แชร์

บทที่ 228

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
อวิ๋นชิงเช็ดเก้าอี้ย้ายไปให้ซูชิงอู่นั่ง และยืนอยู่ข้างหลังนางอย่างเชื่อฟัง

ซูชิงอู่มองไปที่ซูเชียนหลิง

หลังจากถูกขังอยู่ในห้องนี้มาหลายวัน และได้อยู่กับแม่นมหลินอสรพิษ คาดไม่ถึงเลยว่านางจะยังมีจิตใจดีอยู่

เมื่อนึกย้อนกลับไปชาติที่แล้ว นางร้องขอความเมตตาอย่างสิ้นหวังก่อนจะสิ้นใจ ทว่าซูเชียนหลิงไม่ใช่สตรีที่จะอ่อนข้อให้ง่าย ๆ

ซูชิงอู่ยกมุมปากขึ้น นางพอใจกับผลลัพธ์มาก

หากแค่ทำให้อีกฝ่ายสติแตก เช่นนั้นจะไปสนุกอะไรกันเล่า...

แววตาของซูชิงอู่ทำให้ขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย ดวงตาของซูเชียนหลิงเบิกกว้าง ความกลัวในใจของนางค่อย ๆ ดำดิ่งลงไป

ต่อหน้าซูชิงอู่นางรู้สึกเหมือนกลายเป็นหุ่นเชิด และลูกแกะที่รอการเชือด

ในขณะที่อีกฝ่ายครุ่นคิดอย่างใจเย็นว่าจะปรุงเนื้อชิ้นนั้นอย่างไรดี...

ทันใดนั้นซูชิงอู่ก็พูดออกมา และประโยคแรกที่นางพูดนั้น “แม่ของเจ้าตายแล้ว ข้าฆ่านางเอง”

เมื่อซูเชียนหลิงได้ยิน ม่านตาของนางก็หดตัวลง

“เจ้าฆ่าแม่ของข้า เจ้าฆ่าแม่ของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”

นางพยุงร่างกายที่อ่อนแอขึ้นจากพื้นโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พลันพุ่งเข้าไปหาซูชิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 229

    นางให้องค์หญิงผู้มีเกียรติแห่งแคว้นซีอู๋ตะวันตกไปรับลูกค้าในซ่องที่โสมมที่สุด หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป สงสัยนักว่าฮ่องเต้แห่งซีอู๋ตะวันตกจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด เมื่อซูชิงอู่คิดเช่นนี้ ดวงตาของนางก็ฉายแววยิ้มอย่างล้ำลึก นางแอบย้ายซูเชียนหลิงออกไปอย่างเงียบ ๆ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่คนรับใช้ในจวนก็ยังมาส่งข้าวที่เหมือนข้าวหมูที่นี่ตรงเวลาและในปริมาณที่เหมาะสมทุกวัน ซูชิงอู่จะกลับมาที่วังหลวงเพื่อติดตามซูเฟยในเวลากลางคืน ส่วนระหว่างวันนางต้องคิดหาวิธีทำเงินดังนั้นจึงยุ่งมาก เพราะยังไงนางมีภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลถึงสองแสนห้าหมื่นตำลึงเงิน แม้ว่าอวิ๋นจื่อจะแนะนำให้นางนำเงินออกจากจวนไปจ่ายคืน แต่ซูชิงอู่ก็ไม่เห็นด้วย นางต้องการซื้อของกำนัลให้ผู้อื่น หากนางใช้เงินของท่านอ๋อง เช่นนั้นนางคงอับอายมาก... ทว่านางไม่กังวัลว่าจะหาเงินมาจ่ายไม่ได้ อีกไม่นานโอกาสในการหาเงินจะมาหานางเอง นางจึงไม่รีบร้อน ในชั่วพริบตา พิธีศพวันที่เจ็ดขององค์ชายหกก็ดำเนินไปได้ด้วยดีการตายขององค์ชายเป็นเพียงระลอกคลื่นในทะเลสาบอันเงียบสงบ ไม่ได้ดึงดูดควา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 230

    คำพูดเช่นนี้มิเข้าหูฮ่องเต้เท่าไรนัก จึงหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ไม่มีอันใด ข้ามาเยี่ยมหาสนมที่รักของข้ามิได้หรือไร?” เมื่อได้ยินว่าสนมที่รักของข้า ซูเฟยก็ขนลุกไปทั่วร่าง แต่นางยังควบคุมอาการไว้มิแสดงออกไป “ล้อเล่นแล้วเพคะ ฝ่าบาท พระองค์เสด็จมาได้ทุกเมื่อที่ต้องการเพคะ…” ซูเฟยพูดไม่เก่งและนางเป็นคนซื่อ ๆ และไม่เป็นที่โปรดปรานในอดีต นางไม่มีพระโอรส การอยู่ในตำแหน่งที่สูงของนางมิได้กระทบผู้ใด นางจึงมีนิสัยเย็นชาและห่างเหินเช่นนี้ ฮ่องเต้สังเกตการแสดงออกของซูเฟย รู้สึกว่านางไม่สนใจเขาเลย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “หรงเอ๋อร์ ข้าละเลยเจ้าในอดีต แต่จากนี้ไปข้าจะมาเยี่ยมเจ้ามากขึ้น…” มือของซูเฟยที่กำลังรินชาอยุ่นั้นพลันสั่นขึ้นมา จากนั้นน้ำชาในกาน้ำชาก็เทล้นออกมาเลอะฮ่องเต้... สีหน้าของซูเฟยเปลี่ยนไปฉับพลัน นางรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “ฝ่าบาท หม่อมฉันมิได้ตั้งใจ หม่อมฉันจะช่วยเช็ดให้เพคะ!” นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเสื้อคลุมมังกรของฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้พลันจับข้อมือของนางไว้อากาศค่อนข้างหนาว แม้ดวงอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้าเห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 231

    ฮ่องเต้ “...” ซูชิงอู่กล่าวต่อ “เป็นการดีกว่าหากงดเบี้ยหวัดเป็นเวลาห้าปีและพักงานสามปีเพคะ” ดวงตาของฮ่องเต้ฉายแววประหลาดใจ แม้ว่าฮ่องเต้จะไม่ได้ปลดอัครเสนาบดีซูออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่การสั่งพักงานหนึ่งปีถือเป็นการลงโทษที่ทำให้เขาสูญเสียอำนาจ ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ในท้องพระโรงนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา หากพลาดการพิจารณาฎีกาไปสองสามวัน ทุกอย่างก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงอัครเสนาบดีซูที่ดำรงตำแหน่งสูง ความสัมพันธ์และอำนาจในมือของเขาถือเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลวง การถูกพักงานก็เทียบเท่ากับฮ่องเต้ละทิ้งเขาไปแล้ว การจากไปนั้นง่าย แต่การกลับมา… ช่างยากนัก ฮ่องเต้ปิดปากกระแอม “แม่นางน้อยชิงอู่ เจ้าจริงจังรึ?” ซูชิงอู่ยิ้ม “เพคะ ท่านพ่อของหม่อมฉันมักจะพูดเสมอว่าสุขภาพแย่ลง จะดีกว่าหากให้เขาดูแลตัวเองที่บ้านเพคะ” นางหรี่ตาลงเล็กน้อยพลางเป็นประกาย ซูชิงอู่มีเหตุผลที่พูดเช่นนั้น นี่ไม่ใช่การทรยศต่อพ่อของตนตระกูลซูเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหนานเย่มาหลายชั่วอายุคน ตำแหน่งที่อัครเสนาบดีซูยืนหยัดอยู่ได้ทุกวันน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 232

    ตั้งแต่เกิดเหตุกับองค์ชายหก นางก็ไม่มีความคิดใดเกี่ยวกับฮ่องเต้อีกเลย “พี่หญิงซูเฟยอย่าได้กังวลเพคะ ท่านช่วยหม่อมฉันมากแล้ว ปล่อยเรื่องงานเลี้ยงในวังให้หม่อมฉันจัดการเถิดเพคะ” ซูเฟยพยักหน้าเบา ๆ นางมองไปที่ซูชิงอู่ และคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฮุ่ยเฟยอยู่กับข้าคืนนี้ ชิงอู่ เจ้ากลับไปที่จวนแล้วดูว่าท่านอ๋องเสด็จกลับมาหรือยังเถิด ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องอันตรายให้เขา ตัวข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไร” “เพคะ” ซูชิงอู่ไม่ปฏิเสธและกลับไปที่จวนในคืนนั้น ดึกมากแล้ว ซูชิงอู่ยังไม่ได้เข้านอน นางนั่งบนหลังคาพลางมองดูดวงเดือนดาราบนท้องฟ้า ชื่นชมดวงจันทร์อันงดงามอย่างแท้จริง จู่ ๆ ก็มีเสียงอยู่นอกประตูจวน นางหรี่ตาและมองไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่ประตูลานหลัก บุรุษที่อยู่ด้านล่างสวมอาภรณ์สีเข้ม รูปร่างเพรียว สูงและผอม ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นใครบางคนบนหลังคา เย่เสวียนถิงหยุดเดินและเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาหันมาสบกัน ซูชิงอู่เห็นความประหลาดใจในสีหน้าของเย่เสวียนถิงได้อย่างชัดเจนผ่านแสงจันทร์กระจ่างเขาทะยานขึ้นไปหาซูชิงอู่โดยไม่ลังเล และถอดอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 233

    ซูชิงอู่รู้สึกมีความสุขหลังจากยืนยันแล้ว... คืนนั้นนางสะลึมสะลือมากจนไม่รู้ว่าตนหลับไปเมื่อใด ดูเหมือนนางกำลังนอนอยู่บนคลื่นลูกใหญ่ในผืนทะเล... หลังจากที่ร่างกายของนางได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงและสบายมาก ซูชิงอู่ก็หลับตาลงและหลับไป นางไม่รู้เลยว่าบุรุษท่าทางใจดีที่อยู่ข้าง ๆ กำลังจ้องมองใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยนพลางกอดรัดนางแนบแน่นยิ่งขึ้น เย่เสวียนถิงเก็บเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปนอกประตู มีเงาดำทอดลงมาจากหลังคา “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” ท่าทีอ่อนโยนแต่เดิมก็กลายเป็นเย็นชาในทันใด ราวกับน้ำแข็งที่ไร้ไออุ่น เย่เสวียนถิงยืนเอามือไพล่หลัง ร่างเพรียวบางสูงสง่าภายใต้ดวงเดือน แสงจันทราสาดส่องสะท้อนเงาบนใบหน้า “อิ่งอี้ องค์รักษ์เงาลำดับที่หนึ่ง ช่วงนี้พระชายาพบเจออันตรายอันใดหรือไม่?” อิ่งอี้กล่าวว่า “กราบทูลท่านอ๋อง พระชายาสบายดีพ่ะย่ะค่ะ ไม่กี่วันก่อน พระชายาส่งคุณหนูซูไปรับแขกที่อั้นเซียง กระหม่อมยังพบว่ามีคนลอบเข้ามาใกล้จวนอ๋อง แต่จวนอ๋องมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา จึงมิสามารถเข้ามาได้พ่ะย่ะค่ะ” แทบไม่ต้องคิด เขารู้ว่าคนเหล่านั้นต้องเป็นกลุ่มเดียวกับ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 234

    เย่เสวียนถิงไม่ได้ดูกลัวเลย “ไม่สำคัญ ไม่มีผู้ใดกล้า” “เพคะ” แม้ว่าซูชิงอู่จะกังวลเล็กน้อย แต่นางไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากเย่เสวียนถิงพูดเช่นนั้นก็แล้วมันก็จะไม่เป็นไรแน่นอน นางสั่งให้อวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงจัดการดูแลองค์ชายหกให้ดี พยายามไม่ให้คนรับใช้รู้ว่ามีคนที่มีสถานะพิเศษอยู่ในจวน ซูชิงอู่ดูเวลา จากนั้นก็เก็บข้าวของ และวางแผนจะไปหาพี่ชายใหญ่ของนาง วันนี้เป็นปีใหม่และพี่น้องส่วนใหญ่จะใช้เวลาช่วงเย็นที่บ้านของพี่ชายใหญ่ ดังนั้นในช่วงบ่ายเย่เสวียนถิงจึงจัดเวลาเพื่อติดตามซูชิงอู่ไปยังจวนเจ้ากรมของซูหัวจิ่นโดยเฉพาะ ตามที่คาดไว้ วันนี้พี่ชายทั้งสามของตระกูลซูอยู่ที่นี่ เมื่อเห็นซูชิงอู่มาถึง ใบหน้าของพวกเขามีความสุขอย่างเห็นได้ชัด ซูเชียนหมิงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปหาซูชิงอู่แล้วยื่นมือออกแล้วลูบหน้าของนาง “น้องหก ไฉนเจ้ามาช้านักเล่า!” ซูชิงอู่หันไปมองเย่เสวียนถิง “ไม่ช้าปานนั้นกระมัง ท่านอ๋องทรงงานยุ่งมาก แต่พระองค์ก็ตั้งใจหาเวลามากับข้าโดยเฉพาะ” เมื่อซูเชียนหมิงได้ยินเช่นนี้ เขาเห็นการแสดงออกของเย่เสวียนถิง สีหน้าของเขาจริงจังขึ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 235

    ซูชิงอู่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นสตรีผู้หนึ่งปรากฏตัวที่ประตู เมื่อเคอเอ๋อร์ได้ยินเสียง เขาก็ถอนมือที่กำลังจะเข้าหาซูชิงอู่แล้วหันหลังกลับวิ่งไปหาสตรีผู้นั้น “เด็กดี” สตรีผู้นั้นก้มลงแตะศีรษะของเด็กน้อย ใบหน้าของนางดูอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความโศกเศร้าแล้วพูดว่า "สองท่านที่อยู่ตรงหน้านี้มีสถานะสูงส่ง เคอเอ๋อร์ต้องไม่หยาบคาย เข้าใจหรือไม่" เด็กน้อยถูกตำหนิก็คอหดทันที แล้วเข้าไปซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นมารดา สตรีผู้นี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าซูชิงอู่นั้นมีใบหน้าที่สง่างาม ทว่ามีนิสัยเย็นชาเล็กน้อย สวมชุดยาวสีฟ้าน้ำทะเล นางเป็นพี่สะใภ้ของซูชิงอู่นั่นเอง ทั้งสองไม่ได้รู้จักกันเท่าไรนัก พวกเขาพบกันเมื่องานแต่งของพี่ชายคนโตของนาง การแต่งงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยอัครเสนาบดีซู พี่ชายคนโตคิดว่าสตรีผู้นี้ค่อนข้างดีทีเดียว เป็นสตรีผู้มีการศึกษาและมีไหวพริบดี ดังนั้นเขาจึงยอมรับพี่สะใภ้ใหญ่มีนามว่าอันซู่หลาน บิดาของนางเป็นขุนนางระดับห้าในราชสำนัก ทำหน้าที่ด้วยความระมัดระวังและเหมาะสม ยึดมั่นในกฎเกณฑ์ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามบิดาของนางมีภรรยาและอนุภ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 236

    ซู่หลานถูกพามาที่ศาลาซึ่งอยู่ไม่ไกล แถวนี้ไม่มีใครอยู่ นางมองซูหัวจิ่นและพูดอย่างไม่พอใจ “ท่านลากข้าออกมาด้วยเหตุใด? ข้ายังมิได้ทำอันใดคนในครอบครัวท่านเลย” ซูหัวจิ่นมองดูภรรยาที่มักจะอ่อนโยนและเข้ากับคนง่าย และไม่เคยอารมณ์เสียกับใครเลย ทว่ายามนี้กลับมีปฏิกิริยารุนแรงมาก เขาระงับความโกรธในใจแล้วพูดว่า “ชิงอู่แทบจะไม่ได้มาที่นี่เลย เจ้ามีปัญหากับนางด้วยเรื่องใด?” อันซู่หลานถอนหายใจและอุ้มเสี่ยวเคอไว้ในอ้อมแขนของนาง นางเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นท่านอยากให้ข้าทักทายนางด้วยรอยยิ้ม และมอบทุกสิ่งในบ้านให้นางเลยหรือไม่เล่า?" ซูหัวจิ่นมองดูอันซู่หลานราวกับว่าเขาไม่รู้จักนาง ทั้งสองแต่งงานกันมาสี่ห้าปีแล้ว พวกเขาเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันอย่างดีมาโดยตลอด แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะได้พบกับนางผู้นี้เป็นครั้งแรกซู่หลานมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย น้ำเสียงของนางเจือความคับข้องใจ “เหตุใดท่านจึงมองข้าเยี่ยงนี้? ข้าทำผิดกระไร? นางเป็นน้องสาวของท่าน หาใช่น้องสาวข้าไม่ ไฉนข้าจะต้องตามใจนางด้วย" ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่นางทำกับตระกูลซู ผู้คนในเมืองหลวงต่างก็รู้กัน

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status