“ข้า… ข้า… ข้าทำได้!”เฉาอี้เอ่ยอย่างตะกุกตะกักหลิงหว่านยิ้มทันทีแล้ววิ่งเข้าไปลากแขนของเฉาอี้ “พี่เฉา มาเถิด ไปพบแม่ของข้า...”แม้ว่าป้าสะใภ้ใหญ่จะได้ยินหลิงอวี๋บอกไว้แล้วว่ายังมีตัวเลือกผู้นี้อยู่ แต่นางได้เจอเฉาอี้อย่างกะทันหัน มิได้เตรียมตัวเลยแม้แต่น้อย“ท่านพี่เฉา เช่นนั้นวันนี้เรามาหมั้นกันเถิด! เมื่อเราหมั้นกันแล้ว ท่านแม่ของข้าก็จะเป็นท่านแม่ของท่านพี่ ท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อย ๆ ได้ตั้งมากมายเลย ต่อไปท่านพี่ก็จะได้กินอาหารอร่อย ๆ ตลอดแล้ว…”“ท่านแม่...” เฉาอี้โพล่งออกมาอย่างโง่เขลาทันใดนั้นสีหน้าของเผยอวี้ก็มืดมนลง เขาพุ่งเข้าไปดึงเฉาอี้ออกแล้วด่าด้วยใบหน้าบึ้งตึง “เฉาอี้ อย่ามาแย่งภรรยาของข้า! เจ้าไปเสีย...ไปให้พ้นทางเลย! “เฉาอี้ถูกเขาผลักออกไปด้านข้าง แต่เขาก็ยังเข้ามาอย่างมิยอมแพ้แล้วยิ้มพลางเอ่ย“ข้าเรียกนางว่าท่านแม่แล้ว… ท่านแม่ เลือกข้าเป็นลูกเขยเถิด! ข้าจะปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดีแน่นอน!”“เฉาอี้ เจ้าอยากสู้กับข้ารึ?”เผยอวี้กังวล แล้วผลักเฉาอี้ “หากเจ้ามิถอยไป ก็มาคุยกันด้วยหมัด!”หลิงหว่านมิพอใจ นางมองเผยอวี้ด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว “แม่ทัพเผย นี่คือบ้านข
“อวี้เอ๋อร์! มิได้เด็ดขาดนะ!”ฮูหยินเผยร้อนใจจนก้าวไปดึงเผยอวี้ไว้ นางจะปล่อยให้ลูกชายของตนเป็นลูกเขยแต่งเข้าได้เยี่ยงไรกัน!“ลุกขึ้น! แม่… แม่จะสู่ขอให้เจ้าเอง!”ตราบใดที่เขามิต้องเป็นเขยแต่งเข้า ฮูหยินเผยก็ยอมตกลงทั้งนั้นพูดแล้ว นางก็ฝืนยิ้มมองไปทางฮูหยินหลิง “ฮูหยินหลิง ข้าทำผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ ท่านเห็นด้วยการแต่งงานของเผยอวี้กับหลิงหว่านเถิด!”ป้าสะใภ้ใหญ่รู้สึกเสียใจกับหลิงหว่าน นางมิรู้ว่าควรเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้หรือไม่!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินเผยถูกบังคับให้เห็นด้วยเรื่องการแต่งงาน หากหลิงหว่านแต่งงานไปแล้วจะมีชีวิตที่ดีหรือ?หลิงหว่านปฏิเสธ “ฮูหยินเผย ขอบคุณในเจตนาดีของท่าน! ท่านพาลูกชายของท่านกลับไปเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงหว่านเองก็มีความเย่อหยิ่งของตัวเองเช่นกัน เมื่อครู่ฮูหยินเผยทำให้ตนกับท่านแม่อับอาย หากนางตกลงเช่นนี้ มันจะมิทำให้ตระกูลหลิงดูด้อยกว่าหรือ?!หลิงอวี๋มองอยู่ข้าง ๆ นางมิอยากเกลี้ยกล่อมฝ่ายใดเลยการแต่งงานเป็นเรื่องตลอดชีวิต หากหลิงหว่านรู้สึกคับข้องใจ ต่อไปนางกับเผยอวี้ก็จะไม่มีทางมีชีวิตที่ดีนางแค่หวังให้น้องสาวของตนมีความสุข มิว่าหลิงหว่านจะเลือกใค
เลือกเวลามิสู้วันที่เหมาะสม ฮูหยินผู้เฒ่าเผยตัดสินใจขอแต่งงานกับหมั้นหมายพร้อม ๆ กันไปเลย พวกของหมั้นก็ให้พ่อบ้านตระกูลเผยจัดการเตรียมให้ครบแม่สื่อก็เขียนหนังสือหมั้นของหลิงหว่านกับเผยอวี้ภายใต้การเร่งของฮูหยินผู้เฒ่าเผยด้วยเพราะยังหาบิดาของหลิงหว่านมิพบ งานแต่งงานจึงมีกำหนดคร่าว ๆ ในเดือนห้าปีหน้าหลิงอวี๋ให้สุ่ยหลิงจองโต๊ะกินเลี้ยงสองสามโต๊ะที่ภัตตาคารจี๋เสียง แล้วทั้งสองตระกูลก็จัดงานเลี้ยงหมั้นร่วมกันอีกทั้งหลิงอวี๋ยังพาหลิงหว่านกับเผยอวี้ไปเชิญท่านอดีตเสนาบดีด้วยตนเองด้วยท่านอดีตเสนาบดีมิรู้เรื่องที่หลิงเยี่ยนกับแม่ของนางทำ ครั้นได้ยินว่าหลิงหว่านหมั้นจึงตกใจ“เหตุใดจึงเร็วเพียงนี้?”หลิงหว่านมิอยากให้ท่านอดีตเสนาบดีมิชอบครอบครัวของลุงรองของนาง จึงยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ย “ท่านปู่ หว่านเอ๋อร์หมั้นแล้ววันนี้ ท่านมิดีใจกับหว่านเอ๋อร์หรือเจ้าคะ?”เผยอวี้ยิ้มอย่างเอาอกเอาใจแล้วเอ่ย “ท่านปู่ ท่านแม่ของข้าคิดว่าอีกมินานข้าจะถูกส่งไปเฝ้าที่ชายแดนแล้ว อยากกำหนดเรื่องการแต่งงานของข้ากับหว่านเอ๋อร์ก่อนที่ข้าจะไป ดังนั้นจึงหมั้นกันก่อนในวันนี้!”“ท่านปู่ ท่านหาอย่าได้ต้องกังวลขอรับ ข้
หลิงอวี๋กำลังหลอกตนเองหรือไม่?หวางซือก้มหน้าลงแล้วดุ “หลิงอวี๋ อย่าเอ่ยวาจาไร้สาระ ข้าให้สินสอดแม่เจ้าไปหมดแล้ว เจ้าจะเอารายการที่ใดมิรู้มาปล้นเอาทรัพย์สินในตระกูลไปมิได้กระมัง!”หลิงเสียงเซิงตะคอกด้วยความโกรธ “หลิงอวี๋ เจ้าจะมิมากเกินไปหน่อยรึ? ข้าเลี้ยงดูเจ้ามาหลายตั้งปี มิได้มีความดีความชอบอะไรแต่ก็ถือว่าทำมาอย่างยากลำบาก!”“เจ้ามิรู้สึกขอบคุณแล้วยังบังคับเอาเงินจากท่านแม่ของเจ้าอีก เนรคุณเสียจริง!”หลิงอวี๋เมินหลิงเสียงเซิงแล้วเยาะเย้ยหวางซือ “หวางซือ อย่าคิดว่าข้ามิรู้ว่าเจ้าทำสิ่งใดไว้!”“ข้าแค่จะบอกเจ้าว่าให้เอาร้านค้าสองแห่งให้หลิงหว่านแต่โดยดี แล้วข้าจะมิเถียงกับเจ้าเรื่องทรัพย์สินอื่น!”“ข้าให้เวลาเจ้าสามวัน หากถึงตอนนั้นมิเอาร้านให้ เจ้าก็รอไปอธิบายกับศาลาว่าการให้ชัดเจนเถิด!”หลังจากพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินจากไปหลิงเสียงเซิงโกรธจนตัวสั่นหวางซือก็สาปแช่งเสียงดังหลังจากด่าออกไปแล้วก็ตะโกนใส่หลิงเสียงเซิง “ท่านดูสิ คนเนรคุณที่ท่านเลี้ยงมากำลังพยายามบังคับข้าให้ตาย!”“ท่านมิรู้หรอกหรือว่าที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านอดีตเสนาบดีสูญเสียรายได้ตั้งแต่เกษียณ ปีหนึ่งได้เงิน
เผยอวี้กับหลิงหว่านหมั้นกันแล้ว วิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้รับการแก้ไขแล้วแต่หลิงอวี๋ยังคงกังวลอยู่ นางจึงเอ่ยกับเผยอวี้ “เผยอวี้ แม้ว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ข้ากังวลว่าฮองเฮาเว่ยกับหลิงเยี่ยนจะยังมิยอมแพ้!”“ทางด้านหลิงหว่านกับป้าสะใภ้ใหญ่ เจ้าต้องใส่ใจให้มากหน่อย!”เผยอวี้เอ่ยทันที “ท่านพี่ วางใจเถิด! ข้าจะสั่งคนให้ปกป้องหว่านเอ๋อร์! แม้ว่าข้าจะไปแล้ว ข้าก็จะขอร้องให้ท่านย่าดูแลหว่านเอ๋อร์!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยชอบหลิงหว่านมาก ที่งานหมั้นนางก็มอบกำไลหยกที่นางใส่มานานหลายสิบปีให้หลิงหว่านด้วยหลังจากได้ยินคำพูดของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็พยักหน้าอย่างมีความสุขนางกังวลว่าตนจะยุ่งอยู่กับงานแล้วดูแลหลิงหว่านมิดีพอ ตอนนี้มีครอบครัวของเผยอวี้ช่วยดูแแล้ว นางก็รู้สึกโล่งใจแล้วกระทั่งกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ หลิงอวี๋ก็เรียกหานเหมยกับเถาจื่อมาสั่งงาน“วันนี้ข้าบังคับหวางซือให้มอบสินสอดของแม่ข้า หวางซือมิน่าจะมอบให้ง่าย ๆ ในสองวันนี้พวกเจ้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของหวางซือ หากนางกล้าโอนทรัพย์สินไป ก็ไปดูให้ข้าทีว่าโอนไปที่ใด!“อีกอย่าง หานเหมย เจ้าไปตรวจสอบอีกทีว่าเงินของหวางซือถูกใช้ไปที่
หลิงอวี๋มองหานอวี้ยิ้ม ๆ นางผู้นี้พูดจาตรงไปตรงมาและใจดีมาก แต่ก็หัวรั้นเช่นกัน“หานอวี้ เจ้าลองคิดดู แจกันแตกตรงที่ใด?”หานอวี้ตอบทันที “ย่อมเป็นที่เรือนยลวสันต์อยู่แล้วเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋มองไปที่สุ่ยหลิงแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “สุ่ยหลิง ให้คำแนะนำนางที”สุ่ยหลิงยิ้มทันทีพลางเอ่ย “หานอวี้ ความหมายของพระชายาคือ... ในเมื่อแจกันแตกในเรือนยลวสันต์ เหตุใดอนุฉินมิลงโทษเวิ่นอวี้ที่เรือนยลวสันต์ แต่กลับออกมาข้างนอก ทั้งยังเลือกลงโทษเวิ่นอวี้ตอนที่เราผ่านมาด้วย?”“นี่ก็เพื่อให้พระชายากับพวกเราได้เห็นไงเล่า!”หานอวี้สับสนเล็กน้อย “ไฉนจึงอยากให้พวกเราเห็นหรือ?”สุ่ยหลิงบุ้ยปาก “จะเหตุใดอีกเล่า? ก็เพื่อให้เราเห็นใจเวิ่นอวี้ไง! เช่นนี้ต่อไปเวิ่นอวี้จะสบโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเรา!”“เมื่อคุ้นเคยกันแล้วเราก็จะมิระวังตัวกับนาง นางจะสามารถเข้าออกเรือนบุหงาได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่สืบข่าวของพระชายาจากพวกเราด้วย!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชม สุ่ยหลิงเชี่ยวชาญเรื่องนี้แล้ว“เป็นสายลับหรือ? เช่นนั้นนี่ก็เป็นกลอุบายทำร้ายงั้นหรือ?”หานอวี้ตอบสนองทันทีแล้วตะโกนด้วยความโกรธ “และทำให้ข้ารู้สึกผิดกับนาง แต่ท
เซียวหลินเทียนหรี่ตามองหลิงอวี๋นางจัดการแก้ปัญหาเรื่องการแต่งงานให้หลิงหว่านกับเผยอวี้ ตอนนี้คิดที่จะสู่ขอภรรยาให้เฉาอี้อีกแล้วตัวนางเองเล่า?แล้วเขาเล่า?ความอารมณ์ดีของเซียวหลินเทียนลดลงอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงหลิงอวี๋ในอดีตมาก ๆแม้ว่าตอนนั้นนางจะทำให้เขารังเกียจ แต่นางก็พูดกับเขาว่า ‘เซียวหลินเทียน...หม่อมฉันชอบท่าน!’ แต่ตอนนี้ นางมิพูดเช่นนั้นเลย!ดวงตาของนางไม่มีประกายแห่งความชื่นชมในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว!“อาอวี๋… เจ้า… เจ้ายังฝังใจเรื่องที่ข้าตีเจ้าและเย็นชากับเจ้าตอนนั้นอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนอาศัยฤทธิ์เหล้าเอ่ยถามออกไป“ไม่เพคะ!”หลิงอวี๋มิรู้สึกเจ็บแค้นแล้วจริง ๆแม้ว่าตอนนั้นที่ข้ามเวลามา เซียวหลินเทียนจะสับสนมาก เอาแต่จะทุบตีจะฆ่าตนแต่นั่นคือความแค้นก่อนหน้านี้ของพวกเขา ตอนนี้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเข้ากันได้ดีมาก นางลืมเรื่องเหล่านั้นไปแล้ว!เซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋สงบมาก อีกทั้งไม่มีความเกลียดชังในดวงตา เขาจึงรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ย“แล้ว… เราจะเริ่มต้นกันใหม่ได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้ว การหมั้นหมายของหลิงหว่านกับเผย
หลิงอวี๋ตรวจชีพจรของเฮยจื่อ เฮยจื่อมองหลิงอวี๋อย่างงุนงงแล้วพยายามลุกขึ้นนั่งทำความเคารพ“อย่าขยับ! นอนลงเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาเด็กคนนี้เปลี่ยนไปมากตั้งแต่เข้าเรียน ประกอบกับการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่องของเซียวหลินเทียน นิสัยที่มิดีก่อนหน้านี้ก็เกือบจะหายไปหมดแล้วแม้ว่าหลิงอวี๋จะมิสามารถพูดได้ว่าชอบเขามาก แต่ก็เริ่มที่จะยอมรับเขาแล้วหลังจากตรวจไปสักพัก หลิงอวี๋ก็รู้แล้วว่าอาการป่วยของเฮยจื่อเป็นการติดเชื้อโรคฝีดาษ นางตกใจมากในสมัยโบราณโรคฝีดาษเป็นโรคที่มีอัตราการตายสูง และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่เด็ก หลิงอวี๋จึงสั่งทันที“เถาจื่อ ให้หมิ่นกูส่งพี่เลี้ยงสองคนมาเฝ้าทางเข้าเรือนของเฮยจื่อไว้ มิอนุญาตให้ใครเข้าออกทั้งสิ้น!”“วันพรุ่งให้หมิ่นกูส่งคนไปลาให้เฮยจื่อด้วย เขาจะมิไปหออักษรจนกว่าจะดีขึ้น!”เมื่อเด็กรับใช้ได้ยินที่หลิงอวี๋เอ่ย เขาก็เอ่ยด้วยความตื่นตระหนก “พระชายา... นายน้อยน้อย... นายน้อย จะตายหรือไม่ขอรับ?”“ไม่! อย่าคิดอะไร้สาระเยี่ยงนั้น ประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปต้มยามาให้ พวกเจ้าที่ดูแลเฮยจื่อก็ดื่มกันคนละชาม จะได้ป้องกันการติดเชื้อ!”หลิงอวี๋เอ่ยถาม “เซี่ยอี ในช่