ดขาด!”ฟู่สือถิงส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ด บอดี้การ์ดจึงคว้าแขนอวิ๋นซื่อเจี๋ยแล้วลากเขาออกไปฟู่สือถิงมองดูสภาพที่ยับเยินของอวิ๋นซื่อเจี๋ย สั่งบอดี้การ์ดเสียงเย็นเยียบว่า “เอาตัวไปทิ้งให้ไ
เพื่อนร่วมงานได้รับข้อความแล้วตอบกลับทันทีว่า “ทราบแล้วเปลี่ยน! ลงมือเลย!”ประมาณห้านาทีต่อมา เสียงต่อยตีและเสียงร้องโหยหวนของผู้ชายดังมาจากนอกบ้าน!ป้าหงได้ยินเสียงดังนั้นจึงรีบวิ่งออกมาดูเห็นบอดี้การ์ดสองคนกำลังทำร้ายร่างกายผู้ชายคนหนึ่ง จึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? คนคนนี้เป็นใคร?”“ป้าหง คนคนนี้แหละคือนักถ้ำมองเมื่อคืน! เขาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่แถวกำแพง ถึงแม้เขาไม่ได้คิดจะทำเรื่องไม่ดี แต่ก็ต้องจัดการเขาซะ!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งหยุดมือ แล้วอธิบายให้ป้าหงฟัง “ไม่งั้นเขาจะมาทุกวัน เจ้านายต้องไม่พอใจแน่ ๆ”“อ้อ…” ป้าหงมองดูชายวัยกลางคนคนนั้นที่กำลังนอนอยู่บนพื้นอย่างระมัดระวัง“ป้าหง จำผมได้ไหม?” ชายวัยกลางคนคนนั้นเงยหน้าขึ้น สะบัดผมที่หน้าผากออก ดวงตาที่เฉียบคมและแดงก่ำจ้องมองป้าหงอย่างตรงไปตรงมาบอดี้การ์ดได้ยินชายวัยกลางคนคนนั้นพูดกับป้าหง จึงหยุดทำร้ายเขาทันทีคนคนนี้รู้จักกับป้าหงงั้นเหรอ? ถ้ารู้จักป้าหงทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก?“คุณคือ…” แสงสลัวทำให้ป้าหงมองใบหน้าของเขาไม่ชัด จึงจำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย“คุณอาจจะจำผมไม่ได้ ผมเคยทำงานที่บ้านเดิมกับคุณ” อวิ๋นซื่อเจี๋ยยิ้มแล้วลุกขึ้นจ
ฟู่สือถิงจ้องมองภาพถ่ายของชายวัยกลางคนอีกครั้ง แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เข้าใจเขาไม่เคยเห็นคนคนนี้มาก่อนอาจเป็นไปได้ว่าชายคนนี้มีปัญหาทางจิต จึงมาปรากฏตัวอยู่ใกล้บ้านเขาเมื่อคืนแล้วฉีกยิ้มใส่ฟู่สือถิงขยำกระดาษทิ้งลงถังขยะ เดินเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วแล้วปิดประตูในครัว ป้าหงเห็นฟู่สือถิงขึ้นไปชั้นบนแล้ว จึงรีบโทรหาป้าจาง“ได้ยินว่าคุณผู้ชายกับจิ้นซือเหนียนทะเลาะกัน” ป้าจางกล่าว “แต่ไม่ใช่เขาที่เริ่มก่อน ทะเลาะกันเสร็จแล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป”ป้าหง “อ๋อ มิน่าล่ะถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้”“คุณผู้ชายอารมณ์เป็นยังไงบ้าง?” ป้าจางถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ค่อยดี แต่ก็ยังพอถูไถ” ป้าหงถามต่อ “วันนี้เขาอยู่กับลูก ๆ แล้วเป็นยังไงบ้าง?”ป้าจางหัวเราะทางโทรศัพท์ “วันนี้เขาไม่ได้อยู่คลุกคลีกับเด็ก ๆ หรอก เขาคอยต้อนรับแขกในงานทั้งวัน อันอันเป็นคนกำชับให้เขาคอยอยู่กับแขก”ป้าหงหน้าแดง “ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะดูใกล้ชิดกันมากขึ้นนะ”“ใช่! ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว หวังว่าต่อไปจะไม่ทะเลาะกันอีก” ป้าจางพูดด้วยความเป็นห่วง “ไม่งั้นลูก ๆ ทั้งสามคนคงน่าสงสารมาก”“อืม ฉั
ฉินอันอันรู้ดีว่าฟู่สือถิงและจิ้นซือเหนียนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเมื่อเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน เธอจึงรู้สึกแปลก ๆ“ไม่ได้คุยอะไรกันหรอก” ฟู่สือถิงมองจิ้นซือเหนียนอย่างเย็นชา ตอบฉินอันอัน “จิ้นซือเหนียนแค่เป็นห่วงความสุขของคุณ เลยเตือนผมให้ออกกำลังกายมากขึ้นหน่อย”“พวกคุณนี่ลามกกันจริง ๆ!” ฉินอันอันหน้าแดง เดินหนีไปด้วยความโกรธจิ้นซือเหนียนเห็นฉินอันอันโกรธ ความสงบสุขบนใบหน้าของเขาก็หายไป “ฟู่สือถิง คุณนี่มันไร้ยางอายจริงๆ!”ฟู่สือถิงพูดอย่างไม่รีบร้อน “ผมว่าคุณนั่นแหละที่ไร้ยางอาย ผู้ชายจะไหวหรือไม่ไหว ไม่ได้อยู่ที่ปาก ไม่ต้องทำมาเป็นห่วงหรอกว่าผมจะไหวหรือไม่ไหว รีบไปหาผู้หญิงสักคนมาพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้ด้อยเรื่องนี้ให้ได้ก่อนเถอะ”จิ้นซือเหนียนโกรธจนเดินหนีไปดื้อ ๆ!“คุณตายแน่” ไมค์พูดกับฟู่สือถิง “เดี๋ยวถ้ารุ่ยลารู้ว่าคุณทำให้จิ้นซือเหนียนโกรธ เธอก็จะพาลมาโกรธคุณอีก!”ฟู่สือถิงปวดหัวทันทีเขาไม่สามารถตามจิ้นซือเหนียนกลับมาได้แต่เขาก็ไม่อยากทำให้รุ่ยลาโกรธ“ผมมีวิธีหนึ่ง” ไมค์คิดแผนขึ้นมาทันที “คุณกลับไปก่อน แบบนี้รุ่ยลาก็จะไม่โกรธคุณ”ฟู่สือถิงขมวดคิ้วเข
“คุยอะไร ตอนนี้ไม่สะดวกคุยเหรอ?” เธอโพล่งถามออกไป ทั้งที่ในใจรู้ดีอยู่แล้วความเข้าใจผิดระหว่างเธอกับเขานั้นได้คลี่คลายไปแล้ว สิ่งที่เขาต้องการคุยก็คือการขอโอกาสอีกครั้งจากเธอครั้งก่อนเธอปฏิเสธเขาไปอย่างสุภาพ ตอนนี้เธอก็ยังไม่สามารถตอบตกลงได้ไม่ใช่ว่าเธอเกลียดเขา แต่เธอรู้สึกว่าตัวเองยังไม่หนักแน่นพออีกทั้งตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ดีอยู่แล้ว ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ได้สนิทสนมหรือห่างเหินเกินไป แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?“คุยตอนนี้คงไม่ได้ผลหรอก” เพียงแค่ดูสีหน้าของเธอก็เดาได้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่“คุณคิดว่าพอกลับมาจากต่างเมือง พอคุยกันแล้วจะได้ผลเหรอ?” ฉินอันอันถามอย่างไม่เข้าใจ “คุณจะไปนานแค่ไหน?”“หนึ่งอาทิตย์”“อ๋อ งั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยว่ากันใหม่!” เธอก้มหน้าลง มองไปที่มือของเขาที่กำลังจับแขนเธออยู่ “คุณเพิ่งเล่นไพ่เสร็จ ยังไม่รีบไปล้างมืออีก?”เธอรู้สึกว่ามือเขาสกปรกเขาอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะดึงเธอไปที่ห้องน้ำ “งั้นเราไปล้างมือด้วยกัน!”ทั้งสองคนเดินผ่านห้องจัดเลี้ยงไปท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย“คุณสังเกตไหมว่าวันนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองค
เสี่ยวตง “พ่อเธอยังไม่มาอีกเหรอ?”รุ่ยลา “มาแล้ว! ตอนนี้ก็ยังอยู่ในห้องจัดเลี้ยง!”เสี่ยวตงขมวดคิ้ว มองไปรอบ ๆ“พ่อเธอคนไหนล่ะ? ทำไมเขาไม่เห็นมาเล่นกับพวกเธอเลย? เขาขี้เกียจทำงานใช่ไหม? เลยทำให้แม่เธอไม่ยอมคบกับเขา และทำให้พวกเธอไม่ชอบเขาด้วยใช่ไหม?” เสี่ยวตงคิดไปเรื่อยเปื่อยรุ่ยลาตกใจ แต่เธอก็ไม่ยอมบอกความจริงกับเสี่ยวตง “พ่อฉันเปล่าขี้เกียจทำงานซะหน่อย! ฉันไม่บอกหรอกว่าพ่อเป็นใคร พี่บอกว่าพี่เก่งกว่าพี่ชาย งั้นพี่ก็ไปหาเองสิ!”ไมค์หัวเราะ “เสี่ยวตง ทำไมเธอดูอยากรู้จังเลยล่ะว่าพ่อของเสี่ยวหานกับรุ่ยลาเป็นใคร?”เสี่ยวตง “ผมก็แค่อยากรู้! แม่ผมบอกว่าพ่อของเสี่ยวหานก็คือฟู่สือถิง แต่พ่อผมบอกว่าไม่ใช่ พวกเขาทะเลาะกันเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว”ไมค์หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง “งั้นเธอเชื่อแม่หรือว่าเชื่อพ่อล่ะ?”“ผมเชื่อพ่อ เพราะพ่อผมดีกับผมมากกว่า” เสี่ยวตงพูดอย่างมั่นใจ “ถ้าพ่อของเสี่ยวหานเป็นฟู่สือถิงจริง ๆ เสี่ยวหานคงไม่เมินพ่อของเขาแบบนั้นแน่! ฟู่สือถิงน่ะเก่งมากเลย! เขาเป็นไอดอลของผม!”เสี่ยวหานได้ยินที่เสี่ยวตงพูดก็ไม่สนใจที่จะโต้เถียง เดินออกไปเงียบ ๆไม่นาน เสียงเปียโนอันไพเราะ
เสียงหัวเราะดังขึ้นจากกลุ่มคนรอบข้าง “ผู้ช่วยของคุณฟู่ไปเอาเงินสดมาแล้วล่ะครับ ดูเหมือนวันนี้คุณฟู่จะตั้งใจจะทุ่มสุดตัวเลยนะ!” ทุกคนหัวเราะคิกคักใบหน้าของฉินอันอันขึ้นสีเล็กน้อย ไม่คิดว่าฟู่สือถิงจะพยายามขนาดนี้เพื่อสร้างความบันเทิงกับแขก“พวกคุณอย่าเล่นกันจริงจังเกินไปนะคะ” เธอเตือน“อันอัน เพิ่งเริ่มเองนะ คุณก็เริ่มห่วงกระเป๋าเงินของคุณฟู่แล้วเหรอ?” เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้งฟู่สือถิงมองเธอด้วยแววตาสนใจ แล้วถามว่า “หรือว่าคุณจะมานั่งข้าง ๆ คอยเป็นที่ปรึกษาให้ผมดีล่ะ?”ฉินอันอันหลบสายตาที่ลึกซึ้งของเขา แล้วพูดกับคนอื่น ๆ ว่า “พวกคุณเล่นกันเต็มที่เลยค่ะ ไม่ต้องไว้หน้าเขาหรอก”พูดจบเธอก็อุ้มลูกเดินออกไปเฮ่อจุ่นจือถือจานอาหารเดินมาจากโซนบุฟเฟ่ต์“อันอัน อย่าห่วงพี่สือถิงเลย เขาไม่ล้มละลายหรอก”ฉินอันอันแก้ตัวเสียงแข็ง “ฉันไม่ได้ห่วงเขา”“แล้วทำไมเมื่อกี้พวกเขาถึงหัวเราะกันเสียงดังขนาดนั้นล่ะ?” เฮ่อจุ่นจือพูดแทงใจดำเธออย่างไม่ไว้หน้า “เมื่อกี้หลีเสี่ยวเถียนพูดอะไรกับคุณตอนอยู่ข้างนอกบ้างเหรอ? หรือว่าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนของพวกเรา?”เฮ่อจุ่นจือรู้สึกอายเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่อง