Share

บทที่ 5

Author: ดาราจันทราติดตาม
“เป็นอะไรไป...” หนิงหยวนใจหายวาบ รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ก่อนจะแหงนหน้ามองหรงเจาหนานอย่างลืมตัว

ทั้งที่เขาตัวผอมแห้งและดูอ่อนแอบอบบางแท้ๆ แต่เธอกลับรู้สึกถึงแรงกดดันอันหนักหน่วง

ชายหนุ่มปล่อยมือของเธอออก ก้มหน้าลงปล่อยให้ผมหน้าม้าปิดทับกรอบแว่น บดบังดวงตาของเขา “เดี๋ยวผมช่วยเก็บสัมภาระให้”

จะได้ฉวยโอกาสตรวจสอบชองในกระเป๋าของเธอด้วยว่ามีอะไรบ้าง ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เธอแอบซุกซ่อนของอะไรไว้

เมื่อคืนพอเธอถอดเสื้อออก เขาก็ต้องล่าถอยกลับไป

เมื่อกี้ตอนที่กอดเธอ เขาไม่พบว่าเธอมีกล้ามเนื้ออะไรเลย ไม่เหมือนคนที่ผ่านการฝึกฝนมาก่อน

ชายหนุ่มตรงหน้ากลับมาแสดงท่าทางเย็นชาและเงียบขรึม เหมือนคน ‘เรียบร้อย’ ทั่วไป

หนิงหยวนชะงัก บรรยากาศน่ากลัวเหมือนถูกมีดคมๆ กรีดผ่านเนื้อหนังเมื่อกี้นี้มันหายไปแล้ว เหมือนเธอเข้าใจผิดไปเอง

“ขอบคุณนะ ลำบากคุณแล้ว!” เธอก้มลงมองข้าวของที่หล่นกระจัดกระจายบนพื้นด้วยท่าทางเงอะงะ

กระเป๋าผุพังของเธอใบนั้น ตอนที่พยายามต่อสู้กับหวังเจี้ยนหวา มันก็แหวกออกจากกันแล้ว

ของบางอย่างยังกลิ้งตกลงไปในคูน้ำด้านล่างด้วย ทั้งสองคนเลยช่วยกันเดินเก็บกลับมา

ยังดีที่มีของไม่มากนัก หนิงหยวนตรวจสอบสักพักก็พบว่าไม่มีอะไรหายไป

แต่ว่า...

“อ่ะ” มือใหญ่เรียวยาวข้างหนึ่งยื่นเสื้อชั้นในเก่าๆ สีขาวสองตัวมาด้านหน้า

ข้างแก้มของหนิงหยวนกลายเป็นสีแดงจัดทันที พระเจ้า....

เธอรีบคว้าเสื้อชั้นในสองตัวนั้นมาแล้วจับยัดเข้าไปในกระเป๋าทั้งอย่างนั้น ไม่แม้แต่จะปัดเศษหญ้าเศษดินที่เปื้อนออก

แต่ว่าครู่ต่อมา มือใหญ่ข้างนั้นก็ยื่นกางเกงในตัวน้อยมาให้นางอีกครั้ง “กางเกงซับในเธอก็หล่นไปในคูน้ำเหมือนกัน”

หนิงหยวนนึกถึงประโยคหนึ่งที่ใช้กันในอนาคต——การตายทางสังคม!

เธอรีบคว้ามันมาจากมืออีกฝ่าย ก้มหน้ามองซ้ายมองขวาว่ายังมีกางเกงในหรือกางเกงซับในอะไรหล่นอยู่อีก......

“หมดแล้ว” เสียงเรียบของชายหนุ่มดังขึ้นเหนือศีรษะเธอ

หนิงหยวนถึงได้พรูลมหายใจโล่งอก เธอแบกฟูกนอนขึ้นมาแล้วล็อกกระเป๋าสัมภาระ “เรียบร้อยแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

หรงเจาหนานมองหญิงสาวที่เดินก้มหน้างุด ใบหูสีขาวกลายเป็นสีแดงเข้ม

เขินอายง่ายขนาดนี้ ยังกล้าเข้าหาเขาอีก? เป็นสายลับที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะคว้ากระเป๋ามาจากมือของเธอ “ผมถือเอง”

พอมือของหนิงหยวนว่างเปล่า เขาจึงลากกระเป๋าเดินนำไปด้านหน้า

เธอรีบเดินตามไป “รบกวนคุณเปล่าๆ”

หนิงหยวนมองแผ่นหลังของเขาแล้วครุ่นคิดในใจ ผู้ชายคนนี้ตัวสูงชะมัดเลย อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งร้อยแปดสิบหกเซน?

เธอสูงไม่ถึงร้อยหกสิบเซนด้วยซ้ำ...พออยู่กับเขาแล้วเธอกลายเป็นคนแคระไปเลย

พวกเขาคนหนึ่งเดินนำ อีกคนเดินตามจนไปถึงห้องเล็กๆ ที่ทรุดโทรมข้างคอกวัว

ตอนแรกสถานที่แห่งนี้ถูกใช้เก็บฟางสำหรับป้อนวัว หลังจากหรงเจาหนานถูกขับไล่มาชนบท มันก็กลายเป็นที่พักอาศัยของเขา

กำแพงสี่ด้านมีรอยรั่วรูโหว่ พอจะฝืนใช้หนังสือพิมพ์อุดรอยรั่วได้ ประตูสองบานเก่าๆ จากไหนไม่รู้ถูกเอามาวางประกอบกันบนชั้นวางเป็นเตียง

ตู้เก็บของห้าลิ้นชักผุพังที่ไม่มีฝาปิดสองตัว ด้านในมีเสื้อสำหรับผลัดเปลี่ยนกับข้าวของต่างๆ กับถุงกระสอบใบเล็กใส่ข้าวสารเนื้อหยาบวางอยู่ข้างใน

โอ่งใส่น้ำใบใหญ่ตั้งอยู่มุมกำแพง

โต๊ะเก่าชำรุดตัวหนึ่งที่ต้องใช้หินหนุนแทนขาโต๊ะ เก้าอี้ที่พอจะฝืนใจเรียกว่าสภาพดีสองตัวกับตะเกียงน้ำมันหนึ่งดวง แล้วยังมีอ่างล้างหน้าเก่ากับแก้วชาเคลือบลายดอก

พูดกันตามตรง นี่เป็นข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนทั้งหมดที่เขามีแล้ว

เมื่อคืนหนิงหยวนไม่มีเวลาสังเกตสภาพแวดล้อมในห้องเล็กๆ นี่ ตอนนี้พอมองดูดีๆ แล้วก็รู้สึกคิ้วกระตุกขึ้นมา——

พี่ชายคนนี้ทะลุมิติมาจากยุคก่อนหน้าการปลดแอกสินะ คนที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้านคือเขานี่แหละ

แล้วยังมีกลิ่นเหม็นของมูลวัวลอยเข้ามาจากด้านนอกเป็นพักๆ อีก

เขาไม่เหมือนเธอที่ย้อนเวลากลับมาอดีต ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ สภาพสังคมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่

ผู้ชายที่มีภูมิหลังยอดเยี่ยมอย่างเขา ตอนที่คิดว่าตัวเองต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ตลอดไป สภาพจิตใจของเขาเป็นแบบไหนกันนะ?

“ทำไม ไม่อยากย้ายมาอยู่แล้วเหรอ?” หรงเจาหนานเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดี เลยใช้มือดันแว่นตากรอบดำหนาของตัวเองเงียบๆ

ที่นี่สภาพแย่กว่าที่พักของยุวปัญญาชนเยอะเลย

ที่พักของยุวปัญญาชนเป็นกระท่อมหลังคามุงกระเบื้องที่สร้างใหม่ แม้ทุกคนจะยากจนเลยไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่สภาพดีกว่าห้องโกโรโกโสนี่มากโข

หนิงหยวนกัดฟันตอบ “ย้ายสิ จะแสดงละครทั้งทีก็ต้องสมบทบาทหน่อย พวกเราเป็น ‘สามีภรรยา’ กันนี่นา”

เก็บกวาดสักหน่อยก็น่าจะดีขึ้นแล้ว เธอไม่อยากกลับไปอยู่ร่วมกับถังเจินเจิน หวังเจี้ยนหวาและคนพวกนั้นในบ้านพักยุวปัญญาชนหรอก

หรงเจาหนานเห็นเธอวางกระเป๋าสัมภาระ ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะอาศัยที่นี่ เขาก็หรี่ตาลง

สายลับตัวน้อยคนนี้มุ่งมั่นดีแฮะ

เมื่อกี้นี้เขาลองสำรวจสัมภาระของเธอดูอย่างแนบเนียนแล้ว ไม่เห็นของที่เธอแอบซ่อนเมื่อคืนก่อน

หนิงหยวนวางกล่องใส่ของข้างๆ ตู้ลิ้นชักห้าชั้น พอเห็นรอยรั่วรูโหว่บนหลังคาแล้วเธอก็อยากถอนหายใจ

ชนบททางตอนใต้มีสภาพอากาศอบอ้าวและมีฝนตกมาก ถ้าข้างนอกฝนตก น้ำฝนคงรั่วเข้ามาข้างในด้วย แล้วจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไงล่ะ!

“พวกเราต้องหาทางซ่อมหลังคาสักหน่อยแล้วล่ะ” หนิงหยวนบ่นพึมพำ

หรงเจาหนานแหงนมองหลังคาบ้าน ก่อนจะส่งเสียง “อืม” รับคำอย่างเสียไม่ได้

หนิงหยวนหมุนตัวกลับไปจัดแจงข้างของตัวเอง

เธอวางแก้วเคลือบเงา แขวนผ้าขนหนูกับเชือกป่าน พับเสื้อผ้าเก็บเข้าตู้

ตอนที่เธอแบกฟูกนอนไปที่เตียงนั้น เธอก็ยืนตัวแข็งกับที่——

เตียงที่สร้างจากบานประตูพังๆ นั่น มันมีอยู่แค่เตียงเดียว!

เธอกวาดสายตามองรอบๆ ห้องที่มืดสนิทไม่มีตรงไหนสามารถนอนได้เลย

หรงเจาหนานทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพื่อดูว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ

หนิงหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปข้างเตียงแล้วดันฟูกนอนกับหมอนของเขาเข้าไปข้างใน โดยมีหรงเจาหนานมองตามตลอด

ต่อมา เธอก็วางฟูกนอนของตัวเองลงบนแผ่นบาประตูที่อยู่ด้านนอก

“เธอจะนอนกับผมเหรอ?” หรงเจาหนานเลิกคิ้วถาม

ก่อนหน้านี้ยังกลัวเขาเหมือนกระต่ายเจอหมาป่าอยู่เลย

ตอนนี้กระต่ายน้อยใจกล้าแล้ว ถึงขั้นเข้ามานอนในรังของหมาป่าเลย?

เธอยิ้มเจื่อนๆ “คุณหมอหรงช่วยอดทนสักหน่อยนะ พวกเราอยู่กันแบบนี้ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะไปที่กองประจำหมู่บ้าน ดูสิว่าพอจะมีวิธีทำอะไรได้บ้าง”

หรงเจาหนานมองหน้าเธอ “เธอไม่กลัวว่าผมจะทำอะไรเหรอ?”

สายลับตัวน้อยคิดจะใช้แผนสาวงาม ลงทุนเสียเหลือเกิน

หนิงหยวนไม่รู้เลยว่าเธอกำลังถูกคนตรงหน้าสงสัยว่าเป็น ‘สายลับน้อย’ ที่มีเจตนาร้าย

เธอชายตาขึ้นมาแล้วยิ้ม “คุณหมอหรง ถ้าคุณเป็นคนประเภทหวังเจี้ยนหวา เมื่อคืนนี้คุณจะยอมทนลำบากไปทำไมล่ะ”

เธอไม่ได้โง่สักหน่อย ชาติก่อนเคยใช้ชีวิตมาตั้งหลายสิบปี เธอมั่นใจว่าสายตาเธอมองคนไม่ผิดหรอก

อีกอย่างเขาก็มีภูมิหลังเป็นคนใหญ่คนโต อนาคตข้างหน้ายังได้เป็นจอมพลผู้ยิ่งใหญ่ ข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขาใสสะอาดอย่างมาก

หรงเจาหนานชะงัก ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “เฮอะ...เธอก็เชื่อใจคนง่ายเหลือเกินนะ”

หญิงสาวตรงหน้ามองเขาด้วยท่าทางซื่อตรง ดวงตาดับขลับกลมโตเหมือนลูกองุ่น เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ผู้หญิงคนนี้ก็แสดงละครเก่งเหมือนกันนะ

พวกเขาสนิทกันมากมั้ง เธอถึงได้ทำท่าทางเหมือนรู้จักนิสัยเขาดีไปหมดทุกอย่าง ดูท่าคงจะสืบมาดีไม่น้อย

แล้วเธอพุ่งเป้ามาที่ภูมิหลังของเขา หรือว่าตำแหน่งหน้าที่พิเศษในอดีตของเขากันล่ะ?

หนิงหยวนไม่รับรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไร เธอจัดแจงทุกอย่างเสร็จก็หันมาบอกหรงเจาหนาน “คุณหมอหรง คุณทำงานไปก่อนนะ ฉันจะไปที่กองประจำหมู่บ้านเพื่อเอาเอกสารรับรองกับเอกสารแนะนำที่ใช้สำหรับแต่งงาน”

หรงเจาหนานตอบแบบไม่ใส่ใจ “อืม”

พูดถึงเรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานด้วยท่าทางสบายๆ ดูเหมือนเธอจะเตรียมการมาอย่างดี

หนิงหยวนเอาเอกสารประจำตัวใส่ในกระเป๋าสะพายสีเขียวทหารใบเก่า ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางประตู

พอเดินถึงประตูห้อง เธอก็เหมือนนึกอะไรออกเลยเดินย้อนกลับเข้ามา รื้อคุกกี้สองชิ้นกับลูกอมตรากระต่ายขาวออกมาสองเม็ด แล้วยัดใส่มือหรงเจาหนาน

เธอส่งยิ้มให้เขาคล้ายกำลังขอบคุณ ดวงตากลมโตโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว “คุณหมอหรง ขอบคุณนะคะที่วันนี้ช่วยเหลือฉัน!”

หรงเจาหนานมองคุกกี้กับลูกอมตรากระต่ายขาวในมือ แล้วมองดวงตากลมโตของเธอ

พวกนี้เป็นขนมที่หายากและราคาแพงยิ่งกว่าข้าวเสียอีก ตอนเขายังเป็นเยาวชนเคยได้กินมันตลอดเลย

ตอนนี้ถูกขับไล่มาอยู่ชนบทหลายปี อย่าว่าแต่ลูกอมนมกับคุกกี้เลย แม้แต่น้ำตาลทรายแดงเขาก็ไม่เคยได้ลิ้มรส

ถึงที่นี่จะปลูกอ้อยกันทุกบ้าน แต่มันก็เหลือมาไม่ถึงพวกหัวขบถอย่างเขาหรอก

หนิงหยวนโบกมือบายๆ แล้วหมุนตัวเดินจากไปอย่างรีบร้อน

หรงเจาหนานก็ไม่เกรงใจ หยิบคุกกี้ขึ้นมาละเลียดกินจนหมด

จากนั้น เขาก็แกะกระดาษห่อลูกอมนมตรากระต่ายขาวออกเม็ดหนึ่ง แล้วยัดลูกอมนมเม็ดขาวจั๊วะเข้าปาก

ความหวานผสมผสานกลิ่นหอมนมแตะปลายลิ้นของเขา ไม่รู้ทำไม มันถึงมีกลิ่นกายอ่อนๆ ของหนิงหยวนปะปนมาด้วย

เขาหันมองหมอนปักลายดอกไม้ของหนิงหยวนที่วางอยู่บนเตียง แลบลิ้นเลียปากกระจับของตัวเอง ก่อนจะยัดคุกกี้ที่เหลือลงท้อง

จิ๊ สายลับน้อยก็ตัวหอมเหมือนกันนะ

หรงเจาหนานลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างเตียงนอน จากนั้นก็หยิบหมอนของหนิงหยวนขึ้นมา ใช้มือคลำๆ บริเวณชายปลอกหมอนของนางอย่างละเอียด
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 6

    หลังจากค้นอยู่สักพัก ปลายนิ้วของเขาก็สัมผัสของของแข็งชิ้นเล็กๆ ที่อยู่ด้านใน จนชะงักไปเล็กน้อยดวงตาหงส์ของหรงเจาหนานทอประกายแวบหนึ่ง——หาเจอแล้วครั้งก่อนตอนที่ค้นหาสัมภาระของเธอ เขาตรวจดูอย่างละเอียดแม้กระทั่งกางเกงใน แต่ก็หาไม่เจอว่าเธอซ่อนอะไรเอาไว้ที่แท้ก็ซ่อนเอาไว้ในหมอนนี่เองหรงเจาหนานล้วงถุงผ้าไหมสีซีดขนาดเล็กออกมาจากในปลอกหมอน ก่อนจะเทจี้หยกพริกที่อยู่ข้างในออกมาเขาเอาจี้หยกพริกยกขึ้นส่องกับแสงที่ริมหน้าต่าง พบว่ามีตัวอักษรสลักเอาไว้ตัวเล็กๆ เป็นคำว่า ‘หนิง’จี้หยกพริกชิ้นนี้มีสีเขียวเข้ม เป็นหยกเนื้อดีแล้วยังแกะสลักอย่างวิจิตร ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของช่างมืออาชีพแต่ครอบครัวของหนิงหยวนไม่ได้ร่ำรวยอะไร จะมีหยกระดับสูงแบบนี้อยู่ได้อย่างไร?หรงเจาหนานครุ่นคิดเช่นนั้น ความสงสัยเริ่มเพิ่มพูนกว่าเดิม......ก่อนหนิงหยวนจะไปทำเรื่องขอเอกสารที่กองประจำหมู่บ้าน เธอใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าแวะไปที่สหกรณ์ใกล้กับคอมมูนประชาชนยอมกัดฟันควักเงินที่มีอยู่แค่ 15 บาท ซื้อลูกอมผลไม้หนึ่งซองที่มีราคา 5 บาทกว่าเธอจะเดินทางไปถึงที่กองประจำหมู่บ้านเพื่อจัดการธุระ เวลาก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 7

    หลี่เหยียนมองหญิงสาวผู้มีดวงตากลมโตตรงหน้า สีหน้าเคร่งขรึมพลันอ่อนโยนลงเขาก้าวออกมาข้างหน้า “ยุวปัญญาชนหนิง พวกเราเป็นสหายกันทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวนะ พวกเรามาที่นี่เพื่อปกป้องเธอและลงโทษไอ้คนชั่วนี่!”หนิงหยวนทำหน้าสับสนและมึนงงเธอกับหลี่เหยียนแต่งงานกันมาหลายสิบปี แต่กลับไม่ได้มีชีวิตเหมือนในนิยายน้ำเน่า ถูกสามีกับเมียน้อยบีบคั้นจนตายอะไรเทือกนั้น หลี่เหยียนเกิดมาในครอบครัวฐานะดี ทำงานด้วยความยุติธรรมไม่เอนเอียง ไม่นานก็ได้รับตำแหน่งเลขาธิการกองอายุน้อยที่สุดของคอมมูนประชาชนพวกเขาสองคนรู้จักกัน เพราะมีคนแนะนำให้ตอนที่เธอเข้าไปทำงาน จากนั้นก็พัฒนาไปเป็นความรักต่อมาหลี่เหยียนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย จากนั้นก็กลายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยตอนที่เขาอายุสามสิบ เขาก็กลายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่อายุน้อยที่สุดของจังหวัดขณะที่เธอเป็นแค่คนงานตัวเล็กๆ ธรรมดาในแผนก ทุกคนต่างบอกว่าเธอทำบุญมาดีที่ได้เป็นภรรยาของหัวหน้าแผนกแต่จางอ้ายหลิง เคยบอกไว้ว่า ชีวิตก็เหมือนกับอาภรณ์ที่งดงาม แต่ด้านในกลับเต็มไปด้วยแมลงปรสิตงานในโรงงานปั่นด้ายของเธอหนักมาก ต้

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 8

    พอได้ยินแบบนั้น ดวงหน้ากลมมนของหนิงหยวนก็แข็งทื่อเล็กน้อย “คุณหมอหรง คุณพูดเรื่องอะไรเนี่ย ฉันกับเลขาธิการหลี่เป็นแค่สหายธรรมดาเท่านั้น จะกล้าไปรบกวนเขาได้ยังไง คุณคิดมากเกินไปแล้ว”หรงเจาหนานมองหนิงหยวนขณะเอ่ยเสียงเรียบ “ใช่เหรอ?”สายลับน้อยซ่อนความลับไว้จริงๆ เธอไม่ได้พูดความจริงหนิงหยวนไม่อยากถูกความรู้สึกในอดีตตามหลอกหลอนเธอใช้มือเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแบบลวกๆ “ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว คุณหมอหรง เลขาธิการหมู่บ้านบอกว่าจะยกเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ให้พวกเรา แต่ต้องไปขนจากห้องเก็บของที่โรงเรียนประถมเอาเอง”หรงเจาหนานชะเง้อมองเกวียนที่เธอลากมาแล้วยักคิ้ว “ได้ ไปกันเถอะ”เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าสายลับตัวน้อยจะทำตัวเนียนได้ถึงเมื่อไหร่ทางด้านนี้ หรงเจาหนานกำลังลากเกวียนไปที่ห้องเก็บของเก่าโรงเรียนประถมในหมู่บ้านพร้อมกับหนิงหยวนอีกด้านหนึ่ง ถังเจินเจินกลับมาที่พักของยุวปัญญาชน ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมดยังไม่ทันเดินเข้าห้องพัก เธอก็เห็นยุวปัญญาชนชายสองคนกำลังแบกร่างใครบางคน ที่ใบหน้าบวมปูดเขียวช้ำ ศีรษะมีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดเดินสวนไป“ปัดโธ่ เจี้ยนหวา ครั้งหน้านายต้องระวังตัวหน่อยนะ อย่า

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 9

    หนิงหยวนสาดน้ำสกปรกใส่หวงเสวียหงจนเปียกโชก บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นชวนคลื่นไส้“หนิงหยวน!” หวงเสวียหง ถังเจินเจินกับถานเสี่ยวเสียถึงกับอึ้งสนิท แม้แต่พวกหลี่เหยียนก็ตกตะลึงไม่ต่างกันหญิงสาวที่อ่อนโยนใจดี นิสัยหัวอ่อนและพูดจาดีในความทรงจำคนนั้น กลับสาดน้ำสกปรกใส่คนอื่นโดยไม่ลังเล?!“แกกล้าเอาน้ำสกปรกมาสาดใส่ฉันเหรอ แก...ฉันจะตบแกให้คว่ำเลย!” หวงเสวียหงเห็นว่ากลิ่นเหม็นบนตัวเธอทำให้คนรอบข้างพากันบีบจมูกเธอทั้งโกรธทั้งแค้น ก้มหน้าลงเตรียมจะพุ่งเข้าไปทำร้ายหนิงหยวนเมื่อผู้หญิงที่ทั้งอ้วนดำและยังตัวเหม็นทำท่าจะพุ่งเข้ามาตบตี หนิงหยวนก็เบี่ยงหลบอย่างว่องไว พร้อมกันนั้นก็ช่วย ‘ลาก’ หรงเจาหนานที่ยืนหลบหลังเธอเหมือนคนไม่มีตัวตนออกมาด้วยหวงเสวียหงที่สูญเสียการทรงตัวอย่างฉับพลันจึงชนเข้ากับเกวียนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะล้มหน้าทิ่มพื้นเสียงดังตึง“โอ้ย! ฮือ ฮือ ฮือ——มันสาดน้ำสกปรกใส่ฉัน มันสาดน้ำฉัน!! เหม็นชะมัดเลย!!” หวงเสวียหงอับอายอย่างมากเธอลุกขึ้นมาอย่างมึนงงแล้วเอามือกุมหน้า นั่งปล่อยโฮเสียงดังอยู่บนพื้นดวงตาเรียวเล็กที่สวยและเย็นชาของหรงเจาหนาน เหล่มองหวงเสวียหงด้วยความรำ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 10

    หรงเจาหนานหรี่ตาแต่ไม่พูดอะไร ถังเจินเจินเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวก่อนเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูผู้ชายสองคนแย่งกันปกป้องหนิงหยวนนะถังเจินเจินกัดฟันด้วยใบหน้ามืดครึ้ม มองทางหวงเสวียหงกับถานเสี่ยวเสีย “พวกเธอพูดอะไรบ้างสิ!”ถังเจินเจินมองหวงเสวียหงกับถานเสี่ยวเสียแล้วบอกว่า “เสวียหง เสี่ยวเสีย พวกเธอบอกว่าของที่อยู่ในกล่องคุกกี้ใบนี้มันหายไปเมื่อเช้าใช่ไหม?”หวงเสวียหงเกลียดหนิงหยวนมากอยู่แล้วจึงช่วยผสมโรงเต็มที่ “ใช่แล้วล่ะ ฉันเห็นกับตาเลย เงินกับขนมของเจินเจินหายไปตั้งแต่เช้าแล้ว หนิงหยวนนั่นแหละที่ขโมยไป!”ถานเสี่ยวเสียพูดเสียงตะกุกตะกัก “ของที่อยู่ในกล่องของเจินเจินหายไปหมดเลย เหลือแค่เงิน 25 บาทเท่านั้น”เธอไม่ได้โกหกนะ ก็แค่พูดแบบคลุมเครือเท่านั้นเอง ส่วนคนอื่นจะคิดไปไหนทางไหนก็ไม่เกี่ยวกับเธอพอพวกเธอสองคนเป็นพยาน ชาวบ้านรอบๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์ทันทียิ่งถังเจินเจินเป็นที่นิยมในหมู่ยุวปัญญาชนทั้งหลายด้วยแล้ว ประกอบกับหนิงหยวน ‘ทำตัวตกต่ำ’ คบหาอยู่กินกับพวกหัวขบถที่ถูกขับไล่มาจากเมืองปักกิ่งพวกยุวปัญญาชนที่ตามมาจึงช่วยกันพูดเข้าข้างถังเจินเจิน“ใช่ๆ เมื่อเช้านี้ทุกคนไปทำงานกันหมด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 11

    หนิงหยวนจ้องเธอ “เงิน 25 บาทที่อยู่ในกล่องของเธอ มันคือเงินของฉัน!”ถังเจินเจินโมโหมาก เธอหยิบเงิน 25 บาทออกมาจากกล่องคุกกี้ “หนิงหยวน เธอพูดจาเหลวไหล เงิน 25 บาที่เพิ่งจะพิมพ์ออกมาใหม่นี่เป็นของฉัน เธอมีเงินเยอะขนาดนั้นหรือไง?!”ธนบัตรพิมพ์ลายจำนวน 25 บาทนี้ เธอตั้งใจเก็บใส่กล่องไว้อย่างดี ปกติแล้วพวกเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ เธอจะเก็บไว้ที่ตัวตลอดหากไม่ใช่เพราะเธอเชื่อใจพวกลูกกระจ๊อกที่ตามติดเธอหน้าหลัง คอยเอาใจประจบประแจงพวกนี้ เธอคงล็อกกุญแจกล่องไปแล้วใครจะคิดว่านังลูกกระจ๊อกหนิงหยวนคนนี้จะทรยศ!หนิงหยวนยิ้มบางๆ “ครอบครัวฉันส่งคุกกี้ว่านเหนียนชิงกับลูกอมนมตรากระต่ายมาให้ฉันได้ ก็ต้องส่งเงินมาให้ฉันใช้ได้สิ”คำพูดนี้ทำให้ทุกคนหันไปมองหน้ากันทันที พวกเขาต่างกระซิบกระซาบกันเรื่องนี้“ก็จริงนะ ครอบครัวหนิงหยวนส่งคุกกี้กับลูกอมชั้นดีมาให้เยอะขนาดนั้น จะมีเงิน 25 บาทก็ไม่แปลกหรอก”“สรุปแล้วใครเป็นคนขโมยของใครล่ะ?”พวกยุวปัญญาชนกินนอนและทำงานในชนบทโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร แต่ละเดือนครอบครัวจะส่งเงิน 10 20บาทมาเป็นเงินสมทบทุน เอาไว้ซื่อสบู่ ฟืนหรือเกลืออะไรพวกนั้นเงิน 25 บาทไม่ใช

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 12

    ไม่นาน พวกเขาก็เดินมาถึงสำนักงานกองการผลิตหลี่เหยียนบอกให้เจ้าหน้าที่กองคนอื่นๆ ทำงานของตัวเองต่อไป ส่วนเขาเดินตามหนิงหยวนเข้าไปในสำนักงานถึงจะบอกว่าเป็นสำนักงาน แต่ความจริงแล้วก็แค่ห้องเก่าๆ แห่งหนึ่งในหมู่บ้านชนบท ภายในห้องมีเพียงโต๊ะ เก้าอี้และตู้เก่าๆ บนผนังติดโปสเตอร์ภาพคนทำงานและคำขวัญคอมมูนประชาชนจงเจริญภายในห้องมีผู้หญิงวัยกลางคนร่างกายอ้วนท้วม สวมชุดคนงานสีน้ำเงินนั่งอยู่เพียงลำพัง ในมือถือแก้วชาที่ทำจากเซรามิกผู้หญิงร่างอ้วนท้วมส่วนใหญ่จะดูน่ารักและเป็นกันเองแต่เธอกลับมีดวงตาดำลอยสูงจนเห็นตาขาวเกือบครึ่ง โหนกแก้มสูง แต่ใบหน้าค่อนข้างตอบ ทำให้ดูเป็นคนที่เข้มงวดจนไม่น่าเข้าใกล้หนิงหยวนมองเธอนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไรผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วหน้านิ่ว ก่อนจะทำหน้าหงุดหงิดหนักกว่าเดิม พอเห็นหลี่เหยียนที่อยู่ด้านหลังหนิงหยวนถึงได้ลุกขึ้นยืน พยายามฉีกยิ้มทักทาย “เลขาธิการหลี่ ต้องขอโทษด้วยนะ...”“ไม่เป็นไรครับป้าไป๋ คุณคุยกับหนิงหยวนไปก่อนนะ ผมจะไปจัดการงานตรงนั้นสักหน่อย” หลี่เหยียนผงกศีรษะอย่างมีมารยาท ก่อนจะขอตัวออกไปเพื่อมอบความเป็นส่วนตัวให้สองป้าหลานหนิงหยวนมองผู้หญิงท

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 13

    ป้าไป๋เห็นเธอยอม ‘อ่อนข้อ’ จึงผ่อนน้ำเสียงที่แข็งกร้าวลง “พวกเธอยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน รีบไปรายงานที่กองเดี๋ยวนี้เลยว่าเจ้าหัวบขถแซ่หรงนั่นคิดมิดีมิร้ายกับเธอ จากนั้นก็คุกเข่าขอร้องให้หลี่เหยียนยกโทษให้ บอกว่าเธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”หนิงหยวนบอกกับป้าไป๋ “ป้าจะให้ฉันใส่ร้ายหรงเจาหนานเหรอ ป้ารู้ไหมว่าโทษสถานเบาคือติดคุกสิบกว่าปี โทษสถานหนักคือยิงเป้าประหาร?”การตัดสินโทษตอนนี้ไม่เหมือนกับอีกสิบกว่าปีข้างหน้า ในยุคที่ตัดสินโทษอย่างเข้มงวด แค่แอบดูผู้หญิงอาบน้ำก็อาจจะโดนประหารได้ดวงตาดุของป้าไป๋หรี่ลง ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “มันก็แค่พวกหัวขบถคนหนึ่ง ตายก็ตายไปสิ เกี่ยวอะไรกับแกล่ะ?!”หนิงหยวนจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ แล้วบอกว่า “ฉันไม่เห็นด้วย ฉันทำเรื่องที่ต่ำช้ายิ่งกว่าหมูหมาแบบนี้ไม่ได้”พอได้ยินดังนั้น สีหน้าป้าไป๋ก็เย็นชาขึ้นทันที ตบโต๊ะลุกขึ้นยืน "เธอนอนร่วมเตียงกับไอ้คนนอกคอกนั่นจนตกต่ำเสื่อมทรามเหมือนที่คนอื่นเขาพูดกันจริงๆ สินะ! ตั้งแต่เล็กฉันอบรมสั่งสอนเธอมายังไง ตอนนี้ถึงได้กลายเป็นคนไร้การอบรมไปได้! คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้! วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอแทนแม่ของเธอเอง!"หนิงหยวนจ้องตากลับ

Latest chapter

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 40

    หนิงหยวนชะงัก "คุณพูดว่าอะไรนะ?"เขากำลังชวนเธอไปอาบน้ำด้วยกันเหรอ?หรงเจาหนานเพิ่งตระหนักว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ใบหน้าขาวซีดของเขาเริ่มมีสีแดงจางๆเขากระอักกระอ่วน "เอ่อ...ผมหมายถึงว่าไปล้างสิ่งสกปรกบนตัวด้วยกัน...ไม่ใช่สิ...หมายถึงแยกกันอาบน้ำ...แต่ว่าพวกเราสองคนต้องอาบพร้อมกัน...”“พอ พอ ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ฉันเข้าใจความหมายที่คุณอยากสื่อ!” หนิงหยวนเห็นเขาพูดวกไปวนมาด้วยท่าทางเก้อกระดากที่หาชมได้ยาก จึงหัวเราะแล้วโบกมือไปมาเธอเข้าใจว่าเขาหมายถึงทั้งสองคนควรล้างเลือดและเหงื่อบนตัวให้สะอาดก่อนไปทำงานหรงเจาหนานกำหมัดแล้วเอามาปิดปากกระแอมเบาๆ "อืม"หนิงหยวนส่ายหน้า "ไม่ต้องอาบหรอก พวกเราต้องมีสภาพแบบนี้แหละ ถึงจะดูเหมือนต่อสู้กับหมูป่าทั้งคืน คุณรีบเอาไก่ป่ากับเนื้อหมูไปส่งให้ยายแก่เซี่ยแล้วไปทำงานเถอะ อย่าให้ใครเห็นเชียวล่ะ!"นอกจากเนื้อที่พวกเขาเอาไปรมควันแล้ว เธอยังเลือกหมูป่าหนึ่งตัวจากที่เหลืออีกสี่ตัว ตัดเนื้อทั้งหนังออกมาเกือบห้ากิโล เอาลงมาจากเขาพร้อมกับเนื้อไก่หนิงหยวนเอาเนื้อหมูป่าประมาณสามสี่กิโลใส่กระสอบป่าน แล้วสะพายเดินออกไปนอกประตู "ฉันจะไปหาเลขธิการเฒ่าก่อน"หร

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 39

    "รับไปสิ" เขายื่นแตงโมและซี่โครงย่างในมือให้เธอหนิงหยวนยิ้มหวาน "ขอบคุณค่ะ คุณหมอหรง!"แตงโมหวานเย็นช่วยลดความมันเลี่ยน เนื้อย่างก็อร่อยมากเหมือนกัน เธอกินจนปากมันแผลบเลยหรงเจาหนานมองรอยยิ้มของเธอ ก่อนหลุบตาลงแล้วเอ่ยเสียงเรียบ ว่า "พวกเราแต่งงานกันแล้ว ถ้าเธอยังเรียกฉันว่าคุณหมอหรงอยู่ คนอื่นจะไม่รู้สึกว่าแปลกเหรอ?"หนิงหยวนกำลังใช้แปรงเล็กๆ คนแป้งเปียก พอได้ยินแบบนั้นก็ชะงัก จริงด้วย มันดูห่างเหินเกินไปเธอมองหรงเจาหนาน ลังเลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถามอย่างเก้อเขินว่า "งั้น... ฉันเรียกคุณหมอว่า... อืม... เจาหนาน? หรือว่าอาหนานดีคะ?"เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวที่เอ่ยเรียกชื่อเขา เหมือนหญ้าขนนุ่มปัดผ่านผิวข้างหูเบาๆรู้สึกจั๊กจี้นิดหน่อย...หรงเจาหนานชะงักไป หันหน้าหนีด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตามใจเธอเลย"หนิงหยวนมองมองเงาร่างด้านข้างของคนตัวสูงแบบงุนงง ผู้ชายคนนี้แปลกประหลาดจริงๆ จู่ๆ ก็กลับมาหน้าบึ้งตึงอีกแล้วช่างเถอะ พวกคนใหญ่คนโตก็มักจะมีนิสัยประหลาดๆ แบบนี้แหละเธอขอกินก่อนดีกว่า——เติมท้องให้เต็ม!หนึ่งชั่วโมงต่อมา"ไหนเธอบอกว่ารู้วิธีทำเนื้อรมควันไง?"ยืนอยู่หน้า ‘กองเนื้อ’ ขน

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 38

    "......" หรงเจาหนานมองหญิงสาวร่างเล็กที่อยู่ข้างกาย"ทำไม คุณเคยเห็นปลาขี่จักรยานไหมล่ะ?" หนิงหยวนเลิกคิ้วถามมุมมองตลอดชีวิตของเขาได้รับการล้างสมองครั้งใหญ่ ผู้หญิงที่ไม่มีผู้ชายก็เหมือนปลาที่ไม่มีจักรยาน?ในหัวของเขาปรากฏภาพปลากำลังขี่จักรยาน..."ฮึ...ฮ่าฮ่าฮ่า" หรงเจาหนานกลั้นไม่อยู่ หลุดหัวเราะออกมาเขาไม่ได้หัวเราะมาหลายปีแล้ว แต่สายลับตัวน้อยคนนี้ช่างมีอารมณ์ขัน มีความคิดแปลกๆ มากมายในหัวหนิงหยวนรู้สึกว่าตัวเองถูกเยาะเย้ย จึงขึ้นเสียงสูงขึ้น "ก็มันจริงนี่นา เงินกับแต้มงานฉันก็หาเองได้ งานบ้านฉันก็ทำเอง ป่วยฉันก็เข้าโรงพยาบาล แล้วจะมีผู้ชายไว้ทำอะไร?""แล้วฉันยังต้องดูแลรับใช้เขากับครอบครัวอีก สุดท้ายตอนแก่ยังต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำดูแลจนวาระสุดท้าย!"หรงเจาหนานมองเธอที่กำลังฉุนเฉียว อดขำไม่ได้ "พูดเหมือนกับเธอเคยแต่งงานมาแล้ว แถมยังต้องรับใช้ผู้ชายมาทั้งชีวิตเลยนะ"หนิงหยวนอึ้งไป หันไปกัดเนื้อย่างอย่างแค้นๆ "คุณก็บอกมาสิว่าครอบครัวส่วนใหญ่รอบตัวพวกเราไม่ได้เป็นแบบนี้ ฉันมีตาก็ต้องเห็นสิ!"หรงเจาหนานมองหนิงหยวนที่กำลังโกรธจัด แซวเล่นว่า "นี่คือเหตุผลที่เธอไม่อยากแต่งงานส

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 37

    หนิงหยวนอดไม่ได้ที่จะพึมพำในใจ กัดเนื้อคำหนึ่งแล้วถือโอกาสเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ช่วงนี้คุณออกล่าสัตว์บ่อยมาก เอาเนื้อไปเก็บไว้ที่ไหนคะ อากาศร้อนขนาดนี้จะไม่เน่าหมดเหรอ?"หวังว่าหรงเจาหนานจะไม่ได้สังเกตเห็นพิรุธนะหรงเจาหนานดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมาก เหลือบมองซากสัตว์ป่าที่กองอยู่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย "ไม่เสียหรอก ผมเอาเนื้อไปแบ่งให้ยายแก่เซี่ยกับตาแก่ถัง..."เขาหยุดชั่วครู่ แล้วมองไปที่หนิงหยวน "ไม่ใช่ว่าผมจงใจไม่เอาเนื้อกลับไปแบ่งให้คุณที่บ้านนะ แต่สถานการณ์ของยายแก่เซี่ยกับตาแก่ถังค่อนข้างย่ำแย่ พวกเขาได้อาหารน้อยกว่าผมอีก...”ไม่ว่าจะอย่างไร ช่วงนี้ก็ถือว่าหนิงหยวนเป็นคนหาอาหารจากแม่น้ำมาเลี้ยงดูเขาตลอดหนิงหยวนส่ายหน้า ขัดจังหวะคำพูดของเขา "พวกนี้เป็นของที่คุณล่ามาได้ จะแบ่งให้ใครก็เป็นสิทธิ์ของคุณอยู่แล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไรให้ฉันฟังหรอก เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ สักหน่อย ฉันไม่โกรธหรอก"หรงเจาหนานฟังคำพูดของเธอแล้ว ไม่รู้ทำไมในใจถึงรู้สึกอึดอัดแบบแปลกๆเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย "วางใจเถอะ ต่อไปผมจะไม่ปล่อยให้คุณไปหาปลาในแม่น้ำอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว"หนิงหยวนกลับยิ้มตาหยี "ฉันจับกุ้งจับ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 36

    "พวกเราถูกบังคับให้เป็น 'สามีภรรยา' กันชั่วคราว ต่างคนต่างมีความเป็นส่วนตัวและความลับ ฉันเข้าใจ!"ตอนนี้พวกเขาเป็นคู่รักที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนในหมู่บ้านมากที่สุด ในตอนที่สถานการณ์ของพวกเลวร้ายไม่ต่างกันมากนัก พวกเขาควรจะระมัดระวังตัวให้มากขึ้น มีเรื่องอะไรก็ควรจะปรึกษาหารือกัน"ฉันไม่สนว่าคุณจะทำอะไร แต่อย่างน้อยถ้าถูกจับได้ พวกเราต้องให้การตรงกัน ช่วยกันปกปิดใช่ไหมล่ะ?""พวกเรายังเป็นสามีภรรยากันนะ ถ้าพวกยุวชนแดงมาตรวจสอบหรือตามหาคนกะทันหัน แล้วพบว่าคุณหายไปตอนกลางคืนจะทำยังไง!" หนิงหยวนมองเขาอย่างไม่พอใจเธอไม่ใช้มนุษย์ป้าจอมเม้ามอยที่ชอบสอดรู้สอดเห็นความลับของคนอื่นในหมู่บ้าน ในยุคสมัยนี้ผู้หญิงขี้นินทาจอมแส่พวกนั้นยังต้องลงไปทำงานในไร่นาอยู่!พวกเขาเป็น "สามีภรรยา" กัน ถ้าเขาถูกจับได้ เธอก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย!"สามีภรรยา..." หรงเจาหนานมองหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังโกรธจัด ดวงตากลมโตจ้องเขาอย่างเดือดดาลคำนี้ทำให้แววตาของเขาเปลี่ยนไป เขาก้มหน้าลงหลุบแพขนตายาว "ขอโทษที่ทำให้เธอเป็นห่วงนะ"ไม่ว่าเธอจะแอบตามเขาเพื่อสืบความลับอะไร หรือแค่กังวลใจว่าเขาจะทำให้เธอเดือดร้อนอย่างน

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 35

    ผลลัพธ์คือ เธอถูกไล่ล่าจนร้องโหยหวนฟังไม่ได้ศัพท์ นอกจากจะมีความคล่องแคล่วว่องไวและปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว ก็กระโดดขึ้นต้นไม้เหมือนกระต่ายที่กระโดดได้สูงสามฟุตหาความผิดปกติอย่างอื่นจากเธอไม่เจอเลยจริงๆไม่รู้ว่าเป็นเพราะศัตรูฝั่งตรงข้ามฝีมือห่วยแตกลงเรื่อยๆ หรือเป็นสายลับตัวน้อยคนนี้ที่ไม่ได้เรื่องเอง......หนิงหยวนตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมของเนื้อย่างเธอผุดลุกขึ้นนั่งทันที พึมพำอย่างงัวเงียว่า "เนื้อ... ใครกำลังย่างเนื้ออยู่น่ะ..."เธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ที่มีน้ำมันเยิ้มกำลังถูกย่างอยู่บนกองไฟ รวมถึงขาหมูที่ส่งกลิ่นหอมฉุยมีแม้กระทั่งกลิ่นหอมของยี่หร่าและพริกไทย ในทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าท้องของตัวเองเริ่มส่งเสียงร้องอย่างน่าอาย"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงทุ้มนุ่มของชายคนหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหันหนิงหยวนจึงเพิ่งเห็นชัดว่านอกจากเนื้อหมูที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งแล้ว ยังมีร่างสูงโปร่งที่นั่งเงียบๆ อยู่ข้างกองไฟด้วยเธอได้สติเต็มร้อยทันที เมื่อกี้เธอเป็นลมไปเหรอ?!"กินอะไรหน่อยสิ เธอน่าจะน้ำตาลในเลือดต่ำน่ะ" หรงเจาหนานยื่นเนื้อย่างที่สุกแล้วมาให้เขาสวมเสื้อกล้ามสีขาวบางๆ ขาเร

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 34

    หนิงหยวนมองเหตุการณ์ใต้ต้นไม้ด้วยความตกตะลึงชายที่กระโดดไปมาท่ามกลางฝูงสัตว์ป่า เคลื่อนไหวอย่างว่องไวและดุดัน ดูเหมือนนักล่าชั้นยอดมากกว่าสัตว์ป่าตัวจริงมีดในมือของเขาแทงเข้าจุดสำคัญทุกครั้ง การเคลื่อนไหวของเขาเยือกเย็น แม่นยำ โหดเหี้ยมและเด็ดขาด เป็นตัวอย่างสุนทรียศาสตร์อันโหดร้ายป่าเถื่อนของนักชำแหละที่สมบูรณ์แบบเมื่อทุกอย่างจบลง บนพื้นก็เต็มไปด้วยเลือดและซากสัตว์ ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นทันที สายตาจับจ้องไปที่หนิงหยวนบนต้นไม้อย่างแม่นยำเขาไม่ได้ใส่แว่น ใบหน้าหล่อเหลาสุภาพเปื้อนเลือด ดวงตาสีดำมืดสะท้อนแสงจันทร์สลัว"ลงมา" เขามองเธอและบอกเสียงเรียบชายที่อยู่ด้านล่างต้นไม้ไม่เหมือนมนุษย์ แต่เหมือนอาวุธปลิดชีพที่ผ่านการเปื้อนเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน มันทำให้คน——หวาดกลัวเสียขวัญสมองของหนิงหยวนหยุดทำงานไปชั่วขณะ เธอปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว กว่าจะตั้งสติได้ก็สายเกินไปแล้ว ร่างเธอกำลังดิ่งลงมาจากต้นไม้"ฟุบ!"ในตอนที่เธอคิดว่าจะต้องตกกระแทกพื้นจนก้นกบแตกแน่ กลับถูกใครคนหนึ่งคว้าเอาไว้อย่างมั่นคงไอร้อนจากร่างของชายคนนั้นลอยขึ้นมา กลิ่นหญ้าและต้นไม้ผสมกับกลิ่นคาวเลือดของสัตว์ป่า รุกราน

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 33

    ทำอะไรไร้หัวคิดสิ้นดีเลย!ความกลัวทำให้เธอเอ่ยเรียกเสียงแผ่วเบา “หรงเจาหนาน...หรงเจาหนาน...”แต่มีเพียงความเงียบของราตรีและเสียงคำรามประหลาดของสัตว์ป่าบางชนิดที่ตอบกลับมาไม่ได้ ต้องลงจากเขา! ตอนนี้เป็นยุค 70 สภาพนิเวศทางธรรมชาติยังดีมาก เธอจำได้ว่าคนแก่ในหมู่บ้านเคยบอกว่าบนเขาลูกใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากงูแล้วยังมีหมี หมาในและหมาป่าอยู่ด้วย!หนิงหยวนรีบหันหลังเดินกลับไปอย่างลุกลี้ลุกลนแต่เดินไปได้แค่สิบนาที เธอก็พบว่าตัวเองเหมือนจะหลงทางเข้าแล้ว!ดวงตาของหนิงหยวนแดงก่ำด้วยความวิตกกังวล เธอพยายามบีบต้นขาตัวเอง ฝืนบังคับให้ตัวเองสงบจิตสงบใจลงไม่ได้ ห้ามร้องไห้ ห้ามเสียสติ!ถ้าตื่นตระหนกจนเผลอวิ่งพล่านไปทั่วอาจได้รับบาดเจ็บ สูญเสียเรี่ยวแรงได้ แล้วถ้าก้าวพลาดตกจากหน้าผ้าหรือตกลงไปในหลุมกับดักสัตว์ หรือว่าส่งเสียงดังจนพวกสัตว์ป่าได้ยินก็จบเห่กันพอดี!เธอหายใจเข้าลึกๆ พยายามนึกว่าเส้นทางที่ขึ้นมาตัดไม้บนภูเขาตอนกลางวันเป็นยังไง แล้วลงจากเขาต้องเดินทางไหน อยู่ตรงไหนของหมู่บ้าน ค่อยๆ คลำทางลงจากเขาช้าๆท้องฟ้าถูกต้นไม้สูงใหญ่บดบังจนมองไม่เห็นกลุ่มดาวจระเข้ แต่ต้นไม้ที่มีมอสส์เจริ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นภรรยาท่านจอมพล   บทที่ 32

    "เสี่ยวหนิง ทำไมเธอต้องไปงัดข้อกับพวกเขาด้วยล่ะ?” หวาจื่อถอนหายใจหลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเมื่อวาน ประกอบกับเรื่องที่พ่อของเขาบอกว่าหนิงหยวนเป็นเด็กรู้คุณคน เขาจึงเริ่มมองหนิงหยวนเหมือนน้องสาวและอยากให้คำแนะนำแต่หนิงหยวนกลับยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ แล้วแบกไม้คานขึ้นบ่าอีกครั้ง "ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่หวาจื่อ ฉันเบื่อจะข้องเกี่ยวกับพวกเขาแล้ว"คนพวกนั้นวันๆ เอาแต่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแต้มงาน อีกไม่นานก็จะมีการเปิดประเทศอย่างเสรีแล้วขอแค่มีสมองกับขยันขันแข็งสักหน่อย ยังไงก็ไม่อดตายหรอก!การไม่ไปคลุกคลีกับกลุ่มของถังเจินเจิน เธอกลับรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องคอยระวังตัว อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยระแวงว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาทำร้ายเธอหวาจื่อจัดให้หนิงหยวนไปทำงานกับชาวบ้าน และนึกถึงสิ่งที่พ่อกำชับมาได้ จึงแอบบอกชาวบ้านที่สนิทให้ช่วยดูแลหนิงหยวนด้วยชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่าหนิงหยวนแต่งงานกับนักโทษที่ถูกส่งมาปรับทัศนคติ ต่างก็คิดว่าเด็กสาวจากในเมืองคนนี้ทั้งโง่และน่าสงสาร จึงเต็มใจที่จะดูแลเธอเป็นพิเศษหนิงหยวนกลับรู้สึกสบายใจกว่าตอนทำงานกับกลุ่มยุวปัญญาชนมาก แม้ร่างกายจะเหนื่อย แต่จิตใจไม่เหนื่อย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status