ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย
“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”
“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง
“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย
“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด
“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาว
อันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป
“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาว
ประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ
“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”
“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจนออกมาอย่างชัดเจนโดยที่อรรณพสังเกตเห็นตลอด แต่ไม่ได้เอะใจว่าทั้งสองลึกซึ้งเกินกว่านี้ เพราะคิดว่าแค่เพิ่งเริ่มเปิดใจให้กันจึงไม่ได้จับผิดอะไรมาก
---------------------
คืนนั้นกพลมาสังสรรค์ที่บ้านของเพื่อนสนิทอย่างหวังผล ทั้งสองนั่งดื่มกันจนอรรณพเริ่มเมาแล้วชักชวนให้กพลนอนด้วยกันที่บ้านเหมือนทุกครั้งที่มีการดื่มแบบนี้
เมื่อทุกอย่างเข้าแผน เขาก็รอจังหวะให้เจ้าของบ้านหนุ่มนอนหลับไปแล้วไปเคาะห้องของอันธิกาที่รออยู่แล้วรีบเข้าไปกอดจูบเธอ
“ไหนบอกว่าเข้าใจแล้วไงคะ นี่หึงอันจนต้องวางแผนมาค้างที่นี่เลยเหรอ”
“กินยาคุมรอรึยัง” เขาถามเธอหลังจากตกลงแล้วว่าให้แฟนสาวกินยาคุมฉุกเฉินป้องกันในครั้งนั้น และให้กินยาคุมแบบปกติไว้รอเขา
“ค่ะ” เธอบอกให้เขารู้ว่าพร้อมแล้ว
ทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่รอรี กพลดันตัวเธอให้นอนลงไปกับที่นอนแล้วแยกเข่าออกกว้าง
สายตาคมเข้มมองดูกลีบเนื้อที่ห่อหุ้มเม็ดเสียว ก่อนจะมุดหน้าลงใช้ลิ้นตวัดเลียอย่างชำนาญ ทั้งดูดเลียอย่างหิวโหย และหวงแหนไม่อยากแบ่งให้ใครชม
“อ๊าส์ เสียว โอ๊ว เสียว” เธอครางลั่นอย่างมีความสุข แอ่นสะโพกรับปลายลิ้นของเขาอย่างน่าเอ็นดู
ปลายลิ้นของเขาตวัดเลียแล้วเม็ดเสียวพร้อมกับใช้นิ้วแยงเข้าออกอย่างต่อเนื่อง
“อ๊าส์ ซี๊ด อ๊าส์” หญิงสาวร้องเสียงสั่นพริ้ว เมื่อปลายนิ้วและลิ้นสากนั้นทำเธอเสียวสะท้านไปทั่วร่าง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าส์” เธอหวีดครางลั่น หายใจหอบกระเส่า สะโพกบางเกร็งแล้วกระตุกเบาๆ ภายในบีบรัดที่ปลายนิ้วเป็นจังหวะ
“พี่เชื่อใจอัน แต่พี่ก็หวงอันมากนะ” เขาพูดเสียงกระเส่าแล้วคร่อมทับร่างบางของเธอ
ริมฝีปากหยักหนาเคล้าจูบที่ริมฝีปาก เลื่อนจูบลงไปที่ปลายคางและพรมจูบไซ้ที่ซอกคอด้วยความหลงใหล
เขาเลื่อนลงไปที่สองเต้าอวบ ใช้ลิ้นตวัดเลียเม็ดยอดบัวอย่างดูดดื่ม มือข้างหนึ่งล้วงขยี้ที่จุดกระสันกระตุ้นให้เธอยิ่งเกิดความปรารถนา
สักพักเขาก็ยืดตัวขึ้นนั่งคุกเข่าแล้วกดปลายลำแหวกกลีบเนื้อเข้าไปจนมิดด้าม มองใบหน้าที่สุขสมของคนรักแล้วโถมแรงกระแทกเข้าหาอย่างดุดัน
“อ๊าส์ เสียว ซี๊ด” หญิงสาวครางลั่น ทำให้เขาพอใจเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างถี่รัวจนเกิดเสียงเนื้อตีกันดัง ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊าส์ เสียวเหลือเกิน ซี๊ด อ๊าส์” อันธิกาครางลั่น สูดปากหายใจหอบกระเส่า
เรียวขาทั้งสองถูกเขายกขึ้นพาดที่ไหล่ให้สะโพกลอยขึ้นสูงตอกกระแทกเข้าไปอย่างเต็มแรง ภายในของเธอบีบรัดดุ้นอย่างหนักหน่วง ขมิบบีดรัดเขาทำให้อีกฝ่ายได้รับความสุขสมไม่ต่างกัน
“พี่เสียวมาก อ๊าส์ อันจ๋า” เขาครางชื่อเธอเสียงพร่าสั่น
หญิงสาวดึงเขาให้โน้มลงมาจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม กลิ่นลมหายใจที่เจือกลิ่นแอลกอฮอล์นั้นทำให้อันธิกามีอารมณ์ร่วมเป็นอย่างมาก
สะโพกของเขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในขณะที่จูบแลกน้ำลายกัน จนเกิดเสียงเนื้อตีกันดังระงมไปกับเสียงคราง
“อื้อ ...แตกแล้ว ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาขณะที่จวนเจียนจะถึงจุดหมาย
เขาได้ยินก็ยิ่งเร่งน้ำหนักสะโพกตอกอัดลงไปจนในที่สุดเธอก็ถึงจุดหมายไป ก่อนแล้วยิ้มมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและเสน่หา
“แรงหึงทำให้พี่กพลอึดจังเลยนะคะ สงสัยต้องทำให้หึงบ่อยๆ แล้ว”
กพลยกยิ้มกับประโยคที่ท้าทายนั้น เขาถอนแท่งลำออกไป แล้วดึงเธอไปยืนที่ข้างเตียงแล้วจัดการอุ้มหญิงสาวขึ้นมาใช้ขาเกี่ยวเอวเขาเอาไว้
“ก็ลองดูสิ พี่จะเอาให้เดินขาถ่างไปเรียนเลย” เขากัดฟันพูดเสียงดุ แล้วโถมแรงกระแทกจนสะโพกของเธอลอยขึ้นลงตามจังหวะอย่างต่อเนื่อง
“อ๊าส์ จุก ...ซี๊ด ทั้งจุกทั้งเสียวเลย อ๊าส์ ยอมแล้ว อันยอมแล้ว ซี๊ด” เธอร้องเสียงหลงเมื่อโดนท่ายากของเขาที่ทำให้เธอขาสั่นจนต้องกอดคล้องคอเขาเอาไว้
เสียงดุ้นเสียดสีกับกลีบเนื้อและสัมผัสโดนเม็ดเสียวของเธอดังรื่นหู กระตุ้นให้ทั้งสองยิ่งเกิดความกำหนัดแล้วสาดอารมณ์ใส่กันไม่ยั้ง
“อันจุกค่ะ อ๊าส์ เปลี่ยนท่าเถอะ” เธอร้องขอเขาเมื่อรับท่านี้ไม่ไหว
“พี่รักอัน อย่าทำให้พี่หึงอีก” เขาพูดพร้อมกับเดินกระแทกเธอไปวางไว้ที่เตียง
หญิงสาวคุกเข่ากับขอบเตียงในท่าคลาน กพลยืนประกบจากด้านหลังจับท่อนเอ็นชำแรกเข้าไปแล้วเคลื่อนเข้าออกอย่างต่อเนื่อง
“เสียวจนจะแตกแล้ว อ๊าส์ พี่กพล อันไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวแอ่นสะโพกรับท่อนเนื้อนั้น แล้วบอกเขาด้วยเสียงที่กระเส่าและหอบเหนื่อย
เขาจับสะโพกเธอให้มั่นแล้วโถมกระแทกอย่างบ้าคลั่งจากนั้นหญิงสาวก็ถึงจุดหมายไปอย่างอดทนไม่ไหวแล้วตัวอ่อนลงไปในขณะที่เขากำลังตอกเข้ามาเน้นๆ
“ซี๊ด ใกล้แล้ว อ๊าส์” เขาร้องลั่นเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย แล้วเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ท่อนเนื้อแหวกกลีบเข้าออกอย่างถี่รัวเน้นๆ หนักๆ จนกระทั่งเขาทนไม่ไหว
กพลสาดพ่นน้ำรักเข้าไปอย่างเต็มกำลัง ปลายหัวกระตุกพ่นเข้าไปในกล้ามเนื้อที่บีบแน่น ปลายหัวกระตุกจนอันธิการับรู้ได้
“เมามากแล้วนะคะ รีบกลับออกไปนอนห้องพี่ณพเถอะ เดี๋ยวพี่ณพตื่นมาเห็นเข้าจะทะเลาะกันเปล่าๆ” เธอบอกเขาเมื่ออีกฝ่ายเหมือนจะนอนกับเธอต่อในห้องนี้
“พี่ไม่สน” เขาพูดแล้วหลับตาลง กอดรั้งเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ไม่สนใจว่าตอนนี้ตนกำลังทำเรื่องที่เสี่ยงต่อการแตกหักกับเพื่อนรักอยู่
---------------------
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
“อะไรนะคะ จะให้หยีเป็นเลขาบอสเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นระคนแปลกใจ ที่จู่ๆ ตำแหน่งเลขานุการก็ตกมาเป็นของพนักงานทั่วไปแบบฉัน“ไม่ต้องดีใจไป แค่ชั่วคราวน่ะ จนกว่าจะหาเลขาใหม่มารับตำแหน่งได้” หัวหน้าของฉันพูดดับฝันแล้วถอนหายใจด้วยความกังวล“มีอะไรคะพี่บี”“ใครเป็นเลขาบอสก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าหนิงมีปัญหาอะไรถึงจะรีบลาออกไป เสียดายนะคนทำงานดีแบบนั้น หยีเองก็อาจมีสิทธิ์ได้เป็นเลขาถาวรนะตั้งใจทำงานเข้าล่ะ”“หมายความว่าถ้าทำงานดีหยีมีโอกาสได้เป็นเลขาจริงๆ ใช่ไหมคะ” ฉันถามด้วยความตื่นเต้นที่มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง“อืม ตามนั้นแหละ เก็บของย้ายโต๊ะได้แล้วเดี๋ยวอีกหน่อยบอสก็มาแล้ว” พี่บีบอกแล้วเดินขึ้นไปรอที่ชั้นสามฉันรีบเก็บของใช้ส่วนตัวแล้วย้ายไปทำงานที่ชั้นสาม บริษัทขายอุปกรณ์ไอทีขนาดเล็กแห่งนี้มีพนักงานไม่ถึงสามสิบคนก็จริง แต่ว่าตำแหน่งเลขานุการเป็นตำแหน่งพนักงานที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าพนักงานทั้งหมดซึ่งใครๆ ก็อยากมาทำตำแหน่งนี้ชั้นแรกของบริษัทจะเป็นโซนขายอุปกรณ์ไอทีที่มีพนักงานขายประจำอยู่ชั้นสองจะเป็นห้องสต๊อกสินค้าและแผนกบัญชีการเงิน ส่วนชั้นสามที่ฉันจะขึ้นไปเป็นห้
ตำแหน่งเลขานุการของคุณโย่งแม้งานจะไม่ซับซ้อนแต่เป็นงานที่ละเอียดพอสมควร สองสัปดาห์มานี้ฉันค่อยๆ ชินกับการทำงานกับเขาแล้วปกติเขาดูยิ้มแย้มเป็นกันเองกับพนักงานทุกคน แต่พออยู่กับฉันตามลำพังเหมือนเขาจะระวังตัวและกลายเป็นคนละคนกับบอสโย่งที่ฉันเคยรู้จักอาจเป็นเพราะเขาต้องรักษาระยะห่างกับเลขานุการที่ใกล้ชิดอย่างฉัน คงกลัวว่าฉันจะเข้าหาเขา เพราะไม่อย่างนั้นจึงบอกให้ฉันแต่งตัวให้รัดกุม แบบนี้ฉันก็คงต้องวางตัวให้ห่างจากเขาเพื่อรักษาตำแหน่งงานนี้เอาไว้“นี่เอกสารสรุปยอดขายเมื่อวานนี้ค่ะ แล้วก็สรุปยอดบัญชีคงค้าง” ฉันนำเอกสารไปให้เขาแล้วถอยออกห่างยืนรอเขาตรวจเอกสารตรงหน้าบอสหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองแล้วก้มลงเซ็นเอกสารตรงหน้าแล้วส่งคืนให้ฉัน“ตอนบ่าย ผู้จัดการของบริษัทไอเทคมาขอพบค่ะ บอสจะให้มาพบที่ห้องนี้หรือห้องประชุมดีคะหยีจะได้เตรียมสถานที่ไว้ให้”“ที่ห้องประชุมก็ได้...แล้วคุณเป็นอะไรของคุณ” เขาถามในตอนท้าย เลิกคิ้วสูงมองฉันด้วยสายตาที่สงสัย“อะไรคะ”“ผมสังเกตมาหลายวันแล้วนะ ทำไมไม่นั่งลงคุยกันดีๆ” เขาถามแล้วจ้องหน้าเพื่อต้องการคำตอบ“ก็พยายามออกห่างจากบอสไงคะ บอสจะได้สบายใจว่าหยีไม่มีวันจะเข้าไป
หลังจากที่เผลอใจไปกับบอสที่ห้องประชุม เราก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองโดยที่คุณโย่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่ที่ได้ครอบครองร่างกายของฉัน“บอสดูอารมณ์ดีนะ”“ค่ะพี่บี คุยงานลงตัวค่ะ” ฉันบอกพี่บีแล้วหันกลับไปทำสรุปรายงานการประชุมเตรียมส่งให้เขา“เย็นนี้ไปกินข้าวกับพี่นะ ตั้งแต่หยีมาทำงานที่ชั้นนี้พี่ยังไม่ได้ฉลองให้หยีเลย” ผู้จัดการหนุ่มชักชวนเธอ แต่ฟังดูแล้วมันเหมือนจะเป็นการมัดมือชกมากกว่า“เย็นนี้หยีไม่ว่างค่ะ” ฉันตอบเขาแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้าต่อ“งั้นพรุ่งนี้พี่จองตัวนะ” เขายังไม่ละความพยายาม แสดงออกชัดเจนว่าชอบฉันจนรู้สึกอึดอัดมากกว่าจะภูมิใจที่มีผู้ชายมาชอบพร้อมกันทั้งผู้จัดการทั้งบอสอย่างไรฉันก็เอนเอียงไปทางบอสอยู่แล้ว แต่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเก็บฉันเป็นเมียลับๆ หรือว่าจะเปิดเผย ฉันเลยไม่อยากตัดพี่เชนออกจากตัวเลือกแม้จะตกเป็นของบอสไปแล้วก็ตาม“ขอดูก่อนนะคะ” ฉันยังไม่กล้ารับปากเขาเพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้บอสจะเรียกหาไหมและเหมือนประตูมีหู อยู่ๆ บอสก็โทรอินเตอร์คอมออกมาจากในห้องทำงานแล้วเรียกฉันให้เข้าไปพบ“ค่ะบอส” ฉันนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาแล้วมองใบหน้าที่ตอนนี้ดูเคร่งเครียดใส่
ในตอนเช้าฉันตื่นก่อนคุณโย่งแล้วยิ้มมองเขาที่ยังนอนหลับอยู่และกรนเบาๆ ด้วยใบหน้าที่ดูไร้พิษสงเมื่อคืนนี้เขาเพิ่มลายนิ้วมือฉันเข้าไปในระบบเปิดประตูพร้อมกับรหัสผ่านกรณีสแกนไม่สำเร็จทำให้ฉันมั่นใจในตัวเขามากขึ้นตอนแรกยอมรับว่ากลัวจะเป็นของเล่นบอส แม้จะเต็มใจเป็นของเล่นแต่ลึกๆ ก็หวังครอบครองหัวใจ และตอนนี้ฉันก็มั่นใจว่าครองหัวใจบอสเอาไว้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ลงทุนให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยหรอกฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน พี่บีและพี่เก่งมาทำงานตั้งแต่เช้าแล้วมองฉันที่มาถึงก่อนด้วยความแปลกใจเพราะปกติถึงจะมาเช้าแต่ก็เป็นคนสุดท้ายของคนในห้องนี้ตลอด“มาเช้าเชียวนะคุณเลขาหยี”“พอดีตื่นไวค่ะพี่บี แล้วก็ต้องมาเตรียมเอกสารให้บอสด้วย”“มาเช้าแบบนี้ไม่ใช่ว่านัดมากินข้าวเช้ากับใครหรอกนะ” พี่เก่งยิ้มแซวแล้วหันไปทางพี่เชนที่เดินมาพอดี พร้อมกับขนมและเครื่องดื่มที่ซื้อมาเผื่อฉัน“พี่ซื้อมาฝาก”“ขอบคุณมากเลยนะคะ แต่ว่าพี่เชนไม่ต้องซื้อมาให้หยีแล้วนะคะ หยีเกรงใจมากๆ เลย” ฉันบอกเขาแล้วไม่รับถุงที่เขายื่นมาให้“รับไว้เถอะพี่เต็มใจซื้อมาให้”“หยีรับไว้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ขอโทษนะคะ” ฉันปฏิเสธอ
คืนวันเสาร์ที่เป็นวันสุดท้ายในการทำงานของสัปดาห์ และเป็นวันที่ฉันหายจากประจำเดือนพอดี คุณโย่งก็เตรียมพร้อมจะตะปบฉันด้วยลีลาของเสือที่กระหายเหยื่อตั้งแต่ตอนหัวค่ำแล้วแต่ฉันห้ามเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งใจร้อนสิคะ” ฉันห้ามเขาเอาไว้กับบอสหนุ่มที่แสนเอาแต่ใจและขี้เอาคนนี้“กินยาคุมไม่กี่วันอึ๋มขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”“มันอึ๋มแต่แรกแล้วล่ะคะ ไม่เกี่ยวกับยาคุม” ฉันพูดพลางส่ายหน้าอกยั่วยวน“ห้ามผมไม่ให้ทำแต่ส่ายนมยั่วแบบนี้ใจร้ายนะ” เขาตัดพ้อเสียงเล็กเสียงน้อย เป็นแมวน้อยสำหรับฉันทำให้ยิ้มได้ทุกวันกับความน่ารักที่เขามีให้กับฉันคนเดียวเขาคร่อมทับร่างฉันเอาไว้แล้วรวบมือทั้งสองกดลงที่เตียง แสดงบทบาทซาตานล่าสวาทออกมาทางสีหน้าและแววตาที่หื่นกระหายนั้น“บอสหื่นจังเลยค่ะ แต่หยีชอบนะ”เขายิ้มรับแล้วกดจูบลงมาแล้วตวัดลิ้นเกี่ยวจูบอย่างดูดดื่ม จนรู้สึกได้ถึงห้วงลมหายใจที่ติดขัดราวกับจะจมดิ่งในน้ำลึกเมื่อจุมพิตกลีบปากหวานฉ่ำจนพอใจเขาจึงถอดถอนริมฝีปากออกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วมุดหน้าไซ้ซอกคอตั้งใจจะฝังรอยจุมพิตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของจนฉันต้องโวยวายออกมา“ถ้าคอหยีเป็นรอย หยีจะขนของหนีเลย” ฉันร้องขู่เขาไม่ยอมใ
ชายหนุ่มอายุประมาณสี่สิบต้นๆ หน้าตาดูหล่อเหลาคมคายและคุ้นหน้าค่าตาเสียเหลือเกิน แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน เขากำลังลากกระเป๋าใบใหญ่จะเข้ามาในลิฟต์ที่ฉันยืนอยู่“รอด้วยครับ!” น้ำเสียงที่รีบร้อนนั้นทำให้ฉันต้องกดประตูลิฟต์ค้างเอาไว้เพื่อรอเขาทันทีที่เข้าลากกระเป๋าก้าวเข้ามาก็ยิ้มให้อย่างสุภาพ เสื้อผ้าที่ดูสวมใส่ก็ไม่ใช่ของแบรนด์เนมแต่โดยรวมแล้วกลับแต่งตัวดูดีสมวัยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก‘ตัวก็หอมด้วย ...ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ’ ฉันได้แต่แอบคิดในใจ“ไปชั้นไหนคะ” ฉันถามอย่างสุภาพ“ชั้นห้าครับ” เขายิ้มอย่างสุภาพ และจะไปชั้นเดียวกับฉันจึงไม่ต้องกดหมายเลขชั้นซ้ำสองแล้วเราต่างก็ยิ้มให้แก่กันแก่เก้อ“พึ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอคะ ไม่คุ้นหน้าเลย” ฉันทักทายเขาก่อนแล้วพยายามนึกว่าเคยเห็นเขาที่ไหน“ครับ” เขายังคงยิ้มอย่างสุภาพ แต่เพราะกลัวเขารำคาญฉันเลยไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วเราก็ยืนรอในลิฟต์อย่างเงียบๆเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ฉันก็เดินไปที่ห้องของตัวเองในขณะที่ผู้อาศัยรายใหม่ก็ลากกระเป๋าตามมาติดๆ แล้วหยุดอยู่ที่ห้องข้างๆ ฉัน เราจึงมองหน้าแล้วยิ้มให้กันอีกรอบ“คุณอาอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง หนูชื่อ
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาวอันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาวประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ตนแอบรักนอนรออยู่ตรงหน้า กพลเกิดอารมณ์เป็นอย่างมากในใจเอาแต่ขอโทษเพื่อนรักอย่างอรรณพที่ตนทำเกิดกว่าเหตุเพราะทุกอย่างมันเกินห้ามใจ“เร็วๆ สิคะเดี๋ยวพี่ณพก็กลับมาก่อนหรอก”เธอเร่งเร้าเขาด้วยน้ำเสียงที่แสร้งไม่พอใจ แต่ในใจนั้นทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นอยากโดนกระบองนั้นฟาดที่เนินสวาทใจจะขาดแล้ว“บอกว่าเร็วๆ” เธอเร่งเขาไม่หยุด“บ่นเก่งจัง” เขาคร่อมร่างหลวมๆ ทับเธอเอาไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั้นลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากที่บ่นไม่หยุดปลายลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็กนั้นแล้วดูดปลายลิ้นนั้นจูบอย่างดูดดื่มจนเธอครางอื้ออึงเพราะหายใจไม่ถนัดมือของหญิงสาวไขว่คว้าที่หัวไหล่กว้างแล้วแอ่นสะโพกเรียกร้องหาท่อนเนื้อที่พาดอยู่ต้นขาของตนให้เขารีบลงมือเสียทีกพลรู้ว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์ถูกเล้าโลมเล็กน้อยก็เกิดอารมณ์และคงต้องการสิ่งนั้นจนทรมานด้วยความเสียวจนต้องแสดงออกมาด้วยภาษากายเขาไม่รอช้าที่จะดับความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอด้วยแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขาเขาหยัดตัวนั่งคุกเข่า มือหนากำท่อนเนื้อถูไถที่รอยแยกฉ่ำน้ำบริเวณช่อกลีบบัวที่แย้มให้เห็นเกสรเต่งตึงตรงหน้
สายตาที่กำลังมองอย่างโลมเลียและจาบจ้วงของชายที่นั่งข้างๆ พี่ชายทำให้อันธิการู้สึกไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขานักกพลคือเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยทำงานแล้วทั้งสองก็ยังคบหาสนิทสนมกันอยู่สายตาที่เขามองเธอแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ มันเต็มไปด้วยความเอ็นดูมากกว่ามองเหมือนอยากจับเธอแก้ผ้าแล้วสำรวจเรือนร่างที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างในตอนนี้“อันอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะ” หญิงสาวบอกพี่ชายขณะที่กินมื้อเช้าด้วยกันโดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเสนอหน้ามานั่งโต๊ะด้วย“ให้ไอ้กพลไปส่งนะ วันนี้พี่จะใช้รถ”“อ้าว พี่ณพก็ไปกับพี่กพลสิ รถตัวเองเสียก็ให้เพื่อนมารับแล้ว” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายจะให้คนหื่นกามอย่างเพื่อนสนิทเขาไปส่งเธอ“พี่ให้กพลมันมาแต่เช้าเพื่อไปส่งอันนั่นแหละ ไม่ใช่มารับพี่” อรรณพบอกแล้วยึดกุญแจรถที่วางบนโต๊ะมาถือไว้“อ้าว ตัวเองทำงานด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ” เธอรู้ว่าพี่ชายคิดจะทำอะไรจะจับคู่เธอให้กพลนะหรือ ฝันไปเถอะ!“เอากุญแจรถอันมานะ ไม่งั้นอันจะโทรไปฟ้องแม่” เธออ้างแม่ขึ้นมา ทำให้อรรณพต้องคืนกุญแจรถให้น้องสาวแต่โดยดี“ก็แค่เนี้ยะ” หญิงสาวย่นจ
สายน้ำที่เย็นฉ่ำราดรดกายของเราทั้งสองคน ผู้กำกับหนุ่มใหญ่กำลังถูสบู่ให้ฉันโดยการกอดเข้ามาจากด้านหลังแล้วลูบไล้ถูฟองไปที่สองเต้าท่อนเนื้อแกร่งถูไถที่สะโพกจากด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ใคร่และต้องการเขามากขึ้นหลังจากที่น้ำชำระคราบฟองสบู่ไปจนหมดเราก็ปิดน้ำแล้วหันมาสบตากันด้วยความปรารถนา แล้วอาเน็ทก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่มาจูบที่แก้ม“ซีนแรกเราจะเอากันในห้องน้ำก่อน”“แน่ะ เลิกกองแล้วนะคะ”“อย่าดื้อสิครับ เล่นตามบทจนกว่าอาจะสั่งคัท” เขาพูดจบก็ดันฉันไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำยกขาฉันขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดท่อนเนื้อหัวบานนั้นชำแหละเข้ามาในรูสวาทแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างนุ่มนวล“อื้ม อาเน็ทขา....”“วันนี้อาจะทำเบาๆ เดี๋ยวข้างห้องจะได้ยิน” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู ฉันแอบลอบยิ้มไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเบาแรงได้นาน ในเมื่อที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยอ่อนโยนกับเมียเด็กคนนี้อาเน็ทซอยฉันอัดเข้ากับผนังห้องน้ำ ฉันยืนขาเดียวกอดคล้องคอเขาเอาไว้รับจูบจากกลีบปากที่ร้อนผ่าวแล้วจูบแลกเกี่ยวปลายลิ้น ดื่มด่ำกับรสหวานในโพรงปากอย่างกระหายสะโพกสอบเคลื่อนเข้ามาอย่างดุดันไม่ยอมหยุดจากนั้นก็อัดสะโพกฉันเข
หนังเรื่องใหม่ที่จะต้องถ่ายทำฉากบางส่วนที่ต่างจังหวัด อาเน็ทชวนฉันให้ตามไปด้วยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และตรงกับช่วงที่อาจารย์จัดให้นักศึกษาปีสี่ออกไปลงพื้นที่หาข้อมูลทำวิจัยในวันจันทร์และอังคาร ฉันจึงมีเวลาหยุดยาวรวมสี่วันไปดูงานในกองถ่ายกับเขาอากาศในช่วงต้นปีค่อนข้างเย็นสบาย การถ่ายทำที่รีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาจึงเป็นอะไรที่ฉันรู้สึกมีความสุขมาก“พระเอกเดินตามนางเอกไป พอถึงตรงต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นก็ดึงนางเอกให้หลบ แล้วล้มไปตรงที่ทำเครื่องหมายเอาไว้” อาเน็ทกำกับให้พระนางทำตามบทผ่านโทรโข่ง แล้วนั่งดูจอมอนิเตอร์ตรงหน้าฉันมองดูสีหน้าที่จริงจังนั้นแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะดูพี่วินกับพี่เมย์ที่เป็นพระนางในเรื่องใหม่นี้กำลังแสดงเป็นเทคที่สามของซีนนี้พี่วินเดินตามง้อพี่เมย์ในฉาก พอถึงต้นไม้ใหญ่ก็ดึงพี่เมย์ให้ล้มลงไปที่ข้างทางที่มีเบาะเตรียมเอาไว้แล้วอาเน็ทก็สั่งคัท“คัท! ซีนต่อไปกล้องแพลนไปที่กิ่งไม้”ทีมงานปีนขึ้นไปต้นไม้พร้อมกับแกะเชือกมักท่อนไม้ขนาดกลางที่เตรียมเอาไว้ให้ตกลงมาให้กล้องจับภาพตอนกิ่งไม้ตกเพื่อนำไปตัดต่อให้ดูเหมือนว่ามันหล่นลงมาจากนั้นอาเน็ทก็ให้ถ่ายฉากที่พระนางล้มลงแล้วกลิ้ง
พอกลับจากมหาวิทยาลัยฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในชุดลำลองไปที่ห้องของอาเน็ทเพื่อเก็บรายละเอียดงานตัดต่อส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยฉันเปิดดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าที่พอตัดฉากยิบย่อยมารวมกันเป็นฉากที่ต่อเนื่องก็ภูมิใจมากรอบแรกรอบสองเป็นการดูเพื่อเก็บรายละเอียดงานไม่ได้เกิดอารมณ์ร่วมตามเลยเพราะความเครียดที่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเข้าใจแล้วว่าทำงานพวกนี้ไม่มีอารมณ์หรอกเพราะหน้างานจริงน่ะเครียดมากแต่ว่าหลังจากที่คิดว่างานผ่านและไม่มีรายละเอียดให้เก็บแล้วก็ดูแบบเรื่อยๆ คราวนี้จึงเกิดอารมณ์เล็กน้อยและแทบจะรอให้อาเน็ทกลับมาแทบไม่ไหวคืนวันศุกร์แบบนี้ฉันสามารถรอเขาได้ยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการไปเรียนมหาวิทยาลัยเหลืออีกเทอมเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว จากนั้นการฝึกงานก็อยากจะขอฝึกกับอาเน็ทไปเลย แต่ต้องปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนว่าสามารถฝึกงานในกองถ่ายหนังอีโรติกได้หรือไม่ ถ้าได้ก็คงจะดีไม่น้อยเสียงเปิดประตูห้องทำให้ฉันรีบหันไปดูแล้วยิ้มให้กับเขาอาเน็ทอ้าแขนออกแล้วฉันก็วิ่งเข้าไปหากระโดดขึ้นไปคาบอยู่บนตัวเขาแล้วกอดคอเอาไว้“ดีนะที่มีเมียตัวเล็กไม่งั้นหลังอาหักแน่” เขาพูดแล้วอุ้มพาฉันเดินไป
ใบหน้าที่ดูจริงจังของผู้กำกับวัยสี่สิบกว่าทำให้ฉันมองอย่างหลงใหล ไม่ใช่แค่ลีลาบนเตียงและรูปลักษณ์ที่ดูอบอุ่นของเขาที่ทำให้ฉันรู้สึกลุ่มหลงแต่เป็นเพราะนิสัยใจคอจริงๆ ของเขาด้วย“งานยังไม่เสร็จเหรอคะ อาหารมาแล้วนะ” ฉันเดินเข้าไปกอดเขาจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วหอมแก้มสากนั้นพร้อมกับคลอเคลียที่ข้างใบหูของเขา“อีกนิดหนึ่งน่ะ กินข้าวก่อนก็ได้นะ”“อาเน็ทตัดต่อเองทำเองทั้งหมดแบบนี้ไม่มีทีมงานช่วยเหรอคะ” ฉันมองหน้าจอตรงหน้าที่เขาตัดงานค้างเอาไว้“พึ่งลาออกไปคนหนึ่งน่ะตอนนี้เลยไม่มี กองถ่ายเล็กๆ โปรดักชั่นธรรมดาน่ะมีตัดต่อคนเดียว พอลาออกไปอาเลยต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อนจนกว่าจะหาคนใหม่ได้”“ให้หวานช่วยไหมคะ หวานได้เกรดเอวิชาตัดต่อและกราฟฟิก เคยตัดต่อหนังสั้นส่งประกวดมาแล้วด้วย” ฉันรีบเสนอตัวช่วยงานเขา จะได้ยิ่งทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น“งั้นกินข้าวแล้วอาจะสอนงานนะ”“ขอบคุณนะคะที่ให้หวานมีส่วนช่วยในงานของอาเน็ท”“อาต่างหากที่ขอบคุณหวาน ที่มาช่วยงานของอา” เขาลุกขึ้นแล้วหันมากอดฉัน โยกตัวไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดูฉันเสียจนฉันอยากดูเอ็นเขากลับแต่เสียดายที่จราจรติดขัดเพราะติ