แชร์

บทที่​ 946

ผู้เขียน: กานเฟย
ฮูหยินเผยมองไปทางป้าสะใภ้ใหญ่แล้วเอ่ย “ฮูหยินหลิง ท่านเองก็มีลูกชายเช่นกัน น่าจะรู้ถึงจิตใจของคนเป็นพ่อแม่!”

“โธ่ เผยฮ่าวของข้าก็มิได้มีแผนที่จะแต่งงานในขณะนี้ หากเรื่องมิเร่งด่วน อวี้เอ๋อร์คงมิเกิดคิดที่จะช่วยท่านอ๋องอี้เช่นนี้หรอก…”

ป้าสะใภ้ใหญ่เข้าใจแล้ว นางโกรธจนตัวสั่น ฮูหยินเผยพูดราวกับว่าตอนนี้หลิงหว่านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเลือกลูกนอกสมรสผู้นี้แล้ว!

หลิงอวี๋ก็เข้าใจเช่นกัน พูดไปพูดมา ฮูหยินเผยก็มิต้องการให้หลิงหว่านแต่งงานกับเผยอวี้ แต่นางมิต้องการทำให้เซียวหลินเทียนขุ่นเคือง จึงทำเรื่องหน้าไหว้หลังหลอกเช่นนี้!

ก่อนที่หลิงอวี๋จะทันได้เอ่ยอะไร ฮูหยินเผยก็เอ่ยขึ้นมาอย่างมีความหมายเสียก่อน “พระชายาอ๋องอี้ ตอนนี้เรื่องการแต่งงานครั้งนี้คงจะแพร่กระจายออกไปแล้ว เรามาทำให้มันเกิดขึ้นเพื่อพวกเขากันเถิด!”

“ท่านมิต้องกังวล เผยฮ่าวก็ถือว่าเป็นลูกชายของข้าเช่นกัน ต่อไปหลิงหว่านเข้ามา ข้าก็จะปฏิบัติต่อนางอย่างดี!”

หลิงอวี๋โกรธจนหน้าเขียว เมื่อนึกถึงเพื่อนบ้านพากันมามุงดูความคึกคักถึงหน้าบ้านเมื่อครู่ คงจะมีคนพูดออกไปแล้วว่ามีคนมาสู่ขอหลิงหว่านในวันนี้

ฮูหยินเผยจงใจกระทำการยิ่งใหญ่เช
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่​ 947

    ครั้งที่แล้วฮูหยินเผยคุยกับหลิงหว่านตอนที่แจกโจ๊ก เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีความนับถือตนเองสูงมาก ในตอนนั้นหลิงหว่านยังสาบานที่จะมิแต่งงานกับเผยอวี้ด้วย แต่หลิงอวี๋มาขวางไว้ฮูหยินเผยอยากบังคับให้หลิงหว่านออกมา บังคับให้หลิงหว่านประกาศต่อทุกคนว่านางจะมิแต่งงานกับเผยอวี้!เช่นนี้แล้ว ตนจะอธิบายให้ลูกชายกับสามีเข้าใจได้ง่าย...นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลิงหว่าน ป้าสะใภ้ใหญ่ก็มิกล้าตัดสินใจโดยพลการหลิงอวี๋เองก็จนใจ ฮูหยินเผยบอกแล้วว่าตนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สำคัญในชีวิตให้หลิงหว่านได้ หากหลิงหว่านเต็มใจ นางจะว่าเยี่ยงไรได้อีกเล่า!“หว่านเอ๋อร์...”ป้าสะใภ้ใหญ่เดินไปที่ห้อง แล้วเรียกหลิงหว่านออกมาหลิงอวี๋มองไปทางหลิงหว่านอย่างกังวล แม้ว่าหลิงหว่านจะเช็ดน้ำตาออกไปแล้วแต่ดวงตาของนางก็ยังแดงอยู่เล็กน้อยหลิงอวี๋เอ่ยอย่างเด็ดขาด “หว่านเอ๋อร์ มิว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไร พี่ก็จะสนับสนุนเจ้า! เจ้ามิต้องกลัว หากเจ้าปฏิเสธตระกูลเผย พี่ก็ช่วยให้เจ้าหลุดพ้นจากคนผู้นั้นได้ ..”ฮูหยินเผยเหลือบมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยด้วยท่าทีร้าย ๆ “คุณหนูหลิง เจ้าอย่าถูกคนอื่นยุยง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่​ 948

    “ข้า… ข้า… ข้าทำได้!”เฉาอี้เอ่ยอย่างตะกุกตะกักหลิงหว่านยิ้มทันทีแล้ววิ่งเข้าไปลากแขนของเฉาอี้ “พี่เฉา มาเถิด ไปพบแม่ของข้า...”แม้ว่าป้าสะใภ้ใหญ่จะได้ยินหลิงอวี๋บอกไว้แล้วว่ายังมีตัวเลือกผู้นี้อยู่ แต่นางได้เจอเฉาอี้อย่างกะทันหัน มิได้เตรียมตัวเลยแม้แต่น้อย“ท่านพี่เฉา เช่นนั้นวันนี้เรามาหมั้นกันเถิด! เมื่อเราหมั้นกันแล้ว ท่านแม่ของข้าก็จะเป็นท่านแม่ของท่านพี่ ท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อย ๆ ได้ตั้งมากมายเลย ต่อไปท่านพี่ก็จะได้กินอาหารอร่อย ๆ ตลอดแล้ว…”“ท่านแม่...” เฉาอี้โพล่งออกมาอย่างโง่เขลาทันใดนั้นสีหน้าของเผยอวี้ก็มืดมนลง เขาพุ่งเข้าไปดึงเฉาอี้ออกแล้วด่าด้วยใบหน้าบึ้งตึง “เฉาอี้ อย่ามาแย่งภรรยาของข้า! เจ้าไปเสีย...ไปให้พ้นทางเลย! “เฉาอี้ถูกเขาผลักออกไปด้านข้าง แต่เขาก็ยังเข้ามาอย่างมิยอมแพ้แล้วยิ้มพลางเอ่ย“ข้าเรียกนางว่าท่านแม่แล้ว… ท่านแม่ เลือกข้าเป็นลูกเขยเถิด! ข้าจะปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดีแน่นอน!”“เฉาอี้ เจ้าอยากสู้กับข้ารึ?”เผยอวี้กังวล แล้วผลักเฉาอี้ “หากเจ้ามิถอยไป ก็มาคุยกันด้วยหมัด!”หลิงหว่านมิพอใจ นางมองเผยอวี้ด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว “แม่ทัพเผย นี่คือบ้านข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่​ 949

    “อวี้เอ๋อร์! มิได้เด็ดขาดนะ!”ฮูหยินเผยร้อนใจจนก้าวไปดึงเผยอวี้ไว้ นางจะปล่อยให้ลูกชายของตนเป็นลูกเขยแต่งเข้าได้เยี่ยงไรกัน!“ลุกขึ้น! แม่… แม่จะสู่ขอให้เจ้าเอง!”ตราบใดที่เขามิต้องเป็นเขยแต่งเข้า ฮูหยินเผยก็ยอมตกลงทั้งนั้นพูดแล้ว นางก็ฝืนยิ้มมองไปทางฮูหยินหลิง “ฮูหยินหลิง ข้าทำผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ ท่านเห็นด้วยการแต่งงานของเผยอวี้กับหลิงหว่านเถิด!”ป้าสะใภ้ใหญ่รู้สึกเสียใจกับหลิงหว่าน นางมิรู้ว่าควรเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้หรือไม่!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินเผยถูกบังคับให้เห็นด้วยเรื่องการแต่งงาน หากหลิงหว่านแต่งงานไปแล้วจะมีชีวิตที่ดีหรือ?หลิงหว่านปฏิเสธ “ฮูหยินเผย ขอบคุณในเจตนาดีของท่าน! ท่านพาลูกชายของท่านกลับไปเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงหว่านเองก็มีความเย่อหยิ่งของตัวเองเช่นกัน เมื่อครู่ฮูหยินเผยทำให้ตนกับท่านแม่อับอาย หากนางตกลงเช่นนี้ มันจะมิทำให้ตระกูลหลิงดูด้อยกว่าหรือ?!หลิงอวี๋มองอยู่ข้าง ๆ นางมิอยากเกลี้ยกล่อมฝ่ายใดเลยการแต่งงานเป็นเรื่องตลอดชีวิต หากหลิงหว่านรู้สึกคับข้องใจ ต่อไปนางกับเผยอวี้ก็จะไม่มีทางมีชีวิตที่ดีนางแค่หวังให้น้องสาวของตนมีความสุข มิว่าหลิงหว่านจะเลือกใค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่​ 950

    เลือกเวลามิสู้วันที่เหมาะสม ฮูหยินผู้เฒ่าเผยตัดสินใจขอแต่งงานกับหมั้นหมายพร้อม ๆ กันไปเลย พวกของหมั้นก็ให้พ่อบ้านตระกูลเผยจัดการเตรียมให้ครบแม่สื่อก็เขียนหนังสือหมั้นของหลิงหว่านกับเผยอวี้ภายใต้การเร่งของฮูหยินผู้เฒ่าเผยด้วยเพราะยังหาบิดาของหลิงหว่านมิพบ งานแต่งงานจึงมีกำหนดคร่าว ๆ ในเดือนห้าปีหน้าหลิงอวี๋ให้สุ่ยหลิงจองโต๊ะกินเลี้ยงสองสามโต๊ะที่ภัตตาคารจี๋เสียง แล้วทั้งสองตระกูลก็จัดงานเลี้ยงหมั้นร่วมกันอีกทั้งหลิงอวี๋ยังพาหลิงหว่านกับเผยอวี้ไปเชิญท่านอดีตเสนาบดีด้วยตนเองด้วยท่านอดีตเสนาบดีมิรู้เรื่องที่หลิงเยี่ยนกับแม่ของนางทำ ครั้นได้ยินว่าหลิงหว่านหมั้นจึงตกใจ“เหตุใดจึงเร็วเพียงนี้?”หลิงหว่านมิอยากให้ท่านอดีตเสนาบดีมิชอบครอบครัวของลุงรองของนาง จึงยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ย “ท่านปู่ หว่านเอ๋อร์หมั้นแล้ววันนี้ ท่านมิดีใจกับหว่านเอ๋อร์หรือเจ้าคะ?”เผยอวี้ยิ้มอย่างเอาอกเอาใจแล้วเอ่ย “ท่านปู่ ท่านแม่ของข้าคิดว่าอีกมินานข้าจะถูกส่งไปเฝ้าที่ชายแดนแล้ว อยากกำหนดเรื่องการแต่งงานของข้ากับหว่านเอ๋อร์ก่อนที่ข้าจะไป ดังนั้นจึงหมั้นกันก่อนในวันนี้!”“ท่านปู่ ท่านหาอย่าได้ต้องกังวลขอรับ ข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 951

    หลิงอวี๋กำลังหลอกตนเองหรือไม่?หวางซือก้มหน้าลงแล้วดุ “หลิงอวี๋ อย่าเอ่ยวาจาไร้สาระ ข้าให้สินสอดแม่เจ้าไปหมดแล้ว เจ้าจะเอารายการที่ใดมิรู้มาปล้นเอาทรัพย์สินในตระกูลไปมิได้กระมัง!”หลิงเสียงเซิงตะคอกด้วยความโกรธ “หลิงอวี๋ เจ้าจะมิมากเกินไปหน่อยรึ? ข้าเลี้ยงดูเจ้ามาหลายตั้งปี มิได้มีความดีความชอบอะไรแต่ก็ถือว่าทำมาอย่างยากลำบาก!”“เจ้ามิรู้สึกขอบคุณแล้วยังบังคับเอาเงินจากท่านแม่ของเจ้าอีก เนรคุณเสียจริง!”หลิงอวี๋เมินหลิงเสียงเซิงแล้วเยาะเย้ยหวางซือ “หวางซือ อย่าคิดว่าข้ามิรู้ว่าเจ้าทำสิ่งใดไว้!”“ข้าแค่จะบอกเจ้าว่าให้เอาร้านค้าสองแห่งให้หลิงหว่านแต่โดยดี แล้วข้าจะมิเถียงกับเจ้าเรื่องทรัพย์สินอื่น!”“ข้าให้เวลาเจ้าสามวัน หากถึงตอนนั้นมิเอาร้านให้ เจ้าก็รอไปอธิบายกับศาลาว่าการให้ชัดเจนเถิด!”หลังจากพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินจากไปหลิงเสียงเซิงโกรธจนตัวสั่นหวางซือก็สาปแช่งเสียงดังหลังจากด่าออกไปแล้วก็ตะโกนใส่หลิงเสียงเซิง “ท่านดูสิ คนเนรคุณที่ท่านเลี้ยงมากำลังพยายามบังคับข้าให้ตาย!”“ท่านมิรู้หรอกหรือว่าที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านอดีตเสนาบดีสูญเสียรายได้ตั้งแต่เกษียณ ปีหนึ่งได้เงิน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 952

    เผยอวี้กับหลิงหว่านหมั้นกันแล้ว วิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้รับการแก้ไขแล้วแต่หลิงอวี๋ยังคงกังวลอยู่ นางจึงเอ่ยกับเผยอวี้ “เผยอวี้ แม้ว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ข้ากังวลว่าฮองเฮาเว่ยกับหลิงเยี่ยนจะยังมิยอมแพ้!”“ทางด้านหลิงหว่านกับป้าสะใภ้ใหญ่ เจ้าต้องใส่ใจให้มากหน่อย!”เผยอวี้เอ่ยทันที “ท่านพี่ วางใจเถิด! ข้าจะสั่งคนให้ปกป้องหว่านเอ๋อร์! แม้ว่าข้าจะไปแล้ว ข้าก็จะขอร้องให้ท่านย่าดูแลหว่านเอ๋อร์!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยชอบหลิงหว่านมาก ที่งานหมั้นนางก็มอบกำไลหยกที่นางใส่มานานหลายสิบปีให้หลิงหว่านด้วยหลังจากได้ยินคำพูดของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็พยักหน้าอย่างมีความสุขนางกังวลว่าตนจะยุ่งอยู่กับงานแล้วดูแลหลิงหว่านมิดีพอ ตอนนี้มีครอบครัวของเผยอวี้ช่วยดูแแล้ว นางก็รู้สึกโล่งใจแล้วกระทั่งกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้ หลิงอวี๋ก็เรียกหานเหมยกับเถาจื่อมาสั่งงาน“วันนี้ข้าบังคับหวางซือให้มอบสินสอดของแม่ข้า หวางซือมิน่าจะมอบให้ง่าย ๆ ในสองวันนี้พวกเจ้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของหวางซือ หากนางกล้าโอนทรัพย์สินไป ก็ไปดูให้ข้าทีว่าโอนไปที่ใด!“อีกอย่าง หานเหมย เจ้าไปตรวจสอบอีกทีว่าเงินของหวางซือถูกใช้ไปที่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 953

    หลิงอวี๋มองหานอวี้ยิ้ม ๆ นางผู้นี้พูดจาตรงไปตรงมาและใจดีมาก แต่ก็หัวรั้นเช่นกัน“หานอวี้ เจ้าลองคิดดู แจกันแตกตรงที่ใด?”หานอวี้ตอบทันที “ย่อมเป็นที่เรือนยลวสันต์อยู่แล้วเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋มองไปที่สุ่ยหลิงแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “สุ่ยหลิง ให้คำแนะนำนางที”สุ่ยหลิงยิ้มทันทีพลางเอ่ย “หานอวี้ ความหมายของพระชายาคือ... ในเมื่อแจกันแตกในเรือนยลวสันต์ เหตุใดอนุฉินมิลงโทษเวิ่นอวี้ที่เรือนยลวสันต์ แต่กลับออกมาข้างนอก ทั้งยังเลือกลงโทษเวิ่นอวี้ตอนที่เราผ่านมาด้วย?”“นี่ก็เพื่อให้พระชายากับพวกเราได้เห็นไงเล่า!”หานอวี้สับสนเล็กน้อย “ไฉนจึงอยากให้พวกเราเห็นหรือ?”สุ่ยหลิงบุ้ยปาก “จะเหตุใดอีกเล่า? ก็เพื่อให้เราเห็นใจเวิ่นอวี้ไง! เช่นนี้ต่อไปเวิ่นอวี้จะสบโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเรา!”“เมื่อคุ้นเคยกันแล้วเราก็จะมิระวังตัวกับนาง นางจะสามารถเข้าออกเรือนบุหงาได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่สืบข่าวของพระชายาจากพวกเราด้วย!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชม สุ่ยหลิงเชี่ยวชาญเรื่องนี้แล้ว“เป็นสายลับหรือ? เช่นนั้นนี่ก็เป็นกลอุบายทำร้ายงั้นหรือ?”หานอวี้ตอบสนองทันทีแล้วตะโกนด้วยความโกรธ “และทำให้ข้ารู้สึกผิดกับนาง แต่ท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 954

    เซียวหลินเทียนหรี่ตามองหลิงอวี๋นางจัดการแก้ปัญหาเรื่องการแต่งงานให้หลิงหว่านกับเผยอวี้ ตอนนี้คิดที่จะสู่ขอภรรยาให้เฉาอี้อีกแล้วตัวนางเองเล่า?แล้วเขาเล่า?ความอารมณ์ดีของเซียวหลินเทียนลดลงอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงหลิงอวี๋ในอดีตมาก ๆแม้ว่าตอนนั้นนางจะทำให้เขารังเกียจ แต่นางก็พูดกับเขาว่า ‘เซียวหลินเทียน...หม่อมฉันชอบท่าน!’ แต่ตอนนี้ นางมิพูดเช่นนั้นเลย!ดวงตาของนางไม่มีประกายแห่งความชื่นชมในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว!“อาอวี๋… เจ้า… เจ้ายังฝังใจเรื่องที่ข้าตีเจ้าและเย็นชากับเจ้าตอนนั้นอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนอาศัยฤทธิ์เหล้าเอ่ยถามออกไป“ไม่เพคะ!”หลิงอวี๋มิรู้สึกเจ็บแค้นแล้วจริง ๆแม้ว่าตอนนั้นที่ข้ามเวลามา เซียวหลินเทียนจะสับสนมาก เอาแต่จะทุบตีจะฆ่าตนแต่นั่นคือความแค้นก่อนหน้านี้ของพวกเขา ตอนนี้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเข้ากันได้ดีมาก นางลืมเรื่องเหล่านั้นไปแล้ว!เซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋สงบมาก อีกทั้งไม่มีความเกลียดชังในดวงตา เขาจึงรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ย“แล้ว… เราจะเริ่มต้นกันใหม่ได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้ว การหมั้นหมายของหลิงหว่านกับเผย

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status