Share

บทที่ 72

Penulis: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เจียงเฟิ่งหัวออกจากห้องทรงพระอักษร แต่ในใจกลับครุ่นคิดถึงเรื่องที่สุสานหลวงถูกโจรกรรม นางจำได้ว่าในชาติที่แล้วสุสานหลวงก็ถูกโจรกรรมจริง ๆ ท่านพ่อเคยเอ่ยถึงเรื่องนี้คร่าว ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ราชวงศ์ปกปิดเรื่องนี้เป็นอย่างดี

แม้ว่านางจะเป็นพระชายาเหิงอ๋อง แต่ก็แทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับเซี่ยซางเลย และยังไม่ได้รับความรักจากเซี่ยซาง นางจึงรู้เรื่องราวของเขาน้อยมาก

นางจำได้ว่าหลังจากที่เซี่ยซางได้เป็นรัชทายาทแล้ว เขาก็ตามหาของสิ่งหนึ่งอยู่ตลอดเวลา คาดว่าน่าจะเป็นของของราชวงศ์ที่ถูกขโมยไปจากสุสานหลวงเป็นแน่ เป็นสิ่งของอะไรที่หายไป ภายหลังใช้เวลาหลายปีก็ยังหาไม่พบ

ฮ่องเต้ทรงปิดบัง ของสำคัญนั้นคืออะไรกันแน่?

เจียงเฟิ่งหัวจมอยู่กับความคิดของตัวเองตลอดเวลา กระทั่งอู๋ซินมายืนอยู่ข้าง ๆ นางโดยที่นางไม่ทันสังเกต

อู๋ซินดูตื่นเต้นเล็กน้อย “อู๋ซินคารวะพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”

เจียงเฟิ่งหัวมองพิจารณาเขา เขาเรียกตัวเองว่าอู๋ซิน ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นขันทีน้อยในตอนนั้น หลังจากเติบโตขึ้นมาก็ดูหล่อเหลาไม่น้อย นางเอ่ยขึ้นว่า “ใต้เท้าเฉาให้เจ้ามาส่งข้าไปที่ตำหนักคุนหนิง”

“พ่ะย่ะค่ะ” อู๋ซินรู้สึ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 73

    เจียงเฟิ่งหัวก้าวเท้าอย่างช้า ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชาติที่แล้วค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในใจทีละน้อย ดวงตาของนางราวกับมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอเวลานี้ ตำหนักเฉินซีมีคนของเฉิงฮองเฮามาดูแล ดังนั้นเรือนพักอาศัยและเครื่องเรือนของที่นี่จึงยังดูใหม่มาก บริเวณโดยรอบสะอาดสะอ้าน นอกจากความสะอาดแล้ว ที่เหลือก็มีเพียงความเงียบเหงาและหนาวเย็น หนาวเย็นเสียจนทำให้กระดูกของนางสั่นสะท้าน รู้สึกหนาวเหน็บในใจนางผลักประตูเรือนที่เคยอาศัยอยู่เข้าไป จากนั้นกอดแขนตัวเองเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว อยากจะก้าวเดินหนีไป เพราะชีวิตของนางในที่นี้ กลับกลายเป็นความว่างเปล่าอันยาวนาน“พระชายา ห้องบรรทมนี้กว้างขวาง ท่านสามารถพักผ่อนที่นี่ก่อนได้เพคะ” สี่หมัวมัวกล่าวภาพใบหน้าพึงพอใจของซูถิงหว่านแวบเข้ามาในหัวของนาง ‘พระชายา หม่อมฉันจัดห้องบรรทมที่กว้างขวางไว้ให้ท่านแล้ว เข้าวังมาแล้ว หม่อมฉันก็ต้องให้ท่านอยู่อย่างสุขสบาย ท่านพอใจหรือไม่?’เซี่ยซางมอบตำหนักบูรพาให้กับซูถิงหว่าน แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมเป็นนางที่จัดการ นางจะกล้าไม่พอใจได้อย่างไรที่นี่อยู่ไกลจากห้องบรรทมของเซี่ยซางมากที่สุด ดังนั้นพ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 74

    อีกด้านหนึ่ง สี่หมัวมัวกลับไปที่ตำหนักคุนหนิงแล้วก็เอ่ยปากชมเจียงเฟิ่งหัวไม่หยุด ยังนำนางไปเปรียบเทียบกับซูถิงหว่าน ชมว่าฮองเฮาทรงมีวิสัยทัศน์ที่ดีฮองเฮาตรัสว่า “นางเป็นลูกสะใภ้ที่ข้าเลือกเองกับมือ ข้าก็มองเห็นข้อนี้ แต่การที่นางได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้ แสดงว่านางก็ยังพอมีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง ถ้านางทุ่มเทใจให้กับซางเอ๋อร์ ข้าจะยกย่องนางก็คงไม่เสียหายอะไร”หากไม่เป็นเช่นนั้น การละทิ้งนางก็ไม่เป็นไร ขึ้นอยู่กับว่านางมีค่าพอที่จะอยู่เคียงข้างซางเอ๋อร์หรือไม่ถึงอย่างไรก็มิใช่บุตรสาวแท้ ๆ ของตน ตราบใดที่เจียงเฟิ่งหัวรักษาภาพลักษณ์ได้ดี ต่อให้นางแสร้งปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ก็ไม่เป็นไร“ซางเอ๋อร์ฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ข้าก็วางใจได้เสมอ เพียงแต่ในใจเขายังคงคิดถึงซูถิงหว่านอยู่ตลอด และยังไม่ได้ร่วมหอกับเจียงเฟิ่งหัว”สายตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยความกังวล “ซูกุ้ยเฟยต้องการให้สตรีคนหนึ่งมาควบคุมบุตรชายของข้า ข้าจะไม่มีวันยอมให้นางสมหวัง ในเมื่อเจียงเฟิ่งหัวเข้าวังมาแล้ว ก็ให้นางทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด”สี่หมัวมัวกลอกตา “ไม่มีพระชายารองซูอยู่ ก็เป็นโอกาสให้ท่านอ๋

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 75

    แล้วก็ไม่รู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวทำอย่างไร เฉิงฮองเฮาเสด็จเข้าไปในตำหนักเฉินซีแล้วก็ไม่ได้เสด็จออกมาอีกเลย ประตูตำหนักปิดอยู่ตลอด ดูลึกลับน่าสงสัยยามราตรีมาเยือน นอกตำหนักเฉินซี จู่ ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้น เซี่ยอวี้ได้รับคำแนะนำจากใครบางคนให้แอบเข้ามา เนื่องจากเป็นตำหนักที่ว่างเปล่าไม่มีขันทีเฝ้าอยู่ เขาจึงเข้ามาได้อย่างสะดวกเซี่ยอวี้ไม่ชอบเซี่ยซางมาโดยตลอด เมื่อได้ยินว่าพระชายาที่เซี่ยซางแต่งงานด้วยนั้นงดงามราวกับบุปผา แต่เขากลับหลงใหลพระชายารอง เขาจึงด่าทอ “ช่างโง่เขลาเสียจริง มีสตรีที่งดงามเช่นนี้แต่ไม่สนใจ ว่าแต่พระชายาเหิงอ๋องจะงดงามสักเพียงใด ข้าจะต้องไปดูให้เห็นกับตา”ตำหนักเฉินซีทั้งตำหนักอยู่ในความมืดมิด มีเพียงห้องบรรทมห้องเดียวเท่านั้นที่มีแสงสว่าง นางกำนัลเฝ้าอยู่ด้านนอกครู่หนึ่งก็จากไปเซี่ยอวี้ค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ห้องบรรทม ผ่านทางหน้าต่าง เขาได้ยินเสียงครางอันน่าหลงใหลดังออกมาจากข้างในเซี่ยอวี้ยิ่งรู้สึกทนไม่ไหว อย่างไรเสียเซี่ยซางก็ยังปรึกษาหารือเรื่องบ้านเมืองกับเสด็จพ่ออยู่ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ชอบสตรีผู้นี้ แค่มองสักหน่อยจะเป็นไรไป ในเมื่อเขาไม่ต้องการ ก็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 76

    เซี่ยซางฟังแล้วก็เข้าใจได้ในทันที เซี่ยอวี้ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ฮองเฮาและสี่หมัวมัวหญิงชราสองคนนี้ แต่พุ่งเป้ามาที่เจียงเฟิ่งหัวผู้งดงามราวกับบุปผาทว่าเจียงเฟิ่งหัวไม่เคยพบเซี่ยอวี้มาก่อน ยิ่งไม่รู้จักเขา แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าเจียงเฟิ่งหัวพักอยู่ที่ตำหนักเฉินซี นอกเสียจากว่ามีคนต้องการทำร้ายเจียงเฟิ่งหัว จงใจทำเช่นนี้เซี่ยอวี้ถูกต่อยตีจนต้องร้องขอชีวิตไม่หยุด ฮ่องเต้ก้าวเข้าไปเตะเขาอีกที “ลูกทรพี เหตุใดเจ้าถึงได้ไปที่ตำหนักเฉินซี วันนี้ถ้าเจ้าไม่พูดความจริง เราจะฆ่าเจ้าเสีย”เซี่ยอวี้ตกใจกลัวจนตัวสั่น “ลูกไม่เคยเห็นพระชายาเหิงอ๋องมาก่อน เพียงแต่ได้ยินว่านางงดงาม จึงอยากมาดูสักหน่อย ลูกไม่มีเจตนาอื่นจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แค่มาชื่นชมความงามอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้น เจียงเฟิ่งหัวเป็นภรรยาของเหิงอ๋อง ต่อให้ลูกคิดอกุศล ก็ไม่มีความกล้าหรอกพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโปรดไว้ชีวิตด้วย ลูกแค่มาดูจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”การดูมีโทษเบากว่าการทำมาก เขาจึงยืนยันคำให้การนี้เวลานี้ ฮองเฮาแต่งกายเรียบร้อยแล้ว เดินตรงไปที่ข้างหน้าเขาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม “เจ้าเตรียมตัวมาดูอย่างไร มาโดยไม่ได้รับเชิญ ผลักประตูแล้วแอบบุก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 77

    ฮ่องเต้เหลือบมองนางแวบหนึ่ง “เรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่?”ฮองเฮาแอบโทษตัวเองที่ใจร้อนปากไว จึงตรัสว่า “ทูลฝ่าบาท เรื่องมีอยู่ว่า เฟิ่งหัวเจ้าเด็กนั่นไปคัดลอกพระคัมภีร์ที่ศาลบรรพชน หม่อมฉันเกรงว่านางจะจำทางไม่ได้ จึงให้สี่หมัวมัวส่งคนไปดูแล พวกนางบังเอิญพบว่ามีคนสะกดรอยตามพระชายาเหิงอ๋อง หม่อมฉันกลัวว่านางจะกลัว จึงไม่ได้บอกนาง ใครจะไปคิดว่าในตอนกลางคืนจู่ ๆ เซี่ยอวี้จะบุกเข้าไปในตำหนักเฉินซี หม่อมฉันจึงคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในตอนกลางวันหรือไม่ คนที่สะกดรอยตามเฟิ่งหัวเป็นคนของตำหนักซูกุ้ยเฟย ดังนั้นหม่อมฉันจึงเดาว่าซูกุ้ยเฟยส่งนางกำนัลไปชักนำอวี้อ๋องให้ทำเรื่องไม่ดีกับเฟิ่งหัวหรือไม่ จิตใจชั่วร้ายถึงเพียงนี้ ซูชิงชิง เจ้าก็ทำได้ลงคอ”ฮ่องเต้ทรงหรี่ตาลงเล็กน้อย ตรัสถามซูกุ้ยเฟย “คนของตำหนักเจ้าไปสะกดรอยตามพระชายาเหิงอ๋องทำอันใด?”ซูกุ้ยเฟยแสดงสีหน้าน้อยใจ ราวกับถูกใส่ร้ายจริง ๆ “ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ให้นางกำนัลไปสะกดรอยตามพระชายาเหิงอ๋อง และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งไม่เคยใช้ให้นางกำนัลไปยุยงอวี้อ๋องให้ทำอะไรพระชายาเหิงอ๋อง ขอฝ่าบาททรงตรวจสอบให

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 78

    ฮ่องเต้ทรงมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือซูกุ้ยเฟย ส่วนฮองเฮาก็รู้ทั้งรู้ว่ามีคนสะกดรอยตามเจียงเฟิ่งหัว แต่นางก็ใช้ประโยชน์จากเจียงเฟิ่งหัวแล้วต่อสู้กับซูกุ้ยเฟยได้ยินเพียงฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลากนางกำนัลปากมากที่ชอบพูดจาเหลวไหลผู้นี้ออกไปโบยให้ตาย ผู้ใดกล้าสร้างความวุ่นวายในวังหลัง นางผู้นี้คือบทเรียน”เจียงเฟิ่งหัวมองดูเหตุการณ์นี้ด้วยสายตาเย็นชา นี่แหละคืออำนาจของราชวงศ์ ไม่ว่าพวกเขาจะทำผิดใหญ่หลวงแค่ไหน สุดท้ายก็แค่ลากนางกำนัลออกมาเป็นแพะรับบาป ทุกเรื่องก็สามารถกลายเป็นเรื่องเล็กได้หากวันนี้นางถูกเซี่ยอวี้ล่วงเกิน นางก็สมควรแล้ว ชาติที่แล้วก็เหมือนกัน นางถูกผู้อื่นใส่ร้าย สุดท้ายเป็นเหลียนเย่ที่ยอมรับผิดทุกอย่างแทนนาง ท้ายที่สุดแล้วเหลียนเย่ก็ถูกพวกเขาโบยจนตายนางรู้ดีว่ามีเพียงการกุมอำนาจไว้ในมือเท่านั้น นางถึงจะเป็นผู้ลงทัณฑ์คนอื่นได้ มิใช่ถูกคนอื่นลงทัณฑ์นางไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องวันนี้ นางเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ที่สุด อย่างมากก็แค่เป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า เมื่อเทพเซียนต่อสู้กัน มนุษย์ก็จะรับเคราะห์ไปด้วยนางเป็นแค่เหยื่อคนหนึ่งเท่านั้น ยิ่งได้ร

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 79

    เซี่ยซางยกยิ้มมุมปากขึ้นบาง ๆ “ข้าก็ไม่ชอบที่นี่เหมือนกัน ไปตำหนักที่ข้าเคยอยู่กันเถอะเถิด”เขาจูงมือพานางออกจากห้องบรรทมอย่างช้า ๆ สายลมพัดมาเบา ๆ ทำให้เกิดระลอกคลื่นเล็ก ๆ นิ้วมือของเซี่ยซางบีบแน่นขึ้น เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกได้ว่าเขาประหม่าเล็กน้อยเวลานี้ จู่ ๆ สี่หมัวมัวก็เดินเข้ามาต้อนรับ พอเห็นทั้งสองคนจูงมือกัน นางก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที “บ่าวขอถวายบังคมท่านอ๋อง พระชายาเพคะ”“ข้าจะพาพระชายาไปอยู่ที่เรือนหลัก รบกวนสี่หมัวมัวไปเตรียมการด้วย!” เซี่ยซางพูดกับนางเช่นนี้ สี่หมัวมัวก็ย่อมเข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไรสี่หมัวมัวรับคำสั่งแล้วก็รีบไปจัดการทันทีชาติที่แล้ว เจียงเฟิ่งหัวฝันอยากจะมาอยู่ที่เรือนหลัก แต่น่าเสียดาย...ชาตินี้ เซี่ยซางพานางมาที่นี่ด้วยตัวเอง นางรู้ว่านางจะได้ใช้เวลาช่วงค่ำคืนอันแสนวิเศษร่วมกับเขาที่นี่ แม้ในอนาคตเขาจะได้เป็นรัชทายาท นางก็จะทำให้เขาระลึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยมีร่วมกันที่นี่สภาพแวดล้อมของเรือนหลักนั้นดีกว่ามากจริง ๆ การตกแต่งงดงามอลังการ ตำหนักใหญ่โตโอ่อ่า ทุกสิ่งล้วนแสดงถึงอำนาจและความมั่งคั่งของราชวงศ์รอจนกระทั่งสี่หมัวมัว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 80

    แสงเทียนส่องสว่างไสวไปทั่วทั้งเรือน นางกำนัลปรนนิบัติเจียงเฟิ่งหัวอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ต่างตกตะลึงในผิวพรรณอันไร้ที่ติ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นของนาง แม้แต่พระสนมในวังก็ยังไม่มีทรวดทรงที่งดงามเย้ายวนเช่นนี้นางกำนัลอดหน้าแดงไม่ได้ จ้องมองใบหน้าอันงดงามของนางอย่างไม่วางตาเซี่ยซางผลักประตูเข้าไปในตำหนักด้านข้างโดยไม่รู้ตัว เหล่านางกำนัลเห็นเข้าก็รีบคารวะ “ท่านอ๋อง”“พวกเจ้าทั้งหมดออกไปเถิด ที่นี่ไม่ต้องให้พวกเจ้าคอยรับใช้แล้ว” เซี่ยซางรูปร่างสูงสง่า น้ำเสียงเย็นชาหนักแน่นไม่อาจโต้แย้งได้ ดวงตาลึกล้ำเปล่งประกายนางกำนัลรับคำแล้วรีบถอยออกไป ของใช้ในห้องน้ำทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้อย่างครบครัน ชุดนอนของพวกเขาถูกแขวนไว้บนราวข้าง ๆ ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้นางกำนัลอีกแล้วเจียงเฟิ่งหัวเห็นเขาเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ก็รีบจุ่มตัวลงไปในน้ำจนมิด เส้นผมสีดำขลับดุจดั่งน้ำตก แผ่สยายปกคลุมไปทั่วผิวน้ำในชั่วพริบตา บดบังความงดงามในอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นเพียงใบหน้างดงาม นางเอ่ยเร่งด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ท่านอ๋องรีบออกไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จ”“ส่วนไหนของเจ้าที่ข้ายังไม่เคยเห็นบ้าง” เขาเคยเห

Bab terbaru

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status