สายน้ำที่เย็นฉ่ำราดรดกายของเราทั้งสองคน ผู้กำกับหนุ่มใหญ่กำลังถูสบู่ให้ฉันโดยการกอดเข้ามาจากด้านหลังแล้วลูบไล้ถูฟองไปที่สองเต้า
ท่อนเนื้อแกร่งถูไถที่สะโพกจากด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ใคร่และต้องการเขามากขึ้น
หลังจากที่น้ำชำระคราบฟองสบู่ไปจนหมดเราก็ปิดน้ำแล้วหันมาสบตากันด้วยความปรารถนา แล้วอาเน็ทก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่มาจูบที่แก้ม
“ซีนแรกเราจะเอากันในห้องน้ำก่อน”
“แน่ะ เลิกกองแล้วนะคะ”
“อย่าดื้อสิครับ เล่นตามบทจนกว่าอาจะสั่งคัท” เขาพูดจบก็ดันฉันไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำ
ยกขาฉันขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดท่อนเนื้อหัวบานนั้นชำแหละเข้ามาในรูสวาทแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างนุ่มนวล
“อื้ม อาเน็ทขา....”
“วันนี้อาจะทำเบาๆ เดี๋ยวข้างห้องจะได้ยิน” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู ฉันแอบลอบยิ้มไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเบาแรงได้นาน ในเมื่อที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยอ่อนโยนกับเมียเด็กคนนี้
อาเน็ทซอยฉันอัดเข้ากับผนังห้องน้ำ ฉันยืนขาเดียวกอดคล้องคอเขาเอาไว้รับจูบจากกลีบปากที่ร้อนผ่าวแล้วจูบแลกเกี่ยวปลายลิ้น ดื่มด่ำกับรสหวานในโพรงปากอย่างกระหาย
สะโพกสอบเคลื่อนเข้ามาอย่างดุดันไม่ยอมหยุดจากนั้นก็อัดสะโพกฉันเข้าไปชิดผนังแล้วเอาขาข้างที่เหลือเกี่ยวไว้กับเอวของเขาในท่าอุ้มกระแทก
“ไหนบอกจะเบาๆ ไงคะ อ๊าส์ เสียวจนจุกเลย อื้อ...ซี๊ด”
“เปลี่ยนบทนิดหน่อย อ๊าส์ ซีนต่อไปอุ้มไปวางที่โต๊ะในห้องแล้วยืนกระแทกจนโต๊ะโยก อ๊าส์” เขาสวมบทบาทผู้กำกับและพระเอกเอวดุ อุ้มกระแทกฉันเดินเข้าไปในห้องแล้ววางที่โต๊ะอย่างที่เขาปรารถนา
ฉันเอามือค้ำโต๊ะเอนไปด้านหลัง แยกขาออกเป็นรูปตัวเอ็มมองดูเขากดท่อนหัวหยักนั้นเข้ามาแล้วโยกกายเบาๆ
สวบ สวบ! เสียงท่อนเนื้อเสียดสีกลีบสวาท สักพักก็เปลี่ยนเป็นเสียงเนื้อตีกันดัง ตับ ตับ ตับ! อย่างต่อเนื่องจนโต๊ะโยกคลอนตามแรงกระแทกของเขา
“อ๊าส์ อาเน็ท”
“ครางเบาๆ นะคนดี อื้ม....” เขาบอกให้ฉันครางเบาๆ แต่ตัวเองกลับกระแทกดุดันหนักหน่วงขนาดนี้ จะให้ฉันกลั้นเสียงครางได้อย่างไรไหว
ตับ ตับ ตับ! เนื้อเราตีกันตามที่เขาต้องการ ยิ่งได้ยินเสียงที่สยิวหูนั้นแล้วเขาก็ยิ่งโถมแรงเข้ามากระแทกกระทั้นอย่างบ้าคลั่ง
“ไปที่เตียงกันเถอะค่ะ หวานอยากนอนเตียงนุ่มๆ มากกว่า” ฉันอ้อนเขาเสียงกระเส่า
“งั้นซีนต่อไปหวานขย่มให้อานะคนดี” เขาพูดเสียงพร่าแล้วพาฉันไปที่เตียงตามที่ขอ
บทรักของเราที่เตียงเริ่มต้นด้วยการที่ฉันขย่มโยกบนตัวเขาแล้วสบตาไปด้วยอย่างเร่าร้อน มือสากจับสะโพกช่วยส่งแรงให้ฉันขย่มลงไปหาเขาทำให้บทรักของเราไหลลื่นยิ่งขึ้น
“หวานรักอาเน็ท อ๊ะ อื้ม...” ฉันบอกรักเขาเสียงกระเส่า เร่งขย่มไปเต็มแรงสะโพก
“อาก็รักหวาน คนดี ขย่มแรงอีกหน่อย อ๊าส์ ซี๊ด” เบาพูดด้วยน้ำเสียงที่พร่าสั่น
ฉันขย่มลงไปอย่างต่อเนื่อง ความเสียววิ่งแล่นไปทั่วท้องน้อยและในที่สุดฉันก็ถึงจุดหมายไปก่อนเขาแล้วรีบทิ้งตัวลงหงายเพื่อให้เขาสานต่อบทรัก
อาเน็ทแยกขาฉันออกกว้างแล้วกดท่อนเนื้อนั้นลงมาแล้วกระหน่ำซอยอย่างบ้าคลั่ง มือข้างหนึ่งบดขยี้ที่เม็ดเสียวของฉัน มืออีกข้างขยำหน้าอกแล้วสบตาฉันด้วยสายตาที่ปรือฉ่ำ
ตับ ตับ! เขากระแทกอย่างดุดันขัดกับคำพูดก่อนหน้านี้ที่บอกว่าจะนุ่มนวลกับฉัน
ท่อนเนื้อดันเข้าไปลึกสุดจนชนปากมดลูก ปลายนิ้วที่ขยับคลึงวนที่เม็ดเสียวนั้นกระตุ้นอารมณ์ให้ยิ่งเกิดความกำหนัด ปลายหัวบานแหวกกลีบสวาทเข้าไปเสียดสีเข้าออกให้เกิดความเสียวอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานนักเขาก็ทำให้ฉันถึงจุดหมายไปอีกครั้ง การเกร็งสะโพกและภายในที่บีบรัดท่อนเนื้อสีหวานนั้นทำให้อาเน็ทยิ้มอย่างพอใจแล้วถอนท่อนลำออกไปชะลอการหลั่งของตนเพื่อเปลี่ยนท่าใหม่
เขาปิดไฟให้ห้องให้มืดสนิทแล้วพาฉันไปยืนเกาะหน้าต่าง มองออกไปยังสวนข้างห้องพักที่ยังพอมีแสงไฟสลัวแล้วให้ฉันยืนค้ำขอบหน้าต่างเอาไว้
อาเน็ทยืนประกบจากด้านหลังแล้วย่อตัวสอดใส่เข้ามาอย่างเต็มแรง ยืนกระแทกฉันจนขาสั่นเทาไปหมด
“อาเน็ทขา หวานเสียว” ฉันกัดฟันพูดเสียงพร่า ความตื่นเต้นกับสถานที่และตำแหน่งที่ร่วมรักทำให้ฉันใกล้จะถึงจุดหมายไวกว่ารอบที่ผ่านๆ มา
ในที่สุดฉันก็ถึงจุดหมายด้วยขาที่สั่นเทาและเสียงหายใจหอบถี่ด้วยความตื่นเต้นแล้วฝืนยืนค้ำของหน้าต่างกัดฟันให้อาเน็ทกระแทกต่อจนกระทั่งเขาถึงจุดหมาย
น้ำอุ่นข้นถูกเขาสาดใส่แผ่นหลังของฉันเราหายใจเสียงหอบรดรินกันอย่างมีความสุข เป็นอีกค่ำคืนที่พิเศษมากจริงๆ
---------------------
วันสุดท้ายที่รีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาแห่งนี้พวกเรากินมื้อเช้าที่ทางรีสอร์ตจัดไว้ให้ก่อนจะเก็บของเตรียมตัวกลับ
อาเน็ทกับฉันนั่งรถกลับกันแค่สองคน ในขณะที่คนอื่นๆ กลับรถตู้ของทีมงาน
ฉันยิ้มอย่างมีความสุขไปตลอดทางหันมองใบหน้าของเขาอย่างมีความสุขจนต้องเอ่ยถามฉัน
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะ มีอะไรดีๆ หรือเปล่า” เขาถามแต่ตาก็มองดูถนนอย่างตั้งใจ
“หวานรู้สึกมีความสุขค่ะ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งได้มาเที่ยวทั้งได้ข้อมูลมาทำรายงาน ทั้งได้อยู่ใกล้ชิดอาเน็ท คุ้มค่ามากที่สุดเลยค่ะ”
“อาก็มีความสุข มีความสุขที่มีหวานเข้ามาอยู่ในชีวิตของอา อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ อย่าทิ้งอาไปไหนอาแก่แล้ว” เขาพูดติดตลกทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าฉันรักเขามากขนาดไหน
“อาเน็ทนั่นแหละอย่ามาหลอกเด็กก็แล้วกัน หวานจริงจังนะคะ อีกสองเดือนก็จะเรียนจบภาคทฤษฎี ฝึกงานต่ออีกเทอมก็จะจบแล้ว หวานหวังให้เราไปไกลถึงขั้นใช้ชีวิตแบบครอบครัว ดังนั้นอย่าคิดมาเล่นๆ กับหวานนะคะ” ฉันกอดอกพูดด้วยท่าทางจริงจัง
พึ่งคบกันได้ไม่เท่าไรก็พูดถึงอนาคตแบบนี้ไม่รู้ว่าอาเน็ทจะคิดตรงกันไหม แต่ก็พูดออกไปแล้ว
“แน่นอน เรียนจบเมื่อไหร่เตรียมตัวมาทำงานกับอาเลยนะ ทุกคนชมฝีมือการตัดต่อของหวาน แล้วก็ความน่ารักเป็นกันเองในกองถ่าย ชมทุกวันจนอายิ้มรับภูมิใจไม่ไหวแล้ว”
“ค่ะรู้แล้ว”
“แล้วหลังจากนั้นเราค่อยคุยเรื่องแต่งงาน” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาแล้วอมยิ้มขับรถต่อไปอย่างอารมณ์ดี
“ค่ะ” ฉันตอบรับอย่างเอียงอาย
แม้ไม่ได้เป็นการขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นการพูดถึงว่าจะต้องมีงานนี้เกิดขึ้นแน่
ฉันอาศัยช่วงที่เป็นทางตรงไม่ค่อยมีรถขยับไปหอมแก้มอาเน็ทแล้วกลับมานั่งที่
“หวานรักอาเน็ทที่สุด”
“ครับ อาก็รักหวาน” เขาตอบแล้วยิ้มกว้าง ใบหน้าแดงนิดๆ ด้วยความเขินอายที่ต้องมาบอกรักกันเหมือนเด็กๆ
ฉันมองไปยังหนทางข้างหน้า คาดหวังให้ความรักของเราราบรื่นและ แม้จะรู้จักกันได้ไม่นานก็ตามทีแต่ฉันมั่นใจว่าอาเน็ทจะรักและดูแลฉันได้อย่างที่เขาพูด เพราะฉันก็จะรักและเข้าใจเขาไม่ทำให้ต้องเสียใจอย่างที่ผ่านมา
เป็นคนรักที่ดีของกันและกันตลอดไป
**จบ**
สายตาที่กำลังมองอย่างโลมเลียและจาบจ้วงของชายที่นั่งข้างๆ พี่ชายทำให้อันธิการู้สึกไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขานักกพลคือเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยทำงานแล้วทั้งสองก็ยังคบหาสนิทสนมกันอยู่สายตาที่เขามองเธอแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ มันเต็มไปด้วยความเอ็นดูมากกว่ามองเหมือนอยากจับเธอแก้ผ้าแล้วสำรวจเรือนร่างที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างในตอนนี้“อันอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะ” หญิงสาวบอกพี่ชายขณะที่กินมื้อเช้าด้วยกันโดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเสนอหน้ามานั่งโต๊ะด้วย“ให้ไอ้กพลไปส่งนะ วันนี้พี่จะใช้รถ”“อ้าว พี่ณพก็ไปกับพี่กพลสิ รถตัวเองเสียก็ให้เพื่อนมารับแล้ว” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายจะให้คนหื่นกามอย่างเพื่อนสนิทเขาไปส่งเธอ“พี่ให้กพลมันมาแต่เช้าเพื่อไปส่งอันนั่นแหละ ไม่ใช่มารับพี่” อรรณพบอกแล้วยึดกุญแจรถที่วางบนโต๊ะมาถือไว้“อ้าว ตัวเองทำงานด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ” เธอรู้ว่าพี่ชายคิดจะทำอะไรจะจับคู่เธอให้กพลนะหรือ ฝันไปเถอะ!“เอากุญแจรถอันมานะ ไม่งั้นอันจะโทรไปฟ้องแม่” เธออ้างแม่ขึ้นมา ทำให้อรรณพต้องคืนกุญแจรถให้น้องสาวแต่โดยดี“ก็แค่เนี้ยะ” หญิงสาวย่นจ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ตนแอบรักนอนรออยู่ตรงหน้า กพลเกิดอารมณ์เป็นอย่างมากในใจเอาแต่ขอโทษเพื่อนรักอย่างอรรณพที่ตนทำเกิดกว่าเหตุเพราะทุกอย่างมันเกินห้ามใจ“เร็วๆ สิคะเดี๋ยวพี่ณพก็กลับมาก่อนหรอก”เธอเร่งเร้าเขาด้วยน้ำเสียงที่แสร้งไม่พอใจ แต่ในใจนั้นทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นอยากโดนกระบองนั้นฟาดที่เนินสวาทใจจะขาดแล้ว“บอกว่าเร็วๆ” เธอเร่งเขาไม่หยุด“บ่นเก่งจัง” เขาคร่อมร่างหลวมๆ ทับเธอเอาไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั้นลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากที่บ่นไม่หยุดปลายลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็กนั้นแล้วดูดปลายลิ้นนั้นจูบอย่างดูดดื่มจนเธอครางอื้ออึงเพราะหายใจไม่ถนัดมือของหญิงสาวไขว่คว้าที่หัวไหล่กว้างแล้วแอ่นสะโพกเรียกร้องหาท่อนเนื้อที่พาดอยู่ต้นขาของตนให้เขารีบลงมือเสียทีกพลรู้ว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์ถูกเล้าโลมเล็กน้อยก็เกิดอารมณ์และคงต้องการสิ่งนั้นจนทรมานด้วยความเสียวจนต้องแสดงออกมาด้วยภาษากายเขาไม่รอช้าที่จะดับความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอด้วยแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขาเขาหยัดตัวนั่งคุกเข่า มือหนากำท่อนเนื้อถูไถที่รอยแยกฉ่ำน้ำบริเวณช่อกลีบบัวที่แย้มให้เห็นเกสรเต่งตึงตรงหน้
ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาวอันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาวประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจ
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
“อะไรนะคะ จะให้หยีเป็นเลขาบอสเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นระคนแปลกใจ ที่จู่ๆ ตำแหน่งเลขานุการก็ตกมาเป็นของพนักงานทั่วไปแบบฉัน“ไม่ต้องดีใจไป แค่ชั่วคราวน่ะ จนกว่าจะหาเลขาใหม่มารับตำแหน่งได้” หัวหน้าของฉันพูดดับฝันแล้วถอนหายใจด้วยความกังวล“มีอะไรคะพี่บี”“ใครเป็นเลขาบอสก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าหนิงมีปัญหาอะไรถึงจะรีบลาออกไป เสียดายนะคนทำงานดีแบบนั้น หยีเองก็อาจมีสิทธิ์ได้เป็นเลขาถาวรนะตั้งใจทำงานเข้าล่ะ”“หมายความว่าถ้าทำงานดีหยีมีโอกาสได้เป็นเลขาจริงๆ ใช่ไหมคะ” ฉันถามด้วยความตื่นเต้นที่มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง“อืม ตามนั้นแหละ เก็บของย้ายโต๊ะได้แล้วเดี๋ยวอีกหน่อยบอสก็มาแล้ว” พี่บีบอกแล้วเดินขึ้นไปรอที่ชั้นสามฉันรีบเก็บของใช้ส่วนตัวแล้วย้ายไปทำงานที่ชั้นสาม บริษัทขายอุปกรณ์ไอทีขนาดเล็กแห่งนี้มีพนักงานไม่ถึงสามสิบคนก็จริง แต่ว่าตำแหน่งเลขานุการเป็นตำแหน่งพนักงานที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าพนักงานทั้งหมดซึ่งใครๆ ก็อยากมาทำตำแหน่งนี้ชั้นแรกของบริษัทจะเป็นโซนขายอุปกรณ์ไอทีที่มีพนักงานขายประจำอยู่ชั้นสองจะเป็นห้องสต๊อกสินค้าและแผนกบัญชีการเงิน ส่วนชั้นสามที่ฉันจะขึ้นไปเป็นห้
ตำแหน่งเลขานุการของคุณโย่งแม้งานจะไม่ซับซ้อนแต่เป็นงานที่ละเอียดพอสมควร สองสัปดาห์มานี้ฉันค่อยๆ ชินกับการทำงานกับเขาแล้วปกติเขาดูยิ้มแย้มเป็นกันเองกับพนักงานทุกคน แต่พออยู่กับฉันตามลำพังเหมือนเขาจะระวังตัวและกลายเป็นคนละคนกับบอสโย่งที่ฉันเคยรู้จักอาจเป็นเพราะเขาต้องรักษาระยะห่างกับเลขานุการที่ใกล้ชิดอย่างฉัน คงกลัวว่าฉันจะเข้าหาเขา เพราะไม่อย่างนั้นจึงบอกให้ฉันแต่งตัวให้รัดกุม แบบนี้ฉันก็คงต้องวางตัวให้ห่างจากเขาเพื่อรักษาตำแหน่งงานนี้เอาไว้“นี่เอกสารสรุปยอดขายเมื่อวานนี้ค่ะ แล้วก็สรุปยอดบัญชีคงค้าง” ฉันนำเอกสารไปให้เขาแล้วถอยออกห่างยืนรอเขาตรวจเอกสารตรงหน้าบอสหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองแล้วก้มลงเซ็นเอกสารตรงหน้าแล้วส่งคืนให้ฉัน“ตอนบ่าย ผู้จัดการของบริษัทไอเทคมาขอพบค่ะ บอสจะให้มาพบที่ห้องนี้หรือห้องประชุมดีคะหยีจะได้เตรียมสถานที่ไว้ให้”“ที่ห้องประชุมก็ได้...แล้วคุณเป็นอะไรของคุณ” เขาถามในตอนท้าย เลิกคิ้วสูงมองฉันด้วยสายตาที่สงสัย“อะไรคะ”“ผมสังเกตมาหลายวันแล้วนะ ทำไมไม่นั่งลงคุยกันดีๆ” เขาถามแล้วจ้องหน้าเพื่อต้องการคำตอบ“ก็พยายามออกห่างจากบอสไงคะ บอสจะได้สบายใจว่าหยีไม่มีวันจะเข้าไป
หลังจากที่เผลอใจไปกับบอสที่ห้องประชุม เราก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองโดยที่คุณโย่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่ที่ได้ครอบครองร่างกายของฉัน“บอสดูอารมณ์ดีนะ”“ค่ะพี่บี คุยงานลงตัวค่ะ” ฉันบอกพี่บีแล้วหันกลับไปทำสรุปรายงานการประชุมเตรียมส่งให้เขา“เย็นนี้ไปกินข้าวกับพี่นะ ตั้งแต่หยีมาทำงานที่ชั้นนี้พี่ยังไม่ได้ฉลองให้หยีเลย” ผู้จัดการหนุ่มชักชวนเธอ แต่ฟังดูแล้วมันเหมือนจะเป็นการมัดมือชกมากกว่า“เย็นนี้หยีไม่ว่างค่ะ” ฉันตอบเขาแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้าต่อ“งั้นพรุ่งนี้พี่จองตัวนะ” เขายังไม่ละความพยายาม แสดงออกชัดเจนว่าชอบฉันจนรู้สึกอึดอัดมากกว่าจะภูมิใจที่มีผู้ชายมาชอบพร้อมกันทั้งผู้จัดการทั้งบอสอย่างไรฉันก็เอนเอียงไปทางบอสอยู่แล้ว แต่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะเก็บฉันเป็นเมียลับๆ หรือว่าจะเปิดเผย ฉันเลยไม่อยากตัดพี่เชนออกจากตัวเลือกแม้จะตกเป็นของบอสไปแล้วก็ตาม“ขอดูก่อนนะคะ” ฉันยังไม่กล้ารับปากเขาเพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้บอสจะเรียกหาไหมและเหมือนประตูมีหู อยู่ๆ บอสก็โทรอินเตอร์คอมออกมาจากในห้องทำงานแล้วเรียกฉันให้เข้าไปพบ“ค่ะบอส” ฉันนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเขาแล้วมองใบหน้าที่ตอนนี้ดูเคร่งเครียดใส่
เมื่ออรรณพต้องไปทำงานต่างจังหวัดสองวัน จึงเป็นช่วงเวลาทองของทั้งคู่ที่จะพลอดรักกันทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกช่วยกันขณะที่จูบเล้าโลมกันตั้งแต่หน้าประตูห้องของกพล จนไปถึงเตียงเสื้อผ้าก็ถูกถอดออกตามทางจนไม่เหลือเขาเริ่มเล้าโลมแฟนสาวอย่างหื่นกระหาย ปากพร่ำชมเรือนร่างที่สวยสมส่วนในวัยยี่สิบสองด้วยความหลงใหล ล้วงควักบดขยี้จุดซ่อนเร้นนั้นอย่างไม่หยุดมือ“อันสวยมากเลยรู้ไหม พี่ทั้งรักทั้งหลงอันจนไม่อยากห่างแม้แต่วินาทีเดียว” เขาพูดไปก้มลงสำรวจหน้าอกไป ก่อนจะดูดเลียที่ยอดอกด้วยความหื่นกระหาย“อันเองก็ไม่อยากห่างจากพี่กพลเลย เมื่อคืนนี้คอลเสียวกันใช้นิ้วติ้วแต่ก็ไม่เหมือนพี่กพลมาทำให้” เธอครางเสียงหวานออดอ้อนเขา“งั้นคืนนี้พี่จะทำให้อันมีความสุขจนที่สุดดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถามแล้วก้มลงเลียที่รอบสะดือ ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอวบอูม“อื้อ อันอยากมีความสุข อยากโดนพี่กพลเอาทั้งคืนเลยค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวบอกเขาแล้วแอ่นสะโพกรับปลายลิ้นที่กำลังแยงดูดเม็ดเต่งตึงสีหวานในขณะเดียวกันปลายนิ้วหนาก็งอข้อนิ้วแยงเข้าออกเกาะเกี่ยวโดนจุดเสียวด้านใน มันเป็นความเสียวที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก“พี่กพ
ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งสองคบหากัน ในที่สุดก็เปิดเผยกับอรรณพว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ และบอกให้เขารู้ว่าพวกตนเพิ่งเริ่มคบกันเท่านั้นเพราะไม่อยากให้พี่ชายไม่สบายถ้ารู้ว่าแอบคบกันก่อนหน้านี้ในเช้าวันหยุดที่ปกติสองพี่น้องจะตื่นสาย แต่เพราะวันนี้กพลจะมาที่บ้านอันธิกาจึงต้องตื่นแต่เช้าเธออาบน้ำแต่งตัวออกไปเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสองหนุ่ม แล้วยิ้มให้กับกพลที่มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ในขณะที่อรรณพยังไม่ตื่นนอนพออาหารเช้าเสร็จเธอก็ให้กพลปลุกพี่ชาย อรรณพลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนไม่หยุดและมีท้องเสียร่วมด้วย“ไหวไหมพี่ณพ” เธอถามพี่ชายที่พาร่างมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“ไหว” เขาบอกแล้วมองข้าวต้มตรงหน้า คิดว่ากินอะไรร้อนๆ แล้วน่าจะดีขึ้น“มาแต่เช้าขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ค้างซะเลยล่ะ” คนป่วยหันไปประชดเพื่อนรัก“ได้เหรอ” กพลถามกวนบาทากลับไป“ไม่โว้ย เมื่อก่อนตอนจีบน้องฉันยังไม่เป็นแฟนฉันให้นอนได้ แต่ตอนนี้พวกแกสองคนเป็นแฟนกันแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะมาค้างที่บ้านฉันได้อีก” พี่ชายทำหน้าที่หวงน้องสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันอมยิ้ม เพราะพวกตนมีวิธีรับมือเรื่องนี้อยู่แล้วพี่ชายขี้หวงตักข้าวต้มกิน
ทั้งสองคบหากันอย่างลับๆ มาเกือบสองสัปดาห์แล้วโดยไม่ให้อรรณพรู้ แต่ท่าทีของอันธิกาก็ไม่ได้ต่อต้านกพลเหมือนแต่ก่อนทำให้อรรณพรู้สึกยินดีกับว่าที่น้องเขย“จะมากินข้าวเช้าด้วยทำไมบ่อยๆ เปลืองฉิบ”“อ้าวไอ้ณพ นี่แกรังเกียจเพื่อนเหรอ กับข้าวฉันก็ซื้อมานะโว้ย เปลืองตรงไหน” เขาหันไปพูดหยอกเพื่อนสนิทที่พูดหยอกแรง“ใช่ หมูในตู้เย็นกับผักก็พี่กพลซื้อ กับข้าววันนี้พี่กพลก็ซื้อ แล้วพี่จะบ่นทำไม” อันธิกาออกรับช่วย“เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ” อรรณพหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด“นี่หลงคำหวานมันจนใจอ่อนแล้วใช่ไหม” เขาพูดล้อเลียนน้องสาวอันธิกาไม่ได้ปฏิเสธเพราะว่าเธอต้องการให้พี่ชายรับรู้ว่าทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป“ก็ดีแล้วล่ะ เพื่อนพี่ถึงมันจะดูเหมือนคนหื่นๆ แต่มันไม่เจ้าชู้นะ ดีกว่าไอ้หน้าปลากระโห้ที่มาส่งแกเมื่อวาน ทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษแต่ผู้ชายด้วยกันมันดูออกว่าจ้องจะฟันแก” เขาบอกน้องสาวประโยคนั้นทำให้กพลมองแฟนลับๆ ของตนตาขวาง เพิ่งรู้ว่ามีคนมาส่งเธอ“ใครมาส่ง ทำไมต้องมาส่ง”“เมื่อวานเพื่อนมารับไปกินข้าวขากลับเพื่อนอีกคนเลยมาส่งค่ะ” เธออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่ยอมสงบลง แสดงความหึงหวงจ
ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ตนแอบรักนอนรออยู่ตรงหน้า กพลเกิดอารมณ์เป็นอย่างมากในใจเอาแต่ขอโทษเพื่อนรักอย่างอรรณพที่ตนทำเกิดกว่าเหตุเพราะทุกอย่างมันเกินห้ามใจ“เร็วๆ สิคะเดี๋ยวพี่ณพก็กลับมาก่อนหรอก”เธอเร่งเร้าเขาด้วยน้ำเสียงที่แสร้งไม่พอใจ แต่ในใจนั้นทั้งลุ้นทั้งตื่นเต้นอยากโดนกระบองนั้นฟาดที่เนินสวาทใจจะขาดแล้ว“บอกว่าเร็วๆ” เธอเร่งเขาไม่หยุด“บ่นเก่งจัง” เขาคร่อมร่างหลวมๆ ทับเธอเอาไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั้นลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากที่บ่นไม่หยุดปลายลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็กนั้นแล้วดูดปลายลิ้นนั้นจูบอย่างดูดดื่มจนเธอครางอื้ออึงเพราะหายใจไม่ถนัดมือของหญิงสาวไขว่คว้าที่หัวไหล่กว้างแล้วแอ่นสะโพกเรียกร้องหาท่อนเนื้อที่พาดอยู่ต้นขาของตนให้เขารีบลงมือเสียทีกพลรู้ว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์ถูกเล้าโลมเล็กน้อยก็เกิดอารมณ์และคงต้องการสิ่งนั้นจนทรมานด้วยความเสียวจนต้องแสดงออกมาด้วยภาษากายเขาไม่รอช้าที่จะดับความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอด้วยแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขาเขาหยัดตัวนั่งคุกเข่า มือหนากำท่อนเนื้อถูไถที่รอยแยกฉ่ำน้ำบริเวณช่อกลีบบัวที่แย้มให้เห็นเกสรเต่งตึงตรงหน้
สายตาที่กำลังมองอย่างโลมเลียและจาบจ้วงของชายที่นั่งข้างๆ พี่ชายทำให้อันธิการู้สึกไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขานักกพลคือเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ไปมาหาสู่กันตั้งแต่ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยทำงานแล้วทั้งสองก็ยังคบหาสนิทสนมกันอยู่สายตาที่เขามองเธอแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ มันเต็มไปด้วยความเอ็นดูมากกว่ามองเหมือนอยากจับเธอแก้ผ้าแล้วสำรวจเรือนร่างที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างในตอนนี้“อันอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะ” หญิงสาวบอกพี่ชายขณะที่กินมื้อเช้าด้วยกันโดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเสนอหน้ามานั่งโต๊ะด้วย“ให้ไอ้กพลไปส่งนะ วันนี้พี่จะใช้รถ”“อ้าว พี่ณพก็ไปกับพี่กพลสิ รถตัวเองเสียก็ให้เพื่อนมารับแล้ว” เธอโวยวายเมื่อพี่ชายจะให้คนหื่นกามอย่างเพื่อนสนิทเขาไปส่งเธอ“พี่ให้กพลมันมาแต่เช้าเพื่อไปส่งอันนั่นแหละ ไม่ใช่มารับพี่” อรรณพบอกแล้วยึดกุญแจรถที่วางบนโต๊ะมาถือไว้“อ้าว ตัวเองทำงานด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ” เธอรู้ว่าพี่ชายคิดจะทำอะไรจะจับคู่เธอให้กพลนะหรือ ฝันไปเถอะ!“เอากุญแจรถอันมานะ ไม่งั้นอันจะโทรไปฟ้องแม่” เธออ้างแม่ขึ้นมา ทำให้อรรณพต้องคืนกุญแจรถให้น้องสาวแต่โดยดี“ก็แค่เนี้ยะ” หญิงสาวย่นจ
สายน้ำที่เย็นฉ่ำราดรดกายของเราทั้งสองคน ผู้กำกับหนุ่มใหญ่กำลังถูสบู่ให้ฉันโดยการกอดเข้ามาจากด้านหลังแล้วลูบไล้ถูฟองไปที่สองเต้าท่อนเนื้อแกร่งถูไถที่สะโพกจากด้านหลังทำให้ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ใคร่และต้องการเขามากขึ้นหลังจากที่น้ำชำระคราบฟองสบู่ไปจนหมดเราก็ปิดน้ำแล้วหันมาสบตากันด้วยความปรารถนา แล้วอาเน็ทก็โน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่มาจูบที่แก้ม“ซีนแรกเราจะเอากันในห้องน้ำก่อน”“แน่ะ เลิกกองแล้วนะคะ”“อย่าดื้อสิครับ เล่นตามบทจนกว่าอาจะสั่งคัท” เขาพูดจบก็ดันฉันไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำยกขาฉันขึ้นหนึ่งข้างแล้วย่อกายกดท่อนเนื้อหัวบานนั้นชำแหละเข้ามาในรูสวาทแล้วเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างนุ่มนวล“อื้ม อาเน็ทขา....”“วันนี้อาจะทำเบาๆ เดี๋ยวข้างห้องจะได้ยิน” เขากระซิบเสียงพร่าข้างหู ฉันแอบลอบยิ้มไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเบาแรงได้นาน ในเมื่อที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยอ่อนโยนกับเมียเด็กคนนี้อาเน็ทซอยฉันอัดเข้ากับผนังห้องน้ำ ฉันยืนขาเดียวกอดคล้องคอเขาเอาไว้รับจูบจากกลีบปากที่ร้อนผ่าวแล้วจูบแลกเกี่ยวปลายลิ้น ดื่มด่ำกับรสหวานในโพรงปากอย่างกระหายสะโพกสอบเคลื่อนเข้ามาอย่างดุดันไม่ยอมหยุดจากนั้นก็อัดสะโพกฉันเข
หนังเรื่องใหม่ที่จะต้องถ่ายทำฉากบางส่วนที่ต่างจังหวัด อาเน็ทชวนฉันให้ตามไปด้วยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และตรงกับช่วงที่อาจารย์จัดให้นักศึกษาปีสี่ออกไปลงพื้นที่หาข้อมูลทำวิจัยในวันจันทร์และอังคาร ฉันจึงมีเวลาหยุดยาวรวมสี่วันไปดูงานในกองถ่ายกับเขาอากาศในช่วงต้นปีค่อนข้างเย็นสบาย การถ่ายทำที่รีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาจึงเป็นอะไรที่ฉันรู้สึกมีความสุขมาก“พระเอกเดินตามนางเอกไป พอถึงตรงต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นก็ดึงนางเอกให้หลบ แล้วล้มไปตรงที่ทำเครื่องหมายเอาไว้” อาเน็ทกำกับให้พระนางทำตามบทผ่านโทรโข่ง แล้วนั่งดูจอมอนิเตอร์ตรงหน้าฉันมองดูสีหน้าที่จริงจังนั้นแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะดูพี่วินกับพี่เมย์ที่เป็นพระนางในเรื่องใหม่นี้กำลังแสดงเป็นเทคที่สามของซีนนี้พี่วินเดินตามง้อพี่เมย์ในฉาก พอถึงต้นไม้ใหญ่ก็ดึงพี่เมย์ให้ล้มลงไปที่ข้างทางที่มีเบาะเตรียมเอาไว้แล้วอาเน็ทก็สั่งคัท“คัท! ซีนต่อไปกล้องแพลนไปที่กิ่งไม้”ทีมงานปีนขึ้นไปต้นไม้พร้อมกับแกะเชือกมักท่อนไม้ขนาดกลางที่เตรียมเอาไว้ให้ตกลงมาให้กล้องจับภาพตอนกิ่งไม้ตกเพื่อนำไปตัดต่อให้ดูเหมือนว่ามันหล่นลงมาจากนั้นอาเน็ทก็ให้ถ่ายฉากที่พระนางล้มลงแล้วกลิ้ง
พอกลับจากมหาวิทยาลัยฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในชุดลำลองไปที่ห้องของอาเน็ทเพื่อเก็บรายละเอียดงานตัดต่อส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยฉันเปิดดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าที่พอตัดฉากยิบย่อยมารวมกันเป็นฉากที่ต่อเนื่องก็ภูมิใจมากรอบแรกรอบสองเป็นการดูเพื่อเก็บรายละเอียดงานไม่ได้เกิดอารมณ์ร่วมตามเลยเพราะความเครียดที่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเข้าใจแล้วว่าทำงานพวกนี้ไม่มีอารมณ์หรอกเพราะหน้างานจริงน่ะเครียดมากแต่ว่าหลังจากที่คิดว่างานผ่านและไม่มีรายละเอียดให้เก็บแล้วก็ดูแบบเรื่อยๆ คราวนี้จึงเกิดอารมณ์เล็กน้อยและแทบจะรอให้อาเน็ทกลับมาแทบไม่ไหวคืนวันศุกร์แบบนี้ฉันสามารถรอเขาได้ยาวๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการไปเรียนมหาวิทยาลัยเหลืออีกเทอมเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว จากนั้นการฝึกงานก็อยากจะขอฝึกกับอาเน็ทไปเลย แต่ต้องปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนว่าสามารถฝึกงานในกองถ่ายหนังอีโรติกได้หรือไม่ ถ้าได้ก็คงจะดีไม่น้อยเสียงเปิดประตูห้องทำให้ฉันรีบหันไปดูแล้วยิ้มให้กับเขาอาเน็ทอ้าแขนออกแล้วฉันก็วิ่งเข้าไปหากระโดดขึ้นไปคาบอยู่บนตัวเขาแล้วกอดคอเอาไว้“ดีนะที่มีเมียตัวเล็กไม่งั้นหลังอาหักแน่” เขาพูดแล้วอุ้มพาฉันเดินไป
ใบหน้าที่ดูจริงจังของผู้กำกับวัยสี่สิบกว่าทำให้ฉันมองอย่างหลงใหล ไม่ใช่แค่ลีลาบนเตียงและรูปลักษณ์ที่ดูอบอุ่นของเขาที่ทำให้ฉันรู้สึกลุ่มหลงแต่เป็นเพราะนิสัยใจคอจริงๆ ของเขาด้วย“งานยังไม่เสร็จเหรอคะ อาหารมาแล้วนะ” ฉันเดินเข้าไปกอดเขาจากด้านหลังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วหอมแก้มสากนั้นพร้อมกับคลอเคลียที่ข้างใบหูของเขา“อีกนิดหนึ่งน่ะ กินข้าวก่อนก็ได้นะ”“อาเน็ทตัดต่อเองทำเองทั้งหมดแบบนี้ไม่มีทีมงานช่วยเหรอคะ” ฉันมองหน้าจอตรงหน้าที่เขาตัดงานค้างเอาไว้“พึ่งลาออกไปคนหนึ่งน่ะตอนนี้เลยไม่มี กองถ่ายเล็กๆ โปรดักชั่นธรรมดาน่ะมีตัดต่อคนเดียว พอลาออกไปอาเลยต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อนจนกว่าจะหาคนใหม่ได้”“ให้หวานช่วยไหมคะ หวานได้เกรดเอวิชาตัดต่อและกราฟฟิก เคยตัดต่อหนังสั้นส่งประกวดมาแล้วด้วย” ฉันรีบเสนอตัวช่วยงานเขา จะได้ยิ่งทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น“งั้นกินข้าวแล้วอาจะสอนงานนะ”“ขอบคุณนะคะที่ให้หวานมีส่วนช่วยในงานของอาเน็ท”“อาต่างหากที่ขอบคุณหวาน ที่มาช่วยงานของอา” เขาลุกขึ้นแล้วหันมากอดฉัน โยกตัวไปมาเบาๆ อย่างเอ็นดูฉันเสียจนฉันอยากดูเอ็นเขากลับแต่เสียดายที่จราจรติดขัดเพราะติ