Share

บทที่ 208

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เจียงเฟิ่งหัวได้ยินเขาเรียกขานเป็นพี่เป็นน้องกับเซี่ยซางก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาทันที ยิ่งรำคาญที่เขาเอาแต่เรียกน้องสะใภ้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยการเสแสร้งแกล้งทำเป็นเคร่งขรึมจริงจัง

นางก็ไม่คิดจะไว้หน้าจีเฉิน “ที่นี่เป็นฝ่ายในของจวนอ๋อง คุณชายจีอย่าได้บุกเข้ามาง่ายๆ จะดีกว่า เพราะต่อให้คุณชายจีเป็นพี่บุญธรรมของชายารองซู ทว่าก็ยังเป็นเพียงพี่ชายบุญธรรมเท่านั้น คนมากปากก็มาก คุณชายจีอย่าให้ชายารองซูต้องถูกคนวิพากษ์วิจารณ์จะดีกว่า”

กล่าวจบ นางก็ยืดหลังตรงแล้วเดินจากไปทันที

จีเฉินตะลึงไป จากนั้นมุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มบางๆ ขึ้นมา ช่างเป็นปากที่คมกล้านัก ช่างเป็นหญิงที่งดงามมากสามารถไร้ผู้เปรียบจริงๆ

......

เซี่ยซางสะกดกลั้นความขุ่นเคืองมาหลายวัน ในที่สุดก็อดถามหลินเฟิงไม่ได้ “หลายวันมานี้เจ้ามัวไปอยู่ที่ใดมา?”

หลินเฟิงถูกถามจนมึนงง “ข้าน้อยก็คอยติดตามท่านอ๋องอยู่ตลอด มิได้ไปที่ใดเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ความโมโหของเซี่ยซางพวยพุ่ง “ปกติเจ้าไม่ได้ชอบวิ่งมั่วไปทั่วหรือ? ทำไมตอนนี้ถึงได้ว่านอนสอนง่ายนักเล่า”

หลินเฟิงจึงตระหนักได้ขึ้นมา หลายวันมานี้ท่านอ๋องล้วนมิได้ไปที่หอหล่านเยว่ หลังกลับจากหอเซียงหย่าก็ทร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 209

    ในเวลานี้ สองสามีภรรยาต่างมีความคิดของตน แต่ล้วนมิได้อยู่ในระดับเดียวกันหลังเซี่ยซางที่เต็มไปด้วยทระนงตนของผู้ที่เหนือกว่าฝืนต่ออย่างไร้ทางออกครู่หนึ่ง ก็หยิบเอกสารบนโต๊ะหนังสือมาก้มหน้าก้มตาอ่านอีกครั้ง เขาจะรอให้เจียงเฟิ่งหัวเป็นฝ่ายก้มหัวมาขอร้องเขาในยามทำงาน เขาไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งใดทั้งสิ้น เครื่องหน้าทั้งห้าอันห้าวหาญทั้งของเขาคมชัดเด่นเป็นสัน ภายในดวงตาอันลึกล้ำเปล่งประกายสว่างไสว เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเจียงเฟิ่งหัวยอมรับว่า ท่าทางตั้งอกตั้งใจทำงานของเซี่ยซางชวนให้คนมีเสน่ห์อย่างมาก เขาเป็นคนประเภทที่ทำให้สตรีหลงใหล และก็รู้ว่าตอนนี้เขากำลังเอาแต่ใจ ยามปกติล้วนเป็นนางที่เป็นฝ่ายไปกล่อมเขา เขาคงจะเคยชินแล้วกระมัง! นางก็ไม่ขอร้องเขาแล้ว อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ!นางก็เตรียมจะเป็นฝ่ายแข็งสักครั้ง หมุนกายเตรียมเดินออกจากประตูไปทันทีเซี่ยซางจึงประชดประชันขึ้นมาว่า “จะไปเช่นนี้ เจ้าไม่อยากรู้เรื่องของหลี่เฉิงคู่หมั้นของจางอวี่มั่วแล้วหรือ? จะอย่างไรเจ้าก็ใส่ใจพวกเขาถึงเพียงนั้น” แต่กลับไม่เคยใส่ใจข้าเช่นนี้เลยก่อนเจียงเฟิ่งหัวจะมาได้จงใจแต่งกายมาก่อน กิริยาของนางอ่อนช้อยงดงา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 210

    นางแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาทว่าคำพูดแฝงนัย นี่ก็คือกำลังฟ้องแล้ว และก็เป็นการอธิบายว่าทำไมนางจึงไม่ไปหาเขาด้วยเซี่ยซางรู้ว่าหวานหว่านจะต้องทำเช่นนั้นแน่ ช่วงนี้หวานหว่านก็ว่าเป็นเด็กดีไม่น้อย ตั้งใจเรียนอย่างมาก แถมยังขอให้เขาไปแนะนำอีกด้วย ประกอบกับที่ในใจเขามีโทสะอยู่ จึงไปที่เรือนถานเซียงเสียเลย“เจ้าหึงหรือ?”เจียงเฟิ่งหัวด่าอยู่ในใจ ชายชาติสุนัข ต้องให้สตรีหึงหวงแย่งชิงเจ้า เจ้าจึงจะรู้สึกเหนือกว่าใช่หรือไม่!นางนั่งเบี่ยงตัวออกไปแล้วพูดอย่างอ่อนแอว่า “หม่อมฉันอยากพบท่านอ๋อง แต่ท่านอ๋องไม่อยากพบหม่อมฉันนี่เพคะ ในใจของหม่อมฉันรู้สึกทรมานมาก อึดอัดไปหมด ราวเจ็บป่วยเลยเพคะ”ในดวงตาของเซี่ยซางเต็มไปด้วยความเอ็นดู เขาดันตัวนางให้ตรงกลับมา มือทั้งสองข้างโอบเอวของนางให้แนบชิดเข้ากับร่างของเขา แล้วจุมพิตหน้าผากของนาง “ตอนนี้ยังรู้สึกทรมานอยู่อีกหรือไม่?”มุมปากของเจียงเฟิ่งหัวปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา แก้มเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ส่ายหัวอย่างเขินอาย “ไม่ทรมานแล้วเพคะ”เครื่องหน้าของนางงดงามคิ้วตาราวกับวาด ไม่ว่าจะขมวดคิ้วหรือแย้มยิ้มล้วนเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เซี่ยซางเห็นนางเบิกบานก็จุมพิตลงบนริมฝีปา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 211

    นางได้รู้จากเซี่ยซางว่า ที่วันนั้นเกือบจะเกิดเรื่องร้ายกับจางอวี่มั่วเป็นแผนการของหลี่เฉิงจริงๆ และหลังจากที่บุรุษพวกนั้นถูกเขานำตัวไปก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลี่เฉิงมิใช่คนดี แต่เพราะเขาเป็นบุตรชายของเจ้ากรมกลาโหม ยามเขาทำเรื่องชั่วร้ายเลวทรามอยู่ในค่ายทหารจึงไม่เคยถูกลงโทษ กระทั่งบังคับขืนใจสตรีดีงาม เมื่อจบเรื่องยังมีคนมาแบกรับความผิดแทนเขาอีก ภาพลักษณ์ของเขาดีงามมาตลอด ทว่าแท้ที่จริงแล้วภายในทั้งสกปรกและน่าขยะแขยง เซี่ยซางก็ใช้ความสัมพันธ์มากมายไปแอบสืบในค่ายทหารอย่างลับๆ จึงได้สืบพบ“หากจะบอกว่าเจ้ากรมหลี่ไม่รู้ถึงสิ่งที่ลูกชายเขากระทำ ก็เป็นการหลอกผีสางแล้ว” ดวงตาของเซี่ยซางฉายความเย็นชาออกมา ตอนนี้ข้าเพียงแค้นที่ไม่อาจยื่นมือเข้าไปลึกเกินไป ไม่อาจดึงเจ้ามอดแมลงพวกนี้ออกมาได้”หลังจากที่เจียงเฟิ่งหัวได้ฟังก็ไม่ได้ประหลาดใจมากนัก “ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องตำหนิตนเอง เขาเป็นบุตรชายของขุนนางใหญ่ขั้นสอง ในมือมีอำนาจเทียมฟ้า เบื้องล่างมีพวกประจบเอาใจจำนวนมาก” การแตะเพียงจุดเดียวอาจส่งผลกระทบไปทุกส่วน ก่อนหน้านี้ที่จัดการกับหยางจิ้งของกรมอาญา ก็ไม่ส่งผลดีกับราชสำนักต้าโจวเท่าใดนัก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 212

    นางยอมรับว่าตนเองมิใช่คนใจดีอะไร เพราะคนใจดีล้วนอายุสั้นในไม่ช้า เจียงเฟิ่งหัวก็เปิดเผยข่าวนี้ต่อเจียงจิ่นเหยียนอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจหลังเจียงจิ่นเหยียนได้รู้ ภายในใจก็เกิดการดิ้นรนเป็นอย่างมากหากชีวิตหลังการแต่งงานของจางอวี่มั่วไม่มีความสุข หรือนางได้รู้ว่าเป็นหลี่เฉิงจงใจวางแผนใส่นาง วันนั้นยิ่งเป็นหลี่เฉิงจงใจให้คนมาทำให้นางอับอาย แล้วนางจะทำเช่นใด?จางอวี่มั่วเป็นสตรีที่ดีงามและมีความสามารถอย่างยิ่ง นางไม่ควรถูกปฏิบัติเช่นนี้ที่จางอวี่มั่วยอมแต่งงานกับหลี่เฉิง อาจเป็นเพราะนางถูกเขาทำให้เสียใจอย่างลึกซึ้ง จึงได้ตอบตกลงการของแต่งงานของสกุลหลี่เจียงจิ่นเหยียนได้ดึงเรื่องนี้มาไว้กับตัวอีกแล้วโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับที่สวี่อิ๋งถูกทำร้ายในปีนั้น เขาก็ไม่อาจให้อภัยตนเองเช่นเดียวกันหลังออกมาจากที่ทำงาน เขาก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่กี่วันจากนั้น เขาก็ตั้งใจไปตรวจสอบเรื่องหลี่เฉิงเป็นพิเศษที่หลี่เฉิงกลับมาเมืองหลวงก็เพื่อแต่งงาน แต่เขายังคงแอบปลอมตัวออกไปดื่มสุราเคล้านารีอย่างลับๆ บุรุษเช่นนี้จะชอบจางอวี่มั่วอย่างจริงในอย่างนั้นหรือ?ยิ่งใกล้วันแต่งงานของจางอวี่มั่ว เจียงจ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 213

    ในวันเทศกาลไหว้พระจันทร์เจียงเฟิ่งหัวและซูถิงหว่านล้วนแต่งกายอย่างประณีตมาปรากฏตัวต่อหน้าเซี่ยซาง “หม่อมฉันคารวะท่านอ๋องเพคะ”“อืม ไปกันเถอะ!” เซี่ยซางสวมอาภรณ์หรูหรา ทั่วทั้งร่างเปล่งประกายความสูงศักดิ์และความน่ายำเกรง เขาเป็นฝ่ายไปประคองเจียงเฟิ่งหัวขึ้นรถม้า จากนั้นก็จะขึ้นไปเพียงลำพังด้วยความเคยชินซูถิงหว่านแต่งกายด้วยชุดกระโปรงที่ทำจากผ้าไหมสีขาวกระจ่างดุจหิมะยาวระพื้น ดูเหมือนชายกระโปรงจะจำกัดความเคลื่อนไหวของนาง นางจึงกล่าวเบาๆ ว่า “ท่านอ๋องก็ทรงประคองหม่อมฉันด้วยสิเพคะ”เซี่ยซางจึงได้ตระหนักขึ้นมา ยามปกติซูถิงหว่านไม่ค่อยใส่ใจเรื่องกิริยา สามารถขึ้นลงรถม้าได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดถึงนาง คิดว่านางจะตามขึ้นมาได้เองเซี่ยซางก็มิได้คิดมาก ก็แค่เรื่องง่ายๆ เพียงยื่นมือเท่านั้น เขาจึงยื่นมือไปให้ซูถิงหว่าน ในตอนที่มือของนางถูกเซี่ยซางกุมไว้ในฝ่ามือ นางถึงสาวเท้าน้อยๆ เหยียบขึ้นไปบนบันไดขึ้นรถม้าอย่างชดช้อยในวินาทีถัดมา อาจเป็นเพราะนางเหยียบถูกชายกระโปรงของตนเข้า ร่างกายจึงโอนเอนตกไปในอ้อมแขนของเซี่ยซาง ริมฝีปากของนางประทับจูบลงบนคางของเซี่ยซางอย่างไม่ทันระวัง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 214

    เด็กๆ กล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยความเคารพว่า “หลานคารวะเสด็จอาห้าและเสด็จอาสะใภ้ห้า”เจียงเฟิ่งหัวเตรียมการไว้ก่อนแล้วและได้นำสาวใช้เข้าวังมาด้วย นางรับถุงผ้าจากเหลียนเย่มาสามใบ แล้วยื่นไปยังเบื้องหน้าของเด็กทั้งสาม ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ยื่นถุงผ้าสีชมพูไปที่เบื้องหน้าของเด็กหญิง “เจ้าคือเวยเอ๋อร์สินะ รูปโฉมงดงามจริงๆ อาสะใภ้ห้าเตรียมของขวัญแรกพบหน้าไว้ให้เจ้า หวังว่าเวยเอ๋อร์จะชอบนะ”เซี่ยเวยเบิกตากว้างรับถุงผ้า นางยิ้มอย่างเขินอายบนใบหน้า พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงกังวานสดใสว่า “ขอบพระทัยเสด็จอาสะใภ้ห้าเพคะ อาสะใภ้ห้างดงามเหลือเกิน ทรงเหมือนกับเทพธิดาเลยเพคะ”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็ยื่นถุงผ้าสองใบยังเบื้องหน้าของเด็กชายอีกสองคนที่อายุมากขึ้นมาหน่อย “เจ้าคือฉีเอ๋อร์ ส่วนเจ้าคืออวี้เอ๋อร์สินะ”เมื่อเซี่ยฉีกับเซี่ยอวี้ได้ฟังก็กล่าวพร้อมกันว่า “เสด็จอาสะใภ้ห้าไม่เคยพบพวกเรามาก่อน เหตุใดจึงรู้ชื่อพวกเราได้พ่ะย่ะค่ะ”เจียงเฟิ่งหัวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาสะใภ้ห้าจะเตรียมของขวัญพบหน้าให้พวกเจ้า ก็ย่อมต้องรู้ถึงความชอบของพวกเจ้า ข้ายังรู้ด้วยว่าฉีเอ๋อร์เข้าศึกษาที่สำนักศึกษาหลวงแล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 215

    “ฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จ” เสียงตะโกนแหลมสูงของขันทีดึงสายตาของทุกคนกลับมาทุกคนพากันถวายความเคารพต่อฮ่องเต้และฮองเฮาอย่างนอบน้อมรอจนฮ่องเต้และฮองเฮานั่งลงบนตำแหน่งที่อยู่เหนือขึ้นไปแล้ว คนทั้งหลายจึงได้กลับไปนั่งที่ตำแหน่งของตนหลังจากสนทนาทักทายตามมารยาทอีกรอบ เสียงวงดนตรีที่ประกอบไปด้วยเครื่องขลุ่ย ซอเอ้อหู และผีผาก็ค่อยๆ ดังอ้อยอิ่งขึ้นมาอย่างช้าๆไม่ว่าฮองเฮาจะได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้หรือไม่ นางย่อมนั่งอยู่ข้างกายของฮ่องเต้เสมอ วินาทีถัดมา เจียงเฟิ่งหัวก็เห็นฉากที่ทำให้นางรู้สึกทั่วร่างแตกเป็นเสี่ยงๆ นางเห็นฮ่องเต้ทรงปอกส้มลูกหนึ่งด้วยพระองค์เอง จากนั้นชิมด้วยตนเองก่อนครึ่งหนึ่ง แล้วจึงยื่นอีกครึ่งให้ฮองเฮา ฮองเฮาคร้านจะรับจึงยื่นหน้าเข้าไป ส้มครึ่งชิ้นนั่นจึงเข้าสู่ปากของฮองเฮาไปอย่างง่ายดายเช่นนั้นเจียงเฟิ่งหัวตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ไม่ได้เข้าวังมาไม่กี่เดือน ในวังหลวงเกิดสิ่งใดขึ้นกันนี่?ต่อให้นางกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งนางก็รู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดให้ประหลาดใจแล้ว เนื่องจากโลกนี้กว้างใหญ่นัก เรื่องแปลกอัศจรรย์นั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน ทว่าการกระทำนี้ของฮ่องเต้กับฮองเฮา ทำให้น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 216

    เจียงเฟิ่งหัวพบว่าซูถิงหว่านและซูชิงชิงล้วนหายตัวไปแล้ว คิดว่าพวกนางหมายมั่นที่จะช่วงชิงให้เป็นแน่ต่อมา ผู้ที่หลั่งไหลเข้ามาลงชื่อยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พระชายาขององค์ชายสามและพระชายาขององค์ชายสี่ก็คิดจะแสดงทักษะของตนออกมาเช่นกันเหล่านางสนมก็ไม่ยอมน้อยหน้า ทุกคนล้วนมองอย่างตื้นเขินว่า ขอแค่ได้รับรางวัลจากฝ่าบาทก็เพียงพอให้พวกนางโอ้อวดไปได้ชั่วชีวิตแล้วเจียงเฟิ่งหัวกับเซี่ยซางปรึกษากันไว้แต่แรกแล้วว่าจะบรรเลงเพลง ‘ถ้อยวจีแห่งผีผา’ ร่วมกัน แม้บทเพลงจะจบลงแล้ว ทว่าความซาบซึ้งที่สั่นสะเทือนไปถึงดวงจิตทำให้ทุกคนไม่อาจถอนสติกลับคืนมาได้เป็นเวลานาน เสมือนหนึ่งว่าพวกเขาได้เข้าสู่สภาวะลืมตน แม้แต่ผีเสื้อในอุทยานหลวงได้ฟังก็ยังตกอยู่ในห้วงแห่งความหลงใหล พวกมันเกาะอยู่บนไหล่ของคนทั้งสอง ถึงกับลืมเลือนที่จะกระพือปีกโบยบินเสียงร้องของพระชายาเหิงอ๋องยิ่งราวกับเสียงคีตาจากสรวงสวรรค์ ท่วงทำนองบนปลายนิ้วของนางราวทะลุผ่านชั้นเมฆา ท่องผ่านภูผาสูง ไปปลุกความฝันอันหลับใหลทุกคนถึงกับลืมปรบมือและส่งเสียงร้องชื่นชม ตราบจนเหิงอ๋องและพระชายาเหิงอ๋องจับมือกันลงจากเวที ทุกคนจึงได้สติกลับคืนมา จากนั้นก

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status