เพราะทนรอให้บริษัทประมูลไม่ไหว ปกรณ์จึงใช้อำนาจเงินของตนในการประกาศหาสาวพรหมจรรย์มาเป็นคู่นอนของตนโดยผ่านเลขานุการมือขวาให้จัดหาผู้หญิงให้กับตน
“เรื่องหาผู้หญิงผมทำได้นะครับบอส แต่ว่าให้หาผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์มันยากมากเลยนะครับ” ลภัสบอกนายของตนด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลเพราะเรื่องนี้มันผิดกฎหมายจะประกาศหาแบบโจ่งแจ้งนั้นไม่สามารถทำได้ และทำได้แบบจำกัดและไม่สามารถตรวจสอบได้
“หามาแล้วพาไปตรวจให้หมอรับรอง ถ้าใครผ่านก็พามาไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ่ายเงิน” ปกรณ์พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย แม้เขาระบายกับใครก็ได้แต่อย่างน้อยทุกๆ หนึ่งเดือนก็ต้องได้สาวบริสุทธิ์สักคน
“ครับ” เลขาหนุ่มได้แต่รับปาก เพราะหน้าที่เขาคือทำตามคำสั่งโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
ลภัสคิดหาวิธีหาหญิงสาวที่เจ้านายต้องการโดยใช้วิธีถามหาจากคนจัดหาสาวไซด์ไลน์ให้ถามหาเพื่อนๆ นักศึกษาที่อยากหาเงินใช้และพึ่งจะก้าวเข้ามาในวงการ โดยเน้นคนที่ยังบริสุทธิ์พร้อมเสนอราคาที่สูง
ไม่นานก็มีคนติดต่อเข้ามารับงานนี้มากมาย ลภัสนัดหญิงสาวเหล่านั้นไปตรวจภายในเพื่อยืนยันแต่ว่าทั้งสิบเอ็ดคนที่สมัครเข้ามานั้นไม่มีใครหลงเหลือเยื่อพรหมจรรย์เลยทำให้พวกเธอพลาดโอกาสในการรับเงินก้อนใหญ่
“ฉันมีรุ่นพี่ที่รู้จักคนหนึ่ง รับรองว่าคนนี้ยังไม่เคยผ่านมือผู้ชาย รับรองซิงๆ” หญิงสาวที่ผิดหวังจากการตรวจเยื่อพรหมจรรย์บอกแก่เลขานุการหนุ่ม
“แล้วเพื่อนคุณสนใจงานนี้ไหม”
“คิดว่าไม่ค่ะ เพราะเธอไม่ได้ร้อนเงินอะไร แต่ถ้าเธอตกลงฉันจะได้เปอร์เซ็นต์ค่าแนะนำไหมคะ” เธอถามแล้วยิ้มด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์
“ขอข้อมูลติดต่อเธอครับ ถ้าเธอซิงจริงผมจะให้ค่าขนมคุณแน่”
“ฉันก็ซิงนะคะ เสียดายที่เยื่อฉีกขาดไปตอนไหนก็ไม่รู้ เจ้านายคุณโรคจิตหรือเปล่าตามหาคนที่มีเยื่อพรหมจรรย์ หายากมากเลยนะคะ” ยวนตาบอกเขาแล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ยั่วยวน
“แต่หายากไม่ได้แปลว่าไม่มีนี่ครับ” เขาตอบแล้วมองสายตาคู่หวานนั้น
“อยากได้ข้อมูลก็ตามไปเอาที่ห้องของฉันนะคะ” เธอบอกเขาอย่างเชิญชวน
“ยังซิงแน่นะครับยั่วเก่งจัง” เขากระซิบเสียงเบา ในขณะที่หญิงสาวคนอื่นทยอยกลับไปด้วยความอับอายที่ถูกจับตรวจแต่เธอยังคงอยู่คุยกับเขาต่อแล้วหลอกล่อเขาให้ติดกับดักสวาท
“ตอนที่หมอตรวจน่ะฉันมีอารมณ์มากเลยค่ะ ถูกสัมผัสนิดๆ หน่อยๆ แบบนั้นคนไม่เคยอย่างฉันก็ไม่มีที่ลงน่ะสิคะ” เธอพูดแล้วยิ้มยั่ว
“งั้นผมตามไปเอา..ข้อมูลของเพื่อนคุณที่ห้องนะครับ” เขาไม่ปฏิเสธสิ่งที่เธอเสนอแล้วมองอีกฝ่ายที่เชิญชวนอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วผมต้องจ่ายยังไงบ้างครับ”
“จ่ายเป็นความสุขแลกเปลี่ยนกันก็พอค่ะ” เธอยิ้มให้พร้อมกับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
---------------------
เสียงครวญครางของหญิงสาวดังลั่นห้อง แม้จะถูกเขาจูบประกบปิดปากเอาไว้แล้วแต่ก็ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาอยู่อย่างต่อเนื่อง
“อย่าครางดังสิ”
“ก็คุณทำฉันเสียวนี่คะ อ๊าส์ ไม่เคยรู้เลยว่าเวลาถูกเอามันจะอร่อยเหาะแบบนี้ ซี๊ด อ๊าส์ อร่อยกว่าใช้นิ้วตกเบ็ดเองอีก อู้ว” เธอครางด้วยความถึงอกถึงใจกับลีลาสวาทที่เลขานุการหนุ่มมอบให้
“ไม่เคยผ่านดุ้นแต่ว่าช่วยตัวเองสินะ แบบนี้ไงหมอถึงตรวจไม่เจอเยื่อสาว อ๊าส์ คับแน่นมากเลย ซี๊ด” เขาพูดไปครางไปอย่างออกรส
สะโพกสอบกระแทกกระทั้นเขาไป ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกลีลาที่ดุดันสอดเสยเข้ามาอย่างเต็มรักในองศาที่ทำมุมกับสะโพกของเธอ
“ไม่ไหวแล้ว” ยวนตาร้องลั่น เสียงแหลมเล็กหวีดร้องออกมาเมื่อถึงจุดหมาย
สะโพกหนั่นแน่นเกร็งกระตุกบีบรัดท่อนเนื้อแกร่ง ลภัสถอดถอนท่อนลำออกมาพักเอาไว้ มองใบหน้าที่ปรือตามองเขาแล้วโน้มลงไปจูบเธอ
“มาเอาบ่อยๆ ได้ไหม” เขาถามเสียงพร่าแล้วจูบไซ้ที่ซอกคอ
“เอาบ่อยมีสองแบบนะคะ แบบจ่ายเงินเป็นครั้งๆ กับเป็นแฟนดูแลกัน อยากเป็นแบบไหนล่ะคะ” เธอถามแล้วเอานิ้วเขี่ยหน้าอกของเขา สะโพกแอ่นขึ้นหาท่อนเนื้อที่วางพาดให้เขานำเข้าไปในหลืบรัก
“ขอลองคบก่อนนะถ้าติดใจก็ไปต่อ” เขาพูดแล้วบดริมฝีปากจูบเธออย่างดูดดื่ม สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปแล้วเกี่ยวจูบด้วยความปรารถนา
นักศึกษาสาวดันตัวเขาออกแล้วเป็นฝ่ายขึ้นไปขย่มอยู่บนตัวชายหนุ่ม กดสะโพกลงหาท่อนเนื้อแล้วเริ่มโยกสะโพกบดเบียดสลับกับการขย่มขึ้นลงเบาๆ เพื่อจับจังหวะ จากนั้นก็เริ่มขย่มแรงและเร็วขึ้นพร้อมกับร้องด้วยความเสียวกระสัน
อุ้งมือใหญ่ตะปบที่เต้างามแล้วบีบเคล้นอย่างมันเขี้ยว ใช้นิ้วสะกิดยอดสีหวานให้ชูชันแล้วยกคอขึ้นดูดขบมันด้วยความหลงใหล
“เบาๆ หน่อยคนดี ผมเสียวมากเลย”
“ดีค่ะ เพราะฉันกำลังจะเสร็จแล้ว อ๊าส์” เธอพูดเสียงสั่นแล้วเร่งทิ้งน้ำหนักสะโพกลงไปอย่างถี่รัว
ลภัสทิ้งตัวนอนหงาย สองมือประคองสะโพกหนั่นแน่นเอาไว้แล้วส่งแรงช่วยให้เอรีบขย่มลงมาหาพร้อมกับกัดฟันแน่นเมื่อถูกบีบรัดจากร่องชื้น
“อื้อ” เธอร้องเสียงหลงแล้วถึงจุดหมายไปพร้อมกับเขา
“อ๊าส์ แน่นมากเลย ตอดดีมาก ซี๊ด” เขาร้องเสียงหลง ถูกหญิงสาวรีดน้ำรักจนหมดแล้วเธอก็ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ขอไอดีหน่อยค่ะ ฉันจะส่งข้อมูลเพื่อนฉันให้”
“มีจริงเหรอ ผมนึกว่าถูกคุณล่อมาเฉยๆ”
“โตขนาดนี้แล้วมีใครจะหลอกคุณได้ล่ะคะ ถ้าคุณไม่เต็มใจมาเอง” เธอสบตาด้วยยิ้มยั่ว
“คุณนี่ยวนตาสมชื่อเลยนะครับ ผมไม่อยากละสายตาจากคุณเลย” เขาพูดแล้วจับเธอกดลงไปอีกครั้งด้วยความหลงใหล
---------------------
“อะไรนะคะ จะให้หยีเป็นเลขาบอสเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นระคนแปลกใจ ที่จู่ๆ ตำแหน่งเลขานุการก็ตกมาเป็นของพนักงานทั่วไปแบบฉัน“ไม่ต้องดีใจไป แค่ชั่วคราวน่ะ จนกว่าจะหาเลขาใหม่มารับตำแหน่งได้” หัวหน้าของฉันพูดดับฝันแล้วถอนหายใจด้วยความกังวล“มีอะไรคะพี่บี”“ใครเป็นเลขาบอสก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าหนิงมีปัญหาอะไรถึงจะรีบลาออกไป เสียดายนะคนทำงานดีแบบนั้น หยีเองก็อาจมีสิทธิ์ได้เป็นเลขาถาวรนะตั้งใจทำงานเข้าล่ะ”“หมายความว่าถ้าทำงานดีหยีมีโอกาสได้เป็นเลขาจริงๆ ใช่ไหมคะ” ฉันถามด้วยความตื่นเต้นที่มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง“อืม ตามนั้นแหละ เก็บของย้ายโต๊ะได้แล้วเดี๋ยวอีกหน่อยบอสก็มาแล้ว” พี่บีบอกแล้วเดินขึ้นไปรอที่ชั้นสามฉันรีบเก็บของใช้ส่วนตัวแล้วย้ายไปทำงานที่ชั้นสาม บริษัทขายอุปกรณ์ไอทีขนาดเล็กแห่งนี้มีพนักงานไม่ถึงสามสิบคนก็จริง แต่ว่าตำแหน่งเลขานุการเป็นตำแหน่งพนักงานที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าพนักงานทั้งหมดซึ่งใครๆ ก็อยากมาทำตำแหน่งนี้ชั้นแรกของบริษัทจะเป็นโซนขายอุปกรณ์ไอทีที่มีพนักงานขายประจำอยู่ชั้นสองจะเป็นห้องสต๊อกสินค้าและแผนกบัญชีการเงิน ส่วนชั้นสามที่ฉันจะขึ้นไปเป็นห้
ตำแหน่งเลขานุการของคุณโย่งแม้งานจะไม่ซับซ้อนแต่เป็นงานที่ละเอียดพอสมควร สองสัปดาห์มานี้ฉันค่อยๆ ชินกับการทำงานกับเขาแล้วปกติเขาดูยิ้มแย้มเป็นกันเองกับพนักงานทุกคน แต่พออยู่กับฉันตามลำพังเหมือนเขาจะระวังตัวและกลายเป็นคนละคนกับบอสโย่งที่ฉันเคยรู้จักอาจเป็นเพราะเขาต้องรักษาระยะห่างกับเลขานุการที่ใกล้ชิดอย่างฉัน คงกลัวว่าฉันจะเข้าหาเขา เพราะไม่อย่างนั้นจึงบอกให้ฉันแต่งตัวให้รัดกุม แบบนี้ฉันก็คงต้องวางตัวให้ห่างจากเขาเพื่อรักษาตำแหน่งงานนี้เอาไว้“นี่เอกสารสรุปยอดขายเมื่อวานนี้ค่ะ แล้วก็สรุปยอดบัญชีคงค้าง” ฉันนำเอกสารไปให้เขาแล้วถอยออกห่างยืนรอเขาตรวจเอกสารตรงหน้าบอสหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองแล้วก้มลงเซ็นเอกสารตรงหน้าแล้วส่งคืนให้ฉัน“ตอนบ่าย ผู้จัดการของบริษัทไอเทคมาขอพบค่ะ บอสจะให้มาพบที่ห้องนี้หรือห้องประชุมดีคะหยีจะได้เตรียมสถานที่ไว้ให้”“ที่ห้องประชุมก็ได้...แล้วคุณเป็นอะไรของคุณ” เขาถามในตอนท้าย เลิกคิ้วสูงมองฉันด้วยสายตาที่สงสัย“อะไรคะ”“ผมสังเกตมาหลายวันแล้วนะ ทำไมไม่นั่งลงคุยกันดีๆ” เขาถามแล้วจ้องหน้าเพื่อต้องการคำตอบ“ก็พยายามออกห่างจากบอสไงคะ บอสจะได้สบายใจว่าหยีไม่มีวันจะเข้าไป
หลังจากที่เผลอใจไปกับบอสที่ห้องประชุม เราก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองโดยที่คุณโย่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่ที่ได้ครอบครองร่างกายของฉัน“บอสดูอารมณ์ดีนะ”“ค่ะพี่บี คุยงานลงตัวค่ะ” ฉันบอกพี่บีแล้วหันกลับไปทำสรุปรายงานการประชุมเตรียมส่งให้เขา“เย็นนี้ไปกินข้าวกับพี่นะ ตั้งแต่หยีมาทำงานที่ชั้นนี้พี่ยังไม่ได้ฉลองให้หยีเลย” ผู้จัดการหนุ่มชักชวนเธอ แต่ฟังดูแล้วมันเหมือนจะเป็นการมัดมือชกมากกว่า“เย็นนี้หยีไม่ว่างค่ะ” ฉันตอบเขาแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้าต่อ“งั้นพรุ่งนี้พี่จองตัวนะ” เขายังไม่ละความพยายาม แสดงออกชัดเจนว่าชอบฉันจนรู้สึกอึดอัดมากกว่าจะภูมิใจที่มีผู้ชายมาชอบพร้อมกันทั้งผู้จัดการทั้งบอสอย่างไรฉันก็เอนเอียงไปทางบอสอยู่แล้ว แต่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเก็บฉันเป็นเมียลับๆ หรือว่าจะเปิดเผย ฉันเลยไม่อยากตัดพี่เชนออกจากตัวเลือกแม้จะตกเป็นของบอสไปแล้วก็ตาม“ขอดูก่อนนะคะ” ฉันยังไม่กล้ารับปากเขาเพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้บอสจะเรียกหาไหมและเหมือนประตูมีหู อยู่ๆ บอสก็โทรอินเตอร์คอมออกมาจากในห้องทำงานแล้วเรียกฉันให้เข้าไปพบ“ค่ะบอส” ฉันนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาแล้วมองใบหน้าที่ตอนนี้ดูเคร่งเครียดใส่
ในตอนเช้าฉันตื่นก่อนคุณโย่งแล้วยิ้มมองเขาที่ยังนอนหลับอยู่และกรนเบาๆ ด้วยใบหน้าที่ดูไร้พิษสงเมื่อคืนนี้เขาเพิ่มลายนิ้วมือฉันเข้าไปในระบบเปิดประตูพร้อมกับรหัสผ่านกรณีสแกนไม่สำเร็จทำให้ฉันมั่นใจในตัวเขามากขึ้นตอนแรกยอมรับว่ากลัวจะเป็นของเล่นบอส แม้จะเต็มใจเป็นของเล่นแต่ลึกๆ ก็หวังครอบครองหัวใจ และตอนนี้ฉันก็มั่นใจว่าครองหัวใจบอสเอาไว้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ลงทุนให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยหรอกฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน พี่บีและพี่เก่งมาทำงานตั้งแต่เช้าแล้วมองฉันที่มาถึงก่อนด้วยความแปลกใจเพราะปกติถึงจะมาเช้าแต่ก็เป็นคนสุดท้ายของคนในห้องนี้ตลอด“มาเช้าเชียวนะคุณเลขาหยี”“พอดีตื่นไวค่ะพี่บี แล้วก็ต้องมาเตรียมเอกสารให้บอสด้วย”“มาเช้าแบบนี้ไม่ใช่ว่านัดมากินข้าวเช้ากับใครหรอกนะ” พี่เก่งยิ้มแซวแล้วหันไปทางพี่เชนที่เดินมาพอดี พร้อมกับขนมและเครื่องดื่มที่ซื้อมาเผื่อฉัน“พี่ซื้อมาฝาก”“ขอบคุณมากเลยนะคะ แต่ว่าพี่เชนไม่ต้องซื้อมาให้หยีแล้วนะคะ หยีเกรงใจมากๆ เลย” ฉันบอกเขาแล้วไม่รับถุงที่เขายื่นมาให้“รับไว้เถอะพี่เต็มใจซื้อมาให้”“หยีรับไว้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ขอโทษนะคะ” ฉันปฏิเสธอ
คืนวันเสาร์ที่เป็นวันสุดท้ายในการทำงานของสัปดาห์ และเป็นวันที่ฉันหายจากประจำเดือนพอดี คุณโย่งก็เตรียมพร้อมจะตะปบฉันด้วยลีลาของเสือที่กระหายเหยื่อตั้งแต่ตอนหัวค่ำแล้วแต่ฉันห้ามเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งใจร้อนสิคะ” ฉันห้ามเขาเอาไว้กับบอสหนุ่มที่แสนเอาแต่ใจและขี้เอาคนนี้“กินยาคุมไม่กี่วันอึ๋มขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”“มันอึ๋มแต่แรกแล้วล่ะคะ ไม่เกี่ยวกับยาคุม” ฉันพูดพลางส่ายหน้าอกยั่วยวน“ห้ามผมไม่ให้ทำแต่ส่ายนมยั่วแบบนี้ใจร้ายนะ” เขาตัดพ้อเสียงเล็กเสียงน้อย เป็นแมวน้อยสำหรับฉันทำให้ยิ้มได้ทุกวันกับความน่ารักที่เขามีให้กับฉันคนเดียวเขาคร่อมทับร่างฉันเอาไว้แล้วรวบมือทั้งสองกดลงที่เตียง แสดงบทบาทซาตานล่าสวาทออกมาทางสีหน้าและแววตาที่หื่นกระหายนั้น“บอสหื่นจังเลยค่ะ แต่หยีชอบนะ”เขายิ้มรับแล้วกดจูบลงมาแล้วตวัดลิ้นเกี่ยวจูบอย่างดูดดื่ม จนรู้สึกได้ถึงห้วงลมหายใจที่ติดขัดราวกับจะจมดิ่งในน้ำลึกเมื่อจุมพิตกลีบปากหวานฉ่ำจนพอใจเขาจึงถอดถอนริมฝีปากออกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วมุดหน้าไซ้ซอกคอตั้งใจจะฝังรอยจุมพิตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของจนฉันต้องโวยวายออกมา“ถ้าคอหยีเป็นรอย หยีจะขนของหนีเลย” ฉันร้องขู่เขาไม่ยอมใ
ชายหนุ่มอายุประมาณสี่สิบต้นๆ หน้าตาดูหล่อเหลาคมคายและคุ้นหน้าค่าตาเสียเหลือเกิน แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน เขากำลังลากกระเป๋าใบใหญ่จะเข้ามาในลิฟต์ที่ฉันยืนอยู่“รอด้วยครับ!” น้ำเสียงที่รีบร้อนนั้นทำให้ฉันต้องกดประตูลิฟต์ค้างเอาไว้เพื่อรอเขาทันทีที่เข้าลากกระเป๋าก้าวเข้ามาก็ยิ้มให้อย่างสุภาพ เสื้อผ้าที่ดูสวมใส่ก็ไม่ใช่ของแบรนด์เนมแต่โดยรวมแล้วกลับแต่งตัวดูดีสมวัยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก‘ตัวก็หอมด้วย ...ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ’ ฉันได้แต่แอบคิดในใจ“ไปชั้นไหนคะ” ฉันถามอย่างสุภาพ“ชั้นห้าครับ” เขายิ้มอย่างสุภาพ และจะไปชั้นเดียวกับฉันจึงไม่ต้องกดหมายเลขชั้นซ้ำสองแล้วเราต่างก็ยิ้มให้แก่กันแก่เก้อ“พึ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอคะ ไม่คุ้นหน้าเลย” ฉันทักทายเขาก่อนแล้วพยายามนึกว่าเคยเห็นเขาที่ไหน“ครับ” เขายังคงยิ้มอย่างสุภาพ แต่เพราะกลัวเขารำคาญฉันเลยไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วเราก็ยืนรอในลิฟต์อย่างเงียบๆเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ฉันก็เดินไปที่ห้องของตัวเองในขณะที่ผู้อาศัยรายใหม่ก็ลากกระเป๋าตามมาติดๆ แล้วหยุดอยู่ที่ห้องข้างๆ ฉัน เราจึงมองหน้าแล้วยิ้มให้กันอีกรอบ“คุณอาอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง หนูชื่อ
พอรู้ว่าเพื่อนบ้านคนใหม่เป็นผู้กำกับหนังเรตอาร์ พอกลับมาถึงห้องสิ่งแรกที่ทำคือการเปิดเข้าไปดูงานของเขาเพื่อศึกษาให้รู้ว่าเขาทำงานแบบไหนหนังทุกเรื่องที่เขากำกับมีการเขียนบทที่ไม่ต่างจากละครรักทั่วไป เน้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมชนชั้นกลางและมีความสมจริงในบทบาทนั้นๆฉากเลิฟซีนจะมีการกอดจูบลูบไล้กันอย่างเร่าร้อน เสื้อผ้าค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกไปแล้วไซ้จูบกันอย่างถึงเนื้อถึงตัวพอถึงฉากที่ต้องสอดใส่นักแสดงจะเผยให้เห็นแค่หน้าอกและสะโพกเท่านั้น เน้นการออกท่าทางและสีหน้า พร้อมทั้งมีเสียงครางกระเส่าอย่างธรรมชาติไม่ได้ครางอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนหนังต่างประเทศบางเรื่อง“แบบนี้เกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้มตามกว่าหนังเอ็กซ์ที่เปิดฉากมาก็แก้ผ้าเอากันเลย อาเน็ทกำกับออกมาดีจริงๆ” ฉันพูดชื่นชมเขาออกมาแล้วปิดหน้าจอลงแค่จะดูเพื่อศึกษางานของเขาแต่รู้สึกมวนท้องน้อยแปลกๆ และรู้สึกได้ถึงความฉ่ำแฉะที่กางเกงชั้นในบ่งบอกถึงคุณภาพงานของเขาฉันถือโอกาสนี้อาบน้ำ ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกแล้วจินตนาการถึงหนังอาร์ที่ได้ดูเมื่อครู่นี้แล้วเดินไปนั่งที่ชักโครก ใช้นิ้วและสายยางฉีดน้ำสร้างความสุขให้กับตัวเองในนาทีที่กำลังจะถึงจ
หลังจากมื้ออาหารค่ำจบลง เราก็ดื่มกันต่อพร้อมกับอาเน็ทที่เปิดงานของเขาที่ยังไม่ตัดต่อให้ฉันดูภาพจากต้นฉบับกลิ่นฉุนของเครื่องดื่มในมือนั้นทำให้ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อย ค่อยๆ จิบมันไปขณะที่เขาเปิดงานให้ดู แทบจะไม่เกิดอารมณ์เลยสักนิดเพราะหนังที่เราเห็นฉากเลิฟซีนต่อเนื่องนั้น จริงๆ แล้วถ่ายทำในมุมต่างๆ อยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งโยกอยู่ไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนมุมกล้องเพื่อถ่ายทำในมุมอื่นอีก“ที่เขาบอกว่าใส่ถุงเท้าตอนที่ถูกกันเรื่องจริงเหรอคะ นึกว่าเป็นมุกพูดเล่นเสียอีก”“ใช่แล้ว แต่ฝ่ายหญิงน่ะไม่มีอะไรปิดนะค่อนข้างเสียเปรียบหน่อย การเซฟผู้ชายจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเกินเลย”“แล้วแบบนี้มีเขินกันไหมคะ แบบถูๆ กันแล้วเกิดอารมณ์ น้ำแฉะอะไรแบบนี้” ฉันถามตามตรงด้วยความอยากรู้“ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละถูๆ ฉากนี้ก็สั่งคัท ถูๆ ฉากนั้นก็สั่งคัท นักแสดงเหนื่อยจนไม่มีอารมณ์ บางทีพระเอกไม่แข็งด้วยซ้ำ”“แล้วเคยมีฉากที่เกิดอารมณ์จริงไหมคะ แล้วนักแสดงชายเผลอสอดใส่เข้าไป”“ก็อาจจะมีนะ แต่กองถ่ายของอาไม่มี ถามมากแบบนี้ลองดูไหมจะได้เห็นภาพ” เขาหันหน้ามาถาม กลิ่นลมหายใจที่เจอแอลกอฮอล์ของเราทำให้ฉันขนลุกซู่ เ
เพราะทนรอให้บริษัทประมูลไม่ไหว ปกรณ์จึงใช้อำนาจเงินของตนในการประกาศหาสาวพรหมจรรย์มาเป็นคู่นอนของตนโดยผ่านเลขานุการมือขวาให้จัดหาผู้หญิงให้กับตน“เรื่องหาผู้หญิงผมทำได้นะครับบอส แต่ว่าให้หาผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์มันยากมากเลยนะครับ” ลภัสบอกนายของตนด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลเพราะเรื่องนี้มันผิดกฎหมายจะประกาศหาแบบโจ่งแจ้งนั้นไม่สามารถทำได้ และทำได้แบบจำกัดและไม่สามารถตรวจสอบได้“หามาแล้วพาไปตรวจให้หมอรับรอง ถ้าใครผ่านก็พามาไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ่ายเงิน” ปกรณ์พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย แม้เขาระบายกับใครก็ได้แต่อย่างน้อยทุกๆ หนึ่งเดือนก็ต้องได้สาวบริสุทธิ์สักคน“ครับ” เลขาหนุ่มได้แต่รับปาก เพราะหน้าที่เขาคือทำตามคำสั่งโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น ลภัสคิดหาวิธีหาหญิงสาวที่เจ้านายต้องการโดยใช้วิธีถามหาจากคนจัดหาสาวไซด์ไลน์ให้ถามหาเพื่อนๆ นักศึกษาที่อยากหาเงินใช้และพึ่งจะก้าวเข้ามาในวงการ โดยเน้นคนที่ยังบริสุทธิ์พร้อมเสนอราคาที่สูงไม่นานก็มีคนติดต่อเข้ามารับงานนี้มากมาย ลภัสนัดหญิงสาวเหล่านั้นไปตรวจภายในเพื่อยืนยันแต่ว่าทั้งสิบเอ็ดคนที่สมัครเข้ามานั้นไม่มีใครหลงเหลือเยื่อพรหมจรรย์เลยทำให้พวกเธอ
หลังจากหญิงสาวกลับออกมาจากห้องน้ำ เขาก็มองเอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกระหายแล้วลุกขึ้นถอดชุดคลุมของตนเองเผยให้เห้นหุ่นเปลือยกำยำสมส่วนและท่อนแกร่งที่ผงาดตั้งลำเตรียมพร้อมทำศึกหญิงสาวคุกเข่าลงที่พื้นจับท่อนเนื้อนั้นมาดูดเลียอย่างเอาใจ เป็นขั้นตอนที่ถูกแม่เล้าที่ดูแลตอนเก็บตัวสอนมา ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งจากการประมูลของเธอใช้ในการจัดการของคนเหล่านี้ริมฝีปากสัมผัสอย่างชำนาญตามที่เคยฝึกให้อมมะเขือยาวก่อนออกสนามจริง“ไปที่เตียงกันเถอะ” เขาพูดเสียงพร่าแล้วพาเธอไปยังเตียงนอนกลางห้องที่ปูผ้าสีขาวรอเอาไว้สำหรับการลงสนามในคืนนี้เรือนร่างเปลือยและสะอาดสะอ้านนอนหงายอยู่บนเตียงภายใต้ร่างกำยำของชายใส่หน้ากาก เขาตวัดลิ้นไล้เลียซอกหูนุ่มทำให้เจ้าของร่างนวลเนียนอ่อนระทวยเพราะตามไม่ทันคนที่ประสบการณ์มากกว่าใบหน้าคร้ามก้มลงไปที่เนินอกแล้วงับดูดอย่างคลั่งไคล้ ดูดเลียไล้ยอดอกสีหวานสลับกันไปมาด้วยความกระหายหิว“อ๊าส์ เบาๆ ค่ะ ซี๊ด น้ำขิงเจ็บ” เธอครวญครางเสียงหลงด้วยความเสียวกระสันเขายกยิ้มอย่างพอใจ มุดหน้าดูดขบต่ออย่างไม่ปรานี เลื่อนอุ้งมือหนาจู่โจมกลีบเนื้อสาวแล้วกระตุ้นจุดอ่อนไหวนั้นให้เธอยิ่งรู้สึกเสีย
ภายในห้องกระจกแคบๆ จำนวนหลายห้องเรียงกัน หันหน้าไปทางเวทีเล็กๆ ที่ทำการประมูลสาวงามที่คัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดีภายในห้องมีเศรษฐีนักล่าพรหมจรรย์นั่งอยู่ห้องละหนึ่งคนเพื่อทำการประมูลหญิงสาวในค่ำคืนนี้สาวงามที่ถูกนำมาประมูลนั้นถูกซื้อตัวมาด้วยความเต็มใจเนื่องจากภาระของครอบครัว บางคนมีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้นก็ต้องรับงานนี้เพื่อสิ่งที่พวกเธอต้องการ นั่นคือ “เงิน”กฎของการขายพรหมจรรย์คือไม่มีการสานต่อใดๆ ซึ่งหลังจากการประมูลก็จะถูกส่งตัวขึ้นห้องในทันที เว้นแต่จะเต็มใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้วไปตกลงกันนอกรอบในภายหลัง“สาวงามคนสุดท้ายในค่ำคืนนี้ ชื่อน้องน้ำขิง อายุยี่สิบสองปี สถานะโสด ลักษณะเยื่อพรหมจรรย์สมบูรณ์เต็มร้อย เปิดประมูลที่หนึ่งหมื่นบาท” พิธีกรชายกล่าวแล้วให้หญิงสาวเดินไปมารอบๆ เวทีตามที่ซักซ้อมกันเอาไว้แล้วเธอทำอย่างเต็มที่เพราะยิ่งยอดประมูลสูงรายได้เธอก็จะสูงตามไปด้วย เพราะข้อตกลงคือคนละครึ่ง แม้ฟังดูไม่ยุติธรรมแต่ว่าที่นี่รับรองรายได้และลูกค้าที่ประมูลก็ระดับวีไอพีทั้งนั้น“หนึ่งหมื่นห้าพัน” น้ำเสียงที่ราบเรียบภายใต้หน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้ากล่าวแล้วยกยิ้มที่มุมปาก พอใจกับหญิงสาวต
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาวอันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาวประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ตนแอบรักนอนรออยู่ตรงหน้า กพลเกิดอารมณ์เป็นอย่างมากในใจเอาแต่ขอโทษเพื่อนรักอย่างอรรณพที่ตนทำเกิดกว่าเหตุเพราะทุกอย่างมันเกินห้ามใจ“เร็วๆ สิคะเดี๋ยวพี่ณพก็กลับมาก่อนหรอก”เธอเร่งเร้าเขาด้วยน้ำเสียงที่แสร้งไม่พอใจ แต่ในใจนั้นทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นอยากโดนกระบองนั้นฟาดที่เนินสวาทใจจะขาดแล้ว“บอกว่าเร็วๆ” เธอเร่งเขาไม่หยุด“บ่นเก่งจัง” เขาคร่อมร่างหลวมๆ ทับเธอเอาไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั้นลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากที่บ่นไม่หยุดปลายลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็กนั้นแล้วดูดปลายลิ้นนั้นจูบอย่างดูดดื่มจนเธอครางอื้ออึงเพราะหายใจไม่ถนัดมือของหญิงสาวไขว่คว้าที่หัวไหล่กว้างแล้วแอ่นสะโพกเรียกร้องหาท่อนเนื้อที่พาดอยู่ต้นขาของตนให้เขารีบลงมือเสียทีกพลรู้ว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์ถูกเล้าโลมเล็กน้อยก็เกิดอารมณ์และคงต้องการสิ่งนั้นจนทรมานด้วยความเสียวจนต้องแสดงออกมาด้วยภาษากายเขาไม่รอช้าที่จะดับความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอด้วยแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขาเขาหยัดตัวนั่งคุกเข่า มือหนากำท่อนเนื้อถูไถที่รอยแยกฉ่ำน้ำบริเวณช่อกลีบบัวที่แย้มให้เห็นเกสรเต่งตึงตรงหน้
สายตาที่กำลังมองอย่างโลมเลียและจาบจ้วงของชายที่นั่งข้างๆ พี่ชายทำให้อันธิการู้สึกไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขานักกพลคือเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยทำงานแล้วทั้งสองก็ยังคบหาสนิทสนมกันอยู่สายตาที่เขามองเธอแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ มันเต็มไปด้วยความเอ็นดูมากกว่ามองเหมือนอยากจับเธอแก้ผ้าแล้วสำรวจเรือนร่างที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างในตอนนี้“อันอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะ” หญิงสาวบอกพี่ชายขณะที่กินมื้อเช้าด้วยกันโดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเสนอหน้ามานั่งโต๊ะด้วย“ให้ไอ้กพลไปส่งนะ วันนี้พี่จะใช้รถ”“อ้าว พี่ณพก็ไปกับพี่กพลสิ รถตัวเองเสียก็ให้เพื่อนมารับแล้ว” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายจะให้คนหื่นกามอย่างเพื่อนสนิทเขาไปส่งเธอ“พี่ให้กพลมันมาแต่เช้าเพื่อไปส่งอันนั่นแหละ ไม่ใช่มารับพี่” อรรณพบอกแล้วยึดกุญแจรถที่วางบนโต๊ะมาถือไว้“อ้าว ตัวเองทำงานด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ” เธอรู้ว่าพี่ชายคิดจะทำอะไรจะจับคู่เธอให้กพลนะหรือ ฝันไปเถอะ!“เอากุญแจรถอันมานะ ไม่งั้นอันจะโทรไปฟ้องแม่” เธออ้างแม่ขึ้นมา ทำให้อรรณพต้องคืนกุญแจรถให้น้องสาวแต่โดยดี“ก็แค่เนี้ยะ” หญิงสาวย่นจ
สายน้ำที่เย็นฉ่ำราดรดกายของเราทั้งสองคน ผู้กำกับหนุ่มใหญ่กำลังถูสบู่ให้ฉันโดยการกอดเข้ามาจากด้านหลังแล้วลูบไล้ถูฟองไปที่สองเต้าท่อนเนื้อแกร่งถูไถที่สะโพกจากด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ใคร่และต้องการเขามากขึ้นหลังจากที่น้ำชำระคราบฟองสบู่ไปจนหมดเราก็ปิดน้ำแล้วหันมาสบตากันด้วยความปรารถนา แล้วอาเน็ทก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่มาจูบที่แก้ม“ซีนแรกเราจะเอากันในห้องน้ำก่อน”“แน่ะ เลิกกองแล้วนะคะ”“อย่าดื้อสิครับ เล่นตามบทจนกว่าอาจะสั่งคัท” เขาพูดจบก็ดันฉันไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำยกขาฉันขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดท่อนเนื้อหัวบานนั้นชำแหละเข้ามาในรูสวาทแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างนุ่มนวล“อื้ม อาเน็ทขา....”“วันนี้อาจะทำเบาๆ เดี๋ยวข้างห้องจะได้ยิน” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู ฉันแอบลอบยิ้มไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเบาแรงได้นาน ในเมื่อที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยอ่อนโยนกับเมียเด็กคนนี้อาเน็ทซอยฉันอัดเข้ากับผนังห้องน้ำ ฉันยืนขาเดียวกอดคล้องคอเขาเอาไว้รับจูบจากกลีบปากที่ร้อนผ่าวแล้วจูบแลกเกี่ยวปลายลิ้น ดื่มด่ำกับรสหวานในโพรงปากอย่างกระหายสะโพกสอบเคลื่อนเข้ามาอย่างดุดันไม่ยอมหยุดจากนั้นก็อัดสะโพกฉันเข