ฉินอันอันตามหาเขาทำไม? เมื่อพิจารณาจากท่าทางเย็นชาของเธอ ดูยังไงก็ไม่เหมือนว่าเธอเรียกเขามาหาความสำราญเลย! “เสี่ยวหลิน” ฉินอันอันผลักเงินสดก้อนหนึ่งและขวดยาไว้ตรงหน้าเขา “ถ้านายตอบคำถามของฉันแต่โดยดีและบอกฉันทุกเรื่องที่นายรู้ เงินจะเป็นของนาย แต่ถ้านายไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมพูดอะไรสักอย่าง ยาขวดนี้จะทำให้นายพูดไม่ได้อีกตลอดชีวิต” เสี่ยวหลินหน้าซีดด้วยความตกใจ ชี้ไปที่ขวดยาสีดำแล้วพูดตะกุกตะกัก “นี่… นี่ยาอะไรเหรอครับ?” “ยาพิษ ดื่มแล้วนายจะตายทันที สิ่งสำคัญคือแพทย์นิติเวชก็ไม่สามารถตรวจพบสารพิษนี้ได้ เมื่อถึงเวลาเขาก็จะบอกว่าคุณเสียชีวิตด้วยจากอาการหัวใจหยุดเต้น เนื่องจากตื่นเต้นมากเกินไป ไม่มีใครสงสัยอะไรแน่” น้ำเสียงของฉินอันอันนิ่งสงบ เสี่ยวหลินหน้าซีดด้วยความตกใจและคุกเข่าลง “คุณฉิน ถ้าคุณอยากรู้อะไรก็ถามมาได้เลยครับ… แต่ผมเป็นแค่พนักงานต่ำต้อย ผมไม่รู้เรื่องราววงในมากนัก!” เมื่อเห็นว่าเขาเปิดใจ ฉินอันอันก็ถามทันทีว่า “วันที่ฉันถูกหลอกให้ไปที่โรงแรม ใครสั่งให้นายมารับฉัน? ใครย้ายฉันจากห้องรับรองส่วนตัวไปที่ห้องหกศูนย์เก้า? แล้วผู้หญิงในวิดีโอ นายเคยเห็นรึเปล่า?!” เส
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การมาของฉินอันอันทำให้ทุกคนประหลาดใจ ทุกคนแทบจะกลั้นหายใจมองเธอ ถึงไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม แต่ก็พอเดาได้จากสีหน้าของเธอว่าเธอมีเจตนาไม่ดี ฉินอันอันเหลือบมองทุกคนแล้วถามว่า “นั่วนั่วยังไม่มาเหรอคะ?” “ปกติเธอจะมาตรงเวลาครับ” พนักงานคนหนึ่งมองนาฬิกาเวลาแล้วพูดว่า “เธอน่าจะมาถึงเร็ว ๆ นี้” พูดถึงก็มาเลย นั่วนั่วกำลังเดินไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ถือกระเป๋าหลุยส์และสวมรองเท้าส้นสูง เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันที่ประตู เธอก็เดินเข้าไป ทันทีที่เธอเห็นฉินอันอัน สีหน้าเธอก็ซีดลง อาจเป็นเพราะถังเชี่ยนยังไม่มาทำงาน ความรู้สึกวิกฤตก็เกิดขึ้นในใจของเธอ ถ้าฉินอันอันมีปัญหากับเธอจะทำยังไง? เธอโดดเดี่ยวและอ่อนแอ ไม่คู่ควรกับฉินอันอัน! “คุณฉิน นั่วนั่วมาแล้วค่ะ!” มีคนเตือนฉินอันอัน ฉินอันอันหันหลังไปมอง หลังจากที่ได้เห็นนั่วนั่ว จู่ ๆ สีหน้ารังเกียจและความเยือกเย็นปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ “ฉินอันอัน คุณมาหาฉันเหรอ?” นั่วนั่วฝืนยิ้มและถามเชิงรุกว่า “คุณมาที่นี่แต่เช้า มีอะไรสำคัญเหรอ?” “ก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกค่ะ” ฉินอันอันพูดนิ่ง ๆ “ฉันชินกับการตื่นเช้า ดั
เธอไม่กล้าโต้กลับ ‘ฉินอันอันบ้าไปแล้ว!’ เธอกลัว! “คุณประเมินฉันต่ำเกินไป” ฉินอันอันบีบใบหน้าที่เจ็บปวดแต่กลับไม่เต็มใจของเธอแล้วพูดเน้นทีละคำ “ฉันไม่เคยพึ่งพาผู้ชายในการใช้ชีวิต! ต่อให้ฟ้าจะถล่มฉันก็จะคลอดลูกของฉันได้อย่างราบรื่น แผนชั่วของคุณ ได้ผลครั้ง สองครั้ง คุณคิดว่ามันจะสำเร็จเป็นครั้งที่สามอีกเหรอ?” ...... ตอนที่โจวจื่ออี้รีบวิ่งเข้ามา นั่วนั่วก็โดนตบจนจมูกและใบหน้าของเธอบวมช้ำ เมื่อเธอเห็นโจวจื่ออี้ เธอก็ร้องเสียงดังทันที “ผู้ช่วยโจว! ช่วยด้วยค่ะ! ฉินอันอันบ้าไปแล้ว! เธอตบหน้าฉัน! ฉันจะโดนเธอตบจนตายแล้ว! ฮือ ๆ ๆ!” โจวจื่ออี้เดินเข้าไปหาเธอทันที และผลักบอดี้การ์ดของฉินอันอันออก “ฉินอันอัน คุณกำลังทำอะไรอยู่? ที่นี่คือบริษัท คุณไม่ควรมาสร้างปัญหา” โจวจื่ออี้เข้าข้างนั่วนั่วและพูดอย่างจริงจัง ฉินอันอันสีหน้าเย็นชา “ฉันจะสั่งสอนเธอที่ไหนก็เรื่องของฉัน ถ้าคุณไม่พอใจ ก็ไปบอกเจ้านายของคุณให้มาคุยกับฉันได้เลย” โจวจื่ออี้พูดไม่ออก ตามเจ้านายมาคุยกับเธอ แล้วจะคุยอะไรกันได้? สุดท้ายก็ต้องตามใจเธออยู่ดี “ผู้ช่วยโจว รบกวนโทรหาญาติของฉันด่วน… ถ้าญาติของฉันรู้ว่าฉันถูกร
ฉินอันอันเดินออกจากลิฟต์ เธอไม่ได้ตั้งใจจะมีปัญหากับพวกเขามากนัก จุดประสงค์ที่เธอมาในวันนี้คือเพื่อสั่งสอนนั่วนั่ว ตอนนี้ได้ระบายแล้ว เธอก็รู้สึกดีขึ้นมาก ขณะที่เธอเดินผ่านฟู่สือถิง ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็คว้าแขนของเธอไว้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า “ทำอะไร?” เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา เขาจับมือเธอแล้วพาเธอออกไปนอกบริษัท ถังเชี่ยนต้องการตามไปด้วย แต่โจวจื่ออี้ห้ามไว้ “ผู้จัดการถังไปหาลูกพี่ลูกน้องของคุณเถอะ! เธอร้องไห้ไม่หยุดเลย” ถังเชี่ยนกัดฟัน “ตอนนี้เธออยู่ไหน?” “ผมเห็นจมูกของเธอเบี้ยวนิดหน่อย ผมจึงขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาเธอไปโรงพยาบาล” โจวจื่ออี้พูด “คุณไปหาเธอที่โรงพยาบาลเถอะ! เธออารมณ์เสียมาก ผมเกรงว่าเธอจะจิตตก” หลังจากที่โจวจื่ออี้พูดจบ ถังเชี่ยนก็ทำได้เพียงไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลเท่านั้น ฟู่สือถิงดึงฉินอันอันไปที่ลานจอดรถด้านหน้าบริษัท ในขณะนี้ลานจอดรถว่างเปล่า มีเพียงพวกเขาสองคน ในขณะที่ถังเชี่ยนขับรถออกไป ดวงตาที่ดูราวกับมีพิษของเธอจับจ้องไปในทิศทางที่ฉินอันอันยืนอยู่ ทำไมจู่ ๆ เธอถึงมาหาเรื่องนั่วนั่วได้ล่ะ? เธอรู้อะไรบางอย่างแล้วหรือเปล่า? หลังจากที
ความเข้าใจผิดของเธอต่อเขา เกรงว่าในชาตินี้คงไม่สามารถแก้ไขมันได้ “ฉินอันอัน วันนี้ลมแรงมาก คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ!” หลังจากที่ฟู่สือถิงพูดแบบนั้น เขาก็เดินไปจากเธอ เธอยืนแข็งตัวอยู่กับที่ เธอไม่คิดว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย ไม่เถียงอะไรสักคำ เธอประเมินความสามารถในการควบคุมตัวเองของเขาต่ำเกินไป เธอประเมินระดับความยับยั้งชั่งใจของเขาในตอนนี้ต่ำไป บอดี้การ์ดเดินเข้ามาหาเธอแล้วพูดว่า “ประธานครับ ให้ผมพาคุณกลับเถอะ! วันนี้ลมค่อนข้างแรง คุณจะไม่สบายเอาได้” ฉินอันอันไม่รู้สึกว่าลมแรง ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนมีไฟอยู่ในใจ และมันก็ลุกไหม้ด้วยความตื่นตระหนก ...... เมื่อฟู่สือถิงเข้ามาในสำนักงาน โจวจื่ออี้ก็เดินตามเขาเข้ามาทันทีและเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในฝ่ายประชาสัมพันธ์เมื่อเช้านี้ “ผมถามพนักงานในฝ่ายประชาสัมพันธ์ และพวกเขาบอกว่าไม่เพียงแต่ฉินอันอันคิดว่าผู้หญิงในวิดีโอคือ นั่วนั่วปลอมตัวเป็นเธอเท่านั้น แต่คนที่ควักตาของเสิ่นอวี๋ก็คือนั่วนั่วด้วยเหมือนกัน” เมื่อโจวจื่ออี้พูดด้วยความตกใจ เนื่องจากนั่วนั่วดูอ่อนโยนและประพฤติตนดี และน้ำเสียงการพูดของเธอก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป
ที่โรงพยาบาล หลังจากที่นั่วนั่วเห็นถังเชี่ยน น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด “พี่ถังเชี่ยน ฉินอันอันทำเกินไปแล้ว เธอกล้าตบฉันทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐาน! เธอไม่ได้กลัวพวกเราเลย!” ใบหน้าของนั่วนั่วถูกทายาจนทั่ว และตอนนี้เธอก็ดูตื่นตระหนกเป็นพิเศษ ถังเชี่ยนพูดอย่างใจเย็น “ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของสือถิง นั่นเป็นสาเหตุที่เธอกล้าทำอะไรกำเริบเสิบสานแบบนั้น” “เธอร้ายกาจกว่าที่พี่บอกไว้มาก! เธอทำจมูกฉันเบี้ยว” นั่วนั่วพูดอย่างทุกข์ทรมาน “ปฏิกิริยาของฟู่สือถิงเป็นยังไงบ้าง? แม้ว่าเขาจะไม่ช่วยฉัน ก็น่าจะตำหนิฉินอันอันเพราะเห็นแก่พี่ใช่รึเปล่า?” “เธอคิดอะไรอยู่?” ถังเชี่ยนรู้สึกขมขื่นในใจ “เขาบอกว่าเขาเกลียดเด็ก แต่เขารักเด็กที่ฉินอันอันจะคลอดให้เขามาก ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเขาก็ทนได้หมด ไม่มีขีดจำกัดเลย” “แล้วที่ฉันโดนตบนี่ก็เปล่าประโยชน์ทั้งหมดเลยเหรอ?” นั่วนั่วหยุดร้องไห้และถามด้วยความไม่เชื่อ “ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานโดยเปล่าประโยชน์แน่! อย่าไปมองว่าหล่อนตบเธอ จริง ๆ แล้วหล่อนกำลังเตือนฉันอยู่ต่างหาก!” ถังเชี่ยนจำสิ่งที่ฉินอันอันพูดได้และโกรธจนตัวชา ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของถ
เธอมีนัดตอนเที่ยง เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับและคิดเรื่องนี้ทั้งคืน ถังเชี่ยนและนั่วนั่วร่วมมือกันเล่นงานเธอ ถ้าเธอไม่สู้กลับ พวกนั้นจะคิดว่าเธอรังแกได้ง่าย ๆ และพวกเธออาจทำสิ่งเลวร้ายมากกว่านี้ในอนาคต เธอไม่ต้องการเป็นฝ่ายถูกกระทำแบบนี้อีกต่อไป เรื่องวิดีโอนี้ เธอไม่เจอหลักฐานที่ชัดเจนที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้ในตอนนี้ แต่เธอสามารถสู้กลับด้วยวิธีอื่นได้! เธอไปร้านอาหารใกล้กับบริษัทของฟู่เย่เฉิน คนที่เธอนัดมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟู่เย่เฉิน ครั้งหนึ่งเธอเคยชื่นชมชายผู้นี้มากและรู้สึกว่าเขาสมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน สามารถเติมเต็มจินตนาการทั้งหมดของเธอราวกับเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาว แต่เมื่อภายนอกที่สวยงามนั้นถูกลอกออก ก็ตกใจเมื่อได้รู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้ดีไปผู้ชายทั่วไปเลยด้วยซ้ำ ภายใต้หน้าตาที่หล่อเหลาของเขา เต็มไปด้วยความขี้ขลาดตาขาว ความอ่อนแอ ความเห็นแก่ตัว และความโลภที่เข้าปกคลุมจิตใจของเขาทั้งหมด ขณะที่เธอดื่มน้ำ ฟู่เย่เฉินก็เปิดประตูร้านอาหารเข้ามา “อันอัน ทำไมคุณอยากเจอผมล่ะ?” ฟู่เย่เฉินมองที่ท้องของเธอก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเธอ “คุณใกล้คลอดแล้วสินะ?” “คุณคงไม่ชอบเด็กใช่ไ
“ฉันมาที่นี่เพื่อเสนอเงินให้คุณ” ฉินอันอันกล่าวต่อ “ฉันต้องการให้คุณทำอะไรบางอย่างให้ฉัน ตราบใดที่คุณทำ ฉันจะตกรางวัลให้คุณ และคุณจะเป็นคนกำหนดจำนวนด้วย” ฟู่เย่เฉินไม่คาดคิดว่าเขาจะมีประโยชน์กับเธอ “เงินเป็นเรื่องเล็ก จริง ๆ แล้วผมไม่มีส่วนเกี่ยวอะไรกับนั่วนั่วเลย ตอนนั้นผมคิดว่าเธอเป็นคุณ ก็เลยคุยกับเธอ...” แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะช่วยเธอหรือไม่ แต่น้ำเสียงของเขาก็ชัดเจนแล้ว “ปีที่แล้วบริษัทของคุณทำเงินได้เท่าไหร่?” ฉินอันอันถามอย่างสบาย ๆ ฟู่เย่เฉินเกาหัวด้วยความเขินอาย “สองสามล้าน! ผมรู้ว่าผมไม่มีความสามารถ เงินที่ผมทำได้ในหนึ่งปีนั้นไม่เทียบเท่าที่อาของผมหาได้ในหนึ่งวันหรอก” “ฟู่เย่เฉิน ฉันจะให้คุณสิบล้าน” ฉินอันอันพูดแทรก “ถ้าคุณยอมรับราคานี้ได้ เราก็คุยกันต่อได้” “อันอัน ด้วยมิตรภาพของเรา ถึงคุณจะไม่ให้เงินผม ผมก็จะช่วยคุณอยู่ดี!” ฟู่เย่เฉินดันแว่นตาบนสันจมูกของเขาเพื่อซ่อนความดีใจไว้ภายในใจ สิบล้าน ไม่รับไว้ก็น่าเสียดาย “ฉันไม่เคยลืมตอนที่คุณช่วยเสิ่นอวี๋ใส่ร้ายฉัน” ฉินอันอันเตือนเขาว่า “คราวนี้ถ้าคุณกล้าทรยศฉันละก็...” “อันอัน ผมก็ลำบากใจมากนะ! ตอนน