หนังเรื่องใหม่ที่จะต้องถ่ายทำฉากบางส่วนที่ต่างจังหวัด อาเน็ทชวนฉันให้ตามไปด้วยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และตรงกับช่วงที่อาจารย์จัดให้นักศึกษาปีสี่ออกไปลงพื้นที่หาข้อมูลทำวิจัยในวันจันทร์และอังคาร ฉันจึงมีเวลาหยุดยาวรวมสี่วันไปดูงานในกองถ่ายกับเขาอากาศในช่วงต้นปีค่อนข้างเย็นสบาย การถ่ายทำที่รีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาจึงเป็นอะไรที่ฉันรู้สึกมีความสุขมาก“พระเอกเดินตามนางเอกไป พอถึงตรงต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นก็ดึงนางเอกให้หลบ แล้วล้มไปตรงที่ทำเครื่องหมายเอาไว้” อาเน็ทกำกับให้พระนางทำตามบทผ่านโทรโข่ง แล้วนั่งดูจอมอนิเตอร์ตรงหน้าฉันมองดูสีหน้าที่จริงจังนั้นแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะดูพี่วินกับพี่เมย์ที่เป็นพระนางในเรื่องใหม่นี้กำลังแสดงเป็นเทคที่สามของซีนนี้พี่วินเดินตามง้อพี่เมย์ในฉาก พอถึงต้นไม้ใหญ่ก็ดึงพี่เมย์ให้ล้มลงไปที่ข้างทางที่มีเบาะเตรียมเอาไว้แล้วอาเน็ทก็สั่งคัท“คัท! ซีนต่อไปกล้องแพลนไปที่กิ่งไม้”ทีมงานปีนขึ้นไปต้นไม้พร้อมกับแกะเชือกมักท่อนไม้ขนาดกลางที่เตรียมเอาไว้ให้ตกลงมาให้กล้องจับภาพตอนกิ่งไม้ตกเพื่อนำไปตัดต่อให้ดูเหมือนว่ามันหล่นลงมาจากนั้นอาเน็ทก็ให้ถ่ายฉากที่พระนางล้มลงแล้วกลิ้ง
สายน้ำที่เย็นฉ่ำราดรดกายของเราทั้งสองคน ผู้กำกับหนุ่มใหญ่กำลังถูสบู่ให้ฉันโดยการกอดเข้ามาจากด้านหลังแล้วลูบไล้ถูฟองไปที่สองเต้าท่อนเนื้อแกร่งถูไถที่สะโพกจากด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ใคร่และต้องการเขามากขึ้นหลังจากที่น้ำชำระคราบฟองสบู่ไปจนหมดเราก็ปิดน้ำแล้วหันมาสบตากันด้วยความปรารถนา แล้วอาเน็ทก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่มาจูบที่แก้ม“ซีนแรกเราจะเอากันในห้องน้ำก่อน”“แน่ะ เลิกกองแล้วนะคะ”“อย่าดื้อสิครับ เล่นตามบทจนกว่าอาจะสั่งคัท” เขาพูดจบก็ดันฉันไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำยกขาฉันขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดท่อนเนื้อหัวบานนั้นชำแหละเข้ามาในรูสวาทแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างนุ่มนวล“อื้ม อาเน็ทขา....”“วันนี้อาจะทำเบาๆ เดี๋ยวข้างห้องจะได้ยิน” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู ฉันแอบลอบยิ้มไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเบาแรงได้นาน ในเมื่อที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยอ่อนโยนกับเมียเด็กคนนี้อาเน็ทซอยฉันอัดเข้ากับผนังห้องน้ำ ฉันยืนขาเดียวกอดคล้องคอเขาเอาไว้รับจูบจากกลีบปากที่ร้อนผ่าวแล้วจูบแลกเกี่ยวปลายลิ้น ดื่มด่ำกับรสหวานในโพรงปากอย่างกระหายสะโพกสอบเคลื่อนเข้ามาอย่างดุดันไม่ยอมหยุดจากนั้นก็อัดสะโพกฉันเข
สายตาที่กำลังมองอย่างโลมเลียและจาบจ้วงของชายที่นั่งข้างๆ พี่ชายทำให้อันธิการู้สึกไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขานักกพลคือเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยทำงานแล้วทั้งสองก็ยังคบหาสนิทสนมกันอยู่สายตาที่เขามองเธอแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ มันเต็มไปด้วยความเอ็นดูมากกว่ามองเหมือนอยากจับเธอแก้ผ้าแล้วสำรวจเรือนร่างที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างในตอนนี้“อันอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะ” หญิงสาวบอกพี่ชายขณะที่กินมื้อเช้าด้วยกันโดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเสนอหน้ามานั่งโต๊ะด้วย“ให้ไอ้กพลไปส่งนะ วันนี้พี่จะใช้รถ”“อ้าว พี่ณพก็ไปกับพี่กพลสิ รถตัวเองเสียก็ให้เพื่อนมารับแล้ว” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายจะให้คนหื่นกามอย่างเพื่อนสนิทเขาไปส่งเธอ“พี่ให้กพลมันมาแต่เช้าเพื่อไปส่งอันนั่นแหละ ไม่ใช่มารับพี่” อรรณพบอกแล้วยึดกุญแจรถที่วางบนโต๊ะมาถือไว้“อ้าว ตัวเองทำงานด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ” เธอรู้ว่าพี่ชายคิดจะทำอะไรจะจับคู่เธอให้กพลนะหรือ ฝันไปเถอะ!“เอากุญแจรถอันมานะ ไม่งั้นอันจะโทรไปฟ้องแม่” เธออ้างแม่ขึ้นมา ทำให้อรรณพต้องคืนกุญแจรถให้น้องสาวแต่โดยดี“ก็แค่เนี้ยะ” หญิงสาวย่นจ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ตนแอบรักนอนรออยู่ตรงหน้า กพลเกิดอารมณ์เป็นอย่างมากในใจเอาแต่ขอโทษเพื่อนรักอย่างอรรณพที่ตนทำเกิดกว่าเหตุเพราะทุกอย่างมันเกินห้ามใจ“เร็วๆ สิคะเดี๋ยวพี่ณพก็กลับมาก่อนหรอก”เธอเร่งเร้าเขาด้วยน้ำเสียงที่แสร้งไม่พอใจ แต่ในใจนั้นทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นอยากโดนกระบองนั้นฟาดที่เนินสวาทใจจะขาดแล้ว“บอกว่าเร็วๆ” เธอเร่งเขาไม่หยุด“บ่นเก่งจัง” เขาคร่อมร่างหลวมๆ ทับเธอเอาไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั้นลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากที่บ่นไม่หยุดปลายลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็กนั้นแล้วดูดปลายลิ้นนั้นจูบอย่างดูดดื่มจนเธอครางอื้ออึงเพราะหายใจไม่ถนัดมือของหญิงสาวไขว่คว้าที่หัวไหล่กว้างแล้วแอ่นสะโพกเรียกร้องหาท่อนเนื้อที่พาดอยู่ต้นขาของตนให้เขารีบลงมือเสียทีกพลรู้ว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์ถูกเล้าโลมเล็กน้อยก็เกิดอารมณ์และคงต้องการสิ่งนั้นจนทรมานด้วยความเสียวจนต้องแสดงออกมาด้วยภาษากายเขาไม่รอช้าที่จะดับความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอด้วยแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขาเขาหยัดตัวนั่งคุกเข่า มือหนากำท่อนเนื้อถูไถที่รอยแยกฉ่ำน้ำบริเวณช่อกลีบบัวที่แย้มให้เห็นเกสรเต่งตึงตรงหน้
ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาวอันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาวประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจ
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
ภายในห้องกระจกแคบๆ จำนวนหลายห้องเรียงกัน หันหน้าไปทางเวทีเล็กๆ ที่ทำการประมูลสาวงามที่คัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดีภายในห้องมีเศรษฐีนักล่าพรหมจรรย์นั่งอยู่ห้องละหนึ่งคนเพื่อทำการประมูลหญิงสาวในค่ำคืนนี้สาวงามที่ถูกนำมาประมูลนั้นถูกซื้อตัวมาด้วยความเต็มใจเนื่องจากภาระของครอบครัว บางคนมีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้นก็ต้องรับงานนี้เพื่อสิ่งที่พวกเธอต้องการ นั่นคือ “เงิน”กฎของการขายพรหมจรรย์คือไม่มีการสานต่อใดๆ ซึ่งหลังจากการประมูลก็จะถูกส่งตัวขึ้นห้องในทันที เว้นแต่จะเต็มใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้วไปตกลงกันนอกรอบในภายหลัง“สาวงามคนสุดท้ายในค่ำคืนนี้ ชื่อน้องน้ำขิง อายุยี่สิบสองปี สถานะโสด ลักษณะเยื่อพรหมจรรย์สมบูรณ์เต็มร้อย เปิดประมูลที่หนึ่งหมื่นบาท” พิธีกรชายกล่าวแล้วให้หญิงสาวเดินไปมารอบๆ เวทีตามที่ซักซ้อมกันเอาไว้แล้วเธอทำอย่างเต็มที่เพราะยิ่งยอดประมูลสูงรายได้เธอก็จะสูงตามไปด้วย เพราะข้อตกลงคือคนละครึ่ง แม้ฟังดูไม่ยุติธรรมแต่ว่าที่นี่รับรองรายได้และลูกค้าที่ประมูลก็ระดับวีไอพีทั้งนั้น“หนึ่งหมื่นห้าพัน” น้ำเสียงที่ราบเรียบภายใต้หน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้ากล่าวแล้วยกยิ้มที่มุมปาก พอใจกับหญิงสาวต
เมื่อหัวใจตรงกันเรื่องราวหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรยากเลยสักนิดปกรณ์กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของศรีภิญญาที่ฝากท้องที่บ้านเธอในทุกวัน แล้วยังเป็นฝ่ายหอบหิ้วอาหารไปจนพ่อแม่ของเธอขอให้พวกเขาเป็นฝ่ายต้อนรับบ้าง“แม่บอกว่าไม่ต้องซื้อเข้ามา แม่จะโชว์ฝีมือทำอาหารให้กินเอง”“ไม่ได้หรอกครับ กว่าจะกลับมาถึงบ้าน กว่าจะทำอาหาร ผมไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อย” เขาเรียกมารดาของศรีภิญญาว่าแม่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ“ก็สะดวกดีนะคุณ อร่อยด้วย”เธอหันไปมองค้อนสามี “คุณพูดแบบนี้แปลว่าฉันทำอาหารไม่อร่อยเหรอ”“เปล่า ผมแค่จะบอกว่าอาหารที่ซื้อมาทั้งอร่อยทั้งสะดวก ฝีมือคุณน่ะอร่อยกว่าเป็นสิบเท่า พวกนี้เทียบไม่ติดหรอก” สามีวัยกลางคนพูดอย่างเอาใจปกรณ์และศรีภิญญาหัวเราะให้กับทั้งคู่ที่งอนง้อกันราวกับคู่รักหนุ่มสาว“แล้วที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะพูดคืออะไรเหรอลูก” ว่าที่แม่ยายหันมาถามแล้วมองด้วยสายตาที่อยากรู้เรื่องราวมือใหญ่หยิบแก้วน้ำดื่มที่มีหยดน้ำเกาะขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหายและลดความตื่นเต้น ยื่นมือไปกุมมือของคนรักที่คบหากันมานานสามเดือนเอาไว้เพื่อพูดเรื่องสำคัญ“ผมไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหน เลยอยากจะมาทาบทามสู่ขอศรีให้ม
นอกจากห้องทำงานของเขาแล้ว ในเวลากลางวันร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของศรีภิญญาก็เป็นอีกสถานที่ที่เขาใช้เวลาอยู่กับการเอาใจเธอ“ที่นี่เป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ ไม่ใช่คาเฟ่ที่จะมานั่งตากแอร์เล่น” เธอบอกเขาที่นั่งจิบกาแฟแก้วที่สองแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมกลับ“ผมขอเครื่องซักผ้าห้าเครื่อง พัดลมสิบ ทีวีสามสิบเก้านิ้วห้าเครื่อง” เขาบอกเธอแล้วพยักหน้าให้ลภัสเตรียมตัวนำบัตรเครดิตออกมาให้“จะซื้อไปทำไมคะตั้งเยอะแยะ”“เอาไปเป็นของขวัญปีใหม่ให้พนักงานจับสลากครับ” เขาตอบแล้วมองดูใบหน้าที่จริงจังของเธอ“นี่เพิ่งจะเดือนสิงหา เตรียมพร้อมมากเลยนะคะ” เธอหรี่ตามองเขาที่พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อทำคะแนน และมันทำให้พ่อแม่เธอพอใจเป็นอย่างยิ่ง“เอาไว้ค่อยกลับมาซื้อเถอะค่ะ ซื้อไปเก็บไว้มันจะหมดประกันทิ้งเปล่าๆ” เธอบอกเขาไม่อยากให้เสียเงินในการมาเอาใจเธอ จากนั้นก็เดินไปต้อนรับลูกค้าที่กำลังหลั่งไหลเข้าร้าน“ศรีเขาชอบคนทำการทำงานน่ะ มานั่งเฝ้าเขาแบบนี้เขาไม่ปลื้มหรอกนะ” แม่ของเธอแอบมากระซิบบอกเขาเพื่อเอาใจช่วยแล้วรีบกลับไปนั่งประจำที่โต๊ะของตนปกรณ์นั่งรอจนกระทั่งเธอว่างแล้วเดินเข้าไปพูดคุยด้วย “ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะ
“วันนี้มีการประมูลสำคัญ บอสไม่เตรียมตัวออกไปเหรอครับ” เลขานุการหนุ่มถามกึ่งเตือนความจำให้แก่อีกฝ่ายโดยปกติแล้วปกรณ์จะนับวันนับคืนรอให้วันนี้มาถึงแต่ครั้งนี้กลับดูนิ่งๆ และไม่ได้สนใจรับรู้อะไร“ฉันไม่ไป นายก็รู้นี่ว่ามันไม่ค่อยทำงาน” เขาตอบเสียงเรียบเมื่อพูดถึงเรื่องน้องชายที่หลับยาวลภัสนึกถึงเรื่องนี้ได้ก็ไม่แปลกใจที่เจ้านายไม่อยากไปงานนี้ปกรณ์วางมือจากงานแล้วนั่งหมุนปากกาในมืออย่างครุ่นคิด หลายวันมานี้มีแต่ใบหน้าของศรีภิญญาลอยมารบกวนจิตใจเขาอยู่ตลอดเวลา“ก็ไม่ได้สวยอะไรขนาดนั้น เถียงก็เก่ง ก็แค่ยิ้มหวาน เสียงนุ่ม ดูรวมๆ แล้วน่ารักเป็นธรรมชาติ ทำไมฉันต้องคิดถึงเธอด้วยนะ” เขาพึมพำแล้วพ่นลมหายใจออกมา“บอสว่าอะไรนะครับผมได้ยินไม่ถนัด อะไรหวานๆ นุ่มๆ” ลภัสเงยหน้าจากโต๊ะทำงานของตนที่อยู่ในห้องเดียวกันกับเจ้านายขึ้นมาถามเมื่อได้ยินเขาพูด“ฉันไม่ได้พูดกับนาย”“ให้ผมหยุดเรื่องตามหาผู้หญิงด้วยเลยไหมครับ”“หยุดได้เลย ฉันไม่สนใจแล้ว” เขาพูดด้วยท่าทางเหม่อลอยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“ยังไม่สบายใจกับสิ่งที่คุณศรีภิญญาพูดอีกเหรอครับ บอสอย่าเอามาใส่ใจเลยครับ บางทีมันอาจเป็นเพราะช่วงนี้บอสทำงานหนั
ที่บริษัทขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเล็กๆ ของครอบครัว ศรีภิญญากำลังเดินตรวจดูสินค้าในสต๊อกหลังร้านพร้อมกับพนักงานอีกคนหญิงสาวช่วยงานที่ร้านมาตั้งแต่เด็ก รู้วิธีการทำงานและขั้นตอนต่างๆ เป็นอย่างดี พอเรียนจบเธอก็กลับมาทำงานที่บ้านแต่ก็อยากลองออกไปหาประสบการณ์ที่อื่นดูบ้างข้อเสนอของลภัสที่ติดต่อมาตอนนั้นทำให้เธอดีใจที่จะหลุดออกจากกรอบของธุรกิจครอบครัวแต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้านายของเขาจะดับความฝันเธอแล้วยังดูถูกกันอีก“สินค้าครบนะคะ แต่ของแถมลูกค้าหายไปห้าชิ้น” เธอพูดเสียงนุ่มหวาน“เมื่อวานนี้ลูกค้าซื้อพัดลมไปสองตัวค่ะ แล้วก็เครื่องซักผ้าสองเครื่อง ต่อรองเก่ง แต่เจ๊แกไม่ลดให้เฮียก็เลยแถมปลั๊กพ่วงไปสองอันแล้วก็ร่มสามคันค่ะ”“คนเดียวใช้ร่มตั้งสามคันเลยเหรอ พ่อนะพ่อ” เธออดส่ายหน้าให้กับการแก้ปัญหาแบบคนใจอ่อนของบิดาไม่ได้“น้องศรีคะ เจ๊เรียกไปขายของค่ะ” พนักงานขายหน้าร้านเดินเข้ามาเรียกเธอ“แล้วทำไมพี่มะลิไม่ขายเองล่ะคะ”“ก็ลูกค้าบอกเจ๊ว่าจะซื้อกับน้องศรีค่ะ เจ๊เลยให้พี่มาตาม ลูกค้าท่าทางน่ากลัวแต่หล่อมากค่ะ อย่างกับพระเอกหนังจีนฟีลแบบเจ้าพ่อ” มะลิพูดแล้วทำหน้าตาชวนฝันใบหน้าหวานลดยิ้มลง คิดว่าคงเป็น
คำดูถูกและต่อว่าจากหญิงสาวแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอกันมาเขาควรจะรู้สึกโกรธจนอยากบีบคอเธอที่หญิงสาวพูดจี้ถูกจุดอ่อนในใจของเขา ความรักเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานแล้วตั้งแต่ที่โดนทรยศไปในตอนนั้น แต่กลับรู้สึกดีกับคำต่อว่านั้น“ฉันจะออกไปข้างนอกนะจะกลับมาตอนค่ำๆ มีอะไรก็ค่อยคุยกันพรุ่งนี้” เขาบอกเลขานุการหนุ่มเสียงเรียบและใบหน้าดูไร้อารมณ์ราวกับกำลังเบื่อหน่าย“ครับ” ลภัสรับทราบแล้วยืนมองเจ้านายลุกขึ้นแล้วคว้าเสื้อสูทที่แขวนอยู่ด้านหลังมาสวมด้วยท่าทางองอาจ กระชับเสื้อให้เข้าที่แล้วเดินออกจากห้องไปโดย ใช้ลิฟต์ส่วนตัวที่ตรงไปยังร้านจอดรถยนต์ของเขาเศรษฐีหนุ่มขับรถไปยังไนต์คลับแห่งหนึ่งแล้วเลือกสาวสวยให้มานั่งเคียงข้าง จนเพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของไนต์คลับเกิดความสงสัยขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปทักทาย“มาแต่หัววันเชียวนะ ลูกค้าคนแรกเลยมั้งเนี่ย”“ใครใช้ให้แกเปิดก่อนที่อื่นเขาล่ะ” ปกรณ์พูดยิ้มๆ ที่นี่เปิดเร็วเหมาะสำหรับคนใหญ่คนโตมานั่งคุยงานแบบมีสาวสวยนั่งคลอเคลีย“ปกติแกไม่ค่อยสนใจผู้หญิงของฉันเลยนี่หว่าครั้งนี้ลดสเปกลงเหรอหรือว่ายังไง” เขาถามเพราะปกติแล้วคู่นอนที่ปกรณ์เลือกส่วนมากจะเป็นลูกค้าในร้านท
หลังจากที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ศรีภิญญาก็เริ่มรู้สึกว่าเธอทำตัวไม่ถูกเพราะสายตาเข้มคู่นั้นจ้องมาที่เธอราวกับทะลุเข้าไปในเสื้อผ้า“คุณจะให้ฉันทำงานอะไรเหรอคะ” เธอตัดสินใจทำลายความเงียบแล้วถามว่าเขาขึ้นมาตรงๆ อย่างเช่นที่เขาเองก็พูดตรงๆ กับเธอในตอนแรก“อันดับแรกผมขอสัมภาษณ์คุณก่อน” เขาไม่ตอบคำถามเธอแล้วเปลี่ยนประเด็นเป็นการคุยเรื่องอื่นแทน“ค่ะ อย่างนั้นก็ได้”“คุณเคยมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า” คำถามแรกก็ทำเอาหญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเธอไม่มั่นใจเลยว่าคำถามนี้มันเกี่ยวกับการทำงานของเธออย่างไร พลางคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเขาใช้คำถามจิตวิทยากับเธออยู่ก็เป็นได้“ยังไม่เคยมีค่ะ” เธอตอบเขาไปตามความจริง“แล้วคุณเคยทำกิจกรรมโลดโผนอะไรไหม อย่างเช่นปั่นจักรยาน วิ่ง หรือยิมนาสติก”“ก็เคยค่ะ แต่ไม่ได้โลดโผนมาก” คำถามของเขาเริ่มฟังดูแปลกๆ“คุณคิดอย่างไรกับเรื่องมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ไม่ใช่คนรัก” คำถามนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก ไม่ว่าจะเป็นคำถามทางจิตวิทยาหรือไม่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรถามกับคนที่ไม่ได้สนิทกันมากพอ“ขอโทษนะคะคำถามพวกนี้มันเกี่ยวกับหน้าที่ของฉันตรงไหนเหรอคะ” หญิงสาวถามแล้วจ้องตาเขาอ
“นี่จะสองสัปดาห์แล้วนะ ได้เรื่องไหม” ปกรณ์ถามเลขานุการเมื่อเซ็นเอกสารในแฟ้มเสร็จแล้ว“คนที่สมัครมาเยอะเลยครับ แต่พอพาไปตรวจก็ไม่พบว่าใครเหลือเยื่อพรหมจรรย์อยู่เลย บางคนหมอบอกว่าอาจจะฉีกขาดเพราะกิจกรรมหนักๆ เช่นปั่นจักรยาน แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้”“สรุปว่าไม่มีใครเลยเหรอ”“มีคนหนึ่งครับ เธอไม่ได้สมัครมาแต่ว่าเพื่อนของเธอแนะนำมาอีกที ผมให้คนไปสืบแล้วเธอโสดและไม่มีภาระหนี้สิน ครอบครัวอยู่ในฐานะดี ที่บ้านก็มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ท่าทางก็อ่อนหวานเรียบร้อย น่าจะยังไม่เคยผ่านใครมาจริงๆ แต่เรื่องพรหมจรรย์ผมยังไม่แน่ใจ”“ทุกวันนี้ผู้หญิงบริสุทธิ์หายากขนาดนั้นเลยเหรอ” ปกรณ์พูดอย่างครุ่นคิด“ถ้าบริสุทธิ์แบบไม่ผ่านผู้ชายมาก่อนก็มีเยอะครับ แต่คนที่เยื่อพรหมจรรย์ยังอยู่ดีแบบที่บอสต้องการมันไม่ได้หาง่ายๆ เลย หมอก็บอกว่าของแบบนั้นมันสามารถฉีกขาดได้”“นั่นสินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครเอามาประมูลในราคาที่สูงลิ่วอย่างนั้นหรอก”“บอสไม่สนใจสาวบริสุทธิ์ที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องเยื่อพรหมจรรย์บ้างเหรอครับ แบบนั้นจะหาง่ายกว่า” เลขานุการหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ฉันชอบความรู้สึกตอนที่ดันเข้าไป
เพราะทนรอให้บริษัทประมูลไม่ไหว ปกรณ์จึงใช้อำนาจเงินของตนในการประกาศหาสาวพรหมจรรย์มาเป็นคู่นอนของตนโดยผ่านเลขานุการมือขวาให้จัดหาผู้หญิงให้กับตน“เรื่องหาผู้หญิงผมทำได้นะครับบอส แต่ว่าให้หาผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์มันยากมากเลยนะครับ” ลภัสบอกนายของตนด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลเพราะเรื่องนี้มันผิดกฎหมายจะประกาศหาแบบโจ่งแจ้งนั้นไม่สามารถทำได้ และทำได้แบบจำกัดและไม่สามารถตรวจสอบได้“หามาแล้วพาไปตรวจให้หมอรับรอง ถ้าใครผ่านก็พามาไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ่ายเงิน” ปกรณ์พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย แม้เขาระบายกับใครก็ได้แต่อย่างน้อยทุกๆ หนึ่งเดือนก็ต้องได้สาวบริสุทธิ์สักคน“ครับ” เลขาหนุ่มได้แต่รับปาก เพราะหน้าที่เขาคือทำตามคำสั่งโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น ลภัสคิดหาวิธีหาหญิงสาวที่เจ้านายต้องการโดยใช้วิธีถามหาจากคนจัดหาสาวไซด์ไลน์ให้ถามหาเพื่อนๆ นักศึกษาที่อยากหาเงินใช้และพึ่งจะก้าวเข้ามาในวงการ โดยเน้นคนที่ยังบริสุทธิ์พร้อมเสนอราคาที่สูงไม่นานก็มีคนติดต่อเข้ามารับงานนี้มากมาย ลภัสนัดหญิงสาวเหล่านั้นไปตรวจภายในเพื่อยืนยันแต่ว่าทั้งสิบเอ็ดคนที่สมัครเข้ามานั้นไม่มีใครหลงเหลือเยื่อพรหมจรรย์เลยทำให้พวกเธอ
หลังจากหญิงสาวกลับออกมาจากห้องน้ำ เขาก็มองเอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกระหายแล้วลุกขึ้นถอดชุดคลุมของตนเองเผยให้เห้นหุ่นเปลือยกำยำสมส่วนและท่อนแกร่งที่ผงาดตั้งลำเตรียมพร้อมทำศึกหญิงสาวคุกเข่าลงที่พื้นจับท่อนเนื้อนั้นมาดูดเลียอย่างเอาใจ เป็นขั้นตอนที่ถูกแม่เล้าที่ดูแลตอนเก็บตัวสอนมา ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งจากการประมูลของเธอใช้ในการจัดการของคนเหล่านี้ริมฝีปากสัมผัสอย่างชำนาญตามที่เคยฝึกให้อมมะเขือยาวก่อนออกสนามจริง“ไปที่เตียงกันเถอะ” เขาพูดเสียงพร่าแล้วพาเธอไปยังเตียงนอนกลางห้องที่ปูผ้าสีขาวรอเอาไว้สำหรับการลงสนามในคืนนี้เรือนร่างเปลือยและสะอาดสะอ้านนอนหงายอยู่บนเตียงภายใต้ร่างกำยำของชายใส่หน้ากาก เขาตวัดลิ้นไล้เลียซอกหูนุ่มทำให้เจ้าของร่างนวลเนียนอ่อนระทวยเพราะตามไม่ทันคนที่ประสบการณ์มากกว่าใบหน้าคร้ามก้มลงไปที่เนินอกแล้วงับดูดอย่างคลั่งไคล้ ดูดเลียไล้ยอดอกสีหวานสลับกันไปมาด้วยความกระหายหิว“อ๊าส์ เบาๆ ค่ะ ซี๊ด น้ำขิงเจ็บ” เธอครวญครางเสียงหลงด้วยความเสียวกระสันเขายกยิ้มอย่างพอใจ มุดหน้าดูดขบต่ออย่างไม่ปรานี เลื่อนอุ้งมือหนาจู่โจมกลีบเนื้อสาวแล้วกระตุ้นจุดอ่อนไหวนั้นให้เธอยิ่งรู้สึกเสีย