Share

บทที่ 4 หุบปาก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-02 22:59:22

บทที่ 4 หุบปาก

"นี่มันเรื่องวุ่นวายอันใดกัน"

แม้จะมองไม่เห็นทว่าลี่หมิงก็สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดุจตาเห็น เขารู้ว่าองครักษ์ของเขามีกี่คน ยังประเมินจำนวนไต้ซือที่อยู่ในนี้และสตรีเพียงคนเดียวที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างแม่นยำ

คนภายนอกเห็นท่าว่ากำลังเดินอย่างเร่งร้อนด้วยเสียงฝีเท้าม้าไม่กี่ตัวที่หยุดอยู่หน้าโถงสวดมนต์ และที่น่าสนใจก็คือมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่ หนึ่งในคนที่มามีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาท การเดินทางที่ปราศจากขบวนใหญ่โตมิหนำซ้ำยังขี่ม้ามาด้วยตนเองเช่นนี้คงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้

ประตูโถงสวดมนต์ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านในโถงมีสี่คน ผู้หนึ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญงดงามเตะตาทว่ากลับอยู่ในชุดบุรุษเพื่ออำพรางตัวตน อีกคนคือบุรุษวัยชราร่างค่อนข้างท้วมทว่ายังคงมีท่วงสง่าผ่าเผย เห็นได้ชัดว่าที่หน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดอยู่บนไรผมทั้งยังมีสีหน้าอันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลืออีกสองคนเห็นทีจะเป็นองครักษ์ประจำจวนเสนาบดี

คนทั้งหมดทำความเคารพลี่หมิงอ๋องด้วยเสียงอันดังให้ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ลี่หมิงยังคงมีใบหน้าราบเรียบก่อนจะเอ่ยว่า

"ไม่คิดว่าข้าลี่อ๋องจะได้รับเกียรติเพียงนี้ ทั้งท่านเสนาบดีจื่อรวมทั้งจื่อกุ้ยเฟยจึงได้พร้อมใจมาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ อ้อ วันนี้ก็เป็นวันดียิ่งข้ายังคิดอยากตัดลิ้นคนเพื่อบันเทิงใจเสียหน่อย ท่านรู้หรือไม่ว่านางผู้นี้กล้าเข้าไปล่วงเกินข้าในบ่อน้ำพุโดยไม่สนใจกระทั่งชีวิตของตนเอง โทษของนางนั้นหากข้าจะเอาชีวิตแม้แต่ฝ่าบาทก็คงไม่กล้าทัดทาน อย่างไรเสียในเมื่อท่านทั้งสองมาแล้วก็ร่วมดูเรื่องสนุกนี้ด้วยกันเถิด"

จื่อรั่วอิงตัวแข็ง ร้องประท้วงออกมาทันใด

"ท่านอ๋อง ท่านตระบัดสัตย์ได้อย่างไรเมื่อสักครู่ท่านบอกว่าจะไม่ตัดลิ้นข้าแล้วมิใช่หรือ"

"จื่อรั่วอิง เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ยังไม่รู้ความผิดอีก"

"ทะ...ท่านพ่อ...ข้า"

นางยังเรียกร้องความเป็นธรรมของตนเองไม่เสร็จ เสียงดุดันของบิดาก็เอ่ยขึ้นจื่อรั่วอิงมีความผิดติดตัวจึงได้แต่ทำหน้าเบ้คล้ายจะร้องไห้ดวงตาไหวระริกอย่างน่าสงสาร

นางย่อมไม่กล้าสบสายตาดุดันของบิดาที่มองมาราวกับจะบอกว่าไม่น่าปล่อยให้นางโตมาจนทำเรื่องน่าขายหน้าเช่นนี้ได้

จื่อรั่วอิงรู้สึกปวดใจเล็กน้อย นางจึงเปลี่ยนเป้าหมายย้ายสายตาออดอ้อนขอความช่วยเหลือไปยังสตรีนางนั้นที่ยืนอยู่ข้างท่านพ่อของนางทันใด

"ท่านพี่ช่วยข้าด้วย"

น้ำตาแทบจะหยดแหมะลงมาอยู่แล้ว แน่นอนว่าล้วนเป็นการเสแสร้งทว่าจื่อกุ้ยเฟยผู้รักน้องสาวต่างมารดาคนนี้ยิ่งนักก็อดที่จะสงสารนางไม่ได้

"ท่านอ๋องน้องสาวของข้าผู้นี้ยังเด็กนักทั้งยังซุกซนเป็นนิสัย แต่ถึงจะซุกซนนางก็จิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ยิ่งนัก ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดข้ารับรองว่าย่อมไม่มีเจตนาร้าย ขอให้ท่านอ๋องโปรดละเว้นนางสักครั้งเถิดเพคะ"

ลี่หมิงหัวเราะเสียงเย็นออกมา น้ำเสียงของจื่อกุ้ยเฟยนั้นเห็นได้ชัดว่าปกป้องน้องสาวเพียงใด แม้เด็กสาวผู้นี้จะร้ายกาจไร้ยางอายเพียงนี้ จื่อกุ้ยเฟยก็ยังเล่นบทมารดากางปีกปกป้องน้องสาวเต็มที่ประดุจว่า 'ลูกข้าเป็นคนดี' โดยไม่กระทั่งจะสอบถามว่านางทำสิ่งใดผิดเลยแม้แต่น้อย เพราะเลี้ยงดูปกป้องกันเพียงนี้นางจึงได้เสียนิสัยเช่นนี้นี่เอง

ลี่หมิงอ๋องเอ่ยเสียงเย็นที่แม้แต่ผียังหวาดกลัวออกมา

"อ้อ ที่แท้แม่นางผู้นี้ก็เป็นน้องสาวของจื่อกุ้ยเฟย บุตรตรีของท่านเสนาจื่อเองหรอกหรือ มิน่าเล่าจึงทำให้จื่อกุ้ยเฟยที่สมควรอยู่ในวังหลวงข้างพระวรกายลำบากลำบนมาที่นี่ ข้าเองก็ตาบอดจะเอ่ยว่ามีตาก็หามีแววไม่ก็คงไม่ถูก"

จื่อกุ้ยเฟยรู้เรื่องราวจากสาวใช้ที่ปลอมกายเป็นจื่อรั่วอิงแล้ว ด้วยเหตุนี้นางจึงรีบมาที่นี่ด้วยอาการตื่นตระหนกพร้อมบิดาด้วยรู้ดีว่าลี่อ๋องคงไม่ปล่อยให้ผู้ใดเข้าใกล้เขาโดยที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นแน่

ยามนั้นทันทีที่เห็นว่าน้องสาวของนางยังคงหายใจอยู่ในใจหนึ่งพลันโปร่งโล่งและอีกในใจก็คิดว่าไม่รู้ว่าจื่อรั่วอิงใช้วิธีการใดจึงยังคงรักษาชีวิตของนางเอาไว้ได้เช่นนี้

"มิได้เพคะ จื่อเว่ยบังเอิญขอพระราชทานฝ่าบาทออกมาเยี่ยมบิดา จึงรู้ว่าน้องสาวแอบมาแช่น้ำทิพย์ที่วัดแห่งนี้จึงได้ติดตามท่านพ่อมาตามนางเท่านั้นเพคะ"

"ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง"

ลี่หมิงอ๋องย่อมรู้ทันว่าจื่อกุ้ยเฟยกำลังโกหก น้ำเสียงนั้นทั้งเย็นชาทั้งดุดันเป็นอย่างยิ่ง ครอบครัวนี้แห่กันมาที่นี่คงรู้ดีว่าเขาคิดที่จะสังหารนางกระมัง เรื่องนางป่วยจริงหรือไม่เขาเองก็คร้านจะสนใจแล้ว 

เสนาบดีกรมโยธาจื่อหานคุกเข่าลงแล้วเอ่ยว่า

"ท่านอ๋อง บุตรสาวของข้าน้อยผู้นี้นิสัยแต่เดิมนางก็ซุกซนเกินไปหน่อย ขอท่านอ๋องทรงอนุญาตให้ข้าน้อยนำนางไปสั่งสอนที่จวน ทั้งหมดต้องโทษข้าน้อยที่ละเลยการอบรมจึงทำให้นางสร้างความวุ่นวายจนทำให้ท่านอ๋องขุ่นเคือง ต่อไปข้าน้อยจะไม่ให้นางเข้ามาทำความขุ่นเคืองให้ท่านอ๋องอีก"

ลี่หมิงอ๋องหัวเราะต่ำอย่างเย็นชา

"ดูท่าว่าทั้งท่านเสนาบดีจื่อและจื่อกุ้ยเฟยจะมองไม่เห็นความผิดนางสินะ หรือท่านจะบอกว่าการที่นางบังอาจเข้ามารบกวนข้าเช่นนี้มิเท่ากับดูหมิ่นเบื้องสูงมีโทษสมควรตายหรือ ท่านทั้งสองจะเห็นเป็นเพียงแค่เรื่องซุกซนของเด็กผู้หนึ่งได้อย่างไร แต่เอาเถิดข้าเห็นแก่พวกท่านทั้งสองวันนี้จะปล่อยนางไป ขอพวกท่านอบรมนางให้ดีอย่าได้มารบกวนข้าอีก ข้าจะถือว่าเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน"

ได้ฟังดังนั้นจื่อกุ้ยเฟยผู้ฉลาดเฉลียวจึงเอ่ยว่า

"ท่านอ๋องทรงพระทัยกว้างยิ่งนัก ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันและท่านพ่อเองก็ทำตามคำสั่งของท่านอ๋องทุกประการ เรื่องวันนี้นับว่าไม่เคยเกิดขึ้นเพคะ"

เสนาบดีจื่อเองก็ดีใจยิ่งที่ปกป้องบุตรสาวตัวดีได้ในที่สุด ต่อไปเขาต้องให้คนเฝ้านางให้ดี ขังนางเอาไว้ไม่ให้ก่อเรื่องได้อีกเป็นอันขาด เสนาบดีจื่อรีบคุกเข่ากล่าวขอบพระทัยทันใด

"ไม่ต้องมากพิธี"

เสนาบดีจื่อจึงปาดเหงื่อพร้อมกับลุกขึ้นทันใด เขาสั่งให้คนของเขาเข้ามาจับตัวบุตรสาวเจ้าปัญหาเอาไว้

จื่อรั่วอิงมีพี่สาวหนุนหลังถึงพวกเขาจะคิดสงบศึกแต่นางไม่ยอมด้วยทุ่มเทไปมากเพียงนี้ ในเมื่อจื่อกุ้ยเฟยเสด็จมานางจึงคิดว่าโอกาสนี้เป็นของนางแล้ว

"แล้วเรื่องที่ท่านลวนลามข้าเล่า ท่านอ๋องท่านจะไม่คิดรับผิดชอบหรือ ท่านพี่เอ๊ยจื่อกุ้ยเฟยเพคะ ท่านอ๋องเขา เขาจับตรงนี้ข้าแล้ว เขายังกอดข้าต่อหน้าคนมากมาย กุ้ยเฟยท่านต้องให้ความเป็นธรรมเรื่องนี้กับข้านะเพคะ เช่นนี้ข้าจะแต่งกับบุรุษใดได้อีก ขายไม่ออกแล้วข้าขายไม่ออกแล้ว ท่านต้องช่วยคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้านะเพคะ"

บิดาไม่อาจทนฟังเรื่องบัดสีได้อีกต่อไป แค่นี้เขาก็อับอายขายหน้าจนแทบจะมุดแผ่นดินอยู่แล้ว เด็กบ้าผู้นี้ยังไม่ยอมหุบปากอีก

"หุบปาก เจ้าไปกับข้าเดี๋ยวนี้พวกเจ้ารอสิ่งใดอยู่พานางกลับไปหาอะไรอุดปากนางเอาไว้ด้วย"

"ขอรับ"

"ท่านพ่อ ท่านเป็นบิดาข้าหรือไม่ เหตุใดท่านทำเช่นนี้ ท่านอ๋องท่านต้องรับผิดชอบข้า ปล่อยข้านะ ปล่อย"

ในขณะที่นางอ้าปากกว้างตะโกนโหวกเหวกอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีผ้าแพรก้อนกลมผืนหนึ่งถูกยัดเข้าไปในปากของนางอย่างแม่นยำ

 ลี่หมิงอ๋องยกมุมปากเล็กน้อยเมื่อเสียงนั้นสงบลงแล้วที่แท้นั่นเป็นฝีมือของซีห่าวองครักษ์ของท่านอ๋องนั่นเอง

จื่อรั่วอิงยังคงส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ บิดานอกจากจะไม่สนใจเกียรติของจื่อรั่วอิงแล้ว ยังสั่งให้คนมัดมือมัดเท้า หามร่างบางของนางออกไปอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าท่านอ๋องจะเปลี่ยนใจเรื่องที่จะไม่สังหารคน

จื่อกุ้ยเฟยเองก็ไม่รอช้า ตั้งแต่เข้าวังมานางได้พบกับลี่หมิงอ๋องเพียงครั้งเดียวในยามที่ตามเสด็จฝ่าบาทมาเยี่ยมคนผู้นี้ที่จวน เป็นเพราะฝ่าบาทโปรดเสด็จอาผู้นี้มากจึงทำให้นางได้มีโอกาสร่วมเสวยอาหารกับลี่หมิงอ๋อง เมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์ดูเหมือนว่าลี่หมิงอ๋องจะผ่อนคลายมากกว่านี้ เนิ่นนานนับปีที่นางไม่ได้พบลี่หมิงอ๋องสภาพของเขายามนี้ทำให้นางจำแทบไม่ได้

หนวดเครารกรุงรังท่าทางราวพญามัจจุราช แม้แต่นางที่เป็นพระสนมที่ฝ่าบาทโปรดปรานยังต้องเกรงกลัวจนแทบพูดไม่ออก

จื่อรั่วอิงดิ้นรนถูกมัดมือมัดเท้าทั้งยังมีผ้าอุดปากไม่ให้ส่งเสียง ยามนี้บิดาของนางยังจับนางมัดเอาไว้บนหลังม้าเหมือนนางเป็นกระสอบนุ่นกระสอบหนึ่ง กว่าจะกลับถึงจวนจื่อรั่วอิงก็เกิดอาการคลื่นไส้วิงเวียนด้วยช่วงท้องถูกกระแทกเข้ากับหลังม้าจนจุกไปหมดแล้ว นางจึงได้แต่นั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับฟังคำก่นด่าของบิดาต่อด้วยพี่สาวจนหูชา

"ไม่รู้ว่าสมองของเจ้ามีปัญหาหรืออย่างไรจึงกล้าหาญหาเรื่องตายเช่นนั้น ในวังหลวงมีคนมากมายเจ้าไม่รู้หรือว่าลี่หมิงอ๋องคือหนึ่งในของต้องห้ามที่เจ้าไม่อาจล่วงเกินได้ ข้ายอมให้เจ้าล่วงเกินฝ่าบาทสักคำดีกว่าล่วงเกินคนผู้นั้น"

ปกติจื่อเว่ยแทบจะไม่เคยตำหนิน้องสาวผู้นี้ ทว่าบัดนี้นางไม่อาจอดทนได้เหมือนที่ผ่านมา จื่อรั่วอิงรีบคลานมากอดขาพี่สาวเอาไว้น้ำเสียงของนางก็ช่างออดอ้อนออเซาะนัก

"พี่หญิง เขาลวนลามข้ากระทั่งได้จับหน้าอกข้าแล้ว อย่างไรข้าก็ไม่อาจแต่งกับผู้อื่น พี่หญิงช่วยทูลฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ข้าหน่อยไม่ได้หรือ"

ผู้เป็นบิดาถึงกับใบหน้าแดงหนวดกระดิก

"เหลวไหล เจ้ากำลังพูดสิ่งใดอยู่หุบปากเสีย เหตุใดจิตใจจึงวิปริตคิดแต่งกับคนพิการเช่นนั้น เรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นลี่หมิงอ๋องเองก็ไม่เอาความเจ้าแล้ว วันนี้หากไม่เห็นแก่หน้าพี่หญิงของเจ้าข้าไม่มีทางให้อภัยเจ้าเด็ดขาด"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 1 บทนำ

    "อ้วนเป่า เจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ" จื่อรั่วอิงกอดอกเอ่ยชมบ่าวตัวกลมในมุมมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวถึงขั้นยอมตัดผมโกนหัว เนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ "อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนน ไม่รู้ว่าบิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าผู้ที่รับเจ้าเข้ามาเลี้ยงดูจนอ้วนกลมได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก เจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ เข้าใจหรือไม่?"เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ พยายามไล่ตามคำพูดของคุณหนูแล้วพยักหน้า "บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนู บ่าวคงอดตายไปนานแล้ว เช่นนั้น... บ่าวขอเรียกคุณหนูว่า 'ท่านแม่' สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองกลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อ แต่ก็นับว่าเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งได้ดี ความดีของเขามีอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงข้อนี้ นางจึงพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

    "ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนักเมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไปลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อยจากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทนจื่อรั่วอิ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 3 เวรกรรม

    แผนการที่นางได้วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียวจื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี"ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ"จื่อรั่วอิงมีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02

Bab terbaru

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 4 หุบปาก

    บทที่ 4 หุบปาก"นี่มันเรื่องวุ่นวายอันใดกัน"แม้จะมองไม่เห็นทว่าลี่หมิงก็สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดุจตาเห็น เขารู้ว่าองครักษ์ของเขามีกี่คน ยังประเมินจำนวนไต้ซือที่อยู่ในนี้และสตรีเพียงคนเดียวที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างแม่นยำคนภายนอกเห็นท่าว่ากำลังเดินอย่างเร่งร้อนด้วยเสียงฝีเท้าม้าไม่กี่ตัวที่หยุดอยู่หน้าโถงสวดมนต์ และที่น่าสนใจก็คือมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่ หนึ่งในคนที่มามีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาท การเดินทางที่ปราศจากขบวนใหญ่โตมิหนำซ้ำยังขี่ม้ามาด้วยตนเองเช่นนี้คงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้ประตูโถงสวดมนต์ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านในโถงมีสี่คน ผู้หนึ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญงดงามเตะตาทว่ากลับอยู่ในชุดบุรุษเพื่ออำพรางตัวตน อีกคนคือบุรุษวัยชราร่างค่อนข้างท้วมทว่ายังคงมีท่วงสง่าผ่าเผย เห็นได้ชัดว่าที่หน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดอยู่บนไรผมทั้งยังมีสีหน้าอันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลืออีกสองคนเห็นทีจะเป็นองครักษ์ประจำจวนเสนาบดีคนทั้งหมดทำความเคารพลี่หมิงอ๋องด้วยเสียงอันดังให้ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ลี่หมิงยังคงมีใบหน้า

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 3 เวรกรรม

    แผนการที่นางได้วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียวจื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี"ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ"จื่อรั่วอิงมีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

    "ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนักเมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไปลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อยจากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทนจื่อรั่วอิ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 1 บทนำ

    "อ้วนเป่า เจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ" จื่อรั่วอิงกอดอกเอ่ยชมบ่าวตัวกลมในมุมมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวถึงขั้นยอมตัดผมโกนหัว เนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ "อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนน ไม่รู้ว่าบิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าผู้ที่รับเจ้าเข้ามาเลี้ยงดูจนอ้วนกลมได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก เจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ เข้าใจหรือไม่?"เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ พยายามไล่ตามคำพูดของคุณหนูแล้วพยักหน้า "บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนู บ่าวคงอดตายไปนานแล้ว เช่นนั้น... บ่าวขอเรียกคุณหนูว่า 'ท่านแม่' สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองกลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อ แต่ก็นับว่าเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งได้ดี ความดีของเขามีอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงข้อนี้ นางจึงพ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status