ตอนที่ 9
“พี่ทำนิดตกใจเหรอ ขอโทษทีนะ” กมลวรรณเอ่ยขอโทษเมื่อเห็นชัดๆ ว่านิธาราดูตกใจมากทีเดียว
“ไม่ ไม่เป็นไรพี่มล”
“แล้วตกลงนิดเอาเอกสารไปให้คุณสิริหรือยัง ถ้ายังฝากพี่ได้นะ”
“ยะ...ยังเลยพี่มล พอดีนิด...นิดลืมเอกสารอีกชุดหนึ่งเลยกลับมาเอา พี่มล เอ่อ...” นิธาราไม่รู้จะพูดอะไรดีเพื่อจะรั้งให้เลขาของว่าที่คู่หมั้นอยู่ต่อ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะกลับไปเจอ เหมือนที่เธอเพิ่งเจอมากับตัว
“มีอะไรเหรอ แล้วนิดไม่สบายหรือเปล่า หน้าตาซีดๆ นะ พี่ว่าไปนั่งพักก่อนดีกว่านะ”
“ได้พักสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน พี่มล” นิธาราตอบเสียงแผ่วๆ
กมลวรรณพาคนหน้าซีดไปนั่งพักที่มุมพักผ่อนของพนักงานที่ตอนนี้ไม่มีใครใช้ จากนั้นเธอก็เดินไปชงโกโก้ร้อนๆ มาให้
“โกโก้ร้อนๆ สักหน่อยนะนิด จะได้ดีขึ้น”
“นิดนี่แย่จัง ให้คนท้องมาดูแล”
“อย่าคิดมากเลย พี่เต็มใจดูแลนิด แต่เมื่อครู่นิดไปถึงหน้าห้องทำงานคุณสิริหรือยัง แล้วเห็นพิณแก้วนั่งทำงานอยู่หรือเปล่า พอดีว่าก่อนหน้าที่พี่จะมาหานิด คุณสิริเรียกเข้าไปพบ ไม่รู้เด็กนั้นออกมาหรือยัง เพราะช่วงนี้พิณแก้วชอบหายเข้าไปนานๆ ตาย! พี่นี่พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้นิดอย่าไปสนใจเลยนะ” กมลวรรณหยุดพูดก่อนที่จะพลั้งปากบอกความลับของสองหนุ่มสาวออกไปได้ทัน
“พี่มล” นิธาราเรียกแล้วก็หันมามองกมลวรรณ เพราะเธอคิดว่าอีกฝ่ายคงรู้
“นิดเรียกพี่ทำไมเหรอ” เมื่อถูกจ้องมากๆ เข้ากมลวรรณก็เริ่มวางตัวไม่ถูก
“พี่มล ถ้าพี่มลเคยเห็นอะไร พี่ก็บอกนิดมาเถอะค่ะ” แล้วเธอจะได้ตัดสินใจอีกครั้ง ก่อนที่งานหมั้นจะเกิดขึ้น ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่นาน
“พี่ไม่เคยเห็นอะไรเลยนะนิด”
“แต่นิดเชื่อว่าพี่เคยเห็น ไม่งั้นพี่ไม่มาถามนิดหรอก” นิธาราคาดคั้น เธอยอมรับว่าโกรธมากที่พี่สิริทำแบบนั้นแต่ความโกรธที่มีไม่ได้เกิดจากความหึงหวง แต่เธอโกรธเพราะกำลังถูกสองคนนั้นทำเหมือนกับว่าเธอไร้ตัวตน หากรักชอบกันจริงทำไมพี่สิริถึงไม่มาพูดกับเธอตรงๆ ที่เธอก็พร้อมจะหลีกทางให้คนทั้งสองด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว ในเมื่อเธอไม่เคยรักพี่สิริ แต่ที่ต้องหมั้นกันก็เพราะเธอไม่อาจขัดคุณหญิงฤทัยรัตน์ได้
“นิดอย่ามาคาดคั้นพี่แบบนี้สิ พี่...” กมลวรรณอึกอัก ใจก็อยากบอกแต่ก็กลัวจะตกงานอยู่เหมือนกัน เพราะงานสมัยนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ แล้วยิ่งเธอกำลังจะมีลูกอยู่ด้วย ทำให้เธอต้องคิดให้มาก ที่สำคัญเธอก็ไม่เคยเห็นกับตาสักครั้งว่าคุณสิริกับพิณแก้วเกินเลยกันไปแล้วหรือยัง
“พี่มล บอกนิดมาเถอะ” นิธาราทำหน้าขอร้อง
“คือพี่...”
“นิดขอร้องนะคะพี่มล ช่วยบอกนิดทีถ้าพี่รู้เห็นอะไรมา”
“แล้วนิดจะรู้ไปทำไมล่ะ แล้วพี่พูดตรงๆ นะว่านิดเป็นต่อผู้หญิงพวกนั้นมากๆ นิดไม่ต้องไปใส่หรอกนะ”
“แต่นิดอยากรู้ว่าเขาสองคนทำกับนิดแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว” แล้วเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้หญิงของพี่สิริเลย เธอผ่านการมีลูกแล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร เพราะความขี้ขลาดที่ทำให้เธอไม่กล้าสารภาพความจริงกับมารดาและผู้มีพระคุณ
“โธ่นิด เห็นใจพี่เถอะ พี่กลัวตกงาน” กมลวรรณเริ่มเครียด คิดช่างใจอยู่ว่าจะบอกหรือไม่บอกดี
“นิดสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่เดือดร้อน”
“ก็ได้ๆ พี่จะบอกเท่าที่พี่เห็น เพราะพี่ก็ทนเก็บเอาไว้ไม่ได้แล้วเหมือนกัน แต่พี่ต้องขอโทษนิดด้วยนะที่รู้เห็นมาสักพักแล้วแต่ก็ไม่ได้บอกนิด แต่พี่ก็เคยเปรยๆ กับเด็กคนนั้นแล้วนะ แต่เด็กคนนั้นก็ยังทำ พี่ล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพิณแก้วถึงได้ทำตัวแบบนี้ ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าคุณสิริกำลังจะหมั้น” กมลวรรณยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้แล้วบีบเบาๆ
“แต่บ้างทีก็อาจจะเป็นที่ผู้ชายก็ได้นะคะพี่มลที่ไปหลอกจนพิณแก้วหลงเชื่อ”
“พี่ว่าคงเลวๆ พอกันนั่นแหละ ไม่งั้นไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอก ว่าแต่นิดพร้อมจะฟังจริงเหรอ พี่ไม่อยากให้นิดไม่สบายใจกับเรื่องนี้ เพราะอีกไม่กี่วันนิดกับคุณสิริก็จะหมั้นกันแล้ว แล้วพี่ก็คิดว่าเด็กคนนั้นคงจะยอมถอยตอนนั้นแหละ” พูดไปแล้วก็ได้แต่ภาวนาขอให้ผู้ช่วยเลขายอมตัดใจจากคุณสิริ เพราะเธอไม่อยากเห็นเพื่อนรุ่นน้องต้องช้ำใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“แต่นิดว่าพี่สิริคงไม่ยอมเลิก”
“นิดรู้ได้ยังไง”
“นิดก็เดาๆ เอาค่ะ แต่นิดค่อนข้างมั่นใจว่าพี่สิริไม่ยอมเลิกกับพิณแก้วแน่ๆ” แต่ปัญหาคือเธอจะบอกคุณหญิงอย่างไรดีว่าให้ยกเลิกงานหมั้น เพราะลูกชายของท่านมีคนรักอยู่แล้ว
“ถ้านิดมั่นใจ แล้วไม่อยากช้ำใจ พี่ขอแนะนำให้นิดยกเลิกงานหมั้นไปเลย เพราะขืนให้หมั้นให้แต่งกันไป ยังไงก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วสองคนนี้ก็ดูมีอะไรกันแปลกๆ มาสักพักแล้วด้วย เกือบจะเดือนแล้วนะนิด ตอนนี้คงกำลังหลงกันทีเดียวแหละ แล้วพี่ก็ต้องขอโทษอีกครั้ง ที่เห็นแต่ไม่ได้มาเตือนนิด”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ พี่มลไม่ต้องคิดมาก”
“แล้วตกลงนิดจะไปบอกคุณหญิงหรือเปล่า”
“นิดจะขอปรึกษากับแม่ก่อน แต่ถ้านิดไปบอกคุณหญิง ไม่รู้คุณหญิงจะยอมหรือเปล่า เพราะตอนนี้คนก็รู้กันหมดแล้วด้วยว่าลูกชายของท่านกำลังจะหมั้น ถ้าจะให้มายกเลิกก่อนถึงวันหมั้นไม่กี่วัน ไม่รู้ท่านจะยอมหรือเปล่า” พูดจบก็ถอนใจด้วยความหนักใจ แล้วหากท่านไม่ยอมให้ยกเลิกงานหมั้นจริงๆ เธอจะทำอย่างไร
ตอนที่ 10“นิดก็บอกไปตรงๆ เลยว่าคุณสิริมีคนอื่น พี่ว่าคุณหญิงคงเข้าใจ” กมลวรรณเอ่ยแนะนำ“นิดก็ภาวนาขอให้คุณหญิงเข้าใจเหมือนกันพี่มล”“งั้นพี่จะช่วยภาวนาอีกคนนะ แต่ถ้านิดถอนหมั้นกับ คุณสิริจริงๆ นิดไม่เสียใจเหรอ”“นิดไม่เสียใจเลยพี่มล”“นิดนี่ก็พูดแปลกๆ พูดเหมือนตัวนิดไม่ได้รักคุณสิริ”“นิด...”“อย่าบอกนะว่านิดไม่ได้รักคุณสิริ” เห็นทีทางอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วกมลวรรณก็พูดขึ้นเสียงดัง“พี่มล เบาๆ ค่ะ”“โทษที พี่ลืมตัวไป ว่าแต่นิดไม่ได้รักคุณสิริจริงเหรอ”นิธาราพยักหน้าแทนการพูดตอบ ทำเอากมลวรรณถึงกับถอนใจ แล้วก็คิดไม่ตกกับเรื่องนี้ ถ้าหากทางคุณหญิงไม่ยอมให้ยกเลิกงานหมั้น“พี่มล ตอนเที่ยงเราไปหาทานด้วยกันนะ” นิธาราเปลี่ยนเรื่อง เพราะยิ่งพูดเธอก็ยิ่งเครียด“จะเที่ยงแล้วเหรอ”“ยังหรอกพี่มล นิดแค่ชวนไว้ก่อน”
ตอนที่ 11“ฉันจะเชื่อหล่อนสักครั้ง แต่ถ้าหล่อนไม่รักษาคำพูด ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกชายหล่อน!” คุณเซียล่าวางสายทันทีเมื่อพูดจบทิ้งให้คนปลายสายได้แต่ร้องเรียกผ่านไปตามสาย ครั้นจะกดโทรกลับไปโทรศัพท์ก็ถูกแย่งคืนไปแล้ว“ขอโทรศัพท์ให้ฉันเถอะ” นิธาราเอ่ยขอร้องชายหน้าตาเหี้ยมเสียงสั่น เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย“อย่าเรื่องมาก!” ชายหน้าเหี้ยมตะคอกกลับพร้อมกับที่โทรศัพท์ก็ส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง นิธาราจึงขอร้องให้เธอได้พูดคุยกับคุณเซียล่า แต่อีกฝ่ายกลับหันมองด้วยสายตาขุ่นขวางแล้วกดวางสาย นิธาราได้แต่นั่งนิ่งมาตลอดทางกระทั่งรถตู้ขับกลับมาที่เดิม“ลงไป!” รถตู้ยังไม่ทันจอดสนิทชายหน้าเหี้ยมก็ตวาดไล่ เมื่อได้รับคำสั่งจากคนทางไกลว่าอย่าเพิ่งทำอะไรเหยื่อสาว ด้านนิธาราก็รีบพาตัวเองลงจากรถก่อนที่รถตู้คันดังกล่าวจะเคลื่อนออกไปสวนกลับรถอีกคันขับเข้ามา“สวัสดีครับ คุณนิด” เจ้าของรถดกระจกลงแล้วกล่าวท
ตอนที่ 12“นิดแน่ใจ”“พี่จะเชื่อก็แล้วกัน” พูดจบก็หันมาปลดเสื้อผ้าตัวเองออก นิธาราจึงใช้โอกาสนี้ผลักว่าที่คู่หมั้นหนุ่มสุดแรง ด้านสิริก็หัวเสียเมื่อว่าที่คู่หมั้นสาวหนีไปคว้ามีดปอกผลไม้มาขู่เขา“นิด! วางมีดลง”“พี่ก็ออกไปจากห้องนิดก่อนสิ แต่ถ้าพี่ไม่ออกไป นิดจะโทรเรียกตำรวจ” นิธาราแกว่งมีดในมือไปมาเพื่อข่มขู่“เรียกตำรวจงั้นเหรอ”“นิดจะโทรแจ้งตำรวจจริงๆ ถ้าพี่สิริยังไม่ออกไป”“นิด! พี่ไม่ทำอะไรนิดแล้ว นิดวางมีดลงเถอะ แล้วพี่ก็ขอโทษที่ล้อเล่นกับนิดแรงไป นิดวางมีดลงนะ” สิริหว่านล้อมและหาจังหวะไปคว้าตัวว่าที่คู่หมั้นสาว แล้วถ้าได้ตัวเขาจะลงโทษให้สาสม!“ออกไป!” นิธาราไม่ยอมทำตามคำร้องของ่ายๆ เพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจเขา“นิด! พี่บอกว่าไม่ทำก็ไม่ทำ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่านิดไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายพี่ เพราะครอบครัวของพี่มีบุญคุณกับนิด จำเอาไว้!” สิริตอบกลับเสียงห้วนจัด ก
ตอนที่ 13“แต่งงานกันไปก็รักกันเองนั่นแหละ นิดต้องจำเอาไว้ว่าคุณหญิงมีบุญคุณกับครอบครัวของเรา แล้วถ้าไม่ได้คุณหญิงจ่ายค่ารักษาให้แม่ครั้งนั้น แม่คงตายไปแล้ว”“นิดรู้ แต่นิดไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งงานกับพี่สิริจริงๆ นะแม่ แล้วผู้หญิงอย่างนิดก็ไม่คู่ควรกับพี่สิริด้วย นิด...นิดกลัวจะทำให้คุณหญิงผิดหวัง” คนมีอดีตบอกเสียงสั่นเครือ รู้สึกผิดทุกครั้งที่ปิดบังเรื่องมีลูกต่อมารดา รวมไปถึงครอบครัวของคุณหญิง ที่เมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนต่างประเทศ แต่เธอกลับทำให้ท่านต้องผิดหวัง มิซ้ำหนำยังเธอยังปกปิดทุกคนเอาไว้อีก“นิดมีคนรักเหรอ” คนเป็นแม่ถามเสียงดุ“นิด...”“ไม่ต้องมาพูดอะไรแล้ว ยังไงแม่ก็ไม่ยอมให้นิดไปยกเลิกงานหมั้นแน่ๆ แล้วถ้านิดไม่เชื่อฟังแม่ จะได้เห็นดีกัน!”“แม่!” นิธาราร้องเรียกเมื่อโดนยื่นคำขาดมาแบบนี้ แต่แม่กลับไม่สนใจซ้ำยังวางสายใส่เธอ พอโทรไปหาอีกท่านก็ไม่รับสาย ทำเอาคนไม่อยากหมั้นได้แต่นั่งหน้าเครียด ปวดหัวจนแทบระเบิด
ตอนที่ 14“พิณไม่กลัวคุณหรอกค่ะ แต่ตอนนี้คุณลงไปได้แล้วนะคะ อย่าทำให้คุณหญิงโกรธเลย”“ผมไปก็ได้ แต่คุณอย่าโกรธคุณแม่ของผมได้ไหม”“พิณไม่โกรธท่านหรอกค่ะ”“ขอบคุณที่รัก” ขาดคำสิริก็จูบลา ก่อนจะยอมลงไปในงาน แล้วเดินไปหาผู้เป็นแม่“ทำไมแกลงมาช้า” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ็ดลูกชายเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน“ถึงมาช้าแต่ผมก็มาทันฤกษ์นะครับคุณแม่” สิริตอบกลับหน้าทะเล้น“แกนี่จริงๆ เลย” คุณหญิงฤทัยรัตน์ส่ายหน้าอย่างระอาลูกชาย ขณะเดียวกันก็มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองดูอยู่ และก็รู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มหายไปไหน“นิด” คนเป็นแม่ขานเรียกเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ“คะแม่” นิธาราเอ่ยถามด้วยสีหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะแม่ไม่ได้เพียงแค่สะกิด แต่ยังหยิกเธอจนเนื้อเขียว“จะอะไรอีกล่ะ ดูเราทำหน้า งานหมั้นตัวเองทั้งแท้ๆ แทนที่จะทำหน้าตาให้มันดีๆ นี่อะไรทำหน้าทำตาเหมือนโดนบังคับให้หมั
ตอนที่ 15“นิดไม่สนใจหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างไม่ใส่ใจ“นิด! ทำตามที่พี่บอกเดี๋ยวนี้” สิริตวาดใส่เสียงดังทำให้เอาคุณหญิงฤทัยรัตน์แทบจะลมจับไปเสียให้ได้ เมื่อจู่ๆ หนุ่มสาวที่กำลังจะสวมแหวนหมั้นเถียงกัน“สิริ ยัยนิด มีอะไรกันก็ค่อยเคลียร์กันทีหลังได้ไหม” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ็ดเบาๆ พร้อมกับทำหน้าตาดุใส่เพื่อเร่งให้ทั้งสองหยุดเถียงแล้วก็จัดการหมั้นกัน“ทำหน้าให้ดีๆ นิด” สิริรับปากมารดาแล้วหันมากระซิบสั่งคู่หมั้นสาว“ค่ะ” นิธารารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้“ดี” คู่หมั้นหนุ่มยิ้มอย่างผู้ชนะ“สิริ” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยเรียกลูกชายเสียงต่ำเมื่อลูกชายยังไม่จัดการสวมแหวนหมั้นเสียที“เดี๋ยวนี้เลยครับคุณแม่”“งั้นก็สวมแหวนสิ แขกพากันสงสัยแล้ว” คุณหญิงฤทัยรัตน์เร่ง ก่อนที่สิริจะหยิบแหวนเพชรสวมให้คู่หมั้นสาว จากนั้นคู่หมั้นสาวก็หันไปหยิบแหวนมาสวมให้กับคู่หมั้น จังหวะนั้นเธอได้เห็นใครบางคนเข้
ตอนที่ 16“พี่สิริ ปล่อยนิด” นิธาราเอ่ยขอร้อง“ไม่ปล่อย!” สิริตะคอกใส่“พี่สิริ! ปล่อยนิดนะ” นิธาราขอร้องน้ำตาคลอ เพราะเจ็บที่แขนจากแรงบีบของคู่หมั้นหนุ่ม“พี่ไม่ปล่อยให้นิดไปเสนอตัวให้มัน! ในเมื่อพี่ยังไม่ได้นิด นิดก็อย่าหวังจะได้ไปจากพี่” สิริบอกเสียงกร้าว ทำเอาคนถูกจับไว้หยุดดิ้น เธอมองหน้าคนที่ตัวเองนับถือมาตลอดอย่างผิดหวัง“พี่สิริ ปล่อย!”“พี่ไม่ปล่อยให้เธอไปอ่อยไอ้ฝรั่งหรอก แต่ถ้าอยากจะไปนอนกับมันมาก ก็บอกมันไปว่าให้รอหลังจากพี่ได้เธอแล้ว!” สิริตะคอกกลับด้วยใบหน้าดุดัน ขณะเดียวกันคนที่ถูกกล่าวถึงก็ยืนกอดอกมองคนทั้งสองโต้เถียงกัน โดยไม่คิดจะห้าม เพราะเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอดีตคนรักจะเอาตัวรอดได้อย่างไร“พี่สิริ!” นิธาราตกใจไปกับคำพูดของคู่หมั้นหนุ่ม“ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้นิด เพราะยังไงนิดก็ต้องเป็นของพี่” ขาดคำนั้น ฝ่ามือเล็กก็สะบัดใส่ใบหน้าของคู่หมั้นหนุ่ม&ld
ตอนที่ 17สิริเห็นแล้วก็กัดฟันลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปกระชากคู่หมั้นออกจากหนุ่มฝรั่งด้วยความโกรธ“พี่สิริ! นิดเจ็บนะ” นิธาราฟาดมือลงบนแขนคู่หมั้นหนุ่มไม่ยั้งเพื่อให้เขาปล่อย“พี่จะทำให้เธอเจ็บกว่านี้อีก ถ้าเธอยังให้ท่าไอ้ฝรั่ง!”“หยุดดูถูกนิดซะทีพี่สิริ” พูดจบก็จะสะบัดตัวออกจากคู่หมั้นหนุ่ม ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงเรียกของสิริ“นิด! กลับมา” สิริตะโกนสั่งเสียงดังลั่น ทว่าคู่หมั้นสาวไม่คิดจะสนใจ“เรียกให้ตาย คู่หมั้นของคุณก็ไม่กลับมา” คลินท์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“แกหุบปากไปเลยไอ้ฝรั่ง แล้วอย่าคิดว่าแกจะได้นอนกับคู่หมั้นของฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาต!” สิริหันมาตอบเสียงกร้าว เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่าอีกฝ่ายเห็นๆ ในเมื่อเขาเป็นคู่หมั้น“ผู้ชายอย่างคุณนี้น่า...” คลินท์หยุดหายใจแล้วพูดต่อ “น่าจะไปส่องกระจกดูตัวเองบ้างว่ามีอะไรเหนือกว่าผม” พูดจบก็กดยิ้มนิดๆ บนมุมปาก แล้วเขาก็แ
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ
ตอนที่ 47 “ผมไม่ยอม ผมต้องการคุณกับลูก แล้วผมไม่มีวันให้เราสามคนต้องแยกกันอีกแล้ว” เขาให้คำมั่น แม้ยังมีอุปสรรคขวางอยู่ก็ตาม “แต่คุณย่าของคุณพรากน้องฟลินท์ไปจากฉันนานแล้ว คุณเห็นใจฉันบ้างเถอะ ขอให้น้องฟลินท์ไปอยู่กับฉัน แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่พาน้องฟลินท์หนีไปไหน หากคุณอยากเจอ ก็มาเจอได้เลย” “ไม่ได้นิด” คลินท์ยืนกรานปฏิเสธ “คุณจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน คุณคลินท์” เธอถามอย่างตัดพ้อ “ผมไม่ได้ใจร้าย ทั้งที่ผมอยากใจร้ายกับคุณให้มากกว่านี้ตั้งแต่กลับมาหาคุณ แต่ผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมยังรักคุณ ได้ยินไหมนิด ผ
ตอนที่ 46ช่วงเย็นของวัน“คลินท์!” ราชันที่เพิ่งกลับจากการทำงานแล้วแม่บอกว่าเพื่อนมาหา ตอนนี้นั่งอยู่ที่ศาลาหลังบ้านท่าทางเหมือนคนมีเรื่องไม่สบายใจ เขาเลยรีบเดินมาหาเพื่อน แต่เรียกเพื่อนไปแล้ว เพื่อนก็นิ่งราวกับโดนสาป “คลินท์!!” ราชันเรียกดังกว่าเดิมแล้วเดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนรัก“ราชัน แกทำงานเสร็จแล้วเหรอ”“อืม แล้วแกเป็นอะไร นั่งเหม่อใจลอยคิดถึงใคร”“เปล่า” คนบอกเปล่าหน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด“หน้าตาแกชัดขนาดนี้ อย่าปิดเลยเพื่อน บอกมาเถอะ เผื่อแกจะสบายใจขึ้น” ราชันคาดคั้น ส่วนอีกคนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะให้เพื่อนได้ฟังเสียงสนทนาของผู้เป็นย่าและนิธารา ที่เขาได้บันทึกลงในโทรศัพท์ หลังจากเมื่อวานได้โทรสั่งให้ลูกน้องติดเครื่องดักฟังและกล้องจับภาพรอบบ้าน เพราะเขามั่นใจว่าเมื่อคุณย่าเจอกับนิธารา ทั้งสองคนจะต้องพูดอะไรกันแน่ๆ แล้วก็พูดจริงๆ“แล้วแกจะเอาไงต่อ” หลังจากได้ฟั
ตอนที่ 45 “แล้วหล่อนคิดว่าตาคลินท์จะยอมให้หล่อนพาลูกไปง่ายๆ งั้นเหรอ” “คุณคลินท์ต้องยอมค่ะ” “หลานฉันไม่มีวันยอม หล่อนอย่าฝันไปเลย” “แต่ถ้าคุณคลินท์รู้ความจริงว่าคุณเป็นคนยัดเยียดเงินให้นิด แล้วก็เอาชีวิตน้องฟลินท์มาขู่ให้นิดไปจากคุณคลินท์ คุณคลินท์ต้องยอมให้ลูกกับนิด” “ตาคลินท์จะไม่มีวันได้รู้ความจริงเรื่องนี้!” “ความลับไม่มีในโลกนี้ค่ะ คุณเซียล่า” นิธาราบอกอย