“ถ้าพวกลูกไม่ต้อนรับเขามาที่บ้านก็ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่จะโทรหาเขา ไม่ให้เขามาแล้วก็ได้จ้ะ” ฉินอันอันแก้คำพูดอย่างรวดเร็วเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของพวกเด็ก ๆ แล้วดูเหมือนจะไม่ต้อนรับให้เขามา “เขาอยากมาทำงานบ้านที่บ้านของเราเหรอคะ?” ทันใดนั้นรุ่ยลาก็รู้สึกตัวแล้วร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า”งั้นให้เขามาเลยค่ะ! ให้เขาทำงานบ้านเยอะ ๆ จนเหนื่อยตายไปเลย!” ฉินอันอันรู้ว่าลูกสาวปากไม่ตรงกับใจ ครั้งก่อนที่ฟู่สือถิงเป็นลมล้มลงตรงหน้าบ้าน รุ่ยลาร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ “พวกลูกอยากกินอะไรหรือเปล่า? คิดแล้วมาบอกแม่นะ แม่จะให้เขาทำให้พรุ่งนี้” ฉินอันอันพูดอย่างอ่อนโยน รุ่ยลาเป็นเด็กกินเก่ง เธอเริ่มคิดทันทีว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรดีเสี่ยวหานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “แม่ครับ แม่จะกลับไปคบกับเขาอีกเหรอครับ?” “ไม่จ้ะ” ฉินอันอันอธิบายอย่างอดทน “เขาอยากชดเชยความผิดพลาดในอดีต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับแม่ว่าเขารู้สึกผิด” ก่อนหน้านี้พวกเขาทะเลาะกันนับครั้งไม่ถ้วน เธอเคยหวาดกลัว แต่ไม่เคยยอมถอย เพราะว่าผิดก็คือผิด ไม่ว่าเธอจะรักเขามากแค่ไหน ก็ไม่อาจลบความผิดที่เขาทำไปได้! หลังจากได้ยินคำพูดของ
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอความเป็นพ่อลูกกับเสี่ยวหาน แต่รูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเสี่ยวหานนั้นคล้ายคลึงกับเขามาก ดังนั้นเขาจึงสรุปได้ว่าเสี่ยวหานเป็นลูกชายของเขาอย่างแน่นอน และฉินอันอันเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่ารุ่ยลาคือลูกสาวแท้ ๆ ของเธอ ผู้หญิงคนหนึ่งจะให้กำเนิดเด็กที่โตพอ ๆ กันพร้อมกันสองคนได้ยังไง? มีความเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเด็กสองคนนี้เกิดจากครรภ์เดียวกันเมื่อคืนเขาคิดมาถึงตรงนี้ก็ตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ เพราะว่า… เขาชอบรุ่ยลามาก ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาได้พบหน้าลูกทั้งสองคนของฉินอันอัน เขาก็ยิ่งชอบรุ่ยลามากขึ้น ไม่ว่ารุ่ยลาจะเกิดจากฉินอันอันกับใครก็ตาม เขาก็ไม่เคยเกลียดรุ่ยลาเลย อาจเป็นเพราะรุ่ยลาหน้าตาคล้ายกับฉินอันอันมาก อีกทั้งรุ่ยลายังมีบุคลิกที่น่าสนใจมาก ถึงแม้ว่าเธอจะดูน่ารัก แต่จากนิสัยของเธอนับว่าไม่ใช่คนหัวอ่อนเลย เธอเป็นคนแปลกและซุกซนเล็กน้อย เขาขาดรสชาติแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกชอบมาก “แฝดคืออะไรเหรอคะ?” รุ่ยลากระพริบดวงตาโตที่ไร้เดียงสาและอยากรู้อยากเห็นของเธอ ขนตากระพรือ “แม่ของหนูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหนูเลย! หมายความว่ายังไงเ
“คนเลวฟู่สือถิง…เขาจุ๊บหนูตรงนี้…” รุ่ยลาใช้มือเล็ก ๆ จิ้มแก้มอ้วน ๆ ของตัวเองแล้วอารมณ์ก็ค่อย ๆ สงบลง พ่อจอมวายร้ายจูบเธอ หมายความว่าเขาชอบเธองั้นเหรอ? แต่เธอยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้อภัยเขาเลยนะ! ฟู่สือถิงเดินมาหาฉินอันอันและขอโทษอย่างจริงใจ “ฉินอันอัน ขอโทษนะ ผมรู้สึกว่าลูกสาวของคุณน่ารักมาก เลยอดไม่ได้ที่จะจูบเธอ” นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคำขอโทษที่ ‘สมเหตุสมผล’ขนาดนี้ “ฉันรู้ว่าลูกสาวของฉันน่ารัก แต่ถ้าเกิดทุกคนคิดว่าเธอน่ารักเลยจูบเธอเหมือนคุณ ลูกสาวของฉันจะใช้ชีวิตอย่างปกติได้ยังไง?” ถึงแม้ว่าเธอจะตำหนิเขา แต่ภายในใจของเธอกลับรู้สึกขัดแย้งเป็นอย่างมาก ฟู่สือถิงไม่ใช่คนที่ควบคุมความปรารถนาของตัวเองไม่ได้ เขาจูบรุ่ยลาแบบนี้เป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อกับลูกสาวหรือเปล่า? “รุ่ยลา ขอโทษนะ” เขาขอโทษรุ่ยลาอีกครั้ง “ลุงยอมให้หนูตีลุงคืนดีไหม?เขายื่นมือของตัวเองออกไปตรงหน้ารุ่ยลา รุ่ยลาคว้าฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างรวดเร็วและใส่เข้าไปในปากแล้วกัดลงไป! ฉินอันอันตกใจฟู่สือถิงถึงกับทำตัวไม่ถูกเจ้าตัวเล็กดูราวกับแมวป่าตัวน้อย! อย่ามองว่าเธอตัวเล็ก แรงของเธอไม
เธอพูดได้ค่อนข้างมีไหวพริบ แต่เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของเธอ ความหมายของเธอก็คือ ไม่ว่าเสี่ยวหานและรุ่ยลาจะเป็นฝาแฝดหรือไม่ และไม่ว่าเสี่ยวหานจะเป็นลูกชายหรือไม่ก็ตาม คุณอย่าได้คิดสนใจเด็กสองคนนี้ มีเพียงแค่เด็กในท้องคนนี้เท่านั้นที่เป็นของคุณว่ากันตามอารมณ์ในอดีตของเขา เขาต้องโกรธแน่ ๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเขานับว่ามั่นคง มีหนึ่งคนก็ดีกว่าไม่มีเลย เธอใส่ยาให้เขาเสร็จแล้วก็เอาผ้าก๊อซสีขาวมาพันรอบแผล“ติดปลาสเตอร์ก็พอแล้ว” เขารู้สึกว่าการใช้ผ้าก๊อซพันแผลมันดูรุนแรงและโอเวอร์ไปหน่อย คนที่ไม่รู้จะนึกว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอไม่สนใจคำขอของเขาและพันมือเขาด้วยผ้าก๊อซ “สองวันนี้อย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ” เธอสั่ง “งั้นผมจะอาบน้ำยังไง?” เขาถาม “คุณไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนเลยเหรอ?” เธอเลิกคิ้วขึ้น อยากพูดประชดใส่ แต่เมื่อคิดว่าอาการบาดเจ็บของเขาเกิดจากลูกสาวของเธอ จู่ ๆ ความแรงนั้นก็หายไป “ถ้าคุณอาบมือเดียวไม่ได้แล้วไม่อยากให้ใครช่วยก็สวมถุงมือกันน้ำ” เขามองดูมือตัวเองที่พันผ้าก็อซไว้แน่นแล้วถามอย่างสบาย ๆ ว่า “เมื่อไหร่ถึงจะรู้ว่าลูกของเราเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?” “คลอดออกมาก็
“ทำไมพวกเธอสองคนต้องนอนห้องเดียวกันด้วยล่ะ?” หลีเสี่ยวเถียนจับประเด็นสำคัญได้เก่งมาก ฉินอันอัน “ตอนนั้นฝนตกหนักมาก ฉันไล่เขาออกไปไม่ได้” “อ้อ งั้นพวกเธอสองคนนอนห้องเดียวกันเหรอ? เธอยอมให้เขานอนบนเตียงได้ยังไง? เขาไม่ใส่อะไรเลย แล้วก็มีพายุฝน เธอก็ยอมให้เขาแล้วเหรอ?!” ฉินอันอันตะลึงไปครู่หนึ่ง “พวกเราไม่ได้ทำ เอ่อ…โอ้ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ…” “ฉันรู้ว่าเขาต้องทำเรื่องนั้นกับเธอแน่…” ฉินอันอันรู้สึกว่าหัวข้อที่คุยกันแปลกไปสักหน่อยจึงรีบพูดแทรกเธอทันที “หลีเสี่ยวเถียน มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด! เขาล้าง…เขาล้างเท้า…ให้ฉัน…” ฉินอันอันไม่อยากพูด แต่ว่าดวงตาของหลีเสี่ยวเถียนนั้นดุร้ายมาก! หลังจากที่เธอพูดจบ หลีเสี่ยวเถียนก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจออกมา : “นั่นคือประธานฟู่ที่แสนเยี่ยมยอดเลยนะ! มืออันสูงส่งนั่นทั้งทำเงินและล้างเท้าให้ผู้หญิงได้! จิตวิญญาณของการอดกลั้นต่อความอัปยศอดสูและการปรับตัวนี้เป็นความลับในความสำเร็จของเขาใช่ไหม? ไม่แปลกใจเลยว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะทำสำเร็จ! ถ้ามีผู้ชายไล่ตามฉันหลายพันไมล์เพื่อล้างเท้าให้ ฉันก็ยอมแพ้เหมือนกัน!” ทันใดนั้นเสีย
ฟู่สือถิงลดสายตาลงมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่ทั้งน่ารักและโมโหสุด ๆ ของรุ่ยลา แล้วแก้ไขคำพูดของเธอ “ทำไมหนูถึงเรียกชื่อจริงของฉัน? แบบนี้มันหยาบคายมากนะ” รุ่ยลาส่งเสียงฮึดฮัด “เพราะว่าคุณเป็นคนไม่ดี” “แม่ของหนูบอกงั้นเหรอ?” สีหน้าฟู่สือถิงสุขุมเยือกเย็น เขาไม่โกรธเลย เพราะรุ่ยลายังเด็ก เธอจะเข้าใจอะไร? ทุกอย่างที่เธอรู้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังเธอ “ไม่ใช่สักหน่อย! แม่ของหนูไม่เคยพูดใส่ร้ายคนอื่นลับหลัง!” เมื่อรุ่ยลาพูดถึงตรงนี้ ก็กลัวว่าตัวเองจะเปิดเผยพี่ชายออกมาจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างเฉลียวฉลาด “คุณกำลังทำอะไรเหรอคะ?” “ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน” ฟู่สือถิงเอาซี่โครงที่หมักไว้ในเธอดู “นี่เป็นเมนูโปรดของแม่หนู หนูอยากกินอะไร ฉันจะทำให้” รุ่ยลาตอบอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องคิด “หนูอยากกินช็อกโกเลต! แล้วหนูก็อยากกินเนื้อด้วย! คุณซ่อนช็อกโกเลตไว้ข้างในเนื้อให้หนูได้หรือเปล่าคะ? อย่าให้แม่รู้เด็ดขาดเลยนะคะ!” ฟู่สือถิงชั่งน้ำหนักถึงผลดีและผลเสียแล้วเอ่ยถามว่า “ฉันทำให้หนูได้ แต่หนูบอกฉันได้ไหมว่าพี่ชายหนูชอบกินอะไร?” รุ่ยลากลอกตาไปมา “พี่ชายชอบกินผัก แต่ถ้าคุณทำ เขาไม่มีทางกินหรอกค่ะ
หลังจากที่เธอไปแล้ว หลีเสี่ยวเถียนก็พูดอย่างเก้อเขินว่า “ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า?” เซิ่งเป่ยพูดอย่างจริงจังว่า “ฟู่สือถิงให้เสิ่นอวี๋สองพันล้าน ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าฟู่สือถิงจะให้ฉินอันอันสองพันล้านได้เช่นกัน แต่ก็ให้ในลักษณะที่แตกต่างกัน” “พี่ไม่พูดถึงเสิ่นอวี๋ ฉันเกือบลืมเธอไปแล้ว” “สาเหตุที่พวกเขาทะเลาะกันครั้งนี้ก็มาจากเสิ่นอวี๋” เซิ่งเป่ยกล่าว “เธออย่าได้ประมาทพลังของแฟนเก่าเชียว” “ถูกต้อง! แถมตอนนี้อันอันตั้งท้อง เดิมทีก็มีแนวโน้มที่จะไม่มั่นคงทางอารมณ์…แต่เธอยอมให้ฟู่สือถิงมาทำอาหารบ่งบอกว่าเธอเองก็อยากยอมรับฟู่สือถิงอีกครั้ง!” หลีเสี่ยวเถียนคาดเดาความคิดเธอไม่ได้เล็กน้อย “มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นแหละที่รู้ว่าจะกลับมาคบกับหรือเปล่า” เซิ่งเป่ยพูดอย่างเกียจคร้าน “พวกเราในฐานะเพื่อนคอยซุบซิบกันเงียบ ๆ ก็พอ!” ......ที่ชั้นสอง ฉินอันอันผลักบานประตูห้องนอนออก ต้อนรับแสงแดดที่หักเหมาจากนอกหน้าต่าง สายตาก็จับจ้องลงบนเตียงใหญ่ฟู่สือถิงหลับไปแล้ว ชั้นล่างเสียงดังขนาดนั้นแต่กลับไม่มีผลกระทบอะไรต่อเขาเลย ดูท่าเขาจะเหนื่อยจริง ๆ เธอเข้ามาในห้องแล้วปิดปร
เธอกำลังจะพูด แต่กลับต้องตกใจกับประกายของน้ำตาในดวงตาและความอ่อนแอที่ไม่ปิดบังของเขา “ฟู่สือถิง… เธอเรียกชื่อเขาอย่างอดไม่ได้ เธออยากจะถามว่าคุณเป็นอะไร แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยถาม ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็จับแขนเธอแล้วดึงเธอเข้ามาให้อ้อมแขนเขา เธอใช้แขนยันตัวไว้ จนตาเธอสั่นไหว ใบหน้าของพวกเขาห่างกันไม่กี่เซนติเมตร เธอมองเห็นความรู้สึกที่แตกกระจายในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน “สือถิง เป็นอะไรไป?” หัวใจของเธอรัดแน่นเป็นลูกบอล น้ำเสียงเบาลงไม่รู้ตัว ”ผมฝันว่าคุณทิ้งผมไปแล้ว” ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เสียงก็แหบพร่า “คุณจากไปกับผู้ชายอื่น” เธอพูดไม่ออกราวกับก้างปลาติดคอ เธอไม่มีวันบอกเขาว่าตอนที่เขาอยู่กับเสิ่นอวี๋ก่อนหน้านี้ เธอฝันร้ายบ่อย ๆ ว่าเขาแต่งงานกับเสิ่นอวี๋ เพราะว่าใส่ใจ ดังนั้นก่อนจะได้ก็กลัวว่าจะไม่ได้ พอได้มาก็กลัวว่าจะต้องเสียไป“นั่นมันแค่ความฝัน ไม่ใช่ความจริงค่ะ” นิ้วของเธอค่อย ๆ เช็ดน้ำตาจากหางตาของเขา “คุณห้ามคบกับผู้ชายอื่นนะ” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินคำอธิบายของเธอ ฝ่ามือใหญ่ของเขากำมือเล็ก ๆ ของเธอไว้แน่น “ฉันไม่ได้คบกับผู้ชายคนอื่นค่ะ” มือของเธอถูกเ