แชร์

บทที่ 79

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เซี่ยซางยกยิ้มมุมปากขึ้นบาง ๆ “ข้าก็ไม่ชอบที่นี่เหมือนกัน ไปตำหนักที่ข้าเคยอยู่กันเถอะเถิด”

เขาจูงมือพานางออกจากห้องบรรทมอย่างช้า ๆ สายลมพัดมาเบา ๆ ทำให้เกิดระลอกคลื่นเล็ก ๆ นิ้วมือของเซี่ยซางบีบแน่นขึ้น เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกได้ว่าเขาประหม่าเล็กน้อย

เวลานี้ จู่ ๆ สี่หมัวมัวก็เดินเข้ามาต้อนรับ พอเห็นทั้งสองคนจูงมือกัน นางก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที “บ่าวขอถวายบังคมท่านอ๋อง พระชายาเพคะ”

“ข้าจะพาพระชายาไปอยู่ที่เรือนหลัก รบกวนสี่หมัวมัวไปเตรียมการด้วย!” เซี่ยซางพูดกับนางเช่นนี้ สี่หมัวมัวก็ย่อมเข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร

สี่หมัวมัวรับคำสั่งแล้วก็รีบไปจัดการทันที

ชาติที่แล้ว เจียงเฟิ่งหัวฝันอยากจะมาอยู่ที่เรือนหลัก แต่น่าเสียดาย...

ชาตินี้ เซี่ยซางพานางมาที่นี่ด้วยตัวเอง นางรู้ว่านางจะได้ใช้เวลาช่วงค่ำคืนอันแสนวิเศษร่วมกับเขาที่นี่ แม้ในอนาคตเขาจะได้เป็นรัชทายาท นางก็จะทำให้เขาระลึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยมีร่วมกันที่นี่

สภาพแวดล้อมของเรือนหลักนั้นดีกว่ามากจริง ๆ การตกแต่งงดงามอลังการ ตำหนักใหญ่โตโอ่อ่า ทุกสิ่งล้วนแสดงถึงอำนาจและความมั่งคั่งของราชวงศ์

รอจนกระทั่งสี่หมัวมัว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 80

    แสงเทียนส่องสว่างไสวไปทั่วทั้งเรือน นางกำนัลปรนนิบัติเจียงเฟิ่งหัวอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ต่างตกตะลึงในผิวพรรณอันไร้ที่ติ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นของนาง แม้แต่พระสนมในวังก็ยังไม่มีทรวดทรงที่งดงามเย้ายวนเช่นนี้นางกำนัลอดหน้าแดงไม่ได้ จ้องมองใบหน้าอันงดงามของนางอย่างไม่วางตาเซี่ยซางผลักประตูเข้าไปในตำหนักด้านข้างโดยไม่รู้ตัว เหล่านางกำนัลเห็นเข้าก็รีบคารวะ “ท่านอ๋อง”“พวกเจ้าทั้งหมดออกไปเถิด ที่นี่ไม่ต้องให้พวกเจ้าคอยรับใช้แล้ว” เซี่ยซางรูปร่างสูงสง่า น้ำเสียงเย็นชาหนักแน่นไม่อาจโต้แย้งได้ ดวงตาลึกล้ำเปล่งประกายนางกำนัลรับคำแล้วรีบถอยออกไป ของใช้ในห้องน้ำทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้อย่างครบครัน ชุดนอนของพวกเขาถูกแขวนไว้บนราวข้าง ๆ ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้นางกำนัลอีกแล้วเจียงเฟิ่งหัวเห็นเขาเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ก็รีบจุ่มตัวลงไปในน้ำจนมิด เส้นผมสีดำขลับดุจดั่งน้ำตก แผ่สยายปกคลุมไปทั่วผิวน้ำในชั่วพริบตา บดบังความงดงามในอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นเพียงใบหน้างดงาม นางเอ่ยเร่งด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ท่านอ๋องรีบออกไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จ”“ส่วนไหนของเจ้าที่ข้ายังไม่เคยเห็นบ้าง” เขาเคยเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 81

    วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้ายังมีเพียงแสงสีขาวอมฟ้าจาง ๆ เพียงเล็กน้อย เจียงเฟิ่งหัวก็ตื่นขึ้นมาแล้วนางคิดว่า การเข้าวังก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือต้องตื่นแต่เช้าตรู่ไปถวายบังคมฮองเฮา ถึงแม้ว่านางจะเหนื่อยจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ก็ตามดังนั้น เมื่อเซี่ยซางตื่นขึ้น เจียงเฟิ่งหัวก็ลุกขึ้นจากเตียงเช่นกันเขาเอ่ยขึ้น “เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถอะ”“ไม่นอนแล้วเพคะ หม่อมฉันยังต้องไปถวายบังคมเสด็จแม่ นี่คือสิ่งที่ลูกสะใภ้พึงกระทำ” เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งเอวและหลัง ต้องพยุงตัวถึงจะลุกขึ้นยืนได้ นางชื่นชมในพละกำลังของเซี่ยซางจริง ๆ เขาดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเซี่ยซางเห็นท่าทางน่าสงสารของนาง ก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย “ครั้งหน้าข้าจะควบคุมตัวเองให้มากขึ้นหน่อย เจ้าลำบากแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกเขินอาย เซี่ยซางก็อ่อนโยนและระมัดระวังมากแล้ว แต่เป็นนางเองที่ประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป คิดว่าตัวเองสามารถรับมือกับความแข็งแกร่งของเขาได้ ตอนที่ตอบสนองเขาจึงออกแรงมากไปหน่อยก่อนจะร่วมหอ นางให้อู๋ซินเตรียมยาคุมกำเนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมาให้ ที่นี่คือวังหลวง ของแบบนี้ถือว่าเป็นของที่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 82

    เจียงเฟิ่งหัวนั่งนิ่งไม่ขยับ แน่นอนว่านางรู้จักเยี่ยนเฟยผู้นี้ นั่นคือมารดาแท้ ๆ ขององค์ชายรองเซี่ยอวี้นางคิดว่าสาเหตุที่เยี่ยนเฟยโกรธมากเช่นนี้ ต้องเป็นเพราะเมื่อวานเซี่ยซางหักแขนบุตรชายของนางเป็นแน่เวลานี้นางสนมคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันเข้ามา เจียงเฟิ่งหัวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ กลับไม่เห็นซูกุ้ยเฟยเสด็จมาเจียงเฟิ่งหัวรู้สาเหตุเป็นอย่างดี ซูกุ้ยเฟยอาศัยความโปรดปรานจากฮ่องเต้ จึงวางตัวเหนือกว่านางสนมคนอื่น ๆ รวมถึงฮองเฮาภาพเหตุการณ์อย่างเมื่อคืน ทั้งที่ฮ่องเต้ทรงทราบว่าเป็นแผนของซูกุ้ยเฟยที่ล่อลวงให้เซี่ยอวี้ไปยังห้องบรรทมของนาง แต่เขากลับไม่ตำหนิแม้แต่คำเดียว แค่ประหารนางกำนัลคนเดียวก็ถือว่าจบเรื่องเห็นได้ชัดว่าซูกุ้ยเฟยอวดดีมากเพียงใดรอจนกระทั่งทุกคนหาที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ฮองเฮาจึงเสด็จออกมาพร้อมแต่งกายอย่างหรูหราทุกคนกล่าวพร้อมกัน “หม่อมฉันขอถวายบังคมฮองเฮา ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี”เจียงเฟิ่งหัวก็คำนับพร้อมกับคนอื่น ๆ ฮองเฮากวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั่ง แล้วตรัสด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ต้องมากพิธี เชิญนั่งเถิด”“ขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ” ทุกคนกล่าวพร้อมเพรียงก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 83

    ฮองเฮาหัวเราะขึ้นมา “เจ้าเด็กคนนี้ อ่านหนังสือมากขึ้นหน่อยก็มาสั่งสอนผู้ใหญ่เสียแล้ว นางพูดจาและกระทำเช่นนี้มาตลอด เป็นคนหยาบกระด้างไร้มารยาท ข้าไม่จำเป็นต้องไปถือสากับคนพาลหรอก”“มิใช่เพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวต่อ “เมื่อวานเสด็จพ่อทรงมีรับสั่งให้หม่อมฉันคัดลอก ‘บันทึกธรรมเนียมปฏิบัติ’ เสด็จพ่อได้ให้ข้าศึกษาอย่างละเอียด คงเป็นเพราะต้องการสอนหม่อมฉันว่า ‘ธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับคนเราก็เปรียบเสมือนส่าเหล้าในสุรา วิญญูชนมีคุณธรรมอย่างแท้จริงดุจสุราเข้มข้น ส่วนคนพาลมีคุณธรรมตื้นเขินดุจสุราที่เจือจาง’ เสด็จพ่อทรงสั่งสอนข้ามิให้เลียนแบบนิสัยคนพาล ไม่รู้จักมารยาท”“หม่อมฉันกล้าทูลเสนอความคิดเห็น เพราะเสด็จแม่เป็นใหญ่ในวังหลัง หากมีนางสนมที่ไม่รู้จักมารยาท เสด็จแม่ยิ่งควรสั่งสอน อย่าให้นางสนมทำให้ราชวงศ์เสียหน้าเป็นอันขาด”“หากเรื่องนี้ไปถึงหูของเสด็จพ่อ เสด็จแม่ก็จะกลายเป็นผู้บกพร่องต่อหน้าที่ ถึงตอนนั้น หม่อมฉันเกรงว่าเสด็จแม่จะพลอยถูกลงโทษไปด้วย ซึ่งนั่นก็ยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก”“หากเรื่องนี้แพร่สะพัดไปถึงหูชาวบ้าน พวกเขาก็จะเอาอย่าง แล้วแคว้นต้าโจวของพวกเราจะต่างอะไรกับพวกชนเผ่าอนารยชนล่ะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 84

    เจียงเฟิ่งหัวจ้องมองซูกุ้ยเฟยที่เดินจากไป นางหัวเราะเยาะในใจ ชาติที่แล้วเฉิงฮองเฮาก็ถูกซูกุ้ยเฟยรังแกเช่นนี้ จากนั้นฮองเฮาก็มาระบายที่นางเมื่อควรลงโทษแต่ไม่ลงโทษ ดังนั้นถึงแม้ว่านางจะเป็นฮองเฮาก็ถูกดูแคลนฮองเฮาถูกฮ่องเต้รังเกียจ นางไม่สามารถก้าวข้ามความทุกข์นี้ได้ แม้แต่จะยืดอกรับก็ยังทำไม่ได้เจียงเฟิ่งหัวรู้ว่าเยี่ยนเฟยรู้สึกโมโหในใจ ศัตรูของศัตรูมักจะกลายเป็นมิตรได้เมื่อทุกคนออกจากตำหนักคุนหนิงแล้ว เจียงเฟิ่งหัวก็ถูกฮองเฮาเรียกตัวไว้“ข้ามีเครื่องประดับอยู่ชุดหนึ่ง ดูแล้วเข้ากับหรวนหร่วนมาก ลองดูสิว่าชอบหรือไม่” ฮองเฮามีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ตรัสด้วยท่าทางใจดีและเป็นกันเองสี่หมัวมัวรีบนำชุดเครื่องประดับอันงดงามมาวางไว้ตรงหน้าเจียงเฟิ่งหัวดวงตาของเจียงเฟิ่งหัวฉายแววตื่นเต้นดีใจ “ปิ่นระย้าช่างงดงามจริง ๆ ขอบพระทัยเสด็จแม่เพคะ”“วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก ทำให้ซูชิงชิงนางสารเลวนั่นโมโหแทบแย่ ข้าไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานแล้ว เจ้าจำเอาไว้ ต่อไปหากมีใครกล้ารังแกเจ้า เจ้าก็จงวางตัวเช่นนี้ ไม่แสดงความต่ำต้อยหรือหยิ่งผยอง เจ้าเป็นสะใภ้ของข้า ข้าย่อมปฏิบัติต่อเจ้าต่างจากพระชายาคนอื่น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 85

    เซี่ยซางมองหมึกที่เลอะแก้มและมุมปากของนาง มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มมีเสน่ห์เย้ายวนใจรู้สึกได้ว่าความเย็นชาที่ติดตัวเขามาตั้งแต่กำเนิดพลันสลายหายไป ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น เขาดูเหมือนกลายเป็นคนละคน รอยยิ้มของเขาอบอุ่นราวกับแสงตะวัน เจียงเฟิ่งหัวนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ สบตากับเขา แทบจะมองจนตาค้างแล้วมือของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด ยื่นมือไปลูบไล้มุมปากของนางอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วของเขายิ่งเช็ดหมึกออกมากเท่าไร รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งลึกมากขึ้นเท่านั้น ไม่นานก็เช็ดจนเป็นหนวดเล็ก ๆ สองข้างให้กับนางดวงตาของเขาดำสนิทดุจหมึก นางเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของตัวเองที่เปื้อนหมึกจากในดวงตาของเขา ทันใดนั้นนางก็จับมือเขาไว้ จึงได้เห็นว่านิ้วของเขาเปื้อนหมึกไปหมดแล้วเจียงเฟิ่งหัวเข้าใจในทันที ใบหน้าของนางแดงก่ำเสียแล้ว เวลานี้นางรู้สึกอับอายเพียงใด นางสามารถจินตนาการได้ นางหยิบพู่กันขึ้นมาต้องการจะวาดลงบนใบหน้าของเซี่ยซางเซี่ยซางก็ไวไม่แพ้กัน รีบวิ่งหนีทันที เขาจะยอมให้นางไล่ตามทันได้อย่างไร เจียงเฟิ่งหัวถือชายกระโปรง ก้าวขายาว ๆ ไล่ตามไม่ลดละ เพราะฝึกฝนการร่ายรำ เอวของนางจึงอ่อนพลิ้วราวกับกิ่งหลิว สามารถท

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 86

    เจียงเฟิ่งหัวพลิกตัวโอบรอบคอเขา ริมฝีปากแดงสดใส “หม่อมฉันหลับลึกเกินไปหน่อย ข้างนอกฟ้ามืดแล้ว ท่านอ๋องอย่าได้ลำบากตรากตรำมากนัก อยู่ข้างนอกดูแลตัวเองด้วยนะเพคะ หม่อมฉันจะรอท่านกลับมา”เซี่ยซางพยักหน้า คลอเคลียกับนางอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากไปประตูของห้องบรรทมเปิดกว้างค้างไว้เช่นนั้น มีฉากกั้นอยู่ ทว่าหงซิ่วและเหลียนเย่ก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องเป็นฝ่ายจุมพิตพระชายาเองหลังจากที่เซี่ยซางจากไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวก็ยังคงนอนอยู่บนเตียง ไม่อยากลุกขึ้น ร่างกายของนางตึงเครียดมาทั้งวันแล้ว เหนื่อยล้าเกินไปจริง ๆ เหลียนเย่เดินเข้ามาใกล้ จากนั้นเอ่ยขึ้น “ความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับท่านอ๋องดีขึ้นมากเลยเพคะ!”“ตอนอยู่ในวัง ข้าและท่านอ๋องได้ร่วมหอกันแล้ว” สีหน้าของนางกลับมาเป็นปกติ การร่วมหอกับเซี่ยซางเป็นสิ่งที่อยู่ในแผนการของนางอยู่แล้วเหลียนเย่เข้าใจในทันที ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องก็ยังไม่พ้นเงื้อมมือของพระชายาอยู่ดี เรื่องนี้หากพระชายารองซูรู้เข้า นางคงจะโกรธจนแทบบ้าหงซิ่วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนสองวันนี้ให้เจียงเฟิ่งหัวฟัง “ข้างก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 87

    เมื่อไปถึงเรือนถานเซียง ซูถิงหว่านได้เตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้วเซี่ยซางนั่งลงตามคำเชิญ นางหยิบกาเหล้าแล้วรินเหล้าให้เขาหนึ่งจอก “นี่เป็นเหล้าผลไม้ที่หม่อมฉันหมักเอง ท่านอ๋องลองชิมดูสิเพคะว่ารสชาติดีหรือไม่”เซี่ยซางลองชิมคำหนึ่ง รู้สึกว่ารสชาติหวาน ๆ อมเปรี้ยวเล็กน้อย“กลิ่นหอมของเหล้าเข้มข้น ดื่มแล้วรสชาติหวานละมุน ไม่ทำให้คนเมา” ซูถิงหว่านอธิบายนางคีบอาหารอีกอย่างไปที่ริมฝีปากเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความเอาใจ “ท่านอ๋องลองชิมไก่ต้มจานนี้ดูสิเพคะ หม่อมฉันฝึกทำอยู่หลายวันกว่าจะทำได้ ไม่คิดเลยว่าการจะทำอาหารจานอร่อยสักจานจะยุ่งยากเช่นนี้ เหนื่อยกว่าตอนที่หม่อมฉันถือดาบเสียอีก แต่เพื่อท่านอ๋อง หม่อมฉันยินดีที่จะเรียนรู้”เซี่ยซางมองใบหน้าของนาง เขาไม่รู้ว่าจะบอกนางอย่างไรดีว่าตัวเองตกหลุมรักเจียงเฟิ่งหัวไปแล้ว และได้ร่วมหอกับนางแล้วด้วยเขาไม่เพียงแต่หลงใหลในความงามของนางเท่านั้น แต่ยังหลงใหลในตัวนางอย่างลึกซึ้ง เขาพูดไม่ออกว่าความรู้สึกนั้นเป็นเช่นไร รู้แต่เพียงว่ามันงดงามมาก “หวานหว่าน ข้า...”ซูถิงหว่านรู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร จึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ “วันนี้ข้าเห็นท่านอุ้มพระชายากลับมา ส

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 100

    เขาดูเหมือนขาดคนเอาใจใส่และขาดความรักเป็นอย่างมากตอนเด็กเขายังร้องห่มร้องไห้เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้ น้ำตาไหลพรั่งพรูไปหมดเจียงเฟิ่งหัวเก็บกวาดจนสะอาดแล้วก็ไปที่ห้องครัวอีก เซี่ยซางกลับไปที่โต๊ะ ทำงานที่ยังค้างไว้ต่อ และก็เป็นเพราะดึกเกินไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปที่ห้องหนังสือ เวลานี้ จู่ ๆ เขาก็มีความคิดขึ้นมา เริ่มเขียนหนังสืออย่างรวดเร็วเพียงไม่นานนางก็กลับมา เมื่อครู่นางเหมือนจะแอบเห็นว่าเนื้อหาบนกระดาษเกี่ยวข้องกับคดีสุสานหลวงถูกปล้นพี่ใหญ่บอกว่าเขาสืบได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เป็นทางการมาจากช่องทางพิเศษ เซี่ยซางอารมณ์ไม่ดีเพราะคดี เพราะฉะนั้นเมื่อครู่เขากำลังหงุดหงิดเรื่องคดีหรอกหรือ?นางจำได้ว่าชาติที่แล้วต่อให้สุสานหลวงถูกปล้น สิบกว่าปีหลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่โตอะไรเกิดขึ้น อย่างมากก็แค่อัญมณีและเครื่องหยกที่ฝังพร้อมพระศพในสุสานหายไปบ้างเท่านั้นแต่ดูท่าทางของเซี่ยซางในตอนนี้แล้ว นางรู้ว่ามีของอย่างหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากหายไปอย่างแน่นอน“เจ้าไปนอนก่อนเถอะ ข้ายังมีเรื่องบางอย่างต้องสะสาง” เซี่ยซางเห็นนางกลับมา กล่าวเสียงอ่อนโยนนางไม่ได้พูดอะไร “ตอนนี้ดึ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 99

    เซี่ยซางกลับขยับเว้นที่ให้นางเองอย่างมีไหวพริบ ถังอาบน้ำในหอหล่านเยว่ใหญ่มาก รองรับสองคนแล้วยังมีที่ว่างเหลือเจียงเฟิ่งหัวเห็นว่าเขานอนพาดอยู่นิ่ง ๆ กับขอบถังอาบน้ำ ขณะที่นางเตรียมจะลุกขึ้น ทันใดนั้นเซี่ยซางก็ฉุดข้อเท้าของนางไว้ “อาบด้วยกัน”เจียงเฟิ่งหัวอยากจะบอกว่าอาบไปแล้ว แต่เซี่ยซางพูดด้วยทีท่าหนักแน่น นางจึงหยิบผ้าขึ้นมาถูหลังให้เขาเบา ๆ ล้างแขน ลงไปด้านล่างเรื่อย ๆ …นางทำอย่างเบามือ อ่อนโยน เหมือนกำลังลูบไล้สัตว์เลี้ยง ตอนนี้นางก็มองเขาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตัวเองคงไม่มีความอดทนพอที่จะอาบเขาให้เสร็จได้ผมของนางตั้งแต่ไหล่ลงไปเปียกหมดแล้ว ลอยอยู่บนผิวน้ำ นางดูแล้วมีเสน่ห์เย้ายวนน่าหลงใหลแต่เซี่ยซางกลับไม่หวั่นไหว ทั้งสองคนเหมือนสามีภรรยาทั่วไปที่อาบน้ำให้กัน นางถึงขั้นสระผมให้เขา สระจนสะอาด น้ำก็เริ่มเย็นแล้ว เขาก็ยังไม่คิดจะลุกขึ้นนางกล่าว “ท่านอ๋อง” วันนี้ดูเหมือนเขาจะไม่มีอารมณ์ และยังอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย“ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว เจ้าลุกขึ้นก่อนเถอะ!” เซี่ยซางว้าวุ่นในใจ ร้อนรุ่ม อยู่ไม่สุข แต่เขาคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไม่มีทางทำอะไรกับนางในน้ำอย่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 98

    เมื่อเห็นเซี่ยซางแช่อยู่ในน้ำ เปลือยแขนและท่อนบน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเมตตาสงสารขึ้นมา ต่อให้เป็นหมาแมวตกน้ำ นางก็ต้องไปช่วยหน่อยมิใช่หรือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาดื่มจนเมาขนาดนี้ หากไถลลงไปจมน้ำตาย ฝันของนางที่จะเป็นฮองเฮามิต้องสลายไปหรอกหรือนางคิดว่าต่อให้ตอนนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มที่แล้ว แม้ไม่จมน้ำตาย แต่กลางคืนหลับไปแบบนี้ก็จะเป็นหวัดได้ง่าย ๆนางฝืนใจยกน้ำแกงสร่างเมาไปทางเรือนด้านข้าง “ท่านอ๋อง ตื่นเถอะเพคะ” นางเรียกข้างหูเขาเบา ๆ หนึ่งทีเซี่ยซางเหมือนจะหลับไปแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย นอกจากว่าเขาคออ่อน มารยาทในการดื่มของเขายังถือว่าใช้ได้ อย่างน้อยไม่โหวกเหวกโวยวายนางใช้ช้อนตักน้ำแกงสร่างเมา ค่อย ๆ ป้อนใส่ปากเขา “ดื่มสักหน่อยนะเพคะ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าตื่นมาจะรู้สึกไม่สบายตัวนะเพคะ”เซี่ยซายยังคงไม่ขยับ หายใจสม่ำเสมอ หลับลึกมาก เหมือนเหนื่อยสุดขีด เจียงเฟิ่งหัวป้อนเขานิดเดียวอย่างใจเย็น แต่กลับไหลเปรอะเปื้อนเต็มปากไปหมด นางก็ขี้เกียจจะป้อนแล้ว เมื่อครู่อาเจียนในเรือนไปแล้ว ในท้องเขาไม่น่าจะมีเหล้าหลงเหลืออยู่เจียงเฟิ่งหัวย่อมย้ายตัวเขาไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อเห็นกล้าม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 97

    เซี่ยซางเห็นเจียงเฟิงหัวยืนอย่างงดงามอ่อนช้อยอยู่ที่ประตู ก็ยื่นมือไปทางนาง กล่าวเสียงเข้มว่า “มานี่…”“อ๊อก!” เขายังพูดไม่จบ เซี่ยซางก็เริ่มอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงทันที เวลานี้ท่าทางของเขาน่าสมเพชเวทนามาก ไม่เหลือมาดท่านอ๋องแม้แต่นิดเดียวเจียงเฟิ่งหัวปิดปากและจมูกไว้ มองดูเรือนที่นางจัดตกแต่งอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจหลินเฟิงรู้สึกผิดไม่น้อย วันนี้ท่านอ๋องน่าขายหน้ามากจริง ๆ อาเจียนได้อย่างไรกัน?แล้วก็ได้ยินเจียงเฟิ่งหัวสั่งสาวใช้ว่า “เตรียมน้ำอุ่นให้ท่านอ๋อง ให้ท่านอาบน้ำ สวีหมัวมัว วานท่านไปห้องครัว ต้มน้ำแกงสร่างเมามาหน่อย”รอจนเขาอาเจียนน้ำเหลือง ๆ ออกมาจากในท้อง หลินเฟิงกับพ่อบ้านเฉิงจึงค่อยย้ายเซี่ยซางไปเรือนด้านข้าง วางเขาลงในถังอาบน้ำอันที่จริงเจียงเฟิ่งหัวอยากให้หลินเฟิงเอาเขาไปส่งหอทิงเสวี่ยหลินเฟิ่งช่วยถอดเสื้อผ้าของเซี่ยซางออก เหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในบนตัวเขา เขาลองหยั่งเชิงว่า “เช่นนั้นแล้วข้าน้อยก็จะออกไปแล้ว?”เจียงเฟิ่งหัวขมวดคิ้ว อยากจะพูดว่าเจ้ามาอาบน้ำล้างตัวเขาให้สะอาดก่อนค่อยไปสิ!แต่หลินเฟิงไหนเลยจะให้โอกาสนางได้พูด พูด “ข้าน้อย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 96

    ซูถิงหว่านกล่าว “ท่านก็เห็นว่าเขาจ้องเจียงเฟิ่งหัวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและไม่อยากจากลา คนก็จากไปแล้ว ลูกตาเขายังจ้องจนแทบจะออกมานอกเบ้า”“ข้าหมายถึงว่าต้องการหลักฐานที่แน่นหนา”ซูถิงหว่านก็เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย “คราวก่อนก็เป็นเขาที่มาช่วยนางไว้ ท่านอ๋องเห็นกับตาอยู่ชัด ๆ ว่าเขากับเจียงเฟิ่งหัวมีความสัมพันธ์คลุมเครือ แต่ท่านอ๋องกลับไม่ถือสาหาความ วันนี้ก็เป็นเขาอีกแล้ว ท่านพูดถูก ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน อาซางไม่มีทางเชื่อแน่”“พระชายารองรู้จักคนคนนี้ตั้งนานแล้วหรือ?” อวิ๋นฟางถาม“ไม่รู้จักได้อย่างไร เหมือนจะชื่อเซียวอวี้ เป็นดาวเด่นคนใหม่ในเมืองเซิ่งจิ่ง มีชื่อเสียงอยู่พอสมควร” ซูถิงหว่านอธิบาย ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ “คนพวกนี้ชอบดัดจริตเป็นที่สุด ทำตัวเป็นผู้ดีมีรสนิยม เรียนหนังสือเก่งแล้วมีอะไรดีเล่า ถ้าไม่ได้ทหารเหล่านั้นที่ปกป้องประเทศชาติอยู่ชายแดน พวกเขาจะได้เดินเตร่ในหอโคมเขียว ดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์เช่นนี้ไหม? ทั้งสกุลซูของข้าพิทักษ์รักษาบ้านเมือง เป็นขุนนางที่มีความดีความชอบของแคว้นต้าโจว แม้แต่ฝ่าบาทยังต้องให้ความเคารพสกุลซูของข้าอยู่ไม่น้อย เหตุใดท่านป้าจึง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 95

    อีกฝั่งหนึ่ง เจียงเฟิ่งหัวหนีออกมาจากหออี๋ชุนแล้วก็ไม่กล้ากลับไปอีก กลัวจะเจอเซี่ยซางเข้าเซียวอวี้เห็นนางสวมหน้ากาก ก็ลองถามดูว่า “คุณหนูสามหรือ?”เจียงเฟิ่งหัวได้สติกลับมา เปิดหน้ากากออก กล่าวว่า “คุณชายเซียวรู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?”เซียวอวี้หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ตอบตามตรงว่า “เมื่อก่อนไปหาท่านครูที่จวนสกุลเจียงอยู่บ่อย ๆ บ้านสกุลเจียงมักจะมีเสียงพิณลอยออกมา ข้าเลยรู้ว่าคุณหนูสามสกุลเจียงดีดพิณอยู่”เมื่อเขาได้ยินท่วงทำนองอันคุ้ยเคยที่หออี๋ชุนอีกครั้ง เขาก็ตกใจตาค้าง วินาทีนั้นเอง เขาก็กล้าฟันธงว่านางคือเจียงเฟิ่งหัว เพราะว่าคุ้นเคยเป็นอย่างดี“ที่แท้คุณชายเซียวฟังเสียงดนตรีก็รู้ตัวคนเล่น ดูท่าคุณชายเซียวก็เป็นคนที่ชื่นชอบเสียงดนตรีเช่นกัน” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเซียวอวี้ตอบ “ก็แค่พอรู้เรื่องบ้าง ไม่ได้เสี้ยวของคุณหนูสามหรอก”“คุณชายเซียวถ่อมตัวไปแล้ว ท่านพ่อของข้ามักจะบอกว่าในบรรดานักเรียนของท่านทั้งหมด มีเพียงเซียวอวี้ที่เฉลียวฉลาดเกินใคร ต่อไปจะต้องเป็นใหญ่เป็นโตแน่นอน” เจียงเฟิ่งหัวไม่ได้โกหก ราชครูเจียงเป็นคนที่เห็นคุณค่าของคนมีความสามารถจริง ๆ ดังนั้นจึงมักกล่าวถึงเขาอยู่บ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 94

    เวลานี้เอง เจียงจิ่นเหยียนก็มาถึงเวทีเช่นกัน เขาอยากจะพาเจียงเฟิ่งหัวไป แต่กลับคว้ามือของชายอีกคนหนึ่งไว้ในความมืดมิด เจียงเฟิ่งหัวยื่นมือไปคว้ามือของพี่ใหญ่ของนางไว้ แต่กลับคลำเจอฝ่ามือใหญ่ ๆ คู่หนึ่งที่มีแผ่นหนังด้าน ๆ นางรู้ว่านี่ไม่ใช่มือของพี่ใหญ่แน่ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นคนอื่น จะเป็นใครเล่า?นางคิดอยากสะบัดมือของอีกฝ่ายออก แต่อีกฝ่ายกลับกำมือนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยทันใดนั้น ฝั่งตรงข้ามก็ดึงนางเข้าไปใกล้ นางจึงเพิ่งได้กลิ่นที่คุ้นเคย นางสับสนวุ่นวายในใจ เป็นเซี่ยซางได้อย่างไรกันเจียงเฟิ่งหัวรีบหุบปากไว้ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่แอะเดียว กลัวว่าเขาจะจำเสียงได้เนื่องจากนางใส่หน้ากากปกปิดไว้ทั้งหน้า เซี่ยซางเห็นลักษณะของคนที่อยู่เบื้องหน้าไม่ชัด รู้สึกเพียงว่านิ้วมือของคนผู้นี้เรียว เนียนละเอียด เหมือนมือผู้หญิง วินาทีนั้นที่เขาเข้าโอบเอวคนผู้นี้ ก็รู้สึกได้ว่าเอวบางเหมือนกิ่งหลิว และหน้าอกของคนผู้นี้นุ่มนิ่มเขารู้ตัวแล้วว่าที่แท้เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง…ขณะที่เขากำลังลังเลนั้นเอง เจียงเฟิ่งหัวเหยียบหลังเท้าเขาอย่างแรง นางใช้กำลังทั้งหมดที่มีจึงหลุดออกมาจากมือเขาได้ นางก็ไม่มีเวลาสนใจอะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 93

    ในหออี๋ชุนมีทั้งร้องทั้งเต้น เสียงปรบมือโห่ร้องดังทั่วหอ แล้วก็ได้ยินพิธีกรเอ่ยว่า “ขอเชิญคุณชายไร้เทียมทานขึ้นเวที”ฝูงชนเมื่อได้ยินว่าคุณชายไร้เทียมทาน ทุกคนก็ตกใจ พากันวิพากษ์วิจารณ์ “นี่คือการประกวดคัดเลือกนางคณิกา จะมีผู้ชายขึ้นเวทีได้อย่างไร หรือว่าผู้ชายก็อยากชิงตำแหน่งยอดนางคณิกาด้วยหรือ”“ก็ใช่น่ะสิ คณิกาชายมาจากไหนกัน พวกเราต้องการแต่ผู้หญิง ไม่เอาผู้ชาย” ทันใดนั้นกัวเซี่ยก็ขึ้นเสียงด่าทอ “ให้คุณชายไร้เทียมทานอะไรนั่นไสหัวลงไป”มีคนผสมโรงไปด้วยอีก “ข้าน่ะมาใช้เงินเพื่อดูสาว ๆ แก้เบื่อ ผู้ชายมีอะไรน่าดูกัน พวกเจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย ให้แม่นางเพียนเพียนเมื่อครู่ออกมาร้องอีกเพลงซิ ข้ามีเงินเยอะแยะ พวกนี้ก็ตบรางวัลนางให้หมด”ในชั่วพริบตา ชายคนนั้นควักทองตำลึงออกมาหลายก้อน “ตำแหน่งยอดคณิกาคืนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่นางเพียนเพียน ให้นางออกมา”“เพียนเพียน!”ไม่นาน ทั้งหอก็ตะโกนเรียกชื่อของเพียนเพียนหลินอวี่ในชุดกระโปรงยาวเข้ารูปอันประณีตเดินอย่างอ่อนช้อยไปที่เวที นางยิ้มมุมปากอย่างเย้ายวน ริมฝีปากแดงระเรื่อ กล่าวเสียงหนักแน่นว่า “ทุกท่านมาสนับสนุนงานนี้ที่หออี๋ชุนของข้า ก็เป็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 92

    เจียงจิ่นเหยียนเห็นว่าในแววตานางมีความกังวลซ่อนอยู่ “ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ที่เจ้าแต่งกับเหิงอ๋อง เขาทำอะไรเจ้าหรือ ถึงได้ห่วงหน้าพะวงหลัง ข้าแทบจะจำเจ้าไม่ได้แล้ว เจียงเฟิ่งหัวที่มีการวางแผนชัดเจนอยู่ในใจ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมไปอยู่ที่ไหนแล้ว”“เมื่อก่อนข้าเข้าออกหออี๋ชุนมีพี่ใหญ่คอยปกปิดให้ข้า แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ข้าทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางคือพระชายาเหิงอ๋อง ยิ่งรู้ดีว่าเซี่ยซางผูกสมัครรักใคร่กับหญิงอื่นมานานแล้ว แต่หรวนหร่วนอยากจะแต่งเอง เขาก็ห้ามไม่ได้ เขาเพียงแค่หวังว่าน้องสาวจะทำใจให้สบาย ไร้ทุกข์ไร้กังวลในใจเขาสงสัยมาตลอดว่า หรือว่าหรวนหร่วนจะมีใจให้เหิงอ๋องมาตั้งแต่เด็ก เขาถามว่า “หรวนหร่วน พี่ใหญ่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอันซับซ้อนอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก พี่ใหญ่หวังว่าเจ้าจะไม่ลืมความเป็นตัวเอง ทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์เพื่อเรื่องบางอย่างหรือคนบางคนที่ไม่ควรค่า เจ้าต้องจำไว้ว่าความสุขสำคัญที่สุด ถ้าเขาทำให้เจ้ามีความสุขไม่ได้ ทำให้เจ้าไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เจ้าจะแต่งงานกับเขาไปทำไม”เจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางแตกต่าง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status