공유

บทที่ 69

작가: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ริมฝีปากบางของเขาสัมผัสปลายจมูกนาง ดั่งลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านผิวน้ำ จนกลายเป็นระลอกน้ำแพร่กระจาย

การกระทำของเขาละมุนละไมอย่างที่สุด ราวกับเขาเป็นสามีที่รักมากกำลังให้ความสุขแก่ภรรยา

นางเรียกเสียงค่อย “ท่านอ๋อง...”

“เจ้าบอกมาสิ เจ้าชอบข้าหรือไม่” น้ำเสียงเซี่ยซางแหบแห้ง ริมฝีปากกำลังถูไถอยู่ข้างหูนาง กำลังหยอกเย้านางอย่างไม่ตั้งใจ เขา

ไม่ได้รีบร้อนจะจูบนาง ริมฝีปากวาดผ่านแก้มนางแผ่วเบา ราวกับขนนกที่ไล้ผ่านหัวใจของนาง

เขารู้ว่าริมฝีปากของนางอ่อนนุ่ม แต่เขาอยากได้ยินด้วยตัวเองว่านางชอบเขา

เจียงเฟิ่งหัวไม่ตอบ นางปิดปากแน่น กระทั่งก้มหน้าลงเล็กน้อยไม่ให้เขาสัมผัสโดนตัวนาง

เซี่ยซางยังคงไม่ยินยอม เข้าไปโอบเอวนางเอาไว้ กอดนางเข้าสู่อ้อมอก มุมปากมีรอยยิ้มที่ทำให้ลุ่มหลงผุดขึ้น โน้มเข้าไปใกล้ข้างหูแล้วจงใจหยอกเย้านาง พร้อมกล่าวเสียงค่อย “ยังไม่ยอมพูดหรือ? เจ้าชอบข้าหรือไม่”

น้ำตาคลออยู่ในดวงตาเจียงเฟิ่งหัว นางหลับตาแน่น กัดริมฝีปากสีชมพูพร้อมพยักหน้า “หม่อมฉันชอบท่านอ๋อง หม่อมฉันชอบท่านอ๋องนานแล้วเพคะ”

เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกเพียงใกล้ขาดลมหายใจเพราะจูบของเขา เซี่ยซางคือยอดฝีมือด้านความรัก ไม่ร
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 70

    เขาอุ้มเจียงเฟิ่งหัวลงมาจากโต๊ะ พร้อมจูบริมฝีปากนางแผ่วเบา “ข้าสามารถเรียกเจ้าว่าหรวนหร่วนเหมือนมารดาเจ้าได้กระมัง!”“แล้วแต่ท่านอ๋องเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวดิ้นออกจากอ้อมกอดเขานางเริ่มจัดแจงกระโปรงและทรงผม สีปากบนริมฝีปากก็ถูกเขากินไปแล้ว ต่อให้ไม่แต่งหน้าหรือแต่งอ่อน ๆ นางก็ยังงดงาม บริสุทธิ์หมดจด ราวกับเทพธิดาลงมาโลกมนุษย์รูปร่างนางสูงโปร่ง เรือนร่างงดงาม ก้าวเดินอรชรอ้อนแอ้น ทุกการเคลื่อนไหวล้วนสวยงามนางแตกต่างกับซูถิงหว่านสิ้นเชิง ซูถิงหว่านไม่เคยสนใจเรื่องแต่งตัวเจียงเฟิ่งหัวเดินไปตรงหน้าเขา ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยเสน่ห์ “หม่อมฉันเสร็จแล้ว พวกเราไปกันเถอะเพคะ!”เซี่ยซางถูกเจียงเฟิ่งหัวตรงหน้าดึงดูด จึงเป็นฝ่ายจูงมือนางแล้วพาเดินออกไปอู๋ซินยืนเฝ้าอยู่ข้างประตูอย่างนอบน้อม “บ่าวคารวะเหิงอ๋อง พระชายาเหิงอ๋อง”เซี่ยซางพยักหน้าพร้อมเหลือบมองเขา “หัวหน้าขันทีเฉาให้เจ้ามาหรือ”“อาจารย์รับใช้อยู่ข้างกายฝ่าบาท จึงให้บ่าวมาเรียนเชิญท่านอ๋องกับพระชายาพ่ะย่ะค่ะ” อู๋ซินกล่าวเสียงต่ำอีกครั้ง “พ่อบุญธรรมบอกว่า ฝ่าบาททรงกำลังกลัดกลุ้มเพราะคดีลักขโมยคดีหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”อู๋ซินพูดมาขนาดนี้แล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 71

    หากนางเอ่ยปากออกไปว่าฝ่าบาททรงกริ้วก็เพราะนางลงชื่อในหนังสือคำร้องทุกข์ของราษฎร มิเท่ากับเป็นการกล่าวว่าฝ่าบาททรงใจแคบ ไร้เหตุผล คอยก่อความวุ่นวายหรอกหรือ เช่นนี้บารมีของโอรสสวรรค์จะอยู่ตรงไหนกัน นางมิใช่คนโง่เขลาเซี่ยซางไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิด เขาไม่ยอมรับว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงจ้องเล่นงานเขาอยู่ร่ำไป เจียงเฟิ่งหัวจึงเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงประเด็นหลัก แต่กลับเอ่ยคำพูดนี้ขึ้นมาแทนเขารู้สึกเพียงว่าเจียงเฟิ่งหัวงดงามเจิดจรัสเช่นนี้ ทำให้จิตใจของเขาใฝ่หามุมปากของฮ่องเต้ยกยิ้มขึ้นมาอย่างกะทันหัน ช่างเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียวกัน เป็นลูกสะใภ้ที่มีไหวพริบดีเสียจริงในเวลานี้ ฮ่องเต้ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพระชายาเหิงอ๋องคือบุตรสาวของราชครูเจียง เจียงหวย บิดาของนางนั้นเป็นผู้รอบรู้จริง ๆ เจียงเฟิ่งหัวไม่ได้กล่าวถึงความผิดของเซี่ยซางแม้แต่น้อย แต่ค่อย ๆ กล่าวขึ้นว่า “ท่านอ๋องยังเยาว์วัย หุนหันพลันแล่น เลือดร้อน มีความกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ แต่เขาก็วู่วามเกินไป วิธีที่เขาแบ่งเบาภาระให้ฝ่าบาทก็ผิดพลาด”“หากเป็นหม่อมฉัน หม่อมฉันจะกราบทูลรายละเอียดให้เสด็จพ่อทรงทราบก่อน เสด็จพ่อทรงเปี่ยมด้วย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 72

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากห้องทรงพระอักษร แต่ในใจกลับครุ่นคิดถึงเรื่องที่สุสานหลวงถูกโจรกรรม นางจำได้ว่าในชาติที่แล้วสุสานหลวงก็ถูกโจรกรรมจริง ๆ ท่านพ่อเคยเอ่ยถึงเรื่องนี้คร่าว ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ราชวงศ์ปกปิดเรื่องนี้เป็นอย่างดีแม้ว่านางจะเป็นพระชายาเหิงอ๋อง แต่ก็แทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับเซี่ยซางเลย และยังไม่ได้รับความรักจากเซี่ยซาง นางจึงรู้เรื่องราวของเขาน้อยมากนางจำได้ว่าหลังจากที่เซี่ยซางได้เป็นรัชทายาทแล้ว เขาก็ตามหาของสิ่งหนึ่งอยู่ตลอดเวลา คาดว่าน่าจะเป็นของของราชวงศ์ที่ถูกขโมยไปจากสุสานหลวงเป็นแน่ เป็นสิ่งของอะไรที่หายไป ภายหลังใช้เวลาหลายปีก็ยังหาไม่พบฮ่องเต้ทรงปิดบัง ของสำคัญนั้นคืออะไรกันแน่?เจียงเฟิ่งหัวจมอยู่กับความคิดของตัวเองตลอดเวลา กระทั่งอู๋ซินมายืนอยู่ข้าง ๆ นางโดยที่นางไม่ทันสังเกตอู๋ซินดูตื่นเต้นเล็กน้อย “อู๋ซินคารวะพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”เจียงเฟิ่งหัวมองพิจารณาเขา เขาเรียกตัวเองว่าอู๋ซิน ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นขันทีน้อยในตอนนั้น หลังจากเติบโตขึ้นมาก็ดูหล่อเหลาไม่น้อย นางเอ่ยขึ้นว่า “ใต้เท้าเฉาให้เจ้ามาส่งข้าไปที่ตำหนักคุนหนิง”“พ่ะย่ะค่ะ” อู๋ซินรู้สึ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 73

    เจียงเฟิ่งหัวก้าวเท้าอย่างช้า ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชาติที่แล้วค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในใจทีละน้อย ดวงตาของนางราวกับมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอเวลานี้ ตำหนักเฉินซีมีคนของเฉิงฮองเฮามาดูแล ดังนั้นเรือนพักอาศัยและเครื่องเรือนของที่นี่จึงยังดูใหม่มาก บริเวณโดยรอบสะอาดสะอ้าน นอกจากความสะอาดแล้ว ที่เหลือก็มีเพียงความเงียบเหงาและหนาวเย็น หนาวเย็นเสียจนทำให้กระดูกของนางสั่นสะท้าน รู้สึกหนาวเหน็บในใจนางผลักประตูเรือนที่เคยอาศัยอยู่เข้าไป จากนั้นกอดแขนตัวเองเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว อยากจะก้าวเดินหนีไป เพราะชีวิตของนางในที่นี้ กลับกลายเป็นความว่างเปล่าอันยาวนาน“พระชายา ห้องบรรทมนี้กว้างขวาง ท่านสามารถพักผ่อนที่นี่ก่อนได้เพคะ” สี่หมัวมัวกล่าวภาพใบหน้าพึงพอใจของซูถิงหว่านแวบเข้ามาในหัวของนาง ‘พระชายา หม่อมฉันจัดห้องบรรทมที่กว้างขวางไว้ให้ท่านแล้ว เข้าวังมาแล้ว หม่อมฉันก็ต้องให้ท่านอยู่อย่างสุขสบาย ท่านพอใจหรือไม่?’เซี่ยซางมอบตำหนักบูรพาให้กับซูถิงหว่าน แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมเป็นนางที่จัดการ นางจะกล้าไม่พอใจได้อย่างไรที่นี่อยู่ไกลจากห้องบรรทมของเซี่ยซางมากที่สุด ดังนั้นพ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 74

    อีกด้านหนึ่ง สี่หมัวมัวกลับไปที่ตำหนักคุนหนิงแล้วก็เอ่ยปากชมเจียงเฟิ่งหัวไม่หยุด ยังนำนางไปเปรียบเทียบกับซูถิงหว่าน ชมว่าฮองเฮาทรงมีวิสัยทัศน์ที่ดีฮองเฮาตรัสว่า “นางเป็นลูกสะใภ้ที่ข้าเลือกเองกับมือ ข้าก็มองเห็นข้อนี้ แต่การที่นางได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้ แสดงว่านางก็ยังพอมีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง ถ้านางทุ่มเทใจให้กับซางเอ๋อร์ ข้าจะยกย่องนางก็คงไม่เสียหายอะไร”หากไม่เป็นเช่นนั้น การละทิ้งนางก็ไม่เป็นไร ขึ้นอยู่กับว่านางมีค่าพอที่จะอยู่เคียงข้างซางเอ๋อร์หรือไม่ถึงอย่างไรก็มิใช่บุตรสาวแท้ ๆ ของตน ตราบใดที่เจียงเฟิ่งหัวรักษาภาพลักษณ์ได้ดี ต่อให้นางแสร้งปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ก็ไม่เป็นไร“ซางเอ๋อร์ฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ข้าก็วางใจได้เสมอ เพียงแต่ในใจเขายังคงคิดถึงซูถิงหว่านอยู่ตลอด และยังไม่ได้ร่วมหอกับเจียงเฟิ่งหัว”สายตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยความกังวล “ซูกุ้ยเฟยต้องการให้สตรีคนหนึ่งมาควบคุมบุตรชายของข้า ข้าจะไม่มีวันยอมให้นางสมหวัง ในเมื่อเจียงเฟิ่งหัวเข้าวังมาแล้ว ก็ให้นางทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด”สี่หมัวมัวกลอกตา “ไม่มีพระชายารองซูอยู่ ก็เป็นโอกาสให้ท่านอ๋

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 75

    แล้วก็ไม่รู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวทำอย่างไร เฉิงฮองเฮาเสด็จเข้าไปในตำหนักเฉินซีแล้วก็ไม่ได้เสด็จออกมาอีกเลย ประตูตำหนักปิดอยู่ตลอด ดูลึกลับน่าสงสัยยามราตรีมาเยือน นอกตำหนักเฉินซี จู่ ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้น เซี่ยอวี้ได้รับคำแนะนำจากใครบางคนให้แอบเข้ามา เนื่องจากเป็นตำหนักที่ว่างเปล่าไม่มีขันทีเฝ้าอยู่ เขาจึงเข้ามาได้อย่างสะดวกเซี่ยอวี้ไม่ชอบเซี่ยซางมาโดยตลอด เมื่อได้ยินว่าพระชายาที่เซี่ยซางแต่งงานด้วยนั้นงดงามราวกับบุปผา แต่เขากลับหลงใหลพระชายารอง เขาจึงด่าทอ “ช่างโง่เขลาเสียจริง มีสตรีที่งดงามเช่นนี้แต่ไม่สนใจ ว่าแต่พระชายาเหิงอ๋องจะงดงามสักเพียงใด ข้าจะต้องไปดูให้เห็นกับตา”ตำหนักเฉินซีทั้งตำหนักอยู่ในความมืดมิด มีเพียงห้องบรรทมห้องเดียวเท่านั้นที่มีแสงสว่าง นางกำนัลเฝ้าอยู่ด้านนอกครู่หนึ่งก็จากไปเซี่ยอวี้ค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ห้องบรรทม ผ่านทางหน้าต่าง เขาได้ยินเสียงครางอันน่าหลงใหลดังออกมาจากข้างในเซี่ยอวี้ยิ่งรู้สึกทนไม่ไหว อย่างไรเสียเซี่ยซางก็ยังปรึกษาหารือเรื่องบ้านเมืองกับเสด็จพ่ออยู่ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ชอบสตรีผู้นี้ แค่มองสักหน่อยจะเป็นไรไป ในเมื่อเขาไม่ต้องการ ก็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 76

    เซี่ยซางฟังแล้วก็เข้าใจได้ในทันที เซี่ยอวี้ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ฮองเฮาและสี่หมัวมัวหญิงชราสองคนนี้ แต่พุ่งเป้ามาที่เจียงเฟิ่งหัวผู้งดงามราวกับบุปผาทว่าเจียงเฟิ่งหัวไม่เคยพบเซี่ยอวี้มาก่อน ยิ่งไม่รู้จักเขา แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าเจียงเฟิ่งหัวพักอยู่ที่ตำหนักเฉินซี นอกเสียจากว่ามีคนต้องการทำร้ายเจียงเฟิ่งหัว จงใจทำเช่นนี้เซี่ยอวี้ถูกต่อยตีจนต้องร้องขอชีวิตไม่หยุด ฮ่องเต้ก้าวเข้าไปเตะเขาอีกที “ลูกทรพี เหตุใดเจ้าถึงได้ไปที่ตำหนักเฉินซี วันนี้ถ้าเจ้าไม่พูดความจริง เราจะฆ่าเจ้าเสีย”เซี่ยอวี้ตกใจกลัวจนตัวสั่น “ลูกไม่เคยเห็นพระชายาเหิงอ๋องมาก่อน เพียงแต่ได้ยินว่านางงดงาม จึงอยากมาดูสักหน่อย ลูกไม่มีเจตนาอื่นจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แค่มาชื่นชมความงามอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้น เจียงเฟิ่งหัวเป็นภรรยาของเหิงอ๋อง ต่อให้ลูกคิดอกุศล ก็ไม่มีความกล้าหรอกพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโปรดไว้ชีวิตด้วย ลูกแค่มาดูจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”การดูมีโทษเบากว่าการทำมาก เขาจึงยืนยันคำให้การนี้เวลานี้ ฮองเฮาแต่งกายเรียบร้อยแล้ว เดินตรงไปที่ข้างหน้าเขาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม “เจ้าเตรียมตัวมาดูอย่างไร มาโดยไม่ได้รับเชิญ ผลักประตูแล้วแอบบุก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 77

    ฮ่องเต้เหลือบมองนางแวบหนึ่ง “เรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่?”ฮองเฮาแอบโทษตัวเองที่ใจร้อนปากไว จึงตรัสว่า “ทูลฝ่าบาท เรื่องมีอยู่ว่า เฟิ่งหัวเจ้าเด็กนั่นไปคัดลอกพระคัมภีร์ที่ศาลบรรพชน หม่อมฉันเกรงว่านางจะจำทางไม่ได้ จึงให้สี่หมัวมัวส่งคนไปดูแล พวกนางบังเอิญพบว่ามีคนสะกดรอยตามพระชายาเหิงอ๋อง หม่อมฉันกลัวว่านางจะกลัว จึงไม่ได้บอกนาง ใครจะไปคิดว่าในตอนกลางคืนจู่ ๆ เซี่ยอวี้จะบุกเข้าไปในตำหนักเฉินซี หม่อมฉันจึงคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในตอนกลางวันหรือไม่ คนที่สะกดรอยตามเฟิ่งหัวเป็นคนของตำหนักซูกุ้ยเฟย ดังนั้นหม่อมฉันจึงเดาว่าซูกุ้ยเฟยส่งนางกำนัลไปชักนำอวี้อ๋องให้ทำเรื่องไม่ดีกับเฟิ่งหัวหรือไม่ จิตใจชั่วร้ายถึงเพียงนี้ ซูชิงชิง เจ้าก็ทำได้ลงคอ”ฮ่องเต้ทรงหรี่ตาลงเล็กน้อย ตรัสถามซูกุ้ยเฟย “คนของตำหนักเจ้าไปสะกดรอยตามพระชายาเหิงอ๋องทำอันใด?”ซูกุ้ยเฟยแสดงสีหน้าน้อยใจ ราวกับถูกใส่ร้ายจริง ๆ “ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ให้นางกำนัลไปสะกดรอยตามพระชายาเหิงอ๋อง และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งไม่เคยใช้ให้นางกำนัลไปยุยงอวี้อ๋องให้ทำอะไรพระชายาเหิงอ๋อง ขอฝ่าบาททรงตรวจสอบให

최신 챕터

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status