Share

บทที่ 3 เวรกรรม

last update Huling Na-update: 2025-04-02 22:58:47

แผนการที่นางได้วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก

 ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียว

จื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้

จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี

"ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ"

จื่อรั่วอิงมีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย

 เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถคร่าชีวิตคนโดยไม่ลังเล

 ถึงแม้เขาจะตาบอดนางเองก็ไม่กล้ามองหน้าเขาตรง ๆ ด้วยคิดว่าน่ากลัวนักไม่ใช่ว่านางกำลังจะตายอีกรอบหรอกนะ

"ท่านอ๋องจะให้ลงโทษนางเช่นใดพ่ะย่ะค่ะ"

องครักษ์ซีห่าวไม่คิดรอสอบสวนคำพูดของนาง ทั้งเขาเองก็ไม่สนใจฐานะของนางแม้แต่น้อย 

ลี่หมิงอ๋องเอ่ยคล้ายรำคาญ

"สังหารทิ้งเสีย สตรีที่กล้าลองดีเช่นนี้ยังคิดจะเก็บไว้ทำสิ่งใดอีก"

เข่าที่คุกอยู่บนพื้นของจื่อรั่วอิงถึงกับทรุดลงทันใด ในขณะที่ท่านเจ้าอาวาสและเจ้าอ้วนเป่าถึงกับร้องออกมาพร้อม ๆ กัน

"ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต!"

จื่อรั่วอิงน้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว แต่นางยังคงกล้าหาญที่จะรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้

"ท่านอ๋อง ท่านจะฆ่าข้าด้วยเหตุใดเพคะ"

ลี่หมิงอ๋องได้ยินเสียงของสตรีนางนั้น แน่นอนว่าเขาไม่เห็นใบหน้าของนางทว่าน้ำเสียงนี้ทำให้เขาบังเกิดความรู้สึกว่าน่าสนใจอยู่บ้าง

ถึงนางจะถามอ๋องผู้นั้นทว่าคนที่ตอบกลับเป็นซีห่าว

"เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกหรือ บังอาจรบกวนท่านอ๋องเพียงเท่านี้ก็สมควรตายแล้ว"

จื่อรั่วอิงร้อง เห๊อะ ออกมาคำหนึ่ง แล้วข่มความกลัวพร้อมกับกล่าวว่า

"ถ้าจะฆ่าก็ต้องฆ่าพวกเจ้าด้วย อารักขาท่านอ๋องอย่างไรให้ข้าเข้าไปได้ ข้าเป็นเพียงสตรีผู้หนึ่งตอนเข้าไปไม่มีใครขัดขวาง พวกเจ้าปล่อยข้าเข้าไปเอง ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องยังจะโยนความผิดให้คนอื่น นี่หรือหน่วยองครักษ์ที่ขึ้นชื่อว่ามีเกียรติที่สุดในหนิงเทียน ทุเรศชะมัด ไปหากระโปรงมาสวมเถอะถ้าจะทำตัวน่าอายโยนความผิดให้ผู้หญิงเช่นนี้ อ้อ ข้ายังเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่งดงามไร้วรยุทธ์คนหนึ่งอีกด้วยมีสิ่งใดให้พวกเจ้ากลัวกัน"

คำพูดที่กล้าหาญของนางทำเอาบุรุษทั้งหลายเงียบงัน กระทั่งซีห่าวเอ่ยว่า

"แต่เจ้าบังอาจแตะต้องร่างกายท่านอ๋อง เพียงเท่านี้ก็สมควรตายแล้ว"

คราวนี้จื่อรั่วอิงถึงกับหน้าแดง เข่าที่อ่อนพับลงไปเมื่อสักครู่ถึงกับมีแรงขึ้นมา 

"ใครล่วงเกินใครกันแน่ มิใช่ท่านอ๋องของพวกเจ้าหรือที่เป็นฝ่ายล่วงเกินข้า เขายังบีบนมข้าไม่เห็นหรือ เจ็บจะตายอยู่แล้ว สวรรค์ได้โปรดเถิดแม้แต่ในวัดพวกเจ้ายังกล้ากลับดำเป็นขาว คนพวกนี้แท้จริงเลวมีจิตใจเลวทรามต่ำช้า รังแกสาวน้อยที่อ่อนแอเช่นข้าได้อย่างไร"

ว่าแล้วก็แสร้งร้องไห้โฮ จนอ้วนเป่าต้องยกมือขึ้นมาอุดหูด้วยรู้สึกคล้ายแก้วหูอันละเอียดอ่อนของตนกำลังจะแตกแล้ว

จื่อรั่วอิงร้องไห้จนเจ็บตา เอาเถอะถึงแม้ว่าในชาตินี้จะเกิดมาอยู่ในตระกูลดี แต่ชาติก่อนนางเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับคณะกายกรรมที่มีเพื่อนผู้ชายเป็นโขยงมาตั้งแต่เด็ก คำว่ากุลสตรีกับนางจึงห่างไกลกันนัก 

ทว่าคนพวกนี้ย่อมไม่คุ้นเคยกับการเห็นสตรีใจกล้าหน้าด้าน กระทั่งวาจาหยาบโลนยังกล้าเอ่ยออกมาอย่างไม่อายปากเช่นนี้ กล่าวหาคนจบก็ยังร้องไห้ราวกับว่ามีใครแตะต้องนางจนเจ็บปวดกระนั้น เพราะท่าทางของนางเช่นนี้จึงทำให้พวกเขารู้สึกทำสิ่งใดไม่ถูก คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าที่คุ้นเคยกับคุณหนูของตนเป็นอย่างดีกล้าที่จะเอ่ยขึ้น

"ใช่ ข้าก็เห็นชัดว่าเป็นท่านอ๋องที่ล่วงเกินคุณหนู ยังบีบนมนางอีก บีบแรงด้วย"

เมื่อมีพวกเข้าข้าง จื่อรั่วอิงจึงพยักหน้าทันใด 

"ใช่ บีบแรงจนนมแทบแตก"

"ใช่ บีบนมคุณหนูแรงจนนมแทบแตก"

“ใช่ข้าเจ็บจนร้องไห้ไม่เห็นหรือ”

“ใช่คุณหนูเจ็บจนร้องไห้จนหู้ข้าแทบแตกไม่เห็นหรือ”

บ่าวผู้โง่งมกับคุณหนูไร้ยางอายช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทหารหลายคนถึงกับใบหูแดงก่ำ คำพูดของนางทำให้ทุกคนล้วนไม่กล้าเอ่ยคำใด

กระทั่งลี่หมิงอ๋องยังอดฟังด้วยความสนใจไม่ได้ สตรีนางนี้หยาบคาย ไร้ยางอาย ทว่ากลับกล้าหาญที่จะปกป้องตนเองยิ่งนัก อีกทั้งที่นางกล่าวมาไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย

นางเป็นสตรีที่ไร้วรยุทธ์นางหนึ่ง เหตุใดจึงสามารถเข้าไปในนั้นได้หากไม่ใช่เพราะการอารักขาที่หละหลวมแล้วย่อมไม่มีสาเหตุอื่นได้อีก ยิ่งหากคนผู้นั้นไม่ใช่นางแต่เป็นมือสังหารเขามิได้ตายไปแล้วหรือ

ลี่หมิงอ๋องกระแอมแล้วเอ่ยเสียงเย็น

"ซีห่าว สั่งโบยคนของเราโทษฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่งไปช่วยชาวบ้านทำไร่ทำสวนสองเดือนเป็นการลงโทษ"

"พ่ะย่ะค่ะ"

ซีห่าวย่อมเข้าใจท่านอ๋องของตนเองเขารับคำสั่งทันใด แล้วเอ่ยว่า

"แล้วคุณหนูผู้นี้ท่านอ๋องจะทำโทษนางอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ"

"ไว้ชีวิตนาง ทว่าลิ้นของนางสมควรตัดทิ้งไม่ให้นางเอ่ยเรื่องนี้ได้อีกต่อไป"

ให้ตายเถิด เจ้าลุงนี่ยังไม่ยอมหยุด นี่นางกำลังหาเรื่องให้ตัวเองจริง ๆ จื่อรั่วอิงเร่งคิดหาวิธีเอาตัวรอดกระทั่งในที่สุดนางก็เอ่ยปากว่า

"หากท่านจะตัดลิ้นข้า ท่านก็สมควรตัดมือตนเองด้วย ล่วงเกินข้ารุนแรงเช่นนี้ยังไม่คิดจะรับผิดชอบสิ่งใดหรือ ที่แท้ท่านอ๋องก็เป็นคนเช่นนี้เอง น่ารังเกียจยิ่งนักกระทั่งสาวงามดุจเทพเซียนร่างกายอ่อนแอเช่นข้าท่านยังรังแกไม่หยุด ลี่หมิงอ๋องท่านใจดำเหลือเกินนะเพคะ"

เพราะเขาตาบอด จื่อรั่วอิงจึงต้องย้ำคำว่า สาวงาม ให้เขารู้ว่านางเป็นสตรีที่งดงามเทียมฟ้า งดงามที่สุดในปฐพี

ตั้งแต่มีชีวิตเกิดมาเป็นอ๋อง ไม่เคยมีผู้ใดกล้าตำหนิเขาตรง ๆ เช่นนี้สักครั้ง กระทั่งฝ่าบาทยังแทบวางเขาไว้บนฝ่ามืออย่างทะนุถนอม ทว่าจื่อรั่วอิงไม่เป็นเช่นนั้น ไหน ๆ นางก็คิดว่าตัวเองต้องตายจริง ๆ แล้วจึงต้องหาทางเอาตัวให้รอดจากความตายนี้

จู่ ๆ อ๋องตาบอดผู้นั้นก็หัวเราะจนหนวดกระดิก ภายในโถงสวดมนต์แห่งนี้เงียบสงบยิ่งนักจึงทำให้เสียงหัวเราะของลี่หมิงอ๋องดังกึกก้องลั่นโถง

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ได้ในเมื่อเจ้ากล้าหาญนัก เช่นนั้นข้ากับเจ้าวันนี้หายกัน ไสหัวไปให้พ้นแล้วอย่าได้เข้าใกล้ข้าอีก คราวหน้าข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่"

ผิดความคาดหมายของนางไปมาก เขาควรรับผิดชอบสิ บีบนมนางจนเจ็บขนาดนั้นยังบอกว่าหายกัน จื่อรั่วอิงมีแต่เสียกับเสียยังไม่ได้ประโยชน์ใดเลยแม้แต่น้อย นางทำถึงขนาดนี้แล้วย่อมไม่ยินยอม อย่างไรก็ต้องตกลงให้ดี

"ท่านอ๋อง นอกจากไว้ชีวิตข้าแล้วท่านต้องรับผิดชอบข้าด้วย ท่านแตะต้องส่วนสำคัญของข้าไปแล้วยังจะหวังให้ข้าแต่งกับบุรุษอื่นได้หรือ ท่านไม่คิดถึงศักดิ์ศรีของข้าเลยหรือเพคะ"

ลี่หมิงอ๋องรับน้ำชาจากซีห่าวแล้วเอ่ยโดยไม่สนใจคำของนางแม้แต่น้อย

"ลากนางออกไป อย่าให้นางมาใกล้ข้าอีก"

"ท่านอ๋องเพคะ"

จื่อรั่วอิงเริ่มโวยวาย นางคิดว่าตนเองดูคนไม่ผิด ลี่หมิงอ๋องดูเหมือนจะเป็นโรครังเกียจสตรี ถ้านางทำให้ตาลุงอ๋องนี่ใจอ่อนลงและยอมรับข้อเสนอ ชีวิตในฐานะพระชายาของนางคงสงบสุขแน่นอนด้วยคนผู้นี้คงไม่คิดวุ่นวายกับนางอีก

จากที่ผ่านมาเขาไม่ใช่คนไร้เหตุผล ยังฟังนางอยู่หลายคำดังนั้นนางคิดว่าขอเพียงนางอ้อนวอนอีกสักหน่อย เขาย่อมเห็นดีเห็นงามด้วย ทว่าเรื่องที่นางคิดนั้นยังไม่ทันได้เอ่ย เมื่อจู่ ๆ ทหารองครักษ์ของเขาก็วิ่งเข้ามารายงานด้วยท่าทางตื่นตระหนก

"ท่านอ๋องจื่อกุ้ยเฟยและท่านเสนาบดีกรมโยธากำลังตรงมาที่นี่พ่ะย่ะค่ะ"

จื่อรั่วอิงเข่าทรุดลงอีกครั้ง เดิมทีนางคิดทำเรื่องนี้เงียบ ๆ ตกลงกับท่านอ๋องให้ดีแล้วให้เขาส่งคนไปสู่ขอ ไม่คิดว่าบัดนี้เวรกรรมที่อยู่ในรูปของบิดากำลังมาก่อกวนแผนการของนางเสียแล้ว เหตุใดรู้ว่องไวเพียงนี้กัน!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 4 หุบปาก

    บทที่ 4 หุบปาก"นี่มันเรื่องวุ่นวายอันใดกัน"แม้จะมองไม่เห็นทว่าลี่หมิงก็สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดุจตาเห็น เขารู้ว่าองครักษ์ของเขามีกี่คน ยังประเมินจำนวนไต้ซือที่อยู่ในนี้และสตรีเพียงคนเดียวที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างแม่นยำคนภายนอกเห็นท่าว่ากำลังเดินอย่างเร่งร้อนด้วยเสียงฝีเท้าม้าไม่กี่ตัวที่หยุดอยู่หน้าโถงสวดมนต์ และที่น่าสนใจก็คือมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่ หนึ่งในคนที่มามีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาท การเดินทางที่ปราศจากขบวนใหญ่โตมิหนำซ้ำยังขี่ม้ามาด้วยตนเองเช่นนี้คงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้ประตูโถงสวดมนต์ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านในโถงมีสี่คน ผู้หนึ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญงดงามเตะตาทว่ากลับอยู่ในชุดบุรุษเพื่ออำพรางตัวตน อีกคนคือบุรุษวัยชราร่างค่อนข้างท้วมทว่ายังคงมีท่วงสง่าผ่าเผย เห็นได้ชัดว่าที่หน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดอยู่บนไรผมทั้งยังมีสีหน้าอันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลืออีกสองคนเห็นทีจะเป็นองครักษ์ประจำจวนเสนาบดีคนทั้งหมดทำความเคารพลี่หมิงอ๋องด้วยเสียงอันดังให้ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ลี่หมิงยังคงมีใบหน้า

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 1 บทนำ

    "อ้วนเป่า เจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ" จื่อรั่วอิงกอดอกเอ่ยชมบ่าวตัวกลมในมุมมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวถึงขั้นยอมตัดผมโกนหัว เนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ "อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนน ไม่รู้ว่าบิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าผู้ที่รับเจ้าเข้ามาเลี้ยงดูจนอ้วนกลมได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก เจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ เข้าใจหรือไม่?"เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ พยายามไล่ตามคำพูดของคุณหนูแล้วพยักหน้า "บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนู บ่าวคงอดตายไปนานแล้ว เช่นนั้น... บ่าวขอเรียกคุณหนูว่า 'ท่านแม่' สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองกลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อ แต่ก็นับว่าเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งได้ดี ความดีของเขามีอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงข้อนี้ นางจึงพ

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

    "ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนักเมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไปลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อยจากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทนจื่อรั่วอิ

    Huling Na-update : 2025-04-02

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 4 หุบปาก

    บทที่ 4 หุบปาก"นี่มันเรื่องวุ่นวายอันใดกัน"แม้จะมองไม่เห็นทว่าลี่หมิงก็สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดุจตาเห็น เขารู้ว่าองครักษ์ของเขามีกี่คน ยังประเมินจำนวนไต้ซือที่อยู่ในนี้และสตรีเพียงคนเดียวที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างแม่นยำคนภายนอกเห็นท่าว่ากำลังเดินอย่างเร่งร้อนด้วยเสียงฝีเท้าม้าไม่กี่ตัวที่หยุดอยู่หน้าโถงสวดมนต์ และที่น่าสนใจก็คือมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่ หนึ่งในคนที่มามีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาท การเดินทางที่ปราศจากขบวนใหญ่โตมิหนำซ้ำยังขี่ม้ามาด้วยตนเองเช่นนี้คงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้ประตูโถงสวดมนต์ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านในโถงมีสี่คน ผู้หนึ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญงดงามเตะตาทว่ากลับอยู่ในชุดบุรุษเพื่ออำพรางตัวตน อีกคนคือบุรุษวัยชราร่างค่อนข้างท้วมทว่ายังคงมีท่วงสง่าผ่าเผย เห็นได้ชัดว่าที่หน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดอยู่บนไรผมทั้งยังมีสีหน้าอันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลืออีกสองคนเห็นทีจะเป็นองครักษ์ประจำจวนเสนาบดีคนทั้งหมดทำความเคารพลี่หมิงอ๋องด้วยเสียงอันดังให้ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ลี่หมิงยังคงมีใบหน้า

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 3 เวรกรรม

    แผนการที่นางได้วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียวจื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี"ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ"จื่อรั่วอิงมีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

    "ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนักเมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไปลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อยจากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทนจื่อรั่วอิ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 1 บทนำ

    "อ้วนเป่า เจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ" จื่อรั่วอิงกอดอกเอ่ยชมบ่าวตัวกลมในมุมมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวถึงขั้นยอมตัดผมโกนหัว เนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ "อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนน ไม่รู้ว่าบิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าผู้ที่รับเจ้าเข้ามาเลี้ยงดูจนอ้วนกลมได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก เจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ เข้าใจหรือไม่?"เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ พยายามไล่ตามคำพูดของคุณหนูแล้วพยักหน้า "บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนู บ่าวคงอดตายไปนานแล้ว เช่นนั้น... บ่าวขอเรียกคุณหนูว่า 'ท่านแม่' สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองกลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อ แต่ก็นับว่าเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งได้ดี ความดีของเขามีอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงข้อนี้ นางจึงพ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status