Share

บทที่ 84

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เจียงเฟิ่งหัวจ้องมองซูกุ้ยเฟยที่เดินจากไป นางหัวเราะเยาะในใจ ชาติที่แล้วเฉิงฮองเฮาก็ถูกซูกุ้ยเฟยรังแกเช่นนี้ จากนั้นฮองเฮาก็มาระบายที่นาง

เมื่อควรลงโทษแต่ไม่ลงโทษ ดังนั้นถึงแม้ว่านางจะเป็นฮองเฮาก็ถูกดูแคลน

ฮองเฮาถูกฮ่องเต้รังเกียจ นางไม่สามารถก้าวข้ามความทุกข์นี้ได้ แม้แต่จะยืดอกรับก็ยังทำไม่ได้

เจียงเฟิ่งหัวรู้ว่าเยี่ยนเฟยรู้สึกโมโหในใจ ศัตรูของศัตรูมักจะกลายเป็นมิตรได้

เมื่อทุกคนออกจากตำหนักคุนหนิงแล้ว เจียงเฟิ่งหัวก็ถูกฮองเฮาเรียกตัวไว้

“ข้ามีเครื่องประดับอยู่ชุดหนึ่ง ดูแล้วเข้ากับหรวนหร่วนมาก ลองดูสิว่าชอบหรือไม่” ฮองเฮามีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ตรัสด้วยท่าทางใจดีและเป็นกันเอง

สี่หมัวมัวรีบนำชุดเครื่องประดับอันงดงามมาวางไว้ตรงหน้าเจียงเฟิ่งหัว

ดวงตาของเจียงเฟิ่งหัวฉายแววตื่นเต้นดีใจ “ปิ่นระย้าช่างงดงามจริง ๆ ขอบพระทัยเสด็จแม่เพคะ”

“วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก ทำให้ซูชิงชิงนางสารเลวนั่นโมโหแทบแย่ ข้าไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานแล้ว เจ้าจำเอาไว้ ต่อไปหากมีใครกล้ารังแกเจ้า เจ้าก็จงวางตัวเช่นนี้ ไม่แสดงความต่ำต้อยหรือหยิ่งผยอง เจ้าเป็นสะใภ้ของข้า ข้าย่อมปฏิบัติต่อเจ้าต่างจากพระชายาคนอื่น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 85

    เซี่ยซางมองหมึกที่เลอะแก้มและมุมปากของนาง มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มมีเสน่ห์เย้ายวนใจรู้สึกได้ว่าความเย็นชาที่ติดตัวเขามาตั้งแต่กำเนิดพลันสลายหายไป ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น เขาดูเหมือนกลายเป็นคนละคน รอยยิ้มของเขาอบอุ่นราวกับแสงตะวัน เจียงเฟิ่งหัวนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ สบตากับเขา แทบจะมองจนตาค้างแล้วมือของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด ยื่นมือไปลูบไล้มุมปากของนางอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วของเขายิ่งเช็ดหมึกออกมากเท่าไร รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งลึกมากขึ้นเท่านั้น ไม่นานก็เช็ดจนเป็นหนวดเล็ก ๆ สองข้างให้กับนางดวงตาของเขาดำสนิทดุจหมึก นางเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของตัวเองที่เปื้อนหมึกจากในดวงตาของเขา ทันใดนั้นนางก็จับมือเขาไว้ จึงได้เห็นว่านิ้วของเขาเปื้อนหมึกไปหมดแล้วเจียงเฟิ่งหัวเข้าใจในทันที ใบหน้าของนางแดงก่ำเสียแล้ว เวลานี้นางรู้สึกอับอายเพียงใด นางสามารถจินตนาการได้ นางหยิบพู่กันขึ้นมาต้องการจะวาดลงบนใบหน้าของเซี่ยซางเซี่ยซางก็ไวไม่แพ้กัน รีบวิ่งหนีทันที เขาจะยอมให้นางไล่ตามทันได้อย่างไร เจียงเฟิ่งหัวถือชายกระโปรง ก้าวขายาว ๆ ไล่ตามไม่ลดละ เพราะฝึกฝนการร่ายรำ เอวของนางจึงอ่อนพลิ้วราวกับกิ่งหลิว สามารถท

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 86

    เจียงเฟิ่งหัวพลิกตัวโอบรอบคอเขา ริมฝีปากแดงสดใส “หม่อมฉันหลับลึกเกินไปหน่อย ข้างนอกฟ้ามืดแล้ว ท่านอ๋องอย่าได้ลำบากตรากตรำมากนัก อยู่ข้างนอกดูแลตัวเองด้วยนะเพคะ หม่อมฉันจะรอท่านกลับมา”เซี่ยซางพยักหน้า คลอเคลียกับนางอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากไปประตูของห้องบรรทมเปิดกว้างค้างไว้เช่นนั้น มีฉากกั้นอยู่ ทว่าหงซิ่วและเหลียนเย่ก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องเป็นฝ่ายจุมพิตพระชายาเองหลังจากที่เซี่ยซางจากไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวก็ยังคงนอนอยู่บนเตียง ไม่อยากลุกขึ้น ร่างกายของนางตึงเครียดมาทั้งวันแล้ว เหนื่อยล้าเกินไปจริง ๆ เหลียนเย่เดินเข้ามาใกล้ จากนั้นเอ่ยขึ้น “ความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับท่านอ๋องดีขึ้นมากเลยเพคะ!”“ตอนอยู่ในวัง ข้าและท่านอ๋องได้ร่วมหอกันแล้ว” สีหน้าของนางกลับมาเป็นปกติ การร่วมหอกับเซี่ยซางเป็นสิ่งที่อยู่ในแผนการของนางอยู่แล้วเหลียนเย่เข้าใจในทันที ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องก็ยังไม่พ้นเงื้อมมือของพระชายาอยู่ดี เรื่องนี้หากพระชายารองซูรู้เข้า นางคงจะโกรธจนแทบบ้าหงซิ่วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนสองวันนี้ให้เจียงเฟิ่งหัวฟัง “ข้างก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 87

    เมื่อไปถึงเรือนถานเซียง ซูถิงหว่านได้เตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้วเซี่ยซางนั่งลงตามคำเชิญ นางหยิบกาเหล้าแล้วรินเหล้าให้เขาหนึ่งจอก “นี่เป็นเหล้าผลไม้ที่หม่อมฉันหมักเอง ท่านอ๋องลองชิมดูสิเพคะว่ารสชาติดีหรือไม่”เซี่ยซางลองชิมคำหนึ่ง รู้สึกว่ารสชาติหวาน ๆ อมเปรี้ยวเล็กน้อย“กลิ่นหอมของเหล้าเข้มข้น ดื่มแล้วรสชาติหวานละมุน ไม่ทำให้คนเมา” ซูถิงหว่านอธิบายนางคีบอาหารอีกอย่างไปที่ริมฝีปากเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความเอาใจ “ท่านอ๋องลองชิมไก่ต้มจานนี้ดูสิเพคะ หม่อมฉันฝึกทำอยู่หลายวันกว่าจะทำได้ ไม่คิดเลยว่าการจะทำอาหารจานอร่อยสักจานจะยุ่งยากเช่นนี้ เหนื่อยกว่าตอนที่หม่อมฉันถือดาบเสียอีก แต่เพื่อท่านอ๋อง หม่อมฉันยินดีที่จะเรียนรู้”เซี่ยซางมองใบหน้าของนาง เขาไม่รู้ว่าจะบอกนางอย่างไรดีว่าตัวเองตกหลุมรักเจียงเฟิ่งหัวไปแล้ว และได้ร่วมหอกับนางแล้วด้วยเขาไม่เพียงแต่หลงใหลในความงามของนางเท่านั้น แต่ยังหลงใหลในตัวนางอย่างลึกซึ้ง เขาพูดไม่ออกว่าความรู้สึกนั้นเป็นเช่นไร รู้แต่เพียงว่ามันงดงามมาก “หวานหว่าน ข้า...”ซูถิงหว่านรู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร จึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ “วันนี้ข้าเห็นท่านอุ้มพระชายากลับมา ส

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 88

    เซี่ยซางสติเลือนราง ได้ยินไม่ชัดว่านางพูดว่าอะไร เขาเรียกชื่อเล่นของเจียงเฟิ่งหัวออกมาอย่างไม่รู้ตัวอวิ๋นฟางแอบฟังเสียงข้างในอยู่นอกหน้าต่าง มองผ่านหน้าต่างเข้าไป นางเห็นร่างสองร่างกำลังเกี่ยวพันกันอยู่ นางรู้สึกเหมือนมีไฟก้อนหนึ่งกำลังลุกไหม้ไปทั่วร่างนางจินตนาการถึงร่างกายของเซี่ยซาง...อิ๋นซิ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้านางอย่างกะทันหัน “อวิ๋นฟางกูกู ท่านกำลังดูอะไรอยู่เจ้าคะ!”อวิ๋นฟางรีบตั้งสติทันที จ้องมองอิ๋นซิ่งด้วยสายตาเย็นชา “ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ ในที่สุดคืนนี้พระชายารองก็สมหวังแล้ว”อิ๋นซิ่งไม่รู้ว่าซูถิงหว่านวางยาเซี่ยซาง นางก็แอบมองเข้าไปข้างในเช่นกัน จากนั้นหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายก่อนจะวิ่งออกไปหลังจากเสร็จกิจ เขามองซูถิงหว่านอย่างไม่อยากจะเชื่อ นึกถึงเหล้าสองจอกที่เขาดื่มเข้าไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “หวานหว่าน เจ้าวางยาข้าใช่หรือไม่?”ถึงแม้ว่าซูถิงหว่านจะหมดแรงไปทั้งตัว แต่นางก็ยังพยายามพยุงร่างกายขึ้นเพื่อจะกอดเขา “ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ได้...”เซี่ยซางผลักนางออกไป ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงติดตา นางยังไม่ยอมรับอีก “หวานหว่าน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะใช้วิธีสกปร

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 89

    เมื่ออวิ๋นฟางมอบผ้าให้กับวังหมัวมัว วังหมัวมัวจึงเอ่ยถาม “เหตุใดท่านอ๋องถึงไม่อยู่?”“เมื่อครู่ท่านอ๋องเพิ่งออกไป อาจจะมีราชกิจที่ต้องรีบไปจัดการ” อวิ๋นฟางเอ่ยต่อ “พระชายารองกำลังโกรธเรื่องนี้อยู่ ท่านอ๋องก็ไม่ยอมอยู่กับพระชายารอง ทิ้งนางไว้แบบนี้แล้วก็จากไป”วังหมัวมัวรับผ้ามาพร้อมกับหัวเราะเยาะ แล้วแสร้งเอ่ยขึ้น “ได้ยินมาว่าพระชายากับท่านอ๋องได้ร่วมหอกันในวังแล้ว ท่านอ๋องทรงรักพระชายามาก อุ้มขึ้นอุ้มลง กลัวว่าพระชายาจะน้อยใจ”หลังจากที่ซูถิงหว่านได้ยินดังนั้น หัวใจของนางก็ยิ่งรู้สึกผิดหวัง แต่ในเวลานี้นางไม่สามารถทำอะไรได้ นางหยิกแขนของตัวเอง นึกถึงการกระทำที่หยาบคายของเซี่ยซางที่มีต่อนาง ก้นบึ้งของหัวใจเกิดความรู้สึกเกลียดชังขึ้นมา เหตุใดพวกเขาถึงต้องทำเช่นนี้กับนางด้วย?วังหมัวมัวจะต้องไปถามท่านอ๋องเสียหน่อยเซี่ยซางไม่ได้ไปที่ไหนเลยหลังจากที่ออกมาจากเรือนถานเซียง เขาไม่กล้าแม้แต่จะไปเผชิญหน้ากับเจียงเฟิ่งหัวที่หอหล่านเยว่ ดังนั้น เขาจึงตรงกลับไปที่หอทิงเสวี่ยเขาไม่ได้จุดตะเกียง ภายในมืดสนิท เขารู้สึกไม่สบายตัวไปทั้งตัว และรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย หวานหว่านไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้ นา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 90

    เจียงเฟิ่งหัวไม่สนใจว่าพวกเขาจะร่วมหอกันหรือไม่ ยังคงฝึกฝนการร่ายรำ อ่านตำรา เขียนอักษร วาดภาพ และทำการค้าของตัวเองต่อไปตามปกติ“ช่วงนี้ เรือนถานเซียงเงียบผิดปกติ พระชายารองซูเหมือนกลายเป็นคนละคน วัน ๆ เอาแต่เก็บตัวอยู่ในเรือนถานเซียง เรียนรู้พิณ หมากรุก การประดิษฐ์อักษร และการวาดภาพ ได้ยินมาว่าผลลัพธ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก สุดท้ายนางจึงเลือกที่จะเรียนร่ายรำ ฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน ขยันขันแข็งมาก อวิ๋นฟางยังหาอาจารย์มาสอนนางถึงในจวนโดยเฉพาะ ดูลึกลับน่าดู”เมื่อเจียงเฟิ่งหัวได้ยินดังนั้น นางก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เพียงเปลี่ยนเป็นท่าทางที่งดงามแล้วอ่านตำราต่อไป การเต้นรำนั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐาน ริ่มเรียนตอนอายุสิบเจ็ดสิบแปด คงจะเรียนรู้อะไรไม่ได้มากนักหรอกเจียงเฟิ่งหัวเอ่ยขึ้น “อีกไม่กี่วัน ทางวังหลวงจะจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับคณะราชทูตจากแคว้นเฉาซี ราชทูตแคว้นเฉาซีเดินทางมายังต้าโจวเพื่อขอสงบศึก และจะส่งมอบองค์หญิงผู้งดงามท่านหนึ่งให้กับฮ่องเต้ ทั้งสองแคว้นจะกลายเป็นพันธมิตรกัน ซูถิงหว่านต้องการที่จะโดดเด่นในงานเลี้ยงครั้งนี้”ชาติที่แล้ว ซูถิงหว่านได้แสดงการร่ายรำกระบี่ร่วมกับเซี่ยซาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 91

    ขณะเดียวกัน การประกวดคัดเลือกนางคณิกาที่ชั้นล่างก็ค่อย ๆ เริ่มต้นขึ้น ผู้คนมากันคับคั่งทั้งในและนอกหอนานแล้ว บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมากเจียงเฟิ่งหัวยืนที่ริมหน้าต่าง มองลงไปด้านล่าง “การประกวดอย่างคืนนี้ก็จะทำให้หออี๋ชุนรับทรัพย์อื้อซ่า ได้เงินเป็นกระบุง ก็มีแต่สถานที่แบบนี้เท่านั้นที่โกยเงินได้เร็วที่สุด หลินอวี่ หัวการค้าของเจ้านี่ ข้ายังต้องนับถือ”ปากแดง ๆ ของหลินอวี่ยิ้มเล็กน้อย จัดแจงกระโปรงของนาง “คุณชายในเมืองเซิ่งจิงล้วนชอบมาที่นี่ แน่นอนว่าหออี๋ชุนก็ให้บริการได้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มกับเงินที่ในกระเป๋าที่จ่ายไป ทำให้ติดใจจนไม่อยากกลับบ้าน ทุกคนก็แค่ต่างได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้นเอง”เมื่อเสียงบรรเลงเพลงดังขึ้น บรรดาสาว ๆ ก็ประชันความงาม ทยอยปรากฏตัว เริ่มจากผู้เข้าประกวดแข่งขันแบบเดี่ยว ใครจะเหนือกว่า นี่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้ว“ถัดไป ขอเชิญแม่นางเพียนเพียน”ทันใดนั้น สาวน้อยชุดแดงที่คลุมหน้าด้วยผ้าคลุมหน้าสีแดงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวราวกับลงมาจากฟากฟ้า ในมือนางกอดผีผาไว้ เรือนร่างอันเย้ายวนเริ่มเต้นระบำอย่างสง่างาม ประดุจดอกโบตั๋นสีแดงดอกหนึ่งที่กำลังเบ่งบานอย่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 92

    เจียงจิ่นเหยียนเห็นว่าในแววตานางมีความกังวลซ่อนอยู่ “ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ที่เจ้าแต่งกับเหิงอ๋อง เขาทำอะไรเจ้าหรือ ถึงได้ห่วงหน้าพะวงหลัง ข้าแทบจะจำเจ้าไม่ได้แล้ว เจียงเฟิ่งหัวที่มีการวางแผนชัดเจนอยู่ในใจ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมไปอยู่ที่ไหนแล้ว”“เมื่อก่อนข้าเข้าออกหออี๋ชุนมีพี่ใหญ่คอยปกปิดให้ข้า แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ข้าทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางคือพระชายาเหิงอ๋อง ยิ่งรู้ดีว่าเซี่ยซางผูกสมัครรักใคร่กับหญิงอื่นมานานแล้ว แต่หรวนหร่วนอยากจะแต่งเอง เขาก็ห้ามไม่ได้ เขาเพียงแค่หวังว่าน้องสาวจะทำใจให้สบาย ไร้ทุกข์ไร้กังวลในใจเขาสงสัยมาตลอดว่า หรือว่าหรวนหร่วนจะมีใจให้เหิงอ๋องมาตั้งแต่เด็ก เขาถามว่า “หรวนหร่วน พี่ใหญ่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอันซับซ้อนอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก พี่ใหญ่หวังว่าเจ้าจะไม่ลืมความเป็นตัวเอง ทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์เพื่อเรื่องบางอย่างหรือคนบางคนที่ไม่ควรค่า เจ้าต้องจำไว้ว่าความสุขสำคัญที่สุด ถ้าเขาทำให้เจ้ามีความสุขไม่ได้ ทำให้เจ้าไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เจ้าจะแต่งงานกับเขาไปทำไม”เจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางแตกต่าง

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status