공유

บทที่ 502

작가: วิ๋นเจิง
ขอแค่เขารู้สึกสบายใจก็พอ

ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดบุตรก็ใช้เวลาสิบเดือน ตอนนี้ทารกในท้องของนางอายุครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว และนางไม่สามารถซ่อนหน้าท้องที่ป่องออกมาได้อีกต่อไป

ท้องของนางก็ดูผิดปกติเล็กน้อย ด้วยเพราะมีขนาดใหญ่กว่าท้องของสตรีมีครรภ์ทั่วไปมาก

เย่เสวียนถิงได้เชิญหมอหลวงมาตรวจร่างกายของนางซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จนเจ้าตัวรู้สึกโล่งใจ พลางคิดว่าลูกของเขาคงแค่เกิดมาตัวใหญ่กว่าคนอื่น...

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะออกไป ฉีเทียนหยวนก็ไม่กล้ารบกวนพวกเขาอีก เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องของแคว้นอื่นและเขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงจนเกินขอบเขตได้

“เช่นนั้นข้าขอพาน้องสาวกลับก่อน!”

ซูชิงอู่พยักหน้าแล้วมองเขาอย่างมีเลศนัย “หม่อมฉันหวังว่าเราจะได้ร่วมมือกันอย่างมีความสุขนะเพคะ”

ฉีเทียนหยวนพยักหน้าซ้ำ ๆ ทั้งยังมีเหงื่อบาง ๆ ผุดบนหน้าผากของเขาด้วย

เขารีบออกจากจวนพร้อมกับผู้ติดตามพร้อมพาฉีหว่านเอ๋อร์กลับไปยังที่พำนักของตน

ฉีหว่านเอ๋อร์ลงจากรถม้าและได้ยินพี่ชายของนางถามว่า “หว่านเอ๋อร์ หลายวันนี้ที่เจ้าอยู่ที่จวนอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่ที่เป็นห่วงเพคะ”
잠긴 챕터
GoodNovel에서 계속 읽으려면
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 503

    ท่าทางของซูชิงอู่ทำให้คนรับใช้รอบ ๆ ตัวนางตะลึงจึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองไปท่าทีของเจียวกุ้ยเฟยรอยยิ้มบนใบหน้าของเจียวกุ้ยเฟยแข็งทื่อ แต่นางไม่ได้พูดอะไร พลางโบกมือแล้วพูดว่า “พวกเจ้าออกไปก่อน”“เพคะ”หลังจากที่เหล่านางกำนัลออกไปแล้ว เจียวกุ้ยเฟยก็นั่งตรงข้ามกับพวกเขา พลางมองไปที่ซูชิงอู่ และท้องป่องของนาง อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พูดมาสิ พระชายามีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าหรือ?”ซูชิงอู่ไม่ได้เล่าออกมาทั้งหมด “หม่อมฉันมาที่นี่เพื่อถามท่านว่า องค์ชายใหญ่ทรงเป็นโอรสของฝ่าบาทหรือไม่เพคะ?”คำถามที่โพล่งออกอย่างฉับพลันนี้ทำให้เจียวกุ้ยเฟยตกตะลึง “เมื่อครู่พระชายาถามว่าอะไรนะ? ข้าได้ยินไม่ค่อยชัด…”ซูชิงอู่พูดซ้ำอีกครั้ง “องค์ชายใหญ่ใช่โอรสของฝ่าบาทไหมเพคะ?”เจียวกุ้ยเฟยตกตะลึง “แน่นอนสิ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนางหายไปอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งในดวงตาของนางยังเจือไปด้วยความโกรธเคือง“พระชายายเสวียน เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดจู่ ๆ ถึงถามข้าเช่นนี้!”ซูชิงอู่เงยหน้ามองและเพิกเฉยต่อความโกรธเกรี้ยวของเจียวกุ้ยเฟย นางพูดอย่างสงบ “เป็นเพราะไทเฮาตรัสว่าพระนางมีหลักฐานที่พิสูจน์ว่าองค์ชายใหญ่ไม่ใช

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 504

    ผู้นำตระกูลเจียวคนก่อนได้วางรากฐานอันยิ่งใหญ่สำหรับตระกูลเจียวเอาไว้“พระชายาเสวียนหมายถึง…”ซูชิงอู่กล่าว “หากหม่อมฉันช่วยองค์ชายใหญ่ให้รอดจากวิกฤตนี้ ตระกูลเจียวของท่านจะต้องมอบข้าว จำนวนห้าหมื่นตั้นเป็นการแลกเปลี่ยนเพคะ!”“ข้าว?”ซูชิงอู่พยักหน้า “หม่อมฉันไม่สนใจว่าท่านจะใช้วิธีการไหน ดีที่สุดคือต้องเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในหนึ่งเดือน จากนั้นหม่อมฉันจะแจ้งจุดให้ท่านนำข้าวไปจัดวางเพคะ”แม้เจียวกุ้ยเฟยจะรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย แต่นางก็ครุ่นคิดไปมาและพยักหน้า “ตกลง”ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ นางเชื่อว่าซูชิงอู่สามารถทำได้ตราบใดที่เย่ชิวหมิงอยู่ในตำแหน่งรัชทายาทอย่างปลอดภัย ข้าวห้าหมื่นตั้นมันจะสักเท่าไรกันเชียว?ยิ่งไปกว่านั้น หากเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างดี ไม่เพียงแต่จะสูญเสียเงินเท่านั้น แต่ยังอาจสูญเสียหัวไปด้วย!ซูชิงอู่ลดเสียงลงและพูดกับเย่เสวียนถิงว่า “ท่านอ๋อง ขอข้าคุยกับพระสนมเจียวก่อนนะ”เย่เสวียนถิงจูบหน้าผากของนาง “ข้าจะรอเจ้าอยู่ข้างนอก”“ได้”ซูชิงอู่ยิ้มและกลอกตา จากนั้นนางและเจียวกุ้ยเฟยก็เข้าไปในห้องโถงด้านข้างหลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 505

    เจียวกุ้ยเฟยกล่าวต่อ “ในเมื่อพระชายาถามถึงเรื่องนี้ ข้าก็จะเล่าให้ฟัง...พระชายาน่าจะได้ยินว่าตอนยังเด็กท่านอ๋องเสวียนไม่ได้มีชีวิตในวังที่ดีนัก จนกระทั่งเขาอายุแปดขวบก็ถูกซูเฟยรับไปเลี้ยง เหตุผลก็เพราะฟาง...แม่ของพระชายาเคยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ”ซูชิงอู่ไม่เคยสนใจเรื่องของเย่เสวียนถิงในชาติก่อน นางจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรขณะนี้ที่นางกำลังฟังเจียวกุ้ยเฟยเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่เสวียนถิง นางก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางถูกแทงด้วยเข็ม และมันก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก...“ไม่รู้ว่าเด็กน้อยเช่นนั้นมีชีวิตรอดมาได้อย่างไรในวังหลัง คนดีในวังมีไม่มากนัก และเซี่ยโหวชิ่นก็ไม่เหลืออะไรไว้ให้เขาเลย แม้เขาจะเป็นองค์ชาย ทว่าแม้แต่ฐานะฝ่าบาทยังไม่ทรงมอบให้ด้วยซ้ำ เขาถูกบรรดาคนในวังดุด่าทุบตี ทั้งยังถูกองค์ชายองค์หญิงคนอื่น ๆ คอยรังแกอีกด้วย”เจียวกุ้ยเฟยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นนางชื่นชมอ๋องเสวียนในใจที่สามารถมาถึงจุดนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร เพียงแค่พึ่งพาความพยายามของเขาเองเพื่อคว้าโอกาสต่าง ๆ องค์ชายที่ไร้อำนาจและคนหนุนหลัง ทั้งยังไม่มีใครชื่นชอบ แต่เย่เสวียนถิงกลับ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 506

    “อะไรนะเพคะ...ฆ่าตัวตาย?”เจียวกุ้ยเฟยพยักหน้า “ที่พูดกันว่านางเสียชีวิตขณะคลอดบุตรก็เพื่อไม่ให้กระทบกับชื่อเสียงของฝ่าบาท..นอกจากนี้ยังเป็นการตัดสินใจของตระกูลเซี่ยโหวที่จะไม่ยอมรับตัวตนของนาง...และเพราะตอนนางใกล้จะสิ้นใจนางก็ต้องการให้ฝ่าบาทตายตกไปตามกันด้วย พระองค์จึงทรงทั้งรักทั้งเกลียด และความเกลียดชังนั้นก็ตกไปอยู่ที่ท่านอ๋องเสวียนด้วย ข้าพูดเช่นนี้พระชายาเสวียนคงจะเข้าใจแล้วใช่หรือไม่?”จนถึง ณ ตอนนี้ ซูชิงอู่ก็ได้รับรู้อดีตในพระราชวังอย่างถ่องแท้อย่างที่คาดไว้ มันฟังดูค่อนข้างน่ารังเกียจฮ่องเต้เฒ่ามีความปรารถนาในเรือนร่างและบังคับให้เซี่ยโหวชิ่นอยู่ข้างกายจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนั่นอาจเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมเขาไม่ใช้กำลังใดหลังจากที่ตกหลุมรักแม่ของนางไม่อย่างนั้น เขาก็เป็นถึงฮ่องเต้ หากต้องการสตรีคนไหนก็ไม่ใช่เรื่องยากในการไขว่คว้ามาแม้สุดท้ายแม่ของนางก็หนีความตายไม่พ้นเพราะความงามของตน...คำกล่าวที่ว่าสตรีงามมักอาภัพ บางทีเหตุการณ์เหล่านั้นอาจเป็นคำอธิบายของประโยคที่ว่านี้เช่นเดียวกับนาง หากเจอคนจิตใจโหดเหี้ยมและไม่รู้จักคนคนนั้นมากพอ ก็คงจะพบกับจุดจบอันเลวร้ายซูช

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 507

    เย่เสวียนถิงรู้สึกร้อนรุ่ม ราวกับหัวใจทั้งดวงของเขาถูกจุ่มลงในน้ำร้อนเดือดและลวกจนสุกจริง ๆ แล้วเขาไม่เห็นร่องรอยการล้อเล่นบนใบหน้าของซูชิงอู่เลยเย่เสวียนถิงใช้เวลานานก่อนที่จะพูดว่า “ไม่ ข้าทำไม่ได้หรอก”เขาจะตัดใจกินคนที่เขารักและหวงแหนมากได้อย่างไร?แม้เขาจะทำร้ายนางเพียงเล็กน้อย เขาก็ทนไม่ได้แม้คนที่นางเลือกจะไม่ใช่เขา แม้ว่านางไม่อยากอยู่กับเขาก็ไม่สำคัญขอเพียงนางมีความสุขก็พอเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่เย่เสวียนถิงรู้ว่าการชอบและรักใครสักคนเป็นอย่างไร และเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกนี้ก็ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ เย่เสวียนถิงออกจากวังพร้อมกับซูชิงอู่ซูชิงอู่ไม่ได้พูดอะไรเลยระหว่างทาง นางเพียงเอาหัวซุกไว้ที่หน้าอกของเขาและฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงของอีกฝ่ายหลังจากถึงจวนและลงจากรถม้าแล้ว ซูชิงอู่ก็เชิดคางขึ้นแล้วถามว่า “ข้าเคยรังแกท่านมาตั้งแต่เด็ก ท่านไม่โกรธหรือ?”เย่เสวียนถิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะเขาไม่คิดว่าซูชิงอู่จะโพล่งประโยคแบบนี้ออกมาเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพลางยกมือเกาปลายจมูกของซูชิงอู่ ดวงตาของเย่เสวียนถิงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและมีเสน่ห์ ม่านตาของเขาก็มืด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 508

    เย่เสวียนถิงกอดนางไว้ในอ้อมแขน และหัวใจของเขาก็รู้สึกเติมเต็มขณะนั้นเขาก็หวังว่าช่วงเวลานี้จะคงอยู่ตลอดไปเขาหวังว่าเขาจะไม่ต้องไปสนใจเรื่องราวความลับและความขัดแย้งในราชสำนักอยากใช้ชีวิตธรรมดาเช่นนี้ไปตลอดชีวิต“ข้าจะหัวเราะเยาะเจ้าไปทำไมกันเล่า?”เสียงของซูชิงอู่แผ่วเบา “ข้าได้ฟังความลับบางอย่างในวังมาจากพระสนมเจียว รวมถึงเรื่องราวในอดีตของท่านอ๋องด้วย”เย่เสวียนถิงหลุบตาลง “เรื่องราวในอดีตของข้า?”“ท่านอ๋องอย่าได้โกรธเลย”นางแค่อยากรู้จักเขามากขึ้นเย่เสวียนถิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เหตุใดข้าจะต้องโกรธด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นล่ะ?”เขาหยุดชะงักพลางมองสบดวงตาที่มีความประหม่าของซูชิงอู่ “หากเจ้าอยากรู้อะไรก็ถามข้าได้”ซูชิงอู่กล่าวว่า “ข้ากลัวว่าหากถามไปโต้ง ๆ มันจะเป็นการสะกิดแผลใจของท่าน ก็เลย…”นางเองก็มีประสบการณ์เช่นกันการตายของแม่ของนางเป็นปมในใจที่ยากจะลืมไปตลอดชีวิตเย่เสวียนถิงลูบหัวของนาง “ในความทรงจำของข้า ไม่มีความรู้สึกถึงมารดาผู้ให้กำเนิดเลย ดังนั้นข้าจึงไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อนางมากนัก ข้ารู้เรื่องของนางมาจากนางกำนัลอาวุโสบางคนใน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 509

    ผลของการล้อเล่นอย่างป่าเถื่อนคือค่ำคืนที่นอนไม่หลับโชคดีที่เย่เสวียนถิงระมัดระวังมากและไม่ได้ทำให้นางบาดเจ็บ เมื่อนางตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น นางก็พบว่าร่างกายของตัวเองได้รับการนวดอย่างระมัดระวังโดยเย่เสวียนถิง ซึ่งช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและความรู้สึกไม่สบายทั้งหมดจนหายเป็นปลิดทิ้งไม่เพียงแต่ไม่อึดอัด แต่ยังทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วยฮ่องเต้เฒ่าได้ทรงออกพระราชโองการสำหรับการแต่งตั้งองค์รัชทายาทและจัดการขั้นตอนต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ในวันพิธีแต่งตั้ง เหล่าขุนนางและทหารของราชวงศ์ทั้งหมดรวมไปถึงทูตจากทั้งสองแคว้นก็เข้าร่วมด้วย พระชายาซูชิงอู่ก็เข้าพระราชวังตั้งแต่เช้าและคอยอยู่ข้างกายซูเฟยเพื่อชื่นชมความคึกคักซูเฟยและเจียวกุ้ยเฟยนั่งอยู่คนละฝั่งของฮ่องเต้ ส่วนองค์ชาย พระนัดดาและขุนนางคนอื่น ๆ ก็ทยอยปรากฏตัว ขุนนางทุกคนยืนในห้องโถงพระตำหนักจินหลวนด้วยความเคารพ โดยแบ่งออกเป็นฝั่งขุนนางบุ๋นและบู๊ขันทีผู้น้อยถือพระราชโองการแล้วอ่านออกมาเสียงดัง ขณะเดียวกันเสียงฆ้องและกลองก็ดังเซ็งแซ่มาจากด้านนอก “องค์ชายใหญ่ทรงพระปรีชาสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ ท้ังยังมีคุณธรรมและพรสวรรค์ ได้ทำสิ่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 510

    ใครจะได้เป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานเย่ นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของทุกคนหากฮองเฮาได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ตระกูลเจียวรวมถึงเย่ชิวหมิงก็จะตกอยู่ในสถานที่แห่งการทำลายล้างชั่วนิรันดร์ในทางตรงกันข้าม ตระกูลมู่หรงที่ฮองเฮาอยู่ก็จะเป็นเช่นนั้นเช่นกันฮ่องเต้เฒ่าขมวดคิ้วพลางทอดพระเนตรมองกลุ่มคนที่เดินเข้ามาภายใต้การนำของขันทีผู้น้อย กลุ่มคนที่ตามมานั้นดูกังวลใจเมื่อเจียวกุ้ยเฟยเห็นใบหน้าของคนเหล่านั้นอย่างชัดเจน ใจของนางก็ตกไปอยู่ตาตุ่มและสีหน้าเปลี่ยนในทันทีเพราะนางรู้จักทุกคนที่มาที่นี่ คุ้นเคยกับพวกเขาดี หนึ่งในนั้นคือหมอทำคลอดที่อยู่กับนางตอนคลอดบุตรที่นางไว้ใจมาก และอีกคนคือหมอหลวงที่คอยรักษาโรคให้นางฮองเฮายิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วตรัสว่า “บอกทุกสิ่งที่พวกเจ้ารู้มา หากมีหลักฐานด้วยก็จะยิ่งดี”“เพคะ หม่อมฉันรับพระบัญชา!”หมอทำคลอดสั่นไปทั้งตัว นางคุกเข่าลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว นางเปล่งเสียงพูดว่า “องค์ชายใหญ่ ทะ...ทรงไม่ใช่โอรสที่แท้จริงของฮ่องเต้เพคะ!”เมื่อฮ่องเต้เฒ่าได้ยินเช่นนั้น สีพระพักตร์ก็เปลี่ยนไปทันทีเขาถึงกับตะคอกอย่างเย็นชาและตบโต๊ะ “เหลวไหล

최신 챕터

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status