ตอนที่ 6
“ฟลินท์! มาหาย่า” ผู้เป็นย่าตวาดสั่งเด็กน้อยเสียงดัง
“คุณย่า อย่าตวาดลูกผม”
“งั้นแกก็ให้ลูกแกอยู่กับย่าสิ”
“ไม่ครับ ผมก็จะพาลูกผมไปด้วย ส่วนเรื่องที่คุณย่าคิดจะรั้งลูกของผมเอาไว้เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองกับผม ผมว่าคุณย่าเลิกใช้วิธีนี้เถอะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงคนนั้นผมกลับไปหาแน่ แต่ผมไม่ได้คิดจะกลับไปคืนดี” คลินท์บอกเสียงแข็ง พลางโอ๋ลูกชายตัวน้อยไปด้วยและเพียงไม่กี่นาทีลูกชายก็หยุดร้อง
“ตาคลินท์! นี่แกกล้าขัดคำสั่งย่าเหรอ” คุณเซียล่าตวาดกลับด้วยความไม่พอใจเมื่อหลานชายเริ่มแข็งข้อใส่
“ผมไม่ได้อยากขัดคำสั่งคุณย่า แต่ผมเบื่อกับเรื่องนี้เต็มทนแล้ว แล้วผมขอร้อง คุณย่าอย่าตวาดใส่ลูกผมอีก” คลินท์ปรับโทนเสียงให้อ่อนลง แต่ความไม่พอใจก็ยังฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลา
“แกมันหลงลูกของแกมากไปแล้วนะตาคลินท์ แล้วอย่าให้ฉันรู้ว่าแกกลับไปหลงนังแม่มันอีกก็แล้วกัน ไม่งั้นทรัพย์สมบัติทุกอย่างของพ่อแม่แก ฉันจะยกให้คนอื่น” ผู้เป็นย่าเอ่ยเสียงกราดเกรี้ยว ใจก็ยิ่งแค้นเคืองผู้หญิงไร้สกุลคนนั้นที่ทิ้งสายเลือดเอาไว้ให้มันทิ่มแทงหัวใจของตน แล้วหากรู้ว่าการเอาเด็กนอกสมรสคนนี้เอาไว้แล้วจะทำให้หลานชายเพียงคนเดียวคิดแข็งข้อแบบนี้ ครั้งนั้นคงให้เด็กนอกคอกคนนี้ไปอยู่กับแม่ไร้สกุลคนนั้นเสียก็ดี
“ถ้าคุณย่าคิดจะเอาเหตุผลนี้มาเป็นข้อต่อรองกับผม ผมบอกเลยว่าผมไม่สน แล้วคุณย่าก็เลิกคิดจะใช้วิธีงี่เง่าพวกนี้มาบ่งการชีวิตผมได้แล้ว ผมโตแล้วนะครับ ผมตัดสินใจอะไรเองได้ เรื่องของแซนด้าก็เหมือนกัน ผมไม่มีวันแต่งงานกับแซนด้า” คลินท์ตอบกลับด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ที่ต้องมาทนรับฟังเรื่องพวกนี้ เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งคุณย่าของเขาก็มักจะพูดอยู่แบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้คุณย่าบงการชีวิตได้อีกแล้ว
“แต่หนูแซนด้าเหมาะกับแก่ที่สุด แล้วหนูแซนด้าก็รักแกนะตาคลินท์”
“แต่ผมไม่ได้รักแซนด้า”
“รักไม่รัก ยังไงแกก็ต้องแต่งานกับหนูแซนด้าตามที่ฉันสั่ง” ผู้เป็นย่าตวาดกลับด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว ขณะที่หลานชายก็ส่งลูกชายให้กับบารอนแล้วบอกให้พาขึ้นไปพัก แต่เสียงผู้เป็นย่าก็พูดแทรกขึ้นด้วยการสั่งให้จูเลียไปเอาตัวเด็กน้อยแล้วพาไปรอที่รถ
“จูเลีย! อย่าเข้าใกล้ลูกฉัน” คลินท์หันไปตวาดใส่คนของผู้เป็นย่า
“เอ่อ...” จูเลียถึงกับหน้าถอดสี ไม่รู้จะฟังคำสั่งใครดี
“จูเลีย! เอาตาฟลินท์ออกมา ฉันจะพาไปอยู่ด้วย” คุณเซียล่าออกคำสั่งอีกครั้ง
“คุณย่า ผมขอร้อง อย่ายุ่งกับลูกชายของผมเลย” คลินท์หันมาบอกกล่าวผู้เป็นย่า เพราะไม่อยากให้เรื่องราวยุ่งยากไปกว่านี้
“ฉันต้องยุ่ง เพราะฉันจะไม่ยอมให้แกพาลูกกลับไปหาผู้หญิงหน้าเงินคนนั้น จูเลีย! ไปเอาตาฟลินท์มา” ท้ายประโยคคุณเซียล่าหันไปออกคำสั่งกับ จูเลีย พยาบาลสาวที่ท่านว่าจ้างให้มาดูแลลูกของหลานชาย หลังรู้ว่าหลานชายกำลังจะเดินทางไปประเทศไทย
“จูเลีย! ถ้าเธอเข้าใกล้ลูกชายของฉัน ฉันฆ่าเธอแน่” คนหวงลูกขู่ ทำเอาพยาบาลสาวถอยร่นไปแทบไม่ทัน
“ตาคลินท์! แกอย่ามาขู่คนของย่า แล้วเอาลูกของแกมาให้ย่า แล้วแกจะไปไหนก็ไป ย่าจะไม่ห้าม” คนเป็นย่าเอ่ยสั่ง แต่คนเป็นหลานชายกลับหันไปบอกให้บารอนพาลูกชายขึ้นไปบนห้อง คุณเซียล่าจึงตวาดใส่ “บารอน! แกหยุดเดี๋ยวนี้”
“คุณย่า! คุณย่ามีแผนอะไรพูดออกมาเลยดีกว่าครับ ผมเบื่อที่จะต้องเถียงกับคุณย่าแล้วครับ” คลินท์พูดขึ้น เพราะเดาได้ว่าการมาของผู้เป็นย่าคงมีแผนการอยู่ในใจ
“แผนอะไรของแกตาคลินท์”
“ก็ที่คุณย่าจะเอาตัวลูกผมไว้ไงครับ”
เมื่อหลานชายรู้ทันแบบนี้แล้วคนเป็นย่าก็นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ฉันจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับลูกของแกอีก ถ้าแกหมั้นกับหนูแซนด้าก่อนที่แกจะไปเมืองไทย แล้วหลังจากแกจัดการเรื่องงานทางนั้นเรียบร้อยก็กลับมาแต่งงานกับหนูแซนด้า ส่วนเรื่องงานย่าจะเป็นคนจัดการให้”
“ผมไม่ได้รักแซนด้า”
“แต่งกันไปก็รักกันเองนั่นแหละ แกอย่ามาหาเรื่องไม่อยากหมั้นกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างหนูแซนด้าอีกเลยตาคลินท์”
“ผมไม่มีวันรักแซนด้า” คลินท์ยืนกรานในความรู้สึกของตัวเอง แบบไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เปลืองเวลา
“ถ้าแกไม่ทำตามคำสั่งฉัน ฉันจะทำทุกอย่างให้แกเอาตาฟลินท์ไปด้วยไม่ได้ แกอย่าลืมว่าคนอย่างฉันทำได้ทุกอย่าง แกคิดให้ดีๆ ตาคลินท์” คนเป็นย่าขู่
คลินท์กระแทกลมหายใจออกมาแล้วมองผู้เป็นย่าด้วยสายตาผิดหวังระคนตัดพ้อ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งแล้วพูดกับผู้เป็นย่า “ตกลงผมจะหมั้นกับแซนด้า แต่งานหมั้นจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผมเดินทางกลับจากเมืองไทยเท่านั้น หากคุณย่าไม่ตกลงผมก็ไม่หมั้น แล้วไม่ว่าคุณย่าคิดจะทำอะไรลูกชายของผม ผมก็จะปกป้องลูกชายของผมด้วยชีวิตของผม!” พูดจบก็เดินขึ้นห้องพักไปทันที
“คลินท์! คลินท์! แกกลับมาพูดกับย่าให้รู้เรื่องก่อน ตาคลินท์!” ผู้เป็นย่าขานเรียกเสียงดังลั่น แต่หลานชายไม่หันกลับมามอง
คนเป็นย่าเลยแต่มองตามไปอย่างขุ่นเคือง แต่คงโทษใครไม่ได้นอกจากตนคนเดียวที่ดันเอาเด็กเอาไว้ แทนที่จะให้กลับไปพร้อมผู้หญิงคนนั้น เพราะถ้าไม่มีเด็กคนนี้ หลานชายคงไม่คิดแข็งข้อกับตน
“จูเลีย! กลับ” คุณเซียล่าหันไปเรียกพยาบาล จากนั้นก็พากันออกจากบ้านของหลานชาย ไปพร้อมๆ กับคิดหาหนทางไม่ให้หลานชายกลับไปหาผู้หญิงคนนั้น!
ตอนที่ 7เช้าวันต่อมา“นิดมาแต่เช้าเชียวนะ” กมลวรรณที่เพิ่งมาถึงบริษัทเอ่ยทักว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายหนุ่มอย่างอารมณ์ดี ผิดกลับคนถูกทักที่หน้าตาไม่ค่อยสดใส“สวัสดีค่ะพี่มล มาแต่เช้าเหมือนกันเลยนะคะ”“แต่ก็ช้ากว่านิดแหละ ว่าแต่ใกล้วันหมั้นแล้ว ทำไมนิดไม่ลาพักร้อนล่ะ จะได้มีเวลาเตรียมตัว หรือพอใกล้ๆ วันหมั้น นิดจะลาออกไปเลย” “นิดคงไม่ลาออกหรอกพี่มล” พูดจบก็เหลียวมองโต๊ะทำงานเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอระแวงมากจริงๆ นับตั้งแต่ได้รับจดหมายลึกลับเมื่อหลายวันก่อน ที่ข้างในนั้นมีภาพถ่ายของพี่สิริกับพิณแก้ว ท่าทางสนิทสนมกันมาก ก่อนที่เธอจะหยิบซองจดหมายเก็บเข้าลิ้นชัก กมลวรรณสงสัยแต่ก็ไม่คิดถาม“แล้วถ้าคุณสิริขอให้ลาออกเตรียมตัวเป็นแม่บ้าน นิดจะไม่ยอมลาออกเหรอ แต่พี่ว่ามาทำงานก็ดีเหมือนนะ จะได้มีเพื่อนคุย แล้วจะได้รู้ได้เห็นอะไรดีๆ ด้วย จริ
ตอนที่ 8สักพักกมลวรรณก็เดินมาที่โต๊ะทำงานของนิธารา หลังได้เห็นสีหน้าของเจ้านายหนุ่มที่ดูไม่ดีเลย แล้วก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานยังหันมาสั่งให้พิณแก้วเข้าไปพบในห้องทำงาน“นิด”“พี่มล มีอะไรเหรอคะ” นิธาราวางมือจากงานเงยหน้าขึ้น“ทะเลาะกับคุณสิริเหรอ เมื่อครู่พี่เห็นคุณสิริทำหน้าตาราวกับไปโกรธใครมางั้นแหละ” กมลวรรณเอ่ยถามอย่างไม่อ้อมค้อม“ค่ะ แต่ก็ปกตินะคะ เพราะช่วงนี้นิดกับพี่สิริทะเลาะกันเกือบทุกวัน นิดเริ่มชินแล้ว” นิธาราบอกแบบไม่ปิดบัง“พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านิดกับคุณสิริจะทะเลาะกันเกือบทุกวัน คนกำลังจะหมั้นกันแท้ๆ” พูดแล้วก็อยากจะบอกเรื่องที่ตัวเองไปเห็นมากับตา เมื่อครั้งไปร้านอาหารแล้วได้เห็นเต็มตาว่าเจ้านายหนุ่มกับพิณแก้วขึ้นรถไปด้วยกัน“เชื่อเถอะพี่มล”“นิด...” กมลวรรณหยุดพูดแล้วก็มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าพนักงานคนอื่นๆ เพราะไม่อยากให้ใครมาได้ยิน“มี
ตอนที่ 9 “พี่ทำนิดตกใจเหรอ ขอโทษทีนะ” กมลวรรณเอ่ยขอโทษเมื่อเห็นชัดๆ ว่านิธาราดูตกใจมากทีเดียว “ไม่ ไม่เป็นไรพี่มล” “แล้วตกลงนิดเอาเอกสารไปให้คุณสิริหรือยัง ถ้ายังฝากพี่ได้นะ” “ยะ...ยังเลยพี่มล พอดีนิด...นิดลืมเอกสารอีกชุดหนึ่งเลยกลับมาเอา พี่มล เอ่อ...” นิธาราไม่รู้จะพูดอะไรดีเพื่อจะรั้งให้เลขาของว่าที่คู่หมั้นอยู่ต่อ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะกลับไปเจอ เหมือนที่เธอเพิ่งเจอมากับตัว“มีอะไรเหรอ แล้วนิดไม่สบายหรือเปล่า หน้าตาซีดๆ นะ พี่ว่าไปนั่งพักก่อนดีกว่านะ”“ได้พักสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน พี่มล” นิธาราตอบเสียงแผ่วๆกมลวรรณพาคนหน้าซีดไปนั่งพักที่มุมพักผ่อนของพนักงานที่ตอนนี้ไม่มีใครใช้ จากนั้นเธอก็เดินไปชงโกโก้ร้อ
ตอนที่ 10“นิดก็บอกไปตรงๆ เลยว่าคุณสิริมีคนอื่น พี่ว่าคุณหญิงคงเข้าใจ” กมลวรรณเอ่ยแนะนำ“นิดก็ภาวนาขอให้คุณหญิงเข้าใจเหมือนกันพี่มล”“งั้นพี่จะช่วยภาวนาอีกคนนะ แต่ถ้านิดถอนหมั้นกับ คุณสิริจริงๆ นิดไม่เสียใจเหรอ”“นิดไม่เสียใจเลยพี่มล”“นิดนี่ก็พูดแปลกๆ พูดเหมือนตัวนิดไม่ได้รักคุณสิริ”“นิด...”“อย่าบอกนะว่านิดไม่ได้รักคุณสิริ” เห็นทีทางอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วกมลวรรณก็พูดขึ้นเสียงดัง“พี่มล เบาๆ ค่ะ”“โทษที พี่ลืมตัวไป ว่าแต่นิดไม่ได้รักคุณสิริจริงเหรอ”นิธาราพยักหน้าแทนการพูดตอบ ทำเอากมลวรรณถึงกับถอนใจ แล้วก็คิดไม่ตกกับเรื่องนี้ ถ้าหากทางคุณหญิงไม่ยอมให้ยกเลิกงานหมั้น“พี่มล ตอนเที่ยงเราไปหาทานด้วยกันนะ” นิธาราเปลี่ยนเรื่อง เพราะยิ่งพูดเธอก็ยิ่งเครียด“จะเที่ยงแล้วเหรอ”“ยังหรอกพี่มล นิดแค่ชวนไว้ก่อน”
ตอนที่ 11“ฉันจะเชื่อหล่อนสักครั้ง แต่ถ้าหล่อนไม่รักษาคำพูด ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกชายหล่อน!” คุณเซียล่าวางสายทันทีเมื่อพูดจบทิ้งให้คนปลายสายได้แต่ร้องเรียกผ่านไปตามสาย ครั้นจะกดโทรกลับไปโทรศัพท์ก็ถูกแย่งคืนไปแล้ว“ขอโทรศัพท์ให้ฉันเถอะ” นิธาราเอ่ยขอร้องชายหน้าตาเหี้ยมเสียงสั่น เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย“อย่าเรื่องมาก!” ชายหน้าเหี้ยมตะคอกกลับพร้อมกับที่โทรศัพท์ก็ส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง นิธาราจึงขอร้องให้เธอได้พูดคุยกับคุณเซียล่า แต่อีกฝ่ายกลับหันมองด้วยสายตาขุ่นขวางแล้วกดวางสาย นิธาราได้แต่นั่งนิ่งมาตลอดทางกระทั่งรถตู้ขับกลับมาที่เดิม“ลงไป!” รถตู้ยังไม่ทันจอดสนิทชายหน้าเหี้ยมก็ตวาดไล่ เมื่อได้รับคำสั่งจากคนทางไกลว่าอย่าเพิ่งทำอะไรเหยื่อสาว ด้านนิธาราก็รีบพาตัวเองลงจากรถก่อนที่รถตู้คันดังกล่าวจะเคลื่อนออกไปสวนกลับรถอีกคันขับเข้ามา“สวัสดีครับ คุณนิด” เจ้าของรถดกระจกลงแล้วกล่าวท
ตอนที่ 12“นิดแน่ใจ”“พี่จะเชื่อก็แล้วกัน” พูดจบก็หันมาปลดเสื้อผ้าตัวเองออก นิธาราจึงใช้โอกาสนี้ผลักว่าที่คู่หมั้นหนุ่มสุดแรง ด้านสิริก็หัวเสียเมื่อว่าที่คู่หมั้นสาวหนีไปคว้ามีดปอกผลไม้มาขู่เขา“นิด! วางมีดลง”“พี่ก็ออกไปจากห้องนิดก่อนสิ แต่ถ้าพี่ไม่ออกไป นิดจะโทรเรียกตำรวจ” นิธาราแกว่งมีดในมือไปมาเพื่อข่มขู่“เรียกตำรวจงั้นเหรอ”“นิดจะโทรแจ้งตำรวจจริงๆ ถ้าพี่สิริยังไม่ออกไป”“นิด! พี่ไม่ทำอะไรนิดแล้ว นิดวางมีดลงเถอะ แล้วพี่ก็ขอโทษที่ล้อเล่นกับนิดแรงไป นิดวางมีดลงนะ” สิริหว่านล้อมและหาจังหวะไปคว้าตัวว่าที่คู่หมั้นสาว แล้วถ้าได้ตัวเขาจะลงโทษให้สาสม!“ออกไป!” นิธาราไม่ยอมทำตามคำร้องของ่ายๆ เพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจเขา“นิด! พี่บอกว่าไม่ทำก็ไม่ทำ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่านิดไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายพี่ เพราะครอบครัวของพี่มีบุญคุณกับนิด จำเอาไว้!” สิริตอบกลับเสียงห้วนจัด ก
ตอนที่ 13“แต่งงานกันไปก็รักกันเองนั่นแหละ นิดต้องจำเอาไว้ว่าคุณหญิงมีบุญคุณกับครอบครัวของเรา แล้วถ้าไม่ได้คุณหญิงจ่ายค่ารักษาให้แม่ครั้งนั้น แม่คงตายไปแล้ว”“นิดรู้ แต่นิดไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งงานกับพี่สิริจริงๆ นะแม่ แล้วผู้หญิงอย่างนิดก็ไม่คู่ควรกับพี่สิริด้วย นิด...นิดกลัวจะทำให้คุณหญิงผิดหวัง” คนมีอดีตบอกเสียงสั่นเครือ รู้สึกผิดทุกครั้งที่ปิดบังเรื่องมีลูกต่อมารดา รวมไปถึงครอบครัวของคุณหญิง ที่เมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนต่างประเทศ แต่เธอกลับทำให้ท่านต้องผิดหวัง มิซ้ำหนำยังเธอยังปกปิดทุกคนเอาไว้อีก“นิดมีคนรักเหรอ” คนเป็นแม่ถามเสียงดุ“นิด...”“ไม่ต้องมาพูดอะไรแล้ว ยังไงแม่ก็ไม่ยอมให้นิดไปยกเลิกงานหมั้นแน่ๆ แล้วถ้านิดไม่เชื่อฟังแม่ จะได้เห็นดีกัน!”“แม่!” นิธาราร้องเรียกเมื่อโดนยื่นคำขาดมาแบบนี้ แต่แม่กลับไม่สนใจซ้ำยังวางสายใส่เธอ พอโทรไปหาอีกท่านก็ไม่รับสาย ทำเอาคนไม่อยากหมั้นได้แต่นั่งหน้าเครียด ปวดหัวจนแทบระเบิด
ตอนที่ 14“พิณไม่กลัวคุณหรอกค่ะ แต่ตอนนี้คุณลงไปได้แล้วนะคะ อย่าทำให้คุณหญิงโกรธเลย”“ผมไปก็ได้ แต่คุณอย่าโกรธคุณแม่ของผมได้ไหม”“พิณไม่โกรธท่านหรอกค่ะ”“ขอบคุณที่รัก” ขาดคำสิริก็จูบลา ก่อนจะยอมลงไปในงาน แล้วเดินไปหาผู้เป็นแม่“ทำไมแกลงมาช้า” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ็ดลูกชายเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน“ถึงมาช้าแต่ผมก็มาทันฤกษ์นะครับคุณแม่” สิริตอบกลับหน้าทะเล้น“แกนี่จริงๆ เลย” คุณหญิงฤทัยรัตน์ส่ายหน้าอย่างระอาลูกชาย ขณะเดียวกันก็มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองดูอยู่ และก็รู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มหายไปไหน“นิด” คนเป็นแม่ขานเรียกเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ“คะแม่” นิธาราเอ่ยถามด้วยสีหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะแม่ไม่ได้เพียงแค่สะกิด แต่ยังหยิกเธอจนเนื้อเขียว“จะอะไรอีกล่ะ ดูเราทำหน้า งานหมั้นตัวเองทั้งแท้ๆ แทนที่จะทำหน้าตาให้มันดีๆ นี่อะไรทำหน้าทำตาเหมือนโดนบังคับให้หมั
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ
ตอนที่ 47 “ผมไม่ยอม ผมต้องการคุณกับลูก แล้วผมไม่มีวันให้เราสามคนต้องแยกกันอีกแล้ว” เขาให้คำมั่น แม้ยังมีอุปสรรคขวางอยู่ก็ตาม “แต่คุณย่าของคุณพรากน้องฟลินท์ไปจากฉันนานแล้ว คุณเห็นใจฉันบ้างเถอะ ขอให้น้องฟลินท์ไปอยู่กับฉัน แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่พาน้องฟลินท์หนีไปไหน หากคุณอยากเจอ ก็มาเจอได้เลย” “ไม่ได้นิด” คลินท์ยืนกรานปฏิเสธ “คุณจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน คุณคลินท์” เธอถามอย่างตัดพ้อ “ผมไม่ได้ใจร้าย ทั้งที่ผมอยากใจร้ายกับคุณให้มากกว่านี้ตั้งแต่กลับมาหาคุณ แต่ผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมยังรักคุณ ได้ยินไหมนิด ผ
ตอนที่ 46ช่วงเย็นของวัน“คลินท์!” ราชันที่เพิ่งกลับจากการทำงานแล้วแม่บอกว่าเพื่อนมาหา ตอนนี้นั่งอยู่ที่ศาลาหลังบ้านท่าทางเหมือนคนมีเรื่องไม่สบายใจ เขาเลยรีบเดินมาหาเพื่อน แต่เรียกเพื่อนไปแล้ว เพื่อนก็นิ่งราวกับโดนสาป “คลินท์!!” ราชันเรียกดังกว่าเดิมแล้วเดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนรัก“ราชัน แกทำงานเสร็จแล้วเหรอ”“อืม แล้วแกเป็นอะไร นั่งเหม่อใจลอยคิดถึงใคร”“เปล่า” คนบอกเปล่าหน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด“หน้าตาแกชัดขนาดนี้ อย่าปิดเลยเพื่อน บอกมาเถอะ เผื่อแกจะสบายใจขึ้น” ราชันคาดคั้น ส่วนอีกคนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะให้เพื่อนได้ฟังเสียงสนทนาของผู้เป็นย่าและนิธารา ที่เขาได้บันทึกลงในโทรศัพท์ หลังจากเมื่อวานได้โทรสั่งให้ลูกน้องติดเครื่องดักฟังและกล้องจับภาพรอบบ้าน เพราะเขามั่นใจว่าเมื่อคุณย่าเจอกับนิธารา ทั้งสองคนจะต้องพูดอะไรกันแน่ๆ แล้วก็พูดจริงๆ“แล้วแกจะเอาไงต่อ” หลังจากได้ฟั
ตอนที่ 45 “แล้วหล่อนคิดว่าตาคลินท์จะยอมให้หล่อนพาลูกไปง่ายๆ งั้นเหรอ” “คุณคลินท์ต้องยอมค่ะ” “หลานฉันไม่มีวันยอม หล่อนอย่าฝันไปเลย” “แต่ถ้าคุณคลินท์รู้ความจริงว่าคุณเป็นคนยัดเยียดเงินให้นิด แล้วก็เอาชีวิตน้องฟลินท์มาขู่ให้นิดไปจากคุณคลินท์ คุณคลินท์ต้องยอมให้ลูกกับนิด” “ตาคลินท์จะไม่มีวันได้รู้ความจริงเรื่องนี้!” “ความลับไม่มีในโลกนี้ค่ะ คุณเซียล่า” นิธาราบอกอย