Share

บทที่ 6 นักล่าผู้ชาย

last update Last Updated: 2025-04-15 13:48:10

บทที่ 6 นักล่าผู้ชาย

  

สามวันต่อมา

ในขณะที่จื่อรั่วอิงยังคงถูกขังอยู่แต่ภายในเรือน ของหมั้นจากจวนราชครูถังก็ถูกส่งมาถึงดูเหมือนว่าบิดาของนางจะยินดียิ่ง เรื่องที่นางถูกลวนลามก็ถูกปิดราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น แน่นอนว่าย่อมไม่มีผู้ใดล่วงรู้

มารดาของจื่อรั่วอิงเปิดประตูเข้ามาด้วยน้ำตานองใบหน้านั่นคงเป็นเพราะว่ากำลังปลาบปลื้มกับวาสนาจอมปลอมของจื่อรั่วอิงเป็นแน่

แน่ล่ะในเมื่อมารดาของนางเป็นเพียงผู้ช่วยหมอในหมู่บ้านเล็ก ๆ  นับเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่บิดาต้องตาต้องใจในตอนที่เขาไปคุมงานสร้างเขื่อนนอกเมืองหลวงจึงได้รับนางมาเป็นอนุคนที่สี่ซึ่งนับเป็นอนุคนสุดท้ายของจวน

 บิดาของนางก็ล้วนให้ความเป็นธรรมกับบรรดาภรรยาทั้งสี่คนพวกเขาแม้จะไม่ถึงขนาดรักใคร่ปรองดองแต่ก็ไม่เคยอยู่ที่จวนนี้อย่างยากลำบากเหมือนสตรีจวนอื่น

มารดาของจื่อรั่วอิงก็เป็นเพียงสตรีโบราณการที่เห็นนางแต่งงานเป็นเมียน้อยคนมีฐานะมีหน้ามีตาในเมืองก็ย่อมต้องเห็นดีเห็นงามแทบอยากจะจัดงานแต่งวันนี้พรุ่งนี้เสียด้วยซ้ำ และที่สำคัญคนที่ตามมารดามาก็คือฮูหยินผู้เฒ่าหรือท่านย่าของจื่อรั่วอิงนั่นเอง

เรื่องที่จื่อรั่วอิงถูกลวนลามนั้นทั้งมารดาและท่านย่าต่างก็รู้ดี แต่ทั้งสองคนกลับปิดปากเงียบราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ต่างจากท่านพ่อเลยแม้แต่น้อย จื่อรั่วอิงทำความเคารพคนทั้งสองด้วยใบหน้าบูดบึ้งเอาแต่ใจ สายตาของนางสำรวจท่านย่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วย้อนมาที่ศีรษะอีกครั้ง

"ท่านย่าเจ้าคะ อาการปวดคอของท่านยังไม่หายดีไม่ใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดจึงได้ประโคมเครื่องทองทั้งปิ่นหยกเต็มศีรษะเช่นนั้น ไม่หนักแย่หรือเจ้าคะ"

บ่าวรับใช้ของฮูหยินใหญ่ประคองผู้ชราไปนั่งบนตั่งไม้ตัวหนึ่งขณะที่ท่านย่าของจื่อรั่วอิงหัวเราะลั่นอย่างมีความสุข ยามนั้นนั่นเองที่ท่านแม่ของจื่อรั่วอิงเอื้อมมือมาหยิกแขนนางเบา ๆ 

"อิงเอ๋อร์อย่าเสียมารยาท รีบขอโทษท่านย่าเดี๋ยวนี้"

จื่อรั่วอิงเบ้ปากทั้งแสร้งโวยวาย

"ท่านแม่ข้าเจ็บนะเจ้าคะ ที่ข้าพูดเพราะห่วงสุขภาพคอของท่านย่าไม่รู้เหรอ คนแก่อายุก็เจ็บสิบแล้วใส่เครื่องหัวแน่นขนาดนั้นกระดูกคอไม่เสื่อมก็ให้มันรู้ไป"

"นี่เจ้ายังไม่หยุดอีก"

ฮูหยินผู้เฒ่าวันนี้กำลังอารมณ์ดียิ่งนัก ด้วยสินสอดที่ส่งมานั้นมีนับไม่ถ้วน เดิมทีคิดมาต่อว่าจื่อรั่วอิงเรื่องที่ทำตัวตกต่ำถึงขั้นคิดคว้าคนตาบอดมาเป็นสามี ทว่าเมื่อเห็นเงินทองมากมายจึงอารมณ์ดีและยอมปล่อยผ่านไปสักครั้ง

หลานสาวคนนี้แม้จะรูปโฉมงดงามไม่เป็นรองจื่อกุ้ยเฟย ทว่ากลับถูกกิริยาหยาบช้าปกปิดความงามเอาไว้จนมิด ถ้าหากจะโทษก็ต้องโทษที่ลูกชายของเขาดันไปคว้าสตรีชาวบ้านมาเป็นภรรยา จึงได้คลอดบุตรสาวที่ไม่อาจขัดเกลาได้คนนี้ออกมา

แต่วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นแก่สินสอดที่ซื่อจื่อแห่งจวนถังอ๋องนำมามอบให้ด้วยตนเอง ทำให้ฮูหยินชรามองหลานสาวคนนี้ว่าน่าเอ็นดูขึ้นมาเล็กน้อย

"พอเถิดวันนี้จะละเว้นโทษให้นางสักวัน สินสอดก็ส่งมาแล้วแม้เจ้าจะแต่งเข้าไปจวนอ๋องมีฐานะเป็นเพียงอนุ แต่ก็เป็นอนุของซื่อจื่อ ถังป๋อคนนี้ดีนักใบหน้าหล่อเหลา เขาคงถูกตาต้องใจเจ้าจึงได้ทุ่มเทมากมายเช่นนี้ เดิมทีข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีโชควาสนาอันใดกับเขาแต่ครานี้โชคมาถึงที่แล้ว วันนี้มาบอกเจ้าให้เตรียมตัว เรื่องแต่งงานข้าจะเร่งให้เร็วที่สุด หาไม่หากฝ่ายนั้นเปลี่ยนใจขึ้นมาเราเป็นฝ่ายหญิงจะเสียหายเอาได้"

จื่อรั่วอิงหน้าตึงอย่างไม่พอใจทันที

"ท่านย่าเจ้าคะ ข้าอยากแต่งเข้าจวนลี่หมิงอ๋องท่านกลับไม่อนุญาต แต่กลับยินดีที่ข้าจะแต่งเข้าจวนซื่อจื่อที่มีอนุอยู่ก่อนมากมาย ยังคิดถึงเรื่องกลัวเสียชื่อเสียงทั้ง ๆ ที่ข้าบอกว่าถูกลี่หมิงอ๋องลวนลามพวกท่านกลับไม่เอ่ยถึง การกระทำกับคำพูดของพวกท่านช่างย้อนแย้งกันเป็นอย่างยิ่ง ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ เลย"

"หุบปากเสีย อย่าเสียงดังโวยวายจนคนอื่นได้ยิน ข้าบอกแล้วว่าเรื่องที่เจ้าพูดไม่เคยเกิดขึ้น เป็นเพียงเรื่องเพ้อเจ้อของเจ้าเพียงลำพัง หากยังพูดอีกข้าจะให้ท่านพ่อของเจ้าขังเจ้าจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน โชคดีที่วันนี้ข้าอารมณ์ดียิ่งจึงไม่อยากให้วันดี ๆ ของข้าต้องมาเสียเพราะเจ้า หยุดทำตัวเหลวไหลแล้วเตรียมตัวแต่งงานให้ซื่อจื่อสกุลถัง อย่าได้คิดแต่งกับผู้ใดอีก"

"ท่านย่า ข้าไม่แต่งกับซื่อจื่อนั่น ข้าจะแต่งกับลี่หมิงอ๋อง ท่านคืนสินสอดเขาไปเถิดคนผู้นี้จะร่ำรวยกว่าลี่หมิงอ๋องได้อย่างไร ท่านย่าข้าจะหาสินสอดมาให้ท่านมากกว่านี้อีกข้ารับรอง ท่านชอบเงินชอบทองไม่ใช่หรือ ข้าสัญญาถ้าท่านเชื่อข้า ข้าจะหามาให้ท่านเป็นสองเท่ามากกว่าที่ได้รับวันนี้เลย"

สิ่งที่ได้รับคืออาการเจ็บแปลบที่ลำแขนของตน ด้วยบัดนี้นางถูกมือเหี่ยว ๆ ของท่านย่าบิดอย่างแรง

"เจ้าหลานคนนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าเห็นข้าเป็นสตรีเห็นแก่เงินหรือ ด้วยฐานะลูกอนุอย่างเจ้ายังหวังให้ผู้ใดส่งสินสอดจำนวนมากเช่นนี้มาให้อีก จะให้ข้าเอาไปคืนหรือฝันไปเถิด นับจากนี้ข้าจะให้คนมาสั่งสอนเจ้าให้ดี สตรีออกเรือนต้องทำเช่นใด คงหวังพึ่งแม่เจ้าให้สั่งสอนไม่ได้ หากยังมีนิสัยเช่นนี้แต่งเข้าจวนคนอื่นคงได้ถูกแม่สามีรังเกียจเอาเป็นแน่ อย่างไรเจ้าก็ต้องคิดหน้าตาสกุลจื่อของข้าด้วย"

ท่านย่าโมโหจนควันออกหู ไม่คิดว่าหลานสาวปากร้ายผู้นี้จะกล้าว่านางเห็นแก่เงินเช่นนี้ ทั้งหมดนี่ต้องโทษเลือดไพร่ของอนุหลินผู้เป็นมารดา

อนุหลินได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าเอ่ยคำใด ทุกครั้งที่บุตรสาวต่อล้อต่อเถียงกับฮูหยินผู้เฒ่านางก็มักจะยืนดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยรู้ดีว่าหากยื่นมือเข้าไปยุ่งก็ยิ่งทำให้เรื่องราวบานปลาย

 ถึงแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะไม่ค่อยชอบจื่อรั่วอิงที่ซุกซนเกินไปแต่ การลงโทษที่บุตรสาวได้รับ นอกจากคุกเข่า ถูกบิดแขน แล้วก็มีเพียงกักบริเวณเท่านั้น ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกับเรื่องที่จื่อรั่วอิงก่อเอาไว้ก็นับเป็นการลงโทษสถานเบานัก

"คุกเข่าลง ฟังคำของข้าให้ดี"

ท่านย่ากล่าวจบก็เริ่มต้นสั่งสอนหลานสาวตัวดีให้ได้รู้สำนึก คนแก่เอ่ยแต่ละคำเชื่องช้าและยืดยาด แรก ๆ จื่อรั่วอิงก็ผงกศีรษะฟังอยู่บ้าง แต่ประโยคหลัง ๆ ก็เริ่มไม่เข้าหู เวลาผ่านไปไม่นานจื่อรั่วอิงก็เริ่มหาว

เมื่อเห็นหลานสาวตั้งใจฟังคำอย่างดี ท่านย่าผู้มีความรู้อันมากมายก็เริ่มพรั่งพรูคำสอนออกมาไม่หยุด หลังจากสั่งสอนจื่อรั่วอิงชุดใหญ่ผู้ชราก็พักเหนื่อยจิบน้ำชาไปหลายอึกเนื่องจากคอแห้ง ท่านย่าวางถ้วยน้ำชาลงแล้วเอ่ยต่อ

"จื่อรั่วอิง คำของย่าที่พูดไปเมื่อสักครู่เข้าใจหรือไม่"

เงียบ...

มารดาของจื่อรั่วอิงกระแอมเล็กน้อยแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ 

"อิงเอ๋อร์ ท่านย่ากำลังถามเจ้า"

คร่อก...ฟี้.... 

เมื่อเสียงกรนเบา ๆ ดังขึ้น สตรีชราถึงกับโกรธจนหน้าสั่น

"จื่อรั่วอิง!"

คราวนี้ฮูหยินชราถึงกับแผดเสียงจนจื่อรั่วอิงสะดุ้งตื่น นางหันไปรอบ ๆ พร้อมกับยกหลังมือปาดน้ำลายที่เกือบจะหยดลงมาทั้งอ้าปากหาวจนน้ำตาคลอเบ้า

"ท่านย่า ท่านเรียกข้าทำไมเจ้าคะ"

จื่อรั่วอิงมองท่านย่าอย่างงุนงง แน่นอนว่าท่านย่าของนางบัดนี้รู้ได้ว่า หลานสาวคนนี้ไร้หนทางเยียวยาแล้วกระทั่งคุกเข่าอยู่เช่นนี้ยังนอนหลับได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านย่าส่ายหน้าไปมาทั้งลุกขึ้นด้วยความรู้สึกหมดหวังในตัวหลานสาวผู้นี้

"ช่างเถิด สตรีที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนกับน้ำที่สาดออก ต่อไปเรื่องของเจ้าหลังแต่งงานจะไม่เกี่ยวข้องกับจวนเสนาบดีอีก เฮ้อ เหนื่อยใจเหลือเกิน"

กล่าวจบท่านย่าก็ถูกท่านแม่ของนางและบ่าวรับใช้คนนั้นพยุงออกจากเรือนไปช้า ๆ โดยไม่หันมามองนางอีก

 จื่อรั่วอิงยังมึนงงแคะขี้ตาที่ดูเหมือนว่าจะติดที่หางตาเล็กน้อยแล้วปัดมือทำท่าจะลุกขึ้น ทว่าเสียงเย็นเยียบจากผู้ชราที่หันหลังให้นางกลับดังขึ้น

"ผู้ใดให้เจ้าลุกขึ้น คุกเข่าเช่นนั้นจนกว่าจะพ้นยามซวีวันนี้[1]  พวกเจ้าไปนับสินสอดให้ดีแล้วเอาไปเก็บที่เรือนข้างในของข้า อย่าให้นังเด็กตัวดีเอาสินสอดไปคืนจวนถังอ๋องได้เป็นอันขาด"

ท่านย่ารู้ทันนิสัยหลานสาว ก่อนจากไปแล้วทิ้งน้ำเสียงอำมหิตเอาไว้ให้คนกลัว

 จื่อรั่วอิงชะเง้อคอมองท่านย่ากระทั่งไม่เห็นแผ่นหลังของผู้ชราแล้วจึงได้ปัดมือแล้วลุกขึ้น

"หึ จะให้ข้านั่งทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไร ผู้ใดเชื่อฟังก็โง่แล้ว แค่เผลอหลับไปแป๊บเดียวเองทำไมท่านย่าต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยนะ ไร้สาระจริง ๆ สินสอดไม่คืนก็ไม่คืนสิ ข้าต้องหาวิธีจนได้แน่ ๆ"

ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

"คุณหนูขอรับ"

จื่อรั่วอิงมองไปตามเสียง เห็นว่าเป็นเจ้าอ้วนเป่าที่อยู่ในชุดบ่าวรับใช้เช่นเดิมแล้วจึงยิ้มด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่ง เจ้าอ้วนเป่ามาได้จังหวะเหมือนนัดเอาไว้

"เจ้าไม่เป็นพระแล้วหรือจึงมาอยู่ที่นี่ได้"

"ขอรับ ข้าน้อยสึกออกมารับใช้คุณหนูแล้ว หลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่องพระพวกนั้นก็ไม่ไว้ใจบ่าวอีกขอรับ"

"อ้วนเป่าเจ้ารีบเข้ามาแล้วปิดประตูเร็วเข้า เราต้องระดมสมองคิดหาวิธีโดยด่วน"

หนึ่งชั่วยามต่อมา รายชื่อบุรุษหนุ่มในแคว้นที่ก่อนหน้านี้จื่อรั่วอิงให้อ้วนเป่าทำรายชื่อเอาไว้ก็ถูกกางออกมาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกครอบครัวกีดกันอย่างหนักนางจึงคิดถอดใจจากอ๋องตาบอดผู้เย็นชาโหดเหี้ยมและยังเข้าถึงยากผู้นั้นแล้ว

จื่อรั่วอิงค่อย ๆ ขีดรายชื่อออกทีละคนกระทั่งรายชื่อคนสุดท้ายที่อยู่ในมือ น้ำตานางก็ไหลพรากคนทั้งเมืองที่พอจะพึ่งพาได้มีแค่คนพิการสองคนนี้เท่านั้น นี่มันวาสนาชะตาหงส์อะไรกันโกหกสิ้นดี

"คนที่ข้าต้องการ ต้องร่ำรวยและมีความสามารถหยุดการแต่งงานของข้ากับถังซื่อจื่อได้ อีกทั้งต้องไร้ภรรยาและบุตรกวนใจในเมืองนี้นอกจากจวิ้นอ๋องที่ป่วยติดเตียงแล้วก็มีเพียงลี่หมิงอ๋องที่ตาบอด เจ้าอ้วนหรือว่าข้าจะเลือกคนป่วยติดเตียงที่ถูกเมียทิ้งผู้นั้นดี"

"จวิ้นอ๋องผู้นี้ป่วยหนัก ยังถูกพระชายา รวมทั้งอนุทอดทิ้งเพราะได้ข่าวว่าพวกนางทนเวลาที่ท่านอ๋องถ่ายหนักไม่ไหว พวกนางเป็นภรรยาแท้ ๆ ยังทนไม่ได้ คุณหนูของบ่าวเองก็ไม่เคยปรนนิบัติผู้ใดจะทนได้หรือขอรับ สภาพของคนผู้นั้นย่ำแย่กว่าลี่หมิงอ๋องยิ่งนัก ที่ตอนแรกคุณหนูไม่เลือกเขาเพราะเหตุนี้ไม่ใช่หรือขอรับ"

"ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้วอ๋องตาบอดนั่นเข้าถึงยากมาก ครอบครัวข้าก็ไม่เห็นด้วยแต่ก่อนข้าไม่คิดว่าแผนของเราจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นนี้ ข้าคิดดีแล้วเปลี่ยนแผนเลือกคนป่วยติดเตียงยังจะดีกว่า จวิ้นอ๋องป่วยเช่นนั้นโอกาสตายมีสูง เจ้าคิดดูสิหากข้าเป็นภรรยาจวิ้นอ๋องถ้าเขาตายเร็วข้าจะมีความสุขเพียงใด อ้วนเป่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือข้าต้องหาทางใกล้ชิดและขอจวิ้นอ๋องแต่งงานให้ได้ เจ้าบอกข้าเองว่าจวิ้นอ๋องเป็นคนดีมีน้ำใจกว้างขวาง ชอบช่วยเหลือผู้คนไม่ใช่หรือ เขาต้องฟังคำข้าเป็นแน่"

เจ้าอ้วนเป่าได้ยินดังนั้นก็ชื่นชมคุณหนูของตนเป็นอย่างยิ่ง

"แผนการของคุณหนูช่างล้ำลึกโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนักไม่รู้คิดได้อย่างไรว่าจะเอาคนพิการมาเป็นโล่กำบังยังแช่งให้เขาตายไวตั้งแต่ยังไม่พบหน้า สุดยอดขอรับบ่าวขอยกนิ้วให้แต่คุณหนู แต่คุณหนูขอรับบ่าวไม่เข้าใจบางเรื่อง ไหนคุณหนูบอกว่าตกหลุมรักลี่หมิงอ๋องแล้วไม่ใช่หรือขอรับ เมื่อรักลี่หมิงอ๋องไปแล้วจะแต่งกับคนอื่นได้อย่างไร"

จื่อรั่วอิงที่ยืดอกรับคำชมของอ้วนเป่าด้วยความสุขบัดนี้ส่ายหน้าไปมาให้กับความไร้เดียงสาของเจ้าอ้วนเป่า

"เจ้าจะบ้าหรือ ข้าก็พูดไปเช่นนั้น จะรักได้อย่างไรเขาน่ากลัวเพียงนั้น ไม่ใช่หนุ่มหล่อในฝันเลยสักนิดหนวดเคราเฟิ้มเหมือนโจรราคะแบบนั้นใครจะรักลง ก็แค่พูดขำ ๆ ให้คนคิดจริงจังก็เท่านั้นเผื่อพวกเขาจะเห็นใจข้าบ้าง"

"อ้อ คุณหนูยอดเยี่ยมอีกแล้ว แต่คุณหนูขอรับท่านอ๋องล่วงเกินคุณหนูเพียงนั้นแล้วนะขอรับ จะไม่แต่งได้อย่างไร"

เจ้าอ้วนเป่าไม่พูดเปล่า เขายังยกมือจับหน้าอกตัวเองเลียนแบบท่าทางของลี่หมิงอ๋องในวันนั้น จื่อรั่วอิงเองคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วถึงกับหน้าแดง นางส่ายหน้าสลัดความรู้สึกประหลาดออกไปแล้วเอ่ยว่า

"จับแล้วอย่างไร เอาไปไม่ได้สักหน่อย ข้าจะคิดเป็นกุศลถือว่าทำทานให้หมามันกินก็ได้ ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไปสืบความมาทำอย่างไรถึงจะเข้าจวนจวิ้นอ๋องได้"

"คุณหนูตัดสินใจแน่แล้วหรือขอรับ"

"ใช่ เจ้ารีบไปเถิดกำหนดวันแต่งงานของข้าจะมีขึ้นในอีกไม่ช้า เราไม่มีเวลามาก"

อ้วนเป่ารับคำ รีบวิ่งออกไปจากเรือนของจื่อรั่วอิงตามคำสั่ง จื่อรั่วอิงเดินวนไปวนมาในเรือนของตนไม่อาจออกไปที่ใดได้เพราะว่าถูกกักบริเวณ กระทั่งหลายชั่วยามต่อมาเจ้าอ้วนเป่าก็วิ่งกลับเข้ามาด้วยเหงื่อที่โทรมกาย

"สำเร็จแล้วหรือ ทำไมไวยิ่งนัก"

อ้วนเป่าส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า "ข่าวร้ายขอรับจวิ้นอ๋องสิ้นใจไปเสียแล้วที่จวนกำลังวุ่นวายขอรับ ได้ข่าวว่าฮ่องเต้เพิ่งเสด็จมาด้วยตนเอง"

จื่อรั่วอิงดวงตาเบิกค้าง "อะไรนะ เจ้าว่าเขาตายแล้วหรือ"

"ขอรับ ข่าวว่าจวิ้นอ๋องอาการป่วยหนักมาหลายวันแล้วขอรับ"

จื่อรั่วอิงรู้สึกหมดแรงได้แต่ก่นด่าสวรรค์ออกมา

 "นี่จวิ้นอ๋องหวาดกลัวข้าจนกระทั่งชิงตายไปเสียแล้วหรือ ทำไมสวรรค์ใจร้ายกับข้าเช่นนี้ ท่านเทพท่านได้ยินข้าหรือไม่ ท่านกำลังบีบให้ข้าจมมุมใช่หรือไม่"

อ้วนเป่าหอบหายใจแรงทั้งเอ่ยถาม

"แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อขอรับ"

จื่อรั่วอิงนั่งลงเอามือเท้าคางบนโต๊ะ เคาะนิ้วเรียวอย่างใช้ความคิด นางนิ่งไปสักครู่ก่อนจะเอ่ยว่า

"ไม่มีทางเลือกแล้ว พรุ่งนี้เจ้ากับข้าจะบุกจวนลี่หมิงอ๋อง ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะถือว่าเป็นเพราะสวรรค์ลิขิต ข้าจะไม่มีทางให้พลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ลี่หมิงอ๋องในเมื่อเจ้าหลบเก่งนักข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่านักล่าตัวจริงเป็นเช่นใด"

 เชิงอรรถ

^ ยามซวี ประมาณ 3 ทุ่ม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 7 ปีศาจร้าย

    บทที่ 7 ปีศาจร้ายวันต่อมาอาจารย์จากสำนักศึกษาก็มาตามตัวลูกศิษย์ที่ไม่ได้ไปเรียนหลายวันถึงจวน ท่านพ่อของจื่อรั่วอิงเข้าวังตั้งแต่เช้าจึงไม่ได้อยู่ต้อนรับ จื่อรั่วอิงรู้ตัวอยู่แล้วว่าอาจารย์ต้องมาที่นี่ด้วยนางขอให้น้องสาวทั้งสองคนอันเกิดจากอนุรองและอนุสามช่วยเหลือน้องสาวของจื่อรั่วอิงเป็นเด็กสาวใบหน้างดงามอันเป็นที่เลื่องลือของคนไปทั่วทั้งเมือง ด้วยพวกนางเป็นเด็กเรียบร้อยบิดาของนางจึงหวงน้องสาวยิ่งนักการเดินทางไปเรียนแต่ละครั้งมีองครักษ์รายล้อมนับสิบคน ตรงข้ามกับจื่อรั่วอิงที่แม้จะเป็นหญิงงามทว่าชื่อเสียงของนางกลับฉาวโฉ่ก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน จึงทำให้บิดาแม้จะรักเอ็นดูเพียงใดก็ไม่เคี่ยวเข็ญนางเหมือนบุตรสาวคนอื่นเพราะสินสอดของซื่อจื่อที่ส่งมานั้นเต็มไปด้วยของล้ำค่านับสิบหีบ ทั้งยังมีอาภรณ์แพรพรรณงดงามหายากมากมาย นอกจากนั้นท่านย่ายังได้รับของกำนัลหีบใหญ่จากถังซื่อจื่อจึงทำให้ท่านย่าของจื่อรั่วอิงอารมณ์ดีเป็นพิเศษจื่อรั่วอิงเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว เมื่อท่านย่าให้คนมาตามจึงเดินออกมาในชุดของสำนักศึกษา"ข้าต้องขอโทษอาจารย์จิวที่ทำให้ท่านลำบากต้องมาตามคนถึงที่นี่ เป็นความผิดของข้าเองที่ไม่ไ

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 8 เรื่องใหญ่ที่นางก่อ

    บทที่ 8 เรื่องใหญ่ที่นางก่อบัดนี้จื่อรั่วอิงกำลังใส่ชุดไว้ทุกข์ที่เจ้าอ้วนเป่าได้เตรียมเอาไว้ ด้วยแผนการของนางหลังจากเข้าไปในสำนักศึกษาแล้ว นางก็จัดการวางยาถ่ายคนทั้งสำนัก รวมทั้งบรรดาองครักษ์ที่ติดตามควบคุมนางไปด้วยเพราะเรื่องนี้มีน้องสี่และน้องห้าสตรีเรียบร้อยคอยช่วยเหลือ พวกเขาตกหลุมพรางอย่างง่ายดายด้วยไม่คิดว่าสตรีผู้งดงามอ่อนหวานจากสกุลจื่อทั้งสองจะหาญกล้ามาวางยาในน้ำชาที่พวกเขาดื่มกันน้องสี่และน้องห้าของจื่อรั่วอิงยืนตัวสั่นอยู่ที่มุมหนึ่ง เมื่อเห็นบรรดาเพื่อน ๆ วิ่งหาห้องน้ำกันวุ่นวาย"จะไม่เป็นอันใดแน่นะเจ้าคะ"จื่อรั่วอิงทำใบหน้าขึงขัง"พวกเจ้าไม่ต้องห่วง ยาถ่ายเพียงเล็กน้อยพวกเขาจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ข้าจำเป็นหากข้าไม่ทำเช่นนี้จะหลบหนีองครักษ์และคนทั้งสำนักไปได้อย่างไร"น้องสี่ของนางกลับตอบว่า"ข้าหมายถึงข้ากับน้องห้าเจ้าค่ะ พวกข้าจะไม่เป็นไรแน่นะเจ้าคะ ส่วนคนพวกนั้นก็ช่างเถิดไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว"จื่อรั่วอิงหัวเราะขบขันจนน้ำตาเล็ด"น้องสี่ น้องห้า พวกเจ้าช่างเหมาะสมแล้วที่เป็นน้องสาวข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า"น้องสี่ทำหน้าย่น"พี่สามท่านอย่าล้อเล่น ตกลงพวกข้าจะเป็นไรหรือไม่"จื่อร

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 9 เหรียญทองสำหรับคนกล้าหาญ

    บทที่ 9 เหรียญทองสำหรับคนกล้าหาญสิ้นเสียงนั้นทุกสิ่งพลันหยุดนิ่ง ไม้ไม่ได้ตีเข้าที่แผ่นหลังของนาง จื่อรั่วอิงจึงพลิกกายรีบลุกขึ้น สองมือเล็กผลักคนที่จับแขนจับขานางเอาไว้ ทั้งคิดในใจว่า ในที่สุดพระเอกก็โผล่มาได้จังหวะเสียที ไม่ผิดกับที่วางเอาไว้เมื่อนางเงยหน้ามองคนผู้นั้นในใจหวังให้เป็นหนุ่มหล่อรูปงาม ทว่าความเป็นจริงกลับทำให้นางขนลุกเมื่อพบผู้ชายหนวดเฟิ้มใบหน้าเย็นชาคนนั้นยืนกดดันผู้คนจนชวนหวาดผวาให้ตายเถอะ น่ากลัวกว่าตอนนางเข้าไปเล่นในบ้านผีสิงเสียอีกถึงหน้าตาไม่ตรงสเปกที่วางไว้ แต่ได้ตัดสินใจแล้วอย่างไรก็ไม่อาจถอยหลังได้ นางไม่ได้มองหาคนหล่อแต่นางมองหาอิสระไม่ใช่หรือ จื่อรั่วอิงเปล่งเสียงหวานอ่อนแอที่ฟังแล้วดูน่าสงสารที่สุดออกมา"ท่านอ๋องในที่สุดท่านก็มาช่วยข้าแล้ว สามีท่านยอมรับข้าแล้วใช่หรือไม่"จื่อรั่วอิงมองสบตาเขาทว่าพบเพียงความว่างเปล่า จื่อรั่วอิงคิดได้นางลืมไปได้อย่างไรว่าเขาตาบอดและถูกปิดตาอยู่เช่นนั้น นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นผวาเข้าไปหาเขา ด้วยความรีบร้อนนางจึงเหยียบกระโปรงตนเองจนเสียหลักล้มลงไป สองแขนของนางกางออกก่อนที่จะทับร่างของคนผู้นั้นจื่อรั่วอิ

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 10 ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง

    บทที่ 10 ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่งในที่สุดคนที่อำนาจตัดสินชีวิตคนก็โผล่มาแล้ว ทว่าบัดนี้จื่อรั่วอิงก็เอาแต่ก้มหน้าด้วยบิดาของนางได้ตามมาด้วย สายตาของบิดายามนี้ราวกับต้องการสังหารคนเพื่อระบายอารมณ์ แน่นอนว่าคนผู้นั้นก็คือคุณหนูสามจื่อรั่วอิงบุตรสาวของเขาเองทุกคนต่างนั่งกันอย่างสงบอยู่บนเก้าอี้ ข้าง ๆ พวกเขายังมีน้ำชาและขนมส่งกลิ่นหอมหวาน จื่อรั่วอิงไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าจึงรู้สึกหิวจนท้องร้อง ตอนนี้มีเพียงจื่อรั่วอิงเท่านั้นที่คุกเข่าอยู่กลางห้องโถง ซึ่งนางคิดว่าไม่ยุติธรรมแม้แต่น้อย แต่นางก็ต้องหุบปากทำตัวอ่อนแอน่าสงสารต่อไปฮ่องเต้ลี่เจินเป็นบุรุษรูปงาม อายุราวสามสิบกว่าปีแม้จะมีฐานะเป็นหลานของลี่หมิงทว่าฝ่าบาทกลับเกิดก่อนหลายปีเรียกได้ว่าเห็นเสด็จอาผู้นี้มาตั้งแต่เกิด ลี่หมิงมีฐานะเดิมคือองค์ชายสิบเก้าซึ่งเป็นองค์ชายคนสุดท้ายของเสด็จปู่อันเกิดจากพระสนมวัยเยาว์ที่ในยามนั้นมีอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น พระสนมคลอดองค์ชายลี่หมิงในวันที่เสด็จปู่อายุมากแล้ว อดีตฮ่องเต้วัยชราจึงหลงรักบุตรชายคนเล็กยิ่งนัก ทว่าไม่นานเสด็จปู่ก็สวรรคต เสด็จพ่อของฝ่าบาทขึ้นครองราชย์ต่อจากนั้น ไม่นานเสด็จพ่อก

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 11 ช่วยข้าด้วย

    บทที่ 11 ช่วยข้าด้วยจวนอ๋องกลับมาเงียบสงบราวป่าช้าดังเดิมหลังจากคนของสกุล จื่อกลับไปแล้ว เจียวลู่ประคองลี่ไท่เฟยเดินเล่นที่สวนดอกไม้อันกว้างขวางภายในจวนเพื่อผ่อนคลายความกดดันเพราะเรื่องของจื่อรั่วอิง"ลู่เอ๋อร์เจ้าไม่ต้องกังวลใจเรื่องของท่านอ๋องไป อย่างไรสะใภ้ในใจข้าก็คือเจ้าคนเดียว หลังจากแต่งพระชายารองข้าจะให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้เจ้ากับท่านอ๋อง ครานี้เขาคงไม่มีข้ออ้างใดได้อีก ในเมื่อพระชายารองยังรับมาไยพระชายาเอกจะรับไม่ได้"เจียวลู่เองแม้ไม่พอใจ ทว่าท่านป้าของนางยังคงหาวิธีได้เช่นนี้ก็คิดว่าเรื่องนี้หากคิดในแง่ดีก็ล้วนเป็นประโยชน์ต่อตนเอง กระนั้นก็ยังอดที่จะเอ่ยออกมาอย่างน่าสงสารไม่ได้"ท่านป้า แม่นางสกุลจื่อผู้นั้นยังเป็นน้องสาวของจื่อกุ้ยเฟย บิดาก็เป็นถึงเสนาบดีที่มีความสำคัญของฝ่าบาท นางยังดูแข็งกร้าวเพียงนั้น ลู่เอ๋อร์เกรงว่าจะถูกนางรังแกหากเป็นเช่นนั้นลู่เอ๋อร์ก็ขอดูแลท่านป้าและพี่ใหญ่ในฐานะน้องสาวอยู่เงียบ ๆ ดีกว่าเจ้าค่ะ"ลี่ไท่เฟยสงสารเจียวลู่ยิ่งนัก หลานสาวห่าง ๆ ของนางผู้นี้เจียมตนอยู่เสมอยังมีใจกตัญญูต่อนางผู้เลี้ยงดูและหากจะพูดถึงความรักมั่นคงแล้วไม่มีผู้ใดที่จะสู้เ

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 12 เชื่อข้าเถิด

    บทที่ 12 เชื่อข้าเถิดฝ่าบาทกลับวังด้วยใบหน้าระรื่นเพราะมีความสุขยิ่งนัก ทว่าใบหน้าของจื่อกุ้ยเฟยนั้นกลับไร้สีเลือดอย่างเห็นได้ชัด โอรสสวรรค์เห็นใบหน้างามของสนมรักเป็นเช่นนั้นจึงเอ่ยว่า"เจ้าไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครานี้หรือ หรือว่าเจ้าก็เป็นอีกคนที่รังเกียจเสด็จอาของข้า"เดิมทีจื่อกุ้ยเฟยก็เป็นคนที่เปิดเผยความคิดต่อฝ่าบาทอยู่แล้ว นางทอดถอนใจยาวตอบด้วยน้ำเสียงค่อนข้างวิตก"ฝ่าบาท หม่อมฉันทูลตามตรงได้หรือไม่เพคะ""มีสิ่งใดที่เจ้าพูดกับข้าไม่ได้กันเล่า"จื่อกุ้ยเฟยจับพระหัตถ์โอรสสวรรค์เอาไว้ ทั้งยังจ้องพระพักตร์พระองค์เขม็ง"หม่อมฉันมิได้รังเกียจท่านอ๋องเพคะ ทว่าหนักใจยิ่งนักที่เห็นลี่ไท่เฟยวันนี้ทั้งท่านอ๋องยังดูเหมือนไม่ต้องการแต่งกับคนของหม่อมฉันเช่นนั้น จะแต่งเข้าจวนอ๋องได้อย่างไรเพคะ"ฝ่าบาททรงดึงร่างบอบบางของจื่อกุ้ยเฟยมากอดเอาไว้ตบแผ่นหลังของนางเบา ๆ "ไม่ต้องกลัวไปข้าเองก็เลี้ยงดูเสด็จอาของข้ามาเองกับมือใกล้ชิดกันยิ่งกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมาเสียอีก แม้เสด็จอาจะดูแข็งกร้าวไปบ้างแต่ข้าเห็นว่าเขาย่อมพึงใจน้องสาวของเจ้าผู้นี้อยู่บ้าง คนอย่างลี่หมิงอ๋องมิใช่ว่าข้าจะสามารถบังคับให้

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 13 สำเร็จ

    บทที่ 13 สำเร็จ​จวนลี่หมิงอ๋องหลังจากตรวจดูดวงตาของลี่หมิงอ๋องแล้วท่านหมอก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดี"ท่านอ๋อง หากเป็นเช่นนี้ไม่นานทุกอย่างก็จะเป็นปกติแล้วพ่ะย่ะค่ะ ดวงตาของท่านจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง"ลี่หมิงอ๋องพยักหน้า เมื่อคืนนี้จู่ ๆ ตอนที่เขาเปิดที่คาดตาก็พบว่าตนเองมองเห็นเลือนรางในความมืด แม้จะยังมองไม่ชัดเจนแต่สิ่งของที่เห็นก็เป็นรูปเป็นร่างจนพอจะแยกแยะออกเขาตื่นเต้นยินดีทว่าก็ไม่อยากตั้งความหวังมากเกินไป เขาอยู่กับความมืดเช่นนี้มาสองปีแล้วหมอมารักษานับร้อยคนยังบอกรักษาไม่ได้เดิมทีเขาได้ถอดใจและใช้ชีวิตอยู่ในความมืดจนเคยชิน ทว่าบัดนี้ไม่คิดว่าวิธีการของหมอหลวงที่ฝ่าบาทส่งมาผู้นี้จะช่วยรักษาเขาจนได้"แล้วไยตอนกลางวันข้ายังมองเห็นเพียงแสงสว่างเท่านั้นเล่า ทุกอย่างยังคงพร่าเลือนเช่นเคย"ท่านหมอส่งเทียบยาชุดใหม่ให้องครักษ์ซีห่าวแล้วเอ่ยว่า"แสงสว่างยังคงเป็นปัญหาพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ปรับตัวยาแล้วคาดว่าท่านอ๋องจะสามารถมองเห็นได้ในช่วงฟ้ามืดเพราะไร้แสงรบกวนในช่วงแรก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ใช้ดวงตาในตอนกลางวันได้ทว่าต้องอาศัยระยะเวลาสักหน่อยพ่ะย่ะค่ะ"ลี่หมิงอ๋องพยักหน้า"เรื่องนี้ปิด

    Last Updated : 2025-04-15
  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 14 ข้าไม่ยอมแพ้

    บทที่ 14 ข้าไม่ยอมแพ้เป็นเพราะฝ่าบาทออกหน้ามาสู่ขอด้วยพระองค์เอง สินสอดของหมั้นยังมากมายจนคนเล่าลือไปทั้งเมือง แม้จะไม่ชอบหลานเขยตาบอดผู้นี้ทว่าก็ยังพอให้ท่านย่าเบิกบานใจได้กำหนดวันแต่งงานมีในอีกไม่กี่วัน ช่างเป็นฤกษ์ยามที่รวบรัดเป็นอย่างยิ่ง ส่งของหมั้นมาเพียงไม่กี่วันก็มีกำหนดส่งตัวเจ้าสาวเข้าจวนมาถึงทันทีท่านย่าให้บ่าวไพร่ช่วยกันยกหีบสินสอดออกมานับจำนวน จดบันทึกเอาไว้ไม่ให้ขาดตกบกพร่องแม้แต่ชิ้นเดียว ใบหน้าที่เหี่ยวเฉาของท่านย่าบัดนี้กลับเบ่งบานราวกับสาวน้อยแรกแย้มผู้หนึ่ง แน่นอนว่าบัดนี้ทั่วทั้งตัวของท่านย่าเต็มไปด้วยหยกงามล้ำค่าจากวังหลวง ท่านย่าสั่งให้บ่าวไปตามหลานสาวทั้งสามให้มาช่วยทำบัญชีจดบันทึกสินสอดจื่อรั่วอิงตาลุกวาวหันไปมองเสี่ยวหยุนสาวใช้คนสนิท"ข้าจะไปหาเงิน เจ้าเตรียมการให้ดี ส่งเจ้าอ้วนเป่าไปดูคนด้วย""เจ้าค่ะ คุณหนู"บัดนี้จื่อรั่วอิง น้องสี่จื่อตาน น้องห้าจื่อเฉียว กำลังช่วยท่านย่าลงบันทึกสินสอดมือเป็นระวิง จื่อรั่วอิงหาวแล้วหาวอีกปกติช่วงเวลานี้นางต้องได้งีบหลับเอาแรงสักงีบทว่าบัดนี้กลับต้องมาทำเรื่องน่าเบื่ออยู่เช่นนี้ท่านย่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสยิ่งนัก"ส

    Last Updated : 2025-04-15

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 55 ตอนพิเศษ 4 (จบตอนพิเศษ)

    “กวนเกอร์เอ๋อร์ วาดอะไรอยู่หรือ”เด็กน้อยตัวอวบอ้วนวัยสามขวบเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษที่อยู่ตรงหน้า มือเล็กยังถือพู่กันเอาไว้พร้อมกับเอ่ยว่า“วาดภูเขาพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงเดินท้องโย้เข้ามาใกล้บุตรชาย โดยมีเสี่ยวหยุนคอยประคอง“ไหนเอามาให้แม่ดูหน่อย”เด็กน้อยส่งกระดาษให้ผู้เป็นมารดาดู พร้อมกับมองตาแป๋ว“ลูกวาดเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงเห็นว่าภูเขาของบุตรชายประหลาดนัก ทว่าก็ได้แต่อมยิ้มแล้วพยักหน้าช้า ๆ“งามมาก กวนเกอร์เอ๋อร์ของแม่ช่างเป็นผู้มีพรสวรรค์จริง ๆ วาดภูเขาได้เหมือนมาก แล้วจุดสองจุดตรงภูเขาคืออะไรหรือ”เด็กน้อยเกาศีรษะกลมพร้อมกับส่ายหน้า“ยังไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ ต้องถามเสด็จพ่อ”จื่อรั่วอิงขมวดคิ้ว ด้วยบัดนี้ท่านอ๋องเข้าวัง มีเพียงบ่าวของนางเจ้าอ้วนเป่าที่คอยฝนหมึกให้และบ่าวของท่านอ๋องอาฟงที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ“ไยต้องถามเสด็จพ่อเล่า”“เพราะลูกมีภาพวาดของเสด็จพ่อเป็นต้นแบบ อาฟงบอกลูกว่ายามนั้นเสด็จพ่อตาบอดมองไม่เห็นสิ่งใดยังพากเพียรวาดรูปฝึกปรือฝีมือ ความเพียรนี้สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงนั่งลงข้าง ๆ บุตรชาย นางลูบท้องใหญ่ของตนเองที่บัดนี้ตั้งครรภ์ได้เ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 54 ตอนพิเศษ 3

    “ทะท่านอ๋อง ช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ”จื่อรั่วอิงมือสั่น“นี่เจ้ากล้าเรียกสามีข้าหรือ เจ้าไม่ได้ตายดีแน่”สาวใช้ของคุณหนูผู้นั้นกอดคุณหนูของตนเองเอาไว้แน่น ยังเอ่ยว่า“พระชายา คุณหนูของบ่าวได้รับบาดเจ็บข้อเท้าแพลงไม่อาจขยับได้เพคะ อย่าทำร้ายคุณหนูของข้า นางได้รับบาดเจ็บอยู่นะเพคะ”“เจ็บจริง ๆ หรือไม่ข้าต้องทดสอบ เจ้ารู้หรือไม่หากข้าฟาดแส้ไปที่ใบหน้าของนาง คงต้องเสียโฉมไปตลอดกาลเป็นแน่ อยากลองดีหรือไม่”กล่าวจบจื่อรั่วอิงฟาดแส้ลงมาครั้งหนึ่งลงไปข้างกายของนางผู้นั้น ผู้คนเริ่มมามุงดูกันด้วยความสงสัย ในขณะที่สตรีทั้งสองคนกรีดร้องอย่างหวาดกลัวสาวใช้กลับไม่ยินยอม“ท่านถือดีอย่างไรจึงได้ลงมือตีคนกลางถนนเช่นนี้ คุณหนูของข้าเป็นถึงธิดาของท่านผู้ว่าการศึกษานะเพคะ”จื่อรั่วอิงถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้าถามหรือว่านางเป็นลูกใคร ได้ไล่ไม่ไปใช่หรือไม่ หากไม่ไปอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ ข้าจะตีพวกเจ้าทั้งนายและบ่าวให้ตายไปข้างหนึ่ง”จื่อรั่วอิงเงื้อมือขึ้นเตรียมฟาดแส้ลงมา ไม่น่าเชื่อว่าสตรีที่บ่อน้ำตาแตกท่าทางอ่อนแอนางนั้นบัดนี้จะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปสุดชีวิต ทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแส้ในมือของนางยังฟาดเข้าท

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 53 ตอนพิเศษ 2

    “กอดข้าหน่อยเพคะ”เขาถอดรองเท้าแล้วสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนนั้นกอดมือใหญ่ดึงร่างเล็กมากอด จื่อรั่วอิงขยับกายมาแนบชิดเกยก่ายร่างตนเองบนร่างกายใหญ่โตของเขาอบอุ่นและหอมกรุ่นยิ่งนักเขาลูบแผ่นหลังของนางอย่างรักใคร่“เหตุใดเอาแต่นอน หากนอนมากจะไม่สบายไม่รู้หรือ”จื่อรั่วอิงส่ายหน้า“ไม่ได้นอนอย่างเดียวเพคะ ยังตื่นขึ้นมากินด้วย”“กินกับนอนไม่กลัวอ้วนหรือ”“ไม่กลัวเพคะ คนเราต้องใช้ชีวิตให้ดีหากชอบกินก็กินเสียก่อนที่จะไม่ได้กิน หม่อมฉันเคยตายมาแล้วของที่อยากได้ก็ไม่ได้ใช้จึงคิดเสียดายยิ่ง ชาตินี้จึงคิดว่าหากอยากจะทำอะไรก็จะทำเพคะ”นางมักจะพูดเช่นนี้เสมอว่าตนเองเคยตายมาแล้ว ปกติจื่อรั่วอิงมักพูดจาประหลาดอยู่แล้ว ลี่หมิงอ๋องจึงเคยชินกับคำพูดของนางจึงไม่ได้เอ่ยถามคำใดเขาขยับตัวขึ้นนั่งโดยมีจื่อรั่วอิงพังพาบอยู่บนร่างกายเขา ได้กอดสามีเหมือนกอดเตาอุ่นนางจึงซุกหน้าเข้ากับอกของเขาแล้วถูเบา ๆ“ไม่คิดออกไปข้างนอกหรือ มีข่าวว่ามีของน่าสนใจมากับเรือเทียบท่าลำใหญ่ที่เพิ่งมาถึง”“ไม่ไปเพคะ หนาวข้าไม่ชอบความหนาวอยากนอน”“ไม่ไปจริงหรือ”“จริงเพคะ”แน่นอนว่านอกจากนางจะไม่ไปแล้ว ยังล็อกตัวสามีแน่นหนาไม่ยอมให

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 52 ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ ตอนที่ 1หลังแต่งงานใหม่เข้าจวนอ๋องในฐานะพระชายาได้สองปีกว่าจื่อรั่วอิงก็ไม่ยอมตั้งครรภ์ ด้วยนางยังห่วงความสนุกสนานในชีวิตวัยรุ่นของนางยิ่งนักในแต่ละวันหลังจากท่านอ๋องเข้าวังหลวงไปทำงาน จื่อรั่วอิงก็มักจะกลับไปจวนของตนเองเพื่อไปเยี่ยมท่านย่าและน้องสาวทั้งสองอยู่เสมอโดยขากลับต้องลำบากลี่หมิงอ๋องต้องไปรับนางด้วยตัวเองทุกวันก่อนหน้านี้ท่านย่ามาเยี่ยมที่จวนอ๋อง หลังจากเดินวนชื่นชมความงดงามของจวนพร้อมกับบ่าวคนสนิทและน้องสี่น้องห้าจนเหนื่อยก็ลงมือต้มน้ำแกงให้นางดื่มบำรุงกำลัง“เจ้าสามอย่าหาว่าย่าสั่งสอน อย่างไรเราเป็นสตรีการมีบุตรให้สามีคือหน้าที่ เจ้าแต่งมาสองปีแล้วยังไม่มีวี่แววเช่นนี้นับว่าบกพร่องต่อหน้าที่แล้ว”“ท่านย่าข้าเป็นภรรยาคน ไม่ใช่แม่พันธ์เพาะลูก อายุก็น้อยเพียงนี้จะรีบมีไปทำไม รอข้าพร้อมก่อนจะมีแน่นอนไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”“น้อยได้อย่างไร คนอื่นลูกเขาต่างวิ่งกันได้แล้วดูเจ้าสิอย่าทำตัวเหลวไหลนักเลย ของที่ย่านำมาด้วยดื่มให้เป็นประจำบำรุงร่างกายทั้งนั้น ร่างกายสมบูรณ์จะได้ตั้งครรภ์เสียที”จากนั้นก็หันไปสั่งเสี่ยวหยุน“เสี่ยวหยุนอย่าลืมให้พระชายาดื่มยาบำรุงของข้าทุกวัน ร

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 51 ตอนจบ

    บทที่ 51 จบบริบูรณ์วันนี้เป็นวันอันสำคัญที่ฝ่าบาทจัดขึ้นเพื่อลี่หมิงอ๋อง จึงทรงเชิญคนมากมายรวมทั้งคนในครอบครัวของจื่อรั่วอิงมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง ท่านย่าของจื่อรั่วอิงตื่นเต้นเป็นอันมาก นางยังได้เชิญญาติ ๆ มาร่วมงานด้วยโดยที่ฝ่าบาทเองก็ไม่ได้ขัดข้องที่เหล่าชนชั้นพ่อค้าเหล่านี้จะเข้าวังร่วมแสดงความยินดี ในขณะที่บิดาและภรรยาทั้งสี่ของเขาต่างก็เข้าร่วมงานด้วยความสำราญใจและยังได้รับการคารวะสุราแทบจะไม่ว่างเว้นจื่อรั่วอิงถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นท่านย่าแต่งกายด้วยอาภรณ์และเครื่องประดับสีทองทั้งตัว นางกลัวว่าจะถูกคนในวังตำหนิที่ทำตัวเด่นดังเกินหน้าเกินตาน้องสี่ของนางจึงเอ่ยว่า"ฝ่าบาทพระราชทานให้ท่านย่า เพราะบอกว่าเลี้ยงพี่สามมาดียิ่งทำให้พบคนร้ายที่ทำลายดวงตาท่านอ๋อง ความดีความชอบยกให้ท่านย่าทั้งหมด อีกทั้งเครื่องประดับเหล่านั้นจึงยังเป็นลี่ไท่เฟยที่มอบให้ อีกไม่นานลี่ไท่เฟยจะดำรงตำแหน่งไทฮองไทเฮาแล้ว พระนางจึงมีของมากมาย ของกำนัลเหล่านี้ล้วนเป็นพระนางที่คัดเลือกส่งให้ท่านย่าทั้งหมดเจ้าค่ะ"จื่อรั่วอิงย่อมรู้ว่าแม่สามีตอบรับตำแหน่งไทฮองไทเฮาแล้ว นางดีใจจนเนื้อเต้น ไม่ใช่เพราะแม่สามีจะได้ตำ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 50 ผู้ใดทำผิดต้องรับการลงโทษ

    บทที่ 50 ผู้ใดทำผิดต้องได้รับการลงโทษเจียวลู่ตามคนผู้นั้นมายังสถานที่หนึ่ง บัดนี้นางคุกเข่าอยู่ต่อหน้าคนผู้นั้นพร้อมกับเอ่ยว่า"จัดการเรียบร้อยแล้วเพคะ พวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกต่อไป""เจ้าแน่ใจหรือไม่""เพคะ หม่อมฉันลงมือด้วยตนเอง และก่อนออกจากจวนก็ไปพบพวกเขา ทุกคนล้วนนอนหลับแล้วเพคะ""อืม ดีมาก คงมีเพียงเจ้าที่ไว้ใจได้ เจ้าทำพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง คงนี้คงไม่พลาดอีกใช่หรือไม่""เพคะ ทรงไว้ใจหม่อมฉันได้ ไม่พลาดแน่นอน"สตรีนางนั้นแย้มยิ้ม แล้วยกแขนขึ้นกวักมือเรียกเจียวลู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"ลูกแม่ มาหาแม่สิ มาใกล้ ๆ แม่"เจียวลู่ขยับเข้าไปใกล้คนผู้นั้น แล้วซบใบหน้าลงบนตัก"เสด็จแม่ยอมรับหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่"สตรีนางนั้นเอ่ยว่า"ไม่ยอมรับได้อย่างไร เจ้าคือลูกแม่มิใช่หรือ หลายปีมานี้ใช้งานเจ้าให้หลบซ่อนตัวในจวนอ๋อง เจ้าทำตามที่แม่สั่งมาเนิ่นนาน สุดท้ายมือของเจ้ายังแปดเปื้อนเลือดคน ทั้งหมดเจ้าแสดงให้เห็นแล้วว่าซื่อสัตย์ต่อแม่เพียงใด แม่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก"เจียวลู่เงยหน้ามองนางผู้นั้นแล้วเอ่ยว่า"ไยจึงเปลี่ยนพระทัยสังหารไท่เฟยเพคะ นางโดนยาพิษมาหลายปีเพียงนี้อีกไม่นานก็คงล้มป่วยแล้ว"สองมือข

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 49 วางยาพิษ

    บทที่ 49 วางยาพิษเพราะอาการตาบอดของลี่หมิงหายแล้ว ลี่ไท่เฟยจึงเป็นคนที่ดีใจที่สุด ความจริงอยากจัดงานเลี้ยงใหญ่โตในจวน ทว่าลี่หมิงห้ามเอาไว้ บอกว่าได้หารือกับฝ่าบาทแล้วว่าจะจัดงานที่วังหลวง เชิญข้าราชบริพารมาร่วมงานจัดให้ใหญ่โตคล้ายจัดงานให้ไทฮองไทเฮาเสียอีกลี่ไท่เฟยแย้มยิ้มเอ่ยว่า"จะจัดให้ใหญ่เท่างานวันเกิดจิ้งจอกเฒ่านั้นได้อย่างไร ต้องจัดให้ใหญ่กว่าสิ ท่านอ๋องของแม่เป็นคนสำคัญเพียงใดผู้ใดก็รู้ งานนี้ฝ่าบาทคงให้กลับไปรับราชการกุมอำนาจเช่นเดิมแล้ว นางจิ้งจอกนั่นจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ววังหลวงไม่ใช่ของนางเลยแม้แต่น้อย ลูกแม่เป็นคนโปรดของฝ่าบาทเพียงนี้คงทำให้นางไม่กล้ากับแม่อีก”ลี่หมิงอ๋องพยักหน้า การต่อสู้ของสตรีชราทั้งสองคงไม่มีวันจบสิ้นเป็นแน่ลี่ไท่เฟยจับมือบุตรชายแล้วเอ่ยพร้อมทอดถอนใจ“ท่านอ๋อง ศึกสงครามสงบแล้วก็ดียิ่งทว่าหากบังเอิญเกิดขึ้นอีก แม่ขอร้องท่านอ๋องอย่าได้ออกรบได้หรือไม่ ที่ผ่านมาเจ้าทุ่มเทมากมายเพียงนั้นจนกระทั่งตาบอด แม่ทำใจไม่ได้หากเห็นเจ้าต้องเข้าสู่สนามรบอีก อย่างไรก็ไม่อาจยอมได้”ลี่หมิงอ๋องเอ่ยว่า"บัดนี้คงไร้สงครามแล้ว ศึกครั้งสุดท้ายได้ทำสัญญาสงบศึกถึงยี่สิบปี

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 48 เราหย่ากันเถอะ

    บทที่ 48 เราหย่ากันเถอะเรื่องดวงตาของท่านอ๋องหายดีแล้วนั้น ก่อนหน้านั้นเขาได้ทูลให้ฝ่าบาททรงทราบเรียบร้อย ฝ่าบาทจึงทรงสั่งให้จัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองในวังหลวงลี่หมิงอ๋องไม่ปฏิเสธ ยังรับปากแข็งขันว่าจะเข้าร่วม ทั้งยังขอให้ฝ่าบาททรงจัดงานให้ใหญ่ที่สุด เชิญคนมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"เสด็จอาพูดจริงหรือ ดูเหมือนไม่ใช่เสด็จอาเลยแม้แต่น้อย หรือว่าเพราะแต่งกับคนสดใสร่าเริงเช่นจื่อรั่วอิงจึงทำให้เปลี่ยนไปได้เพียงนี้"ลี่หมิงอ๋องพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า"ฝ่าบาทกระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูล เกี่ยวกับสาเหตุที่กระหม่อมตาบอด"ฮ่องเต้ทรงเบิกพระเนตรกว้าง ตรัสถามด้วยความตื่นเต้น"เสด็จอาสืบรู้แล้วหรือ เพียงดวงตามองเห็นก็ทราบทุกอย่างแล้วหรือ"ลี่หมิงอ๋องพยักหน้า "ความจริงหากนึกย้อนไปดี ๆ ก็คงสามารถปะติดปะต่อเรื่องนี้ได้ ทว่าด้วยหลายปีที่ออกศึกจึงมีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่าเรื่องนี้ กระหม่อมเองยามนั้นยังเด็กนักจึงไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้น กระทั่งบัดนี้เมื่อมองเห็นและได้เห็นใบหน้าคนผู้หนึ่งความทรงจำนั้นจึงกลับมา""เสด็จอาหมายความว่าอย่างไร"ลี่หมิงอ๋องหัวเราะเย็น"ฝ่าบาทความจริงที่สืบได้รวดเร็วทั้งหมดนี้ล้

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 47 คือท่าน

    บทที่ 47 คือท่านซีห่าวมองหน้านางแล้วหันไปมองบุรุษผู้นั้นก่อนจะหันมามองหน้านางอีกที"พระชายารองไม่เห็นท่านอ๋องหรอกหรือ"นางส่ายหน้า "เขาอยู่ที่ใดมิได้อยู่กับท่านหรือ แล้วท่านมาที่นี่ทำไม"ซีห่าวหัวเราะ ในขณะที่มีคนผู้หนึ่งจับมือของนางเอาไว้แล้วหมุนตัวของนางให้หันหลัง ยามนั้นจื่อรั่วอิงใบหน้าจึงปะทะเข้ากับอกกว้าง นางร้องเจ็บออกมาเล็กน้อยแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน คำนินทาก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว พระชายาลี่อ๋องเดินเข้างานพร้อมกับบุรุษหนุ่มสองคน และตอนนี้ก็ยังอยู่ในอ้อมกอดคุณชายสี่ผู้หล่อเหลาที่เพิ่งปรากฎกายนางจะหน้าด้านเกินไปแล้ว มิใช่ว่าบุรุษทุกคนนั้นต่างตกเป็นของจื่อรั่วอิงสตรีแพศยาไปแล้วหรือน่าสงสารและสมเพชเวทนาสามีตาบอดของนางที่ไม่รู้ว่าจื่อรั่วอิงนางนี้ ทำเรื่องน่าอับอายฉาวโฉ่เพียงใดจื่อรั่วอิงคิดจะผลักเขาออกกลับถูกเขาจับมือสองข้างเอาไว้อย่างรู้ทัน นางถอยห่างเล็กน้อยเขาก้มหน้าลงมาเอ่ยเสียงต่ำ"ท่านคือพระชายาลี่อ๋องใช่หรือไม่"จื่อรั่วอิงไม่ตอบทว่ายกเข่าขึ้นทันใดแล้วกระทุ้งเข้าไปตรงกลางร่างกายของเขาอย่างแรง ลี่หมิงอ๋องหน้าเขียวแต่ไม่อาจร้องออกมาได้ ในขณะที่ซีห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status