หลิงอวี๋มิเคยคิดที่จะให้หลิงหว่านแต่งงานไปไกลถึงเพียงนั้นอยู่แล้ว ก็ทำเหมือนมู่หรงชิงพูดเล่น นางเอ่ยอย่างสบาย ๆ“น้องสาวของข้ามิเหมาะกับพี่ชายของเจ้าหรอก องค์จักรพรรดิน่าจะมีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว เราจะมิไปยุ่ง!”“องค์หญิงชิ่ง มาสิ เจ้าดูสิว่าชอบกินสิ่งใด ขนมอบกับอาหารในภัตตาคารจี๋เสียงแห่งนี้อร่อยมาก!”มู่หรงชิ่งเอ่ยอย่างสบาย ๆ ว่าพี่ชายของนางดูดีมาก นางจะมิจับคู่ให้เขาไปเรื่อยเด็ดขาด!ทั้งสองกินไปคุยไป หลิงอวี๋ให้หานอวี้เพิ่มโต๊ะให้ฉีเต๋อกับคนอื่น ๆ กินข้าวด้วยหลิงอวี๋กับมู่หรงชิ่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ภายใต้การนำของหลิงอวี๋ มู่หรงชิ่งเล่าให้หลิงอวี๋ฟังเกี่ยวกับเยวี่ยใต้มิน้อยหลิงอวี๋รู้ว่ามู่หรงเหยียนซงพี่ชายของมู่หรงชิ่งเป็นองค์รัชทายาทแห่งเยวี่ยใต้แม่ของมู่หรงชิ่งกับมู่หรงเหยียนซ่ง คือฮองเฮาแห่งเยวี่ยใต้คนปัจจุบันจักรพรรดิแห่งเยวี่ยใต้มีความยุติธรรมกับเข้มงวดในเรื่องการบ้านการเมือง แต่ชีวิตส่วนตัวของเขากลับยุ่งเหยิง เขามีองค์ชายกับองค์หญิงยี่สิบกว่าคนหลิงอวี๋ฟังแล้วก็รู้สึกเหนื่อยแทนจักรพรรดิเยวี่ยใต้ มีลูก ๆ มากถึงเพียงนี้ เขาจะจำได้จริง ๆ กี่คนกัน!หลังจากกินอาหารเ
“พระชายา ในตรอกนั้นมีนางผดุงครรภ์สกุลป้าวอยู่เจ้าค่ะ ได้ยินมาว่านางเชี่ยวชาญเรื่องทำแท้งให้พวกลูกสาวคนรวยที่มิอยากมีลูกเจ้าค่ะ!”สุ่ยหลิงกระซิบเอ่ย “หวางซือพาหลิงเยี่ยนไปที่นั่น แต่หลิงเยี่ยนมิยอมเข้าไป เอาแต่ร้องไห้ขอร้องหวางซือ! หวางซือจึงได้ยอมแพ้ไปเจ้าค่ะ!”“พระชายา แล้วเด็กผู้นั้นอยากให้บ่าวดูหรือไม่เจ้าคะว่าเป็นลูกของใคร?”หลิงอวี๋ส่ายหัว “มิต้องหรอก! ข้าเดาได้ว่าเป็นลูกของใคร!”เรื่องที่หลิงเยี่ยนตั้งครรภ์นอกสมรส นางทำใจมิได้ อีกทั้งยังคงคาดหวังที่จะแต่งงานกับองค์ชายเว่ยอยู่ เด็กจะเป็นลูกของใครไปได้เล่านอกเสียจากองค์ชายเว่ย? พระชายาเว่ยเพิ่งสูญเสียจ่างหนิงไป ย่อมมิยอมให้หลิงเยี่ยนแต่งงานเข้ามาอยู่แล้วเพียงแต่หวางซือคิดเยี่ยงไรเล่า?ลูกเพียงคนเดียวขององค์ชายเว่ยจากไปแล้ว เช่นนั้นเด็กในท้องของหลิงเยี่ยนจึงยิ่งมีค่ามิใช่หรือ?ในเวลานี้ มันควรจะเป็นหมากต่อรองของหวางซือที่จะบังคับให้องค์ชายเว่ยแต่งงานกับหลิงเยี่ยน แต่เหตุใดหวางซือยังพาหลิงเยี่ยนไปหานางผดุงครรภ์เพื่อเอาเด็กออกอีก? หลิงอวี๋คิดอยู่สักพักก็มิเข้าใจเรื่องนี้ นางครุ่นคิดแล้วเอ่ย “สุ่ยหลิง เจ้าแอบไปหากู่ซุ
“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนดึงหลิงอวี๋ให้นั่งลงแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ข้า... ข้าต้องแต่งชายารอง!”หา!หลิงอวี๋สะบัดมือของเซียวหลินเทียนโดยสัญชาตญาณ หัวใจบีบแน่นอย่างประหลาด“เซี่ยโฮ่วตานรั่วหรือเพคะ? เช่นนั้นก็ยินดีด้วย!”“มิใช่... เจ้าอย่าโกรธเลย! ข้า... ข้าปฏิเสธไปแล้ว!” เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าคงมิคาดคิดเช่นกันว่าฮองเฮาเว่ยมอบใครให้ข้า!”“ใครหรือเพคะ?”หลิงอวี๋เอ่ยเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “คนที่ฮองเฮาเว่ยเลือกนั้นย่อมงดงาม มีน้ำใจ และเป็นสตรีจากตระกูลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ท่านยังมีสิ่งใดมิพอใจอีกหรือ?”“ฉินรั่วซือ!” เซียวหลินเทียนเอ่ยชื่อออกมาทีละคำอย่างช้า ๆ“ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ฉินซานสูญเสียแขนไปเพราะเซียวทง แม้ว่านี่จะเป็นความรับผิดชอบของเขา แต่ตระกูลฉินก็เต็มไปด้วยความภักดีและทำอะไรเพื่อฉินตะวันตกมามิน้อย!”“ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยให้ตระกูลฉินในนามของราชวงศ์ ฉินซานทำงานอยู่ภายใต้ข้า การแต่งงานกับน้องสาวของเขาในฐานะชายารอง จะยิ่งทำให้ฉินซานทำงานเพื่อข้าหนักขึ้นอีก!”“เสด็จพ่อเองก็เห็นด้วยเช่นกัน ทั้งยังบอกด้วยว่า ในตำหนักอ๋องอี้นั้นมีคนอยู่น้อย ฉินรั่
เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างอดทน “เมื่อคืนนี้เสด็จพ่อเรียกประชุมคณะขุนนาง และมีการตกลงที่จะจัดการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นในเมืองหลวงในหนึ่งเดือนข้างหน้า!”“เช่นนั้นเกี่ยวอะไรกับที่ท่านจะแต่งชายารองเพคะ” หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชาเซียวหลินเทียนใช้มือลูบหัวของหลิงอวี๋แล้วยิ้มพลางเอ่ย“เด็กโง่ เจ้าโกรธจนสับสนแล้ว คิดให้ดีสิว่า หลังการแข่งขันทางทหารสี่แคว้นมันหมายความว่าอย่างไร! ข้ามิเชื่อว่าความฉลาดของเจ้าจะคิดมิออก!”หลิงอวี๋ตีมือของเซียวหลินเทียนด้วยความโกรธ จากนั้นจึงสงบสติอารมณ์ครุ่นคิดเรื่องนี้การแข่งขันทางทหารในสมัยใหม่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแต่ละประเทศ ในสมัยโบราณก็เช่นเดียวกัน ใครจะอยู่ว่าง ๆ แล้วมาแข่งขันเช่นนี้เล่า?เมื่อนึกถึงทูตเยวี่ยใต้กับฉีตะวันออกที่ตอนนี้มาอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อรอการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็คิดออก“เสด็จพ่อตกลงที่จะจัดการแข่งขันทางทหารสี่แคว้น เสด็จพ่อมิอยากแพ้ให้กับอีกสามแคว้น! หากผู้จัดงานแพ้เสียเอง อย่าว่าแต่เสียหน้าเลย มันจะทำให้อีกสามแคว้นคอยเพ่งเล็งด้วย!”“ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาด ต้องเข้าใจได้รวดเร็วแน่นอน!”เซียวหลินเทียนอยากเอื้อม
“เรื่องอันใด?”เซียวหลินเทียนเองก็เขินอายมิกล้ามองหลิงอวี๋ และนั่งลงตรงข้ามนางหลิงอวี๋เล่าเรื่องที่กู่ซุ่ยได้ยินมาให้เขาฟัง สุดท้ายก็เอ่ยใบหน้าขมขื่น “ท่านก็รู้เรื่องความแค้นของตระกูลเรากับครอบครัวองค์ชายเว่ย หากหว่านเอ๋อร์ถูกบังคับให้แต่งงานไปเป็นภรรยาน้อยในตำหนักองค์ชายเว่ยจริง ๆ หม่อมฉันพนันได้เลยว่า ในหนึ่งเดือนนางจะต้องถูกพระชายาเว่ยสังหารเป็นแน่!”เซียวหลินเทียนตกใจเล็กน้อย เหตุใดหลิงเยี่ยนจึงมีความคิดเลวร้ายเช่นนี้ได้กัน?“เซียวหลินเทียน ตอนนี้หลิงหว่านก็มิสามารถหนีได้ หากนางหนีไป ป้าสะใภ้ใหญ่ของหม่อมฉันต้องทุกข์ทรมาน! หม่อมฉันทำได้เพียงพูดเรื่องแต่งงานกับหลิงหว่านโดยเร็วที่สุดเท่านั้น!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างร้อนใจ “เดิมทีหม่อมฉันคิดว่าจะให้หลิงหว่านแกล้งป่วย แต่กังวลว่าวิธีนี้จะมิได้ผล! ฮองเฮาเว่ยจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ว่าหลิงหว่านกำลังหลอกลวงองค์จักรพรรดิอย่างแน่นอนเพคะ!”เซียวหลินเทียนปวดหัวมาก เขาคิดพลางเอ่ย “เช่นนั้นเจ้าก็เลือกคนที่คู่ควรกับหลิงหว่านในหมู่สหายกับองครักษ์ของข้าดีหรือไม่ ข้ารับประกันได้ว่าคนของข้าจะปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดี!”หลิงอวี๋ยิ้มข
วันรุ่งขึ้นหลิงอวี๋กำลังนึกถึงเรื่องของหลิงหว่าน นางลุกขึ้นไปกินอาหารเช้า จากนั้นจึงพาหลิงเยวี่ยกับเถาจื่อไปที่บ้านป้าสะใภ้ใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่กำลังพาเสี่ยวเยี่ยนจื่อทำงานอยู่ในเรือน เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋พาหลิงเยวี่ยมา ก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม“เยวี่ยเยวี่ยหลานรัก เจ้ามาแล้วหรือ! คิดถึงยายหรือไม่?”หลิงเยวี่ยเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “คิดถึงขอรับ คิดถึงพี่เยี่ยนจื่อด้วยขอรับ!”เสี่ยวเยี่ยนจื่อยิ้มแล้ววิ่งไปจับมือหลิงเยวี่ย “น้องเยวี่ยเยวี่ย ข้าชอบกระต่ายน้อยที่เจ้าให้ข้ามาครั้งที่แล้วมาก ข้าจะพาเจ้าไปดู มันโตขึ้นมากเลย!”หลิงเยวี่ยตามเสี่ยวเยี่ยนจื่อไปดูกระต่ายน้อยอย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มิเห็นหลิงหว่าน จึงเอ่ยถาม “ป้าสะใภ้ใหญ่ หว่านเอ๋อร์เล่า?”“นางหรือ ออกไปจ่ายตลาดตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว บอกว่าหลังช่วยข้าจ่ายตลาดแล้ว นางต้องไปดูที่ตั้งโรงงาน นางบอกว่านางพบสถานที่ที่ดีที่จะสร้างโรงงาน และกำลังเจรจาราคากับพวกเขาอยู่!”ขณะที่ป้าสะใภ้ใหญ่กำลังพูดอยู่นั้น หลิงหว่านก็เข้ามาพร้อมกับถือตะกร้าผักใบใหญ่มาด้วยเถาจื่อกับสุ่ยหลิงรีบไปช่วยนาง หลิงหว่านเห็นหลิงอวี๋ก็ยิ้มแล้วเอ่ย “ท่านพี่หลิงหลิง ท่านพี
ป้าสะใภ้ใหญ่รีบเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างอ้อนวอน “อาอวี๋ เจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น เจ้าช่วยน้องสาวคิดหน่อยเถิด!”“หว่านเอ๋อร์จะต้องมิเป็นภรรยาน้อยขององค์ชายเว่ยเด็ดขาด! เช่นนั้นท่านปู่กับท่านลุงของเจ้าจะต้องโกรธแย่แน่!”“ป้าสะใภ้ใหญ่มิต้องกังวล อย่าว่าหว่านเอ๋อร์มิยอมเลย แม้แต่ข้าเองก็จะมิยอมให้หว่านเอ๋อร์ไปเป็นภรรยาน้อยเด็ดขาด!”หลิงอวี๋ปลอบใจทั้งสองคน “หลิงเยี่ยนยังมิได้บอกฮองเฮาเว่ยเรื่องความคิดนี้ ดังนั้นเราต้องชิงให้หลิงหว่านหมั้นหมายก่อนที่นางจะเอ่ยปาก เพื่อสกัดความคิดของฮองเฮาเว่ยออกไป!”ป้าสะใภ้ใหญ่เอ่ยอย่างกังวล “แต่ในเวลานี้ จะไปหาใครที่ไหนมาหมั้นกับหลิงหว่านได้เล่า?”หลิงอวี๋จับมือของหลิงหว่านแล้วเอ่ยอย่างจนใจ “ข้าคิดสามวิธีไว้ให้เจ้า วิธีแรกคือการหมั้นหมายกับเฉาอี้องครักษ์ของเซียวหลินเทียน!”“เฉาอี้เป็นคนตรงไปตรงมาและมีความภักดีต่อเซียวหลินเทียนมาก หากเจ้ามิอยากแต่งงานกับเขา เจ้าหมั้นไว้ก่อนก็ได้!”“หลังจากผ่านตรงนี้ไป ก็หาข้ออ้างที่จะมิแต่งงานชั่วคราวได้ แล้วหลังจากผ่านไปสองสามปี หาข้ออ้างยุติการหมั้นไปเสีย!”ป้าสะใภ้ใหญ่ขมวดคิ้ว “นี่… จะมิส่งผลกระทบต่อชื่อเส
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนเป็นพ่อสื่อให้ใคร หลังจากเลิกงานเขาก็ลากเผยอวี้ไปดื่มชาที่โรงน้ำชา แต่จะเอ่ยปากอยู่หลายครั้งก็พูดมิออกเสียทีเผยอวี้มองเซียวหลินเทียนอย่างแปลกใจแล้วยิ้มหยอกล้อพลางเอ่ย “นี่ท่านจะทำอะไร? อยากพูดสิ่งใดก็พูดมาเถิด!”“ระหว่างเราสองพี่น้อง ยังมีอะไรที่พูดต่อกันมิได้อีกหรือ?”เซียวหลินเทียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแล้วพูดออกไป “เจ้าคิดว่าหลิงหว่านเป็นอย่างไรบ้าง?”“นางก็ดี! นางมีความสามารถแล้วก็มิอ่อนแอ เป็นสตรีที่ดีทีเดียว!” เผยอวี้เอ่ยอย่างสบาย ๆเซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หลิงหว่านเป็นคนดี อาอวี๋ชอบนางมาก! แต่ในมิช้านี้นางจะเดือดร้อนมาก ๆ หากทำมิดีก็อาจตายได้!”เผยอวี้ขมวดคิ้วทันที “เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ต้องการความช่วยเหลือจากกระหม่อมหรือไม่?”เซียวหลินเทียนเล่าให้เผยอวี้ฟังถึงสิ่งที่หลิงอวี๋ไปสืบมาจากหลิงเยี่ยน แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา“หากฮองเฮาเว่ยทำตามที่หลิงเยี่ยนบอกจริง ๆ แล้วบังคับให้หลิงหว่านเป็นภรรยาน้อยขององค์ชายเว่ย เช่นนั้นหากเพียงหลิงหว่านเข้าตำหนักนางจะต้องสิ้นชีพในมิช้าเป็นแน่!”“ให้ตายสิ… นี่มันจะรังแกกันมากเกินไ
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช