Share

บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

last update Last Updated: 2025-04-02 22:53:29

"ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจ

ซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนัก

เมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไป

ลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อย

จากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทน

จื่อรั่วอิงรอด้วยใจระทึกอยู่ตรงที่หลบซ่อน จากจุดนี้นางเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของบุรุษผู้นั้น นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขาและไม่เคยมีผู้ใดเคยพบเห็นลี่อ๋องตัวเป็น ๆ มาหลายปีแล้วจึงไม่รู้ว่าหน้าตาเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร

เขาจากเมืองหลวงไปทำศึกตั้งแต่อายุเพียงสิบสามปี ด้วยฐานะขุนศึกแห่งแคว้นหนิงเทียนทำให้เด็กน้อยต้องถูกบีบบังคับให้โตก่อนวัยอันสมควร เช่นนี้จึงไม่แปลกที่จิตใจของเขาจะวิปริต

เมื่อจื่อรั่วอิงเห็นว่าบัดนี้ลี่หมิงอยู่เพียงลำพังแล้ว นางจึงค่อย ๆ คลานออกมาจากที่ซ่อนซึ่งเป็นโพรงที่ทำขึ้นมาอย่างแนบเนียนกลืนไปกับธรรมชาติแถวนี้อย่างไร้ที่ติ ในใจก็อดชื่นชมเจ้าอ้วนเป่าไม่ได้มิเสียแรงที่นางลงทุนคุกเข่าอ้อนวอนท่านพ่อให้รับเขามาเป็นบ่าวของนาง

นางค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ท่านอ๋องผู้นั้นที่เหมือนจะไม่รู้ตัวว่ามีบุคคลที่สองอยู่ใกล้เขาเพียงนี้ ความจริงนางไม่อยากเอาเปรียบคนตาบอดแต่เมื่อแผนการได้วางมาจนถึงขั้นนี้แล้วไม่อาจถอยหลังกลับไปได้

สายตาของจื่อรั่วอิงไม่อาจละไปจากแผ่นหลังของเขาได้ ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้องอาจผ่าเผย แม้แต่ท่วงท่าการนั่งยังดูสูงส่งเพียงนี้ แผ่นหลังเปลือยเปล่านั่นยังจับตัวเป็นมัดกล้ามอันแสนงดงาม ลี่อ๋องผู้นี้ช่างมีเรือนร่างที่เหมาะสมที่เป็นนักรบจริง ๆ ผมของเขาถูกรวบสูงและสวมครอบด้วยกวานสีเงินสลักลายก้อนเมฆบ่งบอกฐานะที่คนทั่วไปไม่อาจเอื้อม

จื่อรั่วอิงอยู่ในชุดเสื้อผ้าสีขาวที่คิดเอาไว้เป็นอย่างดี หากชุดนี้เปียกน้ำจะสามารถมองเห็นเนื้อหนังข้างในได้ชัดเจน เมื่อนางลงไปในอ่างน้ำพุร้อนแห่งนี้กับเขา แน่นอนว่าชุดนี้จะแนบเนื้อจนดูค่อนข้างโป๊หากมีคนมาพบเข้าก็ยากที่จะคิดเป็นอื่น

จากนั้นนางจะกรีดร้องเพื่อให้ดูน่าสงสาร ชื่อเสียงของสตรีโบราณสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เมื่อถึงตอนนั้นลี่หมิงอ๋องก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดเงื้อมมือของนางไปได้

จื่อรั่วอิงคิดอย่างเพลิดเพลิน ขาเรียวขาวของนางค่อย ๆ จุ่มลงน้ำ อุณหภูมิของน้ำค่อนข้างอุ่นพอดี การแช่น้ำในอุณหภูมิเช่นนี้คงทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นจริง ๆ

หลังจากค่อย ๆ ก้าวลงน้ำอย่างช้า ๆ จื่อรั่วอิงกลั้นหายใจค่อย ๆ แหวกน้ำเข้าไปใกล้เขาเพียงเงยหน้าขึ้นสายตาของนางพลันปะทะกับอกกว้างแข็งแกร่ง

 จื่อรั่วอิงดวงตาแข็งค้างกับภาพยั่วยวนตรงหน้า รูปร่างที่โผล่พ้นสายน้ำทำให้นางไม่อยากเชื่อสายตา เหมือนเป็นประติมากรรมชั้นเยี่ยม 

มัดกล้ามหน้าท้องเป็นลอนแน่นคมชัดราวกับภาพสี่มิติ ภายใต้แสงแดดอ่อนที่สาดส่องราวกับมีลำแสงรายรอบร่างกายให้เปล่งประกาย ยากนักที่ใครเห็นแล้วจะต้านเสน่ห์อันเย้ายวน นางค่อย ๆ ไต่สายตาขึ้นไปเรื่อย ๆ ลำคอแห้งผากกระทั่งพบเข้ากับใบหน้านั้น

จื่อรั่วอิงอ้าปากค้าง สวรรค์ ให้ตายเถอะรูปร่างเช่นนี้คนที่เป็นเจ้าของสมควรหล่อเหลาไร้ที่ติมิใช่หรือ ทว่าลี่อ๋องบัดนี้กลับแตกต่างจากที่นางคิด เมื่อใบหน้านั้นเต็มไปด้วยหนวดเคราที่ขึ้นเต็ม เส้นผมของคนผู้นี้ยังมีสีขาวแซมเป็นกระจุกกระจายทั่วศีรษะ

แน่นอนว่าสมัยนี้ไม่มีสารเคมีกัดสีผม สีขาวที่เห็นจึงไม่ใช่การทำไฮไลต์แต่มันต้องคือผมหงอกนั่นเอง ท่านอ๋องอายุสามสิบเองมิใช่หรือ เหตุใดใบหน้าและเส้นผมจึงแก่ก่อนวัยราวกับคุณลุงคนหนึ่งเช่นนี้

ยิ่งเห็นหนวดเคราที่รกแบบนั้นจื่อรั่วอิงคิดอยากใช้กรรไกรตัดหญ้าถากถางป่ารกนั้นให้เกลี้ยงสะอาดตาแล้วดูว่าใบหน้าภายใต้หนวดนั้นจะเป็นเช่นไร

ดวงตาคู่นั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเพราะถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีดำ ท่าทางการนั่งหลังตรงของลี่อ๋องตอนนี้ก็น่ากลัวดุดันจนนางเชื่อเสียสนิทว่าเขาคงกลายเป็นคนสติวิปลาส หัวใจบิดเบี้ยวไปจริงๆ แล้ว

แต่เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วนางไม่อาจลงได้ มิเช่นนั้นคงถูกเสือขย้ำจนร่างละเอียด

 จื่อรั่วอิงจึงตัดสินใจพุ่งเข้าหาเขาตามแผนทันใด ทว่าบัดนี้เพียงนางขยับเล็กน้อย คนผู้นั้นก็ขยับมาถึงร่างของนางแล้ว

จื่อรั่วอิงตกใจจนชะงักค้าง เมื่อฝ่ามือของเขาทั้งสองข้างสัมผัสที่หน้าอกของนางเดิมทีคิดว่าคงจะถูกฝ่ามือนั้นทำร้ายจนร่างกระเด็นเสียแล้ว ทว่าลี่อ๋องกลับไม่ทำเช่นนั้นเขากำลังทำบางอย่าง....คล้ายจะสำรวจบางสิ่งบางอย่างใต้ฝ่ามือของเขา

"เจ้าไม่มีวรยุทธ์ ไม่มีอาวุธ ไม่น่าจะเป็นมือสังหาร"

เสียงเยือกเย็นของเขาทำให้นางรู้สึกหนาวขึ้นทันใด ปากของนางสั่นเพราะตกใจก่อนจะเอ่ยว่า

"ขะ ข้าไม่ใช่ ไม่ใช่มือสังหาร"

"เช่นนั้นเจ้าคือผู้ใด หรือว่า..." ลี่หมิงหยุดเล็กน้อยแล้วยังคลำต่อ ก่อนจะเอ่ยว่า "หรือว่า เจ้าก็ป่วยเช่นกันจึงมาแช่น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้"

จื่อรั่วอิงยังคงตกใจไม่หาย เขาสงบกว่าที่นางคาดคิดจนนางไม่รู้จะดำเนินแผนโวยวายอย่างไร

ผู้ใดว่าเขาวิปริตเจ้าอารมณ์ คนผู้นี้สมควรโวยวายจนทำให้คนแห่เข้ามามิใช่หรือ อีกทั้งนางยังไม่เข้าใจที่เขาพูด

นางป่วยหรือ ทำไมเขาคิดว่านางป่วยหรือคนผู้นี้จะเป็นบ้าไปจริง ๆ ก่อนที่นางจะอ้าปากตอบลี่หมิงก็เอ่ยต่อ

"ตรงนี้ของเจ้า เป็นเนื้องอกสองก้อนขนาดเท่าหัวเด็ก ข้าไม่เคยพบเนื้องอกที่ใหญ่โตเช่นนี้ หรือว่าจะมิใช่เป็นของจริงกัน"

จื่อรั่วอิงกะพริบตาปริบ ๆ ในยามนี้มือของลี่อ๋องกลับบีบเข้าไปที่หน้าอกทั้งสองข้างของนางอย่างแรง ราวกับว่ากำลังทำให้ตัวเองแน่ใจว่ามันคือเนื้องอกจริง ๆ จื่อรั่วอิงกำลังสับสนและรู้สึกเจ็บจนแทบน้ำตาเล็ด

ป่วย...เนื้องอก...หัวเด็ก....ของปลอม!

สติขาดผึงทันใด จื่อรั่วอิงกรีดร้องขึ้นมาพร้อมกับก่นด่าเขาดังลั่น

"เจ้าลุงบ้า ข้าไม่ได้เป็นเนื้องอก หัวเด็กบ้านลุงน่ะสิ นี่มันหน้าอกข้า นมของข้า นมจริง ๆ ไม่ใช่ยัดซิลิโคน ไม่ใช่ของปลอมหากเป็นของปลอมเจ้าบีบแรงแบบนี้ก็คงแตกคามือเจ้าไปแล้ว ปล่อยข้านะ กรี๊ด คนบ้า เจ้าลุงหนวดเฟิ้ม เจ้าคนบ้า เลิกบีบนมข้าเดี๋ยวนี้"

นางทั้งตีทั้งทุบเขา ลี่หมิงอ๋องเองก็ตกตะลึงไม่หาย เสียงนี้คือสตรีแน่ชัด

เดิมทีเขาไม่คิดว่านางจะเป็นสตรี ที่นี่คือวัดเชิงเขาและสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้อนุญาตให้คนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นสตรีด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางแล้วนางหลุดเข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

และที่สำคัญของขนาดใหญ่เท่าหัวเด็กนั่นจะกลายเป็น....ของสตรีไปได้อย่างไร 

ว่าแล้วโทสะของเขาก็พุ่งขึ้นสูง คนที่เข้ามาที่นี่ย่อมต้องเป็นมือสังหาร เขาขยับร่างว่องไวแม้ตาจะมองไม่เห็นทว่าเพียงพริบตาก็คว้าลำคอของนางมาไว้ในอุ้งมือแล้วบีบอย่างแรง

"สารภาพมา ผู้ใดส่งเจ้ามาสังหารข้า"

จื่อรั่วอิงถูกบีบคอจนรู้สึกเจ็บ นางทั้งไอทั้งสำลักทั้งดิ้นรนหนีจากมือเหล็กนี้ นางอยากขอร้องให้เขาปล่อยทว่าเสียงกลับหายเข้าไปในลำคอแล้ว และบัดนี้นางกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะขาดใจตาย

ให้ตายเถอะ ไม่คิดว่าการหาสามีสักคนมันยากลำบากจนกระทั่งต้องเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนี้

เพราะเสียงกรีดร้องที่ดังก้องไปทั่วเขา จึงทำให้ทหารและบรรดาไต้ซือที่รออยู่ด้านนอกกรูกันเข้ามาราวกับกองทัพมด

และเมื่อเข้ามาแล้วทุกคนยังอ้าปากค้าง ไต้ซือหลายคนถึงกับหันหลังหนีภาพนั้นด้วยเสื้อผ้าของจื่อรั่วอิงบางจนเห็นเนื้อด้านใน

แน่นอนว่าบัดนี้ทุกคนล้วนเข้ามาทันเห็นเหตุการณ์ที่จื่อรั่วอิงถูกลี่อ๋องลวนลามจับเข้าไปที่ตรงนั้นก่อนที่ท่านอ๋องจะคิดสังหารนาง

ในที่สุดก็มีคนจำจื่อรั่วอิงได้ ไต้ซือผู้หนึ่งจึงร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจ ที่แท้คือท่านเจ้าอาวาสนั่นเอง

"ท่านอ๋อง ได้โปรดปล่อยนาง นางคือคุณหนูสามแห่งจวนสกุลจื่อ ท่านไม่อาจสังหารนางได้!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 3 เวรกรรม

    แผนการที่นางได้วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียวจื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี"ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ"จื่อรั่วอิงมีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถ

    Last Updated : 2025-04-02
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 4 หุบปาก

    บทที่ 4 หุบปาก"นี่มันเรื่องวุ่นวายอันใดกัน"แม้จะมองไม่เห็นทว่าลี่หมิงก็สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดุจตาเห็น เขารู้ว่าองครักษ์ของเขามีกี่คน ยังประเมินจำนวนไต้ซือที่อยู่ในนี้และสตรีเพียงคนเดียวที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างแม่นยำคนภายนอกเห็นท่าว่ากำลังเดินอย่างเร่งร้อนด้วยเสียงฝีเท้าม้าไม่กี่ตัวที่หยุดอยู่หน้าโถงสวดมนต์ และที่น่าสนใจก็คือมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่ หนึ่งในคนที่มามีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาท การเดินทางที่ปราศจากขบวนใหญ่โตมิหนำซ้ำยังขี่ม้ามาด้วยตนเองเช่นนี้คงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้ประตูโถงสวดมนต์ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านในโถงมีสี่คน ผู้หนึ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญงดงามเตะตาทว่ากลับอยู่ในชุดบุรุษเพื่ออำพรางตัวตน อีกคนคือบุรุษวัยชราร่างค่อนข้างท้วมทว่ายังคงมีท่วงสง่าผ่าเผย เห็นได้ชัดว่าที่หน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดอยู่บนไรผมทั้งยังมีสีหน้าอันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลืออีกสองคนเห็นทีจะเป็นองครักษ์ประจำจวนเสนาบดีคนทั้งหมดทำความเคารพลี่หมิงอ๋องด้วยเสียงอันดังให้ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ลี่หมิงยังคงมีใบหน้า

    Last Updated : 2025-04-02
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 1 บทนำ

    "อ้วนเป่า เจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ" จื่อรั่วอิงกอดอกเอ่ยชมบ่าวตัวกลมในมุมมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวถึงขั้นยอมตัดผมโกนหัว เนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ "อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนน ไม่รู้ว่าบิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าผู้ที่รับเจ้าเข้ามาเลี้ยงดูจนอ้วนกลมได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก เจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ เข้าใจหรือไม่?"เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ พยายามไล่ตามคำพูดของคุณหนูแล้วพยักหน้า "บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนู บ่าวคงอดตายไปนานแล้ว เช่นนั้น... บ่าวขอเรียกคุณหนูว่า 'ท่านแม่' สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองกลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อ แต่ก็นับว่าเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งได้ดี ความดีของเขามีอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงข้อนี้ นางจึงพ

    Last Updated : 2025-04-02

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 4 หุบปาก

    บทที่ 4 หุบปาก"นี่มันเรื่องวุ่นวายอันใดกัน"แม้จะมองไม่เห็นทว่าลี่หมิงก็สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ดุจตาเห็น เขารู้ว่าองครักษ์ของเขามีกี่คน ยังประเมินจำนวนไต้ซือที่อยู่ในนี้และสตรีเพียงคนเดียวที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างแม่นยำคนภายนอกเห็นท่าว่ากำลังเดินอย่างเร่งร้อนด้วยเสียงฝีเท้าม้าไม่กี่ตัวที่หยุดอยู่หน้าโถงสวดมนต์ และที่น่าสนใจก็คือมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่ หนึ่งในคนที่มามีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาท การเดินทางที่ปราศจากขบวนใหญ่โตมิหนำซ้ำยังขี่ม้ามาด้วยตนเองเช่นนี้คงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้ประตูโถงสวดมนต์ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ก้าวเข้ามาด้านในโถงมีสี่คน ผู้หนึ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญงดงามเตะตาทว่ากลับอยู่ในชุดบุรุษเพื่ออำพรางตัวตน อีกคนคือบุรุษวัยชราร่างค่อนข้างท้วมทว่ายังคงมีท่วงสง่าผ่าเผย เห็นได้ชัดว่าที่หน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดโตผุดอยู่บนไรผมทั้งยังมีสีหน้าอันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลืออีกสองคนเห็นทีจะเป็นองครักษ์ประจำจวนเสนาบดีคนทั้งหมดทำความเคารพลี่หมิงอ๋องด้วยเสียงอันดังให้ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ลี่หมิงยังคงมีใบหน้า

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 3 เวรกรรม

    แผนการที่นางได้วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียวจื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี"ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ"จื่อรั่วอิงมีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

    "ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนักเมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไปลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อยจากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทนจื่อรั่วอิ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 1 บทนำ

    "อ้วนเป่า เจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ" จื่อรั่วอิงกอดอกเอ่ยชมบ่าวตัวกลมในมุมมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวถึงขั้นยอมตัดผมโกนหัว เนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ "อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนน ไม่รู้ว่าบิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าผู้ที่รับเจ้าเข้ามาเลี้ยงดูจนอ้วนกลมได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก เจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ เข้าใจหรือไม่?"เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ พยายามไล่ตามคำพูดของคุณหนูแล้วพยักหน้า "บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนู บ่าวคงอดตายไปนานแล้ว เช่นนั้น... บ่าวขอเรียกคุณหนูว่า 'ท่านแม่' สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองกลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อ แต่ก็นับว่าเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งได้ดี ความดีของเขามีอยู่ไม่น้อยเมื่อคิดถึงข้อนี้ นางจึงพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status