Share

7 ลี่จูอิจฉา

last update Huling Na-update: 2025-02-05 10:44:22

ลุงของลู่หยางชื่อว่าลู่ฮุ่ย แต่ก่อนที่บิดาของเขายังอยู่ ครอบครัวทั้งคู่ยังคงสนิทสนมกันดี แต่เมื่อไม่มีบิดาของลู่หยาง ลุงคนนี้ก็ไม่ได้สนใจใยดีหลานชายคนนี้อีก

ชายหนุ่มเสี่ยงดวงลองเคาะประตูบ้านของลุงดู หลังจากรออยู่ไม่นานหลี่กุ้ยหลันผู้เป็นป้าสะใภ้ก็ออกมาเปิดประตู และเมื่อเห็นว่าเป็นลู่หยาง ใบหน้าของเธอก็แสดงความรังเกียจออกมา “แกมาทำไม!”

นอกจากสีหน้าที่ไม่ชื่นชอบแล้วน้ำเสียงของป้าสะใภ้ก็เต็มไปด้วยความขยะแขยง

ลู่หยางรู้สึกอายเล็กน้อย ชาติก่อนชายหนุ่มหน้าตาน่ารักมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงเป็นที่โปรดปรานของผู้หลักผู้ใหญ่มาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนแสดงท่าทีรังเกียจเมื่อเห็นเขา

เขาพยายามยิ้มให้กับป้าสะใภ้ของร่างเดิม “ป้าสะใภ้ คือ... ผมขอโทษที่มารบกวน แต่ตอนนี้ไม่มีอาหารที่บ้าน และลูกทั้งสองของผมก็หิวมาก ป้าสะใภ้พอจะให้ผมยืมอาหารก่อนได้ไหม ผมจะรีบจ่ายคืนให้ทันทีหลังการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุดลง”

“ให้แกยืมอาหารงั้นรึ”หลี่กุ้ยหลันหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก “ลู่หยาง แกมาขอยืมแล้วเคยคืนด้วยเหรอ... หลังจากพ่อของแกตาย ฉันเคยให้ยืมอาหารไปแล้ว เพราะว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร สุดท้ายแล้วเป็นยังไง แกก็ไม่ได้เอามาคืนให้ฉันอยู่ดี”

ลู่หยางอยากจะดึงวิญญาณของร่างเดิมออกมาและทุบตีเขาเหลือเกิน ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายเป็นคนก่อวีรกรรมแต่เขากลับเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อนแทน

ชายหนุ่มหัวเราะเสียงแห้ง และพูดต่อไปว่า “ป้าสะใภ้ ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ขอให้ป้าสะใภ้ได้เชื่อใจผมสักครั้ง เมื่อสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผมจะคืนทั้งอาหารที่ยืมในครั้งนี้และครั้งก่อนอย่างแน่นอน!”

“ฉันไม่เชื่อ! ออกไป! ออกไป!”หลี่กุ้ยหลันโบกราวกับกำลังไล่ขอทานออกไป จากนั้นก็ตั้งท่าจะปิดประตูหนี

ในเวลานี้เสียงของลี่จูดังขึ้นมาจากในบ้าน “แม่ใครมาหรือคะ”

ลี่จูเพิ่งกลับเข้าบ้านมาได้ไม่นานหลังจากเฝ้ารอให้ไป๋ถัง เดินกลับไปหาสวีจ้าว แต่รอจนบ่ายคล้อยอีกฝ่ายก็ไม่ได้ย้อนกลับมา เธอจึงกลับมาที่บ้านเมื่อสักครู่นี้เอง

เมื่อลี่จูได้เห็นลู่หยางยืนอยู่ที่หน้าประตู เธอก็รู้สึกประหลาดใจ “น้องสามี เธอมาที่นี่ทำไม”

“ผมต้องการยืมอาหาร”ลู่หยางพูดอย่างหน้าด้าน “พี่สะใภ้ให้ผมยืมก่อนได้ไหม แค่นิดเดียวก็ได้ ไป๋ถังและผมสามารถทนหิวได้ แต่เด็กน้อยสองคนต่างหิวกันจนตัวผอมหมดแล้ว”

ลี่จูได้ฟังก็ยิ่งนึกขำ คนในหมู่บ้านต่างก็รู้ว่าคู่สามีภรรยาไม่สนใจลูกของตนเอง ชาวบ้านมักเห็นว่าต้าเป่าและ เสี่ยวเป่านั้นมีสภาพร่างกายน่าสมเพชเพียงใด บางคนก็แอบเอาอาหารเล็กน้อยให้พวกเขากินเพราะกลัวว่าเด็กทั้งสองจะต้องอดตาย

มุมปากของลี่จูโค้งลงอย่างดูถูก ก่อนหน้านี้เธอเคยชอบใบหน้าของลู่หยางมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เธอดูถูกเขามากยิ่งกว่าเดิม ผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับเธอเลยสักนิด เธอคิดถูกแล้วที่ไม่ได้แย่งชิงผู้ชายคนนี้กับไป๋ถัง

ลี่จูมองเขาอย่างเหยียดหยามแล้วพูดเป็นนัยๆ “แทนที่จะขอยืมอาหารจากครอบครัวของเรา ทำไมไม่ให้ไป๋ถังไปขอยืมสวีจ้าวล่ะ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันย่อมต้องแบ่งอาหารให้กับพวกเธออย่างแน่นอน”

เมื่อหลี่กุ้ยหลันได้ยินสิ่งที่ลูกสะใภ้ของตนพูด หญิงวัยกลางคนก็เข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร นี่เป็นการยั่วยุให้ลู่หยางแตกคอกับภรรยา เพราะโดยปกติผู้ชายที่ไหนจะทนให้ภรรยาของตน สนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นได้

หลี่กุ้ยหลันเองก็อยากเห็นทั้งสองสามีภรรยาอายุน้อยแตกคอกัน หญิงวัยกลางคนอย่างเธอชื่นชอบเรื่องสนุกของชาวบ้านเช่นนี้นัก จึงรีบยุยงช่วยลูกสะใภ้อีกแรง “ใช่ เสี่ยวจูพูดถูก ให้เมียแกไปขอสวีจ้าวสิ สองคนนั้นสนิทกันดีจะตาย” หลังจากพูดจบทั้ง หลี่กุ้ยหลันและลี่จูมองหน้ากันอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เฝ้ารอให้ลู่หยางโกรธ

อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาตอบสนองของลู่หยางนั้นสงบ และเขาตอบกลับทั้งสองด้วยใบหน้าเย็นชา “หากว่าป้าสะใภ้กับพี่สะใภ้ ไม่อยากให้ยืมอาหารก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาพูดจาพล่อยๆ ใส่ร้ายเมียของผมถ้าไม่มีหลักฐาน”

“อะไรนะ”ลี่จูหัวเราะอย่างเหลือเชื่อ “มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันพูดพล่อยๆ ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็รู้เรื่องนี้!”

หรือว่าลู่หยางไม่เคยรู้เรื่องนี้กันนะ

เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้เรื่องราวฉาวโฉ่ของภรรยา ลี่จูก็รีบเล่าเรื่องเสริมเติมแต่งเข้าไปอีก “พวกเขาสนิทกันมาเกือบครึ่งปีแล้ว และทุกครั้งที่ไป๋ถังไปหาสวีจ้าว หล่อนจะทาปากเขียนคิ้ว เดินนวยนาดไปคุยกับสวีจ้าวอยู่ทุกเย็น ชุนเหยียนและเสี่ยวฮัวก็เคยเห็น ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองไปถามพวกเขาดูสิ”

“แล้วมีหลักฐานอย่างอื่นอีกไหม”ลู่หยางมองอย่างเย็นชา “พี่สะใภ้เคยเห็นพวกเขากอดกัน จูบกัน หรือนอนด้วยกันบนเตียงด้วยงั้นเหรอ”

“ไม่เคย แต่.. “ลี่จูต้องการที่จะเถียงต่อไป

ลู่หยางพลันขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “ในเมื่อไม่เห็นอะไรเลย แล้วทำไมถึงได้ใส่ร้ายเมียของผม พวกเขาอาจจะแค่พูดคุยกันเท่านั้น หรือเพราะพี่สะใภ้มีความคิดสกปรก เลยคิดว่าพวกเขาทำเรื่องอย่างนั้นกันแน่ วันนี้ผมขอพูดเลยว่าถ้าพี่สะใภ้ใส่ร้ายเมียผมอีก ต่อให้พวกเราสองครอบครัวจะเป็นญาติกัน ผมก็จะไม่เกรงใจอีกต่อไป!”

ในโลกเดิมลู่หยางถูกสั่งสอนมาว่าให้ปกป้องคุ้มครองคนในครอบครัว

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับไป๋ถังคนใหม่ แต่สำหรับสายตาของคนภายนอก พวกเขาคือคนในครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นชายหนุ่มจะไม่มีวันยอมให้ครอบครัวของเขาโดนถูกดูถูกหรือรังแก

ในยุคสมัยนี้จิตใจคนยังไม่เปิดกว้างและบางครั้งคำพูดก็สามารถฆ่าคนได้เช่นกัน

ลู่หยางไม่รู้ว่า ไป๋ถังสนใจเรื่องเหล่านี้หรือไม่ แต่เขาสนใจ!

ลี่จูไม่คาดคิดว่าจะถูกเขาตะคอกใส่ หญิงสาวมองเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวของลู่หยาง เขาดูไม่เหมือนชายหนุ่มที่แสนเกียจคร้านคนเดิม ผู้ชายตรงหน้าในเวลานี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง

ลู่หยางสูงมาก สูงประมาณ 188 เซนติเมตร ในบรรดาผู้ชายในหมู่บ้านเขาน่าจะเป็นคนที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ขนาดสามีของเธอยังสูงเพียงแค่ 170 เซนติเมตรเท่านั้น

แต่เนื่องจากบิดาเสียชีวิต เขาจึงมีชีวิตแร้นแค้น จากนั้นก็ชอบเดินหลังค่อมจึงทำให้เสียบุคลิก

แต่ในขณะนี้ ลู่หยางที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขายืนด้วยแผ่นหลังที่ตั้งตรง มีดวงตาที่แน่วแน่ รูปร่างของเขาดูดีกว่าตอนที่พบกันครั้งแรกเมื่อห้าปีที่แล้วเสียอีก

แก้มของลี่จูร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอเม้มปากลงด้วยความเขินอายและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

ในเวลานี้ ไป๋ถังก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเดินเข้ามาคล้องแขนสามีของตน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ทำไมคุณมายืมอาหารนานขนาดนี้คะ”

ไป๋ถังเห็นลู่หยางยืนอยู่ที่ประตูเป็นเวลานาน  ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ และได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเพื่อปกป้องเธอ หญิงสาวคิดว่าเขาดูเท่มาก คำพูดของชายหนุ่มทำให้หัวใจของสาวน้อยอย่างเธอเต้นระรัว

แต่เมื่อไป๋ถังเห็นสายตาของลี่จู ที่มองชายหนุ่มด้วยความเปล่งประกายผิดปกติ เธอจึงรีบเดินเข้ามาแทรกกลาง

“พวกเขาไม่ต้องการให้ยืม ลืมมันไปเถอะ!”ลู่หยางไม่สะบัดมือของไป๋ถังออก เขาจะไม่ดูหมิ่นภรรยาของเขาต่อหน้าคนนอก

เขาโอบเอวเธอด้วยความรักใคร่และเตือนผู้หญิงสองคนที่ประตูอีกครั้ง “ดูสิ ผมกับภรรยามีความสัมพันธ์ที่ดี อย่าให้ผมต้องได้ยินว่าพวกป้าสะใภ้ใส่ร้ายเธออีก!”

หลังจากพูดจบเขาพี่เป็นฝ่ายมาขอยืมอาหารจากไปอย่างกล้าหาญ

แต่หลี่กุ้ยหลันที่เป็นฝ่ายถูกขอยืมกลับโกรธมากแทนเสียอย่างนั้น

เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ เมื่อเธอได้สบตาของลู่หยางที่ดูน่ากลัวเช่นนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะด่าอะไรเขาออกไป

“เสี่ยวจู ต่อไปอย่าได้คุยกับพวกเขาอีก ผัวร้ายเมียเลว! อัปมงคลจริงๆ!”

หลี่กุ้ยหลันกระแทกประตูปิดโมโหปากก็สบถด่าไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ลี่จูไม่ได้ยินคำพูดของเธอเลย แต่จิตใจของเธอเต็มไปด้วยภาพของ ไป๋ถังที่คลอเคลียอยู่ในอ้อมแขนของชายร่างสูง โดยที่เขาโอบเอวของเธอไว้

ยิ่งลี่จูนึกถึงภาพนั้น ก็ยิ่งรู้สึกอิจฉา!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   8 หาอาหาร

    ไป๋ถังและลู่หยางเดินควงแขนกันลงมาตามทางลาด จนเมื่อพ้นจากบริเวณสายตาของพวกป้าสะใภ้ ท่าทีที่สนิทสนมคลอเคลียกันเมื่อสักครู่ของพวกเขาก็หยุดชะงัก ทั้งสองต่างรีบแยกตัวออกจากกันอย่างรวดเร็วลู่หยางกระแอมในลำคอ ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ผมขอโทษที่สัมผัสตัวคุณ เมื่อสักครู่มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ “ไป๋ถังโบกมืออย่างโดยไม่ถือสาอะไร “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ”เธอมองกลับไปที่บ้านลุงของลู่หยางแล้วจีบปากจีบคอพูดด้วยท่าทางเสียใจ “แน่นอนว่าความสัมพันธ์พวกเราไม่ดี เรายืมอาหารใครไม่ได้เลย ตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าครอบครัวคนใหม่นะ คุณมีแผนที่จะเลี้ยงดูฉันและลูกๆ ยังไงคะ”ลู่หยางมองเธอด้วยสายตาเหลือเชื่อ “คุณดูจะยอมรับเรื่องนี้ได้รวดเร็วจังเลยนะครับ”ไป๋ถังยิ้มอย่างไร้เดียงสาตอบกลับมา “สถานการณ์ตอนนี้มันบังคับให้ฉันต้องปรับตัวนี่คะ แล้วตอนนี้ฉันก็หิวมากด้วย”ไป๋ถังกุมท้องแล้วนั่งยอง ๆ ลงกับพื้นถนน หญิงสาวเงยหน้ามองไปที่ลู่หยางด้วยท่าทางน่าสงสาร “สามีคะ โปรดหาอาหารมาเติมกระเพาะให้ฉันด้วย”“คุณเรียกผมว่าสามีได้คล่องปากเชียวนะ”ลู่หยางรู้สึกว่ายิ่งเขารู้จักกับผู้หญิงคนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็คิดว่าเธอเป็นคนที่มีอารมณ์

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   9 ไป๋ถังกรรโชกทรัพย์

    ระหว่างทางที่ไป๋ถังกำลังเดินกลับบ้าน จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกเธอขึ้นมา “นี่ เสี่ยวไป๋ มาดื่มกับพี่ชายไหมจ๊ะ”เสี่ยวไป๋?นี่เขาเรียกเธออย่างนั้นหรือไป๋ถังหรี่ตามองอีกฝ่าย เธอพบกับใบหน้าซูบผอมของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ยืนมองเธอมาจากข้างในบ้าน ดวงตาของเขาจ้องมองเธอด้วยความลามก หญิงสาวกำหมัดแน่นแต่ใบหน้าที่แสดงออกเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างสดใสดีมาก ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนต้องเสียอาหารให้เธอแล้ว!จากความทรงจำของร่างเดิม ชายคนนี้มีชื่อว่าจางตู้ เขาเป็นอันธพาลประจำหมู่บ้าน ตอนนี้อีกฝ่ายมีอายุเกือบสามสิบปี แต่ไม่เคยแต่งงาน เพราะด้วยนิสัยของเขาบวกกับหน้าตาและฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยมีเงิน จึงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานกับเขาเพราะเขาไม่ได้แต่งภรรยา เงินที่หามาได้จึงใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย เขามักซื้อเหล้ามาดื่ม เวลาเมาจะชอบไปนั่งใต้ต้นไทรใหญ่หน้าหมู่บ้านและหยอกล้อผู้หญิงที่เดินผ่านไปมา ทุกคนเกลียดเขามากและขอให้หัวหน้าหมู่บ้าน ไปตักเตือนเขาแต่ก็ไม่ค่อยได้ผล จางตู้มักจะแค่พูดจาลวนลามเท่านั้นโดยที่ไม่ได้ไปแตะต้องตัวใคร พฤติกรรมของเขาเพียงสร้างความรำคาญ ท้ายที่สุดผู้คนจึงทำได้เพียงเดินหนีให้ห่างเวลาที

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   10 มีเมียเป็นโจร

    ลู่หยางรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย เขามีภรรยาที่เป็นโจรอาศัยอยู่ในบ้าน ในฐานะทหารเขามีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก หลังจากเงียบไปสักครู่ ชายหนุ่มก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง “แล้วคุณมียานเกราะใช้ได้อย่างไร” “ก็ซื้อมาน่ะสิ...เราเป็นโจรสลัด แน่นอนว่าเราต้องมีกองกำลังทางทหารของเราเอง ไม่เช่นนั้นเราก็ต้องถูกทหารอวกาศจับได้”ไป๋ถังพูดขึ้นมาแล้วก็นึกฉุนเฉียว “แต่ยานเกราะที่ซื้อมาครั้งนี้ไม่ได้คุณภาพ ฉันเลยทะลุมิติย้อนเวลามานานเกินไปมากเลยทีเดียว!”ลู่หยางคิดว่าเทคโนโลยีในภายภาคหน้าคงจะเจริญก้าวหน้ามาก เขาคิดว่าอีกฝ่ายมีเงินถึงขนาดซื้อยานเกราะได้ คงจะปล้นสมบัติของคนอื่นไปไม่น้อย “คุณออกไป... ปล้นบ่อยไหม”ไป๋ถังเห็นสีหน้าของเขาก็รีบอธิบาย “คุณไม่ต้องกังวล ในอวกาศมีกลุ่มโจรสลัดอยู่หลายกลุ่ม กลุ่มของเราไม่ได้เน้นปล้นชิงสมบัติ” “แล้วพวกคุณปล้นอะไร”คิ้วของลู่หยางขมวดแน่น ไป๋ถังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มองไปที่ลู่หยางอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า ริมฝีปากสีแดงขยับพูดอย่างช้าๆ “ปล้น...ผู้...ชาย” ”...”ลู่หยางถอนหายใจทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “คุณพูดจริงเหรอ” “จริงสิ…ม

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   11 แม่สวยไหม

    ลู่หยางยืนอยู่ที่ประตูและเฝ้าดูไป๋ถังเล่นกับเด็กอย่างเงียบ ๆ โดยไม่เข้าไปรบกวนชายหนุ่มคิดว่าคนที่อ่อนโยนกับเด็กๆ คงไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ทั้งคู่ก็คงไม่มีทางกลับไปในโลกเดิมได้อีก พวกเขาจะมาระแวงกันเองก็คงไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา ในเวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเอาชีวิตรอดในยุคนี้ให้ได้! เมื่อคิดได้เช่นนี้ ลู่หยางก็สลัดความคิดเกี่ยวกับตัวตนในโลกเดิมของไป๋ถัง ชายหนุ่มเอ่ยบอกหญิงสาวที่กำลังเล่นกับเด็กๆ “คุณเล่นกับลูกๆ ไปนะ ผมจะไปทำอาหารเย็นให้” “ได้เลยค่ะ” ไป๋ถังทำนิ้วเป็นสัญลักษณ์โอเค เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะไปทำอาหาร เธอก็ชี้ไปที่ถุงแป้งข้าวโพดและมันฝรั่ง “เอาแป้งข้าวโพดกับมันฝรั่งในถุงนั่นไปทำอาหารด้วยสิคะ จะได้มีกับข้าวเพิ่มขึ้นหลายๆ อย่าง”ลู่หยางพยักหน้าและพูดกับลูกทั้งสอง “พ่อจะไปทำของอร่อยให้พวกลูกนะ” ต้าเป่าและเสี่ยวเป่าพยักหน้ารับ “ขอบคุณครับพ่อ”ลู่หยางใช้มือข้างที่ว่างลูบผมของเด็กน้อยทั้งสอง ด้วยความอ่อนโยน เด็กแฝดคู่นี้น่ารักและเชื่อฟัง พวกเขาไม่ส่งเสียงดังโวยวาย และรู้ความทุกอย่าง จึงทำให้เขาเอ็นดูสงสารมีความรู้สึกอยากจะเลี้ยงดูพวกเขามากขึ้นไปอีกชายหนุ่มหยิบ

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   12 หาคู่แบบโจรสลัด

    ไป๋ถังวางกระจกลง หญิงสาวยิ้มออกมาและลูบศีรษะเล็กๆ ของพวกเขาด้วยท่าทางอ่อนโยน “ไปดูพ่อทำอาหารกันเถอะ” เธอเป่าตะเกียงน้ำมันก๊าดในห้องให้ดับลง ช่วงนี้พวกเขาต้องประหยัดในเมื่อห้องนี้ไม่มีคนก็ควรจะดับตะเกียงเอาไว้ หญิงสาวจูงมือเด็กน้อยทั้งสองพาเดินกลับไปที่ห้องครัว ในห้องครัวมีเก้าอี้ตัวเล็กวางอยู่เธอจึงนั่งลงพร้อมกับอุ้มต้าเป่าและเสี่ยวเป่าไว้บนตัก สามคนแม่ลูกนั่งมองลู่หยางที่กำลังย่างปลาด้วยสายตากระตือรือร้น เมื่อลู่หยางเห็นสายตาที่จ้องมองมาของทั้งสามคน ชายหนุ่มก็หัวเราะออกมา “คุณอยากจะช่วยผมย่างปลาหรือเปล่าครับ” ไป๋ถังมุ่ยปากลง “ฉันทำอาหารไม่เป็นค่ะ”ลู่หยางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย “คุณไม่เคยทำอาหารมาก่อนเหรอครับ” ไป๋ถังส่ายหัว “ไม่เคย” ลู่หยางหัวเราะเบา ๆ “ถ้าคุณทำไม่เป็นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทำเอง” เสี่ยวเป่ายกมือขึ้นเสนอตัว “พ่อ เสี่ยวเป่าทำเป็น” ต้าเป่าก็ยกมือขึ้นเหมือนกัน “พ่อ ต้าเป่าก็ทำเป็น” ลู่หยางยิ้มเอ็นดูเด็กๆ ทั้งสอง “พ่อทำเองได้ ลูกนั่งอยู่เฉยๆ กับแม่ตรงนั้นเถอะ” ชายหนุ่มย่างปลาด้วยวิธีง่

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   13 นอนเตียงเดียวกัน

    การมีภรรยาเป็นโจรอยู่ในครอบครัวนั้น มันทำให้ลู่หยางรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะเป็นโรคประสาทภรรยาของเขาเป็นคนพูดตรงจนทำให้เขารู้สึกเขินอายขึ้นมา “ผมจะไปต้มน้ำไว้ให้คุณกับลูกอาบ คุณนั่งอยู่เป็นเพื่อนลูกนะ”ชายหนุ่มไม่อยากคุยกับไป๋ถังอีก เขาลุกขึ้นและรีบเดินกลับไปที่ครัว เมื่อเห็นท่าทางลนลานของเขา ไป๋ถังก็ตะโกนตามหลัง “คุณอายเหรอคะ” มุมปากของลู่หยางกระตุก ผู้หญิงคนนี้!ลู่หยางพยายามไม่สนใจเสียงตะโกนของเธอ เขากลัวว่ายิ่งเขาคุยด้วย อีกฝ่ายก็จะยิ่งกลั่นแกล้งเขา เขารู้สึกว่าในยุคอวกาศ ในยามที่พวกผู้ชายออกมาข้างนอก พวกเขาต้องระมัดระวังตัวกันมากแน่! เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเห็นว่าแม่ของพวกเขาหัวเราะอย่างมีความสุข แม้จะไม่เข้าใจเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้งสองคุยกันแต่เด็กน้อยทั้งสองก็หัวเราะตามไปด้วย ต้าเป่าคิดว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ครอบครัวของพวกเขา มีเสียงหัวเราะด้วยกันเช่นนี้ บรรยากาศแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกสบายใจ ต้าเป่าก้มหน้าลงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข มือก็ออกแรงล้างจานต่อไปพวกเขาผลัดกันอาบน้ำ จากนั้นก็เตรียมตัวเข้านอน เพราะบ้านของพวกเขาไม่มีทีวี อันที่จริงในหมู่บ้านชน

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   14 เจอสวีจ้าว

    วันรุ่งขึ้นเสียงฆ้องเรียกประชุมดังสนั่นมาจากนอกบ้าน มีเสียงคนตะโกนว่า “เรียกประชุมด่วน เรียกประชุมด่วน อีกครึ่งชั่วโมงทุกคนมาเจอกันที่ลานนวดข้าว!” ไป๋ถังลืมตาขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ และเมื่อเห็นว่าทั้งแขนและขาของเธอพาดทับไปที่ลู่หยาง ใบหน้าเล็กๆ ก็แข็งทื่อ เธอลืมไปเสียสนิทว่าตนเองเป็นพวกนอนดิ้น ในตอนที่อยู่โลกเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เธอนอนดิ้นจนตกเตียงลงไป เตียงที่เธอนอนจะต้องกว้างมากกว่าห้าเมตร! หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเพราะกลัวว่าลู่หยางจะตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าเธอกอดเขาอยู่ เธอค่อยไป ยกมือและเท้าขึ้นฝากตัวของชายหนุ่มเบา ๆแต่ลู่หยางที่อุทิศแขนให้เธอนอนหนุนต่างหมอน เขาก็ตื่นขึ้นมาจากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งนัก “คุณนอนกอดผมทั้งคืนเลยนะ รู้สึกสบายดีไหมล่ะ” “...” ไป๋ถังพูดไม่ออกเธอรู้สึกเขินอาย เมื่อมองชายหนุ่มที่แม้จะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเขาก็ยังคงดูดี ใบหน้าของเธอก็ร้อนขึ้นเล็กน้อย “ขอโทษด้วยค่ะ... ฉันเป็นพวกนอนดิ้น เมื่อคืนต้องลำบากคุณแล้ว” ลู่หยางจ้องไปที่ใบหน้าแดงของเธอ เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้บางครั้งก็ดูเจ้าอารมณ์ พูดจาโผงผาง แต่บางครั้งก็ดูท่าทางน่าเอ็นดู เ

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   15 ทะเลาะกับครอบครัวลุง

    ไป๋ถังมองผู้หญิงถักเปียที่ยืนอยู่ด้านข้างของลี่จูดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะชื่อชุนเหยียน ทั้งคู่ช่างเหมาะสมที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ เพราะชอบทำตัวน่ารำคาญเหมือนๆ กัน “พี่สะใภ้รู้ได้อย่างไรว่าสวีจ้าวให้ฉันยืมอาหารแค่คนเดียว พี่สะใภ้คอยเฝ้าดูเขาตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอคะ”ไป๋ถังจงใจพูดแบบคลุมเครือ ลี่จูเป็นคนในยุคนี้ตรงนั้นเธอจึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับชื่อเสียงของตัวเองเป็นอย่างมาก เมื่อเธอได้ยินคำพูดของไป๋ถังจึงโกรธขึ้นมาทันทีชี้ “อย่าพูดพล่อยๆนะ”“แล้วเมื่อสักครู่พี่สะใภ้ไม่ได้พูดพล่อยๆ ใส่ร้ายฉันก่อนเหรอ”ไป๋ถังโต้กลับอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านโดยรอบรู้สึกขบขันและพากันชี้ไปที่ลี่จู เธอรู้สึกตื่นตระหนกและอับอายสายตาผู้คน ลู่เฉิงคือสามีของลี่จู วันนี้เนื่องจากโรงงานหยุดเขาจึงได้กลับมาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ชายหนุ่มยืนห่างออกไปไม่มากเพราะต้องคอยดูลูกชายของตน เมื่อเห็นว่าภรรยาเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาจึงรีบเดินเข้ามาช่วยเหลือ ไป๋ถังกล้าพูดจาดูถูกภรรยาเขาเช่นนี้ได้อย่างไร! ลู่เฉิงโกรธจนควันแทบจะออกหูเขาส่งลูกชายของจนให้พ่อแม่ดูแล แล้วรีบเดินไปหาภรรยา ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบไหล่ลี่จูเพื่อแสดงความปกป้อง สายตาจ้

    Huling Na-update : 2025-02-05

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   50 อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า

    ลู่ซีซีโทรกลับไปหาที่บ้านและบอกว่าตอนนี้เธอได้อยู่กับพี่ชายคนรองเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นพ่อคือคนที่มารับสาย“ลูกดูแลตัวเองดีๆ นะ รีบพักผ่อนเถอะ”ลู่หยางวางสายแล้วถอนหายใจออกมาไป๋ถังที่นั่งอยู่ด้านข้างยิ้มอย่างเข้าใจ “เริ่มคิดถึงลูกสาวแล้วใช่ไหมคะ” เธอจับมือของสามีเอาไว้และพูดปลอบใจ “ลูกๆ ของเราทุกคนโตขึ้นทุกวัน พวกเขาย่อมต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง”ลู่หยางเข้าใจในข้อนี้ดี แต่เขาก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ “ซีซีเป็นเด็กผู้หญิง เธอไม่เคยออกจากบ้านไปอยู่ในที่ไกลๆ นานแบบนี้”“ตอนนี้คุณต้องทำใจไว้ให้ชินเถอะค่ะ ในอนาคตลูกสาวของเราก็จะต้องแต่งงาน” ไป๋ถังพูดแกล้งอีกฝ่าย“ลูกเขยในอนาคตของผมต้องสามารถดูแลซีซีของเราได้ ถ้าหาลูกเขยไม่ได้จริงๆ พวกเราก็แค่เลี้ยงดูเธอไปตลอดเท่านั้น”“ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่คุยกับคุณเรื่องนี้แล้ว ยิ่งแก่คุณก็ยิ่งเรื่องมากนะคะ” ไป๋ถังบ่นแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องลู่หยางได้ยินเธอบ่นว่าตนเองแก่ เขาก็รีบตามเข้าไปในห้องเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้แก่อย่างที่เธอคิด“ผมแก่อย่างที่คุณว่าอยู่หรือเปล่าครับ” ลู่หยางถามขณะทาบทับอยู่บนหลังของเธอไป๋ถังส่งเสียงครางในลำคอ มือทั้งสองกุมผ้าห่มใต้ร่

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   49 คิดถึงคนที่บ้าน

    ในปี 1999 ไป๋ถังได้นำเข้าคอมพิวเตอร์มาจากต่างประเทศ เธอเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หลายสาขาแม้จำนวนเกมส์ในเครื่องจะมีไม่มากแต่พวกเด็กวัยรุ่นก็นิยมเข้ามาเล่นเป็นจำนวนมากเพราะว่ารู้สึกว่ามันแปลกใหม่ กิจการนี้เฟื่องฟูจนทำให้ครอบครัวของเธอยิ่งร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าเหลือกินเหลือใช้จนถึงรุ่นเหลนฝาแฝดทั้งสองในปีนี้มีอายุได้ยี่สิบสองปี ลู่เจี้ยนลูกชายคนโตชอบเรียนหนังสือ ตอนนี้เขากำลังจะเรียนต่อปริญญาโทและในอนาคตอาจจะเรียนต่อปริญญาเอกต่อไป ซึ่งลู่หยางและไป๋ถังสนับสนุนลูกทุกคนให้ทำตามสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่โดยไม่บังคับใดๆส่วนลู่จวิ้นลูกชายคนรองชอบทำธุรกิจ เขาชื่นชอบธุรกิจสื่อบันเทิง จึงตั้งบริษัทเพื่อซื้อภาพยนตร์ในวงการฮอลลีวูดมาฉายภายในประเทศ ซึ่งธุรกิจนี้สร้างเม็ดเงินให้กับเขาเป็นจำนวนมาก ชายหนุ่มจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ เพื่อสรรหาภาพยนตร์ที่น่าสนใจเข้ามาฉายและปีนี้ลู่ซีซีลูกสาวคนเล็กอายุสิบเจ็ด เพราะเข้าเรียนเร็ว เธอจึงจบระดับมัธยมปลายตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยมีลู่จวิ้นที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศนั้นคอยดูแลวันนี้ลู่หยาง ไป๋ถังและลู่

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   48 สือหยง

    แม้ว่าลู่หยางและลูกชายทั้งสองจะพยายามขัดขวาง ไม่ให้ลู่ซีซีได้เข้าใกล้กับผู้ชายมากเกินไป แต่ไป๋ถังค่อนข้างเปิดกว้างในเรื่องนี้และต้องการให้ลูกสาวมีเพื่อนเพิ่มหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ในปี 1985 ลู่ซีซีมีอายุได้สามขวบ ขณะที่เธอกำลังขี่จักรยานอยู่ในสนามเด็กเล่น ก็มีเด็กชายตัวเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหาและชวนเธอพูดคุยด้วย “น้องสาว หยุดจักรยานก่อน ฉันขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ซีซีหยุดและหันหน้าไปหาเขา ดวงตากลมโตฉายแววสงสัย “พี่ชาย มีอะไรจะคุยกับซีซีเหรอคะ” เด็กน้อยมีท่าทีเขินอาย “ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ” “ได้สิค่ะ” ซีซีตอบด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มของเธอ เด็กชายเมื่อเห็นลักยิ้มของซีซี เขาก็คิดว่าเธอน่ารักมาก เขารีบแนะนำตัวเองให้เด็กหญิงรู้จักทันที “ฉันชื่อสือหยง ปีนี้อายุ 6 ขวบ กำลังจะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา แล้วเธอล่ะ?” ลู่ซีซีตอบกลับด้วยเสียงเล็กๆ “หนูชื่อลู่ซีซี ปีนี้อายุสามขวบ ปีหน้าจะเข้าเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง” เธอยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อจับมือกับอีกฝ่าย เพราะผู้เป็นแม่บอกว่าเวลามีเพื่อนใหม่ต้องจับมือกันเพื่อแสดงความเป็นมิตรที่ดี แต่มือของเด็กน้อยทั้งสองยังไม่ทันจะได้สัมผัสกัน

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   47 ลู่ซีซี

    ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ภายใต้การดูแลของลู่หยาง ทำให้ไป๋ถังมีความสุขมาก และตอนนี้เธออยู่ในช่วงใกล้คลอด วันนี้เธอจึงไปเดินเที่ยวที่สวนสาธารณะเพื่อที่จะได้คลอดง่ายๆลู่หยางซื้อกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภรรยาและลูกๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำ ลู่เจี้ยนและลู่จวิ้นวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาวิ่งกันไปรอบๆ และขอให้ผู้เป็นพ่อถ่ายรูปของพวกเขา“พ่อ ถ่ายรูปผมหน่อย”“พ่อ ผมอยู่นี่”“พ่อ ทำไมพ่อไม่ถ่ายรูปผมเลย”“พ่อ!”เด็กน้อยวิ่งกันวุ่นวาย ลู่หยางที่กำลังจดจ่ออยู่กับการถ่ายภาพของไป๋ถัง บางครั้งก็หันไปถ่ายลูกชายทั้งสองที่วิ่งไปวิ่งมา เด็กน้อยทั้งคู่ดูสดใสร่าเริงมากขึ้นตามวัยของพวกเขาไป๋ถังหัวเราะกับท่าทางถ่ายรูปของเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังทำท่าตลกๆ แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกปวดท้อง หญิงสาวรีบตะโกนเรียกสามี “เสี่ยวหยาง”เมื่อลู่หยางได้ยิน เขาก็วิ่งไปหาเธอแทบจะทันที “เสี่ยวไป๋!”“ฉันปวดท้อง ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าจะคลอดเลยค่ะ” ไป๋ถังพูดพร้อมกุมท้องของเธอ ที่ส่วนล่างก็รู้สึกเหมือนกับมีน้ำไหลออกมาลู่หยางอุ้มเธอขึ้นมาในทันที แล้วหันไปบอกลูกๆ ทั้งสอง “อาเจี้ยนจูงมือน้องตามพ่อมา”ลู่เจี้ยนและลู่จวิ้นตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จ

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   45 ย้ายไปเมืองหลวง

    เมื่อลู่หยางและไป๋ถังกลับมาถึงบ้าน เด็กน้อยทั้งสองก็รีบวิ่งมาหาพ่อกับแม่ของตนด้วยความดีใจ“พ่อ!” ต้าเป่ากอดต้นขาของลู่หยาง ส่วนเสี่ยวเป่ากอดต้นขาของไป๋ถัง เด็กน้อยทั้งคู่เงยหน้ามองด้วยดวงตาใสแจ๋วทั้งสองสามีภรรยาจึงอุ้มเด็กน้อยเข้าเอว และเช็ดหน้าที่เปื้อนเหงื่อให้กับพวกเขาก่อนจะหัวเราะเสียงดัง“แม่ครับ ซื้อขนมมาให้พวกผมด้วยหรือครับ” เสี่ยวเป่าถามด้วยน้ำเสียงเล็กๆไป๋ถังหัวเราะออกมาและพูดว่า “เจ้าหนูน้อยชอบกิน!”จากนั้นเธอก็ให้ลู่หยางส่งกระเป๋าที่อยู่ด้านข้างมาให้ แล้วหยิบขนมขึ้นชื่อจากเมืองหลวงมาแกะแบ่งให้กับเด็กน้อยทั้งสองได้ชิม“ขอบคุณครับพ่อ!” เด็กแฝดทั้งคู่พูดอย่างมีความสุขและเริ่มกินขนม ลู่หยางและไป๋ถังยิ้มอย่างมีความสุขการมีลูกๆ ตัวน้อยคอยอยู่ที่บ้านมันช่างทำให้พวกเขาอบอุ่นในหัวใจราวกับมีเสื้อบุนวมตัวเล็กๆ ห่อหุ้มอยู่ฝ่ายลี่จูเห็นไป๋ถังกลับมาจากเมืองหลวงพร้อมกับลู่หยาง ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะมีอนาคตที่ดีขึ้นอีกแล้ว เธอนึกเศร้าใจว่าทำไมตนเองถึงไม่โชคดีแบบนี้บ้าง ตอนนี้คนในครอบครัวของสามีต่างเกลียดเธอ เป็นเพราะว่าเธอแอบนำเงินเก็บในบ้านไปลงทุนและสินค้าก็ขายไม่ออกจนสูญเสียเงินไปเปล่

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   44 ใบขออนุญาตประกอบธุรกิจการค้า

    สองสามีภรรยาวัยชรายิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อได้ยินว่าลู่หยางตกลงที่จะซื้อบ้าน“นี่เป็นเงินสองพันหยวนค่ะ คุณลุงลองนับดูอีกครั้งสิคะว่าครบหรือไม่”ไป๋ถังนับเงินสองพันหยวน จากกระเป๋าให้ลุงมู่ เมื่อชายชรารับไปก็นับเงินอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ห่อด้วยผ้าอย่างอย่างระมัดระวัง ส่งให้ภรรยาของตนเป็นคนเก็บไว้เมื่อตกลงซื้อขายบ้านกันได้ลุงมู่ก็เข็นจักรยานออกไปกับกลุ่มของลู่หยาง เพื่อทำการโอนบ้าน ในอนาคตการซื้อทรัพย์สินค่อนข้างยุ่งยาก แต่ว่าในยุคนี้พวกเขาเพียงแค่ไปลงทะเบียนโดยตรงกับสำนักงานการจัดการที่อยู่อาศัยหลังจากจ่ายค่าธรรมเนียม เมื่อเจ้าหน้าที่ประทับตราลงบนหนังสือความเป็นเจ้าของบ้าน มันก็มีผลตามกฎหมายทันที บ้านหลังนี้จึงกลายเป็นของไป๋ถัง พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง การดำเนินการทุกอย่างก็เสร็จสิ้น และลุงมู่จะย้ายออกจากบ้านไปเซี่ยงไฮ้ในสิ้นเดือนนี้ในเวลานี้พวกเขาได้มีบ้านเป็นของตัวเองอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว ต่อไปคือการซื้อโกดังเพื่อก่อตั้งโรงงาน “ผมมีโกดังเก่าอยู่แห่งหนึ่ง คุณลู่อยากลองไปดูไหมครับ” “ไปเลยครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นผู้จัดการฟ่านจึงพาเขาและไป๋ถังไปดูโกดังที่อยู่ไม่ไกล เมื่อเห็

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   43 ซื้อบ้าน

    ตอนนี้พวกเขามีเงินทุนมากพอที่จะเปิดโรงงานของตัวเองแล้ว แต่ว่าก่อนที่จะเปิดโรงงานพวกเขาต้องหาซื้อที่ดินเพื่อก่อตั้งโรงงานเสียก่อนพวกเขาทั้งคู่เดินทางเข้าเมืองหลวงโดยให้พ่อกับแม่มาคอยดูแลลูกฝาแฝดทั้งสอง เพราะการเดินทางโดยรถไฟในสมัยนี้ค่อนข้างลำบาก“ต้าเป่า เสี่ยวเป่า เดี๋ยวพอกับแม่จะรีบกลับมาหานะ ตอนนี้อยู่กับคุณตาคุณยายไปก่อนนะครับ “ ลู่หยางลูบหัวลูกน้อยทั้งสองที่ทำตาละห้อย ยืนส่งพวกเขาที่หน้าบ้าน“พ่อกับแม่รีบกลับมานะครับ” เสี่ยวเป่าพูดกำชับด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ของเขา“แน่นอนจ้ะ แม่กับพ่อจะรีบกลับมา” ไป๋ถังให้สัญญากับลูกๆความเร็วของรถไฟในช่วงทศวรรษที่ 1980 อยู่ระหว่าง 60 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากอำเภอที่พวกเขาอาศัยไปยังเมืองหลวง ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง รถไฟจะออกในเวลาเที่ยงคืนของทุกวันและจะไปถึงเมืองหลวงในตอนเที่ยงของอีกวันถัดมาสถานีรถไฟ เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการจะเดินทางไปยังเมืองหลวง ดังนั้นที่นี้จึงมักแออัดและมีเสียงพูดคุยของชาวบ้านดังอื้ออึงแม้ว่าอุณหภูมิในตอนกลางคืนจะไม่ค่อยร้อน แต่เป็นเพราะมีคนเป็นจำนวนมากเกินไป อากาศในสถานีรถไฟจึงถ่ายเทได้ไม่เต็มที่ มันเต็มไปด้วยกลิ่นที่ไ

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   42 เสาอากาศก้างปลา

    แบบเสื้อผ้าที่ลู่หยางได้ขายให้กับโรงงานของเจียงชิง ได้ราคามาสี่พันหยวน ส่วนรายได้จากส่วนแบ่งสี่เปอร์เซ็นจะถูกคำนวณอีกครั้งในตอนสิ้นเดือน ไป๋ถังลองไปเดินสำรวจร้านค้าก็เห็นว่ารูปแบบเสื้อผ้าของลู่หยางได้รับความนิยมมาก รายได้ตอนสิ้นเดือนที่คำนวณออกมาพวกเขาจะต้องได้ไม่น้อยแน่“ไม่น่าเชื่อนะคะว่า เสื้อผ้าในยุคนี้จะขายดีมากขนาดนี้” ไป๋ถังพูดขึ้นมา“ยุคนี้เป็นช่วงเฟื่องฟูของกิจการเสื้อผ้าครับ เราจะกอบโกยได้ในเฉพาะช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้เท่านั้น ในอนาคตก็จะมีหลายโรงงานผุดขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ด คู่แข่งทางการค้าก็จะมีมาก ส่วนแบ่งทางการตลาดก็จะมากขึ้นไปด้วย”“แต่คงอีกนานเลยเราถึงจะก็มีเงินทุนมากพอที่จะเปิดโรงงานของเราเอง”การเปิดโรงงานต้องใช้เงินทุนขั้นต่ำอย่างน้อยหมื่นหยวน ทั้งซื้อที่ดินตั้งโรงงาน ซื้อจักรเย็บผ้าและจ้างคน ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายรออยู่มหาศาล ตอนนี้พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ขายแบบเสื้อผ้าและรอเก็บเงินแบ่งเปอร์เซ็นต์จากทางโรงงาน ช่วงเวลาว่าง ๆ จากการขายเสื้อผ้าที่แผงลอย ไป๋ถังจะไปรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้าน วันนี้ป้าซูในซอยข้างบ้านมาขอให้เธอซ่อมวิทยุให้เวลานี้เป็นเวลาตอนเย็นที่หลายบ้านกำลั

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   41 ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ

    เมื่อไป๋ถังตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เธอนวดเอวที่ปวดเมื่อยไปหมด ส่วนกลางกายยังคงมีอาการเจ็บอยู่เล็กน้อย บ่งบอกว่าเมื่อคืนพวกเขาทั้งคู่ร้อนแรงกันขนาดไหนข้างกายของเธอว่างเปล่า เพราะลู่หยางตื่นขึ้นนานแล้ว วันนี้เขาวางแผนที่จะเข้าอำเภอ เพื่อไปคืนจักรยานและสอบถามผู้อำนวยการจาง ถึงเรื่องที่จะหาบ้านเช่าในอำเภอให้ได้หรือไม่ไป๋ถังเดินออกจากห้อง เธอเห็นชายหนุ่มกำลังต้มโจ๊กอยู่หน้าเตา หญิงสาวจึงชะโงกหน้าไปหอมแก้ม และกอดเขาจากด้านหลัง“รู้สึกเพลียไหมครับ” ลู่หยางเอี้ยวตัวมาหอมแก้มเธอเช่นกัน“นิดหน่อยค่ะ”เมื่อพวกเขามีความสัมพันธ์ทางกาย การแตะเนื้อต้องตัวก็เป็นไปอย่างธรรมชาติ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้รู้สึกเคอะเขินซึ่งกันและกันเช้าวันนี้ลู่หยางปั่นจักรยานเข้าอำเภอ ไปหาผู้จัดการจางที่โรงงาน เมื่อไปถึงเขาก็บอกว่าได้หาบ้านเช่าให้กับลู่หยางได้แล้ว จากนั้นก็ให้ต้าจวงพาลู่หยางไปดูบ้านชายหนุ่มมองบ้านหลังสีขาวที่ดูเรียบง่ายก็รู้สึกพึงพอใจ ประกอบกับราคาค่าเช่าต่อเดือนก็ไม่แพงมาก เจ้าของบ้านคิดเพียง 4 หยวนต่อเดือนเท่านั้น แต่ชายหนุ่มต้องพาภรรยามาดูตัวบ้านเสียก่อนถึงจะตัดสินใจได้ ซึ่งผู้จัดการจางก็ให้เขายืมรถไ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status