ฟู่สือถิงล้างเท้าให้เธออย่างไม่รีบร้อนและเช็ดด้วยกระดาษชำระ แก้มของเธอแดง เธอพยายามดึงเท้ากลับหลายครั้ง แต่เขารั้งไว้ อาการจั๊กจี้ที่เกิดจากการรถูกนิ้วของเขาสัมผัสผิวหนังเท้าของเธอลุกลามไปถึงหัวใจ “คุณคิดว่าเที่ยวบินพรุ่งนี้จะถูกยกเลิกหรือเปล่า?” ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอ “คุณอย่าพูดเป็นลางสิ!” ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านแล้วเขาหยิบกะละมังเข้าไปเติมน้ำในห้องน้ำ พอกลับมาเขาก็เห็นว่าใบหน้าของเธอหม่นหมอง“เที่ยวบินถูกยกเลิกเหรอ?” เขาเดา “อืม” เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ “มีผลไม้กับขนมอยู่ในถุง คุณไปกินเถอะ!” แม้ว่าเขาจะหิวแต่เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาก็กินไม่ลง เธอถือกาต้มน้ำออกมาและวางแผนจะต้มน้ำ เขาหยิบกาต้มน้ำจากมือของเธอแล้วพูดว่า “คุณไปนอนพักผ่อนเถอะ” เธอเดินไปที่เตียงและนั่งลงด้วยความสิ้นหวัง ตอนนี้สมองของเธอเต็มไปด้วยเรื่องของเสี่ยวหาน ตั้งแต่เสี่ยวหานเกิดจนถึงปัจจุบัน เว้นแต่การร้องไห้เป็นครั้งคราวเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ก่อนที่เขาจะอายุได้หนึ่งขวบ หลังจากที่เขาอายุได้หนึ่งขวบ เขาก็ไม่ค่อยร้องไห้อีกเลย เธอนึกไม่ถึงว่าเสี่ยวหานจะร้องไห้ เสี่ยวหานยิน
เนื่องจากหัวข้อนี้ค่อนข้างหนักอึ้ง เธอแยกแยะอย่างยากลำบากไปชั่วขณะ ดังนั้นจึงเปลี่ยนเรื่อง “คุณช่วยล้างแอปเปิลให้ฉันทีค่ะ ขอบคุณค่ะ” เขารีบไปล้างแอปเปิลให้เธอทันทีแล้วส่งให้เธอ“คุณเองก็หาอะไรทานสักหน่อย” เธอหยิบแอปเปิลพร้อมกับลุกขึ้นนั่งแล้วพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “อืม” ภายนอกลมแรงและมีพายุฝน ภายในห้องกลับเงียบสงบ หลังจากฉินอันอันกินแอปเปิลเสร็จแล้ว เธอก็นอนลงบนเตียง ลังเลว่าจะให้เขานอนบนเตียงดีหรือเปล่า ตอนนี้ฝนตก อุณหภูมิลดลงมากและที่นี่ก็ไม่มีเครื่องความร้อน ถ้าปล่อยให้เขานอนบนโต๊ะ เขาต้องเป็นหวัดแน่นอน แต่ให้เธอเรียกเขามานอนบนเตียง เธอก็พูดไม่ออก สักพักเขาอาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ ถามเธอว่าจะปิดไฟหรือเปล่า เธอหลับตาแล้วส่งเสียงตอบรับ เขาจึงยกมือขึ้นปิดไฟ ทันใดนั้น ห้องก็ตกอยู่ในความมืด เธอรอให้เขาเดินเข้ามา ทว่า…เขากลับนั่งลงอยู่ข้างโต๊ะ ดูท่า ค่ำคืนนี้เขาตั้งใจนอนบนโต๊ะจริง ๆ “ก่อนหน้านี้คุณก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกฉันเลยไม่ใช่เหรอไง? เสแสร้งเป็นสุภาพบุรุษอะไรตอนนี้!” เสียงของเธอเต็มไปด้วยความโกรธที่สามารถควบคุมได้ “คุณอยากจะแข็งตายหรือไง?!” เขาคิด
“ใช่! ยังไงเธอต้องพิจารณาเขาต่อไปจนกว่าเด็กจะเกิด” ทันใดนั้นไมค์ก็เบิกบาน “ฉันล่ะสงสัยว่าความเป็นผู้ชายแสนดีของเขาจะอยู่ได้นานขนาดนั้นเชียว” ฉินอันอันมองเขาที่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่นแล้วเอ่ยว่า “พรุ่งนี้เขาจะมาทำอาหารที่บ้านของพวกเรา” “เอ๋?” ไมค์สงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป “เขาทำอาหารได้งั้นเหรอ? เธอแน่ใจเหรอว่าเขามาทำอาหารไม่ไช่วางยาพิษ?” ฉินอันอันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เพราะว่านี่คือเรื่องที่ฟู่สือถิงร้องขออย่างจริงจังเขาทำให้มื้อเย็นในวันที่หนึ่งมิถุนายนต้องพังลง เขาอยากชดเชย เขาคิดว่าการทำอาหารเย็นด้วยตนเองถึงจะสามารถแสดงถึงคำขอโทษของเขาได้ หลังจากที่รถมาถึงบ้าน รุ่ยลากอดเธออย่างมีความสุข เพื่อเป็นการฉลองการกลับมาของเธอในวันนี้ รุ่ยลาจึงหยุดเรียนเป็นการเฉพาะ“ลูกรัก แม่คิดถึงหนูมากเลย!” ฉินอันอันอุ้มรุ่ยลาขึ้นโดยไม่สนใจว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ “ฉินอันอันระวังหน่อย!” ไมค์เตือนเธอ “เธอลืมว่าเป็นช่วงที่ต้องป้องกันการแท้งบุตรไปแล้วเหรอ?” ฉินอันอันวางลูกสาวลงทันที “รุ่ยลา หนูคิดถึงแม่หรือเปล่า?” “คิดถึงค่ะ! หนูคิดถึงแม่มากทุกวันเลย” รุ่ยลาพูดพร้อมกับเม้มปากเล็ก ๆ ของเ
“ถ้าพวกลูกไม่ต้อนรับเขามาที่บ้านก็ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่จะโทรหาเขา ไม่ให้เขามาแล้วก็ได้จ้ะ” ฉินอันอันแก้คำพูดอย่างรวดเร็วเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของพวกเด็ก ๆ แล้วดูเหมือนจะไม่ต้อนรับให้เขามา “เขาอยากมาทำงานบ้านที่บ้านของเราเหรอคะ?” ทันใดนั้นรุ่ยลาก็รู้สึกตัวแล้วร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า”งั้นให้เขามาเลยค่ะ! ให้เขาทำงานบ้านเยอะ ๆ จนเหนื่อยตายไปเลย!” ฉินอันอันรู้ว่าลูกสาวปากไม่ตรงกับใจ ครั้งก่อนที่ฟู่สือถิงเป็นลมล้มลงตรงหน้าบ้าน รุ่ยลาร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ “พวกลูกอยากกินอะไรหรือเปล่า? คิดแล้วมาบอกแม่นะ แม่จะให้เขาทำให้พรุ่งนี้” ฉินอันอันพูดอย่างอ่อนโยน รุ่ยลาเป็นเด็กกินเก่ง เธอเริ่มคิดทันทีว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรดีเสี่ยวหานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “แม่ครับ แม่จะกลับไปคบกับเขาอีกเหรอครับ?” “ไม่จ้ะ” ฉินอันอันอธิบายอย่างอดทน “เขาอยากชดเชยความผิดพลาดในอดีต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับแม่ว่าเขารู้สึกผิด” ก่อนหน้านี้พวกเขาทะเลาะกันนับครั้งไม่ถ้วน เธอเคยหวาดกลัว แต่ไม่เคยยอมถอย เพราะว่าผิดก็คือผิด ไม่ว่าเธอจะรักเขามากแค่ไหน ก็ไม่อาจลบความผิดที่เขาทำไปได้! หลังจากได้ยินคำพูดของ
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอความเป็นพ่อลูกกับเสี่ยวหาน แต่รูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเสี่ยวหานนั้นคล้ายคลึงกับเขามาก ดังนั้นเขาจึงสรุปได้ว่าเสี่ยวหานเป็นลูกชายของเขาอย่างแน่นอน และฉินอันอันเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่ารุ่ยลาคือลูกสาวแท้ ๆ ของเธอ ผู้หญิงคนหนึ่งจะให้กำเนิดเด็กที่โตพอ ๆ กันพร้อมกันสองคนได้ยังไง? มีความเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเด็กสองคนนี้เกิดจากครรภ์เดียวกันเมื่อคืนเขาคิดมาถึงตรงนี้ก็ตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ เพราะว่า… เขาชอบรุ่ยลามาก ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาได้พบหน้าลูกทั้งสองคนของฉินอันอัน เขาก็ยิ่งชอบรุ่ยลามากขึ้น ไม่ว่ารุ่ยลาจะเกิดจากฉินอันอันกับใครก็ตาม เขาก็ไม่เคยเกลียดรุ่ยลาเลย อาจเป็นเพราะรุ่ยลาหน้าตาคล้ายกับฉินอันอันมาก อีกทั้งรุ่ยลายังมีบุคลิกที่น่าสนใจมาก ถึงแม้ว่าเธอจะดูน่ารัก แต่จากนิสัยของเธอนับว่าไม่ใช่คนหัวอ่อนเลย เธอเป็นคนแปลกและซุกซนเล็กน้อย เขาขาดรสชาติแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกชอบมาก “แฝดคืออะไรเหรอคะ?” รุ่ยลากระพริบดวงตาโตที่ไร้เดียงสาและอยากรู้อยากเห็นของเธอ ขนตากระพรือ “แม่ของหนูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหนูเลย! หมายความว่ายังไงเ
“คนเลวฟู่สือถิง…เขาจุ๊บหนูตรงนี้…” รุ่ยลาใช้มือเล็ก ๆ จิ้มแก้มอ้วน ๆ ของตัวเองแล้วอารมณ์ก็ค่อย ๆ สงบลง พ่อจอมวายร้ายจูบเธอ หมายความว่าเขาชอบเธองั้นเหรอ? แต่เธอยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้อภัยเขาเลยนะ! ฟู่สือถิงเดินมาหาฉินอันอันและขอโทษอย่างจริงใจ “ฉินอันอัน ขอโทษนะ ผมรู้สึกว่าลูกสาวของคุณน่ารักมาก เลยอดไม่ได้ที่จะจูบเธอ” นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคำขอโทษที่ ‘สมเหตุสมผล’ขนาดนี้ “ฉันรู้ว่าลูกสาวของฉันน่ารัก แต่ถ้าเกิดทุกคนคิดว่าเธอน่ารักเลยจูบเธอเหมือนคุณ ลูกสาวของฉันจะใช้ชีวิตอย่างปกติได้ยังไง?” ถึงแม้ว่าเธอจะตำหนิเขา แต่ภายในใจของเธอกลับรู้สึกขัดแย้งเป็นอย่างมาก ฟู่สือถิงไม่ใช่คนที่ควบคุมความปรารถนาของตัวเองไม่ได้ เขาจูบรุ่ยลาแบบนี้เป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อกับลูกสาวหรือเปล่า? “รุ่ยลา ขอโทษนะ” เขาขอโทษรุ่ยลาอีกครั้ง “ลุงยอมให้หนูตีลุงคืนดีไหม?เขายื่นมือของตัวเองออกไปตรงหน้ารุ่ยลา รุ่ยลาคว้าฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างรวดเร็วและใส่เข้าไปในปากแล้วกัดลงไป! ฉินอันอันตกใจฟู่สือถิงถึงกับทำตัวไม่ถูกเจ้าตัวเล็กดูราวกับแมวป่าตัวน้อย! อย่ามองว่าเธอตัวเล็ก แรงของเธอไม
เธอพูดได้ค่อนข้างมีไหวพริบ แต่เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของเธอ ความหมายของเธอก็คือ ไม่ว่าเสี่ยวหานและรุ่ยลาจะเป็นฝาแฝดหรือไม่ และไม่ว่าเสี่ยวหานจะเป็นลูกชายหรือไม่ก็ตาม คุณอย่าได้คิดสนใจเด็กสองคนนี้ มีเพียงแค่เด็กในท้องคนนี้เท่านั้นที่เป็นของคุณว่ากันตามอารมณ์ในอดีตของเขา เขาต้องโกรธแน่ ๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเขานับว่ามั่นคง มีหนึ่งคนก็ดีกว่าไม่มีเลย เธอใส่ยาให้เขาเสร็จแล้วก็เอาผ้าก๊อซสีขาวมาพันรอบแผล“ติดปลาสเตอร์ก็พอแล้ว” เขารู้สึกว่าการใช้ผ้าก๊อซพันแผลมันดูรุนแรงและโอเวอร์ไปหน่อย คนที่ไม่รู้จะนึกว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอไม่สนใจคำขอของเขาและพันมือเขาด้วยผ้าก๊อซ “สองวันนี้อย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ” เธอสั่ง “งั้นผมจะอาบน้ำยังไง?” เขาถาม “คุณไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนเลยเหรอ?” เธอเลิกคิ้วขึ้น อยากพูดประชดใส่ แต่เมื่อคิดว่าอาการบาดเจ็บของเขาเกิดจากลูกสาวของเธอ จู่ ๆ ความแรงนั้นก็หายไป “ถ้าคุณอาบมือเดียวไม่ได้แล้วไม่อยากให้ใครช่วยก็สวมถุงมือกันน้ำ” เขามองดูมือตัวเองที่พันผ้าก็อซไว้แน่นแล้วถามอย่างสบาย ๆ ว่า “เมื่อไหร่ถึงจะรู้ว่าลูกของเราเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?” “คลอดออกมาก็
“ทำไมพวกเธอสองคนต้องนอนห้องเดียวกันด้วยล่ะ?” หลีเสี่ยวเถียนจับประเด็นสำคัญได้เก่งมาก ฉินอันอัน “ตอนนั้นฝนตกหนักมาก ฉันไล่เขาออกไปไม่ได้” “อ้อ งั้นพวกเธอสองคนนอนห้องเดียวกันเหรอ? เธอยอมให้เขานอนบนเตียงได้ยังไง? เขาไม่ใส่อะไรเลย แล้วก็มีพายุฝน เธอก็ยอมให้เขาแล้วเหรอ?!” ฉินอันอันตะลึงไปครู่หนึ่ง “พวกเราไม่ได้ทำ เอ่อ…โอ้ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ…” “ฉันรู้ว่าเขาต้องทำเรื่องนั้นกับเธอแน่…” ฉินอันอันรู้สึกว่าหัวข้อที่คุยกันแปลกไปสักหน่อยจึงรีบพูดแทรกเธอทันที “หลีเสี่ยวเถียน มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด! เขาล้าง…เขาล้างเท้า…ให้ฉัน…” ฉินอันอันไม่อยากพูด แต่ว่าดวงตาของหลีเสี่ยวเถียนนั้นดุร้ายมาก! หลังจากที่เธอพูดจบ หลีเสี่ยวเถียนก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจออกมา : “นั่นคือประธานฟู่ที่แสนเยี่ยมยอดเลยนะ! มืออันสูงส่งนั่นทั้งทำเงินและล้างเท้าให้ผู้หญิงได้! จิตวิญญาณของการอดกลั้นต่อความอัปยศอดสูและการปรับตัวนี้เป็นความลับในความสำเร็จของเขาใช่ไหม? ไม่แปลกใจเลยว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะทำสำเร็จ! ถ้ามีผู้ชายไล่ตามฉันหลายพันไมล์เพื่อล้างเท้าให้ ฉันก็ยอมแพ้เหมือนกัน!” ทันใดนั้นเสีย