แชร์

บทที่ 951

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋กำลังหลอกตนเองหรือไม่?

หวางซือก้มหน้าลงแล้วดุ “หลิงอวี๋ อย่าเอ่ยวาจาไร้สาระ ข้าให้สินสอดแม่เจ้าไปหมดแล้ว เจ้าจะเอารายการที่ใดมิรู้มาปล้นเอาทรัพย์สินในตระกูลไปมิได้กระมัง!”

หลิงเสียงเซิงตะคอกด้วยความโกรธ “หลิงอวี๋ เจ้าจะมิมากเกินไปหน่อยรึ? ข้าเลี้ยงดูเจ้ามาหลายตั้งปี มิได้มีความดีความชอบอะไรแต่ก็ถือว่าทำมาอย่างยากลำบาก!”

“เจ้ามิรู้สึกขอบคุณแล้วยังบังคับเอาเงินจากท่านแม่ของเจ้าอีก เนรคุณเสียจริง!”

หลิงอวี๋เมินหลิงเสียงเซิงแล้วเยาะเย้ยหวางซือ “หวางซือ อย่าคิดว่าข้ามิรู้ว่าเจ้าทำสิ่งใดไว้!”

“ข้าแค่จะบอกเจ้าว่าให้เอาร้านค้าสองแห่งให้หลิงหว่านแต่โดยดี แล้วข้าจะมิเถียงกับเจ้าเรื่องทรัพย์สินอื่น!”

“ข้าให้เวลาเจ้าสามวัน หากถึงตอนนั้นมิเอาร้านให้ เจ้าก็รอไปอธิบายกับศาลาว่าการให้ชัดเจนเถิด!”

หลังจากพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินจากไป

หลิงเสียงเซิงโกรธจนตัวสั่น

หวางซือก็สาปแช่งเสียงดัง

หลังจากด่าออกไปแล้วก็ตะโกนใส่หลิงเสียงเซิง “ท่านดูสิ คนเนรคุณที่ท่านเลี้ยงมากำลังพยายามบังคับข้าให้ตาย!”

“ท่านมิรู้หรอกหรือว่าที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านอดีตเสนาบดีสูญเสียรายได้ตั้งแต่เกษียณ ปีหนึ่งได้เงิน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
บัวครอง ดวงแก้ว
สนุกมาก นางเอกฉลาดมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 952

    เผยอวี้กับหลิงหว่านหมั้นกันแล้ว วิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้รับการแก้ไขแล้วแต่หลิงอวี๋ยังคงกังวลอยู่ นางจึงเอ่ยกับเผยอวี้ “เผยอวี้ แม้ว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ข้ากังวลว่าฮองเฮาเว่ยกับหลิงเยี่ยนจะยังมิยอมแพ้!”“ทางด้านหลิงหว่านกับป้าสะใภ้ใหญ่ เจ้าต้องใส่ใจให้มากหน่อย!”เผยอวี้เอ่ยทันที “ท่านพี่ วางใจเถิด! ข้าจะสั่งคนให้ปกป้องหว่านเอ๋อร์! แม้ว่าข้าจะไปแล้ว ข้าก็จะขอร้องให้ท่านย่าดูแลหว่านเอ๋อร์!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยชอบหลิงหว่านมาก ที่งานหมั้นนางก็มอบกำไลหยกที่นางใส่มานานหลายสิบปีให้หลิงหว่านด้วยหลังจากได้ยินคำพูดของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็พยักหน้าอย่างมีความสุขนางกังวลว่าตนจะยุ่งอยู่กับงานแล้วดูแลหลิงหว่านมิดีพอ ตอนนี้มีครอบครัวของเผยอวี้ช่วยดูแแล้ว นางก็รู้สึกโล่งใจแล้วกระทั่งกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ หลิงอวี๋ก็เรียกหานเหมยกับเถาจื่อมาสั่งงาน“วันนี้ข้าบังคับหวางซือให้มอบสินสอดของแม่ข้า หวางซือมิน่าจะมอบให้ง่าย ๆ ในสองวันนี้พวกเจ้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของหวางซือ หากนางกล้าโอนทรัพย์สินไป ก็ไปดูให้ข้าทีว่าโอนไปที่ใด!“อีกอย่าง หานเหมย เจ้าไปตรวจสอบอีกทีว่าเงินของหวางซือถูกใช้ไปที่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 953

    หลิงอวี๋มองหานอวี้ยิ้ม ๆ นางผู้นี้พูดจาตรงไปตรงมาและใจดีมาก แต่ก็หัวรั้นเช่นกัน“หานอวี้ เจ้าลองคิดดู แจกันแตกตรงที่ใด?”หานอวี้ตอบทันที “ย่อมเป็นที่เรือนยลวสันต์อยู่แล้วเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋มองไปที่สุ่ยหลิงแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “สุ่ยหลิง ให้คำแนะนำนางที”สุ่ยหลิงยิ้มทันทีพลางเอ่ย “หานอวี้ ความหมายของพระชายาคือ... ในเมื่อแจกันแตกในเรือนยลวสันต์ เหตุใดอนุฉินมิลงโทษเวิ่นอวี้ที่เรือนยลวสันต์ แต่กลับออกมาข้างนอก ทั้งยังเลือกลงโทษเวิ่นอวี้ตอนที่เราผ่านมาด้วย?”“นี่ก็เพื่อให้พระชายากับพวกเราได้เห็นไงเล่า!”หานอวี้สับสนเล็กน้อย “ไฉนจึงอยากให้พวกเราเห็นหรือ?”สุ่ยหลิงบุ้ยปาก “จะเหตุใดอีกเล่า? ก็เพื่อให้เราเห็นใจเวิ่นอวี้ไง! เช่นนี้ต่อไปเวิ่นอวี้จะสบโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเรา!”“เมื่อคุ้นเคยกันแล้วเราก็จะมิระวังตัวกับนาง นางจะสามารถเข้าออกเรือนบุหงาได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่สืบข่าวของพระชายาจากพวกเราด้วย!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชม สุ่ยหลิงเชี่ยวชาญเรื่องนี้แล้ว“เป็นสายลับหรือ? เช่นนั้นนี่ก็เป็นกลอุบายทำร้ายงั้นหรือ?”หานอวี้ตอบสนองทันทีแล้วตะโกนด้วยความโกรธ “และทำให้ข้ารู้สึกผิดกับนาง แต่ท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 954

    เซียวหลินเทียนหรี่ตามองหลิงอวี๋นางจัดการแก้ปัญหาเรื่องการแต่งงานให้หลิงหว่านกับเผยอวี้ ตอนนี้คิดที่จะสู่ขอภรรยาให้เฉาอี้อีกแล้วตัวนางเองเล่า?แล้วเขาเล่า?ความอารมณ์ดีของเซียวหลินเทียนลดลงอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงหลิงอวี๋ในอดีตมาก ๆแม้ว่าตอนนั้นนางจะทำให้เขารังเกียจ แต่นางก็พูดกับเขาว่า ‘เซียวหลินเทียน...หม่อมฉันชอบท่าน!’ แต่ตอนนี้ นางมิพูดเช่นนั้นเลย!ดวงตาของนางไม่มีประกายแห่งความชื่นชมในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว!“อาอวี๋… เจ้า… เจ้ายังฝังใจเรื่องที่ข้าตีเจ้าและเย็นชากับเจ้าตอนนั้นอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนอาศัยฤทธิ์เหล้าเอ่ยถามออกไป“ไม่เพคะ!”หลิงอวี๋มิรู้สึกเจ็บแค้นแล้วจริง ๆแม้ว่าตอนนั้นที่ข้ามเวลามา เซียวหลินเทียนจะสับสนมาก เอาแต่จะทุบตีจะฆ่าตนแต่นั่นคือความแค้นก่อนหน้านี้ของพวกเขา ตอนนี้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเข้ากันได้ดีมาก นางลืมเรื่องเหล่านั้นไปแล้ว!เซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋สงบมาก อีกทั้งไม่มีความเกลียดชังในดวงตา เขาจึงรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ย“แล้ว… เราจะเริ่มต้นกันใหม่ได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้ว การหมั้นหมายของหลิงหว่านกับเผย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 955

    หลิงอวี๋ตรวจชีพจรของเฮยจื่อ เฮยจื่อมองหลิงอวี๋อย่างงุนงงแล้วพยายามลุกขึ้นนั่งทำความเคารพ“อย่าขยับ! นอนลงเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาเด็กคนนี้เปลี่ยนไปมากตั้งแต่เข้าเรียน ประกอบกับการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่องของเซียวหลินเทียน นิสัยที่มิดีก่อนหน้านี้ก็เกือบจะหายไปหมดแล้วแม้ว่าหลิงอวี๋จะมิสามารถพูดได้ว่าชอบเขามาก แต่ก็เริ่มที่จะยอมรับเขาแล้วหลังจากตรวจไปสักพัก หลิงอวี๋ก็รู้แล้วว่าอาการป่วยของเฮยจื่อเป็นการติดเชื้อโรคฝีดาษ นางตกใจมากในสมัยโบราณโรคฝีดาษเป็นโรคที่มีอัตราการตายสูง และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่เด็ก หลิงอวี๋จึงสั่งทันที“เถาจื่อ ให้หมิ่นกูส่งพี่เลี้ยงสองคนมาเฝ้าทางเข้าเรือนของเฮยจื่อไว้ มิอนุญาตให้ใครเข้าออกทั้งสิ้น!”“วันพรุ่งให้หมิ่นกูส่งคนไปลาให้เฮยจื่อด้วย เขาจะมิไปหออักษรจนกว่าจะดีขึ้น!”เมื่อเด็กรับใช้ได้ยินที่หลิงอวี๋เอ่ย เขาก็เอ่ยด้วยความตื่นตระหนก “พระชายา... นายน้อยน้อย... นายน้อย จะตายหรือไม่ขอรับ?”“ไม่! อย่าคิดอะไร้สาระเยี่ยงนั้น ประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปต้มยามาให้ พวกเจ้าที่ดูแลเฮยจื่อก็ดื่มกันคนละชาม จะได้ป้องกันการติดเชื้อ!”หลิงอวี๋เอ่ยถาม “เซี่ยอี ในช่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 956

    “โรคฝีดาษ?”องค์ชายเย่ตกใจ จูหลานยิ่งหวาดกลัวจนแทบจะล้มลงไปกับพื้นเลยนี่มันโรคร้ายแรงถึงชีวิต!“ท่าน… ท่านพี่สะใภ้สี่ อย่าทำให้ข้ากลัว! มันจะเป็นโรคฝีดาษได้เยี่ยงไร?”“เสี่ยวเป่าไม่มีการติดต่อกับบุคคลภายนอก ทุก ๆ วันก็มิเคยออกจากบ้าน จะติดเชื้อโรคฝีดาษได้เยี่ยงไร!”หลิงอวี้ก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน จึงเอ่ย “อย่าเพิ่งกังวล รอข้าตรวจเสี่ยวเป่าก่อนค่อยว่ากัน!”หลิงอวี๋รู้สึกว่าการหายใจของเสี่ยวเป่าอ่อนแรง จึงใช้ไม้กดลิ้นตรวจเสี่ยวเป่า ที่คอของเขาบวมและมีหนองสองจุดอยู่ในนั้นแค่กินยามิได้ผลหรอก!หลิงอวี๋ถือโอกาสล้างมือ และไปหยิบขวดยาออกจากมิติ“จูหลาน อาการของลูกชายเจ้าแย่มาก ข้าต้องฉีดยาเขา!”หลิงอวี๋แสดงขวดยาให้จูหลานดู เพื่อที่จูหลานจะได้ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในภายหลัง“แน่นอนว่าจะกินยาก็ได้ แต่ผลที่ได้มิดีเท่ากับการฉีดยา!”องค์ชายเย่มองขวดแปลก ๆ ของหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยอย่างมิสบายใจ “แค่กินยาเถิด! เจ้าเขียนตำรับยาแล้วข้าจะให้คนไปเอายามาเอง!”“ท่านพี่สะใภ้สี่ การกินยาจะทำให้อาการของเสี่ยวเป่าแย่ลงหรือไม่?”แม่ลูกอยู่ใกล้ชิดกัน จูหลานก็ทนมิได้ที่จะเห็นลูกชายของนางต้องทนทุกข์ทรมานเช่นน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 957

    ใบหน้าของจูหลานแดงมาก หลิงอวี๋พูดเปิดเผยขึ้นมา ก็ทำให้นางรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งหลิงอวี๋พูดถูก เซียวหลินมู่มิอยากเป็นหนี้หลิงอวี๋อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นคราวนี้เมื่อเสี่ยวเป่าล้มป่วย เซียวหลินมู่จึงปฏิเสธที่จะไปเชิญหลิงอวี๋หากอาการเมื่อครู่ของเสี่ยวเป่ามิอันตรายเกินไป จนจูหลานบังคับเขาไป เขาก็คงมิยอมไปเชิญหลิงอวี๋“ท่านพี่สะใภ้สี่... ข้ามิได้หมายความเยี่ยงนั้นจริง ๆ! ท่านช่วยข้า ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้ากับเสี่ยวเป่า ข้ามิเคยคิดที่จะกลายเป็นศัตรูของท่าน!”“ก็แค่… ข้า ข้ามิสามารถโน้มน้าวเขาได้!”จูหลานหลั่งน้ำตาด้วยความอับอาย “เขามิเคยสนใจตำแหน่งนั้นมาก่อน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้ามิรู้ว่าใครเป็นคนยุยงเขา เขา... เขาเพิ่งเริ่มคิดถึงมัน!”“ข้าขอโทษ ท่านพี่สะใภ้สี่... ข้ามิอยากให้เขาแข่งขันกับท่านอ๋องอี้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งนั้นจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะถูกครอบงำ มีเพียงแค่เขาต้องชนะอันดับหนึ่งในการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นเท่านั้ัน เสด็จพ่อจึงจะมองเขาต่างจากเดิม!”หลิงอวี๋มิรู้สึกโกรธเมื่อเห็นว่าจูหลานเปิดเผยความคิดทั้งหมดของเซียวหลินมู่ เมื่อเทียบกับพระชายาเว่ยกับพระชายาคังแล้ว จูหลานคนนี้ไร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 958

    เสี่ยวเป่ายังเด็กอยู่ เป็นเรื่องยากสำหรับหลิงอวี๋ที่จะไปจนกว่าอาการของเขาจะคงที่นางเดินออกไปให้เซียวหลินเทียนกลับไปก่อน ตนจะพักอยู่ที่ตำหนักองค์ชายเย่ชั่วคราวหนึ่งคืนเซียวหลินเทียนรู้สึกได้ไวต่อการเปลี่ยนแปลงท่าทีขององค์ชายเย่ที่มีต่อเขา เขาดึงหลิงอวี๋อย่างเป็นกังวลแล้วเอ่ย “อาอวี๋ เจ้าอยู่ที่นี่จะมิเป็นไรหรือ?”หลิงอวี๋เข้าใจความกังวลของเซียวหลินเทียนทันที จึงบีบมือแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหา! หม่อมฉันจะดูแลตัวเอง!”“เมื่ออาการของเสี่ยวเป่าคงที่แล้ว หม่อมฉันจะกลับไปในวันพรุ่ง! ให้หลิงซวนดูแลเฮยจื่อให้ดี!”“โรคนี้ฟังดูน่ากลัว แต่ตราบใดที่ใส่ใจกับการฆ่าเชื้อและข้อควรระวัง ก็จะมิติดเชื้อในบ้าน!”“อืม ข้าจะจัดการให้!”เซียวหลินเทียนจับมือหลิงอวี๋อย่างแน่นก่อนจะพาคนกลับตำหนัก“พี่สะใภ้สี่ คืนนี้ท่านคงจะเหนื่อยแล้ว!”องค์ชายเย่เอ่ยอย่างสุภาพสองสามคำแล้วกลับไปที่ห้องของเขาหลิงอวี๋อยู่กับจูหลานคอยเฝ้าเสี่ยวเป่า เมื่อมีระยะห่างแล้ว หลิงอวี๋ก็มิได้พูดกับจูหลานมากนักเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเป่าเหงื่อออกมาก นางจึงเอ่ย “เอาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เขาเปลี่ยนเถิด! ซักเสื้อผ้าที่เปลี่ยน ต้มใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 959

    หลิงอวี๋รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่จูหลานเอ่ยจูหลานดูไร้เดียงสา แต่นางก็มีสติ!“ท่านพี่สะใภ้สี่ ท่านคิดว่าข้าโตแล้วใช่หรือไม่?”จูหลานยิ้ม “ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับท่านมามากแล้ว ข้าได้ยินมาว่าท่านเกือบจะถูกท่านอ๋องอี้ทุบตีจนตาย แต่ในที่สุดท่านก็ตื่นขึ้นมา!”“ข้าก็เหมือนกัน ความตายอยู่ใกล้ข้ามากเมื่อตอนที่ข้าให้กำเนิดลูก!”“ข้ามักจะคิดว่าหากข้ามิโชคดีพอที่ได้พบท่าน หลุมศพของข้าคงเต็มไปด้วยวัชพืช! เมื่อเทียบกับความตาย ความรุ่งโรจน์กับความมั่งคั่ง ในใต้หล้านี้เป็นเพียงเมฆที่หายวับไปได้เท่านั้น!”“เซียวหลินมู่มิเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน หลังจากได้รับกำลังใจจากคนอื่น เขาลืมไปเลยว่าตัวเขาเองมีความสามารถแค่ไหน!”จูหลานส่ายหัวพลางถอนหายใจ “ท่านอ๋องอี้มีพลังมากกว่าเขามาก ตอนที่ท่านถูกใส่ร้าย เขาเจอกับกองทัพหลวงก็ยังทำอะไรมิถูก!”“เซียวหลินมู่มิเคยคิดเลยว่าตอนที่เขาถูกศัตรูรายล้อม หากมิได้รับความช่วยเหลือจากพี่น้องที่เสียชีวิตไป ใครจะช่วยเขา!”หลิงอวี๋เงียบไป นางเข้าใจได้ว่าจูหลานแสดงความปรารถนาดีต่อนาง มิว่าจะเป็นเพื่อเซียวหลินมู่หรือเพื่อตัวนางเอง หลิงอวี๋ก็ยอมรับในความปรารถนาดีของ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status